วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 42 Tempts with the promise of gain City Lord

Miracle Throne Chapter  42 Tempts with the promise of gain City Lord

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่  42 ยั่วยวนท่านเจ้าเมืองด้วยคำมั่นสัญญา


บทที่ 42 ยั่วยวนท่านเจ้าเมืองด้วยคำมั่นสัญญา




ตำหนักเจ้าเมือง.


พวกเขาได้ทำการแลกเปลี่ยนสัญญาการครอบครองทรัพยากร.

ในตอนนี้การแลกเปลี่ยนได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว,หนานกี้แทบไม่เชื่อว่านี้เป็นความจริง!



ในโลกนี้ยังมีคนที่โง่อย่างคาดไม่ถึงขนาดนี้เลยรึ?แลกเปลี่ยนเหมืองน้ำมันที่ไร้ค่ากับทรัพยากรที่มีคุณภาพตั้งมากมาย!


เขาใช้ตำแหน่งเจ้าเมืองโน้มน้าวเขาเล็กน้อย,ทว่าเด็กชายคนนี้กับยินดีที่จะแลกเปลี่ยนเอง!

แน่นอนว่า,เจ้าเมืองอย่างเขานั้นมีความสุขเป็นอย่างมาก,มันคงเป็นเหมือนกับฝันที่ไม่คาดคิดในอีกหนึ่งปีหลังจากนี้,ด้วยเหตุผลที่เขาได้ตัดสินใจไปนี้,หัวใจของเขาเต้นไปมาโครมครามจนรู้สึกน่ารำคาญทีเดียว!


ท่านเจ้าเมืองได้แต่แอบหัวเราะอย่างมีความสุขอยู่คนเดียว.


ฉู่เทียนเริ่มขีดเขียนปากกาลงบนกระดาษ,และตวัดเขียนบางอย่างง่ายๆลงไปในนั้น.


ฉู่เทียนที่เค้นสมองก่อนที่จะเขียนรายการวัตถุดิบหลายอย่างออกมา"ท่านเจ้าเมืองช่วยข้าหาวัตถุดิบเหล่านี้,มันเป็นส่วนผสมที่สามารถที่จะหาได้ในเมืองเทียนหนานหรือไม่?ข้าจำเป็นต้องใช้งานมันอย่างเร่งเด่วนเลย!"


ความจริงแล้ววัตถุดิบเหล่านั้นเป็นสิ่งของธรรมดาเป็นอย่างมาก.


อย่างไรก็ตามเมืองเทียนหนานแห่งนี้ก็มีทรัพยากรที่ไม่มากมายอะไรนัก,การที่เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อรับประกันว่าจะสามารถหาของเหล่านั้นได้.


"ส่วนใหญ่แล้วไม่เคยเห็นเหมือนกัน,แต่วัตถุดิบแปดอย่างที่อยู่ภายในนี้,เมืองเทียนหนานแห่งนี้ก็มีอยู่."หนานกงอี้ค่อยๆอ่านแต่ล่ะอย่างที่อยู่ภายในกระดาษ,ก่อนที่จะกล่าวว่า"ภายในตำหนักเจ้าเมืองเองก็มีเก็บเอาไว้อยู่,หากว่าเจ้าต้องการด่วนล่ะก็,ข้าจะให้คนนำไปส่งให้กับเจ้าเอง."


ภายในใจของฉู่เทียนถึงกับเต้นโครมคราม,ทันใดนั้นเขาก็กล่าวตอลกลับไปว่า"เยี่ยมเลย,ต้องลำบากท่านเจ้าเมืองแล้ว."


ดีมากเลย!


วัตถุดิบบางอย่างนั้นสามารถนำมาสกัดน้ำมันคลิสตัลได้!


ที่จริงแล้วในยุคนี้มีทรัพยากรทีมีค่ามากมาย,ยังมีบางอย่างที่ล้ำค่าถูกฝังอยู่,มีหลายอย่างที่มีค่ามายมายยิ่งกว่า,บางอย่างพวกเขาไม่รู้ว่าจะนำมาใช้อย่างไร,จึงให้ความสำคัญกับทรัพยากรที่มีค่าและนำมาใช้ได้ง่ายกว่านั่นเอง.


ด้วยความสามารถของฉู่เทียนที่ล้ำหน้ากว่าคนอื่น,จึงสามารถที่จะคว้าสิ่งเหล่านั้นมาไว้ก่อนที่คนอื่นจะเห็นค่า,เขาได้ยึดเอาทรัพยากรธรรมชาติที่ล้ำค่าเอาไว้แล้ว,และเขาจะใช้พวกมันเหล่านั้นสร้างความรุ่งโรจน์และสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมา.


หนานกงอี้อ่านวัตถุดิบอย่างระมัดระวัง"ผลึกทรายสีน้ำเงิน,ผงคลิสตัล,หญ้าแสงจันทร์,น้ำคั้นปะการังแดงและสารละลายกัดกร่อน....แปลกดี,ผลึกทรายสีน้ำเงินและผงคลิสตัลนั้นใช้ในการหลอมผสมอุปกรณ์,หรือผลึกทรายน้ำเงินเองก็สามารถนำมาลับคมอาวุธให้แหลมคมขึ้นได้,ส่วนผลึกคลิตตัลเองก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของอาวุธได้,หญ้าแสงจันทร์ก็เป็นหนึ่งในวัตถุดิบทำยา,น้ำคั้นปะการังแดงเองก็เป็นวัตถุดิบในการเขียนวงเวทย์อักขระ,วัตถุดิบที่มีทั้งหมดนี้นำมาใช้ร่วมกันทั้งหมดเลยรึ?มันเหมือนกับนำมาหลอมรวมอุปกรณ์ทำอะไรสักอย่าง,ไม่ใช่นำมาปรุงยาแน่นอน!"


ฉู่เทียนไม่คาดคิดเลยว่าหนานกงอี้จะมีความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบเหล่านี้ด้วย"ดูเหมือนว่าท่านเจ้าเมืองเองจะมีความรู้กว้างขวางทีเดียว."

หนานกงอี้กล่าวอย่างตรงไปตรงมา"เจ้าเมืองคนนี้เองก็เรียนรู้การหลอมอุปกรณ์มาบ้าง,ถึงจะไม่กล้ากล่าวว่ามีทักษะสูงส่งเท่าไหร่,ทว่าในเมืองหลวงก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง."


ด้วยคำพูดเจียมเนื้อเจียมตัวเช่นนั้น,คงไม่ใช่อย่างนั้นเป็นแน่,ถึงกับบอกว่าเมืองหลวง? กล้าที่จะบอกว่ามีชื่อเสียงในเมืองหลวง,ต้องไม่ธรรมดา,ลำพังแค่ในเมืองเทียนหนานเองก็น่าจะเป็นเทคโนโลยีในลำดับต้นๆเป็นแน่!


การหลอมอุปกรณ์ในยุคนี้,ฉู่เทียนเองก็อยากรู้เล็กน้อย,เขากล่าวออกไปลอยๆว่า"ท่านเจ้าเมืองพอจะแสดงให้ดูได้หรือไม่?เพื่อเป็นการเปิดหูเปิดตาแก่ข้าคนนี้!"


หนานกงอี้ได้ดึงกระบี่สั้นที่เอวของเขาออกมา,กระบี่เล่มนี้มีความยาวสองฟุตห้านิ้ว,ตัวกระบี่ทั้งหมดมีสีแดงชาติ,คมกระบี่เป็นลายลูกคลื่น,ราวกับว่ามันเป็นคมเขี้ยวของอสรพิษ,นุ่มนวลและคมกริบ,มีอักษรรูนสลักเอาไว้ด้วย.


"นี่คือกระบี่อสรพิษเปลวเพลิง."


กระบี่เล่มนี้ถือว่าเป็นผลงานที่หนานกงอี้พึงพอใจเป็นอย่างมาก,ในประเทศชนบทเมืองเล็กๆเช่นนี้,จะมีสินค้าที่มีคุณภาพเช่นนี้ได้อีกรึ?ฉู่เทียนค่อนข้างประหลาดใจเช่นกัน,พร้อมกับพยักหน้าคารวะทีเดียว,ฝีมือของเจ้าเมืองไม่ธรรมดาจริงๆ.


เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดจริงๆ,ฉู่เทียกล่าวชื่นชม,"ถือว่าดี."


ถือว่าดีเลย?


เจ้าเด็กนี้ไม่มีตาอย่างงั้นรึ?


หนานกงอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย,"เป็นไปได้ว่าประธานฉู่เทียนจะมีความเข้าใจในการผสมอุปกรณ์อย่างงั้นรึ?"


"แค่เพียงเล็กน้อย,แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญอะไรมาก,ทว่าก็สามารถที่จะมองเห็นถึงปัญหาเล็กๆน้อยๆได้."


ฉู่เทียนรับกระบี่อสรพิษเปลวเพลิงมา,พร้อมกับค่อยๆปิดตาทั้งสองข้าง,นิ้วทั้งสองข้างของเขาลูบไปบนใบดาบของกระบี่อย่างนุ่มนวล,พร้อมกับปล่อยพลังหมุนวน,แทรกซึมไปในอากาศอย่างช้าๆ.


เนตรจิต!


เขาเปิดการใช้งานเนตรจิตอีกครั้งแล้ว!


เมื่อหนานกงอี้เห็นเช่นนั้นก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก,อดไม่ได้เลยที่จะถอยออกมาหนึ่งกล่าว,หนานกงอี้ที่รู้ถึงทักษะเนตรจิตที่สามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน,สามารถที่จะเห็นการเต้นของหัวใจ,เจตนาร้ายและนิสัยของคนๆนั้น,ความสุข,ความโกรธและความเสียใจ,อื่นๆอีกมากมาย..


ท่านเจ้าเมืองที่เพิ่งนำเหมืองน้ำมันที่ไม่มีค่าแลกกับทรัพยากรที่มีคุณภาพสูง,ตอนนี้เริ่มรู้สึกผิดเล็กน้อย!


หลังจากที่นิ้วของเขาลูบคลำไปทั่วทั้งใบกระบี่อย่างนุ่มนวลแล้ว.


ฉู่เทียนก็ลืมตาขึ้น,"ใช้ผลึกภูเขาไฟเป็นแกน,หลอมรวมกับเหล็กแดงเข้มข้นเป็นตัวกระบี่,ใช้เวลาหลอม 49 วันและใช้โลหิตจิ้งเหลนเพลิงและเกล็ดอสูรเพลิงเดือดดาล,นอกจานี้ยังผนึกดวงจิตของอสูรเพลิงสีชาดลงไปด้วย,นอกจากนี้ยังมีวงเวทย์สามวง,แยกออกเป็น...."



ไม่เลวทีเดียว.


ไม่มีผิดเพี้ยนเลย!


น่าตกใจจริงๆ!


เจ้าเมืองพึมพำไปมา"ตำนานเป็นเรื่องจริงสินะ,หากสามารถเปิดใช้ทักษะเนตรจิต,จะสามารถเข้าใจสิ่งต่างๆได้อย่างชัดแจ้ง,ทั้งภูติวิญญาณ,วัตสุอุปการณ์และยังมีพลังวิญญาณ,ทุกสิ่งทุกอย่างไม่สามารถเล็ดรอดสายตาของเนตรจิตไปได้."


น่าหวาดกลัวมาก!


พลังดังกล่าวนี้สามารถที่จะเข้าใจได้ถึงการเคลื่อนที่และความคิดของศัตรูขณะต่อสู้ได้อย่างชัดเจน,นอกจากนี้ยังสามารถเลือกใช้กลยุทธ์โต้ตอบได้,ทักษะนี้นับว่าเป็นสิ่งล้ำค่าในการล่าหาสมบัติได้เป็นอย่างดี,สมบัติบางอย่างนั้นไม่สามารถที่จะมองได้อย่างผิวเผิน,และไม่สามารถประเมินค่าด้วยคนทั่วไปได้,ทว่ามันจะไม่สามารถหลบเหลี่ยงจากผู้มีทักษะเนตรจิตในการตรวจสอบได้เลย.


หนานกงอี้อิจฉาและริษยาเป็นอย่างมาก!


อายุยังไม่ถึง 18 ปีด้วยซ้ำไป!


ทำไมถึงได้มีทักษะที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้ได้?


ฉู่เทียนที่เผยยิ้มออกมาอย่างมั่นใจและเยือกเย็น,พร้อมกับจงใจกล่าวคำพูดที่ล้ำลึกออกไป"ทักษะ เนตรจิตนั้นไม่ได้ลึกลับแต่อย่างใด,และมันเป็นเพียงแค่ทักษะธรรมดาเท่านั้น."


เขากำลังหลอกล่ออะไรอยู่รึ?

ถึงต้องการแสดงออกมาให้เห็นเช่นนี้!


ทำให้เจ้าเมืองอย่างเขาขุ่นเคืองอยู่เหมือนกัน!


หนานกงอี้ที่ฝืนยิ้มออกมาและกล่าวว่า"ประธานฉู่เทียนอย่าได้พูดให้ขันหน่อยเลย,ทั่วทั้งอาณาจักรแห่งนี้จะมีสักกี่คนที่สามารถใช้ทักษะเนตรจิตนี้ได้?"


"อาณาจักรแห่งนี้เล็กจนเกินไป."ฉู่เทียนหยุดและกล่าวต่อช้าๆว่า" ทักษะจิตสัมผัสก็ดี, ทักษะเนตรจิตรก็ดี,ในท้ายที่สุดแล้วก็เป็นทักษะหนึ่งของจิตวิญญาณและจิตสำนึก, ที่มีชื่อว่า สัมผัสเทวะ."


หนานกงอี้ที่เป็นคนของตระกูลหนานกง,มีประสบการณ์มากมาย,มีความรู้ลึกซึ้ง,นี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่เขาได้ยิน" ทักษะ สัมผัสเทวะ? ช่วยอธิบายให้ละเอียดกว่านี้ได้หรือไม่?"


"ทักษะสัมผัสเทวะและความแข็งแกร่งนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวพันธ์กันโดยตรง,ทว่ามันก็มีระดับสูงและต่ำ ขีดขั้นไว้อยู่."ฉู่เทียนหยุดครู่หนึ่งและกล่าวต่อว่า" เขตแดนแรกเรียกว่า จิตสัมผัส,เป็นเพียงการใช้ทักษะสัมผัสเทวะเปิดการรับรู้ของอวัยวะ,จากนั้นก็เปิดทักษะ สัมผัสให้กับอวัยวะต่างๆ,เขตแดนที่สองเรียกว่า เนตรจิต,ในเวลาเดียวกันนั้นจิตใจและจิตสำนึกจะถูกแยกออกมาจากร่างกาย,เป็นการรับรู้ในขอบเขตที่อวัยวะต่างๆของคนจะสามารถรับรู้ได้อย่างหนึ่ง,สามารถสัมผัสได้ถึงวัตถุและทักษะความสามารถ หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงของดวงจิตที่เปลี่ยนไป!"


เด็กหนุ่มคนนี้ช่างมีความรู้ที่ลึกซึ้งจริงๆ!


สิ่งที่เขาได้ยินเมื่อสักครู่เป็นความรู้ที่เขาไม่เคยได้ยินมาเลย,


หนานกงอี้เผยท่าทางเหม่อลอย,"เป็นไปได้ว่าเขตแดนเนตรจิตเป็นส่วนหนึ่งของทักษะ,สัมผัสเทวะอย่างงั้นรึ?"


ฉู่เทียนพยักหน้าแล้วกล่าวว่า"แน่นอนว่า,ทักษะสัมผัสเทวะที่แท้จริงนั้น,ภายในขอบเขตพันจ้าง(3.3 เมตร)ต้นไม้ใบหน้า,แมลง,หรือมด,การเต้นของหัวใจเช่นไรยังสามารถบอกได้ทั้งหมด,ไม่ว่าจะเป็นภูติผีหรืออสูร,ภูติวิญญาณ,ภูติอสูร,ว่าตอนนี้ซ่อนอยุ่ที่ใด,เมื่อสามารถไปถึงเขตแดนสัมผัสเทวะแล้วย่อมไม่สามารถหลบพ้นได้,การที่จะหลบให้พ้นในรัศมีพันลี้นั้น,แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย,และนอกจากนี้,การเปลี่ยนแปลงของพลังวิญญาณที่มีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลนั้น,ยังสามารถแยกแยะได้ในทันที,จิตสังหารของคนแต่ละคนยังไม่สามารถหลบหนีจากสัมผัสนี้ได้,ในตำนานเคยกล่าวเอาไว้ถึงเขตแดนระดับสูง...สามารถรับรู้ได้ถึงการหุบและบานของดวกไม้ได้,ราวกับว่ามีพลังของภูติวิญญาณระดับพระเจ้าอยู่."


เขตแดนชั้นสูงที่มีอยู่ในตำนาน,ซึ่งเป็นเขตแดนที่ฉู่เทียนเองยังไปไม่ถึงเลยนั่นเอง.


เขตแดนในทฤษฎี,บางทีก็เกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตจะข้ามผ่านขีดจำกัดนั่นได้!


หนานกงอี้ถึงกับงงงวย.


ไม่เคยได้ยินสิ่งเหล่านี้เลย.


เผ่าพันธ์มนุษย์คาดไม่ถึงเลยว่าจะเคยมีคนที่มีทักษะเช่นนี้ได้อย่างงั้นรึ?


"เขตแดน สัมผัสเทวะ เจ้า สำเร็จแล้วอย่างงั้นรึ?"


"ฮ่า ฮ่า,ท่านเจ้าเมือง,ท่านตีค่าข้าสูงไปแล้ว,สัมผัสเทวะไม่ได้มีได้โดยง่ายด้วยพลังฝึกตนเพียงเท่านี้,ทว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อข้ามีพลังเพียงพอที่จะใช้มันได้,พลังฝึกตนของข้าในตอนนี้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินจนเกินไป,ซ้ำข้ายังมีขีดจำกัดเกี่ยวกับพลังวิญญาณที่สามารถใช้งานมันอยู่,แม้ว่าข้าจะใช้งานทักษะเนตรจิตได้,ทว่าความจริงแล้วยังใช้ได้ไม่เต็มที,ใช้ได้แค่ระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น."


ไม่อยากเชื่อจริงๆ!


คำพูดของฉู่เทียนนั้น,ราวกับเป็นคำพูดในจินตนาการเท่านั้น.


ทว่าหนานกงอี้เองกับสามารถรับรู้ได้ด้วยสัณชาติญาน,ว่าคนๆนี้ไม่ได้กล่าวเท็จออกมาแต่อย่างใด!


นับว่านี้คือครั้งแรกที่หนานกงอี้ตระหนักได้ว่าโลกนี้มันกว้างใหญ่นัก,และตัวเขาเองช่างเล็กซะเหลือเกิน.


ดูจากท่าทางของเขาแล้ว,การจะยกระดับสัมผัสเทวะนั้นก็เหมือนกับการต้มน้ำเปล่านั่นเอง,เหตุผลที่ตอนนี้เขาสามารถใช้ได้เพียงทักษะเนตรจิต,เป็นเพราะว่าเขามีพลังวิญญาณที่ต่ำเตี้ยจนเกินไป.


ฉู่เทียนถอนหายใจ,"การหลอมรวมอุปกรณ์นั้น,ทักษะสัมผัสเทวะมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง,พูดตามตรงเลยนะ,หากว่าแม้แต่เขตแดน จิตสัมผัสยังไม่มี,ถึงแม้ว่าจะมีพรสวรรค์เท่าใดก็ตาม,ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้."


กล่าวเช่นนั้นแล้ว,ฉู่เทียนก็หันกลับไปมองกระบี่อสรพิษเปลวเพลิงของหนานกงอี้"ข้ารู้สึกว่าจิตวิญญาณเปลวเพลิงภายในกระบี่เล่มนี้ดูอ่อนแอจนเกินไป,ข้าแนะนำ ให้นำไปแช่ในหญ้าจิตวิญญาณเพื่อเพิ่มความร้อนให้มันสัก 1-2 เดือน,กระบี่เล่มนี้จะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าทีเดียว."


ใบหน้าของหนานกงอี้เปลี่ยนเป็นงงงันเหมือนกัน,พร้อมกับลังเลอยู่ชั่วขณะและกล่าวออกมาว่า"ข้าจะลองทำตามที่เจ้าแนะนำ."


ฉู่เทียนแสร้งทำเป็นประหลาดใจ,"ท่านเจ้าเมืองท่าน,ท่านต้องการที่จะให้ข้าช่วยเหลือท่านหรือไม่?"


หนานกงอี้ยกมือคารวะไปยังฉุ่เทียน"เป็นไปได้รึที่เจ้าจะสอนทักษะ สัมผัสเทวะให้กับข้า?"


ฉู่เทียนกล่าว"ทักษะสัมผัสเทวะนั้นแตกต่างจากการฝึกพลังวิญญาณโดยทั่วไป,ไม่ใช่ทักษะเฉพาะที่จะสามารถเรียนรู้ได้,ถึงแม้ว่าจะมีพลังในดินแดนดินแดนกระตุ้นดวงจิตก็ตามที,ก็ล้ำลึกและเกินกว่าจะเข้าใจได้,จุดสำคัญนั้นขึ้นอยู่กับการเข้าใจในพลังของปราณและรับรู้มันได้ด้วยตัวบุคคล,เมื่อสามารถรู้แจ้งถึงมันได้แล้ว,ก็จะสามารถปลุกพลังดังกล่าวได้."


ที่จริงแล้วการฝึกฝนวิชาสัมผัสเทวะเองก็มีอยู่,


อย่างไรก็ตาม,วิชาฝึกฝนนั้นมันยากลำบากและค่อนข้างล้ำลึกจนเกินไป,ไม่สามารถที่จะฝึกฝนได้ด้วยทรัพยากรที่มีในทวีปหนานเซี่ยนี้ได้,ฉู่เทียนจึงคิดว่า,ไม่ควรที่จะเปิดเผยเรื่องดังกล่าวไป.


"เอิ่ม,....ข้าคงถูลิขิตให้ไม่สามารถฝึกได้สินะ!"


ฉู่เทียนที่เห็นใบหน้าของหนานกงอี้ที่ดูหดหู่,จึงได้กล่าวไปว่า"ท่านไม่จำเป็นที่ต้องเหยียดหยันตัวเองเช่นนั้น,พรสวรรค์ของท่านก็ไม่ได้แย่เลย,เพียงแค่ขาดโชคก็เท่านั้น."


โชค?


ทุกๆคนล้วนแล้วแต่ไร้โชค!


ทุกคนที่เกิดมาล้วนแล้วต้องการโชค,การฝึกฝนเองก็ต้องการโชค,การจะพบอะไรเข้าโดยบังเอิญก็ต้องการโชค,ไม่ใช่ว่าใครๆก็ขาดโชคอย่างงั้นรึ?


ทันใดนั้นฉู่เทียนก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนา,"ข้าสามารถมอบทักษะอารมณ์แห่งจิตต่อสู้ให้ท่านได้,แม้ว่าจะไม่สามารถเทียบได้กับทักษะสัมผัสเทวะได้,แต่ก็เป็นรองแค่นิดหน่อยเท่านั้น,สัมผัสรับรู้เองก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่,ตราบเท่าที่ท่านฝึกฝนโดยไม่ย่อท้อ,ทักษะจิตสัมผัสก็ใช่ว่าจะไม่สามารถเรียนรู้ได้."


หนานกงอี้เผยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความยินดี,"เจ้าพูดจริงอย่างงั้นรึ?"


ภายในดวงตาของฉู่เทียนนั้นมีประกายแสงของเล่ห์เหลี่ยม"ทว่า,ท่านเจ้าเมือง,ทักษะนี้จำเป็นต้องเตรียมการ,ข้าไม่เคยนำมาสอนคนอื่นเลย,ดังนั้นจึงจำเป็นที่ต้องใช้เวลาในการทบทวนบนเรียนดังกล่าวระยะเวลาหนึ่ง,ถึงจะสามารถเขียนมันออกมาได้."


"เจ้าต้องการเวลามากเท่าไหร่?"


"ราวๆหนึ่งเดือน!"


หนานกงอี้ที่ร้อนรน,"นานขนาดนั้นเลยรึ?"


ฉู่เทียนที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง"อารมณ์แห่งจิตวิญญาณนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก,หากว่าเกิดอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย,ย่อมส่งผลไม่รู้จบไปจนถึงอนาคต,อย่างเบาอาจจะพิการหรือเป็นบ้าเลย ,อย่างหนักสุดถึงตายได้,ข้าไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กเลย,ข้าต้องการที่จะเรียบเรียงความคิดอย่างระมัดระวัง."


ชายคนนี้พูดทีจริง,ทีเล่น!


ทว่าแน่นอนว่าเขาจะต้องมีวิธีแน่นอน!


เรื่องดังกล่าวนี้หนานกงอี้ก็เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงแน่นอน.


ทว่า,มันต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนเลยรึ?


บางทีคงไม่จำเป็นก็ได้!


เด็กน้อยคนนี้จงใจที่จะยืดเวลาออกไป,ต้องการใช้เวลาหนึ่งเดือน,เพื่อที่จะแลกให้เขานั้นไม่ลังเลใจที่จะเข้าปกป้องตัวเอง แม้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นก็ตาม!


สิ่งล่อใจเองก็ดูยิ่งใหญ่ยิ่งนัก!

หนึ่งในวิชาที่ช่วยฝึกฝนสัมผัสเทวะ,เป็นไปได้ว่ามีค่ามากกว่าวิชาของตระกูลหนานกงที่สืบทอดกันมา,วิชา เพลิงผลาญสวรรค์ ที่ลึกล้ำก็เป็นได้!


เพราะว่าวิชา เพลิงผลาญสวรรค์ เองก็เป็นวิชาฝึกตนที่มีพลังทำลายล้างน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก,ภายในอาณาจักรแห่งนี้ไม่ได้เปิดเผยให้ทุกคนได้เรียนรู้,บนทวีปแห่งนี้ก็ไม่มีมากมายที่มีวิชาอื่นๆที่สามารถจะเทียบเคียงได้,วิชาอารมณ์แห่งจิตวิญญาณของฉู่เทียนเอง,อาจจะเป็นหนึ่งในวิชาหายากก็เป็นได้,ลำพังในอาณาจักรแห่งนี้คงไม่มีใครรู้แน่,บางทีทั่วทั้งทวีปเองก็ยากที่จะเคยพบเจอ,ไม่เช่นนั้นแล้ว,จะเป็นไปได้อย่างไรที่ตระกูลหนานกงจะไม่รู้.


"ดี!"


"ไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง,หนึ่งเดือนก็คือหนึ่งเดือน!"


"หากว่ามันเป็นวิธีที่ใช้ประโยชน์ได้จริงๆ,ตระกูลหนานกงของข้าย่อมต้องตอบแทนเจ้าอย่างแน่นอน!"


ฉู่เทียนไม่ขยับจ้องมองพร้อมกับเผยยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ.


เป้าหมายอย่างหนึ่งของเขาก็สำเร็จลุล่วงแต่โดยดี.


ไม่ว่าตระกูลเย่จะมีแผนการใด,ตราบเท่าที่เจ้าเมืองยินดีที่จะรับรองชีวิตของเขาเอาไว้,ถึงตระกูลเย่จะน่ากลัวสักเท่าไหร่,หากว่าได้รับการปกป้องจากท่านเจ้าเมืองล่ะก็,ฉู่เทียนย่อมต้องปลอดภัย.


หนึ่งเดือนหลังจากนี้?


ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง,ตราบเท่าที่ทุกอย่างราบรื่น,อย่างน้อยที่สุดฉู่เทียนต้องสามารถไปถึงเขตแดนปลุกดวงจิตได้แล้วอย่างแน่นอน!

ในเวลาเดียวกันเหล่าผู้ติดตามของเจ้าเมืองได้ลากรถเข้ามา,ภายในนั้นมีหม้อคลิสตัล,ซึ่งบรรจุทรายผลึกสีน้ำเงินเอาไว้นั่นเอง,และยังมีผงคลิสตัล,และผงแป้งของหญ้าแสงจันทร์และน้ำคั้นปะการังสีแดง.


วัตถุดิบถูกนำมาส่งเขานั่นเอง.


ฉู่เทียนได้ตรวจสอบสอบว่าไม่มีปัญหาใดและก่อนที่เขาจะนำถังน้ำมันคลิสตัลออกมา,"ข้าจะเริ่มทำการทดลอง,ท่านเจ้าเมืองสนใจหรือไม่,สามารถอยู่ชมได้นะ."


เป็นไปได้ว่าการทดลองนี้มีส่วนผสมของน้ำมันคลิสตัลอยู่ด้วย.


น้ำมันคลิสตัลที่มีส่วนผสมที่อันตรายเป็นอย่างมาก?


จะสามารถสัมผัสมันได้อย่างงั้นรึ?


หากว่าเจ้าเด็กนี้ได้รับอุบัติเหตุ,เจ้าเมืองอย่างเขาไม่ต้องเสียหายอย่างหนักเลยเรอะ!

 หนานกงอี้รู้สึกกระวนกระวายใจเหมือนมียุงคอยตอม,ราวกับว่ามีแมวกำลังข่วนหัวใจของเขาอยู่,การไม่สามารถที่จะปล่อยให้ฉู่เทียนทดลองคนเดียวได้,แน่นอนว่าเขาจะต้องเฝ้ามองดูผลอยู่ข้างหลัง,"เจ้าเมืองอย่างข้าจะขอชมเอง,ประธานฉู่เทียนเชิญแสดงการทดลองได้เลย!"




https://www.facebook.com/shareebookandducumentfree



ที่มาจากhttp://www.novelupdates.com/series/miracle-throne/

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



2 ความคิดเห็น: