วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 91 Book from heaven Yuan soul

Miracle Throne Chapter 91 Book from heaven Yuan soul

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 91 - ภูติวิญญาณตำราสวรรค์


บทที่ 91 - ภูติวิญญาณตำราสวรรค์



ฉู่เทียนที่ส่งหนานกงหยุนไปรัฐกลาง,ไม่เพียงช่วยหนานกงอี้เท่านั้น,เขาเองนั้นได้คิดวางแผนเกี่ยวกับก่อตั้งหอการค้างให้แข็งแกร่ง,ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะต้องก้าวผ่านไปยังเมืองหลวงแน่.


หนานกงหยุนที่จากไปแล้ว,เหลือเพียงเมิ่งหยิงหยิงที่ดูแลภัตตาคารอาหาร,ทำให้นางยุ่งมากเลยทีเดียว.


ภัตตาคารพลังเวทย์เป็นขุมกำลังของหอการค้าปาฏิหาริย์ ระดับล่าง ร้านกระทะร้อน,ระดับกลาง เขตแดนเมฆาซ่อนเร้น,ระดับสูง โรงแรงหรูแห่งปาฏิหาริย์ ธุรกิจที่แยกลูกค้าออกเป็นสามกลุ่ม.สร้างความนิยมกับลูกค้าได้ทุกกลุ่ม.



หอการค้าปาฏิหาริย์ได้เตรียมเข้าสู่ตลาดเกี่ยวกับยาและยันต์เวทย์ในการขายจำนวนมาก,ทว่ายังจำต้องลงทุนอย่างอื่นก่อน,ไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนนที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง,จำเป็นต้องใช้ทุนค่อนข้างมากในการติดตั้งแสงสว่าง,สร้างความสว่างไสวให้กับเมืองเทียนหนานทั่วทั้งเขตหรือถนนทุกสายภายในเมือง.


หอการค้าปาฏิหาริย์มีส่วนช่วยในการพัฒนาเมืองแห่งนี้เป็นอย่างมากมายและมหาศาลทีเดียว!


การก่อร่างสร้างเกียรติยศ,ชื่อเสียง อำนาจและความแข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็น,ไม่เช่นนั้นแล้วทุกอย่างที่ได้มาอาจจะเป็นเพียงฟองอากาศ,ที่พร้อมจะแตกออกมาเมื่อสิ้นกำลังและถึงจุดอิ่มตัว.


ตระกูลเย่,ตระกูลฉู่และตระกูลลวอเองก็พร้อมที่จะกลับมาป่วนได้ทุกเมื่อ!

เหล่าสามกลุ่มอิทธิพลที่ราวกับว่านำมีดมาจ่อที่คอของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา!


ฉู่เทียนเองก็คิดใคร่ครวญแล้วว่าไม่สามารถรั้งรอได้อีกแล้ว.


ดินแดนปลุกดวงจิต,เป็นสิ่งจำเป็น,ที่ต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อใช้ในการป้องกัน,และยังได้รับสถานะ ทูตพิเศษของตระกูลหนานกงด้วย,อย่างน้อยพวกเขาจะต้องไปถึงระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 1 เพื่อรับรองความปลอดภัยให้ตัวเอง!


หลายวันมานี้,ฉู่เทียนได้ใช้ยาทิพย์ระดับ 1 ที่ได้รับกลับมาจากตลาดมืด,สกัดกลั่นยาพลังจิตวิญญาณหลายอย่าง,เพื่อสองพี่น้องเมิ่งชิงอู๋.


ตอนนี้เพียงพอที่จะทำให้เมิ่งชิงอู๋และเมิ่งหยิงหยิงมีพลังดินแดนปรุงร่างระดับ 9 ได้แล้ว.


ส่วนฉู่เทียนะหรือ?


เพราะว่าเขาสามารถที่จะทะลวงไปถึงระดับ 9 ตั้งแต่อยู่ภายในตลาดมืดแล้ว.


ตอนนี้หลังจากที่เขาจะต้องพบกับเหตุการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายภายในสุสานโบราณ,พร้อมกับการกินหญ้าแก่นหยวนพันปีไปหลายครั้ง,พลังวิญญาณที่ได้รับเพิ่มขึ้นมานั้นไม่ได้น้อยเลย.


ดังนั้นตอนนี้ฉู่เทียนที่ฝึกฝนมาถึงสองวันแล้วก็ไปถึงระดับปรุงร่างระดับ 9 ขั้นปลายแล้ว.


อีกหลายหลายวิธีได้ใช้ไปหมดแล้ว,ตอนนี้ไม่มีผลเพิ่มพลังของเขาอีกต่อไปแล้ว.


ยาทิพย์ระดับ 1 ตอนนี้,แทบไม่จำเป็นหรือสร้างผลอะไรได้.


ฉู่เทียนได้เตรียมหญ้าสะเก็ดดาว 10,000 ตน เริ่มฝึกฝนวิชาบำเพ็ญ <<กายานิรันดรโอบแสงดารา>>อย่างบ้าคลั่ง,จากการผจญภัยที่ตลาดมืดนั้น วิชา<<กายานิรันดรโอบแสงดารา>> ได้ช่วยชีวิตของฉู่เทียนหลายต่อหลายครั้ง,ดังนั้นฉู่เทียนจึงคิดจะเพิ่มความแข็งแกร่งร่างกายของเขาให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม.


ตอนนี้หญ้าสะเก็ดดาวถูกสกัดบนอ่างคลิสตัลเรียบร้อยแล้ว.

ในที่สุดแล้วฉู่เทียนก็สามารถไปถึงระดับ 1 สำเร็จดินแดนขนาดเล็ก อย่างสมบูรณ์,เขาไม่จำเป็นต้องควบรวมพลังด้วยความตั้งใจตัวเองแล้ว,ต่อไปพลังอำนาจแห่งดวงดาระดับกายแก้วจะปรากฏขึ้นมาป้องกันร่างกายของเขาเอง,ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตก็ไม่สามารถทะลวงการป้องกันของเขาได้โดยง่าย,ตราบเท่าที่พลังวิญญาณของเขาไม่แห้งเหือด,ก็ยากที่จะได้รับบาดแผลมา!


พลังฝึกตนเลื่อนระดับ!


วิชาบำเพ็ญเองก็เลื่อนระดับ!


ความแข็งแกร่งของเขาก็จะเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ.

ฉู่เทียนที่ยืนเปลือยกายหน้าอ่างน้ำ,พยักหน้าไปมา,ด้วยท่าทางพึงพอใจ"ด้วยวิชาบำเพ็ญนี้,ทำให้ร่างกายและกล้ามเนื้อของข้าพัฒนาเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย."


"คู คู!"


จิ้งจอกน้อยที่เห็นร่างกายของฉู่เทียนที่เปลือยเปล่า,มันได้นำขาหน้าของมันปิดดวงตาของมันเอาไว้,พร้อมกับร้องประท้วงออกมาเสียงดัง.


"ชิ,อายอะไรกัน?เจ้าเป็นแค่เพียงจิ้งจอก,เป็นจิ้งจอกตัวเมียรึไง?"


เจ้าจิ้งน้อยก้าวไปด้านหน้าเปลี่ยนเป็นกลุ่มควัน,ก่อนที่จะมาปรากฏขึ้นที่หน้าต่าง,แสดงท่าทางขุ่นเคืองต่อว่าเขา.


หลายวันมานี้มันต้องพบกับความจริงอันโหดร้าย,ทว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่ามันมีเพศใดกันแน่!


ในโลกใบนี้ยังมีเจ้านายที่ไร้ความผิดชอบขนาดนี้อยู่อีกหรือไม่?


ฉู่เทียนที่จ้องมองไปยังจิ้งจอกน้อยที่ดูขบขัน,ก่อนที่เขาจะสวมเสื้อผ้า,และล้วงแก่นหยินออกมา,พร้อมกับโยนให้กับมันเบาๆ.


ดวงตาทั้งสองข้างของจิ้งจอกน้อยดูเป็นประกาย.


ฟรุ๊ป!

หายไปในทันที.


มันเหินกระโดดคว้าแก่นหยุน,ก่อนที่จะหายมาอยู่บนไหล่ของฉู่เทียน,พร้อมกับเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย.


ฉู่เทียนที่ใช้นิ้วดีดหัวของเจ้าจิ้งจอกน้อยเบาๆ"ไม่รู้ว่าแกเป็นสายพันธ์อะไร,แต่อาหารที่เจ้ากินเช่นนี้,ไม่ใช่สมบัติระดับสวรรค์และปฐพีก็ไม่ยอมกินรึไง!"


จิ้งจอกน้อยที่ยกหัวขึ้นเล็กน้อย,พร้อมกับพ่นลมออกจมูกเบาๆ.


สัตว์อสูรวิญญาณทั่วไปนั้นไม่เห็นมีตัวใหนที่เลือกกินเช่นนี้เลย!


ทักษะของอสูรจิ้งจอกตนนี้น่าจะเป็นระดับพระเจ้าก็ว่าได้!


แต่ถึงกระนั้นฉู่เทียนยังไม่รู้เลยว่าโชคที่เขามาได้รับนี้,นับเจ้าจิ้งจอกน้อยเป็นโชคลาภได้หรือไม่!


ฉู่เทียนที่รู้สึกขำขันที่จิ้งจอกน้อยนั้นมันเต็มไปด้วยท่าทางหยิ่งจองหอง,ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม,ด้วยเชาว์ปัญญาของมันนั้นไม่ได้ต่ำอย่างแน่นอน,และอาจจะไม่ได้ด้อยไปกว่ามนุษย์ด้วย,นอกจากนี้มันยังเจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก,ฉู่เทียนทำหน้าขึงขังและกล่าวออกไปว่า"อย่าได้ตำหนิข้า,หากแก่นหยินที่เจ้ากินอยู่นั้นหมดไป,สุดท้ายแล้วอาหารของเจ้าก็จะหมดไปด้วย."


จิ้งจอกน้อยที่ดูไม่หยี่หร่า,ทันใดนั้นมันก็ได้ยินเสียง วูซซ และร่างของมันก็หายไปในทันที.


น้ำหนักที่เอวของฉู่เทียนเบาขึ้นมาทันที.


เจ้าจิ้งจอกน้อยที่ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าต่าง,พร้อมกับคาบถุงย่ามที่มีน้ำหนักเป็นอย่างมาก,ดวงตาของมันเป็นประกายหรี่ลง,ก่อนที่จะโยนถุงดังกล่าวเบาๆลงมา,ซึ่งได้ยินเสียงของศิลาก่อเกิดกระทบกัน.


เจ้าตัวน้อยคุ้ยที่ปากถุงไปมา.


ปัง!


ศิลาก่อเกิดระดับต่ำหล่นกระจายไปบนพื้นโต๊ะ.


เจ้าจิ้งจอกน้อยที่ขบไปที่ศิลาก่อเกิดเบาๆ,พร้อมกับใช้เท้าเล็กของมันชี้ไปที่ศิลาก่อเกิด,คล้ายกับแสดงท่าทางออกมา ราวกับกำลังจะสื่อว่า"ไม่ใช่ว่าท่านไม่มีเงินซะหน่อย?ใช้สิ่งนี้ซื้ออาหารให้กับข้า!"


"เจ้ากล้าขโมยเงินของข้ารึ?"พ่นลมออกจมูกด้วยความขุ่นเคือง"เจ้าคิดว่าที่นี่เป็นสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้ารึไง,ข้าบอกเจ้าแล้ว,ว่าจะต้องแสดงว่ามีประโยชน์ต่อข้า,ไม่เช่นนั้น ท่านฉู่คนนี้จะไม่ให้อาหารกับสัตว์เลี้ยงที่ไร้ประโยชน์แน่."


จิ้งจอกน้อยแสดงท่าทางไม่ยินยอม,ก่อนที่จะหันหลังพร้อมกับชูหางให้กับเขา,เผยหางที่ฟู่ฟ่องสะบัดไปมา,แสดงท่าทางดูถูกโดยเฉพาะออกไป.


อะไรของเจ้าตัวนี้?


ทำให้เคืองอยู่เรื่อยเลย!


ฉู่เทียนที่ส่ายหน้าไปมา,ก่อนที่จะหยิบกระบี่อเวจี,เดินออกมายังสวนหน้าบ้าน,เริ่มรำเพลงกระบี่ช้าๆ.


พลังป้องกันของเขาเวลานี้เพียงพอแล้ว,ทว่าทักษะการโจมตียังไม่ทรงพลังพอ, <<กระบี่เพลิงอเวจี>>!นับว่าเป็นเพลงกระบี่ที่แข็งแกร่งที่เดียว,หากสามารถฝึกฝนสำเร็จไปถึงระดับ 1 สำเร็จดินแดนขนาดเล็กได้ล่ะก็,ฉู่เทียนมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าทีเดียว.


อย่างไรก็ตามหลังจากที่ฝึกฝนไป 4-5 กระบวนท่า,เขากับยังไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย,ราวกับว่าเพลงกระบี่ดังกล่าวนั้นยังขาดอะไรบางอย่างอยู่.


ยังขาดสิ่งใดกัน?


ขณะที่ฉู่เทียนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น.


จิ้งจอกน้อยขนสีขาวราวหิมะที่นั่งอยู่บนขอบหน้าต่าง,ที่ดวงตาของมันนั้นแสดงท่าทางเย้ยหยันเป็นอย่างมาก ก่อนจะร้องออกมา "คู,คู," ,แสดงท่าทางราวกับหัวเราะความโง่งมของฉู่เทียนอยู่.


"เจ้าจิ้งจอกผี,เจ้ากล้าหัวเราะข้าเหรอ?"

ตอนนี้เจ้าจิ้งจอกนั้นหายไปแล้ว,ก่อนที่มันจะคาบมุกขนาดเล็กสีขาวน้ำเงิน,ก่อนที่จะโยนมาให้ฉู่เทียนที่ลานฝึกด้านหน้า.


มันมีขนาดไม่ใหญ่ขนาดไม่เท่ากับกำปั้นด้วยซ้ำ.


ทว่าถึงจะมีขนาดเล็กก็มีพลังไม่น้อยเลย.


มุกสีขาวน้ำเงินพุ่งมาหาฉู่เทียนราวกับดาวตก.


ฉู่เทียนที่ยืนมืออกไปรับ,มุกเมล็ดเปลวเพลิงอสูรอเวจี,ทันใดนั้นเขาก็สามารถเข้าใจได้ถึงความตั้งใจของจิ้งจอกน้อย,เพลงกระบี่อเวจีนั้น,เป็นวิชาชาลับที่ยังขาดพลังเปลวเพลิง,ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามุขเปลวเพลิงภูติอเวจีก็คือจุดสำคัญในการฝึกวิชาลับนี้นั่นเอง.


จิ้งจอกน้อยที่ราวกับคิดว่าการกระทำของมันนั้นไม่ใช่น้อยๆเลย,พร้อมกับหายตัว,ด้วยความเร็วอันน่าสะพรึงก็มาอยู่บนไหล่ของฉู่เทียน,พลางเหยียดขาหน้าของมันขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจ.


"เจ้าควรจะกินมันอย่างประหยัดหน่อยนะ!"


"หากเจ้ากินอาหารไม่เป็นเวลาเช่นนี้,ข้าคงหาอะไรมาให้เจ้ากินไม่ทันแน่!"


จิ้งจอกน้อยที่ได้รับแก่นหยินไป,ก่อนที่มันจะขยับไปด้านข้างและไม่รู้ว่าหายไปใหน.


ในเวลาเดียวกันนั้น.


มีพลังกดดันส่งผ่านออกมาเล็กน้อยกระจายออกมาจากห้องของท่านหญิง.


ฉู่เทียนเผยท่าทางมีความสุข,เมิ่งชิงอู่ด้วยการช่วยเหลือจากเขา,ยาทิพย์มากมายหลากหลายที่นางใช้ในหลายวันมานี้,ท้ายที่สุดนางก็สามารถทะลวงผ่านระดับได้อย่างสบายๆ.


พลังลึกล้ำอันน่าพิศวงได้แผ่ออกมาเต็มไปในอากาศ.


กลิ่นอายนี่มันกลิ่นอายของภูติวิญญาณ.


ภูติวิญญาณได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว!

ด้วยความดีใจเป็นอย่างมาก,ทันใดนั้นเขาก็วิ่งไปยังห้องของท่านหญิง,เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้น.


เมิ่งชิงอู่ที่เพิ่งบำเพ็ญพลังเสร็จสิ้น,นางที่สามารถทะลวงผ่านไปยังระดับ 9 ดินแดนสวรรค์ได้อย่างง่ายได้,พร้อมกับการกำเนิดขึ้นมาของภูติวญญาณ,ทว่ามันเป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,ภูติวิญญาณของนางนั้น เป็นหนังสือหนาเล่มหนึ่ง.


นี่คือภูติวิญญาณที่เป็นหนังสือ,หากว่าเป็นในยุคเขาล่ะก็,นี่คือภูติวิญญาณที่หายากเป็นอย่างมาก!


ฉู่เทียนที่สอบถามเมิ่งชิงอู๋,"ท่านรู้สึกว่าร่างกายของท่านเปลี่ยนไปหรือไม่?"


เมิ่งชิงอู๋ที่ส่ายหน้าไปมา,"ไม่เห็นมีสิ่งใดเปลี่ยนเลย!"


ฉู่เทียนเองได้สอบถามต่อไปว่า"ท่านไม่คิดว่าแข็งแกร่งขึ้นบ้างอย่างงั้นรึ?"


เมิ่งชิงอู๋ส่ายหน้าไปมา,ซึ่งจากการปลุกภูติวิญญาณกระบี่ขึ้นมานั้น,จะช่วยเพิ่มทักษะเพลงกระบี่ขึ้นเป็นอย่างมาก,ส่วนภูติวิญญาณหนังสือนั้น?ไม่ใช่ไว้เพื่อต่อสู้กระมั้ง!


เมิ่งชิงอู๋ที่สามารถสัมผัสได้ถึงภูติวิญญาณที่เติบโตขึ้นมานี้,ราวกับว่าไม่มีทักษะใดเกิดขึ้นมาเลย,ทำให้เมิ่งชิงอู๋เองรู้สึกผิดหวังด้วยเหมือนกัน,นางเริ่มรู้สึกว่าภูติวิญญาณของนางนั้นเป็นภูติไร้ประโยชน์หรือไม่.


ไร้ซึ่งทักษะการต่อสู้ใดๆ!


ภูติวิญญาณของนางช่างแตกต่างจากของคนอื่นนัก,ไม่ใช่ว่าภูติวิญญาณของนางนั้นกลายเป็นภูติไร้ประโยชน์รึอย่างไร?


"ไม่ๆ,ไม่มีภูติวิญญาณตนใหนที่ไร้ประโยชน์หรอก,และภูติวิญญาณของท่านเองนั้นไม่ใช่ภูติวิญญาณไร้ประโยชน์อย่างแน่นอน!ฉู่เทียนที่คิดอย่างไคร่ครวญ,ทันใดนั้นก็คิดขึ้นมาได้ในทันที"หรือว่า..."


เมิ่งชิงอู๋ที่แสดงท่าทางงงงวย.


ฉู่เทียนที่เขียนอักษรอยู่บนกระดาษแผ่นหนึ่งก่อนที่จะเอาไปให้เมิ่งชิงอู๋อ่าน"เจ้าลองอ่านตัวอักษรบนกระดาษนี้สิ!"


"ฉู่เทียน,ข้า,รัก,เจ้า!"


"เพ่ย!!!"


เมิ่งชิงอู๋ที่เพิ่งอ่านไป,เพิ่งตระหนักได้ว่านางถูกหลอก,ใบหน้าที่ดูคร่งขรึมเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อ,หลังจากนั้นดวงตาคู่งามของนางก็จ้องเขม็งมาที่เขา,พร้อมกับแสดงท่าทางโกรธเกรี้ยว.


"เจ้ากล้าล้อข้าเล่นรึอย่างไร!"


"ข้าไม่ได้ล้อท่านเล่นซักหน่อย."ฉู่เทียนที่อดกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้"ท่านลองจ้องมองดีๆซิ!"


เมิงชิงอู่ที่เพ่งพิศดูอย่างละเอียดกับข้อความดังกล่าวถึงกับตื่นตะลึง"ภาษาที่เขียนนี้?ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย...ประหลาดนัก,แล้วข้าสามารถเข้าใจความหมายได้อย่างไรกัน?"


"ท่านต้องไม่เคยเห็นอย่างแน่นอน!"ฉู่เทียนที่ขยำกระดาษดังกล่าวเป็นลูกบอล"นี่คือภาษาเขียนเอลฟ์ชั้นสูงยุคโบราณ."


เมิ่งชิงอู๋แทบไม่อยากจะเชื่อเลยทีเดียว.


ภาษาเขียนของเอลฟ์ยุคโบราณ,นางสามารถอ่านออกได้อย่างไรกัน?


ฉู่เทียนที่กล่าวต่อ"ภาษาที่ท่านเพิ่งอ่านไปนั้น,คือภาษาของเอลฟ์ยุคโบราณ,ไม่มีใช้กันภายในทวีปต่างๆในยุคนี้!"


เมิ่งชิงอู่เริ่มคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่เกิดขึ้น,ที่จริงแล้วนางเพิ่งอ่านภาษาที่ไม่ใช่ภาษาปรกติ,ทว่านางกับสามารถเข้าใจความหมายได้ เป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมาก,ซึ่งประหลาดเหมือนกับว่านางจะสามารถพูดภาษาดังกล่าวได้อีกด้วย.


ราวกับว่าภาษาดังกล่าวนั้นมันได้ถูกสลักเอาไว้ภายในดวงจิตของนางเลย.


มันกำลังก้องกังวานอยู่ภายในวิญญาณของนางด้วยเช่นกัน.



"ภูติวิญญาณตำราเป็นภูติวิญญาณที่พิเศษเป็นอย่างมาก,มันสามารถจดจำบันทึกโบราณได้,นับว่าเป็นภูติวิญญาณที่น่าเกรงขามไร้ขีดความสามารถทีเดียว,ภูติวิญญาณของท่านนั้นไม่ได้มอบความแข็งแกร่งมาให้ ทว่า,จริงๆแล้วมันสามารถเพิ่มความรู้ความเชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมและพัฒนาความรู้ของท่านควบคู่ไปด้วย...เพิ่มเชาว์ปัญญาให้เจ้า!"


ฉู่เทียนที่ได้ทำการทดลอง.


เขาได้นำหนังสือออกมาเล่มหนึ่ง,ก่อนที่จะเปิดมันขึ้นต่อหน้าเมิ่งชิงอู๋.


ฉู่เทียนได้เปิดตวัดตำราดังกล่าว 4-5 นาทีให้นางดู,ผ่านไปไม่กี่นาที,เขาก็นำหนังสือดังกล่าวเก็บกลับคืนมา.


ก่อนที่ฉู่เทียนจะสุ่มสอบถามเนื้อหาภายในตำราเล่มนั้น,เมิ่งชิงอู๋ที่แทบจะไม่ต้องอ่านเนื้อหาด้านใน,กลับสามารถที่จะบอกเนื้อหาที่อยู่ด้านในได้อย่างแม่นยำ.


ความเป็นจริง!


ภูติวิญญาณของเมิ่งชิงอู๋นั้นไม่ใช่สายต่อสู้.


แต่ว่าเป็นภูติวิญญาณเชาว์ความรู้ที่หายากเป็นอย่างมาก!


ทักษะช่วยของภูติวิญญาณหลักของฉู่เทียนนั้นมีทักษะในการส่องความทรงจำ,ทำให้เขาสามารถส่งถ่ายภาพความทรงจำได้,อย่างไรก็ตามเมื่อนำมาเทียบกับเมิ่งชิงอู๋แล้ว,ช่างเป็นทักษะที่จิ๊บจ้อยเป็นอย่างมาก.


เมิ่งชิงอู๋ที่เปิดตำราภูติของนาง,แทบจะไม่ต้องจ้องมองมันจนทั่วด้วยซ้ำ,ความรู้ที่ถูกบันทึกที่อยู่ภายในตำราภูติวิญญาณดังกล่าวก็ถูกซึมซับเข้ามาในความคิดของนาง,ความรู้ทั้งหมดนั้นถูกบันทึกเข้ามาภายในสมองของนางอย่างอัตโนมัติ.


บอกได้เลยว่า!


เมิ่งชิงอู๋ได้กลายเป็นนักวิชาการไปแล้ว!


เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ฉู่เทียนรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก!


ฉู่เทียนนั้นมีความรู้มากมายนัก,นอกจากนี้ยังเป็นความรู้สมัยใหม่ในปัจจุบันหลายหมื่นปี,หากแต่ไม่มีคนอื่นแล้วที่จะสามารถเข้าใจและรับถ่ายทอดได้,หากในโลกปัจจุบันจะมีใครที่จะสามารถเรียนรู้ความรู้ทั้งหมดจากฉู่เทียนได้ล่ะก็,คนๆนั้นจะต้องเป็นเมิ่งชิงอู๋คนนี้อย่างแน่นอน!



ภูติวิญญาณของนางนี้นับว่ายอดเยี่ยมทีเดียว.


ทำให้ฉู่เทียนอิจฉาเล็กๆเหมือนกัน!


ฉู่เทียนตอนนี้จึงคิดวางแผนที่จะถ่ายทอดความรู้ให้กับเมิ่งชิงอู๋!


ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าภูติวิญญาณตำราของเมิ่งชิงอู๋นั้นมีบันทึกความรู้ของโบราณอัดแน่นอยู่,นับว่าเป็นพลังความรู้ที่แข็งแกร่งยิ่งนัก,ยิ่งสามารถฟื้นคืนความรู้ดังกล่าวมาได้เท่าไหร่ก็จะยิ่งรอบรู้มากขึ้นเท่านั้น,บางทีอาจจะมีความทรงจำของยุครุ่งเรื่องที่สุดของยุคโบราณบันทึกเอาไว้อยู่ด้วยก็ได้.


ฉู่เทียนที่มีความรู้มากมายจากอนาคต 30,0000 ปี.


ส่วนเมิ่งชิงอู๋นั้นมีความรู้และบันทึกของยุคโบราณกาลที่ไม่เคยมีบันทึกมาก่อน.


การที่สามารถรวมประวัติศาสตร์ของทั้งสองยุครวมกัน,แน่นอนว่ามันจะกลายเป็นการผสานและตอบสนองต่อกันและกัน,ทำให้คนๆนั้นสามารถเข้าใจประวัติศาสตร์และคาดเดาสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ!


เมิ่งชิงอู๋ที่กล่าวออกมาว่า"พลังบำเพ็ญของหยิงหยิงนั้นต่ำกว่าพวกเราไม่มาก,บางทีอีกไม่นานนางอาจจะสามารถทะลวงผ่านดินแดนปรุงระดับ 9 ได้."


"อีกไม่กี่วันหลังจากนี้!ข้าตัดสินใจที่จะทะลวงผ่านไปยังดินแดนปลุกดวงจิต!"ฉู่เทียนหยุดชั่วครู่ก่อนที่จะกล่าวต่อ"ในวัตถุดิบที่ข้านำกลับมานั้น,มีผลไม้ทารกวิญญาณสามผล,จะสามารถนำมาสกัดกลั่นเป็นเม็ดยาทารกวิญญาณได้,ซึ่งจะทำให้พวกเราสามารถทะลวงผ่านระดับปลุกดวงจิตได้อย่างแน่นอน,ผลไม้อสูรทารกวิญญาณสามผล,มีเพียงพอสำหรับพวกเราทุกคน."


เม็ดยาทารกวิญญาณนั้นนับว่าเป็นยาที่มีราคาแพงเป็นอย่างมาก.



ทว่า,วัตดุหลักในการปรุงยาผลไม้ทารกวิญญาณนั้น,ยากที่จะสามารถหาซื้อได้มากกว่าซะอีก.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น