วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 52 The open intrigue robs

Miracle Throne Chapter 52 The open intrigue robs

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ บทที่ 52 สมรู้ร่วมคิดอย่างเปิดเผยเพื่อยกเค้า


บทที่ 52 สมรู้ร่วมคิดอย่างเปิดเผยเพื่อยกเค้า





ทิศเหนือของเมืองเทียนหนาน.


มีคฤหาสน์หรูตั้งตระหง่านอยู่.


เหล่าทหารรับจ้างหลายทีมที่กำลังลาดตระเวนไปทั่ว,พวกเขาแต่ละคนนั้นต่างก็มีอสูรขี่ เป็นการส่วนตัว,หมาป่าตัวอ้วนพีกว่า 500 ตัวที่ถูกฝึกไว้ใช้ต่อสู้,ในไม่ช้าก็เร็วเหล่าทหารสัตว์อสูรเหล่านี้,จะกลายเป็นทหารที่แข็งแกร่ง,รถเทียมสัตว์อสูรคันใหญ่ที่เพิ่งเข้ามาจอด,ที่ลานจอดนั้นสามารถรองรับรถเทียมสัตว์อสูรได้หลายร้อยคัน.



นี่เป็นที่ทำการของตระกูลเย่สาขาเมืองเทียนหนาน!


พวกเขาควบคุมเส้นทาง หลายแห่งเอาไว้,ถึงจะเป็นจ้าวเมืองเองก็ยากที่จะจัดการ,พวกเขานั้นนับว่ามีอิทธิพลที่ยากเกินจะจินตนาการถึงได้.


รถเทียมสัตว์อสูรคันหนึ่งที่ดูหรูหรามีราคา,แล่นผ่านมาบนถนนที่ล้ำค่าอย่างช้าๆ.


รถเทียมสัตว์อสูรดังกล่าวนั้นมีกวางวายุจุดสีน้ำเงิน,ดูทรงพลังและแข็งแรง,ท่าทางเฉลียวฉลาดและสูงใหญ่สง่างามเป็นอย่างมาก,รวดเร็วทรงพลัง,แน่นอนว่าคนทั่วไปย่อมไม่สามารถที่จะซื้อสัตว์อสูรที่งดงามนี้มาลากรถได้อย่างแน่นอน.


กวางวายุลายจุดน้ำเงินได้ลากรถ,มาหยุดอยู่ที่บ้านพักของตระกูลเย่.


ชายคนหนึ่งที่มีอายุ 40-50 ปี กำลังก้าวลงมาจากรถเทียมสัตว์อสูร.


เหล่าทหารองค์รักษ์หลายคนที่มองเห็นบุคคลดังกล่าวเร่งรีบเข้ามาช่วยพยุงรถเทียมมา,พร้อมกับโก่งโค้งคำนับ,"คารวะนายท่าน ลวอ ยวันซาน!"


ชายคนนี้เป็นคนที่มีรูปร่างค่อนข้างเตี้ยและอ้วน,หัวล้าน,ทว่ากลับมีจมูกที่งุ้มเข้าหากัน,ดวงตาที่คมกริบราวกับเยี่ยว,ทั่วทั้งร่างกายของเขานั้นส่งพลังข่มขู่ออกมาเป็นระลอก,ทำให้ทุกคนรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก


เหล่าทหารรับจ้างได้รับสัตว์อสูรลากรถ ไปดูแล,พร้อมกับกล่าวออกมาอย่างเคารพ."เรียนเชิญนายท่านยังห้องรับรอง,เหล่าแขกผู้มาเยือน,ได้รอคอยการมาของท่านอยู่."


ภายในห้องรับรองของตระกูลเย่,มีคนนั่งอยู่สามคน.


หนึ่งคือเย่ซ่งและหนึ่งคนคือถูเจิ้นเทียน,และอีกคนเป็นชายหนุ่มที่มีอายุราวๆ 30 ปี สวมชุดที่สะอาดเรียบร้อยน่ามอง.


"นายท่าน,ในที่สุดท่านก็มาแล้ว,เชิญนั่ง!"ภายในดวงตาของเย่ซ่งนั้นมีประกายแสงที่มีความสุข"ข้าขอแน่นำก่อน,คนนี้คือประมุขตระกูลถู,ถูเจิ้นเทียน,และนี่เป็นบุตรชายของอาวุโสสาม ของตระกูลฉู่ ในรัฐกลาง,ฉู่อี้!"


"เป็นนานน้อยฉู่อี้นี่เอง!"ลวอ ยวันซาน จ้องมองไปยังชายหนุ่ม,"นานน้อยฉู่ยังเยาว์,พลังฝึกตนของท่านช่างลึกล้ำยิ่งนัก,คนรุ่นใหม่ของตระกูลฉู่,ช่างน่าอิจฉาจริงๆ"


อายุ 30 ปี,กลับมีพลังฝึกตนดินแดนปรุงร่างระดับ 9 แล้ว.


แน่นอนว่าเขาจะต้องเป็นหนึ่งในคนสำคัญของตระกูลที่ถูกส่งมา.


ภายในดวงตาของฉู่อี้นั้นเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ,แต่กับตอบออกมาอย่างถ่อมตัว"ท่านชมข้าเกินไปแล้ว,ความจริงฉู่อี้ในตระกูลฉู่นั้น,ไม่สามารถที่จะเทียบได้เป็นหนึ่งในสิบด้วยซ้ำ,เพียงลำพัง,อยู่ภายใต้ร่มเงาของฉู่ซิงเหอแล้วล่ะก็,คงยากที่จะบอกว่าตัวเองมีพรสวรรค์ในตระกูลฉู่ได้เลย!"


"ฉู่ซิงเหอ? เป็นบุตรชายของประมุขตระกูลฉู่,ฉู่เจียงซาน,อายุเพียง 16 ปีก็สามารถไปถึงดินแดนปลุกภูติวิญญาณแล้ว,กลายเป็นคนที่สามารถไปถึงดินแดนปลุกดวงจิตที่เร็วที่สุด,ตอนนี้เขาอายุ 22 ปีแล้ว,หลายปีมานี้ไม่ได้เปิดเผยความแข็งแกร่ง,ไม่รู้ว่ามีระดับใดแล้ว,เพียงแต่ว่าภายในดินแดนรัฐกลางนั้น,เขาเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผู้เปี่ยมพรสวรรค์ที่สุด,จนถูกเรียกว่าสี่ต้าซือแห่งรัฐกลาง!"


ฉู่อี้เองสามารถนับได้ว่ามีพรสวรรค์คนหนึ่ง.


แต่หากเปรียบเทียบกับฉู่ซิงเหอ,ประกายแสงในดวงตาของเขานั้นดูซึมเศร้าไม่มีประกาย.


ฉู่ซิงเหอนั้นไม่เพียงมีดวงจิตอสูรชั้นยอด,เขายังได้เรียนรู้วิชาลับของตระกูลจนแตกฉาน,เป็นวิชาที่ได้รับการสืบทอด,"ปราณลับกระบี่วิญญาณ"การจะเพิ่มระดับพลังฝึกตนราวกับกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย,และที่สำคัญที่สุดฉู่ซิงเหอนั้นยังหนุ่มแน่น,เขายังมีอนาคตที่สดใสไร้ขีดจำกัด.


สี่ต้าซือแห่งรัฐกลาง!


มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก.


ฉู่ซิงเหอไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งใน สี่ต้าซือแห่งรัฐกลาง,ที่ในรัฐกลานั้นเขายังเป็นผู้นำของสี่ต้าซืออีกด้วย,พลังฝึกตนของเขานั้นมีมากกว่าเหล่าคนที่มีอายุ มากกว่าทุกคน,จนทำให้พวกเขาได้แต่แหงนมองอยู่ข้างหลัง!


"ที่จริงแล้วตระกูลฉู่เต็มไปด้วยคนที่มีความสามารถมากมาย,เมื่อโชคชะตานำพา,จึงได้ทรงพลังรุ่งโรจน์,เป็นที่รู้จักไปทั่ว"ลวอ ยวังซานถอนหายใจยาว,ทันใดนั้นก็กล่าวออมาชัดถ้อยชัดคำ,"ตระกูลลวอเองความจริงก็มีผู้เยาว์ให้คาดหวังอยู่,หลานของข้า ลวอหยูกับถูกสังหารจากเจ้าบัดซบนั่น,ความจริงแล้วทำให้ตระกูลของพวกเราเสียหน้าเป็นอย่างมาก!"


"ตระกูลฉู่ที่มีชื่อเสียง,มีเหล่าผู้มากพรสวรรค์มากมาย,ทุกคนล้วนแล้วแต่มีความสามารถ,พูดตามตรงเจ้าบัดซบนั่นได้ทำลายชื่อเสียงของพวกเรา,ทำให้เสื่อมเสียกับทุกคน,กลายเป็นรอยด่างพล้อยของพวกเรา,"ฉู่อี้ยืนขึ้นกล่าวต่อ ลวอ ยวังซาน"ขอให้ท่านโปรดวางใจ,ข้าจะไม่ปล่อยให้เม็ดทรายที่เข้าตานี้ อยู่นาน,ข้าเดินทางมายังเมืองเทียนหนานในครั้งนี้,ก็เพื่อจัดการเจ้าสารเลวนั่น!"


เย่ซ่งและถูเจ้นเทียนต่างสบตากันและกัน.


คนที่ศัตรูร่วมกันย่อมเรียกว่ามิตรสหายได้!


ฉู่เทียนนั้นเติบโตเร็วเป็นอย่างมาก,หากปล่อยไว้นานคงไม่เป็นการดีแน่,เขาจะต้องสั่นครอนสถานะของพวกเขาเป็นแน่,หาว่าเขาสามารถร่วมมือกับตระกูลลวอและตระกูลฉู่,ถึงแม้ว่าจะมีเจ้าบัดซบหนานกงอี้คงยากที่จะปกป้องเจ้าทาสราคาถูกนั่นได้อย่างแน่นอน!


หลายวันที่ยุ่งวุ่นวายสุดท้ายแล้วจะได้สะสางซะที,ในเวลานี้เขาได้ยืมมือตระกูลฉู่และตระกูลลวอที่ทรงอิทธิพลได้สำเร็จ,ฉู่เทียนจะเก่งกาจสักเท่าไหร่,ก็ไม่คิดว่าจะสามารถหนีรอดไปได้อย่างแน่นอน.


ลวอ ยวังซานได้ขยับแหวนที่นิ้วมือไปมา"ข้าได้ยินมาว่าหนานกงอี้ปกป้องเจ้าสารเลวนั่น มีแข็งแกร่งอย่างมากไม่ใช่รึ?"


เย่ซ่งพยักหน้ารับ,"หนานกงอี้นั้น,ไม่เพียงแต่มีนิสัยแข็งกร้าว,ยังแข็งแกร่งยากที่จะจัดการ,ส่วนบุตรสาวหนานกงหยุนเองยังดูใกล้ชิดสนิทสมกันอีกด้วย.."


ถูเจิ้นเทียนกล่าวเสริม,"หนานกงหยุนนี่ไม่ธรรมดา!หญิงสาวคนนี้มีชื่อเสียงไม่ได้ด้อยไปกว่า สี่ต้าซือแห่งรัฐกลาง,ทว่าความสามารถและพรสวรรค์อาจจะด้อยกว่าอยู่บ้าง,ที่จริงนางเหลืออีกเพียงนิดเดียวก็สามารถก้าวไปสู่ดินแดนปลุกดวงจิตแล้ว,ดังนั้นร่างกายของนางที่มีพลังปรุงร่างกำลังจะแปรเปลี่ยนพร้อมกับกำลังสร้างภูติวิญญาณ,บอกได้ว่าแม้ว่านางจะอยู่ในดินแดนปรุงร่างระดับ 9 ขั้นปลาย,แต่มีทักษะและความสามารถต่อกรกับดินแดนปลุกจิตวิญญาณระดับ 1 ได้เลย!"


ใบหน้าของลวอยวังซานที่ดูท่าทางห่อเหี่ยว"นางมีภูติวิญญาณระดับพระเจ้าอย่างงั้นรึ?ข้าได้ยินเรื่องราวของนางมานิดหน่อย!"


เย่ซงกล่าวเสริม"นอกเหนือจากหนานกงหยุนแล้ว,ซ่งเทียนเหยี่ยนเหยาซือ,ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย,ซงเทียนเหยี่ยนคนนี้มีพรสวรรค์ที่ดีทีเดียว,ทว่าเชี่ยวชาญศาตร์การปรุงยามากกว่า,ดังนั้นทักษะการต่อสู้จึงไม่ได้สูงนัก,ไม่เช่นนั้นแล้วความสามารถของเขาคงไม่ด้อยไปกว่าข้าแน่,ส่วนคนอื่นๆ,ก็มีแม่ทัพของเมืองเทียนหนานซ่งปิง,ซ่างหลีซิงต้าซือ,ทุกคนล้วนแล้วแต่สร้างปัญหาได้ทั้งนั้น!"


ถูเจิ้นเทียนพยักหน้า"เพราะว่าพวกเขาเหล่านี้ล่ะ,พวกเราถึงไม่สามารถเริ่มอะไรได้."


ฉู่อี้ไม่อยากเชื่อเลย,"เจ้าบัดซบนั่นมีคนช่วยขนาดนี้,ข้าไม่เข้าใจเลย,ทำไมเพียงครึ่งปีที่มันหายไป,กลับเปลี่ยนไปราวกับสวรรค์กับนรกเลย?"


"นายน้อยฉู่,นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง"เย่ซ่งกล่าวด้วยโทนเสียงต่ำบอกกล่าว,เกี่ยวกับครึ่งปีที่ผ่านมา"หลังจากครึ่งปีที่หายไปเกิดสิ่งใดกับเขาอย่างงั้นรึ?บางทีข้าคิดว่ามันคงได้รับโชคลาภ,หรืออาจจะได้พบของสืบทอด,แต่โดยรวมแล้ว,ฉู่เทียนมีพลังฝึกตนดินแดนปรุงร่างระดับ 6 หรือไม่ก็7,สามารถต่อสู้กับคนที่มีระดับสูงกว่าได้,ไม่ว่ามันจะได้รับมรดกอะไรมา,ข้าคิดว่ามันจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!"


สายตาของฉู่อี้ถึงกับเผยความโลภออกมา"เป็นเช่นนั้นรึ?เจ้าบัดซบนั้น,ขี้หมานั่นได้ของดีมาสินะ!"


เย่ซ่งกล่าวต่อ"ฉู่เทียนนั้นจะต้องมีอาจารย์ที่มีความรู้เป็นพิเศษ จึงสามารถตั้งหอการค้าขึ้นมาได้,โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านอาหารพลังเวทย์นั่น,เพียงแค่เริ่มธุรกิจเมื่อวานนี้ได้ยินมาว่ารับเงินมา280,000 เหรียญทองเพียงแค่วันเดียวด้วยซ้ำ!"


280,000 เหรียญทอง!!


ลวอยวังซานและฉู่อี้ถึงกับหายใจเอาอากาศที่เย็นเยือบเข้าไป!


พวกเขาที่เกิดมาในตระกูลใหญ่,จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเงินและทรัพยากรนั้น,มีส่วนสำคัญในการบำเพ็ญพลังฝึกตน?


พบเข้ากับโชคลาภ,สมบัติตกทอด,เงินและเทคโนโลยี!


นำมาซึ่งความโลภของพวกเขาเป็นอย่างมาก!


จากท่าทางของพวกเขา,เป้าหมาของเย่ซ่งดูเหมือนว่าจะลุล่วงด้วยดี.


เย่ซ่งที่กำลังจะกล่าวเข้าเรื่อง"เรื่องตัวตนของฉู่เทียนนั้นเล็กน้อย,หากว่าพวกเราสามารถได้รับเงินจำนวนมากเพื่อจ้างคนไปสังหารมัน,คงจะสำเร็จอย่างแน่นอน,ถ้าหนานกงอี้,ในตอนนั้น,สามารถหาหลักฐานได้ก็จะเกิดปัญหา,พวกเราจะต้องใช้วิธีการที่จะไม่สามารถสาวมาถึงพวกเราให้ได้."


ถูเจิ้นเทียนสามารถเข้าใจได้ในความหมายของเย่ซ่ง,"พี่เย่หมายความว่า,สิ่งที่พวกเราต้องทำ,หากสังหารมันเฉยๆดูเหมือนจะง่ายไปใช่หรือไม่?"


ลวอ ยวังซานและฉู่อี้ลอบพยักหน้า.


ปล่อยให้มันตายอย่างมีความสุข,มันคงจะง่ายเกินไป?


"แน่นอนว่าไม่เพียงเท่านั้น!"เย่ซ่งเผยท่าทางที่มีนัยยะ"ฉู่เทียนต้องตายอย่างแน่นอน,ทว่าจะให้มันตายง่ายไปไม่ได้,มันจะต้องได้รับความทุกข์ทนมากกว่านี้,มันจะต้องฉิบหายและได้ความอับอายให้ถึงที่สุด,พวกเราจะยึดทุกอย่างที่เคยเป็นของมัน,หลังจากที่ทำได้สำเร็จแล้ว,พวกเราทั้งสี่ค่อยมาแบ่งกัน!"


เขาหมายถึงพวกเขาทั้งสี่คน.


ไม่ใช่ตระกูลทั้งสี่.


ลวอ ยวังซานและฉู่อี้เข้าใจดี.



โดยเฉพาะ ฉู่อี้,ที่จริงการที่เขาเดินทางมาในครั้งนี้,เป็นตระกูลฉุ่ที่ส่งมา,แม้ว่าเขาจะได้รับมอบหมายให้มาจัดการฉู่เทียน,พวกเขาเองก็ไม่ได้สนใจฉู่เทียนเท่าไหร่นัก.พวกเขาไม่รู้ว่าฉู่เทียนนั้นมีกิจการที่ใหญ่โตถึงเพียงนี้นั่นเอง.


ฉู่อี้,ไม่รู้เลยว่าฉู่เทียนสามารถสร้างหอการค้าที่ใหญ่เช่นนี้ขึ้นมาได้.




ฉู่อี้ไม่มีทางรายงานตระกูลเรื่องนี้แน่,การมีส่วนร่วมในแผนการลับๆนี้,ก็เหมือนกับกำลังแบ่งชิ้นเค้ก,มีแต่ได้กับได้ไม่ใช่หรือ?


"กล่าวได้ถูกต้อง!"ลวอ ยวังซานพยักหน้าอย่างพึงพอใจ.


ถูเจิ้นเทียนกล่าวออกมา,"ซ่างหลีซิงและหนานกงอี้,ล้วนแล้วแต่เป็นกำแพงที่แข็งแกร่ง,เส้นสายของซ่างหลีซิงนั้นกว้างขวางมาก,หากมีเวลาเพียงพอสามารถที่จะโต้กลับพวกเราทันที,หนานกงอี้เองก็เป็นถึงจ้าวเมือง,คนผู้นี้ทรงพลังยิ่งนัก,ซ่งปิงเองก็เกี่ยวข้องกับเขา,การสังหารฉู่เทียนนั้นไม่ง่ายเลย,การที่จะยึดหอการค้ามันมา,บางทีคงไม่ง่ายขนาดนั้น."


"ที่จริงข้าได้คิดไว้เรียบร้อยแล้ว!"


"พี่เย่ท่านมีแผนอย่างใดรึ?"


"เป็นแผนการที่ง่ายดายมาก,เพียงบุกเข้าโจมตีพวกมัน,นั่นก็จบแล้ว!"


ลวอ ยวังซานท่าทางสนใจเป็นอย่างมาก"จะสามารถเข้าโจมตีได้อย่างงั้นรึ?แล้วจะใช้วิธีอะไรล่ะ?"



"ต้องมีเหตุผลในการส่งกองกำลังเข้าไป."เย่ซ่งกล่าวอย่างมั่นใจ,พร้อมกับกล่าวออกมาช้าๆ,"อย่างแรก,พวกเราจำเป็นต้องรับประกันก่อน,ว่าเหตุผลดังกล่าวนั้นหนานกงอี้จะไม่สามารถเข้ามาขวางทางได้,ตราบเท่าที่สามารถจัดการหนานกงอี้ได้,เจ้าเด็กนั่นก็ไม่ใช่ปัญหา,ไม่มีใครที่จะสามารถหยุดพวกเราได้,ใช่ใหม?"


ลวอ ยวังซานเร่งรีบสอบถาม"พี่เย่มีเหตุผลที่เหมาะๆแล้วรึ?"


"ไม่,ข้ายังไม่มีเลย."เย่ซ่งตอบชัดถ้อยชัดคำ"นายน้อยฉู่ท่านมีเหตุผลที่พอเหมาะบ้างใหม."


ฉู่อี้รู้สึกงงงวยเล็กน้อย,"ข้าจะมีได้อย่างไรล่ะ?"


เย่ซ่งค่อยๆแนะนำ,"ฉู่เทียนเมื่อหกเดือนที่แล้วไม่มีอะไรเลยเหรอและเขาเองก็ถูกคุมขังมาก่อนถึงสิบปี,เขาไม่มีโอกาสที่จะได้รับความรู้เลยไม่ใช่รึ,ทว่าหลังจากที่เขาหนีออกมาจากตระกูลฉู่หกเดือนต่อมา,เขากับสามารถเข้าใจมีความรู้มากมายขึ้นมา,นั่น,...สิ่งเหล่านั้นมาจากไหนกัน!"


ฉู่อี้ไม่ได้เป็นคนโง่,เข้าสามารถเข้าใจได้ในทันที,ตระกูลฉู่นั้นเป็นเหมือนตระกูลสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่,มีการศึกษาและวิจัยกระบวนการผลิตต่างๆ,บิดาของฉู่เทียนและลูกชายได้ทรยศและหลบหนีจากตระกูลฉู่ในครั้งนั้น,ได้ขโมยวิชาการลับออกมา,ทว่าหลังจากที่สามารถหนีออกมาได้ก็ได้นำความรู้ที่ปล้นมานั้นในการสร้างหอการค้าขึ้นมา!"


"ใช่แล้ว!"เย่ซ่งพยักหน้าอย่างพึงพอใจ,"ทรยศตระกูลหลบหนีมา,ขโมยความลับตระกูล,สองข้อหานี้,จะต้องได้รับโทษ,จะต้องตายโดยไม่สามารถได้รับการให้อภัย,นายน้อยฉู่ได้รับหน้าที่ของตระกูลมาจัดการปัญหานี้,หนานกงอี้ย่อมไม่มีทางโต้เถียงได้แน่!"


"ถึงแม้ว่าเขาจะโต้แย้งก็ไร้ความหมาย!"ลวอ ยวังซานเผยยิ้มอย่างสยดสยอง"ตระกูลลวอเองก็มีเส้นสายที่จะสามารถพิจารณาเรื่องนี้ในรัฐกลางได้,สามารถแทรกแทรกการทำงานของพวกเขาได้สบายๆ,ผู้มีอำนาจในรัฐกลางก็จะทำการปลดตระกูลหนานกงออกไป,หนานกงอี้ก็จะไม่สามารถที่จะทำอะไร,หากว่าเขาเลือกที่จะไม่มาแทรกแทรงก็ดีไป,ทว่าเขาเลือกแทรกแซงล่ะก็,ด้วยสถานะผู้อาวุโสตรวจการในมือ,ข้าสามารถที่จะปลดหนานกงอี้แล้วหาใครมาแทนก็ได้,ตราบเท่าที่ข้ากลับไป,ข้าสามารถร่างเอกสารร้องเรียนเพื่อปลดเขาออกได้เลย!"


"ดีเยี่ยม!"ถูเจิ้นเทียนหัวเราะ,"ด้วยการร่างเอกสารร้องเรียน,ด้วยการแทรกแทรงเรื่องของตระกูลอื่น,ช่วยคนทรยศเพื่อขโมยเทคโนโลยีลับ,หนานกงอี้จะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน!"


เย่ซ่งพยักหน้า,"สิ่งที่สำคัญที่สุด,พวกเราขอให้นานน้อยฉู่ได้เขียนลายมืออ้างเหตุผล,เพื่อที่จะครอบครองหอการค้าด้วย."


"แผนการแยบยล!"

"แผนการแยบยล!"



"อย่างแรกพวกเราควรจะทำอย่างไรก่อน?"


"หาฝ่ายสนับสนุน!"เย่ซ่งหยุดชั่วครู่ก่อนที่จะกล่าวต่อ"ตระกูลเย่,ตระกูลถูค่อนข้างที่จะมีอิทธิพล.พวกเราจะต้องโต้แย้งด้วยสื่อก่อน,ปล่อยข่าวเกี่ยวกับว่าฉู่เทียนนั้นได้ทรยศตระกูล,พร้อมกับขโมยโทคโนโลยีลับของตระกูล,พวกเราจะสามารถสร้างความขุ่นเคืองให้กับงฝูงชน,เพื่อให้ฝูงชนกดดันพวกเขาก่อน,นายน้อยฉู่และท่าน ลวอจะต้องออกมาจัดการฉู่เทียน."


สิ่งที่เกิดขึ้น!


ฉู่เทียนจะต้องได้รับความฉิบหายและสร้างความอับอายโดยผู้คนดูถูกเหยียดหยามแน่นอน!


ในเวลานี้,เหล่าตระกูลขนาดใหญ่นั้นมีอยู่เป็นจำนวนมาก,แต่ละตระกูลนั้นมีความเป็นอิสระสูง,ดังนั้นแต่ละตระกูลย่อมมีกฎหมายของตัวเอง,ตราบเท่าที่มันไม่ขัดต่อกฏหมายของอาณาจักร,กฏเหล่านั้นย่อมถูกต้องสมบูรณ์อย่างแน่นอน.


ทรยศตระกูล!


ขโมยความลับตระกูล!


เพียงเท่านี้ก็มีโทษสมควรตายแล้ว.


ไม่ว่าจะเป็นตระกูลใหนๆก็เหมือนกันทั้งนั้น!


ภายใต้สถานะการเช่นนี้,จะมีตระกูลใหนที่ต้องการจะจัดการ,เรื่องภายในครอบครัว,โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นตัวแทนของทางการ,ไม่มีทางที่จะเข้ามาแทรกแซง,ได้อย่างง่ายดาย,ไม่เช่นนั้นแล้วคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องได้รับโทษอย่างรุนแรง.


หนานกงอี้และซ่งปิงจะยังกล้าที่จะช่วยเหลือฉู่เทียนอยู่ใหม?


ไม่เพียงยากที่จะป้องกัน,แต่คงทำได้แค่ได้แต่มองตาปริบๆ!



แผนการใหญ่ค่อยๆผุดขึ้นอย่างช้าๆ,สายตาของเย่ซ่งนั้นลุกไหม้ไปด้วยเพลิงแห่งความแค้น,เขาใช้เวลานานในการวางแผนเพื่อที่จะดึงตระกูลฉู่และตระกูลลวอมาเข้าร่วม,ตอนนี้หนานกงอี้ไม่มีทางที่จะปกป้องมันได้แล้ว,ฉู่เทียนจะต้องได้รับความฉิบหายอย่างแน่นอน!




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

5 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณ ครับ รอตอนต่อไปอยู่นะคราบบบบ

    ตอบลบ
  2. คิดได้ชั่วร้ายมาก...

    ตอบลบ
  3. รู้จักมหาวายร้ายฉู่เทียนน้อยเกินไปซะแล้ว

    ตอบลบ
  4. พวกนี้ว่าชั่วแล้ว แต่พระเอกชั่วกว่า

    ตอบลบ