Miracle Throne Chapter 108 Violent wind filled with dust stronghold bandits and thieves

Miracle Throne Chapter 108 Violent wind filled with dust stronghold bandits and thieves

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 108 ค่ายโจรวายุทมิฬ.

บทที่ 108 ค่ายโจรวายุทมิฬ.

เมืองฮวังซีนั้นเป็นเมืองธรรมดาในขอบเขตของรัฐกลาง,ทว่าด้วยแนวเขาขนาบข้าง,การขนส่งที่ไม่สะดวก,ทำให้ทรัพยากรขาดแคลน,เมืองฮวังซีจึงนับว่าแร้นแค้นกว่าเมืองเทียนหนานมาก.

เหล่าตระกูลที่มีอิทธิพลแทบไม่มี,การติดต่อการค้าก็มีน้อยมาก,ประชากรมีไม่มากนักและผู้ฝึกตนเองก็มีน้อยไปด้วยเช่นกัน.

นี้คือสิ่งที่เขารับรู้เมือเดินทางมาถึงเมืองฮวังซี.

หลังจากที่ฉู่เทียนเดินทางมาถึงเมืองฮวังซีแล้ว,คิดเช่นไรก็ไม่เข้าใจ,เมืองที่แร้นแค้นและยากจนเช่นนี้,ทำไมถึงได้มีเหล่าโจรที่แข็งแกร่งและดุร้ายถึงเพียงนี้?

ฉู่เทียนแต่งตัวเหมือนกับคนจรทั่วไป,สวมชุดคลุมสีน้ำตาลเข้ม,พร้อมกับสวมงอบไม้ไผ่,ที่ด้านหลังนั้นสะพายกล่องไม้ที่มีกระบี่โบราณด้านใน,เขาที่ปลอมตัวเป็นคนจรในนาม ลูเร็น อีกครั้ง.

 ฉู่เทียนที่ต้องการที่จะให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น,เขาได้ติดหนวดเคราเพิ่มขึ้นมาด้วย,พร้อมกับเปลี่ยนสีผิวที่หยาบเป็นคนสีดำเหลือง,ดูคล้ายจะมีอายุมากขึ้น,เหมือนกับชายหนุ่มที่มีอายุ 24-25 ปี ในการเดินทางในครั้งนี้ด้วย.

"จะเริ่มสืบจากที่ใหนก่อนดี?"

ในเวลานี้จิ้งจอกน้อยที่ยืนหัวที่ฟูฟ่องของมันออกมาจากอกเสื้อของเขา,กวาดตามองไปรอบๆทุกทิศทาง,ก่อนที่จะยื่นขาหน้าของมันพร้อมกับชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง.

มีทหารเต่งตัวเต็มยศ,พร้อมกับกำลังติดป้ายประกาศพร้อมกับประกาศข่าวอะไรบางอย่างอยู่,ที่รอบๆนั้นมีเหล่าประชาชนทั่วไปมุงอยู่ด้วยความอยากรู้อย่างเห็น.

ทหารของทางการได้ประกาศออกมาเสียงดัง.

"ข่าวล่าสุด!"

"ข่าวล่าสุด!"

"ท่านเจ้าเมืองได้ออกภารกิจที่มีระดับความเสี่ยงสีแดง,มอบแก่ผู้ฝึกตนที่มีระดับปลุกดวงจิตเท่านั้น!เงินรางวัล 300,000 เหรียญทอง!"

ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการกำลังประกาศออกมานั้น.

ชาวเมืองที่อยู่รอบๆต่างก็กล่าวออกมาเสียงดังอื้ออึง.

ภารกิจที่มีรางวัลถึง 300,000 เหรียญทองรึ?

ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าเมืองฮวังซีนั้นมีเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก,ไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับเมืองเทียนหนานได้,เงินรางวัล 300,000 เหรียญทองนั้นไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยเลย,เจ้าเมืองฮวังซีถึงกับใช้เงินมากมายขนาดนี้,ภารกิจในครั้งนี้ไม่ใช่ธรรมดาแน่!

"บนภูเขาวายุทมิฬนั้นได้มีกลุ่มกองโจรปรากฏขึ้น,และเมือหลายวันมานี้ก็ได้ทำการปล้นกองกองคาราวานทั้งใหญ่และเล็ก,เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่ถูกส่งออกไปสืบข่าว,คนแล้วคนเล่า,ตอนนี้ไม่มีสักคนที่มีชีวิตรอดกลับมา!ดูเหมือนว่าท่านเจ้าเมืองคงจะไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว,จึงคิดที่จะรับสมัครผู้เชี่ยวชาญระดับสูงอย่างงั้นรึ?"

"ภารกิจนี้ดูจะใหญ่เกินไปนะ!"

"จะไม่ใหญ่ได้ไงล่ะ?กองกำลังที่โหดร้ายนั้นปล้นชิงจนมีทรัพยากรมากมาย,หากว่าสามารถทะลวงค่ายโจรบนภูเขาวายุทมิฬได้ล่ะก็,จะได้รับความมั่งคั่งเท่าไหร่!อาวุธ,วิชาบำเพ็ญและทรัพย์สินอื่นๆมากมาย,แทบจะมีทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่นั่นเลย!"

"เมืองฮวังซีแห่งนี้ทั้งเล็กและยากจน,ผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตย่อมมีอยู่น้อยมาก,แล้วใครกันเล่าจะอยากเข้าร่วมภารกิจในครั้งนี้ล่ะ?"

"ไม่หรอกน่า,ด้วยรางวัลตอบแทนที่มหาศาลเช่นนั้นจะต้องมีคนสมัครอย่างแน่นอน!"

”......”

ขณะที่เหล่าประชาชนทั่วไปต่างก็พูดคุยกันเสียงดังอื้ออึง.

ฉู่เทียนก็เดินทางตรงไปยังตำหนักเจ้าเมืองในทันที,ด้วยตัวเขาในตอนนี้ได้กลายเป็นผู้ฝึกตนเร่ร่อนระดับปลุกดวงจิตไปแล้วนั่นเอง,เขามีคุณสมบัติพอที่จะรับภารกิจนี้ได้.

เยี่ยนอู๋หยางเจ้าเมืองฮวังซีนั้น ดูภายนอกแล้วเหมือนชายชราอายุ 50 ปี,แต่ที่จริงแล้วคงจะมีอายุ 60-70 ปีแล้ว,เขาที่ยืนโก่งโค้งตามประสาคนมีอายุ,เส้นผมที่หงอกขาวทั้งหมด,กุมไม้เท้ายาว,นั่งอยู่อย่างโดดเดี่ยว,บนห้องโถงขนาดใหญ่เปื้อนไปด้วยฝุ่น

แก่และอัปลักษณ์และยังตัวเตี้ยอีกต่างหาก.

เจ้าเมือง,เมืองฮวังซีเห็นได้ชัดเจนว่าดูไม่ดีนัก!

เหยี่ยนอู๋หยางไอแห้งๆสองครั้ง,เพื่อขัดจังหวะของฉู่เทียนที่จับจ้องมาด้วยเสียงที่เคร่งขรึม"เจ้ามีนามว่าไร?"

ฉู่เทียนที่ยกมือประสานคารวะไปด้านหน้า"ข้ามีนามว่าลู่เร็น,เป็นผู้ฝึกตนเร่ร่อนที่มีพลังปลุกดวงจิตระดับหนึ่ง,ต้องการที่จะเข้ารับภารกิจพิเศษของท่านเจ้าเมืองในการปราบปรามเหล่าโจรร้าย!"

สายตาของเหยี่ยนอู๋หยางหรี่ตาจับจ้องมายังฉู่เทียน,คิดใคร่ครวญทั้งด้านในและด้านนอกอย่างละเอียด,"ผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตที่ไม่สังกัดที่ใหนต่างก็มีชื่อเสียง,ทำไมข้าไม่เคยได้ยินชื่อของเจ้าเลยล่ะ?"

ฉู่เทียนตอบกลับในทันที"รัฐกลางเองก็มีเมืองในการปกครองหลายเมือง,คนที่ไม่มีชื่อเสียงเช่นข้าท่านไม่รู้จัก,และได้ยินนับว่าเป็นเรื่องธรรมดา."

เหยี่ยนอู๋หยางยังคงสงบนิ่งและกล่าวออกไปอย่างสุขุม"เรื่องที่กล่าวอ้างนั่นจะให้เจ้าเมืองเช่นข้าเชื่อใจได้อย่างไร,ภารกิจนี้เป็นความลับที่สำคัญเป็นอย่างมาก,หากไม่รู้ที่มาที่ไปของเจ้าอย่างชัดเจนล่ะก็,จะสามารถให้เจ้าเข้าร่วมได้อย่างไรกัน,ใครจะรู้ว่าเจ้าเป็นสายลับของพวกโจรร้ายจากค่าโจรวายุทมิฬหรือไม่!"

"ข้าเป็นผู้ฝึกตนที่ฝึกฝนตามป่าเขา,โดยปรกติแล้วไม่ค่อยได้ออกมาจากหุบเขาตั้งแต่เด็กแล้ว,เมื่อเร็วๆนี้ข้าเพิ่งจะสามารถทะลวงผ่านระดับเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตได้,ดังนั้นแล้วจึงได้เดินทางออกมาเพื่อหาประสบการณ์"ฉู่เทียนที่ได้นำตราประทับออกมา"ก่อนนี้ข้าเคยทำงานที่จวนแม่ทัพเมืองเทียนหนานมาระยะหนึ่ง,ที่แห่งนั้นได้มอบป้ายตราประทับอย่างเป็นทางการให้กับข้ามา!"

นี่คือตราประทับที่หนานกงอี้ช่วยหลอมเพื่อรับประกันสถานะของฉู่เทียนในการปลอมตัวนั่นเอง.

เหยี่ยนอู๋หยางที่เพ่งพิศอยู่อีกหลายครา,ท้ายที่สุดแล้วใบหน้าของเขาก็เผยท่าทางผ่อนคลาย."เจ้าเคยทำงานให้กับท่านเจ้าเมืองหนานกงมาก่อนเหรอ,ไม่รู้มาก่อนเลยว่าเจ้าจะมีความสัมพันธ์กับท่านเจ้าเมืองหนานกงด้วย?"

"ข้าทำงานให้กับท่านเจ้าเมืองหนานกงเมื่อครั้งที่ข้ามีพลังแค่ปรุงร่างระดับ 9 เท่านั้น,ไม่กล้าเอ่ยอ้างว่าตัวเองนั้นมีความสำคัญ,ดังนั้นคงไม่สามารถบอกได้ว่ารู้จักท่านเจ้าเมืองได้อย่างเต็มปากนัก."

"ใครเป็นคนสอนวิชาเจ้าอย่างงั้นรึ?เจ้ามีเคลือญาติหรือมิตรสหายหรือไม่?

เจ้าหมาแก่นี้ต้องการสิ่งใดกัน?

 ถามอะไรไร้สาระ?

"ทั้งอาจารย์และครอบครัวของข้านั้นได้ตายจากไปแล้ว,ข้าในตอนนี้ไปใหนมาใหนคนเดียว,ไม่มีญาติและมิตรสหายเลย."

"เอาล่ะ!ข้าให้เจ้าเข้าร่วมได้!"

เหยี่ยนอู๋หยางตบมือเบาๆ.

แม่บ้านคนหนึ่งได้เดินถือถาดเดินออกมา,บนถานนั้นมีการ์ดเก็บเงินระดับทองที่ส่องประกายแสงระยิบระยับ"นี่คือเงิน 150,000 เหรียญทอง,เป็นเงินมัดจำให้กับเจ้าก่อนส่วนที่เหลือจะจ่ายหลังจากภารกิจเสร็จสิ้น,หากว่าเจ้าสามารถสังหารเหล่าโจรนี้ได้ทั้งหมด,ข้าที่เป็นเจ้าเมืองจะมอบรางวัลให้กับเจ้าอีก."

ฉู่เทียนไม่ได้สนใจเงินหนึ่งแสนเหรียญแม้แต่น้อย,เขาสนใจเฉพาะสินค้าของหอการค้าปาฏิหาริย์เท่านั้น"ไม่รู้ว่าพวกเราจะเริ่มภารกิจตอนใหนรึ?"

"พวกเราจะเดินทางคืนนี้,ข้าได้รับสมัครผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงนอกจากเจ้าอีก,เจ้าควรที่จะร่วมกลุ่มกับพวกเขาก่อน."

ฉู่เทียนที่ได้ไปรวมกลุ่มกับเหล่าผู้เชี่ยวชาญระดับปลุกดวงจิตคนอื่นๆ.

เหยี่ยนอู๋หยางนี้ไม่ธรรมดาเลย.

เมืองฮวังซีที่ดูยากจนหากแต่ความจริงแล้วกลับสามารถรวบรวมผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตได้มากกว่าสิบคนทีเดียว,ส่วนมากแล้วพวกเขาแทบจะไม่ต่างจากฉู่เทียน,คนเหล่านี้เพิ่งยกระดับพลังฝึกตนมา,ความแข็งแกร่งที่มีจึงไม่ได้มีมากนัก.

คนทั้งสี่มีพลังที่สูงที่สุดมี เหยี่ยนจุน,หลินมู่,ฟางหานและหวงเห่าหาน.

เหยี่ยนจุนนั้นเป็นญาติพี่น้องกับท่านเจ้าเมือง,และเขายังเป็นขุนพลที่ควบคุมดูแลกองกำลังทหารของเมืองฮวังซีอีกด้วย,เขามีพลังปลุกดวงจิตระดับสอง,ส่วนอีกสามคนนั้นเป็นกลุ่มทหารรับจ้างที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่ในรัฐกลาง,พวกเขาเป็นกองกำลังทหารรับจ้างที่เพ่งก่อตั้ง,จึงจำเป็นที่จะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก,ด้วยค่าตอบแทนของภารกิจนี้ค่อนข้างสูง,พวกเขาจึงเดินทางมาเขาร่วมเป็นกรณีพิเศษ.

ฉู่เทียนที่จับจ้องไปยังทหารรับจ้างทั้งสามอยู่ชั่วขณะ.

พวกเขาอายุต่ำกว่า 30 ปี,นับว่ายังหนุ่มแน่นและมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมทีเดียว.

หลินมู่และฟางหานนั้นเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 2 ,หวงเห่าหานนั้นมีมีระดับต่ำกว่าเพื่อนแต่เขาเองก็อยู่ในดินแดนปลุกดวงจิตระดับ 1 ขั้นปลายแล้วอีกไม่นานคงสามารถเพิ่มระดับได้.

ส่วนผู้ฝึกตนคนอื่นๆนั้น,ดูท่าทางไม่ต่างจากฉู่เทียน,ที่เป็นผู้ฝึกตนเร่ร่อน,ฉู่เทียนที่ดูแล้วดูทั่วไป,พลังฝึกตนเองก็ดูไม่ได้ต่างจากคนอื่น,อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ทำให้คนอื่นผิดสังเกตได้นั่นเอง.

นี่คือกองกำลังของผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต!

ทรงพลังน่าเกรงขามอย่างแน่นอน!

ซึ่งนั่นก็บอกได้ว่ากลุ่มโจรเองก็ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน!

เหยี่ยนอู๋หยางที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เจ้าเมืองกล่าวออกมาต่อเหยี่ยนจุนอย่างหนักแน่น,"ข้าต้องการให้เจ้านำทุกคน,เพื่อไปจัดการค่ายโจรที่หุบเขาวายุทมิฬ,ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ข้าอนุญาตให้สังหารหัวหน้าโจรได้,ภารกิจในครั้งนี้จะมีกองกำลังหลักของเจ้าเมืองเข้าร่วมเพื่อช่วยเหลือเจ้าด้วย,เพียงแค่พวกเจ้าสามารถสังหารหัวหน้ากองโจรได้แล้ว,กองกำลังทั้งหมดจะบุกเข้าโจมตีในทันที."

เหยี่ยนจุนยกมือคารวะไปด้านหน้านพร้อมกับกล่าวว่า"รับคำสั่ง!"

ทุกคนตอนนี้ได้รับม้วนข้อมูลลับ,บันทึกเกี่ยวกับภูมิประเทศพร้อมกับจำนวนและรายละเอียดของศัตรู,

"พวกเจ้าเข้าใจชัดเจนแล้วนะ?"

"ครับ!"

"จำไว้ให้ดี,โจรร้ายเหล่านี้ไม่ได้อ่อนแอ,มีสมาชิกมากมายนับไม่ถ้วน,ถ้าไม่มั่นใจอย่าเผยให้ศัตรูเห็นตัวและถูกกองกำลังโจรร้ายล้อมได้เด็ดขาด!"เหยี่ยนอู๋หย่างที่ลุกขึ้นยืนช้าๆ,ร่างที่ผ่อนบางและผอมบางนั้นดูไม่แข็งแรงนัก,เขาไอออกมาเบาๆหลายครั้ง"พวกเจ้าทุกคนระวังตัวให้ดี,ไปได้!"

"ขอรับ!ท่านเจ้าเมือง."

พวกเขาทุกคนที่ออกจากจวนเจ้าเมืองด้วยความมั่นใจ.

ฉู่เทียนที่รั้งหลังทีมอยู่,ในเวลานั้นเจ้าจิ้งจอกน้อยก็โผล่หัวออกมาจากภายในเสื้อของเขา,พร้อมกับตวัดกงเล็บเล็กๆของมันไปมา,เขียนอักษรบางอย่างที่ด้านหน้าของฉู่เทียน.

"เจ้ามองออกด้วยเหรอ?"ฉู่เทียนและจิ้งจอกน้อยสบตากันเป็นประกาย"ภารกิจครั้งนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน,แต่ว่าข้าคิดว่าคงจัดการได้,ด้วยความแข็งแกร่งของข้าตอนนี้คงสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้,เจ้าก็คอยดูและเฝ้าระวังเอาไว้ด้วยล่ะ!"

เจ้าจิ้งจอกน้อยที่เลียนแบบฉู่เทียนเท้าคางอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะพยักหน้าและมุดหัวกลับเข้าไป.

............

เวลากลางคืนก็มาถึง.

เนินเขาสูงที่อยู่ลึกเข้าไป,หุบเขาที่สูงชันภูมิประเทศที่สลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก,ปกคลุมไปทั่วบริเวณ,เป็นสถานที่ยากจะเข้าโจมตีเป็นอย่างมาก,และยังเป็นค่ายของโจรภูเขาวายุทมิฬ.

หากว่ากองกำลังของเมืองฮวังซีบุกเข้าโจมตีตรงๆล่ะก็,จะต้องประสบผลย่อยยับอย่างแน่นอน,ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกวิธีส่งเหล่าผู้เชี่ยวจากออกมาแทน,ลอบโจมตีหัวหน้าโจรร้ายเพื่อที่จะให้ค่ายเหล่าโจรร้ายตกอยู่ภายในความวุ่นวาย.

และเวลานั้นกองกำลังทหารจะบุกโจมตีเข้ามา,ขนาบซ้ายขวาราวกับพายุที่พัดผ่านเข้ามาจากภายนอก.

เหยี่ยนจุนที่คอยสังเกตการสภาพภูมิประเทศ"ที่ด้านหน้าเป็นหมู่บ้านกองโจร,พวกเราต้องแยกตัวกันออกไปแทรกเข้าไปในค่ายโจรดังกล่าว,แต่อย่าลืมว่าจะต้องส่งเสียงให้เงียบที่สุด."

"พวกเจ้าแยกออกไปทางซ้ายและขวา,ตรวจสอบพื้นที่ให้ระเอียดหลังจากนั้นสิบห้านาทีให้กับมารายงานสถานะการณ์,ระวังเอาไว้ให้ดี,อย่าให้พวกมันพบได้เด็ดขาด!"

"ขอรับ!"

วูซซ วูซซ วูซซ วูซซ!

คนทั้งสี่เปลี่ยนเป็นริ้วแสงพุ่งออกไปในทันที.

ผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตเร่ร่อนถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกได้ถูกส่งออกไปแล้ว.

 ฉู่เทียนจ้องมองเข้าไปด้านใน,ค่ายโจรแห่งนี้ดูเงียบเป็นอย่างมาก,แม้แต่ไฟสักดวงยังไม่เห็น,มันถูกปกคลุมด้วยหมอกทมิฬอย่างลางๆ,ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.

"คู,คู,"จิ้งจอกน้อยร้องออกมา,ราวกับว่ากำลังเตือนฉู่เทียนอยู่.

ฉู่เทียนล้วงแก่หยุนออกมาและส่งให้กับมันและลูบหัวของมันเบาๆ"วางใจ,ข้าไม่เป็นไร!"

คนอื่นๆที่หมอบคลานขึ้นไปบนเนินเขา,เพื่อรอโอกาสบุกเข้าไปอยู่.

"เฮ้,พวกเจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือรึ?"ฟางหานเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบและกล่าวออกมา"พวกโจรร้ายนี้เป็นใครมาจากใหนกัน?"

"ค่ายโจรขนาดใหญ่เช่นนี้,และยังมีเหล่าโจรร้ายมากขนาดนั้น,คนแถวนี้ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกมันจริงๆรึ?"เป็นหวงเห่าที่กล่าวขึ้นมาต่อและเสริมขึ้นมาอีก"ข้าพนันได้เลย,ว่าจะต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน."

หลินมู่พยักหน้า,เขาที่เป็นหัวหน้าของกองกำลังทหารรับจ้าง,เขาเองก็มีชื่อเสียงด้านความกล้าหาญและทรหด,"มีสิ่งใดต้องกลัว?กลุ่มของพวกเราเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต,ถึงแม้ว่าจะถูกฝ่ายตรงข้ามพบเข้า,ก็ยากที่จะจัดการพวกเราได้?ไม่มีเส้นทางที่ง่ายดายโรยไปด้วยกลีบกุหลาบแน่นอน!ในเมื่อรับเงินมาแล้ว,พวกเราก็ต้องทำงานให้เสร็จสิ้น!"

ฟางหานและหวงเห่าจ้องมองสบตากันและกัน.

ฉู่เทียนที่จ้องมองยังเหล่าทหารรับจ้างหนุ่มด้วยคำพูดที่พวกเขากล่าว,ถึงกับแอบส่ายหน้าอยู่ภายในใจ,เหล่าคนหนุ่ม,ย่อมมีความกระตือรือร้นมีพลังที่มากมาย,หากแต่ก็ขาดความระมัดระวัง,การยึดอาชีพทหารรับจ้างนั้นก็เหมือนกับร่ายรำบนคมคมหอกคมดาบ,ถึงจะมีรายรับที่สูงแต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน,หากว่าพวกเขายังขาดความระมัดระวังล่ะก็,ถึงแม้ว่าจะแข็งแกร่งสักเท่าไหร่ก็ตามสุดท้ายก็ยากที่จะมีชีวิตรอดได้.

หลังจากนั้นราวๆสิบนาที.

เหล่าผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตตอนนี้ได้กลับมาแล้ว,ร่างกายที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อกล่าวออกมาเบาๆ,"เรียบร้อยแล้ว."

"ทำได้ดีมาก."เย่จุนที่โบกมือเบาๆ,กล่าวออกมาด้วยเสียงต่ำ,"กองโจรภูเขาวายุทมิฬดูเหมือนว่ากำลังมีงานเลี้ยงอยู่,นี่เป็นโอกาสอันดีแล้วที่พวกเราจะแอบเข้าไป!"

เย่จุนราวกับว่าเขานั้นรู้อะไรเกี่ยวกับโจรภูเขาวายุทมิฬมาเป็นเวลานานแล้ว.

ดูเหมือนว่าเขาเองจะเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างแจ่มแจ้งเกี่ยวกับกองโจรวายุทมิฬอีกด้วย,ด้วยการสั่งการของเขา,ทุกคนเริ่มมั่นใจ ไม่รู้สึกกังวลอีกต่อไป,พวกเขาที่พลางตัวในชุดสีดำซ่อนอยู่ก็พุ่งออกในทันที,

พวกเขาได้ลอบเข้าไปในค่ายของกองโจรวายุทมิฬอย่างเงียบๆ.

ท้ายที่สุด,ไร้ซึ่งการแจ้งเตือนใดๆ,พวกเขาก็สามารถลอบเข้าไปในค่ายโจรภูเขาวายทมิฬได้อย่างราบรื่น.

ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย

Half-Drunk Wanderer
????

สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน