วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 89 Non-native official invited to serve at court

Miracle Throne Chapter 89 Non-native official invited to serve at court

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 89 - ทูตทางการ


บทที่ 89 - ทูตทางการ




เย่ซ่งถูกสังหาร.


อาวุโสอีกหลายคนถูกทำลายพลังฝึกตน.


กองกำลังทหารของตระกูลเย่ภายในเมืองเทียนหนานลดจำนวนลงเป็นอย่างมาก.


ความแข็งแกร่งของฉู่เทียนนั้นเกินกว่าทั้งสองตระกูลจะคาดการได้,นอกจากนี้ตระกูลเย่ในรัฐกลาง,พวกเขาไม่มีทางที่จะแก้แค้นฉู่เทียนได้.


ข้อความขอความช่วยเหลือของหนานกงอี้นั้นได้ไปถึง พระราชวังแล้ว.


วังหลวงได้เริ่มกดดันมายังรัฐกลางในทันที.



ตระกูลเย่และตระกูลฉู่จำต้องหยุดเคลื่อนไหวเป็นการชั่วคราว.


วันถัดมา.


กองกำลังทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าได้ประกาศย้ายฐานที่มั่นหลัก


ตระกูลเย่ที่ควบคุมเมืองเทียนแห่งนี้มาหลายปี,ก่อตั้งธุรกิจทหารรับจ้างเป็นหลัก,ก่อนที่จะเข้าควบคุมหอการค้าเห่ยซุ่ย ควบคุมตลาดยันต์เวทย์เอาไว้,พร้อมกับจับมือกับหลีซิงหยุนเพื่อควบคุมตลาดยา,ครองตลาดมานานหลายปี,ทุกๆปีสามารถทำกำไรได้มากว่าสิบล้านเหรียญทองเลยทีเดียว.


เค้กก้อนใหญ่เช่นนี้,ตอนนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกต้องยอมแพ้ไปก่อน.


แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้ตระกูลเย่เสียหายจนไม่เหลือชิ้นดี,แต่ก็นับว่าบาดเจ็บหนักเช่นกัน.


กองกำลังทหารรับจ้างตระกูลเย่นั้นเต็มไปด้วยความหยิ่งทะนง,ตระกูลเมิ่งเองที่กลายเป็นเหยื่อพวกเขาเช่นนี้,ทำให้ทุกคนในเมืองโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมากเพียงแค่เพียงเขาไม่กล้าที่จะกล่าวอะไรออกมา.


ตอนนี้มีผู้เยาว์แห่งปาฏิหาริย์ปรากฏขึ้นมา,พร้อมกับตบหน้าตระกูลเย่อย่างหนักหน่วง,กระทือบตระกูลเย่ให้จมดิ่งลงไป,ทำให้ผู้คนภายในเมืองเทียนหนานแห่งนี้รู้สึกสาแก่ใจเป็นอย่างมาก,แทบจะเฉลิมฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืนทีเดียว.

............

เมืองเทียนหนาน.


สวนหย่อมคฤหาสน์เจ้าเมือง.


ทิวทัศน์ที่งดงาม,ดอกไม้นานาพรรณที่บานสะพรั่ง,พุ่มไม้ดอกไม้ประดับที่ถูกปลูกตกแต่งอย่างดี,น้ำตกขนาดเล็กที่ไหลเอื่อยๆ,แผ่ความเย็นร่มรื่นไปทั่วบริเวณ,นับเป็นฉากที่งดงามเป็นอย่างมาก.


ที่ศาลากลางทะเลสาบขนาดเล็กมีผู้เยาว์คนหนึ่งกับชายวัยกลางคนที่กำลังโขกหมากรุกกันอยู่


มีคนชุดดำหลายคน,ที่ยืนราวกันเป็นรูปปั้นกระจายตัวไปรอบๆ!


ป๊าบ!


ฉู่เทียนที่รุกฆาตโขกปิดกระดาน,"ท่านจ้าวเมือง,ท่านแพ้แล้ว."


จิ้งจอกน้อยที่นอนงีบหลับอยู่บนไหล่ของเขา,ก่อนที่จะยกขาหน้าขึ้นมาเกาที่หน้ามันเบาๆพลางง่วงเหงาหาวนอน.


หนานกงอี้ที่จ้องมองไปบนกระดานหมากรุก,เพ่งพิศอยู่นานสองนาน,ก่อนที่จะถอนหายใจยาว"ฝีมือของเจ้านี้มัน,จะดูน่าเกรงขามเกินไปแล้ว,จากตานี้มายังตานี้ยังดูยิ่งใหญ่นัก,จากตานี้มาตานี้ดูทรงพลังและดูตรงไปตรงมา,แล้วจากตานี้มาตานี้เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกง,มันยากเกินกว่าคนปรกติจะจินตนาการถึงได้เลย!"


คิดจะเล่นหมากรุกกับข้ารึ?


ไว้อีกสักร้อยปีค่อยมาเล่นก็แล้วกัน!


หนานกงอี้ที่กำลังเริ่มเรียงกระดานหมากรุกใหม่,"ชีวิตก็เหมือนกระดานหมากรุก,เดินผิดเพียงก้าวเดียว,ล้มทั้งกระดาน,จำเป็นต้องคิดใครครวญอย่างรอบคอบที่สุด."


ในคำพูดของเขานั้น,ไม่รู้ได้หมายถึงเย่ซ่งด้วยหรือไม่,ด้วยอาชญากรรมหลายอย่างที่เกิดขึ้น,เป็นการเตือนฉุ่เทียนว่าไม่ควรที่จะกระทำการฉาบฉวยไม่คิดหน้าคิดหลัง,ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะก้าวพลาดในสักก้าว,ซึ่งจะกลายเป็นการสร้างศัตรูและเต็มไปด้วยคำสาปแช่งจากผู้คนไป.


"ชะตาชีวิตที่พระเจ้าประทานมาก็คือหมากให้เล่น,โลกใบนี้เองก็คือกระดาษหมากให้ผู้เล่นได้ก้าวเดิน,ทว่าจะสามารถเข้าใจได้ถึงการเล่นได้เท่าไหร่กันล่ะ?ถึงไม่ยากเย็นนักที่จะรู้ชะตาสวรรค์แต่ก็ยากที่จะต้านทานลิขิตสวรรค์ได้!"ฉู่เทียนเริ่มวางหมากอีกครั้ง,ก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า"ถึงแม้ว่าชะตาชีวิตของคนก็เหมือนกับกระดาษหมากก็ตามที,แต่ก็ยากที่จะสามารถบังคับจัดการคนได้เหมือนกับหมากรุก,ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาอาจจะกระโดดออกจากกระดาน,แล้วต่อต้านคนที่จะต้องการจะเล่นพวกเขาซะเอง."


ภายในใจของหนานกงอี้ถึงกับสั่นเล็กน้อย.


ด้วยคำพูดของฉุ่เทียนนั้น,แฝงไปด้วยความหมาย.


ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ธรรมดาอย่างที่เห็น,บางทีด้วยสามัญสำนึกทั่วไปนั้นไม่สามารถที่จะคาดเดาปณิธานที่เขามีได้อย่างแน่นอน!


ที่จริงแล้วเขากำลังคิดสิ่งใดกัน?

กระโดดออกมาจากกระดาน,กลายเป็นผู้เล่น,ควบคุมชะตาชีวิตเองอย่างงั้นรึ?


กล่าวเรื่องตลกอะไร,ชนะหรือแพ้,เป็นหรือตาย,ไม่ว่าเขาจะมีความสามารถเท่าไหร่,จะสามารถต่อต้านลิขิตสวรรค์ได้อย่างงั้นรึ?ไม่ว่าจะแข็งแกร่งมีพลังสักเท่าไหร่,ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็สิ้นอายุไขและตายไปด้วยกันทั้งนั้น,นี่เป็นกฎเกณฑ์ของชีวิตที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้.


"เอาน่า!"ฉู่เทียนที่ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม,กล่าวออกไปอย่างสนุกสนาน"มาเล่นกันอีกกระดานดีกว่า."


"ข้าว่าบอกมาเลยดีกว่า."หนานกงอี้ที่ล้มหมากกระดาน,ก่อนที่จะกล่าวออกมาทันควัน,"หอการค้าปาฏิหาริย์ของเจ้าเองก็งานล้นมือ,เด็กอย่างเจ้าจะมาเล่นหมากรุกกับข้าสบายใจอย่างไม่มีเหตุผลรึอย่างไร,กล่าวเรื่องของเจ้ามาเลย."


จิ้งจอกเฒ่านี้ฉลาดจริงๆ.


"จะบอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่ถูกนัก."ฉู่เทียนที่บิดขี้เกียจ,ขยับร่างกายไปมาอย่างสบายอารมณ์"หอการค้าปาฏิหาริย์แน่นอนว่ากำลังยุ่งอยู่,แต่ว่าไม่ใช่มีท่านหญิงและบุตรสาวของท่านอยู่รึ?ข้าเพิ่งสังหารเย่ซ่งไป,จัดการก้างชิ้นใหญ่ออกไปเรียบร้อยแล้ว,ร่างกายของข้านั้นเหนื่อยล้าต้องการที่จะพักสักสองสามวัน,ท่านน่าจะรู้ว่าข้าเองมีเรื่องกดดันเป็นอย่างมาก!"


"เจ้ากำลังกดดันอยู่รึ?ข้าไม่เห็นเช่นนั้น!อย่างไรก็ตามเจ้าไม่คิดรึว่าตระกูลฉู่และตระกูลเย่นั้นพวกเขาพียงแค่ตอบโต้เล็กน้อยเท่านั้น,เจ้าทำให้พวกเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก,ไม่คิดรึว่าพวกเขานั้นกำลังแสร้งปล่อยผ่านไปก่อนนะ?"


"ท่านเจ้าเมืองคิดว่าข้าควรทำอย่างไรดี?"


หนานกงอี้ที่เห็นเขาดูบ่ายเบี่ยงประเด็นอยู่"เจ้าคงจะมีแผนอยู่แล้ว,ทำไมไม่บอกกับข้ามาเลยล่ะ?"


"ท่านจ้าวเมืองช่างมองออกอย่างทะลุปรุโปรง,ข้าคงไม่สามารถปกปิดอะไรท่านได้."ฉู่เทียนที่กล่าวหน้าเป็น"ท่านเจ้าเมืองสามารถปกป้องความปลอดภัยของข้าได้เป็นอย่างดีภายในเมืองเทียนหนานแห่งนี้,ทว่าการที่จะป้องกันเหล่าคนจากตระกูลภายในรัฐกลางนั้นจะต้องได้รับอำนาจที่ใหญ่ขึ้นกว่านี้เพื่อปกป้องข้า."


หนานกงอี้ถึงกับกุมหน้าอกตื่นตะลึงหัวใจสั่นรัวทีเดียว!


เจ้าเด็กนี้ต้องการที่จะยืมอำนาจของตระกูลหนานกงอย่างงั้นรึ?


นับว่าเป็นเรื่องดีทีเดียว,หากว่าเขาสามารถได้รับโอกาส,สามารถยกระดับตัวเอง,ก็จะทำให้เขานั้นได้เกียรติยศที่เพิ่มขึ้นในตระกูลอีกด้วย!


หนานกงอี้ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นทว่าก็ไม่แสดงออกมา,เขากลับมานั่งเรียงหมากรุกใหม่อย่างจริงจัง"ก็พอเข้าใจในสิ่งที่เจ้าต้องการ, ข้าแนะนำว่าเจ้าควรที่จะถวายตัวเป็นคนตระกูลหนานกง!ด้วยความสามารถของเจ้าแล้วจะต้องมีสถานะที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน!ทุกๆเดือนเจ้าจะได้เพลิดเพลินไปกับทรัพยากรที่มากมาย,พร้อมกับมีอำนาจมากมายที่เจ้าจะได้รับ,เป็นทางเลือกที่ถูกต้องสำหรับเจ้าตอนนี้แล้ว!"


ถวายตัวต่อตระกูลหนานกง!


คนมากมายต่างก็ต้องการโอกาสดังกล่าว!


"ท่านเจ้าเมืองคงไม่คิดจะขังข้าเอาไว้หรอกนะ?"ฉู่เทียนไม่ได้ซาบซึ้งในความกรุณาดังกล่าวเลย,เขายังโขกหมากรุกต่อ"ด้วยการถวายตัวนั่น,แม้ว่าจะเป็นอะไรที่ยั่วยวนยิ่งนัก,แต่ก็จะกลายเป็นผนึกที่แข็งแกร่งของตระกูลที่จะขังข้าไว้,นั่นก็หมายความว่าหากข้าต้องการที่จะจากไปคงเป็นเรื่องที่ยากลำบากเป็นอย่างมาก."


"เจ้านี่มันไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี,แล้วเจ้าต้องการจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ล่ะ?"คิ้วของหนานกงอี้ถึงกับกระตุก,พร้อมกับโขกหมากรุกเสียงดัง"ตระกูลหนานกงนั้น,เป็นหนึ่งในสามของตระกูลขนาดใหญ่ของอาณาจักรแห่งนี้,สิ่งตกทอดมานั้นคือสายโลหิตของหงเพลิง,นี่ยังไม่เพียงพอที่จะดึงดูดเจ้าได้อีกรึ?"


หงเพลิงอย่างงั้นรึ?


เพียงแค่ผู้สืบทอดของหงเพลิง,ต้องการที่จะผูกมัดข้ารึอย่างไร?


ที่จริงแล้วฉู่เทียนที่อยู่ในตลาดมืดนั้น,ได้เตรียมการการไว้ล่วงหน้าแล้ว.
[ 未雨绸缪 เว่ย อวี โฉว โหมว  Tak Precautions before it is too late กันไว้ดีกว่าแก้,เตรียมการล่วงหน้า.]


ทำไมเขาถึงได้ช่วยชี้แนะหยุนเหยาปรับปรุงวิชาบำเพ็ญพลัง?เป็นเพราะว่าฉู่เทียนนั้นนึกสนุกเฉยๆอย่างงั้นรึ?


หลังจากที่ได้รับรู้ตัวตนและลักษณะทั่วไปของตระกูลหยุนแล้ว,เขาจึงได้เริ่มมีความคิดดังกล่าว,เป้าหมายของเขานั้นเพื่อที่จะให้ตระกูลหยุนที่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ติดหนี้เขา,ในช่วงเวลาวิกฤติบางทีเขาอาจจำเป็นต้องการความช่วยเหลือก็เป็นได้.


ส่วนเรื่องที่ช่วยไฉ่เตี๋ยรักษาอาการเจ็บป่วยนั้น,เขาได้คิดใคร่ครวญอย่างดีแล้ว,ไฉ่เตี๋ยต้องไม่ใช่ชื่อเต็มอย่างแน่นอน,ทว่าฉู่เทียนก็หาได้ใส่ใจชื่อเต็มของนางแต่อย่างใด,หรือว่านางอยู่ในตระกูลใด,ทว่าด้วยสิ่งต่างๆที่เกี่ยวกับนางที่เขารู้,ถึงแม้ว่าจะเป็นสี่ตระกูลชั้นสูงแห่งรัฐกลาง,บางทีคงเทียบตระกูลของนางไม่ได้อย่างแน่นอน.


สิ่งที่เขาได้กระทำลงไปนั้น,อาจจะนับว่าเป็นการลงทุนก็เป็นได้,มันคงจะเพียงพอที่จะช่วยฉู่เทียนได้บ้าง.


ตอนนี้หากสามารถดึงตระกูลหนานกงมาได้ล่ะก็,มันก็จะกลายเป็นเรื่องที่สมบูรณ์แบบ!


"ท่านก็น่าจะรู้ว่าข้าฉู่เทียนนั้นเป็นคนมุทะลุ,ข้าไม่ต้องการที่จะรับคำสั่งใคร,พูดอีกอย่างหนึ่งแล้วอาจจะไปล่วงเกินใครเข้าซึ่งนั้นมีแต่จะเป็นปัญหาไปเปล่าๆ,นอกจากนี้ข้ายังไม่ต้องการที่จะถูกฉีกออกเป็นส่วนชิ้นๆด้วย,หากว่าข้านั้นได้ไปก่อปัญหาขึ้นมา,การจะถวายตัวนั่นก็เว้นเอาไว้ก็แล้วกัน."ฉุ่เทียนที่โขกหมากรุกไปที่กระดานต่อไป"ข้า,ท่านหญิง,และหยิงหยิง,ต้องการตำแหน่ง ทูตทางการ!"


"เจ้าตัดสินใจแล้วรึ,ว่าต้องการที่จะเป็นทูตทางการ?"หนานกงอี้ไม่ค่อยที่อยากจะพูดสักเท่าไหร่" ทูตทางการนั้นไม่ได้มีอำนาจที่แท้จริง,ไม่ได้มีทรัพยากรใดๆให้,นอกจากแค่เกียรติที่จะได้รับ.แม้ว่าทูตทางการนั้นจะได้รับการปกป้องจากตระกูลหนานกง,ทว่าการจะเป็น ทูตทางการนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย,เจ้าต้องมีสามเงื่อนไข."


"มีเงื่อนไขใดบ้างล่ะ?กล่าวมาได้เลย!"


"อย่างแรก,อย่างน้อยที่สุดต้องมีพลังฝึกตนระดับปลุกดวงจิต!


"ไม่ได้ยากเย็นนัก!"


"อย่างที่สอง,ต้องทำการสนับสนุนตระกูลหนานกงเป็นอย่างดี."

"ก็ยังไม่ยากเท่าไหร่!"


"อย่างที่สาม,พวกเจ้าจำเป็นที่ต้องได้รับการแนะนำและรับรองจากอาวุโสของตระกูล!"


"เรื่องนี้ต้องรบกวนท่านเจ้าเมืองแล้ว."


เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว,หนานกงอี้อดไม่ได้เลยที่จะต้องยอมรับความเป็นจริงว่าเขาไม่สามารถที่จะผูกฉู่เทียนเอาไว้ได้,หากว่าเขากลายเป็น ทูตทางการแล้วล่ะก็,อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นคนของตระกูลหนานกงระดับหนึ่งเหมือนกัน!


ด้วยสัญชาติญาณที่บ้าคลั่งของฉู่เทียนเอง,ก็คงจะยากที่จะกักขังเขาเอาไว้ด้วยเช่นกัน.


"ระดับปลุกดวงจิตสำหรับพวกเรานั้นไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นนัก."ฉู่เทียนกล่าวจบก่อนที่จะนำม้วนกระดาษออกมาจากอกเสื้อ"ขอให้ท่านเจ้าเมืองรับสิ่งนี้ไว้ด้วย."


หนานกงอี้ที่เห็นสิ่งดังกล่าวแล้วราวกับโลหิตในร่างกำลังเดือดปุดๆด้วยความตื่นเต้น"นี่มัน...."


"ข้าได้คิดใคร่ครวญอย่างระเอียด,พร้อมกับสรุปวิชาลับสงเสริมวิชาบำเพ็ญไว้ในม้วนคัมภีร์นี่สมบูรณ์แล้ว"ฉู่เทียนที่กล่าวต่ออีกว่า"นี่จะนับว่าเป็นการสนับสนุนตระกูลหนานกงรึเปล่านะ!"


"ต้องนับ,นับอยู่แล้ว! ต้องนับว่าเป็นการสนับสนุนอยู่แล้ว!"


หนานกงอี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก,จนไม่สามารถปกปิดเอาไว้ได้เลย.


ที่จริงแล้วเนื้อหาด้านในไม่มากนัก,แต่กับมีอักขระปนอยู่ภายในหลายพันตัวทีเดียว.


เป็นดั่งบทกวี,ที่ล้ำค่าจริงๆ,กระชับและเต็มไปด้วยความหมาย,พร้อมกับซ่อนส่วนที่ล้ำลึกเอาไว้อีกด้วย.


หนานกงอี้ที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย,ก่อนที่จะถ่างออกมา,เผยประกายท่าทางที่เต็มไปด้วยความยินดี,พร้อมคี่ม้วนคัมภีร์ดังกล่าวออกมาดูและหัวเราะออกมาเสียงดัง"ดี,ยอดเยี่ยม!เป็นวิชาลึกลับไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ!นี่คือก้าวแรก, เป็นสิ่งที่รับรองว่าเจ้าเป็นทูตทางการ!"


ไม่จำเป็นต้องทดสอบหรอกเหรอ!


หนานกงอี้ที่มองและมอง,รู้สึกได้ถึงความลึกซึ้ง!


อักขระหลายพันตัวนี้,เป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้,แน่นอนว่าหนานกงอี้เชื่อว่าจะสามารถฝึกฝนจนสามารถได้รับทักษะ สัมผัสเทวะได้,หากว่าเขาสามารถสำเร็จ,ทักษะ,"จิตสัมผัส"ดินแดนทักษะที่เขาใฝ่ฝัน..


หนานกงอี้ที่เก็บมันอย่างดีราวกับสมบัติล้ำค่า"นี่คือสิ่งที่เจ้าเมืองเช่นข้าปรารถนามานานแสนนาน,ในที่สุดก็สมหวังซะที!,อาวุโสของตระกูลถึงจะมีสิทธิ์แต่งตั้ง,ข้าจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวเอง,อาจจะต้องใช้เวลาหลายวัน,อย่างแรกตำแหน่งทูตทางการนั้น,ตราบเท่าที่เจ้ากลายเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต,เจ้าก็จะกลายเป็น ทูตทางการ อย่างเป็นทางการ!"


อาวุโสของตระกูลหนานกงเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์แต่งตั้ง ทูตทางการ.


หนานกงอี้ในตอนนี้เป็นเพียง ผู้ดูแลระดับสูงเท่านั้น.


เพราะว่าผู้อาวุโสของตระกูลหนานกงนั้น,ความแข็งแกร่งต่ำสุดก็คือดินแดนปลุกดวงจิตระดับ 4!


หนานกงอี้ที่อยู่ในระดับปลุกดวงจิตระดับดับ 3 ขั้นปลาย,จึงยังไม่สามารถกลายเป็นผู้อาวุโสได้,ดังนั้นเขาจึงยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรับ ทูตทางการอย่างเป็นทางการได้,ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงรอคอยให้ประมุขตระกูลเดินทางมาเมืองเทียนหนานแห่งนี้เพื่อแต่งตั้ง,ก็ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับฉู่เทียนในเรื่องนี้นั่นเอง.


ฉู่เทียนรู้สึกเบาใจ.


ตราบเท่าที่ได้ตระกูลหนานกงคอยเป็นกันชนแล้วล่ะก็.


ตระกูลเย่,ตระกูลฉู่,และตระกูล ลวอ,จะต้องไม่กล้าจัดการเขาต่อหน้าสาธารณะชนได้.


ตระกูลชั้นสูงทั้งสามเองถึงจะเป็นตระกูลระดับสูงในรัฐกลาง,ทว่าจริงๆแล้วก็เป็นเพียงตระกูลระหว่างแคว้นเท่านั้น,จะสามารถเทียบได้กับตระกูลชั้นสูงระดับอาณาจักรได้อย่างงั้นรึ?


ฉู่เทียนจะกระทืบพวกเขาให้จมดินทีเดียว,ไม่ว่าจะเป็นเกียรติยศ,หรือความแข็งแกร่ง,จะไม่ปล่อยให้พวกเขาได้ตอบโต้เลยแม้แต่น้อย,เขาในตอนนี้เหมือนแรดคลั่งที่หลุดการควบคุม,ไม่สามารถที่จะหยุดกระแทกเหล่าศัตรูที่มาขวางทางเขาอย่างแน่นอน!


อาณาจักรที่เขาจะสร้างขึ้นจะต้องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆมากขึ้นและก็มากขึ้น.


จนไปถึงจุดที่เขาไม่จำเป็นต้องกลัวใคร!


อย่างไรก็ตามหลังจากต้องประสบเรื่องที่หยิงหยิงได้รับบาดเจ็บ,ฉู่เทียนก็ตระหนักได้ว่าเขาจะต้องหา ผู้สนับสนุน,อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อเป็นการป้องกันเมิ่งหยิงหยิงและเมิ่งชิงอู๋ให้ปลอดภัย,ลำพังตัวเขานั้นไม่จำเป็นต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย.


ตำแหน่งทูตทางการของตระกูลหนานกงนั้น,เป็นเพียงแค่การป้องกันตัวแค่ชั่วคราวเท่านั้น.


รุกฆาต!


"ท่านเจ้าเมือง,ท่านแพ้อีกแล้ว!"ฉู่เทียนที่โขกหมากปิดกระดาน"ข้าว่าพวกเราเล่นมาพอแล้วล่ะ,คงถึงเวลาต้องเลิกแล้ว,ท่านเจ้าเมือง,เช่นนั้นข้าขอลาก่อน!"


หนานกงอี้ที่จ้องมองไปยังกระดานหมากรุกอย่างงงงวย.


ชายคนนี้ใช้เล่ห์กลอันใดในการเดินหมากเช่นนี้ได้?


ฝีมือของเขานั้นเทียบไม่ติดเลยแม้แต่น้อย!


การที่เขามายังตำหนักเจ้าเมืองในวันนี้คงเป็นเพราะต้องการที่จะได้สถานะ ทูตทางการนั่นเอง.


"ช้าก่อน."หนานกงอี้เร่งรีบเอ่ยออกมาในทันที.


ฉู่เทียนที่หันกลับมาถาม"มีสิ่งใดอย่างงั้นรึ?"


หนานกงอี้แสดงท่าทีขวยเขินอยู่เล็กน้อย"ข้าช่วยเจ้า,เจ้าก็ควรที่จะช่วยข้าแก้ปัญหาสักอย่างหนึ่ง?"


ฉู่เทียนที่เห็นท่าทางของหนานกงอี้แล้ว,ก็สามารถคาดเดาได้"เรื่องของแม่นางหนานกงอย่างงั้นรึ?"


"ไช่แล้ว!"หนานกงอี้กล่าวออกมาอย่างปวดใจ"หยุนเอ๋อนั้นได้รับเชิญให้เขาเรียนที่สถาบันเจิ้งโจวเป็นการพิเศษ,ทว่านางกลับไม่ยินดีที่จะเดินทางไปรัฐกลาง,และนางยังไม่ฟังคำพูดของข้าเลย,ในเมืองเทียนหนานแห่งนี้คงจะมีเพียงเจ้าที่จะสามารถโน้มน้าวนางได้,เจ้าช่วย..."


ฉู่เทียนที่ลูบคางตัวเองไปมาอย่างครุ่นคิด.

หนานกงอี้กล่าวต่อ"ข้ากล่าวตามจริงเลย,สถาบันเจิ้งโจวนั้นเป็นสถาบันระดับสูงที่มีตระกูลหนานกงมีส่วนร่วมมาตั้งนานแล้ว นางได้รับความสนใจจากสถาบันเจิ้งโจวเป็นพิเศษ,ทำให้สามารถได้รับทรัพยากรที่มากมายในการฝึกฝน,มันจะช่วยพัฒนาความแข็งแกร่งของนางเป็นอย่างมาก,ดังนั้น,ไม่ว่าอย่างไร,ต้องทำให้นางเข้าไปเรียนในสถาบันดังกล่าวให้ได้."


สีหน้าของหนานกงอี้นั้นเต็มไปด้วยท่าทางหดหู่ใจ.


การเป็นบิดานี่มันไม่ง่ายเลย.


ใครที่มีบุตรสาวเช่นนี้แล้วล่ะก็,คงจะต้องตายเร็วกว่าปรกติ 50 ปีอย่างแน่นอน!


"ข้ารู้แล้ว,ข้าจะช่วยท่านก็แล้วกัน!"


ฉู่เทียนที่เพิ่งมีแผนบางอย่าง,ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ลงตัวพอดี.


หนานกงอี้ได้กล่าวเตือนเขา"หญิงคนนี้นั้นเจ้าจะบังคับไม่ได้,ยิ่งกดดันนาง,ก็จะยิ่งทำให้นางปฏิเสธ,จากนั้นก็จะทำให้เรื่องราวยากขึ้นไปอีก."


"จะยากขนาดใหนกัน?"ฉู่เทียนที่หาวหวอดๆ"ภายใน 1-2 วันนี้,หนานกงหยุนจะเป็นคนขอไปรัฐกลางด้วยตัวเอง,และไปด้วยความต้องการของนางด้วย,เมื่อถึงเวลานั้นถึงจะเอาช้างเอาม้ามาลาก,นางก็คงไม่อยากลับมาเป็นแน่!"


หนานกงอี้แทบจะพูดอะไรไม่ออก.


ไม่รู้ว่าเขามีวิธีการอันใดถึงได้กล้าพูดเกินจริงขนาดนั้นกัน?



ด้วยนิสัยของหนานกงหยุนกับเจ้านั้น,แทบจะไม่ต่างกันเลยแม้แต่น้อย!


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

3 ความคิดเห็น: