วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 104 The impact soul awakes

Miracle Throne Chapter 104 The impact soul awakes

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 104 ผลกระทบของภูติวิญญาณที่ตื่น


บทที่ 104 ผลกระทบของภูติวิญญาณที่ตื่น

ฉู่เทียนที่แทงกระบี่ไปยังคอของจูเผิงปีกทอง,โลหิตที่พุ่งกระจายระบายออกมาจากร่างของมัน,พร้อมกับถอนขนของมันออกมา,ก่อนที่จะหั่นเนื้อมันออกเป็นชิ้นๆออกมาหลายขนาดจำนวนหลายตันทีเดียว,แยกกระดูกและเนื้อของมันออกจากกัน.
 ด้วยการแนะนำจากฉู่เทียน,ซ่างหลีซิงและเหล่าอาจารย์วงเวทย์อักขระก็ได้สร้างวงเวทย์อักขระขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการทำอาหารจานยักษ์เพื่อเลี้ยงคน ที่จตุรัสเมืองเทียนหนาน,เนื้อย่างที่คุกเคล้าสมุนไพรต่างส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย,หลังจากที่ได้ผ่านการย่างด้วยวงเวทย์อักขระขนาดใหญ่.


เมื่อเนื้อถูกย่างจนแดงกล่ำหอมฉุย,กลิ่นยั่วน้ำลายแตกฟองกระจายออกไปทั่วจตุรัสทีเดียว,ทุกคนที่ได้กลิ่นถึงกับน้ำลายสอ.

นี่คือเนื้อสัตว์อสูรระดับ 2!
ไม่เพียงแต่เป็นอาหารที่ล้ำค่า,นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยสารอาหารและพลังวิญญาณที่หนาแน่น!
พวกเขาได้หั่นเนื้อย่างออกเป็นฃิ้นๆ,โรยเกลือ,พริกไทย,และพริกนิดหน่อย,ก่อนที่จะนำไปวางและแจกจ่ายให้กับทุกคนทั่วเมืองได้ลิ้มลองรสชาดที่ยอดเยี่ยม,บวกกับเบียร์เย็นด้วยแล้ว,นับว่าเป็นเนื้อย่างที่อร่อยชั้นยอดเลยทีเดียว!
มูลค่าของสัตว์อสูรตนนี้นั้นมีราคาหลายสิบล้านเหรียญทองแน่นอน!
ด้วยศักย์ภาพของมันแล้วหากฝึกฝนอีกหน่อยย่อมกลายเป็นสัตว์อสูรที่มีพลังวิญญาณเขตแดน ดวงจิตปรากฏได้แน่.

สำหรับฉู่เทียนคิดว่ามันก็เป็นเพียงแค่สัตว์อสูรธรรมดาตนหนึ่ง,ที่คนขายเนื้อใช้ในการทำเนื้อย่างเพื่อทำอาหารเท่านั้น!
เนื้อของจูเผิงปีกทองคำมีพลังที่พลังวิญญาณที่หนาแน่นเป็นอย่างมาก,มันช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแกร่งและพัฒนาความสามารถทางร่างกายอีกด้วย,และยังสามารถเพิ่มพลังฝึกตนได้อีก.
สำหรับคนทั่วไปนั้นแทบจะไม่เคยกินอาหารเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิตของพวกเขา.
ตอนนี้,พวกเขาทุกคนสามารถจะกินได้ฟรีเท่าที่พวกเขาต้องการเลยทีเดียว.
พวกเขาจะสามารถหาอาหารที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้อีกที่ใหนกัน?

แน่นอนว่าเนื้อของจูเผิงปีกทองคำนั้นอุดมไปด้วยพลังวิญญาณที่หนาแน่นเป็นอย่างมาก,คนธรรมดาทั่วไปกินแค่เพียงคำเดียวเล็กๆก็ร้อนรุ่มไปทั่วร่างกายแล้ว,พวกเขาย่อมไม่กล้าจะกินมากจนเกินไป,ซึ่งแม้แต่ผู้ฝึกตนระดับปรุงร่างทั่วไปยังยากจะทนได้เลย.
จูเผิงย่าง,ทุกๆคนต่างก็ต้องการที่จะลิ้มลองอาหารใหม่ที่ไม่เคยกินมาก่อนอย่างแน่นอน!
ฉู่เทียนที่นั่งอยู่บนกองกระดูกที่ถูกเลาะออกมาและทำความสะอาดแล้ว,มือซ้ายของเขานั้นถือเนื้อย่างชิ้นใหญ่,ส่วนมือขวานั้นกำลังถือแก้วไวน์ใบใหญ่อยู่.

การกินเนื้อย่างพร้อมกับดื่มไวน์เย็นๆนี้ทำให้เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก!
จิ้งจอกน้อยเองก็ใช่ย่อยมันได้กินเนื้อย่างไปหลายร้อยจินแล้ว,ที่ปากของมันนั้นเคี้ยวไม่หยุดทีเดียว,การกินของมันน่าสนใจเป็นอย่างมาก,เนื้อย่างตอนนี้ถูกกลืนลงไปในท้องของมันหลายสิบเท่าเมื่อเทียบกับขนาดมันแล้ว,แทบจะบอกไม่ได้เลยว่าเนื้อทั้งหมดนั่นเอาไปเก็บไว้ส่วนใหนในท้อง.
"ข้าคิดว่าเนื้อนี้ดูเหมือนว่าจะย่างนานไปหน่อยนะ!"
"ย่างนาน?"เมิ่งหยิงหยิงถือไม้เสียบเนื้อย่าง,ที่มีเนื้อย่างส่วนปีกขนาดเท่ากำปั้น 5-6 ชิ้น,แก้มทั้งสองข้างของนางป่องออกมา,ทั้งเคี้ยวและพูดออกมางึมงำ"ข้าคิดว่ามันมีรสชาติที่ดีทีเดียว!น่าจะดีกว่าเนื้อสัตว์อสูรระดับ 1 ในภัตตาคารของพวกเราอีก!"
จิ้งจอกน้อยเองก็พยักหน้า เห็นด้วยสนับสนุน.

หากแต่ตอนนี้เมิ่งหยิงหยิงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก,ที่นางไม่ได้เห็นด้วยตัวเองที่ฉู่เทียนสั่งสอนนายน้อยหมาขี้เรื้อนนั่น!
เมื่อเมิ่งหยิงหยิงได้ยินข่าวทั้งหมด,ความขัดแย้งทั้งหมดก็ได้จบสิ้นแล้ว,ฉู่เทียนที่ได้นำนายน้อยหมาขี้เรื้อนแห่ไปรอบๆเมืองไปบนถนนเกือบทุกๆสาย.

คนๆนี้เป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก!
ชื่อเสียงทีขจรขจายไปทั่วรัฐกลางของเย่เทียนหลางนั้นเขาเป็นคนที่มีนิสัยเหี้ยมโหด,กดขี่ข่มเหง,ไม่เคยยอมใคร,และยังเป็นผู้สืบทอดประมุขของตระกูลเย่อีกด้วย.
มีพลังฝึกตนที่สูง
มีสถานะที่ไม่ธรรมดา.
เมิ่งหยิงหยิงไม่กล้าที่จะคิดเลย,หากว่ายุแหย่คนเช่นนี้จะได้รับผลเช่นใด!
เป็นที่รู้กันดีว่าตระกูลเย่ในรัฐกลางนั้นมีความมั่งคั่งร่ำรวยเป็นอย่างมาก,และกองกำลังทหารรับจ้างของพวกเขาเองก็ขึ้นชื่อลือชาเป็นอย่างมากในความโหดเหี้ยมอมหิต,มีข่าวว่าเพื่อที่จะเฉลิมฉลองวันหยุดถึงกับสังหารล้างตระกูลๆหนึ่งเลยก็ว่าได้,และเย่เทียนหลางผู้สืบทอดตระกูลเย่,แน่นอนว่าเขาเองก็ย่อมมีนิสัยที่ไม่ต่างกัน.
อย่างไรก็ตาม,คงมีแต่เพียงคนโง่เขลาเท่านั้นที่จะไม่รู้.
ฉู่เทียนเป็นคนธรรมดาอย่างงั้นรึ?
แล้วพวกเขาสามารถสังหารฉู่เทียนได้หรือไม่?
ผลสุดท้ายแล้วผลลัพธ์จะออกมาเช่นใดกัน!
จะอย่างไร!
เมิ่งหยิงหยิงก็รู้สึกว่าฉู่เทียนนั้นทำไปเพราะต้องการปัดเป่าความแค้นให้กับนางซึ่งทำให้นางนั้นมีความสุขเป็นอย่างมาก!

ฉู่เทียนที่ไม่ได้สังหารเย่เทียนหลางไม่ได้ทำลายพลังฝึกตนของเขาด้วย,แต่เขากับเลือกที่จะเหยียบย่ำอย่างโหดร้าย,สร้างความอัปยศอดสูทั้งด้านร่างกายและจิตใจ!
น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก!
เย่เทียนหลางที่มีชีวิตอยู่,บางทีคงจะไม่สามารถสลัดหลุมดำนี้ออกไปได้ตลอดชีวิต อย่างแน่นอน!
แต่สิ่งที่ทำให้เมิ่งหยิงหยิงนั้นชอบใจเขามากที่สุดเพราะ ฉู่เทียนที่ดูเหละแหละกับตรงไปตรงมา,เป็นคนไร้ยางอายบ้าคลั่งไม่ยอมใคร,จนทำให้ทุกๆคนในเมืองเทียนหนานต่างติดเชื้อและทำตามเขา!
ปรกติแล้วจะมีคนทั่วไปที่ใหน กล้าปาไข่เน่าใส่เย่เทียนหลางอย่างงั้นรึ? คนทั่วไปจะกล้ากินสัตว์ขี่ของเย่เทียนหลางอยุ่อีกรึ?ถึงพวกเขาจะมีความกล้าหาญเพิ่มขึ้นอีกร้อยเท่าก็ตาม!หากเขาไม่ได้รับการสนับสนุนจากฉู่เทียนล่ะก็,สถานการณ์ยังจะเปลี่ยนไปเช่นนี้อยู่อีกเหรอ!
ในเวลาเดียวกัน,สายตาของเมิ่งหยิงหยิงที่กวาดตามองออกไปรอบๆ,เหล่าคนที่ดูเป็นมิตรต่างพูดคุยสนุกสนานพร้อมกับถือแก้วไวน์ไว้ในมือ.
เหล่าคนมากมายต่างยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มด้วยความสุข,ราวกับว่าวันนี้กำลังเฉลิมฉลองกันอยู่.
ที่จริงแล้วทุกๆคนนั้นต่างก็มีความฝันอันยิ่งใหญ่เก็บเอาไว้ในใจ.
ใครที่จะไม่ต้องพบเข้ากับความยากลำบากัน?
ใครกันเล่าที่จะไม่คิดว่ามีบางอย่างอยู่บนเส้นขอบฟ้า?
ใครกันเล่าที่ต้องการที่จะกลายเป็นเพียงแค่คนธรรมดาไปตลอดชีวิต.
ความฝันของเหล่าคนอ่อนแอ ย่อมลดลงไปกับอายุ,การที่ต้องพบเข้ากับความเป็นจริงอันโหดร้ายของชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า,ความฝันเหล่านั้นจะเริ่มถอยหลังลดลงมาในทุกครั้ง,จนทำให้ความเชื่อมั่น,ความปรารถนาและความหลงใหล,ค่อยๆล่องลอยมลายสิ้นหายไปกับอากาศ
ที่จริงแล้วความฝันมันไม่ได้หายไปใหนแต่มันยังคงถูกซ่อนเอาไว้อยู่ภายในใจกลางของหัวใจ,ที่พวกเขาทุกคนได้สร้างรั้วที่แข็งแกร่งปกปิดเอาไว้,เพื่อป้องกันไม่ให้ความจริงอันโหดร้ายโจมตีเข้ามาได้นั่นเอง.
ภายในโลกสวรรค์ที่หลากหลาย,อาณาจักรแห่งความฝันที่ทุกคนปรารถนา,เป็นสถานที่งดงามและเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก,เต็มไปด้วยความแปลกประหลาดและไม่ธรรมดา,เป็นโลกแห่งความฝันที่ทุกคนสามารถที่จะไปได้เป็นครั้งคราวในทุกคราที่พวกเขาล้มตัวนอนในยามค่ำคืน.
สิ่งเหล่านี้ไม่มีทางที่จะถูกลบล้างไปจากใจของพวกเขา,ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามย่อมไม่สามารถที่จะลืมมันได้ง่ายๆ.
หรือจะเป็นพวกเขาได้ทำกุญแจที่จะเปิดประตูดังกล่าวหายไป?
หรือจะเป็นความกล้าที่จะเปิดประตูเหล่านั้นกันที่หายไป?
สรุปสั้นๆ,ด้วยท่าทางการกระทำของฉุ่เทียน,เป็นตัวกระตุ้นให้คนภายในเมืองเทียนหนานนั้นค่อยๆก้าวออกไปทีละก้าวๆ,เป็นการชี้นำความรู้สึกดั้งเดิมของพวกเขาให้แสดงออกมา,มอบความหวังที่พวกเขาหลงลืมไปแล้วออกมาจนกลายเป็นบ้าคลั่งนั่นเอง.
ถึงจะเป็นคนที่เล็กเพียงใดก็ยังกล้าปาของใส่เย่เทียนหลางนั่นเอง!
เหล่าคนที่อ่อนแอที่ถูกกระตุ้นกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะเกิดขึ้นสักกี่ครั้งในชีวิตของพวกเขากัน?ตราบเท่าที่โลหิตในร่างของพวกเขาเดือดพล่าน,ความรู้สึกที่แท้จริงก็จะถูกกระตุ้นจนปะทุขึ้นมา.
แน่นอนว่าตระกูลเย่นั้นจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน!

แต่ว่าไม่ว่าพรุ่งนี้จะต้องพบเข้ากับพายุที่หรือสายฟ้าที่รุนแรงสักเพียงใดก็ตาม,ขอให้ในคืนนี้พวกเขาได้ดื่มไวน์พูดคุยกันอย่างอบอุ่นเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพ,ก็เพียงพอแล้ว,ไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องอื่นมาใส่ใจอะไรทั้งนั้น.
ดวงตาที่สดใสของเมิ่งหยิงหยิงที่สงบนิ่งราวกับแม่น้ำในทะเลสาบ,ท่าทางที่งดงามของนางนั้นเปื้อนไปด้วยความสุข.
ฉู่เทียนเตรียมที่จะทำให้นางต้องประหลาดใจ!
พร้อมกับสร้างความตื่นตะลึงให้กับเมืองเทียนหนานอีกครั้ง!
เมิ่งชิงอู๋นั้นไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนคนอื่นเลย.
แม้ว่านางจะรู้ดีว่าฉู่เทียนนั้นเป็นชายที่บ้าคลั่งที่สุดก็ตามที,หากแต่วันนี้ก็บ้าครั่งจนเกินไป,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาได้สร้างความอัปยศอับสูให้กับตระกูลเย่เป็นอย่างมาก!

คนของตระกูลเย่จะต้องโต้ตอบอย่างหนักแน่นอน!
ฉู่เทียนจะสามารถจัดการได้จริงๆรึ?
เมิ่งชิงอู๋นั้นต้องการที่จะหาวิธีที่จะสามารถไกล่เกลี่ยกันแต่ถึงกระนั้นก็คงไม่มีทางที่จะทำสำเร็จ,ในเวลานี้ตระกูลหนานกงได้ทำการกดดันไปที่รัฐกลาง,จนทำให้ตระกูลเย่อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก,ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขายังจะรอดูท่าทีอยู่ที่รัฐกลางอยู่อย่างงั้นรึ?
"ท่านหญิง,อย่าได้ทำหน้าตาอมทุกข์เช่นนั้นเลย!"ฉู่เทียนที่เผยยิ้มออกไปอย่างไม่สนใจสิ่งใด"เวลานี้มันเป็นเวลาของความสุข!"
เมิ่งชิงอู๋ทีมองค้อนมายังเขา"เจ้าจะมีความสุขอย่างแน่นอน! คิดว่าตัวเองจะสามารถจัดการความโกรธเกรี้ยวของเย่อู๋เตาได้อย่างงั้นรึ?"

เขาชอบเรียกภัยพิบัติเข้ามาหาเป็นประจำ.
กลายเป็นหัวข้อให้คนทั้งเมืองต้องพูดคุยถึงในทุกๆครั้ง!
"ใครกันเย่อู๋เต๋า?"ฉู่เทียนโบกมือไปมา,"ลืมมันเสีย!,ใครสนใจเล่า,ว่าเขาจะเป็นใคร,หยิงหยิง,มานี้เร็ว."
เมิ่งหยิงหยิงที่วิ่งเข้ามา,เพราะว่านางที่กินเนื้อสัตว์อสูรมากจนเกินไป,ส่งผลให้แก้มทั้งสองข้างของนางนั้นแดงกล่ำ,ทั่วทั้งร่างของนางนั้นรุ่มร้อนไปหมดเต็มไปด้วยพลังที่กำลังปะทุขึ้นมา.
ฉู่เทียนพยักหน้า.
ด้วยสภาพเช่นนี้การจะสามารถทะลวงผ่านระดับไปได้นั้นไม่น่าจะยากเย็น!

จิ้งจอกน้อยกินไม่เสร็จดีก็ต้องหยุดและกลับมาหาเขา,ฉู่เทียนได้หยิบขวดหยกสีขาวสองขวดออกมาจากอกเสื้อ,ก่อนที่จะยื่นให้กับหยิงหยิงและท่านหญิงคนล่ะขวด.
ภายในขวดหยกสีขาวโปร่งใสนั้น,มียาเม็ดสีม่วงเหมือนเม็ดข้าวบรรจุอยู่.
ถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เปิดขวดหยกออกมาก็ตาม,เมิ่งชิงอู๋ ยังสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่มากมายของเม็ดยาที่บรรจุอยู่ข้างในได้.
"นี่คือเม็ดยาปลุกดวงจิต."ฉู่เทียนที่หัวเราะออกมาเสียงดังก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนมาเป็นท่าทางจริงจัง,"ข้าเพิ่งให้ซ่งเทียนเหยี่ยนและซ่างหลีซิง,สกัดมาให้กับพวกเราทั้งสามคน,แต่ละคนได้คนละเม็ด,พวกเราจะมีโอกาสคนละหนึ่งครั้ง!"
{นี่คือเม็ดยาปลุกดวงจิต.= สกัดมาจากสมุนไพรทารกวิญญาณและอื่นๆๆ}


ร่างของเมิ่งชิงอู๋ถึงกับสั่นสะท้าน.
สกัดกลั่นได้รวดเร็วเช่นนี้เลยรึ?
เมิ่งหยิงหยิงที่กล่าวออกมาด้วยความอยากรู้"ด้วยยาเม็ดนี้จะทำให้พวกเราสามารถกลายเป็นผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตได้อย่างงั้นรึ?"
"เม็ดยาปลุกดวงจิตนั้นจะช่วยให้พวกเราสามารถทะลวงคอขวดจากระดับปรุงร่างได้,ทว่าด้วยเม็ดยาของข้าที่มีสุตรเฉพาะ,ตราบเท่าที่พวกเราไปถึงระดับปรุงร่างระดับ 9 ขั้นปลายแล้ว,จะสามารถทะลวงผ่านระดับได้ในอัตรา 80 เปอร์เซ็นต์"ฉู่เทียนที่กล่าวต่อพวกนางอีก"พวกเจ้าเองที่เพิ่งทะลวงระดับระดับ 9 ขั้นปลายมาไม่นาน,ข้าได้สกัดกลั่นเม็ดยาเพิ่มให้พวกเจ้าซึ่งจะทำให้ช่วยเพิ่มความสำเร็จขึ้นอีกเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว."

มีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก!
มันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนจินตนาการถึงจริงๆ!
หากเม็ดยาปลุกดวงจริงนำไปประมูลล่ะก็มันจะมีราคาถึง 5-8 ล้านเหรียญทอง!

"เรื่องตอนนี้คงปล่อยให้ช้าไม่ได้!พวกเรารีบไปกันเถอะ!"
"พวกเราจำต้องทะลวงผ่านระดับให้ได้ในทันที!"
เหล่าคนของตระกูลเย่หลังจากที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองเทียนหนานหลังจากนั้น,พวกเขาคงจะกลายเป็นหมาบ้าบุกมาในทันทีแน่นอน,และหากรู้ว่าฉู่เทียนสามารถทะลวงผ่านระดับปลุกดวงจิตได้แล้วล่ะก็,พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร.

บอกได้เลยว่าหากคนทั้งสามมีพลังระดับปลุกดวงจิตได้,ถึงแม้ว่าจะต้องพบเข้ากับสถานะการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุด,อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็จะมีทักษะพอที่จะปกป้องตัวเอง.
ดังนั้นพวกเขาจำต้องทะลวงผ่านระดับให้ได้ก่อนที่ตระกูลเย่จะมาถึง!
พวกเขาทั้งสามคนเร่งรีบเข้าเก็บตัวในทันที.
ก่อนที่ฉู่เทียนจะเข้าไปในห้อง,เขาได้ให้จิ้งจอกน้อยเฝ้าประตูเอาไว้,และเขายังได้นำแก่นหยินออกมาให้มันด้วย,ก่อนที่จะลูบหัวมันไปมา"เวลาที่ข้าเก็บตัวนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก,อย่าให้ใครผู้ใดมารบกวนข้าได้."
เจ้าจิ้งจอกน้อยยกกงเล็บของมันขึ้นเป็นสัญญาณว่าไม่มีปัญหา.

ก่อนที่จะขยับกงเล็บชี้ไปยังข้างในห้อง.
พร้อมกับสร้างค่ายกลขนาดเล็กขึ้นมา.
"เจ้าหนูที่จริงแล้วเจ้าก็มีทักษะใช่ย่อยเลยนิน่า!"
จิ้งจอยน้อยแสดงท่าทางไม่แยแส,ชำเลืองมองออกไป,ก่อนที่จะตวัดกงเล็บของมันไปมา,เพื่อให้เขารีบเข้าไป,อย่ามาเสียเวลา.
ชายคนนี้มันน่าโดนข่วนจริงๆ!
ฉู่เทียนที่นั่งสมาธิอยู่ภายในห้อง,เร่งรีบปรับแต่งร่างกายพร้อมกับเข้าสูสภาวะอันยอดเยี่ยม,ดวงจิตความคิดของเขาในตอนนี้กำลังอยู่ในห้วงมิติที่ยากจะอธิบาย.
ด้วยเม็ดยาปลุกดวงจิตนั้น,เป็นราวกับอัญมณีที่สวยงาม,ที่พื้นผิวของเม็ดยานั้นมีรูปแบบวงเวทย์สลักอยู่,มันค่อยๆปลดปล่อยพลังวิญญาณมากมายมหาศาลออกมาไม่หยุดหย่อน,,กำลังแผ่ออกมาจากเม็ดยาปลุกดวงจิต.
ท้ายที่สุดเขาก็ก้าวมาถึงขั้นนี้จนได้!

สองเดือนผ่านมาแล้ว!
เป็นเวลานานสักหน่อย!
อย่างไรก็ตามด้วยทรัพยากรที่แร้นแค้นของอาณาจักแห่งนี้,ทำให้ความเร็วในการพัฒนาของเขาช้าเป็นอย่างมาก.
ฉู่เทียนเชื่อว่า ในเมื่อเขาเคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดมาแล้ว,เช่นนั้นเขาย่อมจะสามารถกลับคืนไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดได้อีกแน่นอน,และในครั้งนี้เขาจะต้องทะลวงผ่านขีดจำกัด,ที่ไม่เคยก้าวข้ามเพื่อเข้าสู่โลกใหม่ที่ยิ่งใหญ่และสง่างาม!
ตัวตนของผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตในเมืองเทียนหนานนั้นนับว่ายิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก.
หากกล่าวว่าระดับปรุงร่างนั้นเป็นเพียงการสร้างพื้นฐานเบื้องต้น,ระดับปลุกดวงจิตก็จะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการบำเพ็ญ,เป็นเพียงแค่ผู้ฝึกหัดเบื้องต้นที่แท้จริงของเขตแดนปลุกดวงจิต.
นี่คือการก้าวเข้าสู่ประตูเริ่มต้นเพียงเท่านั้น!
ตระกูลเย่จะต้องกลับมาอย่างแน่นอน,และเวลานี้พวกเขาจะมาพร้อมพลังอำนาจทั้งหมดของพวกเขา.
พูดตามจริงแล้ว,การจะป้องกันการโต้กลับของตระกูลเย่นั้น,ฉู่เทียนเองก็ไม่มีความมั่นใจเท่าใดนัก,ถึงแม้ว่าเขาจะจับตัวเย่เทียนหลางไว้เป็นตัวประกันก็ตามที,ยังไม่รู้ว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใด.
หากแต่ฉู่เทียนนั้นไม่เคยเสียใจ.
ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสใหม่อีกครั้ง,ฉู่เทียนก็ยังเลือกที่จะต่อต้าน,ทุบเย่เฟิง,จัดการตระกูลหาน,สังหารเย่หาน,สังหารเย่ซ่ง,อัดเย่เทียนหลาง!
ไม่ใช่แค่ตระกูลเย่เล็กๆนี้เท่านั้น?
ใครก็ตามที่มีความสามารถพอ,ก็เข้ามา!
ฉู่เทียนที่กลืนกินเม็ดยาปลุกดวงจิต,ดวงตาทั้งสองข้างของเขาปิดสนิท,พลังวิญญาณทั่วร่างของเขาทันใดนั้นก็ปะทุขึ้นมา,เป็นราวกับเปลวเพลิงสีขาว,หมุนวนร่างกายของเขาอย่างรุนแรง,มีพลังกดดันแผ่ออกมาทีละน้อย,และค่อยๆพวยพุ่งขึ้นมาบนศีรษะของเขาในทันที,ราวกับว่ามันกำลังจะพุ่งทะลวงหมู่มวลเมฆาขึ้นไป.

ค่ำคืนของท้องฟ้าเมืองเทียนหนานในตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายทีมาจากยุคโบราณกาลและพลังที่น่าสะพรึงกลัว.

ราวกับว่าเทพอสูรที่ยิ่งใหญ่จากยุคโบราณกาล,กำลังตื่นขึ้นจากนิทราอันยาวนานแสนนานชั่วกัปชั่วกัลป์



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

2 ความคิดเห็น:

  1. ได้เวลาว่าที่ผัวเมียทั้งสามเปลี่ยนคลาสเสียที

    ตอบลบ
  2. เตรียมตัวให้พร้อม... พายุกำลังจะมา

    ตอบลบ