วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 90 Chinese state vanguard

Miracle Throne Chapter 90 Chinese state vanguard

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 90 - ผู้บุกเบิกสู่รัฐกลาง 


บทที่ 90 - ผู้บุกเบิกสู่รัฐกลาง 





ฉู่เทียนที่กลับมาพร้อมกับเรียกทุกคนเพื่อมารับประทานอาหารร่วมกัน,เมิ่งชิงอู๋ที่ยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องหอการค้า,เมิ่งหยิงหยิงเองที่ปิดประตูฝึกวิชาอยู่,ทั้งสองสาวจึงไม่ได้มาร่วมรับประทานอาหารในครั้งนี้,ทว่าซ่างหลีซิง,ซ่งเทียนเหยี่ยนและหนานกงหยุน มากันครบหน้า.


ทันที่ที่หนานกงหยุนเห็นหน้าเขา ก็เดินเข้ามาอย่างไม่สนใจใคร,พร้อมกับเข้ามากอดที่ไหล่ของเขาพร้อมกับพูดออกมาเสียงดัง"เถ้าแก่,ท่านช่างเป็นคนที่สวรรค์กำหนดมาอย่างแท้จริง,ผู้ที่จะนำชื่อเสียงและโชคลาภมาแก่พวกเรา,ยินดีกับท่านด้วย,ท่านประธานที่ต้องการพบกับพวกเรามีสิ่งใดอย่างงั้นเหรอ!"

"ไม่มีอะไรมาก!"


"พวกเจ้าที่คอยสอดส่อง,ทุกคนที่ปกป้องหอการค้าแห่งปาฏิหาริย์มาหลายวัน,แทบไม่มีวันหยุดเลย."



"แน่นอนว่าข้าไม่ลืมความกรุณานี้อย่างแน่นอน!"


ด้วยการถูกลอบโจมตีอย่างหนักหน่วง,ทว่าหอการค้าแห่งปาฏิหาริย์นั้นไม่ได้รับผลกระทบเลย,เพราะว่ามีคนคอยดูแลอย่างดีนั่นเอง,ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียขวัญกำลังใจ,เขาควรที่จะแบ่งปันผลประโยชน์ที่เขาได้รับมาให้กับทุกคน.


"ตาเฒ่าซ่าง,ข้ามีของขวัญเล็กน้อยให้กับเจ้า."


ฉู่เทียนที่นำโสมที่อุดมไปด้วยพลังสวรรค์ออกมา.


"นี่คือโสมลายม่วงหยกทมิฬ,หากนำมาสกัดแล้วจะบำรุงร่างกายเป็นอย่างดี,สามารถช่วยยืดชีวิตออกไปได้ยาวนาน,เจ้าอายุมากแล้วร่างกายของเจ้าเองก็เพิ่งหายจากพิษมา,หากว่าเจ้าใช้โสมนี้บำรุงร่างกายล่ะก็,อย่างน้อยข้ารับรองว่าจะสามารถยืดชีวิตออกไปได้หลายสิบปี."


เครายาวของซ่างหลีซิงถึงกับสั่นสะท้าน.


นี่...นี่คือสมบัติล้ำค่าเป็นอย่างมาก.


ที่ซ่างหลีซิงได้ยินมานั้น,มีการประมูลเกิดขึ้นที่รัฐกลางบ่อยๆ,อย่างน้อยที่สุดก็มีราคาหลายพันเหรียญทองแล้ว,นอกจากนี้,ไม่สามารถที่จะหาเจอได้ง่ายๆ,หรือจะบอกได้ว่าถึงมีเงินก็ใช่จะสามารถหาสถานที่ซื้อได้นั่นเอง!


ฉู่เทียนที่จ้องมองไปยังซ่งเทียนเหยี่ยนก่อนที่จะหยิบดอกบัวสีแดงทองให้กับเขา"นี่คือบัวลาวาพันปี,สิ่งดังกล่าวนี้จะช่วยทำให้พลังฝึกตนของเจ้ามั่นคงขึ้น,ทำให้พลังฝึกตนของเจ้าพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว,นอกจานี้,ยังช่วยเพิ่มเพิ่มพลังธาตุเปลวเพลิงและเพิ่มการควบคุมเพลิงให้กับเจ้าด้วย,ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยเจ้าปรุงยาได้เป็นอย่างมาก!"


ซ่งเทียนเหยี่ยนนั้นรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก.


นี่คือสมุนไพรยาทิพย์พันปี!


ฉู่เทียนไปหามันมาจากที่ใหนกัน?


ชายคนนี้เป็นคนที่ใจกว้างเป็นอย่างมาก,ไม่เคยเห็นใครจะกล้ามอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้กับคนอื่นๆง่ายๆเลย!


เขาที่นำของทั้งสองอย่างออกมาอย่างไม่คิดอะไรเลย,ทั้งที่เป็นของล้ำค่าสำหรับผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตต้องการเป็นอย่างมาก!


ไม่เสียดายเลยอย่างงั้นรึ?ใจกว้างขนาดนี้เลยรึ?


ด้วยนิสัยเช่นนี้จะต้องหมดตัวในสักวันอย่างแน่นอน!


หนานกงหยุนถึงกับโพรงออกมาในทันที,ไม่คาดคิดเลยว่าฉู่เทียนนั้นจะใจกว้างถึงเพียงนี้,ทันใดนั้นนางก็กล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น,และกล่าวออกมาอย่างใจจดใจจ่อ"ข้า? ข้าล่ะ? เจ้าเตรียมสิ่งใดมาให้ข้ากัน!"


"หนานกงหยุนเจ้ามีสิ่งใดที่ขาดเหลือกัน,มีสิ่งใดที่เจ้าต้องการอย่างงั้นเหรอ."


ด้วยพรสวรรค์ของนางกงหยุนนั้นนับว่าเหนือล้ำกว่าคนอื่นๆมาก,การจะทะลวงไปยังขั้นถัดไปนั้นแทบไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งใดเลย,ที่จริงด้วยพลังฝึกตนของนางไม่สูงนั้นก็เป็นเพราะนางเป็นคนผนึกมันเอาไว้เอง.


"เจ้าเองก็กล่าวสมเหตุสมผล."ดวงตาที่คมกริบของนางพร้อมกับพล้อยไปที่ครางครุ่นคิด,นางไม่มีอะไรที่ขาดแคลน,ทันใดนั้นดวงตาของนางก็เบิกกว้างจ้องมองไปยังจิ้งจอกน้อยที่อยู่บนไหล่ของฉู่เทียน"เจ้าตัวเล็กนี้,น่ารักจังเลย,เจ้าให้ข้าเอาไปเล่นสักสองวันได้หรือไม่?"


"คู,คู!"


เจ้าจิ้งจอกน้อยลุกขึ้นยืนในทันที,พร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างแรง,ราวกับสิงโตตัวน้อยที่กำลังโกรธเกรี้ยว.


ดวงตาเล็กๆที่ส่องประกายขุ่นเคืองไปพอใจ,พลางตวัดขาหน้าขนาดเล็กของมันไปมาป้องกันหนานกงหยุนเอาไว้,แสดงท่าทางขัดขืนหัวชนฝาเลยทีเดียว.


"โอ้ว!เจ้าตัวน้อยนี่,คาดไม่ถึงเลยว่าจะเข้าใจที่พวกเราคุยกันด้วยล่ะ?นอกจานี้แล้วยังหัวแข็งไม่เบาด้วย!"ดวงตาทั้งสองข้างของหนานกงหยุนส่องประกาย,"ข้าชอบ,ข้าชอบมันจังเลย,เจ้ามาเล่นกับข้าสักสองวันนะ,มา,มา."


ซ่างหลีซิงและซ่งเทียนเหยี่ยนถึงกับตื่นตระหนกเลยทีเดียว!


ซ่างหลีซิงกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ,"ในโลกใบนี้มีสัตว์อสูรที่ฉลาดถึงเพียงนี้เลยอย่างงั้นรึ?"


มีสิ่งที่ซ่างหลีซิงยังไม่รู้.


นี่ไม่ใช่อสูรวิญญาณธรรมดาๆมันมีความสามารถเข้าใจภาษามนุษย์มาตั้งแต่เกิด,มันมีเชาว์ปัญญามาตั้งแต่แรกเกิดเลยทีเดียว,เป็นสิ่งมีชีวิตที่ ทุกคนไม่สามารถคาดคิดได้เลยทีเดียว.


นอกจากนี้มันยังออกมาจากท้องของราชันย์ศพทมิฬ,ที่อุ้มท้องนานกว่าหมื่นปี.


ถึงเป็นฉู่เทียนที่มีความรู้มากมายยังไม่สามารถคาดเดาสิ่งดังกล่าวนี้ว่าคืออะไร!


"ข้าเองก็อยากให้เจ้าจิ้งจอกน้อยกับเจ้าไปจริงๆ,แต่ว่านะเจ้าตัวนี้นะค่อนข้างจะหัวสูง,อาจจะต้องใช้ทรัพยากรของเจ้าทั้งตระกูล,มีแต่จะล่มจมแล้วยังไม่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูมันได้!"


ฉู่เทียนที่จ้องมองอย่างเหนื่อยหน่ายขณะพูด.


ค่าใช้จ่ายสำหรับจิ้งจอกน้อยนี้สูงลิบลิ่ว!


จิ้งจอกน้อยที่รู้สึกภาคภูมิแสดงออกมาอย่างไม่ขวยเขินแม้แต่น้อย,ฮึ!


"ข้า,ไม่รู้ล่ะ!"หนานกงหยุนที่ดูท่าทางฮึดฮัด,"ทุกคนยังได้ของขวัญกันหมด!ข้าเองก็ต้องได้เช่นกัน!"


ฉู่เทียนยอมใจแม่เสือสาวนี่จริงๆ,ทว่านับว่าเป็นโชคของเขาเช่นกันซึ่งเขาเองก็ได้เตรียมของบางอย่างเอาไว้แล้ว,ก่อนที่จะล้วงกล่องขนาดเล็กออกมาจากอกเสื้อ"นี่เป็นวิชาบำเพ็ญ,ข้าได้รับมาโดยบังเอิญนะ,บางทีอาจจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้า."


"วิชาบำเพ็ญอย่างงั้นรึ?ยังมีวิชาที่เหนือกว่า <<เพลิงผลาญสวรรค์>>ของตระกูลหนานกงอยู่อีกเหรอ!"


" เอา<<เพลิงผลาญสวรรค์>>มาเทียบอย่างงั้นรึ?"ฉู่เทียนกล่าวต่อ"มันมีชื่อว่า <<ศาสตร์เทวะแห่งนิพพาน>>มันเหมาะกับภูติวิญญาณระดับพระเจ้าของเจ้ามาก,เจ้าไม่ต้องการเหรอ!"


วิชาบำเพ็ญนี้เป็นวิชาที่มาจากอนาคต 30,000 ปี!


อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่วิชาที่สร้างขึ้นในอนาคต,ทว่ามันเป็นวิชาบำเพ็ญที่มาจากยุคโบราณกาล,ที่มีการปรับปรุงมาแล้วนับไม่ถ้วน,ท้ายที่สุดแล้วก็กลายเป็นวิชาบำเพ็ญที่ทรงพลังและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก.


เป็นหนึ่งในวิชานำมาจากอนาคตซึ่งมีไม่มากนัก,ที่ทรงพลัง โดย <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>นั้นแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยไปกว่า <<กายานิรันดรโอบแสงดารา>>เลยแม้แต่น้อย,ทว่ามันกลับเป็นวิชาที่ยากกว่าและมีระดับสูงกว่า.


หนานกงหยุนในเวลานี้,เป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกฝนได้,ทว่ายังไงให้นางเอาไว้ก่อน,หากว่านางได้ศึกษาซ้ำไปซ้ำมาล่ะก็,ย่อมที่จะสงผลกับนางอีกหลายอย่างแน่นอน.


"หากเจ้าจดจำได้แล้วก็เผามันทิ้งซะ,วิชาบำเพ็ญนี้ห้ามให้ใครรู้โดยเด็ดขาด."


"ได้!ข้าจะทำตามท่าน!ขอบคุณท่านประธาน!"


หนานกงหยุนที่ตื่นเต้นได้เข้าไปกอดฉู่เทียนด้วยแขนอันทรงพลังราวกับหมียักษ์!


ในการเดินทางในครั้งนี้.


ทุกคนต่างก็อยากรู้เป็นอย่างมาก.


มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นในหุบเขาหยินซีกัน?


ฉู่เทียนที่ได้เริ่มเล่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นภายในหุบเขาหยินซี,บรรยายเรื่องต่างๆให้กับทุกคนได้ฟัง.


"เช่นนั้นทั้ง 18 ตนก็คือศพทมิฬในสุสานโบราณอย่างงั้นรึ?"ซ่างหลีซิงที่เผยสีหน้าไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย,เหล่าชายชุดดำที่เหมือนรูปปั้นยืนอยู่ด้านหน้าประตู"ข้าไม่เคยได้ยินเลยว่า,ศพทมิฬนั้นจะสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธได้ด้วย,จริงๆเทคโนโลยีดังกล่าวนี้แทบจะไม่เคยมีมาก่อนเลยก็ว่าได้."


ฉู่เทียนแค่นเสียงอย่างเหยียดหยัน"ไม่ได้ยากเย็นขนาดนั้น,เป็นวิธีที่ง่ายดายเป็นอย่างมาก,แต่การสร้างค่อนข้างอมหิตทารุนด้วยเช่นกัน,เป็นการสร้างเปลือกหุ้มพลังและศพ,มันเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ศพทหารทมิฬ."


ใบหน้าของซ่งเทียนเหยี่ยนรู้สึกเสียดายเหมือนกัน"หากว่าสามารถนำอสูรศพทมิฒออกมามากกว่านี้,ตระกูลเย่หรือตระกูลฉู่ ต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวอีกแล้ว!"


เหล่าศพทมิฬทั่วไปสามารถนำมาสร้างเป็นทหารศพทมิฬได้.

เหล่าอสูรศพทมิฬที่ฉู่เทียนพบที่หน้าผาโลงศพแขวนนั้น,แน่นอนว่าพวกมันถูกสร้างขึ้นมาด้วยวิธีพิเศษ,ทำให้ไม่สามารถที่จะควบคุมพวกมันได้ง่ายๆ.


อสูรศพทมิฬนั้นแข็งแกร่งจนเกินไป,ด้วยพลังฝึกตนของฉู่เทียนตอนนี้อ่อนแอจนเกินไป,ถึงแม้ว่าเขาจะมีกระดิ่งควบคุมวิญญาณก็ตามที,ก็ยากที่จะควบคุมมันได้.


ใบหน้าของหนานกงหยุนดูไม่พอใจสักเท่าไหร่,"การผจญภัยที่น่าสนใจถึงเพียงนั้น,เจ้าน่าจะให้ขุ่นแม่คนนี้ได้ออกโรงแสดงฝีมือหน่อย!ไม่เช่นนั้นด้วยทักษะขุนแม่คนนี้หากเข้าไปในสุสานโบราณล่ะก็จะทุบพวกโอหังนั่นให้เละเลย!"


ด้วยคำพูดดังกล่าวนั่น,ฉู่เทียนก็เชื่อมั่นเช่นกัน.


ความแข็งแกร่งของแม่เสือสาวนี่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!


ด้วยภูติหงเพลิงที่มีพลังทำลายล้างระดับพระเจ้าก็น่าสะพรึงกลัวแล้ว.


และยิ่งนางฝึกฝนวิชากายานิรันดร์โอบแสงดาราด้วยแล้ว,ทั้งพลังโจมตีและป้องกันถือว่าสมบูรณ์แบบ,ต่อให้เป็นหยุนเหยาและชายชราหน้าผีถึงจะมีพลังฝึกตนที่สูงกว่า,ทว่าด้วยการถูกผนึกพลังอยู่ในสุสานนั่นไม่มีทางที่จะเป็นคู่มือหนานกงหยุนได้.


อย่างไรก็ตามจะโทษฉู่เทียนก็ไม่ได้,ต้องไม่ลืมว่าการเปิดออกของสุสานโบราณนั้นเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ.


เหล่าของฝากก็ได้มอบไปหมดแล้ว!


ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องคุยเรื่องธุรกิจแล้ว.


ทุกคนต่างก็นั่งประจำที่แล้ว,ฉู่เทียนก็เริ่มเอ่ยถาม"ทุกท่านหอการค้าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง!"


"โปรดวางใจ,ข้าได้ทำการดูแลเป็นอย่างดี,ภัตตาคารไม่ได้รับผลกระทบเท่าไหร่นัก,ผลกำไรที่ได้รับก็ถือว่าคงทีเลยทีเดียว,ทุกๆวันก็สามารถทำกำไรได้ 20,000-30,000 เหรียญทอง."


ทุกๆเดือนก็ไม่ต่ำกว่า 600,000 เหรียญทอง?


นับว่าประสบผลสำเร็จเลยทีเดียว!


"เมืองเทียนหนานแห่งนี้มีผู้ฝึกตนราวๆ 200,000 คน,ภัตตาคารพลังเวทย์ยังไม่ถือว่าน่าพอใจ."หนานกงหยุนกล่าวออกมาเสียงดัง"พวกเราควรที่จะเพิ่มสาขาขึ้นมา,ให้มีสาขาทั่วเมืองเทียนหนานเลย,ทุกๆเดือนย่อมสามารถสร้างเงินได้เข้ามาหลายล้านแบบไม่ยากเย็นแน่นอน!"


ดี,นับว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม!


นับว่าเป็นแผนธุรกิจที่ดีทีเดียว!



ฉู่เทียนได้ถามต่อไป,"หอการค้าหนานหยุนสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?"


ซ่งเทียนเหยี่ยนเผยยิ้มออกมาอย่างเฉิดฉาย"โปรดวางใจ,ด้วยการมีท่านหญิงเมิ่งเป็นผู้บริหาร,และข้าเองที่ได้รับเลือกให้กลายเป็นประธานสมาคมปรุงยาของเมืองเทียนหนานแห่งนี้,เราสามารถที่จะซื้อและกักเก็บสมุนไพรได้อย่างมากมายหลากหลายเส้นทาง,และสามารถปรุงยาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน,นับว่าเพียงพอที่จะสนับสนุนธุรกิจของเราให้ดำเนินไปอย่างราบลื่นได้."


ซ่งเทียนเหยี่ยนได้นำยาเม็ดออกมา,"ท่านดูนี่ด้วย!"


"นี่คือเม็ดยาฉีเหลียนอย่างงั้นรึ?"
{气丹 Liàn qì dān เม็ดยากลั่นปราณ}


"ใช่แล้ว,เม็ดยาฉีเหลี่ยนนี้เป็นฝีมือของเหล่าอาจารย์ปรุงยาของพวกเรา,ตอนนี้สามารถสกัดกลั่นได้มากกว่าร้อยเม็ดแล้ว,ข้ารับรองว่าพวกเราจะสามารถสร้างกำไรได้เป็นกอบเป็นกำทีเดียว."


ซ่างหลีซิงก็ได้กล่าวออกมาเช่นกัน"ร้านยันต์เวทย์ตอนนี้ก็ไม่ต่างกันนัก,สามารถที่จะสร้างยันต์เวทย์แบบใหม่ออกมาได้เป็นจำนวนมาก,ตราบเท่าที่สามารถทำได้ตามความต้องการ,ก็จะสามารถสร้างกำไรได้อย่างมากมายเช่นกัน."


ด้วยการที่ตระกูลเย่นั้นได้รับผลกระทบอย่างหนัก,ทำให้ตลาดของยันต์เวทย์และเม็ดยานั้น ขาดตลาด,เมื่อหอการค้าหนานหยุนในตอนนี้สามารถเข้าไปแทนที่ได้,ผลประโยชน์ที่ได้รับนับว่ายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก.


แม้ว่าตระกูลฉู่และตระกูลเย่จะทำการคุกคามพวกเขาก่อนหน้าอย่างหนัก.


อย่างไรก็ตาม,ด้วยฉู่เทียนกลับมาจัดการปัญหาอย่างรวดเร็ว,ทำให้หอการค้าปาฏิหาริย์ไม่ได้เสียหายอะไรมาก.


เมิ่งชิงอู๋ในตอนนี้เองก็ได้ทำการเก็บรวบรวมน้ำมันดิบเอาไว้เป็นจำนวนมาก,เตรียมพร้อมที่จะสร้างแบตเตอรี่พลังเวทย์เอาไว้อย่างมากมาย,หลอดไฟฟ้าเองก็เตรียมพร้อมและผลิตออกมาเป็นจำนวนมหาศาล,ตราบเท่าที่หอการค้าปาฏิหาริย์มั่นคงเมื่อไหร่,ทันใดนั้นก็จะเริ่มเข้าสู่ตลาดในทันที.


ผลประกอบการและการดำเนินงานของหอการค้าปาฏิหาริย์สร้างความพึงพอใจให้กับฉู่เทียนเป็นอย่างมาก.


ด้วยการผจญภัยในครั้งนี้เองก็ได้รับเงินมาไม่น้อย,ทว่าเขาได้วางแผนที่จะใช้จ่ายแล้ว,แต่ ไม่ใช่ว่าควรที่จะแบ่งมาลงทุนด้วยรึ?


ฉู่เทียนนั้นได้วางแผนการใช้เงิน,เพื่อที่จะเป็นต้นทุนในการบำเพ็ญพลัง,เตรียมที่จะซื้อเหล่าวัตถุดิบที่จำเป็น,ซึ่งจะทำให้เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับวัตถุดิบพิเศษได้!


ฉู่เทียนพยักหน้าพึงพอใจ,"สถานการณ์ในเมืองเทียนหนานนับว่าใช้ได้แล้วต่อไปพวกเราจะพิจารณาก้าวไปยังรัฐกลาง!"


รัฐกลางอย่างงั้นรึ?


นี่นับว่าเป็นสถานที่ค่อนข้างหนักหนาทีเดียว!


เมืองเทียนหนานนั้นเป็นเพียงแค่เมืองธรรมดามีผู้ฝึกตนไม่มากนัก,ส่วนรัฐกลางนั้นมีผู้ฝึกตนกว่า 1 ล้านคนเลยทีเดียว,พลังจิตวิญญาณเองก็ดูหนานแน่นกว่าเป็นอย่างมาก,มีสมบัติระดับสวรรค์และปฐพีมากมาย,ทรัพยากรที่หลากหลาย,รัฐกลางนับว่าเป็นเมืองระดับต้นๆของอาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้เลยก็ว่าได้.


ฉู่เทียนที่กล่าวต่อ"ประชากรของรัฐกลางนั้น,มีผู้ฝนตนมากกว่า 1 ล้านคน,มากกว่าเมืองเทียนหนาน 6-7 เท่า,ทรัพยากรที่พวกเขามีอุดมสมบูรณ์มากว่าหลายสิบเท่า,หากพวกเราเปิดตลาดเกี่ยวกับอาหาร,หอการค้าปาฏิหาริย์ของเราจะต้องเติบโตการเป็นหอการค้าอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน!"


หนานกงหยุนหัวเราะเสียงดัง"เจ้ากล่าวถูกแล้ว!ข้าเองก็พร้อมแล้ว!ข้าได้บอกกล่าวต่อพี่สาวชิงอู๋แล้ว,ทว่านางบอกว่าในเวลานี้ยังไม่ใช่โอกาสที่ดีนัก."


ซ่างหลีซิงขมวดคิ้วเล็กน้อย,"ข้าคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เร็วจนเกินไป."



"ไม่หรอก,ข้าได้เตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว,แม้ว่าพวกเราจะตั้งเป้าหมายหลักไว้ที่เมืองเทียนหนานก็ตามที,ทว่าก็จำเป็นที่ต้องริเริ่มบุกเบิกไปยังสถานที่อื่นไปพร้อมๆกันด้วย."


"บุกเบิก?"


ฉู่เทียนที่ถูคางไปมา,ทั่วทั้งใบหน้าของเขานั้นเคอะเขินอยู่เหมือนกัน"เช่นนั้นเราจำเป็นที่ต้องคัดเลือกคนไปดูแลบุกเบิกตลาด,จำเป็นต้องมีความแข็งแกร่ง,มีเชาว์ปัญญาที่หลักแหลม,และความสามารถหลากหลาย,เพื่อที่จะสร้างรากฐานขั้นแรกไว้รอพวกเรา,เราควรที่จะเลือกใครดี?"


"เลือกเหรอ!"หนานกงหยุนแทบจะไม่คิดเลย"มันจะต้องเป็นข้าอยู่แล้ว!"


ซ่างหลีซิงค่อนข้างเป็นกังวลเหมือนกัน,"ที่รัฐกลางนั้นมีศัตรูพวกเราอยู่มาก,หยุนเอ๋อเจ้าใจร้อนมากจนเกินไป,มีแต่จะประสบเข้ากับอันตรายได้ง่ายๆไม่ใช่รึ?"

"เฮ้,จะมีอันตรายอะไรกัน?"หนานกงหยุนที่แสดงท่าทางเย้ยหยัน"ตอนนี้ข้าเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตระดับ 1 แล้วนะ,ข้าไม่เห็นต้องใส่ใจเลย,เพียงแค่นี้ข้าก็สามารถจัดการเหล่าผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตด้วยกันได้เพียงแค่ไม่กี่นาที,พวกมันจะมาจัดการข้าได้อย่างง่ายดาย ได้รึอย่างไร?ท่านพ่อของข้านั้นก็ต้องการให้ข้าไปรัฐกลางอยู่ทุกวัน,หากข้าไปละก็,ยังสามารถได้รับความคุมครองจากสถาบันเจิ้งโจวด้วย,ในเวลานั้น,จะมีใครที่กล้าเป็นศัตรูกับข้ากัน,นั่นก็หมายความว่าข้าเหมาะสมที่จะเป็นผู้บุกเบิกที่สุดไงล่ะ!"


หนานกงหยุนโต้แย้งเสียงแข็งเลยทีเดียว.


นี่เป็นโอกาสทองของนางแล้วที่จะแสดงความสามารถที่ยอดเยี่ยมออกมา!


หนานกงหยุนที่กลัวว่าฉู่เทียนจะไม่เห็นด้วยกับนาง,จึงได้กล่าวออกไปอีกว่า"ตระกูลหนานกงถึงจะไม่มีอำนาจทางทหารที่จะเข้ามาแทรกแทรงได้มากมายนัก,ทว่าสถาบันเจิ้งโจวนั้นมีตระกูลหนานกงที่ควบคุมอยู่,ข้าไปยังรัฐกลางในสถานะนักเรียนซึ่งสามารถใช้เป็นโล่ป้องกันได้,และข้ายังสามารถได้รับประโยชน์จากทรัพยากรที่มากมายของสถาบันเจิ้งโจวอีกด้วย,ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยแล้ว,หากพิจารณาอย่างดีล่ะก็มีเพียงข้าเท่านั้นที่เหมาะสม!"


หนานกงหยุนเองก็นับว่าแข็งแกร่งทรงพลังไม่น้อย!


ด้วยสุดยอดผู้เยาว์ผู้มากพรสวรรค์ของตระกูลหนานกงที่สถาบันเจิ้งโจวต้องการ,ทำให้ทุกคนเลิกที่จะขัดขวางนางเลยทีเดียว!


"แม่นางหนานกงที่อาสาเช่นนี้,ข้าจะไม่สนับสนุนเจ้าได้อย่างไรล่ะ?"ฉู่เทียนที่ยืนขึ้นพร้อมกับยกถ้วยน้ำชาขึ้น,"ข้าขอดื่มให้กับเจ้าก่อนแล้วกัน,ขอให้เจ้าเดินทางโดยปลอดภัย!"


หนานกงหยุนที่ยกถ้วยน้ำชาขึ้น,พร้อมกับดื่มขึ้นในทันที,"ปล่อยให้เป็นหน้าทีข้าเอง!"


"การจะเดินทางไปยังรัฐกลางนั้นจำเป็นต้องมีเงินทุน"ฉู่เทียนคิดอยุ่ชั่วขณะก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า"ข้าจะขอให้ท่านหญิงเมิ่งชิงอู๋,เตรียมเงินของหอการค้าปาฏิหาริย์ให้กับเจ้า 1 ล้านเหรียญทอง,เพื่อให้เจ้านำไปดำเนินการเป็นค่าใช้จ่าย!"


เมื่อเร็วๆนี้ด้วยการใช้หญ้าสะเก็ดดาวในการฝึกฝนบำเพ็ญพลัง,และยังมีการซื้อวัตถุดิบในการปรุงยา,และยังมีการสร้างยันต์เวทย์และลงทุนในภัตตาคารใหม่, หอการค้าเองดูเหมือนจะไม่ได้มีเงินมากมายนัก.


"อะไรนะ? 1 ล้านเหรียญทอง!"หนานกงหยุนร้องตะโกนเสียงดัง,"นี่...นี่มันมากเกินไปแล้ว!"


"มากอย่างงั้นรึ?ไม่เลย!แค่เพียง 1 ล้านเหรียญนั้นมันอาจจะมากมายหากอยู่ในเมืองเทียนหนาน,หากแต่อยู่ในรัฐกลางแล้ว,ข้าเกรงว่ามันยังน้อยไปด้วยซ้ำ."


"ฉู่เทียนกล่าวถูกต้องแล้ว."ซ่างหลีซิงพยักหน้า,"ที่รัฐกลางนั้นไม่สามารถเอามาเทียบกับเมืองเทียนหนานได้!"



ฉู่เทียนกล่าวต่อ"เจ้าไม่ต้องรีบร้อน,ด้วยเงินทั้งหมดนั้นหอการค้าได้มอบให้เจ้าเพื่อใช้ในการซื้อเหล่าวัตถุดิบในการฝึกฝน,นอกจากนี้หอการค้ายังต้องการพนักงาน,ด้วยเงินดังกล่าวนั้น,เจ้าสามารถที่จะจ้างพนักงานที่ไว้ใจได้,พร้อมกับจับจองสถานที่สำหรับหอการค้าของพวกเรา,เป็นการก่อตั้งรากฐานเอาไว้,เมื่อพวกเราพร้อมเมื่อไหร่,และเปิดกิจการอย่างเป็นทางการได้ล่ะก็ พวกเราจะต้องสั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นดินแน่นอน."


1 ล้านเหรียญทอง?


ถึงจะต้องดูสถานการณ์ข้างหน้าด้วยก็ตามที.



ด้วยเงินจำนวนนี้สำหรับคนๆเดียว,สำหรับผู้ฝึกตนระดับปรุงร่างนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับอาหารหรือการดำเนินชีวิต,ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนดินแดนปลุกดวงจิตขั้นต้น,ก็นับว่าเป็นเงินที่มากมายเหมือนกัน.


อย่างไรก็ตามหากเปรียบกับความยิ่งใหญ่ของหอการค้าที่จะได้รับนั้นเล็กน้อยมาก,เทียบได้กับขนเส้นเดียวบนวัวเก้าตัวก็ว่าได้**


หากกล่าวถึงทรัพยากรที่ต้องใช้เป็นอย่างมาก,อย่างเช่นวิชา <<กายานิรันดรโอบแสงดารา>>,ไม่ได้เป็นจำนวนที่มากมายอะไรเลย.



นอกจากนี้ฉู่เทียนที่เพิ่งสำเร็จวิชาบำเพ็ญในระดับ 1 สำเร็จดินแดนขนาดเล็ก,ยังจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบไปกว่า 100,000 เหรียญทอง,และหนานกงหยุนเองก็ไปถึงระดับกายแก้วเรียบร้อยแล้วด้วย,การจะใช้ทรัพยากรก็ยิ่งต้องเพิ่มขึ้นมาหลายเท่ามากยิ่งกว่าเดิมอีก.


เงิน 1 ล้านเหรียญนี้นับว่าเล็กน้อยจนเกินไปทีเดียว.


แทบจะไม่สามารถนำมาพูดเลยก็ว่าได้.


แต่ถึงอย่างนั้นหนานกงหยุนเองก็รู้สึกฉีดเลือดไก่อยู่ไม่น้อย!


นับตั้งแต่เด็กจนโตนางเองก็ไม่เคยมีเงินมากมายขนาดนั้น,ด้วยไม่มีใครเชื่อใจนางด้วยเช่นกัน.

ในเวลาเดียวกันนางก็สามารถสัมผัสได้ถึงความคาดหวังในภารกิจ,ที่ฉู่เทียนมอบให้นางรับผิดชอบเป็นผู้บุกเบิกในรัฐกลาง,นับเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก!


หนานกงหยุนที่เป็นคนไม่ค่อยรั้งรอที่จะทำ,"ในเมื่อเป็นเช่นนั้น!วันนี้!พวกท่านก็กินอาหารให้สบายใจเลยแล้วกัน,ข้าขอกลับไปเตรียมตัวก่อน!"


ฉู่เทียนก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก.


หนานกงหยุนที่เร่งรีบเปิดประตูและกลับไปยังที่พักด้วยความรวดเร็ว.


ภายในดวงตาของซ่างหลีซิงเองก็เต็มไปด้วยความเอ็นดู"หญิงสาวคนนี้ราวกับดินปืนที่ถูกจุด,ทำอะไรรวดเร็วจริงๆ!"


หนานกงอี้ที่ได้รับข่าว,ทันใดนั้นก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างมาก.


ผู้เป็นพ่อถึงกับดีใจจนไม่มีอะไรจะกล่าว,ในเวลาเดียวกันก็ได้มอบเงินให้บุตรสาวสนับสนุนการบำเพ็ญเพียรอีก 500,000 เหรียญทอง.


ในเย็นวันนั้น,หนานกงหยุนก็ได้ขี่สัตว์อสูรแรดขาว,พร้อมกับเหล่าองค์รักษ์อีกหลายคนเพื่อคุ้มกันนาง,ก่อนที่จะมาลาฉู่เทียนและคนอื่นๆ,พร้อมกับเร่งรีบออกเดินทางไปยังรัฐกลางทันที.




九牛一毛 jiǔniúyīmáo ขนเส้นเดียวบนวัวเก้าตัว
สำนวนที่มีความหมายใกล้เคียงคือ 海一粟 cānghǎiyīsù ข้าวเมล็ดหนึ่งในมหาสมุทร ทั้งสองสำนวนล้วนหมายถึง สิ่งเล็กน้อยจนไม่ควรค่าที่จะนำมาใส่ใจ
九牛一毛 หมายถึง ส่วนเล็กน้อยในปริมาณมหาศาล น้อยนิดจนไม่มีค่าพอที่จะพูดถึง ,海一粟 ใช้อุปมาถึงสิ่งที่เล็กน้อยมากๆ

ที่มา

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1632687360340695&id=1522966571312775



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

2 ความคิดเห็น: