Miracle Throne Chapter 83 Being driven beyond the limits of forbearance
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 83 เกินจะอดกลั้น
บทที่ 83 เกินจะอดกลั้น
ด้วยเส้นปานถูกปิดกลั้นมาตั้งแต่เกิด,แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะฝึกฝนวิชาได้,เป็นเหมือนชะตากรรมที่ได้กำหนดให้กลายเป็นเพียงสามัญชนตลอดชีวิตนั่นเอง.
นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในอาณาจักรหนานเซี่ยยังไม่มีใครที่รู้วิธีรักษาได้นั่นเอง.
แน่นอนว่าฉู่เทียนไม่รู้สถานะของไฉ่เตี๋ยอย่างแน่นอน,ไม่คิดเช่นกันว่าด้วยท่าทางตกใจเซียงหู่จะตื่นตกใจถึงขนาดนั้น"เจ้าที่ถูกปิดกั้นเส้นโลหิตและเส้นปราณย่อมไม่สามารถที่จะฝึกฝนพลังฝึกตนได้อย่างแน่นอน,แต่ว่าพลังฝึกตนของเจ้านั้นไม่ได้อ่อนด้อยเลย,แน่นอนว่าการที่จะเพิ่มพลังฝึกตนได้ถึงเพียงนี้,เป็นไปได้ว่าเจ้าได้สร้างพลังฝึกตนด้วยสมบัติระดับสวรรค์และปฐพี,ซึ่งถูกใช้ซึมซับเข้าไปเพื่อหล่อเลี้ยงภายในร่างกายของเจ้า,เจ้าเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเลย,ดังนั้นสถานะของเจ้าคงจะไม่ธรรมดาเช่นกัน!"
ไฉ่เตี๋ยที่เผยท่าทางกระอั๊กกระอ่วน.
จริงๆแล้วเขาเองก็ยังไม่รู้สถานะของนางสินะ.
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงจะไม่แสดงท่าทางเช่นนี้แน่นอน.
ดูเหมือนว่าไฉ่เตี๋ยเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะกล่าวถึงตระกูลของนาง,ทว่านางก็ถามออกไปด้วยความอยากรู้,"เจ้ายังไม่บอกข้าเลย,เห็ดไขกระดูกหิตนี้ใช้ประโยชน์อะไรได้!"
"แน่นอนว่าการที่เส้นปราณและโลหิตถูกปิดกั้นมาตั้งแต่เกิดนั้น,อาจพูดได้ว่าเป็นพวกไร้พรสวรรค์ก็ว่าได้,แต่ว่าในเมื่อมันเป็นโรคภัยอย่างหนึ่ง,นั่นก็หมายความว่าสามารถรักษาได้,สถานการณ์ของเจ้าตอนนี้ไม่ดีนัก,ข้าต้องการที่จะช่วยรักษาเจ้า,เห็ดไขกระดูกโลหิตนี้เป็นวัตถุดิบหลักของยารักษา."
"เป็นไปไม่ได้,เส้นปราณถูกปิดกั้นตั้งแต่กำเนิดนั้น
ไม่มีวิธีในการรักษาหรอก!"
"เชื่อข้า,ลองดู."ฉู่เทียนที่ยืนม้วนกระดาษออกไป,"นี่คือสูตรยา,หลังจากทีเจ้ากลับไป,หาวัตถุดิบเสริมตามนั้น,พร้อมกับหาผู้ช่วยอย่างน้อยผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ
5 หรือสูงกว่าเพื่อช่วยเหลือ,สิบวันหลังจากนั้นเจ้าจะฟื้นฟูและกลับกลายมาเป็นเหมือนคนทั่วไป!"
ใบหน้าของฉู่เตี๋ยที่ดูเหม่อลอย.
สามารถหวังได้จริงๆรึ?ว่าจะสามารถกลายเป็นคนธรรมดาได้.
ไฉ่เตี๋ยที่หนีออกมาจากบ้าน,เพราะว่าไม่สามารถทนได้กับสายตาของคนอื่นที่จ้องมองมา,นางไม่ต้องการที่จะให้บิดาของนางใช้ทรัพยากรมายเพื่อตัวของนางคนเดียว.
"ข้าได้ทำทุกอย่างที่ข้าทำได้แล้ว,คงต้องไปแล้ว"ฉู่เทียนที่ผายมือไปมา,"พวกเจ้าดูแลตัวเองด้วย,หากขุนเขาไม่เคลื่อนสายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ,สักวันหนึ่งพวกเราคงได้พบกันอีก,ลาก่อน!"
หลังจากสิ้นเสียง.
ฉู่เทียนที่กุมบังเหียนก็ลงแส้ไปยังม้า,ให้มันเคลื่อนตัวออกไป,กองกำลังของเขาก็เคลื่อนที่ผ่านฝุ่นควันและหมอกที่ปกคลุมตามออกไป,เขาได้จัดการเรื่องต่างๆสมบูรณ์แล้ว,ตลาดมืดแห่งนี้ไม่มีอะไรให้เขาสนใจอีก,เขาได้มุ่งหน้าไปด้านหน้าโดยที่ไม่ได้หันหลังกับมามองแม้แต่น้อย.
จิ้งจอกน้อยที่นั่งอยู่บนไหล่ของเขา,ยื่นขาหน้าของมันโบกไปมา,คล้ายกับกล่าวลาต่อคนทั้งสอง.
ไฉ่เตี๋ยที่กุมสูตรยาและสมุนไพรแนบอกเอาไว้,ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยท่าทางตื่นเต้นและคาดหวัง,ในการเดินทางครั้งนี้นางได้พบเข้ากับลู่เร็นผู้เยาว์ที่แสนมหัศจรรย์,มันเป็นอะไรที่โชคดียิ่งนัก.
ร่างกายของนางที่บิดาของนางไม่สามารถช่วยได้.
ด้วยวิธีของชายหนุ่มคนนั้นจะได้ผลจริงๆรึ?
ไม่ว่าอย่างไร,ไฉ่เตี๋ยได้ตัดสินใจแล้วว่าเมื่อนางกลับไป,นางเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า,ว่าผู้เยาว์คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา,บางทีนางอาจจะสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาก็ได้.
เซี่ยงหู่ที่ราวกับว่ากำลังหวั่นเกรงอย่างที่สุด"ข้าไม่คิดว่าเป็นท่าน....คาดไม่ถึงเลยว่าท่านคือ....."
ไฉ่เตี๋ยเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,ก่อนที่จะแสดงสัญญาณให้เขาเงียบเอาไว้"นี่เป็นความลับ,เจ้าอย่าได้นำไปบอกคนอื่นล่ะ."
เซี่ยงหู่รู้สึกตื่นเต้นและกระวนกระวายเป็นอย่างมาก.
ขณะที่พวกเขาเตรียมเข้าไปยังตลาดมืดอีกครั้ง.
"ลู่เร็น!"
"ลู่เร็น!"
ร่างในชุดสีม่วงก็เร่งรีบวิ่งเข้ามา,ร่างกายที่เพรียวบาง,ทรวดทรงองเอวที่ดูประณีต,มีผ้าแพรขาวที่ปิดใบหน้า,ทั่วทั้งร่างของนางนั้นถูกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ปกคลุม,เป็นหญิงสาวที่สวยงามเป็นอย่างมาก.
ชั่วระยะเวลานั้นทั่วทั้งใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย,ก่อนที่จะวิ่งมาอยู่ข้างๆพวกเขาทั้งสอง.
"ลู่เร็นไปใหนแล้ว?"
สิ่งที่เกิดขึ้น!
ทำให้หยุนเหยาประทับใจจริงๆ!
คนที่มีทักษะสูงล้ำอย่างเช่นลู่เร็นนั้นหนึ่งพันปีถึงจะมีคนหนึ่ง!
ถึงแม้ว่าจะเป็นนายน้อยกระบี่ฟ้าฉู่ซิงเหอยังไม่อาจเทียบเคียงคนนี้ได้เลย!
บุคคลเช่นนี้เหนือกว่าการคาดเดาได้อย่างสมบูรณ์แบบ,มีความสามารถที่ไม่สามารถประเมินได้!
ตระกูลหยุนที่เป็นสำนักการศึกษา,หากว่าสามารถรับสมัครคนอย่างลู่เร็นเข้ามา,ตระกูลหยุนเองจะได้รับโชคลาภมากมายเท่าไหร่กัน,บางทีอาจจะเป็นโชคลาภมหาศาลที่ไม่สามารถหาได้ในรัฐกลางแห่งนี้!
เขาที่สามารถปรับปรุงวิชาบำเพ็ญของตระกูลหยุนได้อย่างง่ายดาย.
สามารถชี้แนะทักษะที่ล้ำลึกได้ด้วยคำไม่กี่คำ.
หยุนเหยาที่หยุดอยู่ที่ดินแดนปลุกดวงจิตขั้นที่
3 มายาวนานแล้ว,นอกจากนี้ยังไม่เห็นความหวังที่จะทะลวงผ่านระดับได้เลยแม้แต่น้อย,ด้วยเหตุผลดังกล่าวนั้น,ทำให้หยุนเหยาต้องตามหลังอีกสามต้าซือแห่งรัฐกลาง.
ใครจะรู้ล่ะว่าเขาที่ปลูกดอกไม้ให้เบ่งบานกับไม่คิดจะเด็ด,เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะสนใจนางเลยหรืออย่างไร.
หยุนเหยานั้นไม่รู้เลยว่าจะสามารถทะลวงคอขวดของนางไปได้อย่างไร,หากแค่เพียงชายหนุ่มลู่เร็นที่ชี้แนะนาง,กลับทำให้นางสามารถพัฒนาความสามารถไปได้อีกขั้น,นางในตอนนี้มีคุณสมบัติพอที่จะต่อกรกับเหล่าต้าซืออีกสามคนได้แล้ว!
เซี่ยงหู่ที่จ้องมองออกไปด้วยท่าทางประหลาดใจ"ท่านมาสาย,เขาได้จากไปแล้ว."
"เจ้าไม่ควรทำเช่นนี้เลย."ไฉ่เตี๋ยที่กล่าวออกมาอย่างไม่ค่อยพึงใจ,"น้องลู่นั้นจะดีจะร้ายก็ช่วยชีวิตของเจ้าตั้งหลายครั้ง,เขาที่กำลังจากไป,เจ้ากับไม่มาส่งเขาเลย?"
หยุนเหยาที่ตื่นตะลึง.
ไปแล้วรึ?
เขาไปแล้ว!
ท่าทางของหยุนเหยาที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน,ค่อนข้างเหม่อลอย,หมอกหนากำลำลังปกคลุมภายในใจนางอย่างบ้าคลั่ง,นางยังไม่สามารถรู้เลยว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกัน,ไม่มีใครที่สามารถเข้าใจในความคิดของเขาได้.
มันจะไม่ใช่ตลอดไปใช่ใหม?
ลู่เร็นบอกมาเองว่าเขาจะไปที่ตระกูลหยุนเองเพื่อเก็บหนี้,ไมใช่ว่าหยุนเหยาเองจะสามารถได้เจอเขาได้อีกครั้งหรอกรึ?
คนกระล่อนเช่นลู่เร็น,เป็นคนที่เอาแน่นอนไม่ได้,ผิดแผกจากคนทั่วไป,บางทีเขาอาจจะไม่ได้สนใจกับคำว่าผลประโยชน์ก็ได้,ขอให้ได้ทำตามที่ตัวเองพอใจ,เป็นคนที่มีนิสัยที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลย.
จริงๆแล้วหยุนเหยาหวังเอาไว้ว่าเขาจะเดินทางมานะ!
หากคิดใคร่ครวญอย่างดีแล้ว,การที่เขาจะมาเก็บหนี้ที่ตระกูลหยุนเอง,ดูไม่เหมือนว่าเขาจะทำมันจริงๆเลย!
ยังมีอีกหลายคนที่ไม่คาดคิด,ว่าฉู่เทียนนั้นปลอมตัวอยู่ตลอด,ด้วยการหลีกเลี่ยงจากอิทธิพลตระกูลเย่และมือลอบสังหารจากตระกูลฉู่,หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเพื่อปกป้องตัวเองจากการออกมาสำรวจในครั้งนี้.
ดังนั้นจะหยุนเหยาก็ดี,ไฉ่เตี๋ยเองก็ดี,การจะสืบหาสถานะที่แท้จริงของฉู่เทียนนั้น,แทบเป็นไปไม่ได้.
ฉู่เทียนเองก็ไม่ได้เผยข้อมูลอะไรของเขาไปเลยแม้แต่น้อยตั้งแต่เริ่มแรกแล้วด้วย.
เพราะว่าการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่ได้รับจากสุสานโบราณนั้นมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก,ฉู่เทียนเองก็ไม่ต้องการที่จะหงายไพ่ในมือออกมา,ยกตัวอย่าง,ภูติวิญญาณเงาแห่งความมืด,เขาเองไม่ต้องการที่จะให้ใครรู้เลย.
สถานะของไฉ่เตี๋ยเองต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน.
หยุนเหยาที่เป็นผู้เยาว์ที่มากพรสวรรค์มากที่สุดในรัฐกลาง.
ชาติกำเนิดของเซี่ยงหู่ที่ธรรมดา,ทว่าด้วยประสบการณ์ที่เขามีนั้น,การจะเดินทางไปยังรัฐกลางในตอนนี้,เส้นทางในการฝึกฝนในอนาคตของเขาดูเหมือนจะเริ่มโรยด้วยกลีบกุหลาบแล้ว.
จะสามารถบอกว่าลาก่อนได้อย่างไร?
แน่นอนว่าฉู่เทียนไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย.
............
สามวันหลังจากนั้น.
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมชุดคลุมยาวสีขาวหม่น,ที่ด้านหลังเหน็บกระบี่ล้ำค่า,เข้ามามายังเมืองเทียนหนานอย่างช้าๆ,มีชายชุดดำที่มีร่างกายสูงใหญ่ไม่พูดไม่จา,ตามหลังเขามาด้วย,เหมือนกับเหล่าองค์รักษ์ที่ซื่อสัตย์ตามมาอารักขา.
สิบวัน!
เขาจากที่แห่งนี้ไปถึงสิบวัน!
ตอนนี้ทุกคนเป็นอย่างไรบ้างนะ!
ถนนทุกหนแห่งของเมืองเทียนหนานเต็มไปด้วยบรรยากาศที่แปลกประหลาด,ทุกๆแห่งมีทหารออกเดินลาดตระเวนไปทั่ว,ทำให้จราจรติดขัดเป็นอย่างมาก.
นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ทำไมบรรยากาศดูน่าอึดอัดถึงเพียงนี้กัน?
ฉู่เทียนที่รุ้สึกไม่ดีนัก,เขาไม่มีเวลาคิดอีกต่อไปแล้ว,เขาเร่งรีบกลับไปยังที่ตระกูล,ประตูทางเข้าของตระกูลเมิ่งที่ฉู่เทียนยืนอยู่,แทบจะทำให้เขาดวงตาเบิกกว้างถลนออกมาเลยทีเดียว.
เกิดบ้าอะไรกันนี่?
{搞什么鬼 gǎo shén mē guǐ ทำบ้าอะไรอยู่,ทำอะไรอยู่หา...
(ไม่สุภาพอีกเช่นเคย)}
บ้านพัก!
ที่ด้านหน้ากลายเป็นซากปรักหักพังดำเป็นตอตะโก,บ้านพักถูกเผาไหม้จนหมดสิ้น,ยังมีขี้เถาที่ยังกรุนอยู่เลย,เรื่องดังกล่าวนี้ยังเกิดขึ้นมาไม่นานนี่เอง,เหล่าทหารกว่าสิบคนที่กำลังตรวจสอบซากปรักหักพังดังกล่าว.
"เจ้าเด็กบ้านี้,เจ้าทำอะไร?ไม่เห็นป้ายห้ามรึอย่างไร?ที่นี่ห้ามเข้า!"นายกองคนหนึ่งที่กำลังคีบบุหรี่พ่นควันอยู่,ใบหน้าของเขากระตุกไปมา"ไสหัวไปให้พ้น,อย่ามากขวางการทำงานของข้า!"
"ท่านนายกอง,ที่นี่เกิดสิ่งใดขึ้นอย่างงั้นรึ?"
"เจ้าจะอยากรู้ไปทำไม?มันไม่มีอะไรเกี่ยวกับเจ้าซักหน่อย!"
ฉู่เทียนที่ล้วงเหรียญทองออกมาพลางยืนออกไป.
"โอ้ว,น้องชาย,ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ใช่คนธรรมดา,แน่นอนว่าเจ้าเพิ่งกลับมาอย่างงั้นรึ?"นายกองที่มองเห็นเหรียญทองแล้วดวงตาเป็นประกาย,ก่อนที่เขาจะเก็บมันเข้าถุงไปในทันที,"น้องชาย,เจ้าอย่าสนใจในเรื่องของคนอื่นเลย,มีคนที่ไปลบหลู่ตระกูลฉู่ที่รัฐกลางเข้า!ไม่มีอะไรมากหรอก?การล่วงเกินพวกเขา,ที่อยู่อาศัยก็ต้องถูกทำลายเช่นนี้ล่ะ."
ฉู่เทียนยังคงถามออกไปอย่างสุขุม"แล้วมันเกิดอะไรขึ้นที่นี่อย่างงั้นรึ?"
หัวหน้ากองที่สูดบุหรี่เข้าลึก,ก่อนที่จะโยนมันลงพื้นและใช้เท้าขยี้,"อย่าให้ต้องเอ่ยถึง,เป็นเจ้าฉู่เทียนเองที่บ้าคลั่ง,ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ได้ไปยุแหย่ตระกูลเย่และตระกูลฉู่?เจ้าคิดว่าทั้งสองตระกูลจะยอมให้ลบหลู่ได้ง่ายๆอย่างงั้นรึ?พวกเขาได้ส่งผู้เชี่ยวชาญกว่าสิบคนมารวมตัวกันที่เมืองเทียนหนานแห่งนี้,ท้ายที่สุดแล้วก็สร้างเหตุร้ายกาจไปทั่วเมือง,จนทำให้ประชาชนทั่วทั้งเมืองรู้สึกไม่ปลอดภัยทีเดียว!"
ที่นี่.
ใบหน้าของนายกองเองก็เต็มไปด้วยท่าทางหดหู่.
ฉู่เทียนจึงได้ถามต่อไปอีก,"เช่นนั้นสถานที่แห่งนี้ก็ถูกพวกเขาลอบวางเพลิงอย่างงั้นรึ?"
หัวหน้ากองที่แค่นเสียงขึ้นจมูกเบาๆ"เจ้ายังกล้าถามอยู่รึ?เมืองเทียนหนานที่เป็นเช่นนี้,ต้องเกิดความวุ่นวายขนาดนี้,แต่เจ้าเด็กเวรนั้นกับไม่รู้หายไปใหน!แล้วจะไม่ทำให้เย่ซ่งมันไม่โกรธได้อย่างไร?ด้วยการระบายความโกรธจึงได้มาลงที่นายหญิงตระกูลเมิ่งไงล่ะ,ด้วยท่านหญิงทั้งสองที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อฉู่เทียน,พวกมันจึงได้ว่างแผนที่จะจับตัวพวกนางเป็นตัวประกันเพื่อล่อให้ฉู่เทียนปรากฏกาย!"
ทหารอีกคนจึงได้กล่าวขึ้นมา,"ไม่มีประโยชน์อะไรเลย,เจ้าฉู่เทียนนั้นมันหวาดกลัว,จนได้หนีไปใหนต่อใหนแล้ว!"
ทหารอีกคนกล่าวออกมาด้วยความโกรธ"ไม่คิดว่าเจ้าเวรนั่นจะบ้าขนาดนี้?เวลาเช่นนี้ไม่รู้ว่าหนีไปถึงใหนแล้ว?เพราะว่ามันหนีไปนั่นล่ะ,ท้ายที่สุดแล้วหญิงสาวที่งดงามตระกูลเมิ่งถึงต้องได้รับอันตรายอย่างน่าสังเวชขนาดนี้!"
"พูดไม่คิด,เป็นใครจะอยู่
ในเวลาอันตรายขนาดนั้นกัน,หากเป็นเจ้ารู้ว่ามีผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตสิบกว่าคนต้องการจะสังหารเจ้า,เจ้าจะไม่วิ่งหนีอย่างงั้นรึ?"
"เพ่ย,หากว่าเจ้าต้องการจะหนีละก็อย่างน้อยก็ต้องนำสองสาวที่งดงามหนีไปด้วยสิ,เจ้าเด็กเวรนั่นหนีไปแต่เพียงคนเดียว!"
"พูดถูกแล้ว,ทำอะไรน่าผิดหวังชะมัด!"
"ข้าคิดว่าเขาเป็นคนที่กล้าหาญซะอีก,ที่จริงแล้วเป็นแค่เพียงคนขี้ขลาดตาขาวสินะ."
„......”
ทหารหลายคนต่างก็พูดคุยกันไปมา.
ด้วยพี่น้องตระกูลเมิ่งต้องได้รับผลเกี่ยวข้องโดยที่ไม่ใช่ต้นเหตุจากนาง,ทำให้เหล่าทหารต่างรู้สึกโกรธเกรี้ยวไปด้วย.
เหล่าตระกูลใหญ่หลายตระกูลเริ่มตอบโต้เขา,พวกเขาได้ส่งเงามืดคอยป่วนไปทั่วทั้งเมือง,ทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดระแวง.
ฉู่เทียนที่โกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรงได้เช็ดเหงื่อที่กำลังหลั่งออกมาไม่หยุดบนหน้าผาก"ท่านหญิงเมิงทั้งสองตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?"
"ท่านเจ้าเมืองหนานกง,ซ่างต้าซือและนายพลซ่งปิงได้ออกมาช่วยในตอนที่อยู่ในสภาวะวิกฤติ,พร้อมกับช่วยเหลือท่านหญิงเมิ่งทั้งสองไว้."ตอนนี้นายกองได้นำบุหรี่มวนใหม่ขึ้นมาสูบแล้ว"เกิดการต่อสู้ขัดแย้งกันอยู่จนถึงตอนนี้เลย!"
"ตอนนี้พวกนางอยู่ที่ใหน?แล้วได้รับบาดเจ็บใหม?"
"ข้าถามหน่อย,เจ้าเป็นใครกัน?ทำไมถึงได้ถามมากมายขนาดนี้!"หัวหน้ากองเริ่มไม่พอใจ"ท่านหญิงทั้งสองนั้นถูกพาไปที่ปลอดภัย,ที่จวนเจ้าเมืองตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว,แต่ก็นะตระกูลเย่ก็ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าลอบโจมตีท่านหญิงอีกด้วย,ดูเหมือนว่าท่านหญิงรองจะถูกโจมตี,ตอนนี้ได้รับบาดแผลจากฝ่ามือของพวกเขา,คาดว่าอาการหนักทีเดียว,เป็นหรือตายข้าก็ไม่รู้หรอก."
"เลอะเทอะ!"
"เกือบตาย!"
"เจ้าคิดว่าถูกฝ่ามือของผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต,แล้วจะยังสบายดีอยู่อีกเหรอ!"
"กล่าวถูกแล้ว,ด้วยความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต,เพียงแค่ผู้ฝึกตนระดับปรุงร่าง,หากไม่โชคดีแล้วจะยังมีชีวิตรอดได้เหรอ!"
มารดาเถอะ!
มันทำร้ายหยิงหยิง!
ความโกรธเกรี้ยวของฉู่เทียนนั้นปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง.
เป็นกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก,ทำให้เหล่าทหารทุกคนถึงกับขวัญหนีดีฝ่อ.
ฉู่เทียนที่ลูบไปที่ใบหน้าของเขา,เกิดประกายแสงจ้าขึ้นมาเล็กน้อย,สัมผันทั้งห้าก็แปรเปลี่ยน,ค่อยๆฟื้นคืนกับมาเป็นรูปร่างเดิมของเขาในทันที.
"เจ้า
เจ้า...."
"เจ้าคือฉู่เทียน!"
เหล่าทหารหวาดกลัวจนเข่าแทบทรุด.
ไม่ใช่ว่าตามข่าวแล้ว,ฉู่เทียนได้หลบหนีไปแล้วรึ?
ชายคนนี้มาปรากฏขึ้นที่แห่งนี้ได้อย่างไร,ตอนนี้เขากลับมาแล้วมันก็ไม่แตกต่างที่จะกลายเป็นว่าได้นำความฉิบหายมาให้ตัวเองหรอกเหรอ!
คนทั้งหมดตอนนี้ไม่มีใครกล้าวิพากวิจารย์ฉุ่เทียนเลย,หากว่าทำให้ฉู่เทียนโกรธเกรี้ยวล่ะก็,หลายชีวิตจะต้องถูกสังหารในทันทีแน่!"
"พวกเจ้าฟังข้าให้ดี!"
"ตระกูลฉู่และตระกูลเย่?ข้าฉู่เทียนไม่เคยกลัว!"
"ข้าจะทำให้พวกมันได้รับรู้ว่าการที่พวกมันทำเช่นนี้จะต้องชดใช้หนักหนาเท่าไหร่!"
ฉู่เทียนที่ยืนนิ่งงันแค่นเสียงออกมาอย่างเยือกเย็น,ก่อนที่จะมุ่งตรงไปยังทิศทางของตำหนักเจ้าเมือง,ในเมื่อเขาเลิกปลอมตัวแล้ว,จากนี้ไปเขาจะต้องจัดการเรื่องนี้ให้จบสิ้นไป.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP Click
-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน
ได้เวลาพี่ฉู่ และหน่วยศพทมิฬอาละวาดแล้ว !!!
ตอบลบโหด!!!
ตอบลบหาเรื่องใครไม่หาดันหาเรื่องฉู่เทียน
ตอบลบศพทมิฬนอกสุสาน จะโหดเบอร์ไหน เดี๋ยวรู้จัก 😈
ตอบลบตระกูลฉู่งานนี้มึงเตรียมเละ!
ตอบลบล้างตระกูล
ตอบลบ