Miracle Throne Chapter 75 Controlling soul bell
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 75 กระดิ่งควบคุมวิญญาณ
บทที่ 75 กระดิ่งควบคุมวิญญาณ
ฉู่เทียนที่หยิบกระบี่ของหว่านอู๋ยี่มาด้วยก่อนที่จะฟันไปยังกระบี่โบราณ,เสียงดังสนั่น,กระบี่ล้ำค่าของหว่านอู๋ยี่แตกหักเป็นท่อนๆ,ส่วนกระบี่โบราณนั้นไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเลยแม้แต่น้อย.
ไม่จำเป็นต้องคาดเดาแล้ว!
นี่คือกระบี่อเวจีอย่างไม่ต้องสงสัย!
มุกภูติวิญญาณสายฟ้า,เพลิงอเวจี,และกระบี่โบราณอเวจี,ของล้ำค้าสามอย่างภายในตำหนักใต้พิภพแห่งนี้.
ฉู่เทียนที่มีภูติวิญญาณกระบี่เทพมาร,นับว่าคู่ควรกับกระบี่อเวจีไม่น้อย,บางทีอาจจะสูงกว่ามุกภูติวิญญาณสายฟ้าและเปลวเพลิงอเวจีด้วยซ้ำ!
หยุนเหยาที่กล่าวออกมาอย่างฮึกฮัด"เจ้าจะตำหนิข้าหรือไม่,หากว่าข้าจะเตือนเจ้า!กระบี่โบราณอเวจีเล่มนี้เป็นกระบี่ปิศาจ,ไม่ว่าจะเจ้าจะยอมรับมันหรือมันยอมรับเจ้า,คนที่ใช้มันย่อมจะถูกกัดกร่อนความคิดจนทำให้ค่อยๆกลายเป็นคนกระหายโลหิตและบ้าคลั่ง,ท้ายที่สุดก็จะพ่ายแพ้และถูกมันกลืนกินไปที่สุด,ทั้งที่เป็นเช่นนี้เจ้ายังต้องการมันอีกหรือไม่?"
ฉู่เทียนค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อย.
หยุนเหยาที่ก่อนหน้านี้จะกินเลือดกินเนื้อของเขา,ตอนนี้กลับกล่าวเตือนเขาด้วยความปรารถนาดี,ดูเหมือนว่านิสัยของนางจะเปลี่ยนไปนะ.
เป็นความจริงเหมือนดั่งที่หยุนเหยากล่าว
กระบี่อเวจีนั้นก็เหมือนกับมุกภูติวิญญาณสายฟ้า,เห็นได้ว่ามันเป็นศาสตราวิญญาณที่สามารถสื่อสารกับจิตวิญญาณได้.
ศาตราวิญญาณที่สื่อสารผ่านจิตวิญญาณได้นั้นจะมีจิตสำนึกเป็นของตัวเอง,แน่นอนว่ามันจะเลือกนายของมันด้วยตนเอง,หากเพียงใช้แค่พลังที่เหนือกว่ากดข่มเพื่อเป็นเจ้านายมันล่ะก็อาจจะต้องใช้เวลานานพอสมควรถึงจะทำให้ศาสตราวิญญาณดังกล่าวยอมรับเป็นนาย.
หากว่ากระบี่อเวจีเล่มนี้ไม่ยอมรับฉู่เทียน,แน่นอนว่าฉู่เทียนก็ไม่มีทางนำมันกลับไปแน่นอน.
เขาจึงเลือกที่จะลองทดสอบเสี่ยงโชคดู.
ฉู่เทียนที่คว้าไปยังด้ามจับ,กระบี่โบราณที่มีจิตสำนึกซึ่งกำลังหลับลึกอยู่นั้น,ซึ่งมันได้ถูกปลุกขึ้นมาในทันที.
ความหนาวเย็นสุดขั้วที่ปะทุขึ้นมาแพร่ผ่านออกมาในอากาศ,ดูเหมือนว่าไม่ใช่ปราณกระบี่,แต่เป็นเหมือนกับชิ้นส่วนของเศษเพชรที่ถูกหลอมรวมมาจากน้ำเข็งเยือกเย็นกว่าหมื่นปี,ความหนาวเย็นสุดขั้วที่ราวจะกัดกิน
ชอนไชเข้าไปในเส้นปราณของเขา,กระจายไหลไปทั่วร่าง,ราวกับว่ากำลังพยายามแช่แข็งจิตใจของเขา,พร้อมภูติวิญญาณและดวงจิตของเขา.
ฉู่เทียนรู้สึกเหมือนกับว่าได้เข้ามาในห้วงอวกาศที่ลึกลับ.
ทุกๆที่นั้นเต็มไปด้วยเศษกระดูกที่แตกหัก,รอบๆเขานั้นเต็มไปด้วยดวงวิญญาณที่โหยหวน.ที่ด้านหน้าเขามีภูติปิศาจตัวมหึมาปรากฏอยู่,ใบหน้าของมันดุร้ายและน่าเกียจน่ากลัวอย่างที่สุด,ร่างของมันนั้นถูกปกคลุมไปด้วยเพลงสีขาว,มันเหมือนกับกับอสูรที่ถูกผนึกเอาไว้ที่กลางห้องโถงเป็นอย่างมาก,มันที่กำลังกลืนกินเหล่าวิญญาณที่อยู่รอบๆไม่หยุดหย่อน.
"โฮกกกก!"
เมื่อมันเห็นฉู่เทียนเข้ามา,เปลวเพลิงดวงจิตของมันก็เผาไหม้ลุกโชนขึ้นมาทันที,พร้อมกับส่งเสียงเย้ยหยัน,ก่อนที่จะส่งฝ่ามือเข้ามาจับร่างของเขาเอาไว้,เสียงของวิญญาณร้ายนับร้อยที่กำลังร้องโหยหวน,กำลังถาโถมเข้ามากัดกร่อนจิตใจของเขา.
ช่างเป็นกระบี่ที่แปลกประหลาดจริงๆ!
ฉู่เทียนลอบตกใจอยู่เหมือนกัน!
ภาพลวงตาที่ภูติวิญญาณสร้างขึ้นนั้น,มันไม่ด้อยไปกว่าพลังโจมตีของภูติวิญญาณจริงๆด้วยซ้ำ.
ทว่าในเมื่อมันเป็นเช่นนี้,นั่นก็แสดงว่ากระบี่เล่มนี้ไม่ใช่กระบี่ธรรมดา,ในเมื่อมันสามารถสร้างภาพลวงตาเป็นอาวุธได้,เช่นนั้นมันก็ย่อมมีความสามารถสร้างภาพลวงตาโจมตีศัตรูได้
กระบี่เล่มนี้!
บิดาผู้นี้เลือกเจ้าแล้ว!
ฉู่เทียนที่ปลดปล่อยภูติวิญญาณเงามืดที่ดุร้ายออกมา,ทันทีที่ภูติวิญญาณกระบี่อเวจีได้สัมผัสเข้ากับภูติวิญญาณเงาแห่งความมืด,ราวกับว่ามันได้สัมผัสเข้ากับเหล็กร้อน,มันตะโกนออกมาทรมานโหยหวน,ถอยฉากออกมาโดยเร็ว.
ภูติวิญญาณกระบี่อเวจีถูกปกคลุมไปด้วยพลังที่ไร้เทียนทาน,เกลือกกลิ้งไปมาบนพื้น,ทั่วทั้งร่างของมันนั้นสั่นไหวอย่างรุนแรง,เต็มไปด้วยความกลัวอย่างที่สุด,กลิ่นอายของมันเองก็เปลี่ยนเป็นอ่อนแอลงเรื่อยๆ.
ฉู่เทียนที่เดินไปด้านหน้าช้าๆ,"เจ้าจะเป็นใครมาจากไหน,บิดาผู้นี้ไม่รู้!ตอนนี้ข้าคือนายของเจ้า!เจ้า,จงเชื่อฟังข้าซะ!ไม่เช่นนั้นแล้ว,บิดาผู้นี้จะทำให้เจ้าพังพิพาศไปในทันที!"
ภูติวิญญาณเงาแห่งความมืดลืมตาขึ้นมาตาเดียว,ทว่าเป็นดวงตาแบบใดกัน?
เพียงมองมาแค่ตาเดียว.
ทั้งความคิดและจิตวิญญาณราวกับกำลังจะถูกทำลาย.
ภูติวิญญาณของศาสตราวิญญาณพ่ายแพ้ไร้ซึ่งพลังต้านทานส่วนร่างของมันนั้นก็หายไปกลายเป็นเพียงอากาศที่เบาบางเท่านั้น.
หลังจากที่ภูติศาสตราวิญญาณได้หายไปแล้ว,ก็เหลือเพียงเสาศิลาขนาดใหญ่ที่ยังเหลืออยู่,มันถูกปกคลุมไปด้วยอักษรรูนที่ลึกซึ้ง,บรรยายเกี่ยวกับวิชาบำเพ็ญพลังที่เหลือเชื่อ
<<กระบี่เพลิงอเวจี>>!
ที่มุมปากของฉู่เทียนยกขึ้นยิ้มอย่างพึงพอใจ.
กระบี่อเวจีนั้นไม่เพียงเป็นศาสตราวิญญาณที่ทรงพลัง,ในขณะเดียวกันมันยังมีวิชาบำเพ็ญที่ทรงพลังอยู่ภายในด้วย,ขอเพียงแค่ได้รับการยอมรับจากภูติกระบี่ศาสตราวิญญาณนี้ก็จะได้รับวิชาสืบทอดมานั่นเอง,หากว่ากระบี่อเวจีนี้ไม่ยอมรับล่ะก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับวิชาสืบทอดนี้มา.
วิชากระบี่เพลิงอเวจีนั้นเป็นวิชาที่หลงเหลือมาตั้งแต่ยุคโบราณกาล,มันเป็นหนึ่งในวิชาโบราณที่ที่วิวัฒนาการมาจากเพลิงกระบี่ไร้เทียมทานที่หลงเหลืออยู่,เป็นวิชาลวงตาที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก,สามารถสังหารศัตรูโดยไร้ร่องรอย,ทว่าจำเป็นต้องใช้เปลวเพลิงใต้พิภพในการใช้งาน.
วิชากระบี่เพลิงอเวจีนั้นมีรูปแบบที่คล้ายกับเพลงกระบี่ลับวายุน้ำแข็งของหว่านอู๋ยี่
ทว่ามันแข็งแกร่งกว่าวิชาของหว่านอู๋ยี่เป็นอย่างมาก,นับว่าเป็นวิชาลอบสังหารขั้นสูง,และจะต้องใช้เปลวเพลิงภูติอเวจีช่วยถึงจะสามารถแสดงพลังขั้นสุดยอดออกมาได้.
เพลงกระบี่เปลวเพลิงอเวจีนั้นแตกต่างออกไป,ไม่เพียงแค่มันมีทักษะลอบสังหารที่แข็งแกร่ง,ส่วนการประจันหน้าก็ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่า<<ปราณลับกระบี่วิญญาณ>>ของรัฐกลางเลย,แน่นอนว่ามันเป็นเพลงกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแน่นอน.
อย่างไรก็ตามกระบี่เปลวเพลิงอเวจีนั้น,จะต้องใช้ร่วมกันกับเพลิงอเวจีและวิชากระบี่อเวจีนั่นเอง.
วิชากระบี่ของฉู่เทียนกลายเป็นเพลงกระบี่ขีดจำกัดเอกลักษณ์ไปซะแล้ว.
(ขีดจำกัดเอกลักษณ์==มีอยู่อันเดียวในโลก,มีลักษณะเฉพาะ)
ไม่มีใครที่จะสามารถเรียนรู้มันได้.
ฉู่เทียนที่เก็บเกี่ยวกระบี่อเวจีและยังได้เพลงกระบี่ลับมาด้วย,นอกจากจะช่วยเพิ่มพลังโจมตีของเขาให้มากขึ้นแล้ว,หากรวมเข้ากับภูติวิญญาณกระบี่เทพมารของเขาด้วยแล้ว,บอกได้เลยว่ามันจะต้องกลายเป็นพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวมากมายอย่างไม่สามารถจินตนาการได้เลย!
วิชาบำเพ็ญใหม่นี้ไม่ใช่วิชาที่จะฝึกได้ง่ายดายนัก.
ก่อนอื่นเขาต้องกลับไปฝึกฝนและเพิ่มพลังอย่างช้าๆ!
ฉู่เทียนที่กลับมาจากอาณาจักรจิตวิญญาณ,ของกระบี่อเวจีได้อย่างง่ายดาย,"กระบี่เล่มนี้มีความสามารถอยู่เหมือนกัน,ทว่าการที่จะรบกวนจิตใจของข้านั้น,มันยังไม่มีคุณสมบัติพอ,เจ้ามากับข้า,ข้าไม่ได้ให้มุกภูติวิญญาณสายฟ้ากับเจ้าเปล่าๆหรอกนะ,ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องมาช่วยข้า."
ท่าทางของฉู่เทียนตอนนี้ดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,
หยุนเหยาอยากปฏิเสธเป็นอย่างมากทว่าก็คงเป็นไปไม่ได้.
ชายคนนี้ได้ช่วยนางให้รอดตายมาได้,หากแต่นิสัยของเขานี่มันทำให้นางขุ่นเคืองตลอดเลย!
หยุนเหยานั้นไม่มีทางเลือกต้องเชื่อฟังเขาเท่านั้น,ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งคู่จะไม่มีกระบี่อเวจีหรือมุกภูติวิญญาณสายฟ้าก็ตามที,นางก็ยังไม่ใช่คู่ต่อกรของฉู่เทียน.
ชายคนนี้ช่างทำตัวน่าโมโหจริงๆ,ทว่าเขาก็ช่วยชีวิตของนางไว้และยังมอบมุกสายฟ้าให้นางอีก,แน่นอนว่านางนั้นไม่คิดที่จะแก้แค้นเขาเรียบร้อยแล้ว.
"ก็ได้,ข้าจะช่วยเจ้าสำหรับค่าตอบแทนมุกภูติวิญญาณสายฟ้าก็แล้วกัน!"
พวกเขาทั้งคู่ต่างก็มีศาสตราภูติวิญญาณ,การจะสามารถสังหารศัตรูหรือจัดการภูติผีนั้น,ไร้ซึ่งสิ่งกีดขวาง,ในที่สุดพวกเขาก็พบทางเข้าสุสานโบราณชั้นที่สาม.
ห้องโถงที่มืดมิดของสุสานโบราณ,ที่แห่งนี้มีโรงศพสี่ขาวอยู่เต็มไปหมด,โลงศพเกลื่อนทั้งหมดได้ถูกเปิดออกมาหมดแล้ว,รอบๆพื้นบริเวณนั้นเต็มไปด้วยศพทมิฬที่ตายแล้ว,เป็นเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ.
"ลู่เร็น!"เสียงที่นุ่มนวลดังผ่านเข้ามา"ในที่สุดเจ้าก็มาถึง!"
ไฉ่เตี๋ยที่สวมชุดล้ำค่าซึ่งถักทอด้วยเส้นใยสีทองก่อนที่จะเดินตรงมา,ชายชราหน้ากากผีสองพี่น้องเหยี่ยนโก่ยและปิงโม่ซึ่งนั่งอยู่บนโลงศพ.
(เหยี่ยนโก่ยและปิงโม่
=หน้ากากปิศาจไฟ,หน้ากากปิศาจน้ำแข็ง)
เอ๊ะ?
ไม่รู้ทำไมที่แห่งนี้มีคน
7-8 คนที่เขาไม่รู้จัก?
ที่ข้างๆเป็นชายชราหน้ากากเงินพร้อมกับผู้ฝึกตนอีกห้าคน,บางทีพวกเขาอาจจะเป็นคนที่ถูกรับเพิ่มเข้ามาก็เป็นได้,แต่ละคนเองก็ไม่มีใครที่อ่อนแอเลย,พวกเขาทั้งห้าคนนั้นมีลักษณะพิเศษ,โดยพวกเขาใช้ดาบยาวกันทั้งหมด.
หัวหน้าของพวกเขานั้นดูน่าสนใจเป็นพิเศษ.
เป็นชายหนุ่มที่มีอายุราวๆ
25 หรือ 26 ปี,สวมชุดเกราะสีทอง,ที่มือของเขานั้นมีดาบยาวสีชาด,มีผมสีแดง,รูปร่างสูงใหญ่,มีกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวเหมือนว่ามีเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ทั่วร่างของเขาตลอดเวลา.
เขาต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างแน่แท้!
อย่างน้อยที่สุดก็มีพลังระดับปลุกดวงจิตระดับ 2!
"เจ้ามาช้าเป็นอย่างมาก,ข้าคิดว่าเจ้าตายไปตั้งแต่ชั้นแรกหรือชั้นที่สองแล้ว!"ชายชราหน้ากากผีที่แสดงท่าทางขุ่นเคือง,ทว่าสายตาของเขาที่จับจ้องมองไปยังหยุนเหยา,เขาเองก็รู้สึกหวั่นเกรงอยู่ไม่น้อย"นั่นมันท่านหญิงอสนีบาตม่วงไม่ใช่รึ?ทำไมเจ้าถึงมาอยู่นี้ล่ะ!"
ฉู่เทียนที่ไม่ตอบคำถามดังกล่าว,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังเหล่าแข็งผู้ใช้ดาบทั้งห้า"พวกเขาเป็นใครอย่างงั้นรึ?"
"พวกเขาเป็นผู้ช่วยที่ข้าหามา"ชายชราหน้ากากผีเริ่มอธิบาย,"พวกเขามีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก,เป็นที่รู้จักในชือ,"ห้าดาบแห่งรัฐกลาง"คนที่มีผมสีแดงเป็นหัวหน้ามีนางว่า
หยางเจียน,เขาที่สำเร็จวิชาบำเพ็ญขั้นที่ 2 ,เข้าใจลึกซึ้งประสบผลเชี่ยวชาญของวิชาบำเพ็ญ<<ดาบคลั่งโลหิต>> และยังมีทักษะสังหาร,พร้อมกับเป็นผู้กล้าที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก."
ฉู่เทียนพยักหน้า.
ผู้อาวุโสหน้ากากผีนั้นไม่ใช่คนโง่.
เขารู้ดีว่าราชันย์ศพทมิฬนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก,ดังนั้นจึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้น,คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะสามารถหาคนที่มีฝีมือคนที่น่าหวั่นเกรงทั้งห้าได้.
ชายชราหน้ากากผีเองได้กล่าวไปยังคนทั้งห้า,"สหายน้อยตอนนี้คนที่พวกเรารอได้มาครบกันหมดแล้ว,พวกเรา......."
"เพ่ย!"จอมดาบหัวแดงใบหน้าเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์"เจ้าให้พวกเรารอมาตั้งนาน,ที่แท้กับเป็นเพียงเจ้ากระจอกน้อยนี้รึ?เจ้ารู้ใหมว่าสมบัติมากมายที่พวกเราจะค้นพบนั้นจะเสียเปล่าไปอีกหลายส่วน?"
"ถูกแล้ว!"
"บัดซบ!"
"ข้าคิดว่าเป็นท่านหญิงอสนีบาตม่วงซะอีก!"
ไม่คิดเลยว่าคนที่รอคอยมาตั้งนานกลับกลายเป็นไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมคนนี้!"
หลายต่อหลายคนเริ่มด่าทอเผยสายตาที่ไม่เป็นมิตรออกมาอย่างชัดเจน.
ชายชราหน้ากากผีเองก็เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน,"เจ้าไปใหนมาอย่างงั้นรึ?"
ฉู่เทียนไม่ได้ต้องการที่จะปกปิดแต่อย่างใด,"พวกเราได้ไปยังตำหนักใต้พิภพมา!"
"พวกเจ้าทั้งคู่ไปตำหนักใต้พิภพมาอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าชายชราหน้ากากผีถึงกับเปลี่ยนเป็นซับซ้อน,แสดงท่าทางไม่อยากเชื่อเท่าใดนัก."พวกเจ้าสามารถมีชีวิตกลับมาได้ด้วย."
"เห็นอย่างชัดเจนแล้วนี!"หยุนเหยาแสดงมุกภูติวิญญาณสายฟ้าออกมา"พวกเราก็ยังมีชีวิตอยู่!"
ชายชราหน้ากากผีที่เห็นมุกภูติวิญญาณสายฟ้า,ทันใดนั้นสายตาของเขาก็ประทับเข้ากับกระบี่อเวจีของฉู่เทียน,เขาถึงกับหายใจถี่
เลยทีเดียว"กระบี่นั้นขายใหม?เจ้าเสนอราคามาได้เลย!เท่าไหร่ก็ได้!"
ฉู่เทียนตวัดกระบี่อเวจีไปมา,ส่งผลให้เกิดริ้วแสงส่องประกายวับวาวบนอากาศ"กระบี่นี้มันเหมาะกับข้า,ข้าไม่ต้องการที่จะขายมันหรอก!"
จอมกระบี่หัวแดงหยางเจี่ยนเผยประกายตาแห่งความโลภออกมา"แม้ว่าข้าไม่รู้ว่าเด็กกะโปโลอึหมาอย่างเจ้าจะได้มันมาได้อย่างไร,แต่คาดไม่ถึงเลยว่ากระบี่นั่นจะได้มาจากตำหนักใต้พิภพ,อย่างไรก็ตามเจ้าต้องทำให้พวกเราเสียเวลาเป็นเวลานาน,จงจ่ายค่าชดเชยมาซะ!"
ชายถือดาบอีกคนกล่าวออกมาอีกว่า"กระบี่นั่นเพียงพอที่จะชดเชยให้กับพวกเรา!"
หยางเจียนจ้องมองไปยังชายชราหน้ากากผีก่อนที่จะกล่าวออกไปว่า"ในเมือผู้เฒ่าหน้ากากผีเองก็ต้องการกระบี่,ทำไมไม่มาช่วยพวกเราพี่น้องช่วยกันแย่งชิงมาล่ะ?มีเพียงพวกเราก็พอแล้วในการสังหารราชันย์ศพทมิฬ,เจ้าเด็กนี่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไร,จะมีหรือไม่ก็ก็ไม่ต่างกัน!"
พูดกันตามจริงแล้ว!
ในเวลาเดียวกัน!
ชายชราหน้ากากผีนั้นค่อนข้างตื่นเต้นเหมือนกัน.
กระบี่อเวจีนั้นเป็นศาสตราภูติวิญญาณ!
ห้าดาบแห่งรัฐกลางที่จริงแล้วเป็นเพียงแค่กลุ่มโจร,คงจะฆ่าคนชิงของไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษเลย.
ไฉ่เตี๋ยที่กำลังโกรธเกรี้ยว"พวกเจ้าทำอย่างนี้ได้อย่างไร?"
"นังผู้หญิงโง่,ไสหัวไปให้พ้น!"
"ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าหุบปากและเงียบไปซะ!"
คนทั้งห้าดวงตากลายเป็นสีเขียวหน้ามืดตามัวราวกับสายตาของหมาป่าที่ชั่วร้ายจับจ้องมองกระบี่อเวจีในมือของฉู่เทียนอย่างละโมบ.
"ไม่มีปัญญาซื้อ,ดังนั้นจึงคิดที่จะสังหารคนชิงของอย่างงั้นรึ?"หยุนเหยาเผยยิ้มอย่างเย็นชา"นี่คือรูปแบบของอาณาจักรต้าโจวรึอย่างไร?"
ท่านหญิงอสนีบาตม่วงถึงกับช่วยเจ้าเด็กนี้พูดอย่างงั้นรึ?
นางยืนอยู่ข้างเจ้าเด็กนั่นอย่างงั้นรึ?
ชายชราหน้ากากผี,เหยี่ยนโก่วและปิงโม่,และห้าจอมกระบี่,รู้สึกหวั่นเกรงขึ้นมาในทันที.
หากว่าเจ้าเด็กนี่อ่อนแอจริง,กระบี่อเวจีคงถูกแย่งชิงไปแล้ว,ด้วยพลังของเขานั้นก็ถือว่าไม่เลว,ทว่าหากเปรียบกับกระบี่อเวจีแล้วมันมีค่ามากมายนับไม่ถ้วน.
และหากว่าหยุนเหยาช่วยฉู่เทียนแล้วล่ะก็,ผลที่ได้นั้นย่อมออกมาแตกต่างออกไป.
ไม่ต้องเอ่ยถึงเลยว่าหยุนเหยาที่ครอบครองมุกภูติวิญญาณสายฟ้าก็ทรงพลังอยู่,หากว่าทั้งสองฝ่ายเข้าปะทะกันมีแต่เสียกับเสีย,ทว่าหากได้พวกเขาช่วยจัดการราชันย์ศพทมิฬล่ะก็ย่อมมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก.
"หว่านอู๋ยี่ยังตายด้วยน้ำมือเขา,ด้วยดาบหักๆของพวกเจ้านั้นรวดเร็วสูงส่งยิ่งกว่าเพลงกระบี่วายุน้ำแข็งอย่างงั้นรึ?"หยุนเหยาที่ยืนสงบกล่าวออกไปอย่างใจเย็น"ลำพังแค่กระบี่อเวจี,หรือไม่มีกระบี่อยู่ในมือของเขาก็ตามที,กลุ่มขยะอย่างพวกเจ้าก็ไม่ต่างกับสวะหาได้ใช่คู่มือของเขาแม้แต่น้อย!"
อะไร?
เจ้าเด็กเวรนี้สังหารมือกระบี่วายุน้ำแข็งอย่างงั้นรึ!
มือกระบี่พายุน้ำแข็งนั้นที่ถูกผนึกพลังฝึกตนของสุสานโบราณแห่งนี้เอาไว้,ทว่าด้วยวิชาบำเพ็ญพลังของเขาเองวิชาวายุน้ำแข็งนั้นก็ไปถึงระดับ
3 ประสบผลที่ใหญ่ยิ่งเป็นเอกลักษณ์เรียบร้อยแล้ว,เจ้าเด็กนี้สามารถที่จะต้านทานได้ด้วยรึ?
ชายชราหน้ากากผีเองหากว่าต่อกรกับหว่านอู๋ยี่ตัวต่อตัวล่ะก็.
บางทีด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีนั้นยังมีโอกาสห้าสิบห้าสิบเท่านั้น!
ที่รัฐกลางเองห้าดาบแห่งรัฐกลางกับหว่านอู๋ยี่หากต่อสู้กันล่ะก็,เกรงว่าคนที่ต้องตายคงเป็นพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!
"เฮ้,เอ้,เฮ้,เฮ,ชายชราคนนี้เป็นนักธุรกิจนะ,จะซื้อจะขายย่อมมีหลักการและคุณธรรมเพียงพอ,เรื่องที่จะซื้อหรือขายนั้นจะต้องมีความเต็มใจทั้งสองฝ่าย,การที่จะบังคับคนอื่นด้วยกำลังนั้นไม่มีทาง"ชายชราหน้ากากผีจ้องมองไปยังห้าพี่น้องหยางเจียน,พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างแข็งกร้าว"ขอให้พวกท่านระวังคำพูดด้วย,อย่าได้กล่าวคำพูดเช่นนั้นอีก,ไม่เช่นนั้นแล้วอย่าตำหนิข้าหากไม่สุภาพก็แล้วกัน!"
หยางเจียนแค่นเสียงอย่างเย็นชา.
เขาเงียบปากและไม่กล่าวสิ่งใดออกมา.
อย่างไรก็ตาม,จากการมองด้วยสายตามันยากที่จะเชื่อว่าฉู่เทียนนั้นสามารถสังหารมือกระบี่วายุน้ำแข็งได้.
เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่,จะเป็นคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยอย่างงั้นรึ?
การที่ท่านหญิงอสนีบาตม่วงกล่าวเช่นนั้นก็สามารถข่มพวกเขาทุกคนได้ทันที,นอกจากนี้เพียงแค่มีท่านหญิงอสนีบาตม่วงช่วยเหลือ,เขาก็สามารถที่จะมีชีวิตไปถึงชั้นที่สามได้แล้ว.
อย่างไรก็ตามหากว่าเขาและท่านหญิงอสนีบาตม่วงมีความเกี่ยวข้องกันล่ะก็,แท้จริงแล้วก็ทำให้พวกเขาห้าพี่น้องหยางเจียนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาหลายเท่าทีเดียว.
ฉู่เทียนก็ไม่กล่าวสิ่งใดออกไปอีก,แสร้งทำตัวเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น"เอ๊ะ?,ไฉ่เตี๋ย,เจ้าเอาชุดเกราะนั้นมาจากใหนเหรอ?
"ข้าได้โชคมาล่ะ,ข้าพบมันเข้าในชั้นที่สอง!"ไฉ่เตี๋ยเผยรอยยิ้มอย่างขวยเขิน"นี้เป็นเสือเกราะเปลวเพลงชั้นหนึ่งเลย,หากว่ามันถูกนำไปประมูลที่รัฐกลางล่ะก็,น่าจะขายได้ถึง
210,000
เหรียญทองเลยล่ะ,นอกจากเสื้อเกราะนี้แล้ว,ข้ายังได้สมบัติมาหลายชิ้นเลยล่ะ."
ไฉ่เตี๋ยที่ดูเหมือนว่าจะรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก.
ฉู่เทียนเข้าใจได้สิ่งของเหล่านั้นน่าจะเป็นของตกทอดของเหล่าผู้ฝึกตนก่อนหน้านี้,นับว่าเป็นสิ่งของที่ค่อนดีสำหรับผู้ฝึกตนทั่วไปทีเดียว,ทว่าด้วยสิ่งของเหล่านี้สำหรับไฉ่เตี๋ยแล้ว,คงจะไม่ใช่สิ่งของที่ยอดเยี่ยมเท่าใดนัก.
ทว่าไฉ่เตี่ยเองดูเหมือนว่าจะตื่นเต้นที่ได้ออกมาไล่ล่าสมบัติเช่นนี้.
เหล่าคนมากมายที่มาค้นหาสมบัติในครานี้,บางที
คงไม่มีใครที่เก็บเกี่ยวด้วยท่าทางที่ยอดเยี่ยมเหมือนไฉ่เตี๋ยอีกแล้ว.
หยางเจียนและพี่น้องค่อนข้างเกรี้ยวโกรธเป็นอย่างมาก,เจ้าเด็กคนนี้ไม่รู้ว่าสมองมันทำด้วยอะไร,ถึงจงใจเห็นพวกเขาเป็นเหมือนดังอากาศธาตุเช่นนี้.
ฉู่เทียนนั้นไม่ได้หวาดกลัวห้าพี่น้องดังกล่าวอยู่แล้ว.
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ใช่เวลาเอาเรื่องดังกล่าวมาใส่ใจแต่อย่างไร.
และเขาก็ไม่ได้ใส่ใจด้วยว่าชายชราหน้ากากผีหรือคนอื่นจะคิดอะไรอยู่.
เพราะว่าผลไม้ทารกวิญญาณนั้นเขาจะต้องได้มา,ฉู่เทียนนั้นมีเวลาไม่มากแล้ว,มีเพียงแค่ผลไม้ทารกวิญญาณเท่านั้นที่จะทำให้เขาทะวงผ่านไปยังระดับปลุกดวงจิตได้อย่างรวดเร็ว!
"สถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ไม่ดีนัก."ชายชราหน้ากากผีไอออกมาเล็กน้อย,ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล"บัณฑิตวิญญาณเองก็ได้รวบรวมคนกลุ่มใหญ่สำรวจโพลงเก็บศพไปทั่ว."
ฉู่เทียนถามออกมาด้วยท่าทางอยากรู้"โพลงเก็บศพซ่อนอยู่ที่ใดรึ?"
"จากข้อมูลที่ได้มานั้น,โพรงเก็บศพนั้นจะมีซ่อนเอาไว้ในคลังแสงเหล่านักรบของสำนักโบราณ,หลังจากที่ศพหยินถูกทำให้บริสุทธิ์แล้ว,ทุกตนจะนำไปไว้ที่โลงเก็บศพ,โพลงเก็บศพแห่งนี้ซับซ้อนเป็นอย่างมาก,เป็นพื้นที่ต้องห้าม,มีอันตรายยิ่งนัก,ทว่าก็มีสมบัติล้ำค่าซ่อนเอาไว้อยู่,กระดิ่งควบคุมวิญญาณเองก็อยู่ที่นั่น."
"ข้าได้ยินบางสิ่งมาด้วยเช่นกัน"หยุนเหยาที่ยังดูเย็นชากล่าวออกมาว่า"กระดิ่งควบคุมวิญญาณนั้นสามารถปลุกเหล่าศพทหาร,ควบคุมเหล่ามนุษย์ที่น่าสะพรึงกลัวเหล่านั้นให้กลายเป็นอาวุธได้!"
ศพทมิฬภายในสุสานนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดาๆเลย!
ถึงแม้ว่าจะหลุดออกไปเพียง
3-5 ตัว,พวกเขาก็สามารถควบคุมพวกมันได้อย่างง่ายๆสบายๆ!
"กระดิ่งควบคุมวิญญาณนั้น,หยางคุนคงต้องการสิ่งดังกล่าวนี้แน่,ในเวลานี้เขาคงจะเตรียมอะไรหลายอย่างไว้แล้ว"ชายชราหน้ากากผีที่ดูท่าทางจริงจัง,หากว่าเขาได้กระดิ่งควบคุมวิญญาณล่ะก็,เหล่าศพทหารมากมายจะถูกปลุกขึ้นจากนิทรา,ทุกคนที่อยู่ที่แห่งนี้จะต้องถูกศพทหารเหล่านั้นโจมตีอย่างแน่นอน."
หยุนเหยาแค่นเสียงเย็นชาและกล่าวออกไปว่า"สังหารเขาซะ!"
ชายชราหน้ากากผีส่ายหน้าไปมา"วิชาบำเพ็ญของหยางคนนั้นคือ<<กายทองภูติยักษา>>และสำเร็จในระดับ 3 ประสบผลที่ใหญ่ยิ่งเป็นเอกลักษณ์,มีวิชาบำเพ็ญสกลัดกลั่นร่างกายที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก,เจ้าที่เป็นคนของอาณาจักรหนานเซี่ย,ควรที่จะเข้าใจมากกว่าข้านะ."
หยุนเหยาง,ไฉ่เตี๋ยและหยางเจียนขมวดคิ้วแน่น.
ชื่อเสียงของหยางคุนผู้ฝึกตนเร่ร่อนคนนี้มีมากมายนัก.
วิชาบำเพ็ญ <<กายทองภูติยักษา>>นั้นเป็นวิชาที่ลึกล้ำเป็นอย่างมาก,มันจะทำให้กายของคนๆนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก,มีความแข็งแกร่งทางกายภาพเป็นอย่างมาก,เลือดเนื้อแข็งแกร่งราวกับทองแดง,ร่างกายภายนอกเองก็แข็งแกร่งไม่ต่างจากกายเพชรเลย,เป็นความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเกล็ดมังกรเลยทีเดียว,แม้ว่าเขาจะเข้ามาภายในสุสานโบราณเห่งนี้ก็ตาม,มีเพียงแค่พลังวิญญาณของเขาเท่านั้นที่ถูกจำกัด,ทว่าร่างกายที่แข็งแกร่งนั้นแทบจะไม่แตกต่างกับเหล่าสัตว์อสูรเลย,ท่ามกล่าเหล่าผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตด้วยกันเขาอาจจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดก็เป็นได้.
หยุนเหยาที่มีมุกภูติวิญญาณสายฟ้าในมือ,ยังไม่มั่นใจนักว่าจะสามารถทะลวงพลังป้องกันของเขาได้.
ต้องไม่ลืมว่าหลังจากที่เข้ามาภายในสุสานโบราณแห่งนี้ทุกคนต่างก็ถูกจำกัดพลังฝึกตน,ให้มีพลังเพียงแค่ขั้นปรุงร่างระดับ
9 ขั้นปลายเท่านั้น!
"หากว่าล่าช้า,พวกเราก็ยิ่งไม่สามารถต้านทานเขาได้,ตอนนี้พวกเรารีบไปกันเถอะ,พวกเราอาจจะไม่มีเวลาไล่ตามพวกเขาก็เป็นได้.
สุสานโบราณมากมายที่ถูกทำลาย,มีอีกหลายตำหนัก,อีกหลายสุสานที่อยู่รอบๆพวกเขา.
มีสมบัติมากมายเท่าไหร่ที่ฝังอยู่ที่แห่งนี้?ผ่านมาหลายปีหลายครั้งแล้วยังไม่มีใครสามารถที่จะนำมันไปได้อย่างงั้นรึ?
ฉู่เทียนที่คิดใคร่ครวญอยู่หลายวินาที,"ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว,ข้าว่าพวกเราไปยังห้องโถงหลักจัดการกับราชันย์ศพทมิฬเลยดีกว่า!"
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP Click
-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน
หมาป่าในคราบลูกแกะ...
ตอบลบ