วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 74 Nether world sword

Miracle Throne Chapter 74 Nether world sword

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 74 -กระบี่อเวจี


บทที่ 74 -กระบี่อเวจี



หากว่าราชันย์ภูติตนนี้หลุดออกไปด้านนอกล่ะก็,คงจะสามารถจัดการเหล่าผู้ฝึกตนดินแดนปลุกดวงจิตได้อย่างง่ายๆสบายเลย,หรือถึงแม้ว่าจะถูกผนึกพลังเอาไว้ในสุสานแห่งนี้ก็ตามที,ด้วยตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนั้นก็ยากที่จะล้มได้.


ฉู่เทียนกลับสามารถจัดการเพียงแค่หมัดเดียว!


หยุนเหยาที่ตกใจสุดๆลิ้นจุกอยู่ที่ล้ำคอไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้,ในโลกนี้มีด้วยเหรอในทุกเผ่า,จะสามารถปลุกภูติวิญญาณขึ้นมาได้สองตน,คนผู้นี้ในร้อยล้านคนก็ยังยากที่จะหาเจอได้เลย.



การปลุกภูติวิญญาขึ้นมาได้สองตนนั้นเป็นเรื่องที่เกินความจำเป็นแน่นอน!


เพราะว่าประสิทธิ์ภาพของดวงวิญญาณของคนมีจำกัด,การจะหล่อเลี้ยงภูติวิญญาณตนเดียวก็แทบจะไม่ไหวแล้ว,นี่มีภูติวิญญาณถึงสองตนเลย.


ภูติวิญญาณจะช่วยให้ผู้ฝึกตนมีพรสวรรค์ที่สูงขึ้นถึงครึ่งหนึ่ง,ยิ่งมันแข็งแกร่งเท่าไหร่,คนๆนั้นก็จะยิ่งมีพรสวรรค์มากขึ้นเท่านั้น.


ภูติวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัว ก็จะมีแต่จะทำให้ภูติวิญญาณนั้นเป็นเพียงแค่ภูติวิญญาณธรรมดาเท่านั้น,แทนที่จะทำให้ได้ผลประโยชน์กลับมีแต่ทำให้มีอันตรายมากกว่า.


ฉู่เทียนที่มีภูติวิญญาณสองตน,ไม่ว่าจะเป็นภูติวิญญาณเงาแห่งความมืดหรือจะเป็นภูติวิญญาณกระบี่,แน่นอนว่าทุกตนมีแต่ระดับชั้นยอดทั้งนั้น,บางทีภูติวิญญาณแห่งความมืดตนนั้นอาจจะมีพลังระดับเทพมารก็เป็นได้,เพราะว่าด้วยพลังฝึกตนของเขา,จึงไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน,ทว่าจะอย่างไรก็ตามอย่างน้อยก็ต้องเป็นภูติวิญญาณระดับพระเจ้าอย่างอยู่แล้ว!



ด้วยการฝืนใช้พลังเกินกว่าที่ร่างกายจะรองรับเรียบภูติวิญญาณออกมา!


ฉู่เทียนที่อ่อนแอลงเป็นอย่างมาก,เร่งรีบนำหญ้าแก่นหยวนออกมาอีกส่วนหนึ่งก่อนที่จะกลืนลงไปในทันที.


เป็นเรื่องจริงที่น่าหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก,หากไม่เพราะหยุนเหยาใช้ไข่มุกภูติวิญญาณสายฟ้า,ทำให้ราชันย์ภูติอ่อนแอลงล่ะก็,หรือหากไม่เพราะโม่เหยี่ยนใช้อสรพิษเพลิงโจมตีเพื่อลดการป้องกันเอาไว้,หากไม่เพราะฉู่เทียนได้ใช้ทักษะเนตรจิตมองการไหลของพลังวิญญาณเอาไว้.


ผลที่ออกมาจะออกมาง่ายขนาดนี้รึ?


ราชันย์ภูติถูกแปรเปลี่ยนกลายเป็นมุกปิศาจขนาดใหญ่,มุกปิศาจนั้นที่ผิวด้านหน้าของมันถูกเคลือบไปด้วยเพลิงสีขาวน้ำเงิน.


"เมล็ดเปลวเพลิง?"โม่เหยี่ยนเผยท่าทางผิดหวังเป็นอย่างมาก,"ใครจะคิดล่ะเปลวเพลิงอเวจีนั้นจะถูกหลอมรวมเข้ากับร่างของราชันย์ภูติ,แล้วใครจะคิดล่ะว่าเปลวเพลิงอเวจีนั่นจะถูกราชันย์ภูติสกัดกลั่นเรียบแล้วร้อย,คงยากที่จะใช้เมล็ดเปลวเพลิงในการบำเพ็ญให้มีระดับสูงขึ้น,และคงต้องใช้เวลาและกำลังอีกมากมายมหาศาลขนาดใหนถึงจะทำสำเร็จ!"


ภูติเปลวเพลิงนั่นหากยังไม่ได้บำเพ็ญพลังก็ไม่ต่างจากศาสตราวิญญาณทั่วไปและเหมือนกับวิชาบำเพ็ญพลังด้วยที่จำเป็นต้องเริ่มบำเพ็ญใหม่ตั้งแต่หนึ่ง.


อย่างไรก็ตามการบำเพ็ญพลังของอาวุธวิญญาณนั้นไม่เหมือนกับการบำเพ็ญพลังของวิชาบำเพ็ญ.


ภูติวิญญาณไฟสามารถนำมาใช้ได้เลย,สามารถหลอมรวมเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับศาสตราวุธได้ในทันที,ส่วนเมล็ดแห่งเปลวเพลิงนั้นจำเป็นต้องค่อยๆฝึกฝนยกระดับขึ้นไปเรื่อยๆ,ซึ่งขบวนการต่างๆนั้นจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากและเวลาในการฝึกฝน,แทบจะไม่ต่างจากการบำเพ็ญพลังยุทธ์แม้แต่น้อย.


เปลวเพลิงอเวจีในสุสานโบราณแห่งนี้ไม่มีแล้ว.

ที่ยังเหลืออยู่ก็คือเมล็ดแห่งเปลวเพลิงอเวจีหนึ่งพันปีเท่านั้น.


เปลวเพลิงอเวจีนั้นถูกสกัดกลั่นด้วยราชันย์ภูติมากว่าหนึ่งพันปี,แน่นอนว่ามันจะต้องมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกลัวเปลวเพลิงอเวจีทั่วไปแน่นอน,ทว่าด้วยความแข็งแกร่งที่มีของราชันย์ภูติแล้ว,เช่นนั้นจึงทำให้สามารถสกัดกลั่นเปลวเพลงอเวจีออกมาได้.


ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงเมล็ดแห่งเปลวเพลิงก็ตามหากเติบโตขึ้นมาก็ย่อมเหนือกว่าเปลวเพลิงอเวจีทั่วไปอย่างแน่นอน!


การบ่มเพาะเมล็ดแห่งเปลวเพลิงนั้น,จะสามารถทำให้สำเร็จได้ง่ายๆอย่างงั้นรึ?


และทรัพยากรที่ต้องใช้เองก็คงมากมายไม่ต่างจากโยนทรัพยากรลงหลุมดำเป็นแน่!


แม้ว่าจะแค่น่าพอใจก็ตามที,ทว่าก็คงดีกว่าไม่ได้อะไรเลย,โม่เหยี่ยนไม่รอช้าที่จะเข้าไปเก็บเมล็ดแห่งเปลวเพลิง.


หยุนเหยาที่กำมุกภูติวิญญาณสายฟ้ายืนอยู่อีกข้าง,สายตาทั้งสองข้างชำเลืองมองมายังโม่เหยี่ยนและฉู่เทียน,สายตาของนางนั้นถึงกับเปล่งประกาย,ตอนนี้นางมีมุกภูติวิญญาณสายฟ้าแล้ว,ทักษะในการต่อสู้ของนางนั้นเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าทีเดียว,แน่นอนว่านางมั่นใจว่าจะสามารถล้มฉู่เทียนได้.


โม่เหยี่ยนไม่ใช่ภัยคุกคาม!


ที่จริงแล้วนางควรที่จะแก้แค้นตอนนี้เลยใหม?


แน่นอนว่าฉู่เทียนนั้นไม่ใช่คนโง่,เขาโยนมุกภูติสายฟ้าไปให้กับหยุนเหยานั้น,เป็นเพราะต้องประสบกับภาวะวิกฤติ,ตอนนี้ราชันย์ภูติถูกกำจัดแล้ว,ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหยุนเหยาก็จะกลายเป็นภัยคุกคามชิ้นใหญ่.


โม่เหยี่ยนเห็นบรรยากาศที่ค่อนข้างหนักอึ้ง,ภายในใจของเขานั้นถึงกับสั่นเล็กน้อย.


ไม่ดีแน่!


หากว่าท่านหญิงอสนีบาตม่วงลงมือตอนนี้.


ถึงแม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกันก็ใช่ว่าจะสามารถต้านท้านมุกภูติวิญญาณสายฟ้าได้!


โม่เหยี่ยนจ้องมองไปยังฉู่เทียน,ในวินาทีที่ดวงตาประสานกัน,เหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจกันและกัน,หากว่าท่านหญิงอสนีบาตม่วงโจมตีใครคนใดคนหนึ่งล่ะก็,พวกเขาจะต้องร่วมมือกันขวางนางเอาไว้!


คนทั้งสามต่างเฝ้าระวังกันและกัน,แต่ละคนต่างก็จ้องมองไปยังฝ่ายตรงข้ามตาไม่กระพริบ,คิดอะไรบางอย่างในใจ,ไม่มีใครรู้ว่าคืออะไร.


ในเวลาเดียวกันนั้น,โม่เหยี่ยนนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้,พร้อมกับจ้องมองไปยังสถานที่รอบๆ,"แปลก,น้องหว่านน่าจะยังไม่ตาย,เขาหายไปใหนกัน?"


ถูกแล้ว!


หว่านอู๋ยี่หายไปใหน?


ในห้องโถงนั้นไม่สามารถเห็นร่างของหว่านอู๋ยี่เลย!


เป็นไปไม่ได้!


เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจากที่นี่ไปได้.


เขาได้ใช้เพลงกระบี่ลับวายุน้ำแข็ง,แล้วยังสามารถซ่อนตัวตนของตัวเองเอาไว้ได้อีกด้วย!


"ไม่ดีแน่!"ฉู่เทียนพบกับบางสิ่งเข้า,จ้องมองไปยังหยุนเหยา"ข้างหลังเจ้า!"


ร่างกายของหยุนเหยาสั่นสะท้าน!


นางที่เพ่งความสนใจไปที่ฉู่เทียนและโม่เหยี่ยน,กลังว่าพวกเขาทั้งคู่จะร่วมมือการในการแย่งชิงมุกภูติวิญญาณสายฟ้า,จึงละการป้องกันข้างหลังเอาไว้.


ทันใดนั้นกลิ่นอายแท่งน้ำแข็งที่รุนแรงก็ปะทุขึ้นมาก่อนที่จะทะลวงออกมาอย่างรุนแรง


เป็นจิตสังหารที่รุนแรงเป็นอย่างมาก.


หัวใจของหยุนเหยาที่สะดุ้งอย่างรุนแรง,ต้องการที่จะหลบแต่ก็ไร้ซึ่งเวลา.


ผลุ๊บบบ!


ปรานกระบี่ที่รุนแรงและรวดเร็ว,ทะลวงไปยังร่างของนาง,ทะลุผ่านด้านหน้า,โลหิตสาดกระจายพุ่งออกมาจากร่างของนางทันที!


ดวงตาคู่งามของหยุนเหยาจ้องมองกลมโต,ได้แค่เพียงรวบรวมพลังความแข็งแกร่งและพลังรักษาอย่างรวดเร็ว,ทว่าก็ไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย!


"ฮ่า ฮ่า !"


"ของข้า!ทุกอย่างมันเป็นของข้า!"


หว่านอู๋ยี่ได้แสดงความโกรธเกรี้ยวออกมา,พร้อมกับฉกมุกภูติวิญญาณสายฟ้ามาอย่างรวดเร็ว,พร้อมกับเก็บเข้าไว้ในอกเสื้อของตัวเองทันที,เขากระโดดข้ามร่างของหยุนเหยา,ทั่วทั้งใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความโลภจ้องมองไปยังฉู่เทียนและโม่เหยี่ยน.


โม่เหยี่ยนเผยสีหน้าที่ประหลาดใจเป็นอย่างมาก,"ท่านหญิงอสนีบาตม่วงนั่นเป็นคนของตระกูลหยุนในรัฐกลาง,เจ้าสังหารนางไม่หวาดกลัวหยุนเทียนเหอจะแก้แค้นรึ?"


"ชื่อหยุนเทียนเหอ,มีใครที่ไม่กลัว?อย่างไรก็ตาม,ที่แห่งนี้มีคนแค่ไม่กี่คน,แน่นอนว่าคนตายย่อมไม่สามารถพูดได้!"


โม่เหยี่ยนชำเลืองมองตาโตด้วยท่าทางตื่นตระหนก"เจ้า....."


"เจ้าก็จงตายไปซะ!"


"วายุน้ำแข็งตัดวิญญาณ!"



หว่านอู๋ยี่ได้แสดงเพลงกระบี่ลับวายุน้ำแข็ง,ทั้งนี้ร่างของเขาก็หายไปอีกครั้ง.


ภายในใจของโม่เหยี่ยนถึงกับประหลาดใจ,ชื่อมือกระบี่วายุน้ำแข็งไม่ใช่ธรรมดาจริงๆ,เพลงกระบี่ลับวายุน้ำแข็งนั้นไม่มีแม้แต่ร่องรอยหรือริ้วแสงอะไรออกมาเลย,มือสังหารระดับต้นๆของอาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้คงจะเป็นเพลิงกระบี่ดังกล่าวนี้ล่ะ.



หว่านอู๋ยี่ที่ฝึกเพลงกระบี่ลับวายุน้ำแข็งมากว่า20ปี,สามารถเข้าถึงระดับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในขั้นที่ 3 ได้แล้ว,โม่เหยี่ยน,หากว่าในสถานการณ์ธรรมดา,เขาย่อมมสามารถป้องกันการโจมตีนี้ได้แน่,ทว่าตอนนี้พลังวิญญาณที่ถูกใช้เป็นจำนวนมาก,ซ้ำยังได้รับบาดเจ็บจากการต่อกรกับราชันย์ภูติด้วย,จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะสามารถป้องกันคมกระบี่วายุน้ำแข็งได้?


"ข้าและเจ้าเป็นสหายกันมาหลายปี,เจ้าต้องการสังหารข้าเพียงแค่ปิดปากเช่นนี้นะเหรอ!"


โม่เหยี่ยนถึงกับเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว,มือทั้งสองข้างเขานั้นประทับเรียกเปลวเพลิงออกมา,เตรียมพร้อมสร้างกำแพงป้องกันร่างกายของเขาเอาไว้,เปลวเพลิงสีดำที่กำลังจะปิดร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วนั้น.


ประกายแสงกระบี่ก็ลอดผ่านช่องที่กำลังปิดเข้ามาอย่างรุนแรงและรวดเร็ว!

ดวงตาของโม่เหยี่ยนถึงกับเบิกกว้าง,ตาพล่ามัว,โลหิตสาดกระจายเจิงนองไปกับพื้น,พลังชีวิตของเขากำลังจะถูกช่วงชิงไป,เหมือนว่าหัวของเขานั้นได้หลุดออกมาจากร่างกาย!


หยุนเหยาที่นอนรวยระรินจมบ่อโลหิตอยู่.

โม่เหยี่ยนที่ถูกกุดหัวไปแล้ว.



หว่านอู๋ยี่ที่แสดงตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมา,ก้าวเข้าไปหยิบมุกภูติเปลวเพลิงอเวจี"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า,เปลวเพลิงอเวจีพันปีก็กลายมาเป็นของข้าอีกด้วย!"


เป็นชายที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก!


ฉู่เทียนประเมินเขาต่ำจริงๆ!


การที่สังหารคนอื่นเพื่อแย่งชิงสมบัตินั้น,บางทีนี่คงไม่ใช่ครั้งแรก.


สายตาที่ชั่วร้ายของหว่านอู๋ยี่ชำเลืองมองมาที่ฉู่เทียน,"เจ้าเด็กกะโปโล,ขอบคุณเจ้าจริงๆ,ที่เจ้าสังหารราชันภูติจนได้รับบาดแผลมากมายขนาดนี้,ไม่เช่นนั้นข้าคงไม่มีโอกาสถึงข้าขนาดนี้,ข้าขอบคุณเจ้าจริงๆ!ข้ายอมรับเลยว่าเจ้านั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่ข้าคาดการไว้,ทว่าตอนนี้เจ้าหมดเรี่ยวแรงแล้ว,ยังจะเอาพลังใหนมาป้องกันกระบี่ของข้ากัน?"


หว่านอู๋ยี่นั้นไม่รู้ว่าฉู่เทียนได้กินหญ้าแก่นหยวนพันปีเข้าไป,ตอนนี้พลังวิญญาณของเขาเองก็ฟื้นคืนกลับมาเกือบครึ่งแล้ว.


อย่างไรก็ตามฉู่เทียนไม่กล้าที่จะประมาทแม้แต่น้อย,ความแข็งแกร่งของมือกระบี่ชั้นหนึ่งนั้นไม่ใช่ธรรมดา,การที่ต้องพบกับคนที่เต็มด้วยเล่ห์กลและมีประสบการ,ซ้ำยังลงมือโหดเหี้ยม,สามารถที่จะสังหารคนอื่นได้ในกระบวนท่าเดียว,เขาไม่สามารถที่จะประมาทได้เลย.


"กระบี่ของข้านั้นรวดเร็ว,เจ้าจะไม่ทันจะรู้สึกเจ็บปวดใดๆเลยแม้แต่น้อย!"



"ข้าบอกเจ้าไว้ก่อนแล้วกันว่าคนที่ต้องตายภายในสุสานโบราณนั้น,วิญญาณจะถูกกักขังไว้ที่แห่งนี้,แปรเปลี่ยนเจ้าให้กลายเป็นวิญญาณร้าย,จงเพลิดเพลินไปกับชีวิตใหม่เถอะ.0..ฮ่าฮ่าฮ่า"


เพียงแค่สิ้นเสียง.


วูซซซ!


หว่านอู๋ยี่หายไปในทันที!


ราวกับสายลมที่เย็นเยือกมองไม่เห็น!


วิชาลับกระบีวายุน้ำแข็งนั้นดุร้ายรุนแรงเป็นอย่างมาก,ซ้ำการปล่อยพลังแต่ล่ะครั้งยังล่องหนไร้ร่องรอยอีก,ไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า.


เพลงกระบี่ลับของอู่ยี่นับว่าสูงล้ำที่เดียว,ไม่เพียงเท่านั้นยังมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าอีก,ไร้เสียง,ไร้ลม,นับว่าเป็นการหลบซ่อนที่สมบูรณ์แบบ,สำหรับผู้ฝึกตนทั่วไปแน่นอนว่าไม่สามารถที่จะแก้ไขหรือรับมือได้เลย.


ฉู่เทียนถอยหลังออกมาช้าๆ,ใช้หลังพิงไปที่เสาแท่งหนึ่งเอาไว้,สายตาของเขากวาดไปทั่วห้องโถง,ยืนอย่างสงบนิ่งและใจเย็น,"วิชาลอบสังหารชั้นต่ำ,ไม่ได้อยู่ในสายตาของข้าด้วยซ้ำ!"


"เป็ดตาย**ช่างดื้อรั้นเกินกว่าจะโต้แย้ง!"

{((A dead duck)” หรือเป็ดตาย ซึ่งเป็นสำนวนมะกันที่แปลว่า ตายแหง ๆ เลยหรือ เสร็จแหงแก๋หรือ ซี้บ้องเซ็ก }


"ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสเพลงกระบี่วายุน้ำแข็งที่ดุร้าย!"


เสียงของหว่านอู๋ยี่นั้นดังจากทิศหนึ่งและเปลี่ยนเป็นไปอีกทิศนึง,ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าต้นเสียงมาจากใหน,ทว่าฉู่เทียนนั้นสามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ไม่สามารถปกปิดไว้ได้,วิชาลอบสังหารเช่นนี้,บอกได้เลยว่าระดับต่ำเกินกว่าจะพูดได้!


"ตายไปซะ!"


ทันทีที่อู่ยี่เตรียมที่จะเข้าโจมตี.


"เนตรจิต!"


ฉู่เทียนที่เปิดใช้ทักษะเนตรจิต,เข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้งชัดเจน,การกวัดแกว่งกระบี่ของหว่านอู๋ยี่,ที่ด้านหลังของฉู่เทียนปรากฏรูปร่างของกระบี่โบราณที่เลือนลาง.


ผลุ๊บบบ!

ฉั๊ววว!


ทันใดนั้นประกายแสงของกระบี่สองสายก็ปรากฏขึ้นบนบนอากาศ!


ประกายแสงอันหนึ่ง,ฟันมายังกายแก้วของฉู่เทียนถึงกับทำให้มันเสียรูปทีเดียว,เสาหินด้านหลังกลายเป็นรอยแยกจากรอยฟันขึ้นมาด้วยเช่นกัน.


ส่วนอีกประกายแสงของปราณกระบี่นั้น,ได้ฟันผ่านไปยังร่างของหว่านอู๋ยี่,ฟันจากไหล่ซ้ายยาวมากถึงท้องด้านขวา.ขาดสะพายแล่งหักลงมาทันที.


ดวงตาของหว่านอู๋ยี่ถึงกับเบิกกว้างเต็มไปด้วยความหวาดกลัวขวัญหนีดีฝ่อ,ที่ปากของเขานั้นเผยอราวกับกับปลาที่ถูกโยนลงไปบนน้ำร้อน,ท้ายที่สุดร่างครึ่งหนึ่งของเขาก็หล่นลงมาบนพื้น,โลหิตพุ่งกระฉูดพวยพุ่งปุดๆๆ,เปื้อนเปรอะไปทุกหนทุกแห่ง.


ตายไปในที่สุด!


ฉู่เทียนนำมือกุมที่หน้าอกของเขาเบาๆมีรอยแผลที่เกิดขึ้นลึกเหมือนกัน,เขาไอออกมาเบาๆสองครั้ง,เห็นได้ชัดแจ้งว่าบาดเจ็บหนักเหมือนกัน,เขาเดินไปยังศพของหว่านอู๋ยี่อย่างยากลำบาก,ก่อนที่จะหยิบมุกภูติวิญญาณสายฟ้าและเมล็ดปิศาจเพลิงอเวจีออกมา.


"เพลงกระบี่ลับวายุน้ำแข็งเองก็แค่วิชาดาดๆ!"


ฉู่เทียนที่นำขวดหยกออกมา,ก่อนที่จะใช้แก่นวารีแห่งชีวิตชโลมไปยังแผลของเขา,ก่อนที่โลหิตและผิวเนื้อจะค่อยๆฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว,โลหิตที่หยุดไหลและปากแผลค่อยๆสมานกัน


โม่เหยี่ยนคงไม่สามารถช่วยเหลือได้แล้ว.


ฉู่เทียนที่ค้นร่างของโม่เหยี่ยน,ซึ่งพบว่ามีขวดยามากมาย,โม่เหยี่ยนที่เป็นอาจารย์ปรุงยา,ร่างของเขานั้นมียาน้ำอยู่มากมายอย่างแน่นอน,ทว่าจากมุมมองของฉู่เทียนแล้ว,นับว่าเป็นยาที่ค่อนข้างหยาบเป็นอย่างมาก.


โม่เหยี่ยนที่มุ่งการปรุงยาไปที่ยาพิษ,ขวดยาของเขาสิบขวดนั้นเป็นยาพิษถึงเก้าขวดทีเดียว.


ในเวลาเดียวกัน,หยุนเหยาที่ยังไม่ตายหายใจรวยระรินอย่างยากลำบาก,เพราะว่านางนั้นเสียโลหิตไปจำนวนมาก,ใบหน้าที่ขาวซีดบ่นพึมพำไปมา"หนาว...ข้าหนาวจัง...ข้ากำลังจะตายแล้วรึ?"


หยุนเหยาความฝันของนางนั้นยังไม่สำเร็จเลย.


นางที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นอย่างมาก,ทว่าไม่คาดคิดเลยว่านางจะต้องมาตายในสถานที่ที่ไม่มีคนรู้จัก.


หยุนเหยาเข้าใจได้ลึกซึ้งถึงคำเตือนปู่ของนางได้,โลกใบนี้มีอันตรายลึกล้ำเกินกว่าจะคาดเดา,ไม่ว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์ที่สูงเพียงใดคิดว่าจะใช้ประโยชน์ได้รึ?ไม่น่าสงสัยเลยว่า ตระกูลฉู่,ตระกูลลวอ,และตระกูลเย่,พวกเขาไม่ยอมให้ผู้เยาว์ที่มากพรสวรรค์ของพวกเขาออกไปหาประสบการณ์แต่เพียงลำพัง,ก่อนที่พรสวรรค์ของพวกเขาจะสุกงอมพอ,ถึงจะมีพรสวรรค์ที่สูงล้ำเพียงใดหากยังไม่พร้อมการจะหล่นลงมาจากฟ้านั้นเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งนัก.


หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ล่ะก็.


นางคงไม่แอบหนีมาอย่างแน่นอน!


ฉู่เทียนที่ประคองร่างของหยุนเหยาขึ้น,สองคู่ของนางก็ดันเสื้อออกมา,ด้วยเสื้อผ้าของนางนั้นถูกทะลวงฉีกขาด,ผิวที่ขาวราวหิมะของเทือกเขาที่สมบูรณ์แบบสองแห่ง,เผยออกมาให้เห็นจนหมด.


หากจะพูดถึงเรืองนี้ล่ะก็,แม้ว่าขนาดของนางจะยังไม่โตเต็มทีนัก,แต่ก็ถือว่าอุดมสมบูรณ์เลยทีเดียว,เพียงพอที่จะทำให้ชายหนุ่มหลายคนคลั่งได้.



โลหิตที่ไหลออกมาจากปากแผลของนาง,ทำให้คนอื่นๆเห็นแล้วคงจะทำให้ลดความสนใจลงเหมือนกัน.


หยุนเหยาเองก็มีโชคอยู่เหมือนกัน!


เพราะว่านางได้ยินคำเตือนจากเขา,ทำให้หลบเลี่ยงจุดสำคัญได้อย่างเฉียดฉิว,ดังนั้นหัวใจของนางจึงไม่ได้ถูกทะลวง,ไม่เช่นนั้นแล้วคงยังไม่รอดมาถึงตอนนี้.



หยุนเหยาที่โกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที,"เจ้ากำลังทำอะไรนะ?! ถึงข้าจะตายแล้ว.....ก็ไม่ยอมให้เจ้าลวนลามข้าหรอกนะ!"


ฉู่เทียนที่นำขวดหยก,เทลงในปากเล็กๆของหยุนเหยา,ก่อนที่จะนำอีกส่วนหนึ่งโฉลมบาดแผลของนาง.


หยุนเหยางรู้สึกอย่างชัดเจนว่าบาดแผลที่หน้าอกของนางนั้นเริ่มเย็นยะเยือบ,ก่อนที่โลหิตและบาดแผลบริเวณดังกล่าวจะค่อยๆถูกรักษาอย่างช้าๆ.


"เจ้า...."หยุนเหยางแสดงท่าทางที่ไม่อยากเชื่อ,"ทำไมเจ้าถึงช่วยข้าล่ะ?"


"ใช่แล้ว!"ฉู่เทียนที่ตบไปที่กบาลตัวเอง,"สมองของข้ามันคงมีแต่น้ำ,ทำไมต้องช่วยเจ้าด้วย?บัดซบ!เสียแก่นวารีแห่งชีวิตไปถึงครึ่งขวดโดยไร้ซึ่งประโยชน์!"


หยุนเหยาที่แทบจะบ้าพ่นโลหิตอกมา"ไม่ใช่แค่ขวดแก่นวารีแห่งชีวิตหนึ่งขวด?หากเจ้าไปที่รัฐกลาง,ข้าจะให้เจ้าสิบขวดแลยแล้วก็ถือว่าจบกัน!"


ฉู่เทียนที่แสดงท่าทางไม่อยากเชื่อ"อย่าหาว่าข้าไม่รู้นะ,ว่าเจ้าวางแผนที่จะสังหารข้านะ!"


ใบหน้าของหยุนเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง"ข้าเคยคิดที่จะสังหารเจ้า!อย่างไรก็ตาม...เจ้าช่วยชีวิตข้า,บุณคุณและความแค้นถือว่าหายกัน!"


"ให้มันหายกันไปอย่างรึ?"


"หากเจ้ายังไม่หยุดเอาเปรียบข้าอยู่ล่ะก็ข้าจะสังหารเจ้าซะ!"


"ก็ได้,ข้าจะเชื่อเจ้า!"ฉู่เทียนที่นำมือข้างหนึ่งของเขาออกมาจากอกที่ขาวและใหญ่โตของนาง.


หยุนเหยาเร่งรีบดึงเสื้อผ้ามาปิดมันไว้,ท้ายทีสุดแล้วนางก็พบว่านางรู้สึกเศร้าโศรกและขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก,เสื้อฟ้าของนางนั้นถูกฉู่เทียนฉีกออกมาเป็นชิ้นๆ,จนไม่สามารถที่จะนำมาปกปิดของสงวนด้านหน้าของนางได้เลย,จนนางต้องนำมือทั้งสองข้ามาปิดมันเอาไว้,นางโกรธเกรี้ยวจ้องมองเขม็งไปยังฉู่เทียน"เจ้าจะมองไปถึงใหนกัน!"


"ก็ไม่เท่าไหร่,ข้าเคยเห็นที่ใหญ่กว่านี้มาแล้ว!"ฉู่เทียนที่หัวเราะคริ คริ,ที่ได้ทำให้หยุนเหยาเดือดดาลจนต้องขบฟันแน่น,ก่อนที่เขาจะถอดเสื้อนอกให้กับนางได้คลุมร่างเอาไว้,"ของสิ่งนี้เจ้ารับเอาไว้เถอะ!"


หยุนเหยาที่แสดงท่าทางตื่นเต้นดีใจ,ราวกับว่าได้ค้นพบเข้ากับสมบัติล้ำค่าก่อนที่นางจะกุมมันเอาไว้,"เจ้าให้ข้าจริงๆรึ?"


"ให้กับเจ้ารึ?ข้าให้เจ้ายืมไปใช้ก่อน,ข้าต้องการให้เจ้าช่วย!ข้าไม่สามารถใช้มันได้,อยู่ในมือของเจ้า,จะสามารถช่วยข้าได้มากกว่า!"


ต้องการให้ช่วยรึ?


งั้นยืมมาใช้สัก 100 ปีก็แล้วกัน!


สมบัติอยุ่ในมือข้าแล้ว,เจ้าคิดเหรอที่ข้าจะได้มันกลับคืนไป!


หยุนเหยาที่ถูมุกภูติวิญญาณสายฟ้าเอาฝู่นควันออก,ก่อนที่มันจะส่องประกายสดใส,นางที่ต้องเข้าร่วมเสี่ยงภัยในครั้งนี้,เพราะนางได้ยินมาว่ามีมุกภูติวิญญาณสายฟ้าที่ถูกฝังเอาไว้ภายในสุสานโบราณแห่งนี้.


นางสามารถได้มันมาครอง,ปู่ของนางจะต้องประหลาดใจแน่นอน!


ที่จริงแล้วฉู่เทียนต้องการที่จะทดสอบหยุนเหยา.


หากว่าหยุนเหยาได้รับมุกภูติวิญญาณสายฟ้าแล้ว,หากนางมีจิตสังหารส่งออกมาแม้แต่นิดเดียว,ฉู่เทียนย่อมไม่อภัยนางแน่,และจะสังหารหญิงสาวคนนี้ในทันที.


ด้วยระยะตอนนี้,เขาไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอน.


จากท่าทางที่หยุนเหยาแสดงออกมา,นางเต็มไปด้วยท่าทางประหลาดใจและดีใจ,ไม่มีอารมณ์อื่นเลย,ฉู่เทียนเองก็ค่อนข้างเบาใจเหมือนกัน.


มุกภูติวิญญาณสายฟ้าเป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ,ช่างน่าเศร้าที่ฉู่เทียนไม่สามารถที่จะใช้ได้,และก็เกรงว่าจะไม่มีคนอื่นใช้ได้เช่นกัน,เช่นนั้นแล้วคงต้องมองหาอาวุธชิ้นที่สามในสุสานโบราณแห่งนี้แทน.


ราชันย์ภูตนั้นแข็งแกร่งยากที่จะจัดการได้!



ราชันย์ศพทมิฬเองคงจะยากและเสี่ยงกว่าสิบเท่าเป็นอย่างน้อย!


จริงๆแล้วเขายังไม่รู้เลยว่าจะจัดการกับตัวตนที่ทรงพลังเช่นนั้นได้อย่างไร!



พูดไปแล้วฉู่เทียนก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย,ทว่าถึงจะเสียใจก็ไม่ทำให้สายน้ำไหลย้อนกลับได้,เขาได้รับปากชายชราหน้ากากผีแล้ว,การจะหลบหนีภาวะวิกฤตินั้นไม่ใช่นิสัยของเขาเลย.


หยุนเหยาเองก็ไม่ได้อ่อนแอ,ซ้ำยังมีมุกภูติวิญญาณสายฟ้า,การจะจัดการกับราชันย์ภูติจะต้องเพิ่มโอกาสสำเร็จขึ้นมาได้แน่.


หยุนเหยาเองไม่เข้าใจในตัวของฉู่เทียนมากขึ้นและก็มากขึ้น"จะให้เรียกเจ้าว่าอย่างไร?"


"ลู่เร็น."


"คนพเนจรรึ?"ดวงตาของนางถึงกับกลมโต,นางคิดว่าเขาคงจะมีชื่อเสียงพอสมควร,จริงๆแล้วก็นับว่าเป็นชื่อที่ดี"เมื่อกี้ข้าเห็นเจ้าที่กำลังสังหารหว่านอู๋ยี่,เห็นได้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเจ้า,เหมือนว่าเจ้าใช้....ทักษะเนตรจิต?"


ฉู่เทียนที่กำลังเก็บมุกปิศาจ,กล่าวออกมาอย่างไม่แยแส"อืม,เป็นเนตรจิต!"


ทั่วทั้งร่างของหยุนเหยาถึงกับสั่นสะท้าน.


นางที่รู้สึกบีบรัดและขมขื่นเล็กน้อย.


นางที่คิดมาตลอดว่านางคือหนึ่งในคนที่มีพรสวรรค์ที่สุด,จนกระทั้งตอนนี้ที่นางมาพบเขาที่เป็นเพียง คนพเนจร การที่นางบอกว่านางเป็นอัจฉริยะนั้นเป็นช่างเป็นเรื่องที่น่าขันยิ่งนัก!


ทักษะเนตรจิต!


เป็นทักษะในฝันของปู่ของนางเลย!


คนพเนจรไร้แซ่คนนี้กับมีมัน!


หยุนเหยาไม่อยากเชื่อเลย,ด้วยความคิดของนางตอนนี้,ภูติวิญญาณสองตน,ไม่เพียงแค่มีทักษะเนตรจิต,ยังมีวิชาบำเพ็ญพลังป้องกันที่ทรงพลัง,มันทำให้หยุนเหยาเองรู้สึกต้อยต่ำเป็นอย่างมาก.


"ฮะ?สถานที่แห่งนี้ทำไมถึงได้เรียกว่าตำหนักทมิฬล่ะ!"


"มาช่วยข้าสิ!"


ทันใดนั้นฉู่เทียนที่ได้พบเข้ากับประตูลับ,ก่อนที่พวกเขาทั้งคู่จะใช้กำลังเปิดประตูเข้าไป,เมื่อประตูลับได้เปิดขึ้นมา,พวกเขาทั้งสองถึงกับตื่นตะลึงทีเดียว.


ไม่ธรรมดา.


เพราะว่ามันผ่านเวลามาเนิ่นนานแล้ว,มีศาสตราวุธและวัตถุดิบอื่นๆมากมายที่ไม่ได้ทะนุถอมมาเป็นเวลานาน,แน่นอนว่ามันจะต้องเสียหายเป็นธรรมดา,ยกเว้นมีสิ่งหนึ่ง....


ฉู่เทียนถึงกับเกาศีรษะไปมา.


บนบัลลังก์ที่สูงขึ้นไปภายในห้องโถง,มีกระบี่ยาวเล็มหนึ่งที่ถูกผนึกเอาไว้.


แม้ว่ามันจะผ่านมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว.


ถึงกระนั้นกลับไม่มีฝุ่นจับมันเลยแม้แต่น้อย!


กระบี่ที่มีความยาวสามฟุต,ดูราวกับหยกผลึกน้ำแข็งที่งดงาม,ถูกปกคลุมไปด้วยอักษรรูนมากมายที่ลึกล้ำ,กลิ่นอายที่ทรงพลังและโบราณได้แผ่ออกมา,ส่งผ่านหมุนวนอยู่รอบๆใบดาบ.



หยุนเหยาที่บ่มพึมพำ,"นี่มันกระบี่โบราณ......"


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

5 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ มันส์มากจริงๆ

    ตอบลบ
  2. หวังว่าคุ้มกันกับที่ลงทุน...

    ตอบลบ
  3. เก็บค่ารักษา และช่วยชีวิตซะเกือบคุ้ม ทั้งมอง ทั้งคลำ
    ว่าแต่สองตัวประกอบตายไวมาก

    ตอบลบ
  4. ฮาเร็มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ