Miracle Throne Chapter 31 Day Nanfeng meeting
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 31 งานชุมนุมเมืองเทียนหนาน
บทที่ 31 งานชุมนุมเมืองเทียนหนาน
เช้าวันถัดมา.
เมื่อแสงตะวันทะลวงหมู่เมฆาทอแสงผ่านลงมายังเมืองเทียนหนานที่มาชุมนุมกันในคราวนี้,เป็นภาพที่ดูคึกคักเป็นอย่างมาก.
งานเลี้ยงประจำปี,ในที่สุดก็ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว.
นี่เป็นงานเลี้ยงเฉลิมฉลองที่ได้รับความร่วมมือจากกรมการปกครองและหอการค้าต่างๆ,ในช่วงเวลานี้จะมีเหล่าตระกูลขนาดใหญ่ที่มีทรัพยากรมหาศาล,จะมีการแถลงผลิตภัณฑ์ใหม่หรือกลยุทธ์ทางการค้า,และยังเป็นงานประกาศแถลงนโยบายความสำเร็จและนโยบายใหม่จากราชสำนักอีกด้วย,งานในครั้งนี้นั้น,ยังมีงานเต้นรำที่ให้เหล่าผู้เยาว์ได้แสดงความสามารถกันอีกด้วย.
คนได้มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก,ทำให้งานนี้ดูคึกคัก
สำหรับเหล่าประชาชนทั่วไปนั้น,ทุกคนต่างก็สนใจเข้าร่วมงานพิธีเฉลิมฉลองในครั้งนี้.
เสียงกลองและการบรรเลงก้องกังวานแพร่กระจายไปทั่วบริเวณ.
กลิ่นดอกไม้สดหอมตลบอบอวลไปทั่วท้องฟ้า.
เหล่าคนร่วมงานมากมายนับไม่ถ้วนต่างส่งเสียงเชียร์ตะโกนเซ็งแซ่ต้อนรับเหล่าตระกูลขนาดใหญ่ที่เริ่มปรากฏตัวออกมาที่หน้าเวที.
ทหารรับจ้างกลุ่มหนึ่งสวมเกราะสีเทาสะท้อนแสงระยิบระยับ,เป็นประกายแสบตาเป็นอย่างมาก,กระบี่ยาวที่แนบอยู่ข้างลำตัวของพวกเขากันทุกคน,พวกเขานั่นอยู่บนหมาป่าสีน้ำตาล,แต่ละตัวนั้นมีขนาดมหึมาท่าทางดุร้าย,ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก,ธงหมาป่าโบกสะบัดพริ้วไปตามสายลม,กลุ่มของพวกเขาส่งผลให้บรรยากาศรอบๆถึงกับเย็นยะเยือบขึ้นมาเลยทีเดียว.
"กลุ่มนักรบรับจ้างเขี้ยวหมาป่า!"
"เป็นคนของตระกูลเย่นั่นเอง!"
ส่วนคนที่นำกองกำลังของพวกเขามานั้นมีอายุราวๆ
สีสิบหรือห้าสิบปี,มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ,เสื้อคลุมสีดำขลิบทอง,คลุมอยู่ที่ใหล่ของเขา,คิ้วทั้งสองข้างของเขาหนาและเข้มเป็นเพิเศษจนทำให้รู้สึกว่าคนๆนี้กำลังโกรธเกรี้ยวและแสดงท่าทีข่มขู่อยู่ตลอดเวลา,คนๆนี้
ก็คือ เย่ซ่ง,เป็นผู้นำตระกูลเย่สาขาเมืองเทียนหนานนั่นเอง.
"ตระกูลถูก็มาที่นี่ด้วยเหมือนกัน!"
"ถูเจิ้นเทียนต้าซือ!"
เหล่านักรบหลายร้อยคนที่สวมชุดสีแดงกำลังเข้ามาในงาน,ตระกูลถูนั้นเป็นหนึ่งในตระกูลขนาดใหญ่ของเมืองเทียนหนานแห่งนี้,พวกเขาเป็นหนึ่งในการผลิตยุทธ์โธปกรณ์ที่มีชื่อเสียง,นับว่าพวกเขาทรงพลังและร่ำรวยเลยทีเดียว,เหล่าผู้เยาว์รุ่นใหม่ต่างก็เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์,ไม่ใช่ใครจะสามารถดูถูกพวกเขาได้เลย.
ประมุขถูเจิ้งเทียนนั้นเป็นชายแก่อายุราวๆ
ห้าสิบถึงหกสิบปี,เขาผู้เป็นคนชี้นำตระกูลมาหลายทศวรรษแล้วนับจากตระกูลขนาดเล็กจนเติบโตมีขนาดใหญ่ขนาดนี้,ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย.
"แม่ทัพซ่งปิง!"
"เจ้าเมืองหนานกงอี้!"
"ประธานสมาคมปรุงยาหลีซ่างหยุน!"
"ประธานสมาคมยันต์เวทย์อักขระซ่างหลีซิง!"
“...”
แต่ล่ะคนที่ปรากฏตัวออกมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นเหล่าคนที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังเป็นอย่างมาก.
เสียงชื่นชมกู่ก้องแทบไม่หยุด,ทำให้บรรยากาศตอนนี้ดูคึกคักเร้าใจน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.
ทันใดนั้น,เมิ่งชิงอู๋ได้นำคนกลุ่มหนึ่งขึ้นมาบนเวที,นอกจากเมิ่งชิงอู๋แล้วยังมีคนอีกสองสามคน,พวกเขาที่โกโรโกโสขนาดนั้นคิดว่าตนเองเป็นตระกูลที่ทรงพลังและมีชื่อเสียงอย่างงั้นรึ,เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วทำให้คนที่อยู่ด้านล่างเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเย้ยหยัน.
"ฮ่า ฮ่า
ฮ่า,หอการค้าหนานหยุนเข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้ด้วยรึ?"
"หอการค้าหนานหยุนไม่ใช่ว่ากำลังจะล้มละลายไปแล้วเหรอ,การเข้าร่วมงานชุมนุมในครั้งนี้ไม่ต่างจากมารับความเหยียดหยันเสื่อมเสียให้กับตัวเองไม่ใช่เหรอ?"
"พูดถูกแล้ว,ร้านขายยาของหอการค้าหนานหยุนเองก็ปิดกิจการแล้ว,ส่วนร้านค้ายันต์เวทย์เองตอนนี้ก็หยุดการผลิตไปแล้ว,ที่นางเข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะเข้าร่วมในนามหอการค้า,ที่มีชื่อว่าปาฏิหาริย์นะ"
„......”
ธุรกิจหลักยังไม่รู้เลยว่าจะไปรอดไหม,ถูกลดเป็นหอการค้าชั้นสองต่อไปก็ชั้นสามและลดลงเรื่อยๆ,อีกสักหน่อยคงหมดตัวเหลือแต่บั้นท้ายงามๆให้ขายเท่านั้นล่ะมั้ง,ไม่ช้าก็เร็วต้องปิดกิจการที่มีทั้งหมดนั่นล่ะ.
คาดไม่ถึงเลยว่าจะยังกล้าเข้าร่วมงานชุมนุมใหญ่ในครั้งนี้ด้วย?รังแต่จะทำให้ถูกคนอื่นดูหมิ่นเอาเท่านั้นล่ะไม่ว่า!
พิธีการต่างๆเริ่มเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว!
การชุมนุมอย่างเป็นทางการก็ได้เริ่มขึ้น!
เป็นเหมือนดั่งเช่นงานในครั้งก่อน,การแข่งขันที่ทุกคนต่างรอคอย"การแข่งขันใหญ่การชุมนุม!"
ในโลกที่ยึดถือความแข็งแกร่งของการอยู่รอด,พลังความแข็งแกร่งจึงถือว่าเป็นขุมทรัพย์ที่สำคัญที่สุด!
ไม่ว่าจะตระกูลใดก็ตามจะเจริญเติบโตไปข้างหน้าได้นั่น,ก็ขึ้นกับพรสวรรค์ของผู้เยาว์ว่ามีมากน้อยเพียงใด,การแข่งขันนี้จึงจัดเพื่อเหล่าผู้เยาว์คนรุ่นใหม่,ให้สามารถแสดงความแข็งแกร่งออกมา,เป็นเวทีที่มีไว้สำหรับแสดงทักษะความสามารถของเหล่าคนรุ่นใหม่นั่นเอง.
แน่นอนว่า,ชื่อเสียงนั้นไม่ได้สำคัญเท่ากับอาหารที่จะใช้ยังชีพ,เหล่าผู้มีพรสวรรค์นั้นไม่ได้เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย,เหล่าตระกูลผู้ทรงเกียรติต่างก็ส่งผู้เยาว์ของตัวเองเข้าร่วมทุกปี,เหตุผลแรกก็เพื่อสร้างสีสันให้กับงานที่จัดขึ้นทุกปี,เป็นการสร้างความบันเทิงต่อเหล่าประชาชนที่เข้ามาร่วมงาน,ทว่ายังมีอีกหนึ่งอย่างที่พิเศษกว่านั้นอีกคือส่วนแบ่งที่จะได้ในรางวัลการแข่งขันในครั้งนี้.
พื้นที่การเกษตรสามแห่งที่อยู่ในอาณาเขตของเมืองเทียนหนาน,เหมืองแร่และยังมีผื่นป่าขนาดใหญ่ที่ไร้เจ้าของอีก.
สิ่งใดที่ไม่มีเจ้าของ,ทุกคนต่างก็ต่อสู้เพื่อแย่งชิงมันไป!
หลายปีมานี้,การแข่งขันเพื่อชิงพื้นที่,สร้างความโกลาหลขึ้นในเมืองเทียนหนานเป็นอย่างมาก,ส่งผลให้ตระกูลขนาดใหญ่สร้างความขัดแย้งกันและกัน,แล้วยังมีตระกูลขนาดเล็กที่ลอบฉวยโอกาสอยู่ด้วย,ไม่มีใครยินยอมที่จะสูญเสียผลประโยชน์ของตัวเองไป,มีการต่อสู้ขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายครั้ง,มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก,เป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดเป็นอย่างมาก,ท้ายที่สุดแล้วมีคนมากมายหลากหลายต้องตายไปเป็นกองเท่าภูเขา,ทว่าผลประโยชน์เหล่านั้นก็ไม่มีใครได้ไปครอง,เหล่าทรัพยากรต่างๆจึงยังไม่ได้รับพัฒนาไปเท่าทีควร.
ในที่สุดทุกคนก็ตระหนักได้ว่าความขัดแย้งภายในนั้นก็ไม่ต่างจากขันทีที่ได้ครองหอนางโลม,ถึงแม้ว่าจะคว้ามาได้,แต่ก็ไม่มีความหมายอะไรเลยและมีเพียงสังคมที่สงบสุขเท่านั้นถึงจะสร้างความมั่งคั่งได้.
เช่นนั้นพวกเขาต้องทำอย่างไรล่ะ?
การชุมนุมการแข่งขันยังไงล่ะ!
ไม่ใช่ว่ามันอาจจะเป็นการแข่งขันแบ่งปันทรัพยากรที่ไม่ยุติธรรมหรอกเหรอ?
ในทุกๆปีนั้น,ทุกคนจะมีโอกาสกันคนละครั้ง,ไม่ว่าจะเป็นตระกูลใหญ่หรือตระกูลขนาดเล็ก,ใครก็ตามที่ล้มเหลวในแต่ละปีนั้น,ย่อมสามารถที่จะมองไปยังปีถัดไปได้,ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นตระกูลขนาดเล็กอย่างไร,ตราบเท่าทีเขามีผู้เยาว์คนหรือสองคนที่โดดเด่นย่อมได้รับความชื่นชมเป็นหนึ่งในคนที่จะได้รับโชคลาภเป็นแน่.
แม้ว่าการแข่งขันจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง,ทว่ามันก็เป็นเรื่องปกติของการต่อสู้,ซึ่งมันยังดีกว่าการทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างตระกูลนั่นเอง.
ไม่เพียงสามารถหลีกเลี่ยงสงครามเลือดได้,ยังเป็นเวทีสำหรับผู้เยาว์,เหล่าผู้มีพรสวรรค์ทั้งหมดต่างสามารถเข้าร่วมได้เป็นการค้นหาผู้เปี่ยมพรสวรรค์ไปในตัว,ทำไมจะไม่ทำล่ะ,ดังนั้นท่านเจ้าเมืองจึงได้ร่างข้อตกลง,เพื่อให้เหล่าตระกูลขนาดใหญ่ตกลงข้อเสนอกันอย่างลับๆ,นับตั้งแต่นั้นมาการชุมนุมการแข่งขันในเมืองเทียนหนานจึงมีมาตรฐานการแข่งขันในการแบ่งปันอาณาเขตอย่างเป็นธรรม.
เป็นเหมือนกับประเพณีที่สืบต่อกันมาหลายปีแล้ว.
ฉู่เทียนไม่ได้รับรู้สนใจในความสัมพันธ์เรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด.
การเข้าร่วมการแข่งขันของฉู่เทียน,เต็มไปด้วยความตั้งใจอย่างเดียว,คือสะสางความแค้น!
ภายในการแนะนำของผู้อาวุโสผมสีขาว,ฉู่เทียนพร้อมกับผู้เยาว์กว่า
200 คน,ได้เดินทางเข้ามาในอาคารที่พักของผู้เข้าแข่งขัน.
ฉู่เทียนที่ถูกฉกป้ายชื่อของตัวเองออกไป,ในเวลาเดียวกันก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดูถูกเหยียดหยามอยู่เต็มรูหู,"คางคกกล้าที่จะแฝงตัวเข้ามารายการแข่งขันขนาดใหญ่ว่ะ,ผ่านเข้ามาได้อย่างไร,ทำให้สนามการแข่งขันแห่งนี้มัวหมองหมด!"
ฉู่เทียนไม่จำเป็นต้องมองก็รู้ว่าเขาเป็นใคร
"จะรายการใหนที่พวกคนตระกูลเย่เข้าร่วม,การแข่งขันใหญ่ก็จะกลายเป็นระดับต่ำหมดนั่นล่ะ!"
"ข้าอยากรู้จริงๆว่าเจ้าจะไปได้สักกี่น้ำ?"สายตาของเย่หานนั้นเต็มไปด้วยรังสีการฆ่าฟัน"เจ้าควรจะรู้สถานะตัวเองนะ,ตระกูลเย่ของข้าสังหารเจ้าได้ในพริบตาเดียว."
อยากจะรู้จริงๆเลยว่าชายคนนี้ทำไมถึงได้กล้าแสดงความมั่นใจถึงขนาดนั้น?
ฉู่เทียนยักไหล่"อยากได้ชีวิตข้า,ก็มาเอาด้วยตัวเอง."
"ชิ,ข้าเปลี่ยนใจแล้ว"สีหน้าที่โหดร้ายของเย่หานเผยยิ้มออกมา,"ข้าจะทำให้ทุกคนในเมืองเทียนหนานได้รู้,และหักกระดูกของเจ้าทีละท่อนต่อหน้าคนทุกคน!นี่ถึงจะสาสม,ให้ทุกคนได้รับรู้ว่าการยุแหย่ตระกูลเย่จะได้รับผลกรรมอย่างไร!นั่นล่ะคือสิ่งที่เจ้าจะได้รับ,ฉู่เทียน!"
ฉู่เทียนกล่าว"ขนาดนั้นเลยรึ?"
เย่หานหันหน้ามาจ้องมองเหล่าผู้เยาว์ทุกคน"พวกเจ้าจงฟังข้าให้ดี!เจ้าชั่วคนนี้เป็นของข้า,ใครกล้าชนะมันก่อนข้าล่ะก็,ข้าจะไม่ปราณีมันผู้นั้นอย่างแน่นอน!"
เหล่าผู้เยาว์กว่า
200 คนเผยท่าทางตื่นตระหนกและมีประกายแสงแห่งความหวาดกลัว.
วางโตจองหองเกินไปแล้ว!
เผด็จการ!
นี่เป็นการประกาศออกมาต่อทุกคนว่าไม่อนุญาตให้ใครชนะฉู่เทียนได้!
"ไม่ต้องกังวล,ข้าจะมอบโอกาสให้กับเจ้าแน่",ฉุ่เทียนกล่าวออกมาราวกับไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องดังกล่าวเลย"หากเจ้าทำได้ล่ะก็,ตามสบายเจ้าเลย!"
น่าชังยิ่งนัก!
น่ารังเกียจอย่างที่สุด!
ทุกคนในตอนนี้ต่างรู้สึกตื่นตระหนกด้วยความหวาดกลัว!
เป็นใครในเมืองเทียนหนานแห่งนี้,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนที่กล้าพูดกับเย่หานเช่นนี้อีกรึ?
ฉู่เทียนได้นำป้ายชื่อของตัวเองกลับคืนมา,เดินกรีดกรายผ่านตัวของเย่หานไป,ไม่ให้ความสนใจเย่หานที่ยืนหน้าดำถมึงทึงอยู่.
การแข่งขันขนาดใหญ่เริ่มแล้ว.
ทั้งทิศตะวันออก,ทิศใต้,ทิศตะวันตกและทิศเหนือ,ทิศละห้าสนามแข่งขัน,ที่ได้จัดขึ้น,การแข่งขันทั้ง
22 คู่,ได้ถูกจัดขึ้นแล้ว.
"แต่ล่ะสนามมีคนเยอะจังเลย!"
"ว่าแต่ฉุ่เทียนเขาไปแข่งขันที่สนามใหนกันล่ะ?"
เมิ่งหยิงหยิงที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ,ส่องซ้ายทีขวาทีเพื่อที่จะหาฉู่เทียนให้เจอ.
เมิ่งชิงอู๋เองก็ตามน้องสาวนางมาติดๆ,คอยมองหาร่างของฉู่เทียน,สองคู่ที่งามระหง,กรีดกรายผ่านฝูงชน,ต่างก็ตกเป็นเป้าสายตาให้กับทุกคนได้ในทันที,ทำให้เมิ่งชิงอู๋เองรู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนกัน.
ในเวลาเดียวกัน.
รอบๆสนามแห่งนี้มีเสียงดังกู่ก้องดังกังวานไปทั่ว"เป็นสนามการแข่งขันที่หนึ่ง,เย่หานลอยเหาะขึ้นมาบนลานการแข่งขัน.
สายตาของทุกคนลุกวาวขึ้นมาในทันที.
"เป็นเย่หาน!"
"คนนั้นไม่ใช่บุตรชายคนโตของตระกูลเย่หรอกเหรอ?"
"ข้าลู่เฟย,มาจากตระกูลที่ต่ำต้อยและยากจน,คงจะพอทำให้ท่านได้บันเทิงสำราญใจได้!"
"พวกเขาทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้เยาว์ในระดับสูงกันทั้งคู่,คาดไม่ถึงเลยว่าการแข่งขันแรก,จะน่าดูชมเช่นนี้!"
„......”
พวกเขาก้าวเข้ามาในสนามการแข่งขัน.
สายตาของเย่หานนั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน,ทั่วทั้งใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความหยิงยโส"จะอีกสักปีหรือสองปี,ตระกูลอันต่ำต้อยเช่นเจ้าคิดว่าจะทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงขึ้นมาได้บ้างรึอย่างไร?"
ลู่เฟยนั้นเป็นเพียงผู้เยาว์ธรรมดา,หน้าตาที่ดูซื่อๆและเรียบง่ายยกมือคารวะไปด้านน้า"ข้าเทียบกับคุณชายใหญ่ตระกูลเย่,พรสวรรค์ของท่านที่สูงล้ำนั่น,ทุกคนต่างก็รูดี."
"งั้นรึ?ถ้าฉลาดล่ะก็,รีบไสหัวไปซะ!"เย่หานนั้นไม่มองเขาให้มาอยู่ในสายตาเลย,กล่าวออกมาอย่างหยิ่งยโสว่า"ขยะเช่นเจ้าคิดว่าจะมาต่อกรกับข้าอย่างงั้นรึ?"
ใบหน้าของลู่เฟยถึงกับเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที,เขารู้สึกกดดันและถูกข่มขู่อย่างแรง,ทว่าก็ยังกล่าวออกมาอย่างสุภาพ"คุณชายใหญ่เย่หานนั้นมีพลังฝึกตนที่ล้ำลึก,ลู่เฟ่ยเองรู้ว่าไม่คู่ควร,ทว่าก็ยังต้องการที่จะพยายาม,หวังว่าคุณชายใหญ่จะช่วยส่งเสริม."
ตระกูลยากจนเช่นเขา,ฝึกฝนอย่างหนักมาเพื่อวันนี้,จะให้ยอมแพ้ง่ายๆได้อย่างงั้นรึ?
ลู่เฟ่ยคาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากการเปิดเผยความสามารถต่อหน้าเหล่ายักษ์ใหญ่ของเมืองเทียนหนาน,หวังว่าจะมีคนให้ความสำคัญกับพลังฝึกตนของเขา,ใครจะคิดล่ะว่ารอบแรกเขากลับได้เจอกับเย่หาน.
โอกาสไม่ได้มีบ่อยครั้ง,จะให้เขานั้นยอมแพ้,เขาจะสามารถถอนตัวไปได้อย่างไร?
"เจ้าไม่รับความปราณีของข้า!"
เย่หานที่กำลังบ้าคลั่งเป็นทุนเดิม,ไม่พอใจในตัวฉู่เทียนที่กล้ามาท้าทายเขาอยู่แล้ว,ทันใดนั้นเขาก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที,ปลดปล่อยพลังฝึกตนดินแดนปรุงร่างระดับ
6 ออกมา!เขาที่มีพลังฝึกตนดินแดนปรุงร่างระดับ 6!
เปรียบกับหลายวันทีแล้ว,มีพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก!
"เป็นแค่หิ่งห้อยต้องการที่จะเทียบเคียงแสงกับกองไฟอย่างงั้นรึ?ในเมือเจ้าไม่รู้ผิดชอบชั่วดี!เช่นนั้นก็ตายไปซะ!"
เย่หานปลดปล่อยพลังวิญญาณลุกโชนท่วมร่างของเขาในทันที,ราวกับภูเขาไฟที่กำลังปะทุ,มันกลืนกินไปทั่วร่างของลู่เฟย,ทั่วทั้งสนามแข่งขันถูกพลังวิญญาณที่หนักหน่วงกดทับลงมาจนทำให้แทบจะทำให้คนที่อยู่รอบๆขยับตัวไปใหนไม่ได้,ก่อนที่มือขวาของเขาที่หนักหน่วงราวกับลูกตุ้มเหล็กพันชั่งก็ฟาดออกไปยังฝ่ายตรงข้ามเสียงดังสนั่นในทันที.
ฝ่ามือทุ่นระเบิดโชติช่วง!
ฝ่ามือทุ่นระเบิดโชติช่วง!เป็นวิชาลับของตระกูลเย่.
เหล่าผู้เชี่ยวชาญของตระกูลเย่ที่จะสามารถใช้ทักษะนีได้ต้องมีพลังฝึกตนดินแดนปรุงร่างระดับ
9 ,ทว่าเย่หานที่มีพลังดินแดนปรุงร่างระดับ 6
ชั้นปลายกลับสามารถใช้ทักษะนี้ได้แล้ว,ด้วยพลังฝ่ามือดังกล่าว,มีพลังไม่ด้วยกว่าต้นฉบับเลยแม้แต่น้อย.
ลู่เฟย
ถึงกับใบหน้าเปลี่ยนสีในทันที,ไม่คาดคิดเลยจริงๆเย่หานจะดุร้ายถึงเพียงนี้,เขาตะโกนออกไปในทันที"คุณชายใหญ!หยุดก่อน!ข้ายอมแพ้แล้ว!"
"สายไปแล้ว!"
จะเป็นไปได้อย่างไรที่ลู่เฟยมีพลังดินแดนปรุงร่างระดับ
5 จะสามารถต้านได้?
ฝ่ามือทุ่นระเบิดโชติช่วงประทับไปยังหน้าอกของลู่เฟย,พลังของมันนั้นรุนแรงพอที่จะบดขยี้เหล็กและก้อนหินแหลกออกเป็นชิ้นๆได้,เพียงแค่ประทับไปยังร่างของลู่เฟย,ร่างของเขาก็พุ่งทะยานออกไปอย่างแรงราวกับถูกแรดวิ่งชนอย่างจัง,ลู่เฟยลอยละลิ่วออกไป,ไม่รู้ว่าเป็นหรือตายในตอนนี้.
โหดร้ายเกินไปแล้ว!
กระดูกและเส้นโลหิตสาดกระจายแหลกเป็นชิ้นๆ,ถึงแม้ว่าโชคดีรอง,คงไม่ต่างจากคนพิการไปแล้ว!
เย่หานที่ไม่สนใจใครคำรามออกมาเสียงดัง"พวกกระยาจกไม่รู้จักยับยั้งความทะเยอทะยาย,ไม่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน,ผลสุดท้ายก็เป็นแบบนี้ล่ะ."
เย่หานที่ร้องออกมาเสียงดังต่อหน้าทุกคน"การแข่งขันนี้,ข้าเป็นคนชนะ,ใครมันกล้าขวางทางข้า,จงดูเอาไว้เป็นตัวอย่าง!"
เหล่าคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างเผยท่าทางที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว.
เย่หานช่างแข็งแกร่งจริงๆ!
"พี่ชาย!"
ร่างๆหนึ่งร้องให้คร่ำครวญโหยหวนอยู่กลางฝูงชน.
สาวน้อยวัยสิบปีในชุดกางเกงสามส่วนมีรอยปะทั่วตัวไปพยุงลู่เฟยให้ลุกขึ้น,นางช้อนไปยังร่างกายของพี่ชายนาง,ชุดพื้นบ้านทั่วไปของสามัญชนที่ยากจนเปื้อนเปอะไปด้วยโลหิตในทันที.
"ท่านพี่!"
"ท่านตื่นสิ!"
"อย่าจากข้าไป!"
ลู่เฟ่ยที่ได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญ,เปลือกตาหนัก,ปรือๆพยามที่จะลืมตาขึ้นมา,ตัวสั่นสะท้าน,เอื้อมมือไปยังแก้มของน้องสาวช้าๆและนุ่มนวล
"ขอโทษ.....พี่ชาย...พี่ชาย!....ทำให้เจ้าขายหน้า!"
สาวน้อยสะอึกสะอื้นครวญครางออกมา,"ไม่!ไม่ใช่!ไม่แข่งแล้ว!พวกเราจะกลับบ้าน,พวกเราจะกลับไปด้วยกัน!"
ลู่เฟยที่ส่ายหน้าอย่างยากลำบาก,น้ำตาที่ไหลรินอาบไปทั้งสองข้าง"พี่ชายไร้ประโยชน์...ทำให้เจ้าขายหน้า....เจ้า...ทำให้เจ้าอับอาย!"
สิ้นคำพูดดังกล่าว,แขนทั้งสองข้างของเขาก็ไร้เรี่ยวแรงหล่นลงบนพื้น,ดวงตาที่กลมโตทั้งสองข้าง,ไร้ซึ่งประกายแสง,กลายเป็นดวงตาของคนที่ไร้ชีวิต,ความคิดสุดท้ายของเขาก่อนตาย,หากว่าเขาตายจะเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวเขากัน?
สาวน้อยกอดศพพี่ชายร้องไห้คร่ำครวญโหยหวน,สะอึกสะอื้น.
"ท่านพี่
ตายแล้ว!"
"ท่านพี่จากไปแล้ว!"
"ข้าไม่อยากมีชีวิตที่ดีแล้ว,ข้าไม่อยากให้ท่านเข้าแข่งแล้ว!"
"ปิศาจ,เจ้ามันปิศาจ,ทำไมต้องสังหารพี่ของข้าด้วย!"
ประกายแสงภายในดวงตาของสาวน้อยเต็มไปด้วยความเกลียดชัง,ตะโกนลั่นท่ามกลางฝูงชน.
"แส่หาความตาย!"
ประกายแสงเจตจำนงแห่งการฆ่าฟันส่องประกายในดวงตาของเย่หาน,มือขวาของเขายกขึ้นเต็มไปด้วยพลังวิญญาณ,ก่อนที่จะปล่อยออกไปยังร่างของเด็กหญิง.
ปล.
บางคนอาจจะยังไม่ทราบ
Star matial
Technique มีตัวอักษรแต่ล่ะตอนอยู่ที่
1200-1800 ตัว
ส่วนเรื่อง miracle Throne มีตัวอักษรอยู่ที่ 2800-3500 ตัว
สรุปคือวันล่ะหนึ่งตอนของ
miracle Throne เท่ากับแปลสองตอนของ Star matial Technique นั่นแล
1 ตอนคือเต็มกำลังแล้วครับ...ถ้ามากกว่านั้นมันกระทบชีวิตประจำวัน.
เอาเป็นว่าถ้าวันใหนว่างๆจะพยายามแล้วกัน.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
ขอบคุณและรับทราบครับ ท่านแอด
ตอบลบถ้าคนแต่งใจดี เปิดตอนคงได้เห็นฉู่เทียนเข้ามาช่วยเด็กสาวคนนี้ละนะ แบบว่า ฉู่เทียนแข่งจบแล้วเลยมาดูเย่หานแข่งงี้
ตอบลบปล.อยากเห็นพี่ฉู่จัดการมันจริงๆ อยากรู้ว่าตระกูลเย่จะตอบโต้ยังไง
รับทราคับผมเป็นกำลังใจให้นอกเหนือจากงานแปลคนเราต้องใช้ชีวิตประจำวันด้วยผมเข้าครับผม
ตอบลบขอบคุณมากครับ เรื่องนี้อ่านยาวจริง สู้ๆครับแอด
ตอบลบใครจะมาช่วยสาวน้อย เมิ่งชิงอู๋ เมิ่งหยิงหยิง หรือพี่ฉู่
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบสู้กับฉูเทียนมันไม่ตางกับหาเรื่องตาย
ตอบลบ