วันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 37 Publication of marvelous chamber of commerce

Miracle Throne Chapter  37 Publication of marvelous chamber of commerce

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 37 ก่อตั้งหอการค้าปาฏิหาริย์


บทที่ 37 ก่อตั้งหอการค้าปาฏิหาริย์



*** Source Spirit  นับตั้งแต่ตอนนี้ ดวงจิตวิญญาณ จะขอเปลี่ยนเป็น ภูติวิญญาณ 


พลังวิญญาณของเย่ซ่งได้รวมตัวกันแปรเปลี่ยนเป็นหมาป่าอสูรตัวมหึมา,มือทั้งสองข้างที่ยกขึ้น,เศษดินเศษหินที่อยู่รอบๆถึงกับฉีกกระชากแตกสลาย แหลกออกเป็นเสี่ยงๆ,เป็นพลังที่รุนแรงหนักหน่วงน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก,,พลังงานดังกล่าวนั้นได้แปรเปลี่ยนเป็นกรวยที่แหลมคม,หมุนวนจะแทบจะสามารถฉีกอากาศที่อยู่รอบๆได้,ก่อนที่จะพุ่งออกไป,ด้วยความเร็วที่ไม่คาดคิดตรงไปยังร่างของฉู่เทียน.



"โฮกกกก!"


พลังวิญญาณมหาศาลของหมีพายุหิมะก็ถูกปลดปล่อยออกมาเช่นกัน.


ซ่งปิงที่ยืนมือซ้ายวาดไปบนอากาศ,พลังความเย็นได้ลอยออกไปรวมตัวกันขึ้นมาเป็นกำแพงน้ำแข็ง,ก่อนที่กรวยแหลมจะทะลวงไปยังกำแพงน้ำแข็งเสียงดังสนั่น,เกิดคลื่นลมปะทะออกมา,กำแพงน้ำแข็งแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ,ไม่คาดคิดเลยว่าจะใช้กำแพงน้ำแข็งดังกล่าวป้องกันการโจมตีครั้งนี้ได้.


อีกครั้งหนึ่งแล้วที่ถูกซ่งปิงออกมาขัดขวาง!


"ซ่งปิง!"เย่ซ่งถึงกับกัดฟันพร้อมตะโกนออกมาเสียงดัง"เจ้าคิดจริงๆรึว่าจะสามารถขวางทางข้าไม่ให้สังหารมันได้?"


เขาได้ดึงม้วนคัมภีร์อักขระอักษรรูน,ออกมาจากแขนเสื้อ.


เย่ซ่งยกมือขึ้นสูง.


"โฮกกก!"


ภูติวิญญาณอสูรหมาป่ารู้สึกได้ถึงอารมณ์ของเจ้านายตนเองที่กำลังโกรธเกรี้ยว,มันยกขาของมันตะปมไปยังม้วนอักขระในทันที,พลังงานสีน้ำตาลส่องประกายออกมาจากม้วนคัมภีร์ดังกล่าวก่อนที่มันจะถูกบดขยี้เป็นฝุ่นผงละเอียดในทันที


หนานกงอี้,ซ่างหลีซิงและซ่งปิงถึงกับตื่นตระหนก....ที่เย่ซ่งทำลายไปนั่น,คือพันธะสัญญาทาสของฉู่เทียนหรือไม่?


ดวงตาสีแดงของเย่ซ่ง เผยยิ้มออกมาอย่างบ้าคลั่ง"เจ้าทาสราคาถูก!ตายไปซะ!"


ในยุคสมัยนี้ประชากรทาสนับว่าเป็นที่นิยม,มีประชากรทาสอยู่ถึง 2,000,000-3,000,000 คน บางทีในเมืองนี้อาจจะทาสอยู่ถึง 200,000-300,000 คนก็ได้,แม้แต่ครอบครัวขนาดเล็กยังสามารถหาซื้อทาสเพื่อมารับใช้เล็กๆน้อยๆได้,ในครอบครัวที่ยากจนขัดสนเองพวกเขาก็ยินยอมที่จะแลกอิทธิสระภาพตัวเอง,เพื่อแลกเปลี่ยนกับอาหารและความอยู่รอดด้วยเหมือนกัน


การค้าทาสจึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก,เพื่อให้ง่ายในการควบคุมและมีความปลอดภัย!


เจ้าของทาสนั้นจะเก็บพันธะสัญญาชีวิตของทาสเอาไว้,ซึ่งไม่มีทางที่เหล่าทาสจะขัดขืนได้เลย,และคนที่มีเก็บพันธะสัญญาทาส,ก็คือเจ้าของทาสนั่นเอง.



เมื่อม้วนคัมภีร์พันธะสัญญาถูกทำลาย!


ดวงจิตของทาสก็จะถูกทำลายไป,แม้แต่เทพเจ้าจะเด็จลงมาบนพื้นโลกก็ไม่มีทางช่วยเหลือให้รอดตายไปได้


เย่ซ่งนั้นต้องการสังหารฉู่เทียนให้ตายไป,เพื่อผ่อนปรนความเกลียดชังในหัวใจของเขา,ใครจะรุ้ว่าซ่งปิงที่พยายามจะหยุดเขาเอาไว้,จะกดดันให้เขาเขานำพันธะสัญญาออกมาทำลาย,เย่ซ่งที่จ้องมองดวงจิตของฉู่เทียนที่กำลังถูกทำลาย,ก่อนที่จะบนอู้อี้กวาดตามองไปดูความตายของฉู่เทียนที่กำลังจะตายอยู่กลางฝูงชน!


ถึงจะมีพรสวรรค์แล้วมันแตกต่างกันอย่างไร?


จะมีอนาคตสดไสได้เหรอ?


ยังไงก็เป็นทาสชั้นต่ำตลอดกาล!บังอาจมาทำให้ตระกูลเย่ได้รับความอับอาย,สังหารบุตรชายคนโตของเขา,เป็นศัตรูที่ไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมโลกกันได้อย่างแน่นอน!


ทุกคนต่างจ้องมองไปบนเวที.


หนึ่งวิ,สองวิ...สิบวินาทีผ่านไป.


ฉู่เทียนยังคงยืนอยู่อย่างเฉิดฉายอยู่บนเวทีการแข่งขัน.


เย่ซ่งถึงกับโกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันที,นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้น,ทำไมมันถึงไม่ตาย?


"คิดไม่ถึงสินะ,เจ้าหมาเฒ่าเย่!"ฉู่เทียนที่กล่าวเหน็บแนบด้วยท่าทางสบายดี,พร้อมกับกล่าวอย่างผยองออกมาเสียงดัง"ตระกูลเย่ขี้ขลาดตาขาว,ใช้วิธีการต่ำๆเช่นนี้,ทว่าพวกเจ้ามีปัญญาทำอะไรข้าได้รึ?!"


ดวงจิตส่วนหนึ่งถูกทำลาย,ทว่าคนกลับสามารมีชีวิตได้อย่างงั้นรึ?


นี่มันเป็นไปไม่ได้!


ถูเจิ้นเทียนเองก็แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเช่นกัน!


ภัยคุกคามจากฉู่เทียนนั้นมากมายนัก,หากว่าไม่รีบกำจัดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ล่ะก็,ภายในอนาคตวันข้างหน้าหากเขามีความแข็งแกร่งกว่านี้,บางทีตระกูลถูเองคงยากที่จะเลี่ยงการถูกลำลายแน่.


แม้ว่าตระกูลถูจะไม่มีผลได้ผลเสียโดยตรงและความคลั่งแค้นกับฉู่เทียนเท่าใด,ทว่าการที่เขาจะกลายเป็นภัยคุกคามในวันข้างหน้า,ก็ควรค่าที่จะกำจัดให้สิ้นไปแล้ว!


"เพื่อกำจัดปิศาจร้าย,ข้าจะช่วยเจ้าเอง!"


ถูเจิ้นเทียนปลดปล่อยดวงจิตของตัวเองออกมาทันที,ภูติวิญญาณของเขานั้นมีระดับทั่วไปเท่านั้น,แต่ที่ดูน่าประทับใจคงจะเป็นพลังในการควบคุมมีดคู่และขวานทมิฬขนาดใหญ่ที่คมกริบ,พร้อมกับปลดปล่อยปราณที่บ้าคลั่งออกมา,แขนทั้งสองข้างของถูเจิ้นเทียนที่ยกขึ้นไปบนอากาศ,ก่อนที่ขวานขนาดใหญ่จะเหินออกไปตามการวาดมือของเขา,มันลอยสูงขึ้นลอยเคว้งไปบนอากาศ,ก่อนที่จะพุ่งลงไปยังสนามการแข่งขัน.


"ตัด!"


ฉู่เทียนหลบฉากไปด้านข้างในทันที.


และตำแหน่งที่ขวานทมิฬขนาดยักษ์สับลงมาจากฟ้านั้น,เกิดเป็นรอยแยกของเวทีขนาดใหญ่หลายฟุตเลยทีเดียว....เป็นพลังทำลายที่มหาศาลน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก!


เย่ซ่ง,หลีซางหยุน,ถูเจิ้นเทียน ทั้งสามล้วนแล้วแต่เป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต,ลำพังเพียงแค่ซ่างหลีซิงและซ่งปิงคงยากที่จะขัดขวางได้,สถานการณ์ของฉู่เทียนได้เข้าสู่ภาวะวิกฤติแล้ว.


เมิ่งชิงอู๋และเมิ่งหยิงหยิงที่มองดูอยู่ไกลๆ,ถึงกับร้อนรนจนแทบทนไม่ไหว!


ฉู่เทียนแสดงพลังออกมาเช่นนี้,ไม่ใช่เพราะว่าเพื่อหอการค้าของพวกเขาที่กำลังจะก่อตั้งหรอกเหรอ,หากพวกนางรู้ว่าสถานการณ์จะออกมาอันตรายถึงเพียงนี้,พวกนางไม่มีทางที่จะให้ฉู่เทียนต้องแสดงความสามารถเช่นนี้แน่,การที่จะปกป้องเขาตอนนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบากแล้ว!


ถึงอย่างงั้นจะพูดอะไรตอนนี้ก็คงสายไปแล้ว.


พวกนางพอจะทำอะไรได้ตอนนี้ล่ะ?


"พอแค่นั้นล่ะ!!!!!@"


พื้นที่โดนรอบสั่นไหวอย่างรุนแรง,เป็นกลิ่นอายที่ทรงพลังรุนแรงจนหาอะไรมาเปรียบได้,ถูกพ่นออกมาในทันที,ราวกับว่าวันสิ้นโลกกำลังจะมาถึง,เสียงที่รุนแรงสั่นสะท้านเป็นคลื่นที่ทรงพลังดังก้องอยู่ในหูทุกคนจนเจ็บปวดเจียนตาย"พวกเจ้าทั้งหมดไม่เห็นหัว,จ้าวเมืองอย่างข้าแล้วอย่างงั้นรึ?"


พลังกดดันที่น่าสะพรึงกลัวสั่นสะเทือนแผ่นดิน!


พลังวิญญาณเปลวเพลิงสีแดงถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า,กลิ่นอายของพลังเผาไหม้ที่จะหาอะไรมาเปรียบได้แผ่ความร้อนออกมาปกคลุมคนทุกคนที่อยู่รอบๆ,ในที่สุดก็ควบรวบกลายเป็นภูติวิญญาณขนาดมหึมา,เป็นภูติวิญญาณที่มีรูปร่างคล้ายกับปล่องหลุมขนาดยัก,ที่พ่นลาวาความร้อนสูงออกมาไม่หยุด,ไหลพุ่งไปบนอากาศไม่หยุดหน่อย,พื้นที่รอบๆต่างได้กลิ่นเหม็นไหม้ของก๊าซความร้อนฟุ้งไปหมด.


จ้าวเมืองหนานกงอี้ลงมือแล้ว.


คาดไม่ถึงว่านี้คือภูติวิญญาณของเขา,ภูติวิญญาณภูเขาไฟ!


ภูติภูเขาไฟ เป็นพลังของผืนปฐพีที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,ภูติภูเขาไฟนั้นมีพลังธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่,เพียงพอที่จะทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง,หลอมละลายโลกทั้งใบ,เผาใหม้ทุกสิ่งมีชีวิตให้กลายไปเป็นเถ้าถ่าน,มีพลังทำลายเพียงพอที่จะทำลายล้างประเทศหนึ่งได้อย่างสบายๆ,

ภูติวิญญาณสายต่อสู้,เป็นหนึ่งในภูติวิญญาณสายต่อสู้ที่ทรงเป็นอย่างมากตนหนึ่ง!


ภูติวิญญาณภูเขาไฟ,สามารถสร้างแผ่นดินไหว,สร้างภัยพิบัติที่น่าหวาดกลัวขึ้นได้,ลำพังเพียงเมืองเทียนหนานแห่งนี้,ก็สามารถข่มขู่ทุกคนให้หวาดกลัว,หวั่นเกรงพลังของมันได้แล้ว.


ภูติวิญญาณของตระกูลหนานกงนั้นมีคุณสมบัติธาตุไฟ.

หนานกงหยุนเองก็สามารถปลุกภูติวิญญาณระดับพระเจ้า หงเพลิงขึ้นมาได้เช่นกัน,จนทำให้นางนั้นกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในรัฐกลาง.


หนานกงอี้ที่อยู่ในตำแหน่งเจ้าเมือง,ไม่จำเป็นที่จะต้องต่อสู้,หากจะกล่าวให้ถูกละก็,ยังไม่มีเหตุให้เขาต้องลงมือด้วยตัวเอง,ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าหนานกงอี้นั้นแข็งแกร่งจริงหรือไม่,แม้แต่ภูติวิญญาณของเขาก็ไม่มีใครรู้.


ภูติวิญญาณภูเขาไฟแม้ว่าจะไม่ยอดเยี่ยมเทียบเท่าหงเพลิงของบุตรสาว,ทว่ากลับเป็นภูติวิญญาณประเภทพลังทำลายล้างที่มากมายจนไม่สามารถหาอะไรมาเทียบได้,หากว่ามีพลังฝึกตนที่มากพอล่ะก็,ความแข็งแกร่งย่อมไม่ด้อยไปกว่าผู้มีภูติวิญญาณระดับพระเจ้าแต่อย่างใด.


พลังของภูติภูเขาไฟ.


สามารถสะสมพลังเอาไว้ได้!


และเมื่อพลังดังกล่าวถูกปลดปล่อยออกมาล่ะก็,ผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับเดียวกัน,แทบจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาได้เลย,พลังวิญญาณที่หนักหน่วงของหนานกงอี้ที่ปลดปล่อยออกมานั้น,มีพลังที่เหนือล้ำกว่าทุกคนไปไกลเลยทีเดียว!


ถึงจะเป็นผู้ฝึกตนดินแดนปลุกดวงจิตเช่นกันก็ไม่สามารถที่จะชนะเขาได้


นี่คือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเจ้าเมืองอย่างงั้นรึ?


นี่คือคนของตระกูลหนานกงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นหนึ่งในสามของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรแห่งนี้?


หนานกงอี้ที่แปรเปลี่ยนท่าทางจากบัณฑิตทรงภูมิ,กลายเป็นคนที่เผด็จการ,และด่าว่าตำหนิคนอื่นออกไปอย่างรุนแรง"เย่ซ่ง,เจ้าจะไร้สาระเกินไปแล้ว!นี่คือการแข่งขันเมืองเทียนหนาน,การบาดเจ็บล้มตายจากการแข่งขันในแต่ละปีนั้นหลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ไม่ได้,เจ้าอนุญาตให้แต่บุตรชายของเจ้าสังหารคนอื่นได้,แต่ไม่อนุญาตคนอื่นให้ทำร้ายบุตรชายของเจ้าได้รึอย่างไง?"


ภูติวิญญาณภูเขาไฟที่สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นปฐพี,พลังของลาวาราวกับว่ามันอัดแน่นพร้อมจะพ่นออกมาในช่วงวิกฤติแล้ว,ทุกคนต่างเริ่มรู้สึกกดดันถึงพลังที่รุนแรงและความร้อนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ,ราวกับว่าสถานที่แห่งนี้,พวกเขาแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว.


หนานกงอี้กล่าวออกมาอย่างไม่เร่งรีบและเสียงดังชัดเจน,"ใครกล้าแสดงท่าทางไร้เหตุผลอีกล่ะก็,อย่ามาหาว่าข้านั้นอมหิตไร้หัวใจก็แล้วกัน!"


ทรงพลังเกินไปแล้ว!


ไม่สามารถที่จะต่อกรได้เลย!


ใบหน้าของเย่ซ่ง,หลีซางหยุน,และถูเจิ้นเทียนเต็มไปด้วยความไม่ยินดี,ทว่าพวกเขาเองก็ไม่มีทางเลือกเลย!


ต้องไม่ลืมว่า,ในโลกแห่งนี้,ความแข็งแกร่งคือที่สุด,คนที่แข่งแกร่งคือผู้กำหนดทุกอย่าง,มันเหมือนกับกฎของสวรรค์,ทำให้คนทั้งสามตอนนี้ได้แต่ชำเลืองมองอย่างเกลียดชังฉู่เทียน,จำใจที่ต้องขออภัยต่อจ้าวเมือง,ก่อนที่จะกลับไปนั่งยังสถานที่นั่งของตัวเอง.


หนานกงอี้แสดงตัวชัดเจนว่า,ได้รับรองความปลอดภัยให้กับฉู่เทียน.


เช่นนั้นแล้ว,ฉู่เทียนก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับชีวิตตัวเองในเมืองเทียนหนาน,ตราบเท่าที่หนานกงอี้ยังเป็นเจ้าเมือง,พวกเขาย่อมไม่กล้าที่จะลงมือกับฉู่เทียนได้ง่ายๆแน่นอน.


มันเป็นเรื่องที่พวกเขาไม่ยินดีเป็นอย่างมาก!


ทว่าไม่คิดจริงๆว่าท่านจ้าวเมืองจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เลยรึ?


เย่ซ่งและถูเจิ้นเทียน,ที่ใบหน้าของเขานั้นเปลี่ยนเป็นมืดคลึ้มคลุมเครือ,สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถทานทนความโกรธเกรี้ยวของตัวองได้,"พวกเรากลับ!"


ประมุขตระกูลใหญ่สองตระกูลได้ออกจากงานชุมนุมในครั้งนี้,พาคนของพวกเขาที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ออกจากงานไปด้วยเช่นกัน.


หนานกงอี้ได้เรียกภูติวิญญาณภูเขาไฟกลับมา,ซึ่งได้ปลดปล่อยออกมาปกป้องฉู่เทียนก่อนหน้านี้,ถึงจะได้ล่วงเกินคนสองตระกูลใหญ่ไปอย่างชัดแจ้งก็ตามที,ในเมื่อเขาได้กระทำไปแล้ว,ก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด,ก่อนที่เขาจะกล่าวออกมาเสียงดัง,ประกาศออกไปต่อหน้าทุกคน"การแข่งขันวัดพรสวรรค์การชุมนุมเมืองเทียนหนานครั้งนี้,ข้าขอประกาศต่อทุกคนว่าผู้ชนะเลิศ,ฉู่เทียน!"


ฉู่เทียน!

ฉู่เทียน!

เหล่าสาธารณะชนต่างตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง.


เลือดภายในกายของพวกเขาต่างรุ่มร้อนส่งเสียงฉู่เทียนอย่างบ้าคลั่ง.


ยิ่งเห็นพลังที่แข็งแกร่งของท่านจ้าวเมืองแล้วก็ยิ่งเร่งเร้าพวกเขาเข้าไปอีก!


เมืองเทียนหนานนั้นเป็นเมืองทั่วๆไปเมืองหนึ่งในอาณาเขตของรัฐกลาง,หากว่ามีจ้าวเมืองที่ทรงพลังถึงเพียงนี้,ก็สามารถทำให้พวกเขาคาดหวังได้,ถึงอนาคตที่รุ่งเรือง!


หนานกงอี้กล่าวต่อ,"เกี่ยวกับประเพณีการแข่งขันของเมืองเทียนหนาน,ฉู่เทียนที่เป็นผู้ได้รับชัยชนะในครั้งนี้,ตระกูลหรือผู้สนับสนุน,ที่อยู่ภายในเมืองเทียนหนานแห่งนี้จะได้รับงดเว้นภาษีเป็นเวลาหนึ่งปี,พร้อมกับได้รับทรัพยากรเป็นป่าไม้พร้อมเหมืองสามแห่ง,พร้อมทั้งในงานชุมนุม,จะมีโอกาสได้พูดสุนทรพจน์แสดงผลงานของผู้สนับสนุนก่อนอีกด้วย!"


ได้กล่าวเปิดงานอีกด้วย.


ทุกๆคนในงานถึงกับส่งเสียงเซ็งแซ่ขึ้นมาในทันที.


ไม่ใช่ว่าผู้สนับสนุนของฉู่เทียนก็คือหอการค้าหนานหยุนหรอกเหรอ?


หอการค้าที่กำลังสุ่มเสียงที่จะปิดกิจการ,ยังมีสิ่งใดที่ต้องการจะแสดงผลงานอยู่อีกรึ?


เหล่าฝูงชนเองเปลี่ยนเป็นห่อเหี่ยวเหมือนกัน,การแข่งขันของฉู่เทียนั้นทำให้งานชุมนุมครั้งนี้ดูน่าตื่นเต้นเร้าใจเป็นอย่างมาก,ทว่าตอนจบของเขากลับกลายเป็นเรื่องที่น่าเศร้าขนาดนี้เลยรึ?


ฉู่เทียนภายใต้การแนะนำจากหนานกงอี้,เขาได้เดินผ่านพรมแดนที่ปูไว้อย่างช้าๆ ตรงมายังกลางเวที,การแข่งขันการต่อสู้ตอนนี้ได้เสร็จสิ้นแล้ว,และงานหลักของการชุมนุมในครั้งนี้,จะเป็นการนำเสนอผลงานทางธุรกิจ,เป็นการประกาศผลสรุปผลการค้าต่อหน้าสาธารณะชน,รวมถึงแผนการค้าและยุทธ์วิธี,รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่อีกด้วย.


เมื่อฉู่เทียนก้าวมาอยู่ตรงกลางซึ่งเป็นเวทีที่ดูหรูหรา,เขาได้อยู่ต่อหน้าฝูงชนเป็นจำนวนมาก,เขานั้นหาได้ตื่นกลัวเวทีแต่อย่างใด,เขาได้ประกาศออกไปเสียงดัง"วันนี้ข้าอยู่ที่นี่ไม่ได้ต้องการกล่าวอะไรเพื่อคนอื่น,ข้ามาที่นี่ต้องการกล่าวเพื่อตัวข้าเอง!"

ฉู่เทียนได้กล่าวต่อไปว่า"ต่อหน้าท่านเจ้าเมืองและทุกคนที่อยู่ในเมืองเทียนหนานแห่งนี้,ข้ามีความตั้งใจที่จะประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ,กับการจัดตั้งหอการค้าแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดของอาณาจักรแห่งนี้,....หอการค้าปาฏิหาริย์!ขอเปิดอย่างเป็นทางการ ณ วันนี้!"


หอการค้าปาฏิหาริย์รึ?


ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย!


คนทั้งหมดกว่าหมื่นคนต่างเงียบเสียง,นี่มันเรื่องอะไรกัน?ชายคนนี้จะอหังการเกินไปแล้ว,กล้ากล่าวว่าหอการค้าตัวเอง ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้เลยเรอะ!


จองหองขนาดนั้นเลยเหรอ?

!

ฉู่เทียนที่ดูน่านับถือ,การกล่าวคำพูดเช่นนี้ออกมา,ดูเหมือนว่าจะดูไม่เหมาะกับสำนึกของเขาเอง,เขาต้องการที่จะประกาศว่าหอการค้าปาฏิหาริย์จะกลายเป็นหอการค้าที่ใหญ่ระดับทวีป,แม้แต่หอการค้าระดับโลกเลยเหรอ!


ฉู่เทียนไม่ได้ใส่ใจกับความสงสัยและการพูดคุยกันไปมาของฝูงชน,เขายังกล่าวต่อด้วยเสียงดัง"ก่อนหน้าที่หอการค้าปาฏิหาริย์จะเป็นรูปเป็นร่าง,ข้าขอนำเสนอหอการค้าในแครือของหอการค้าขนาดใหญ่ของข้า!"


หอการค้าที่เพิ่งจัดตั้งขึ้น,ก็ประกาศหอการค้าในเครือแล้วเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ?


ฉู่เทียนประกาศออกไปเสียงดัง"สาขาแรก,หอการค้าเทคโนโลยียาและอักขระ เทียนหยุน,ประธานหอกาค้าแห่งนี้คือ เมิ่งชิงอู๋,หัวหน้าบริหารศาสตร์วงเวทย์อักขระ, ผู้บริหารซ่างหลีซิง,หัวหน้าผู้บริหารศาสตร์การปรุงยา ผู้บริหารซ่งเทียนเหยี่ยน!"


ปังงงง!


เสียงของฝูงชนต่างดังเซ็งแซ่กระจัดกระจายไปในทันที.


กำลังพูดอะไรอย่างงั้นรึ?นั่นไม่ใช่หอการค้าหนานหยุนหรอกเหรอ!


ก่อตั้งหอกาค้าขึ้นมาใหม่เพื่อรวมหอการค้าเดิมเข้ามา!แล้วคนที่ทำให้พวกเขาต้องประหลาดใจเป็นอย่างมากคือ ปรมาจารย์วงเวทย์อักขระและอาจารย์ปรุงยา,ซ่างหลีซิงและซ่งเทียนเหยี่ยน,ทั้งสองคนนั้นเป็นคนที่ทุกคนต่างก็รู้จักกันดี,ได้เข้าร่วมหอการค้าหนานหยุนที่กำลังจะล้มเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงต่อทุกคนเป็นอย่างมาก!


ฉู่เทียนยังคงประกาศเสียงดังต่อไป,"หอการค้าอย่างที่สอง,หอการค้า การจัดการอาหารด้วยพลังเวทย์แห่งปาฏิหาริย์จำกัด,ประธานบริหาร เมิ่งหยิงหยิง,รองประธาน หนานกงหยุน!"


หนานกงอี้และซ่งปิงจ้องมองหน้ากันอย่างงงงวยไปหลายวินาทีเลยทีเดียว.


เมื่อเห็นซ่งเทียนเหยี่ยนและหนานกงหยุน,เมิ่งหยิงหยิง,และเมิ่งชิงอู่,ซ่างหลีซิง,ทั้งหมดได้ขึ้นมาบนเวทีพร้อมๆกัน,และยืนอยู่ด้านหลังของฉุ่เทียน,คนทั้งสองจึงค่อยๆฟื้นคืนสติขึ้นมาอย่างช้าๆ.


นี่มัน....นี่ไม่ใช่ว่าข้ากำลังฝันอยู่หรอกเหรอ!


ฉู่เทียนนั้นไม่ได้ให้เวลาทุกคนได้หายใจเลยแม้แต่น้อย "ทุกคนคงจะอยากรู้อยากเห็นแล้วล่ะซิ,ที่จริงแล้วหอการค้าปาฏิหาริย์ของเรานั้นทำธุรกิจอะไร? วันนี้ ที่นี่, ขอเชิญท่านรองประธานและประธานหอการค้าเทียนหยุน เมิงชิงอู่ สาธิตสินค้าของพวกเราต่อหน้าทุกๆคน!"


ฉู่เทียนถอยออกมาด้านหลัง,เขาได้กระแซะเมิ่งหยิงหยิงเบาๆพร้อมกับขยิบตาให้กับนาง,คล้ายต้องการบอกว่า,เป็นอย่างไรล่ะ?พี่ชายคนนี้ทำได้ดีป่าว!


ดวงตาของเมิ่งหยิงหยิงเปล่งประกาย,ที่มุมปากของนางยกขึ้นยิ้มอย่างมีความสุข,พร้อมกับแอบยกนิ้วโป้งของนางให้กับเขา,ด้วยท่าทางชื่นชมและพึงพอใจ!


เมิ่งชิงอู่ที่เดินออกมาด้านหน้าเวทีอย่างช้าๆ,นางสวมชุดคลุมสีขาว,ดูสมส่วนเขารูปกับรูปร่างของนาง,ความสวยที่เคร่งขรึมนั่น,ทำให้นางดูสง่างาม,ยากที่จะหญิงสาวใดในเมืองแห่งนี้เทียบกับความงานของนางได้.


เมิ่งชิงอู๋ที่ได้บริหารหอการค้าหนานหยุนมากว่าหกปี,เคยพบเจอปัญหาใหญ่เล็กมาเป็นจำนวนมาก,แท้จริงแล้วกับไม่เคยตื่นเต้นเท่ากับวันนี้เลย.


เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว.


นับจากวันที่ฉู่เทียนได้ก่อตั้งหอการค้าขึ้นมา,จนถึงวันประกาศตัวต่อหน้าสาธารณะชน,มันเพิ่งผ่านมาสิบวันกว่าๆเท่านั้น,เมิ่งชิงอู๋ที่ทำงานต่อเนื่องแทบจะไม่หยุด,ทว่าก็ยังไม่เพียงพอ,ขบวนการผลิตเองก็ยังสร้างขึ้นมาไม่เสร็จดีนัก.


อย่างไรก็ตาม,สินค้าหลายอย่างก็สร้างออกมาได้แล้ว,อย่างน้อยที่สุดก็เพียงพอที่จะเสนอต่อฝูงชนในวันชุมนุมแห่งนี้.


เมิ่งชิงอู๋คิดว่า กว่าจะมาถึงวันนี้,ความเชื่อมันของนางก็เพิ่มขึ้นในทันที.


ในเวลาเดียวกัน,พนักงานหลายคนของหอการค้าหนานหยุนก็ได้นำบางสิ่งออกมา,พร้อมกับยกขึ้นมาอย่างระมัดระวังขึ้นมาบนเวที,อย่างน้อยที่สุดก็มีความสูงขนาดสองจ้าง(3.33 เมตร)ทุกอย่างนั้น ถูกคลุมไปด้วยผ้าคลุมสีดำ.


นั่นคืออะไรกัน?



เหล่าฝูงชนต่างก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น!


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย




12 ความคิดเห็น:

  1. ที่แท้เจ้าเมืองนั่นก็แกร่งแต่เพราะเกรงใจสินะเลยไม่ได้โชว์พลังให้ชาวบ้านรู้ / พี่ฉู่โชว์ยาวๆเลยแบบนี้

    ตอบลบ
  2. ค้าง เลยงะ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  3. ไม่ใช่แค่ฝูงชนอยากรู้ ผู้อ่านอน่างเราๆก็อยากรู้

    ตอบลบ
  4. กำลังมันส์เลย ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  5. พี่ฉู่ถ้าไปเจ๊าะแจ๊ะกับน้องหนานงานนี้ระวังท่านเจ้าเมืองนะครับ ท่าทางจะแอบโหด

    ตอบลบ
  6. มันคือกระทะโคเรียคิง!!!!

    ตอบลบ