วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 54 Interrogation

Miracle Throne Chapter 54 Interrogation

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 54 สอบสวน


บทที่ 54 สอบสวน




ชายอ้วนหัวล้านวัยกลางคนเดินออกมาจากฝูงชนอย่างสุขุม.

ชายคนนี้มีจมูกโตและงุ้มเข้าหากัน,พร้อมกับดวงตาที่คมกริบเหมือนเหยี่ยว,ทั่วทั้งร่างของเขานั้นมีกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวอยู่,แม้ว่าจะไม่สามารถเทียบได้กับหนานกงอี้,ทว่าก็เพียงพอที่จะต้านทานพลังอำนาจของหนานกงอี้ได้!


ผู้ฝึกตนดินแดนปลุกดวงจิตวิญญาณ!


หนานกงอี้ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อนเล็กน้อย!


เป็นใครกันที่มาปรากฏกายในที่แห่งนี้?



รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ของลวอ ยวันซาน,พร้อมกับล้วงเอาป้ายหยกสีขาวออกมาจากอกเสื้อ,พร้อมกับยกออกมาประกาศเสียงดัง"ผู้ตรวจการของเมืองหลวงผู้อาวุโสของกระทรวงกฎหมายแห่งราชอาณาจักร,ผู้เฒ่าลวอ ยวันซานอยู่ที่นี่แล้ว!"


คนที่มีอำนาจของทางการจากเมืองหลวง!


ผู้ตรวจการจากรัฐกลางถึงกับเดินทางมาจากรัฐกลางเพื่อโต้แย้งกับท่านเจ้าเมืองเลยเหรอ,เจ้าหน้าที่ทางการทหารและเจ้าหน้าที่บริหาร,นับว่าเป็นมวยถูกคู่เลยก็ว่าได้.


ลวอ ยวันซานยังคงประกาศออกมาเสียงดัง,"หนานกงอี้ขัดขืน,เข้าแทรกแซงเรื่องของภายในตระกูลฉู่,ทำผิดกฎหมายของราชอาณาจักร,ข้าผู้อาวุโสตรวจการไม่สามารถทนดูอยู่ได้,ขอให้ประกาศแก่ท่านเจ้าเมืองหยุดการกระทำดังกล่าวทั้งหมด,พร้อมกับรอรับการไต่สวนเรื่องนี้จนกว่าเรื่องดังกล่าวนี้จะชัดเจนแจ่มแจ้ง!"


ใบหน้าของหนางกงอี้ถึงกับมืดมนดูลังเลใจ.


ลวอ ยวังซานกล่าวอย่างมั่นใจ"จ้าวเมือง,คำพูดของข้าชัดเจนแล้วนะ!ขอให้ท่านออกไปจากการต่อสู้นี้ให้เร็ว,อย่าทำให้ทุกคนต้องเสียเวลาเลย!"


ตำแหน่งผู้ตรวจการของเมืองหลวงนั้นมีอำนาจเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง,ด้วยสถานะของหนานกงอี้ดูจะไม่เอื้ออำนวยเท่าใดนัก,หากว่าผู้ตรวจการเมืองหลวงคนนี้มีข้ออ้างในการสร้างปัญหาให้เขาล่ะก็,บางทีตำแหน่งจ้าวเมืองของเขาอาจจะไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้.


หนานกงอี้ยังจะกล้าเคลื่อนไหวอย่างงั้นรึ?


หนานกงอี้ตระหนักได้ว่านี้เป็นแผนการร้าย"เจ้ามีแผนการจะทำอะไร?"


"มันไม่ใช่ปัญหาของท่านที่เป็นจ้าวเมืองไม่ถูกรึ?"ลวอ ยวันซานที่แสดงท่าทางว่าเต็มไปด้วยความชอบธรรม,"เรื่องของตระกูลฉู่,ท่านไม่มีสิทธิจัดการ,ข้าเองก็ไม่มีสิทธิ์ด้วย,เรื่องทั้งหมด,ควรจะต้องเป็นคนของตระกูลฉู่จัดการกันเอง."


ฉู่อี้กล่าวเสริม,"ความผิดที่ทรยศตระกูลนั้น,ยังพอทำเนา,แต่นี่นอกจากจะทรยศตระกูลแล้วยังขโมยเทคโนโลยีลับของตระกูลมาด้วย,เช่นนี้ต้องสับเป็นหมื่นๆชิ้น,แล้วโยนร่างให้มดรุมกัด,เพื่อเกียรติยศของตระกูลฉู่!"


"ได้ยินแล้วใช่ใหม?"ลวอ ยวันซานแค่นเสียง,โบกมือไปมาอย่างนุ่มนวล"มองอะไรกันอยู่?ไปลากเจ้าโจรชั่วนั่นมาให้ข้า!สับร่างมันให้แหลกเป็นชิ้นๆ,โยนศพให้แมลงเจาะจะได้สาสมกับความผิดของมัน!"


เมิ่งหยิงหยิงถึงกับกับกำหมัดเล็กๆของนางแน่นด้วยความไม่พึงพอใจ!


พวกเขาไม่เพียงแต่กล่าวหาฉู่เทียน,พร้อมทั้งยังจะสังหารฉู่เทียนอย่างโหดร้ายทารุณกรรมเลยรึ?


เมิ่งหยิงหยิงไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้กล่าวอะไรออกมา,เหล่าคนที่อยู่รอบต่างกระทืบพื้นเสียงดังสั่นสะเทือนไปหมด.


ชุดคลุมของหนานกงอี้กำลังโบกสะบัดอย่างสุขุม,เปลวเพลิงพลังวิญญาณที่ลุกโชนพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของเขา,พลังวิญญาณของเขานั้นเป็นเพลิงที่หนาแน่นรุนแรงเป็นอย่างมาก,ความร้อนที่แพร่ออกมานั้นรุนแรงเหลือเกิน,ปกคลุมทะยานออกมาหลายร้อยเมตร.


ตูมมมมม!


ภูติวิญญาณภูเขาไฟปรากฏออกมาช้าๆ!


ปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกมา.


พลังทำลายที่รุนแรงเริ่มกัดกร่อนพื้นที่รอบๆให้ร้อนขึ้นจนหลอมละลาย,ราวกับว่าเป็นภูเขาไฟพันปี,ที่กำลังจะปลดปล่อยและปะทุขึ้นมาในวันนี้.


หลัว ยวังซาน รู้สึกตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก,ถึงกับถอยหลังออกมาหลายก้าว,ที่หน้าผากของเขานั้นมีเหงื่อผุดออกมาหลายเม็ด,"หนานกงอี้,เจ้าต้องการที่จะล่วงเกินผู้ตรวจการของราชสำนักรึ?เจ้าต้องการให้ตำแหน่งของเจ้าจะหลุดลอยไปอย่างงั้นรึ?!"


หนานกงอี้แค่นเสียงออกมาหลายครั้ง,"ก็ดีถือว่าข้าไม่ใช่เจ้าเมือง!ตราบใดที่ข้าหนานกงอี้อยู่ที่นี้,อย่าหวังเลยว่าจะสามารถข่มเหงรังแกเป็นอันธพาลทำตามอำเภอใจตัวเองได้!"


คุณค่าของฉู่เทียนนั้นเหนือยิ่งกว่าตำแหน่งจ้าวเมืองของเขาอีก.


ถึงแม้ว่าฉู่เทียนจะไม่สอนวิชาสัมผัสศักดิ์สิทธ์ให้กับเขาก็ตามที,หนานกงอี้ยังต้องการปกป้องฉู่เทียนอยู่ดี!


ลวอ ยวันซานเองก็ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมาข่มเช่นกัน,แต่ก็ยังอ่อนด้อยกว่าหนานกงอี้"หนานกงอี้!เจ้าเป็นถึงจ้าวเมือง,กับละเลยกฎหมายของอาณาจักร,จงสำนึกรับความผิดซะ!"


"ปรารถนาจะใส่ร้ายคนอื่นกันอยู่แล้ว,ยังมีหน้าหาข้ออ้างอยู่อีกรึ?"พลังวิญญาณที่มากมายของหนานกงอี้นั้นยิ่งมากขึ้นและก็มากขึ้น,เต็มไปด้วยรังสีการฆ่าฟันที่รุนแรง"ผู้อาวุโสของตระกูลลวอ อันกระจ้อยร่อย,คิดจริงๆรึว่าข้าจะเห็นเจ้าอยู่ในสายตานะ?ข้าจะสังหารเจ้าซะ,กฎหมายของแคว้นนี้จะสามารถจัดการข้าได้หรือไม่?"


กฏทุกอย่างในโลกนี้,ผู้มีพลังเท่านั้นถึงจะเป็นผู้กำหนด!


หนานกงอี้ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่เคารพกฎหมาย.


เขาเพียงแค่ใช้วิธีการที่รุนแรงเท่านั้น!


เขาไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย,จะต้องรับประกันความปลอดภัยให้กับฉู่เทียน!


ลวอ ยวันซานไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นเช่นนี้,แผนการทั้งหมดที่พวกเขาคิดเอาไว้,จะต้องทำให้หนานกงอี้ประสบกับสถานการณ์ยากลำบาก่อน.


ใครจะคิดล่ะว่าหนานกงอี้เพื่อเจ้าเด็กบัดซบนั่น,ถึงกับไม่สนใจในตำแหน่งเจ้าเมืองเลยรึ?


ฉู่เทียนที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น,ที่มุมปากของเขาก็ยกขึ้นเผยยิ้มอย่างไม่แยแส,ท่าทางของเย่ซ่ง,รวมถึงวิธีการต่างๆที่เขาใช้,ล้วนแล้วแต่อยู่ในการคำนวณของฉู่เทียนแล้ว.


ฉู่เทียนหลังจากที่การชุมนุมนั้นจบลง,เขาก็ได้เตรียมตัวพร้อมตลอด.


พวกตาเฒ่าตาแก่เอ้ยต้องการต่อสู้กับข้ารึ?


มันยังห่างชั้นนัก!


หนานกงหยุนหัวเราะสะใจ,"เยี่ยมมากมาย!นี่สิพ่อข้า!"


ลวอ ยวันซานไม่สามารถถอยได้แล้ว,ดังนั้นตัดสินใจเดินหน้าต่อ"จ้าวเมืองจงใจขวางการจับกุมโจรผู้ร้าย,ทำผิดกฎหมายของราชอาณาจัก,ข้าเป็นผู้อาวุโสดูแลกฏ,จะปกป้องคุ้มครองความยุติธรรม,เป็นตัวแทนของอาณาจักรจัดการเรื่องนี้เอง!"


"ดี!"

"ผู้อาวุโสช่างเต็มไปด้วยความยุติธรรมจริงๆ!"


"พวกเราจะช่วยท่านอีกแรง!


คนหลายคนได้โผล่หน้าออกมาในทันที,เย่ซง,ถูเจิ้นเทียนและหลีซางหยุน,ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นตัวตนในระดับสูงของเมืองแห่งนี้,ต่างพร้อมใจกันล้อมรอบหลังหนานกงอี้พร้อมๆกัน.


เหล่าผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตวิญญาณเข้าร่วมกันจัดการจ้าวเมืองอย่างงั้นรึ?


เหล่าคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างตื่นตะลึงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว!


หนานกงอี้เผยยิ้มออกมาเพื่อเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนดินแดนปลุกดวงจิตรที่กำลังโกรธเกรี้ยว,"ก็ดี!มาเริ่มกันเลย,ไม่ต้องบอกหรอกนะว่าเจ้าเมืองคนนี้จะสู้พวกเจ้าไม่ได้! เข้ามาพร้อมกันเลย!"


"ท่านเจ้าเมืองต่อสู้เพื่อความยุติธรรม,ชายแก่คนนี้จะช่วยเหลือท่านเอง!"ซ่างหลีซิงเหินกระโจนลงมาอย่างนุ่นนวล,เขาบินข้ามมาราวๆสิบเมตรก่อนที่จะมาอยู่ข้างหนานกงอี้,ที่ด้านหลังของเขานั้นปรากฏเงาของปีกเยี่ยวสีเขียวขนาดใหญ่ยักษ์โผล่ขึ้นมา.


กรีกกกก!


เสียงคำรามของเหยี่ยว,ดังบาดแก้วหู!


พลังวิญญาณสีเขียวรวมตัวกันขึ้นเป็นรูปร่างของเหยี่ยวขนาดมหึมา,เสียงคำรามนั่นดังไปถึงสวรรค์ชั้นฟ้า,ราวกับกำลังเหยียดหยันสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอยู่,พลังกดดันวิญญาณมหาศาล,ปกคลุมไปทั่วตลอดทั้งคนที่อยู่ในเหตุการณ์,จิตสังหารที่แหลมคน,ต่างทำให้ทุกคนถึงกับตื่นตระหนกไปตามๆกัน.


พลังของหนานกงอี้เต็มไปด้วยพลังความรุนแรงเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว"เจ้าต้องการสู้!ข้าก็จะสู้!เมืองเทียนหนานถึงจะมีขนาดเล็ก,จะมีใครที่ทำให้ข้าต้องหวั่นเกรง!"


เรื่องเพียงเล็กน้อยของฉู่เทียนเป็นเหตุให้เหล่าผู้ฝึกตนดินแดนปลุกดวงจิตเข้าต่อสู้กันเลยอย่างงั้นรึ?


พลังของผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต นั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,หากพวกเขาต่อสู้กันล่ะก็,พื้นที่รอบๆคงจะพังทลายย่อยยับเป็นผุยผงอย่างแน่นอน.


หนานกงอี้และซ่างหลีซิง,ทั้งสอง,มีพลังเหนือล้ำเกินกว่าธรรมดา,โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนานกงอี้,พลังฝึกตนของเขานั้นล้ำลึกเป็นอย่างมาก,พลังทำลายของภูติวิญญารภูเขาไฟนั้นมากมายมหาศาล,เกินกว่าที่จะคาดถึงได้.


ที่จริงแล้วรอบๆบริเวณแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่อยู่อาศัย!


พลังของภูติภูเขาไฟนั้น,มีพลังทำลายที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก,เพียงแค่ปลดปล่อยออกมาเล็กน้อย,ก็เพียงพอที่จะทำให้คนบริสุทธ์ได้รับบาดเจ็บมากมายแล้ว,จากที่พวกเขาคิด,หนานกงอี้คงไม่สามารถปล่อยพลังออกมาได้อย่างเต็มที.


พลังฝึกตนของซ่างหลีซิงเองก็ไม่ใช่ธรรมดาเลย,หากทั้งคู่ร่วมมือกันแล้วถึงคู่ต่อสู้จะมีกันถึงสี่คนก็ยากที่จะคาดเดา!


เมื่อพวกเขาต่อสู้กันจริงๆแล้ว,ทุกหนทุกแห่งคงจะย่อยยับลงไปในพริบตา.


เมิ่งชิงอู่และน้องสาวอดไม่ได้เลยที่จะหวาดหวั่นอยู่เล็กน้อย.


คงจะไม่สามารถที่จะควบคุมพวกเขาในครั้งนี้ได้.


พลังความแข็งแกร่งระดับสุดยอดหากปะทะกันภายในเมืองเทียนหนานแห่งนี้,สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ยากที่จะจินตนาการถึง.


เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้,สำหรับหอการค้าปาฏิหาริย์,สำหรับฉู่เทียน,มันไม่ไช่เรื่องดีเท่าไหร่


ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร?


สถานการณ์ตอนนี้ดูเลวร้ายเป็นอย่างมาก!


เสียงที่ดูเอื่อยเฉื่อย,ก็ถูกส่งผ่านออกมาอย่างพอเหมาะพอเจาะ,"ท่านจ้าวเมือง,ทำไมต้องโกรธเกรี้ยวขนาดนั้นเล่า?ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร!ถอยก่อนๆ,เดียวพวกท่านทั้งสองจะกลายเป็นผู้ร้ายเอา."


ทั้งที่ความขัดแย้งทั้งหมดมาจากฉู่เทียน.


สำนึกสักเล็กน้อยไม่มีเลยรึไง!


หนานกงอี้แทบจะเต็มไปด้วยความสับสน,พวกคนเหล่านั้นกำลังจะหั่นฉุ่เทียนเป็นชิ้นๆ,ชายคนนี้ไม่สนใจเรื่องดังกล่าวเลยเหรอ,คิดว่าตัวเองมีกี่ชีวิตกัน?


ทุกคนต่างจับตามองเป็นจุดเดียว.


ฉู่เทียนที่เดินเอื่อยเฉื่อยโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเข้ามาตรงกลางวง,หันหน้าจ้องมองฉู่อี้และพรรคพวก,ที่กล่าวหาว่าเขาเป็นคนทรยศและขโมยเทคโนโลยีมา,จนทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ออกมาในรูปแบบนี้..."


ฉู่เทียนเผยยิ้มที่ไม่ยินดียินร้าย."ข้า,เป็นคนของตระกูลฉู่จริงๆรึ?"


ทุกคนต่างตื่นๆตกใจไปตามๆกัน!


คำพูดเหล่านั้นหมายถึงอะไรกัน?


เป็นไปได้ด้วยเหรอที่ฉู่อี้จะจำคนผิดไปนะ?


ฉู่อี้กล่าวออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว"เจ้าไม่ใช่คนตระกูลฉู่แล้วเกิดมาจากหินรึอย่างไร!"


"ที่เจ้ากล่าวออกมานั้นมีหลักฐานอย่างงั้นเหรอ"ฉู่เพียงเผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์"หลักฐาน?ช่วยนำเอกสารชาติวงศ์(ทะเบียนบ้าน)ออกมาด้วย,ประกาศให้ทุกคนรับรู้!หากว่าข้าฉู่เทียนมีชื่อในเอกสารชาติวงศ์นั่นข้าจะยอมให้เจ้าจับตัวข้าไปเลย,ว่าอย่างไร?"


"เอกสารสำคัญขนาดนั้นนั่น!จะนำชื่อไอ้คนสารเลวเช่นเจ้าบันทึกลงในเอกสารชาติวงศ์ให้แปดเปื้อนได้อย่างไรกัน!"



"แปลกไปแล้วมั้ง,ในเมื่อไม่ใส่ชื่อข้าลงไปในเอกสารชาติวงศ์,แล้วข้าจะเป็นคนของตระกูลฉู่ด้วยรึ?ในเมื่อพวกเจ้าไม่เคยนับข้าให้อยู่ในเอกสารชาติวงศ์แล้ว กลับบอกว่าข้าทรยศตระกูล!นั่นก็หมายความว่าข้าไม่ใช่คนของตระกูลฉู่,แล้วมีสิทธิอำนาจใดที่จะใช้กฏของตระกูลฉู่ลงโทษข้า!"


ข้อสังเกตดังกล่าวนี้.


ทุกคนต่างก็เพ่งพิศจ้องมองพร้อมๆกัน.


ระบบทะเบียนราษฎรของแต่ละตระกูลในทวีปแห่งนี้เข้มงวดเป็นอย่างมาก,จะหญิงหรือชายถ้าเกิดมา,ไม่ว่าจะเป็นตระกูลสาขาก็ตาม,จะต้องลงทะเบียนในเอกสารชาติวงศ์ให้เรียบร้อย.


ราชอาณาจักรอนุญาตให้แต่ละตระกูลมีกฏของตัวเอง,ทว่าจะต้องอยู่ในขอบเขตของกฏหมายของราชอาณาจักร,ไม่เช่นนั้นแล้วยังจำเป็นต้องมีกฎหมายของราชอาณาจักรอยู่รึ?กฎหมายของตระกูลนั้นจะต้องครอบคลุมเฉพาะคนของพวกเขา,เป็นขอบเขตส่วนตัว,ดังนั้นคนที่อยู่นอกเอกสารชาติวงศ์จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกฏของตระกูลพวกเขานั่นเอง.

คนๆใดที่ไม่ได้อยู่ในเอกสารชาติวงศ์,ย่อมไม่ผูกพันเกี่ยวกับทรัพยากรและกฏของตระกูลโดยอัตโนมัติ,พวกเขาจะไม่มีศักดิ์ฐานะอะไรในตระกูลนั้นๆ ,ไม่สามารถที่จะฝึกฝนวิชาบำเพ็ญพลังของตระกูลนั้นด้วย,หากอาศัยอยู่โดยไม่ถูกบรรจุชื่อในเอกสารชาติวงศ์ก็จะเป็นเพียงผู้อาศัยเท่านั้น.


ในเมื่อไม่ได้เป็นสมาชิกอะไรในตระกูลเลย.


แน่นอนว่าย่อมไม่สามารถยอมรับกฏของตระกูลดังกล่าวได้.


การไม่ใส่ชื่อเขาในเอกสารชาติวงศ์,ตระกูลนั้นย่อมไม่รับรองเขา,แล้วยังจะนับว่าเขาเป็นคนของตระกูลฉู่อยู่อีกรึ?,ในเมื่อไม่ใช่คนของตระกูลฉู่,แน่นอนว่าเรื่องทุกอย่างต้องเปลี่ยนไป!


เย่ซ่งไม่คิดเลยว่าฉู่เทียนนั้นจะเขี้ยวลากดินจริงๆ "เจ้าทำให้สาธารณชนสับสน!"


ฉู่อี้แทบบ้าคลั่งด้วยความโกรธ."อย่างน้อยที่สุดสิ่งที่เจ้าได้รับจากในตระกูล,ภายในร่างของเจ้านั้นก็มีโลหิตของตระกูลฉู่อยู่,ตระกูลฉู่นั้นเลี้ยงดูขยะอย่างเจ้ามากว่าสิบปี,เจ้ากลับกล้ากล่าวคำพูดที่เนรคุณเช่นนี้รึ?เจ้ามันไร้หัวใจ,สารเลวบัดซบ!"


ชุบเลี้ยงเขามาสิบปีอย่างงั้นรึ?


คุมขังเขามากว่าสิบปีถึงจะถูกต้อง!


แม้ว่าความทรงจำส่วนนั้นจะหายไปแล้ว,ทว่าฉู่เทียนยังรู้สึกได้ว่าสิบปีที่ผ่านมานั้นคงไม่ต่างจากหมูจากหมาเท่าไหร่นัก!


บิดาของเขานั้นอดทนต่อการข่มเหงรังแกจนไม่สามารถทนได้,ดังนั้นจึงได้นำฉู่เทียนหนีมา,ท้ายที่สุดก็ถูกจับ,พร้อมกับถูกทำให้เป็นทาส.


ฉู่อี้ยังกล่าวหาเขาด้วยเรื่องที่ต่างออกไป,"เจ้าได้ขโมยความลับตกทอดของตระกูลฉู่,นี่ก็เพียงพอให้สับเจ้ากลายเป็นหมื่นๆชิ้นแล้ว!"


"บอกว่าข้าขโมยเทคโนโลยีมา,แล้วหลักฐานล่ะ?"ฉู่เทียนจ้องมองไปยังใบหน้าที่บิดเบี้ยวของฉู่อี้ที่ดูราวกับท้องผูก,พร้อมกับส่ายหน้าไปมา"อย่าได้แสดงความโง่เง่าให้กับทุกคนอีกต่อไปเลย,สมองเท่าเม็ดถั่ว,คงมีแต่คนโง่เท่านั้นละที่จะเชื่อ!"


ฉู่อี้ยังคงจิกกัดไม่ปล่อย"เจ้าอย่ามาเล่นลิ้นสำบัดสำนวน!"


ฉู่เทียนเงยหน้าขึ้นหัวเราะเสียงดัง,ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวสอบถามออกมาเสียงดัง.


"ข้าขอถามเจ้าสักคำถาม!"

"ตระกูลฉู่ประดิษฐ์หลอดไฟพลังเวทย์,ประดิษฐ์หม้อพลังเวทย์,ผ่านมากว่าครึ่งปีแล้วกลับไม่นำออกมาใช้งาน,กลับเป็นตัวข้าที่เปิดเผยต่อสาธารณะชนเมืองเทียนหนานเป็นที่แรกอย่างงั้นรึ?ไม่ใช่ว่าคนของตระกูลฉู่นั้นไม่เอาถ่านเลยรึอย่างไร?"


"ตระกูลฉู่ที่มีเทคโนโลยีที่ล้ำค่าถึงขนาดนั้น,ทำไมถึงปล่อยให้คนที่ไร้ค่าไร้ราคาไม่มีชื่อในเอกสารชาติวงศ์,ซ้ำยังไม่มีพลังฝึกตนใดๆเลยขโมยออกมาได้อย่างงั้นรึ?นอกจากขโมยมาแล้วยังผ่านมาอีกครึ่งปี,ไม่คิดจะทำอะไรเลยรึอย่างไร?ตระกูลฉู่นี่ช่างโง่เง่าไร้สมองจริงๆ?"


"หากว่าข้าขโมยเทคโนโลยีตกทอดของตระกูลฉู่มา,ในเมื่อตระกูลฉู่พบข้าเข้าแล้ว,เรื่องที่ใหญ่โตถึงเพียงนี้,ทำไมถึงไม่ได้มีท่าทีอะไรเลย,กับส่งผู้เยาว์อ่อนหัดมาจัดการเรื่องนี้อย่างนั้นรึ?หรือว่าตระกูลฉู่นั้นตายห่ากันไปหมดแล้ว?"


"เจ้าจงตอบคำถามเหล่านั้นข้าด้วย!"


"ทำไม!"


คำถามทั้งหมดนั้น.


แทงเข้าจุดเจ็บของพวกเขา!


แต่ละจุดนั้นเข้าเป้าอย่างจัง!


ทุกคนที่ได้ยินความจริงถึงกับรู้แจ้งขึ้นมาทันที,เรื่องนี้ความจริงแล้วมันไม่ชอบมาพากลเป็นอย่างมาก,ทว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นใหญ่โตทันทีทันใด,พวกเขาทุกคนจึงไม่ได้คิดอย่างระเอียดถี่ถ้วน,นอกเหนือจากความโกรธเกรี้ยวแล้ว,พวกเขายังถูกชักจูงด้วยอารมณ์


เย่ซ่ง,ลวอ ยวันซานและถูเจิ้นเทียนถึงกับหน้าสลดเลยทีเดียว.


ไม่มีคำพูดโต้แย้งแม้แต่น้อย!


เหตุผลดังกล่าวนี้ถูกจัดฉากให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว,นั่นเพราะพวกเขาไม่ต้องการที่จะให้เวลาฉู่เทียนได้แก้ตัว,พวกเขาต้องการที่จะโจมตีอีกฝ่ายด้วยกำลังแบบสายฟ้าแลบ,ไม่ปล่อยให้กล่าวโต้แย้งเลยแม้แต่น้อย.


เย่ซ่งเข้าใจในตัวหนานกงอี้แล้วว่าทำไมถึงให้ความสำคัญต่อฉู่เทียนเป็นอย่างมาก.


ดูถูกทักษะต่อรองของฉู่เทียนไม่ได้จริงๆ!


ตลกร้ายจริงๆ,บิดาผู้นี้มาจาก 30,000 ปีหลังจากนี้,เป็นเทพปราชญ์ที่เยาว์ที่สุดในทวีป,ปกติไม่มีปัญหาที่จะล่อเหยื่อให้มาติดกับอยุ่แล้ว,ข้าถนัดในการโต้เถียงกับพวกไดโนเสาเก่าคร่ำครึอยู่แล้ว,คนเหล่านี้คิดอย่างงั้นรึที่จะเทียบข้าได้?ไร้เดียงสาไปแล้ว!


ฉู่อี้ถึงกับลิ้นจุกปากด้วยความตกใจ.


เย่ซ่งที่เห็นสถานะการไม่ค่อยดีแล้วจึงได้กล่าวออกมาว่า"เจ้าคนชั่วช้าเล่นลิ้นจริงๆนะ,เจ้าคิดว่าบิดเบือนความเป็นจริงแล้วจะหลอกคนอื่นๆได้อย่างงั้นรึ?ที่เจ้าได้ป่าวประกาศออกไปนั่นไม่ใช่เทคโนโลยีของตระกูลฉู่รึอย่างไร!เจ้านั้นอยู่ภายในตระกูลฉู่กว่าสิบปี,ก่อนที่จะหนีรอดออกมาได้ไม่ถึงครึ่งปี,ซ้ำยังกลายไปเป็นทาสอีกด้วย,เจ้าจะไปเอาเทคโลยีเหล่านั้นมาจากใหนได้กันล่ะ!"


ลวอ หยันซาน พยักหน้า"พี่เย่กล่าวได้อย่างสมเหตุสมผล,อย่างแรกพวกเราจะต้องจับกุมมันไว้,แล้วสอบสวน,เพื่อหาความจริงให้ได้ก่อน!"


ครั้งนี้ต้องการที่จะจับฉู่เทียนสินะ.


ยังคงคิดหมายเอาชีวิตของเขาอยู่สินะ?


ฉู่เทียนเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล,"ดี,ข้าจะแสดงให้พวกเจ้าได้เห็นมันกับตาเอง!"



ทุกคนต่างก็มองมาที่เขาเป็นจุดเดียวกัน.


เจ้าบัดซบคนนี้ต้องการที่จะพิสูจน์ความสามารถตัวเองจริงๆ?


"พวกเจ้า,ตระกูลเย่,ตระกูลถู,ตระกูลลวอ และตระกูลฉู่..."ฉู่เทียนได้เรียกชื่อของพวกเขา,พร้อมกับค่อยๆเผยยิ้มออกมาช้าๆก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่จริงจัง,ราวกับสายฟ้าที่ทรงพลังผ่าไปยังพวกเขา"ด้วยความสัตย์จริงๆ,เจ้ากระจอกทั้งสี่,บิดาผู้นี้จะทำให้พวกเจ้าเห็นมันกับตาเอง!ดังนั้นมาพิสูจน์กัน,ศาสตร์การปรุงยา,ศาสตร์การเขียนวงเวทย์,แต่ละอย่างใครจะเหนือกว่ากัน!ข้าจะให้โอกาสกับพวกเจ้าทั้งหมดสามครั้ง,หากว่าข้าสามารถชนะได้ทั้งหมด,พวกเจ้าก็ไม่ต้องมาพล่ามไร้สาระต่อหน้าข้าอีก,และต้องฆ่าตัวตายเพื่อปลอบประโลมข้าด้วย!"


ด้วยคำพูดดังกล่าวนั่น!


ทุกคนต่างตื่นตะลึงไปพร้อมๆกัน!


เป็นความกล้าแบบใดกันถึงกับออกปากเช่นนี้ได้!


ชายคนนี้มีพลังที่จะท้าทายตระกูลทั้งสี่ได้เลยรึ!


บางทีถึงแม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ล้ำลึก,ยังไม่กล้าที่จะพูดจาใหญ่โตถึงเพียงนี้เลย!


ซ่างหลีซิงเร่งรีบกล่าวออกมา"เจ้าไม่จำเป็นต้องทำตามการยั่วยุพวกเขา,เรื่องดังกล่าวนี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสำเร็จได้โดยง่าย!"


ทุกคนต่างก็ไม่มีใครสมบูรณ์แบบในทุกอย่าง,ไม่ว่าจะเป็นใครย่อมจะมีความรู้ลึกซึ้งในสิ่งเดียว,เป็นไปไม่ได้ที่จะเชี่ยวชาญในทุกๆด้าน!


ซ่างหลีซิงเองมีความเชี่ยวชาญในด้านยันต์อักขระการเขียนวงเวทย์ที่ลึกซึ้ง,แม้แต่เขาเองยังไม่กล้าที่จะกล่าวเช่นนั้น?ในการเขียนยันต์เวทย์เองก็ยังสามารถแยกย่อยออกไปอีกหลายแขนง,บางคนมีความเชี่ยวชาญในการสร้างยันต์เวทย์ธาตุไฟ,บางคนมีความสามารถในการสร้างวงเวทย์ธาตุดิน,ในแต่ละแขนงนั้นมีคนเชี่ยวชาญจำนวนมาก,บางแขนงเองก็มีคนเชี่ยวชาญเพียงหยิบมือ.


ฉู่เทียนเผยยิ้มออกมาอย่างเหยียดหยัน,"พวกเขาไม่ได้อยู่ในสายตาของข้าเลย!นายท่านคนนี้จะให้โอกาสพวกมันทั้งสาม,พิสูจน์ว่าจะมีสักคนที่สามารถเทียบข้าได้!หากเพียงเท่านี้ยังทำไม่ได้,เช่นนั้นคงจะถูกทุกคนหาว่าไม่เอาไหน!จะได้รู้กันซะทีว่าข้าฉุ่เทียน นั้นทำไมจะต้องไปขโมยเทคโนโลยีของพวกสวะไม่เอาถ่านพวกนั้นมาด้วย?!"

แม้ว่าจะรู้ว่าฉู่เทียนนั้นบ้าคลั่ง,ทว่าไม่คาดคิดเลยว่าจะบ้าคลั่งมากมายถึงขนาดนี้,นี่มันเป็นพวกบ้าคลั่งจนฟันเฟือนชัดๆ!


คนๆเดียวจะกล้าท้าทายตระกูลใหญ่ทั้งสี่!


เรื่องที่เกิดขึ้นนี้แทบจะไม่มีทางสำเร็จได้เลยแม้แต่น้อย!


เย่ซ่งจ้องมองไปยังหลีซางหยุน สบตากันและกันอย่างเป็นนัยย์,หลีซ่างหยุนเข้าใจในทันที"เจ้าเด็กบัดซบจะยโสโอหังเกินไปแล้ว,อยากหาความอัปยศมาให้กับตัวเองเหรอ,ตาเฒ่าคนนี้จะช่วยเจ้าเอง!"


ประธานสามาคมปรุงยาเมืองเทียนหนาน,ต้องการที่จะประลองกับเด็กกะโปโลเช่นนี้แทบจะไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง?


เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย!


ตัวตนของหลีซางหยุนของเมืองเทียนหนานนั้น,ถึงแม้ว่าจะเดินทางไปยังรัฐกลาง,ก็ยังนับว่าเป็นระดับสุดยอดอยู่ดี!


ฉู่เทียนเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล,"ตกลง!"


ทุกคนที่ได้ยินถึงกับแสดงท่าทางตื่นตระหนกขึ้นมาทีเดียว!


"ข้าถึงกับเอาชีวิตและเชื่อเสียงของข้าเข้าเดิมพัน,ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็ควรที่จะเสนอสิ่งที่สมน้ำสมเนื้อในการเดิมพันครั้งนี้ด้วยหรอกรึ?"ฉู่เทียนที่กล่าวออกมาทันควันก่อนที่จะหยุดนิ่งและกล่าวต่อว่า"หากว่าเจ้าแพ้,จะต้องลาออกจากประธานสามาคมปรุงยาที่ยึดมายาวนั่นกลายเป็นคนธรรมดา,เนรเทศให้ออกไปจากเมืองเทียนหนานซะ!ตาแก่,เจ้ากล้าพนันรึเปล่า?"


ใบหน้าของหลีซางหยุนถึงกับเปลี่ยนเป็นซับซ้อนในทันที.


เจ้าเด็กเวรนี้จ้องตำแหน่งประธานของเขาอยู่สินะ!


ตำแหน่งประธานสมาคม นั้นไม่ใช่แค่ตำแหน่งธรรมดา,ยิ่งประธานสมาคมปรุงยาแล้วด้วย,แทบจะยึดครองการปรุงยาแทบจะทั้งหมดของเมืองเอาไว้ทั้งหมด!


หากว่าหลีซางหยุนลงจากตำแหน่ง,พวกเขาก็จะสามารถควบคุมสมาคมปรุงยาดังกล่าวเอาไว้ได้,ธุรกิจขายยาของหอการค้าหนานหยุน,จะได้รับประโยชน์อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย,หากร่วมกับสมาคมวงเวทย์อักขระของซ่างหลีซิงแล้วล่ะก็,แทบจะสามารถควบคุมการค้าของเมืองเทียนหนานแห่งนี้เอาไว้ได้เลย.


ใบหน้าของเย่ซ่งถึงกลับเปลี่ยนเป็นมืดมนไปในทันที.



ตระกูลเย่นั้นที่มีสถานะที่สูงส่งในเมืองเทียนหนานแห่งนี้,ส่วนหนึ่งเพราะร่วมมือกับหลีซางหยุน,หากว่าหลีซางหยุนเสียตำแหน่งประธานปรุงยาไป,และถูกขับออกจากเมืองเทียนหนาน,ก็เท่ากับว่าตัดแขนข้างหนึ่งของตระกูลเย่ไปด้วย.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

6 ความคิดเห็น:

  1. โต้กลับที... น๊อคหมด

    ตอบลบ
  2. มึงเค้ามาเลยเรื่องการปลุงยากูไม่กลัว5555

    ตอบลบ
  3. ก็งี้แหละไอ้พวกไดโนเสาเก่าคร้ำครึไม่แปลกที่จะมีสมองเท่าเมล็ดถั่ว

    ตอบลบ