Miracle Throne Chapter 79 Fox face corpse king
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 79 - ราชันต์ศพทมิฬหน้าจิ้งจอก
บทที่ 79 - ราชันต์ศพทมิฬหน้าจิ้งจอก
ดวงตาที่มืดมิดลึกล้ำเหลือคณาของศพทมิฬหญิงสาว,ค่อยๆส่องประกายแสงสีแดงออกมาช้าๆ,ราวกับตะเกียงที่กำลังจุดไฟขึ้นมา,เผยกลิ่นอายน่าหวาดหวั่นแผ่ซานออกมา,เป็นกลิ่นอายปิศาจที่ทำให้คนทั่วไปหายใจไม่ออก
ใจสั่นเต้นระรัว,ราวกับโลหิตทั่วร่างจะเหือดแห้ง,เหมือนกับสายน้ำที่ไหลบ่าลงแม่น้ำ,กระแทกออกมาอย่างรุนแรงคลุมออกไปทั่วห้องโถง.
เป็นแรงกดดันวิญญาณที่น่าพรั่นพรึงยิ่งนัก!
แต่ถึงกระนั้นผ่านไปไม่กี่นาที,ผมสีดำเริ่มแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีขาวเหมือนดั่งคนแก่,ราวกับว่ามีเหตุผลบางอย่าง,ที่ทำให้นางอ่อนแอลง.
"พวกเจ้าปลุกข้าขึ้นมา!"ราชันย์ศพทมิฬหน้าจิ้งจอกก้าวย่างไปด้านหน้าหนึ่งก้าว,ริมฝีปากสั่นเล็กน้อย,ปลดปล่อยเสียงที่ลึกลงไปถึงลำคอ,ราวกับเป็นเสียงครวญจากนรกอันดำมืด"พวกเจ้าอ่อนแอ,ไม่คู่ควร....ไม่คู่ควร!"
หมายความว่าอย่างไร?
ราชันย์ศพทมิฬนั้นมีเชาว์ปัญญาที่สูงล้ำ,ไม่สามารถนำราชันย์ภูติมาเปรียบเทียบได้เลยแม้แต่น้อย!
พี่น้องหยางที่เหลืออยู่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวสั่นสะท้านจากกลิ่นอายที่น่าหวาดกลังของราชันย์ศพทมิฬ.
"วิ่ง!"
คนทั้งสี่หันหลังกลับ
วิ่งหนีในทันที.
ร่างของราชันย์ศพทมิฬหน้าจิ้งจอกนั้นปกคลุมไปด้วยปราณทมิฬ,เพียงแค่ก้าวไปด้านหน้าก้าวเดียวร่างก็หายไป,ก่อนที่จะโผล่อีกเป็นระยะทางสิบกว่าเมตร.
เพียงแค่ปรากฏร่าง.
หนึ่งฝ่ามือ!
หัวถึงลอยกระเด็นหลุดออกจากร่าง.
หนึ่งหมัด!
หน้าอกของคนอีกคนหนึ่งก็กลายเป็นรูโบ๋.
เพียงแค่ก้าวออกไป
2-3
ก้าว,ชั่วพริบตาที่นางเคลื่อนไหว,เป็นความเร็วที่ยากจะเชื่อได้,สามารถสังหารคนไปแล้วสองคนแทบไม่ต้องออกแรง,อีกสองคนที่เหลือพริบตาเดียวก็ถูกดึงหัวใจออกมา.
ปังงง!
หัวใจของคนทั้งสองถูกบีบแตกกระจายคามือของนาง.
ความเร็วของราชันย์ศพทมิฬนั้นรวดเร็วจนเกินไป,แต่ละการเคลื่อนไหวนั้นเพียงพริบตาเดียว,ไม่สามารถตามการเคลื่อนไหวของนางได้เลย.
"หยางคุน!"ฉู่เทียนยกกระบี่อเวจีออกไปด้านได้พลางตะโกนออกไปเสียงดัง"ไม่อยากตายร่วมมือกันซะ!"
แข็งแกร่งมาก!
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
กลุ่มห้าดาบโจรร้ายแห่งรัฐกลาง.
ราชันย์ศพทมิฬสังหารคนทั้งสี่จนหมดแทบไม่กระพริบตาเลย.
ราชันย์ศพทมิฬแทบจะยังไม่ออกแรงเลย,เพียงแค่ขยับไม่กี่ท่า,ทุกคนก็ตายกันหมดแล้ว!
"ก็ได้!"หยางคุนพยักหน้า"น้องโฮวและพี่ฉวี,พวกเราร่วมมือกันก่อน,ค่อยไปจัดการเจ้าเด็กเวรนั่น!"
"พวกเจ้า...."ราชันย์ศพทมิฬที่กระพริบตา,จ้องมองออกไปอย่างเหยียดหยัน"พวกมดปลวก!"
"เจ้าก็แค่ศพตนหนึ่ง,หาญกล้า
ยโสโอหังงั้นเรอะ!"
หยางคุนคำรามลั่นก่อนที่จะพุ่งออกไป,มือทั้งสองข้างของเขานั้นเต็มไปด้วยแสงสีทองจากภูติวิญญาณยักษา,ก่อนที่จะพุ่งไปข้างหน้าโจมตีไปยังราชันย์ศพทมิฬ.
ราชันย์ศพทมิฬขยับเพียงเล็กน้อยเพียงแค่ก้าวเดียว,ร่างของนางก็หายไป,พร้อมกับมาโผล่ห่างออกมาหลายเมตร.
การโจมตีของหยางคุนนั้นพลาดเป้าอย่างสิ้นเชิง.
ฉวีหยุนและโฮวเซิ้งอวิ๋นเองเร่งรีบเข้าช่วยในทันที.
"ราชันย์ศพทมิฬเปิดช่องแล้ว"ฉู่เทียนตะโกนไปยังเหยี่ยนโก่วและปิงโม่,"พวกเจ้าช่วยอะไรไม่ได้!พาไฉ่เตี๋ยออกไปที!"
อาวุโสผู้นำพวกเขาเองได้ตายไปแล้ว.
พวกเขายังมีเหตุผลให้อยู่อีกรึ?
อย่างแรกต้องพาไฉ่เตี๋ยถอยไปก่อน.
ฉู่เทียนที่เข้าไปหาหยุนเหยาพร้อมกับพูดว่า"มากับข้า!"
ราชันย์ศพทมิฬถูกล้อมรอบด้วยคนทั้งห้า,ใบหน้าของมันแสดงท่าทางไม่แยแส,ไร้ซึ่งท่าทางใส่ใจอะไรทั้งนั้น,ดวงตาทั้งสองทอแสงสีแดงราวกับสัตว์อสูร,เป็นสายตาที่บาดลึกราวกับกระบี่ที่คมกริบ,กำลังทิ่มแทงเข้ามายังร่างกาย.
ผมของราชันย์ศพทมิฬค่อยๆเปลี่ยนเป็นหงอกชรา,ผิวกายของมันเองก็เริ่มมีรอยเหี่ยวย่นมากขึ้น,เห็นได้อย่างชัดเจน,ก่อนที่มันจะกล่าวออกมาว่า"พวกอ่อนแอ....ต้องตาย!"
ที่ปากของราชันย์ศพทมิฬได้เปิดกว้างออกมา,ก่อนที่จะพ่นหมอกอสูรทมิฬออกมาจำนวนมาก.
ก่อนที่ควันเหล่านั้นจะรวมตัวกันหนาขึ้นๆกลายเป็นร่างกระดูก,มีขนาดความสูงมากกว่าสิบเมตร,ดูเหมือนภูติวิญญาณที่แข็งแกร่ง,ก่อนที่ปากของมันจะคำรามลั่น,ราวกับคนที่โหดเหี้ยมชั่วร้ายสุดๆ!
หยางคุนตะโกนออกมาด้วยท่าทางตื่นตระหนก,"มารดาเถอะ!นี่มันครอบครองภูติวิญญาณด้วยหรือนี่?"
ฉู่เทียนจ้องมองไปยังหมอกกระดูกอย่างพินิจพิเคาะห์,"นั่นไม่ใช่ภูติจิตวิญญาณ,แน่นอนว่ามันเองก็เป็นภูติวิญญาณแบบหนึ่ง,ราชันย์ศพทมิฬนั้นได้หลับมาเป็นเวลายาวนาน,ทำให้ปราณหยินนั้นรวมรวบกลายเป็นภูตวิญญาณสวรรค์,นับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ดูคล้ายกับภูติวิญญาณเช่นกัน."
หยางคุนที่คำรามออกมาเสียงดัง"จะเป็นอะไรก็ช่างมัน!จัดการมันเข้าไป!สังหารมันเดียวนี้!"
หยุนเหยาที่กุมมุกภูติวิญญาณสายฟ้ายกขึ้นสูงและส่องแสงส่องประกาย,พร้อมกับอักษรรูนมากมายที่หมุนวนไปมา,เกิดเป็นพลังขนาดย่อมๆเหมือนกับดวงตะวันที่ส่องประกายแสงโชติช่วง.
สายฟ้ามากมายแปรเปลี่ยนกลายเป็นอักษรรูนที่ลึกล้ำ,ที่หมุนเกลียวผสมผสานกันไปมา,กลายเป็นพลังลึกลับที่มากมายจนประเมินไม่ได้,เป็นพลังความแข็งแกร่งที่สามารถปราบปรามเหล่าอสูรร้าย,ทันใดนั้นก็แผ่ออกไปทั่วบริเวณห้องโถงปิดกั้นการเคลื่อนไหวของราชันย์ศพทมิฬเอาไว้.
ดวงตาของราชันย์ศพทมิฬส่องประกายแสงประหลาดใจออกมาและคำรามออกมาเบาๆจากลำคอ.
ความหนาวเย็นยะเยือก,ถูกส่งออกมาเป็นเสียงคำรามที่เต็มไปด้วยความดุร้ายและบ้าคลั่ง.
ราวกับสัตว์อสูรจากโบราณที่กำลังคำรามออกมา.
โครงกระดูกหมอกทมิฬเหมือนว่ากำลังขยับ,ฝ่ามือขนาดมหึมาของมันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง,เหมือนผงแป้งที่กำลังเปื่อยยุ่ยหยดลงไปบนน้ำ,พลังที่ดุร้ายบ้าคลั่งถูกปัดเป่ากัดกร่อนไปด้วยพลังอำนาจสายฟ้า!
หากว่าราชันย์ศพทมิฬหลุดจากพันธนาการมุกภูติวิญญาณสายฟ้าแล้วล่ะก็,มันคงโจมตีมาเต็มกำลังอย่างแน่นอน.
ดูเหมือนว่าพลังมุกภูติสายฟ้าในตอนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าราชันย์ศพทมิฬแล้วกลับหลายเป็นของเล่นธรรมดาเท่านั้น,โดยปรกติแล้วพลังสายฟ้านั้นจะเป็นดาวข่มของเหล่าอสูรทั้งหลายทั้งมวล,หากแต่กลับไม่ได้เปรียบเลยเมื่อต้องนำมาใช้กับราชันย์ศพทมิฬ.
นี่มัน....ไม่ใช่ราชันย์ศพทมิฬธรรมดาแล้ว!
ฉวีหยุนตะโกนออกมาเสียงดัง"พลังของมุกภูติวิญญาณสายฟ้าไม่เพียงพอ,น้องโฮวเจ้าใช้พลังของสัตว์อสูรทะลวงปิศาจด้วย!"
สัตว์อสูรทะลวงปิศาจนั้นได้ทำการบูชามามากว่า
200 ปีแล้ว จึงทำให้มีพลังที่แข็งแกร่งอยู่ไม่น้อย,นอกจากนี้มันยังมีพลังในการปราบปรามอสูรร้ายมาตั้งแต่กำเนิด,นับว่าเป็นอสูรทะลวงปิศาจที่สามารถป้องกันปิศาจร้ายได้นั่นเอง,บวกกับความสามารถของหยางคุนด้วยแล้วทำให้พวกเขาสามารถตีฝ่าวงล้อมอสูรศพทมิฬก่อนหน้านี้มาได้.
เหล่าอสูรศพทมิฬพันปีต่างก็หวาดกลัวอสูรทะลวงปิศาจเป็นอย่างมาก.
ราชันย์ศพทมิฬหมื่นปีเองคาดว่าคงจะสามารถจัดการได้กระมั้ง!
อสูรทะลวงปิศาจที่ยืนอยู่บนไหล่ของโฮวเซิ้งอวิ๋น,พร้อมกับพ่นหมอกทมิฬที่หนาแน่นออกมา,พร้อมกับค่อยๆเข้ารอบกรอบราชันย์ศพทมิฬ.
"กลั่นมันซะ!"
ดวงตาของหมอกร้ายโฮวเซิ้งอวิ๋นถึงกับลุกวาวด้วยความตื่นเต้น!
ราชันย์ศพทมิฬหน้าจิ้งจอกนั้นมีกลิ่นอายปิศาจที่หนาแน่นเป็นอย่างมาก,เกรงว่าจะมีพลังบำเพ็ญมามากกว่าหมื่นปี,หากว่าสามารถกัดสกัดกลั่นกลิ่นอายปิศาจมาได้ล่ะก็,อสูรทะลวงปิศาจของเขาย่อมพัฒนาไปอีกหลายเท่าแน่นอน,บางทีสัตว์ภูติของเขาตนนี้อาจจะเหนือกว่าภูติระดับปลุกดวงจิตเลยก็ว่าได้!
ทันทีที่หมอกทมิฬของสัตว์อสูรทะลวงปิศาจสัมผัสเข้ากลับปราณอสูรของราชันย์ศพทมิฬ.
„!”
ราวกับว่าหมอกทมิฬเหล่านั้นได้พบเข้ากับพัดลมดูดอากาศ,มันถูกกลืนเข้าไปในร่างของปราณอสูรศพทมิฬหมื่นปีอย่างสมบูรณ์แบบ,สัตว์อสูรทะลวงปิศาจร้องออกมาอย่างทรมานโหยหวน,ก่อนที่มันจะถูกดูดหมอกทมิฬไปหมดจากร่างกายของมันร่วงหล่นลงมาจากไหล่ของโฮวเซิ้งอวิ๋น.
"ไม่!"
หมอกร้ายโฮวเซิ้งอวิ๋นความโลภก่อนหน้านี้หายไป
กลายเป็นเสียงกรีดร้องแทน.
"โฮกกกก!"
อสูรหมอกโครงกระดูกคำรามออกมาเสียงดังลั่น,ก่อนที่มันจะกลายเป็นพลังที่ปะทุออกมาอย่างรุนแรง,เกิดคลื่นพายุทะลวงผ่านเข้าไปในจิตวิญญาณของพวกเขา,คนทั้งห้าเจ็บปวดไปถึงดวงจิตในทันที,ก่อนที่หมอกแดงทมิฬจะปกคลุมกลายเป็นพายุหมุนรุนแรงหมุนวนพวยพุ่งออกมา.
พายุหมอกแดงทมิฬนั้นเทียบได้กับคมมีดสายลมนับล้านๆ,ที่กำลังบดปกคลุมร่างของพวกเขา.
หมอกร้ายโฮวเซิ้งอวิ๋นและอสูรทะลวงปิศาจของเขาไม่มีโอกาสได้หนีเลย,พวกเขาทั้งคู่ถูกเป่าออกไปด้วยพายุและถูกหั่นออกเป็นชิ้นๆ,กลายเป็นกองเนื้อบะช่อ,พร้อมกับถูกกระแทกไปติดกับกำแพงกลายเป็นภาพงานศิลปะกรรมฝาผนังในทันที.
เศษส่วนร่างกายของเขานั้นแต่ล่ะชิ้นเล็กยิ่งกว่านิ้วมือซะอีก!
กล่าวได้เลยว่าพายุดังกล่าวนี้แทบไม่ต่างจากพายุใต้ฝุ่น,หลังจากที่มันบดร่างของหมอกร้ายโฮวเซิ้งอวิ๋นไปแล้ว,ก่อนที่มันกำลังหมุนวนรวมตัวขึ้นที่ศีรษะของราชันย์ศพทมิฬหมื่นปี,มือทั้งสองข้างของมันกำลังควบรวมพายุดังกล่าว,กลายเป็นบอลพลังเท่ากับกำปั้นในทันที.
ฉู่เทียนเร่งรีบเปิดใช้งานทักษะกายแก้วในทันที"ระวังตัวด้วย!มันกำลังจะระเบิดแล้ว!
บอลพายุระเบิดออกมาทันที,ปกคลุมบริเวณหลายร้อยเมตรเลยทีเดียว!
หยุนเหยาทีเร่งรีบกระตุ้นพลังมุกภูติสายฟ้าอย่างเต็มกำลัง,รวบรวมเป็นโล่ขนาดมหึมากลายเป็นคลื่นสายฟ้าป้องกันร่างของนางไว้,หยางคุนที่เริ่งรีบปลดปล่อยภูติวิญญาณแขนทองคำเปลี่ยนร่างกายให้เป็นทองคำ,ฉวีหยุนนั้นทำได้แค่มองอย่างช่วยอะไรไม่ได้เนื่องจากภูติวิญญาณของเขานั้นเป็นสายโจมตี,ก่อนที่จะโดนพายุหมอกแดงทมิฬกลืนกินร่างไปในทันที.
"อ๊าก!"
เลือดเนื้อและโลหิตสาดกระจายไปทุกทิศทุกทาง!
อีกคนแล้วที่กลายเป็นเนื้อบะช่อ!
ราชันย์ศพทมิฬที่ก้าวออกมาด้านหน้า,ซึ่งมีพายุหมุนวนอยู่โดยที่มีนางเป็นจุดศูนย์กลางของพายุ,ก่อนที่จะปล่อยหมัดกระแทกไปยังโล่สายฟ้า,โล่สายฟ้าที่ถูกกระแทกอย่างแรงนั้นก็แตกกระจายออกเป็นเสียงๆ,พลังที่บ้าคลั่งรุนแรงกระแทกไปยังร่างของหยุนเหยา,ส่งนางลอยกระเด็นออกไปราวกับว่าวสายป่านขาด,ลอยละล่องออกไปหลายสิบเมตรก่อนที่จะหล่นไปกองอยู่หน้าประตูห้องโถง.
กระดูกของนางหักไปหลายท่อน,ประกายแสงของมุกภูติวิญญาณสายฟ้าถึงกับหายไปในทันที,พร้อมกับสติของนางที่หลุดเลือนไป,ไร้ซึ่งความสามารถที่จะต่อสู้อีกต่อไป.
"หมัดพลังภูติยักษา!"
หยางคุนปล่อยหมัดขนาดยักษ์สีทองราวกับเป็นฆ้อนขนาดใหญ่ออกไป.
ตูมมมมม!
ฝ่ามือเรียวเล็กซีดขาวนั่น,รับหมัดขนาดมหึมาได้อย่างสบายๆ.
หยางคุนถึงกับสะดุ้งและต้องการจะหลบหนี
ทว่ากับไม่สามารถทำได้สำเร็จ,ทำให้เขาเผยท่าทางตื่นตระหนกอย่างรุนแรง"ไม่ดีแน่!"
แขนของราชันย์ศพทมิฬที่บีบรัดภูติวิญญาณแขนทอง,พร้อมกับจับยึดแขนของหยางคุนแน่น,หมอกทมิฬค่อยๆไหลไปยังร่างของหยางคุน.
"อ๊ากกก!”
หยางคุนร้องออกมาอย่างทรมานเจ็บปวดเป็นอย่างมาก,ทั่วทั้งร่างของเขาเริ่มกลายเป็นสีดำ,เป็นพลังที่มากมายจนเขาไม่อาจต้านทานได้,ในเวลาเดียวกัน,กระดูกทั่วร่างของเขาราวกับถูกเปลวเพลิงลุกไหม้.
ดวงตาอสูรลุกวาวขึ้นมาทันที.
หยางคุนที่หล่นลงกระแทกพื้น,ก่อนที่จะระเบิดออกมากลายเป็นฝุ่นผง.
หยุนเหยาและหยางคุน,ทั้งสองที่แข็งแกร่ง,กับถูกจัดการได้อย่างง่ายดาย.
เป็นไปไม่ได้!
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะชนะ!
อสูรตนนี้น่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว!
ถึงจะมีค่ายกลสกัดพลังเอาไว้ก็แทบจะไม่มีผลอะไรต่อมันแม้แต่น้อย!
ราชันย์ศพทมิฬหน้าจิ้งจอกนั้นจัดการหมอกร้ายโฮวเซิ้งหยุน,ฉวีหยุน,หยุนเหยาและหยางคุนอย่างไม่ยากเย็นนัก,ท้ายที่สุดดวงตาของอสูรสีแดงก็จ้องมองมายังร่างกายของฉู่เทียน,ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกถูกคุกคามแต่อย่างได,ทว่ามันกับจับจ้องไปยังฉู่เทียนอยู่หลายครั้ง,ก่อนที่จะกล่าวออกมาด้วยเสียงที่แหบพล่า"เจ้ากับพวกมัน....ไม่เหมือนกัน!"
ขณะที่มันพูดอยู่นั้น.
ผมของราชันย์ศพทมิฬหน้าจิ้งจอกก็เริ่มขาวหงอกมากขึ้นกว่าเดิม.
ใบหน้าของราชันย์ศพทมิฬยังคงนิ่งสงบและกล่าวออกมาอย่างสุขุม"ข้าจะให้โอกาสเจ้า,โจมตีเข้ามาก่อน!"
ร่างกายของหยางคุนนั้นแข็งแกร่งเพียงใด.
นางยังสามารถสังหารได้อย่างง่ายดาย.
ฉู่เทียนเองไม่ล้าที่จะเข้าต่อสู้ระยะประชิดเลยแม้แต่น้อย,เขาได้กระตุ้นพลังปราณที่แหวนด้านขวามือและปล่อยมันออกมในทันที.
ฉู่เทียนที่หวังว่าจะพอสร้างบาดแผลให้กับราชันย์ศพทมิฬได้บ้าง,และขณะที่ราชันย์ศพทมิฬป้องกันตัว,เขาก็จะหาโอกาสพุ่งเข้าไปหาศพของหยางคุน,เพื่อเก็บกระดิ่งโบราณมา.
ราชันย์ศพทมิฬหน้าจิ้งจอกสะกิดนิ้วเบาๆ.
เกิดลูกบอลขนาดเล็กขึ้นมา.
ก่อนที่พลังประหลาดที่ออกมาจากเล็บของนางจะดีดปราณกระบี่ออกมาเปลี่ยนทิศทางพุ่งมาหาฉู่เทียน.
บัดซบ!
ไม่ต้องป้องกันอะไรเลยรึ!
ถ้าพูดถึงความเร็วของฉู่เทียนแล้ว,เขายังมีความเร็วที่ต่ำกว่าหยุนเหยามาก,ต่อหน้าราชันย์ศพทมิฬแล้ว,เขาก็เทียบได้เท่าขี้เล็บของนาง,ฉู่เทียนที่ปลดปล่อยภูติวิญญาณกระบี่เทพมารและปกคลุมกระบี่อเวจีกำลังส่องแสงประกายวับวาว,ก่อนที่เขาจะฟันออกไปและส่งปราณกระบี่สีเขียวตรงออกไป.
แทบจะทันที!
ราชันย์ศพทมิฬก้าวออกมาก้าวหนึ่ง,พริบตาเดียวที่นางขยับก็มาอยู่ด้านหน้าพร้อมกับยกมือขวารับกระบี่ของเขา,คมกระบี่ถูกหยุดเอาไว้.
"ไม่ดีแล้ว!"
กระบี่ของฉู่เทียนถูกหยุดเอาไว้ราวกับว่ามีพลังที่มองไม่เห็น,กำลังคว้าไปที่กระบี่อเวจีของเขาด้วยฝีมือของราชันย์ศพทมิฬ.
นางหยุดอาวุธของเขาเช่นนี้!
มันจบแล้ว!
ฉู่เทียนไม่คาดคิดเลยว่าจะอยู่ใกล้กับราชันย์ศพทมิฬถึงเพียงนี้,ใบหน้าจิ้งจอกที่ดูงดงามและแปลกตา,คู่ของดวงตาที่มืดมิดลึกล้ำส่องประกายสีแดงเจิดจ้า,ก่อนที่กลิ่นอายที่อันตรายอย่างไม่เคยมีมาก่อนปกคลุมร่างกายของเขา.
"ใช่...ไม่ใช่!"ใบหน้าของราชันย์ศพทมิฬจ้องมองไปยังภูติวิญญาณของฉู่เทียน,ดวงตาสีแดงชาดที่มองผ่านไปอย่างรวดเร็ว,ก่อนที่จะเผยท่าทางผิดหวัง"ไม่,เจ้าไม่ใช่ท่านผู้นั้น,เจ้าไม่ใช่เทพเซียนที่ข้ารอคอย!"
จิตสังหารที่รุนแรง
ราวกับพายุสึนามิที่พวยพุ่งขึ้นมา!
หากว่าราชันย์ศพทมิฬต้องการที่จะสังหารเขา,ฉู่เทียนย่อมต้องตายไปในทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย!
ไม่มีทางเลือก.
ต้องเดิมพันแล้ว!
ฉู่เทียนปลดปล่อยแรงกดดันวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวออกมาจากร่างกาย,เป็นเงาถมึงทึงที่ดุร้ายกาจ,ปรากฏขึ้นมาบนร่างของเขา.
ทันทีที่ราชันย์ศพทมิฬหน้าจิ้งจอก
พบเข้ากับภูติวิญญาณเงาแห่งความมืด,ร่างกายของมันสั่นสะท้านขึ้นมาในทันที,อดไม่ได้เลยที่จะถอยหลังออกมาหลายก้าว.
"นี่มัน....."
ราชันย์ศพทมิฬหน้าจิ้งจอกถึงกับนิ่งอยุ่กับที่,คาดไม่ถึงเลยว่าจะหยุดไม่ขยับไปเลยทีเดียว.
ในเวลาเดียวกันผมของราชันย์ศพทมิฬ,แปรเปลี่ยนเป็นขาวหงอกไปโดยสมบูรณ์,เหมือนกับคนแก่ที่อยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต,ดวงตาอสูรสีแดงเข็ม,จ้องมองไปยังเงาความมืดที่ลางเลือนไม่ขยับไปใหน,ใบหน้าที่งดงามของจิ้งจอกดังกล่าว,จากรู้สึกประหลาดใจ,ตื่นตะลึง.ท้ายที่สุดก็เปลี่ยนเป็นเทิดทูนบูชาอย่างช้าๆ.
"ไช่แล้ว!"
"เป็นท่าน!"
"คำทำนาย....เป็นจริง!"
ภูติวิญญาณโครงกระดูกที่มีใบหน้าคล้ายกับราชันย์ศพทมิฬ,ร่างกายของมันสั่นเครือคำรามออกมาเบาๆ,ราวกับว่ามันไม่สามารถที่จะต้านทานต่อพลังของเทพเจ้าที่มาจากภูตวิญญาณแห่งความมืดได้.
สิ่งที่ราชันย์ศพทมิฬได้กล่าวออกมานั้นคือเรื่องไร้สาระอะไรกัน?
ใครสนใจกันเล่า!
สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้!
เรื่องหนีสำคัญยิ่งกว่า!
หากไม่หนีตอนนี้,แล้วจะให้หนีตอนใหน,ถึงจะดูแปลกประหลาดก็ตามเถอะ,การจะปราบสุสานแห่งนี้ไม่มีทางเป็นไปได้,ไม่ว่าจะต่อสู้แบบใหนก็ตามที!
ภายใต้พลังของภูติวิญญาณแห่งความมืดที่คลุมร่างของเขาเอาไว้,ทำให้เขาสามารถลอยเหินได้สูงเป็นอย่างมาก,เขาพุ่งออกไปราวกับลูกธนู,เพียงพริบตาเดียวก็หนีออกมาหลายสิบจ้างแล้ว.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP Click
-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน
ท่าทางพี่ฉู่จะได้ไอเทมระดับยูนีคจากราชันย์ศพทมิฬนะครับ
ตอบลบได้เมียหรือข้ารับใช้เปงระดับภูติอีกคน
ตอบลบเจอตัวแล้ว...
ตอบลบ