Nine Heavenly Thunder Manual Chapter 4 – Round yellow beadDevil
นิยาย ตำรายุทธ์สายฟ้าเก้าสวรรค์ ตอนที่ 4 ลูกปัดสีเหลืองทรงกลม.
บทที่ 4 ลูกปัดสีเหลืองทรงกลม.
เหล่ยหยูใช้หนามแหลมเปิดปากแผลให้ใหญ่ขึ้น,เขาหลับตาแน่นก่อนที่จะใช้นิ้วล้วงเข้าไปในดวงตาที่น่าหยะแหยงนั่นก่อนจะดึงของชิ้นหนึ่งที่มีแสงส่องสว่างออกมา.
เป็นลูกปัดสีเหลืองที่ส่องแสงสว่างออกมาเรื่อๆ,เหล่ยหยูคว้ามันออกมาพร้อมกับหนามแหลม,ก่อนที่เขาจะเดินโขยกเขยกไปยังแม่น้ำ.
หลังจากทำความสะอาดที่แม่น้ำ,ลูกปัดที่ถูกทำความสะอาดก็กลับรูปร่างเดิมที่เป็นทรงกลม,เป็นผลึกที่กระจ่างใสยิ่งนักให้ความรู้สึกว่าเป็นของล้ำค่าโบราณมีอายุหลายพันปีทีเดียว.เหล่ยหยูได้นำมาอังที่จมูกก่อนที่จะทดสอบกลิ่น,มีกลิ่นหอมออกมาด้วยเช่นกัน,ด้วยความคิดไร้สาระเหล่ยหยูได้นำลูกปัดดังกล่าวมาใกล้ปากก่อนที่จะใช้ลิ้นเลียไปมา,ลูกปัดทรงกลมที่สัมผัสกับน้ำลายของเขานั้นกลายเป็นยิ่งสว่างกระจ่างใสยิ่งกว่าเดิม,ก่อนจะเปล่งแสงจ้าออกมา,แสงสว่างวับวาวนั้นทำให้เหล่ยหยูถึงกับหลับตาลงโดยไม่รู้ตัว.
ทันใดนั้นลูกปัดทรงกลมหมุนไปมาก่อนที่พุ่งพรวดเข้าไปในปากของเหล่ยหยู,ลูกปัดดังกล่าวนั้นดูเหมือนว่าจะเปื้อนไปด้วยน้ำลาย,จึงทำให้ง่ายที่จะไหลลงไปในคอของเขา,พร้อมไหลผ่านเข้าไปในร่างกายของเขาทันที.
เหล่ยหยูเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก,พยายามที่จะพ่นลูกปัดทรงกลมนั่นออกมา,ทว่าในตอนนี้นั้นมันเป็นไปไม่ได้แล้ว.
ด้วยหวั่นเกรงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น,ทันใดนั้นเหล่ยหยูเร่งรีบนั่งสมาธิลง,ก่อนที่จะใช้พลังภายในตรวจสอบ,เขาสามารถเห็นได้ว่าลูกปัดทรงกลมนั่นได้เข้าไปในปากของเขา,ก่อนจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นก๊าซและพุ่งตรงไปจุดตันเถียนของเขาที่มีพลังงานสีม่วงสถิตอยู่.พลังทั้งสองนั้นเข้าปะทะกันในช่วงระยะสั้นๆ,ก่อนที่จะสงบลง,เหล่ยหยูไม่สามารถบอกได้ว่าเขารู้สึกไม่สบายหรือมีสิ่งผิดปรกติอะไร,หลังจากที่ตรวจสอบอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง,กลับไม่มีผลสรุปเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเลย.
เหล่ยหยูลืมตาขึ้น,จ้องมองไปยังทิศทางของแม่น้ำที่ไหลผ่าน,เขาที่ไหลตามแม่น้ำมาก่อนหน้า,ดังนั้นหากสวนกระแสน้ำไป,เขาน่าจะสามารถกลับไปยังตัวเมืองได้,เขาได้วางแผนเอาไว้ในใจ,เขาจะต้องเก็บผลไม้เอาไว้ให้มาก,เป็นผลไม้ที่เขาได้กินมากเกือบปีที่ผ่านมา,เขาได้นำเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งห่อเหล่าผลไม้,เขาไม่ได้ใส่ใจในอาการบาดเจ็บที่ต้นขาตัวเองเลย,เขายังคงเดินกระเผกตรงไปยังทิศทางด้านหน้า.
————————————————————————–
ที่ด้านหน้าประตูหลักของตระกูลเหล่ย,เด็กหนุ่มที่มีอายุเท่าๆกับเหล่ยหยูได้สอบถามออกไปว่า"เหล่ยหยูอยู่ที่นี่หรือไม่?ที่นี่คือบ้านเขาใช่ใหม?"
ชายชุดดำคนหนึ่งเบ้ปากอย่างเหยียดหยันตอบกลับไปว่า"เหล่ยหยูรึ?เจ้าหมายถึงเจ้าเด็กแม่สัมส่อนนะรึ?มันตายไปแล้ว."
"ตาย?!"ชายหนุ่มถึงกับดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ"มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?และเกิดขึ้นเมื่อไหร่?"
"นายน้อย นวอ
ฮัว,เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่รู้ชัดเจนนัก,ข้าได้ยินมาจากนายน้อยเหล่ยหยุน,ดูเหมือนว่าเขาจะตัดสินใจฆ่าตัวตายกระโดดลงไปยังหุบเขา",หลังจากเขาได้ตอบคำถาม,ชายชุดดำก็หันหลังกลับเข้าไปในเรือนของตระกูลเหล่ย,โดยไม่ใส่ใจชายหนุ่มที่ยืนตะลึงอยู่ด้านนอกเลยแม้แต่น้อย.
"นวอ ฮัว!"
เขาได้ยินใครบางคนที่เรียกชื่อเขาเป็นน้ำเสียงที่คุ้นเคยนัก,ก่อนที่จะหันหลังกลับไปในทันที,หลังจานั้นเขาก็พบกับชายแปลกหน้า,เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย,ทว่าชายแปลกหน้าคนนี้ดูการแต่งตัวเหนือคำบรรยายจริงๆ.
ร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่า,สวมการเกงต่อสู้เฉพาะด้านล่าง(T/N:เหมือนทาร์ซาน).เขามีผมเผ้าที่ยาวเฟื้อยจนไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้.
"เจ้าคือ...?"นวอ ฮัวสอบถาม,ราวกับว่ากำลังสับสนอย่างเต็มที.
"ข้าเหล่ยหยูไง!"
"เหล่ยหยู!ไม่มีทาง!"นวอฮัวก้าวเข้ามาจ้องมองเพ่งพินิจอย่างใจจดจ่อ,สายตาที่ประเมิน,จ้องมองไปยังชายไม่ใส่เสื้อผมยาวรุงรังที่ค่อยๆแหวกใบหน้าของตัวเองออกมา.
"เป็นเจ้าจริงๆ!ทำไมถึงได้มีสารรูปเช่นนี้ล่ะ?"นวอ
ฮัวจ้องมองสอบถามหลังจากได้ยืนยันแล้วว่าเป็นเหล่ยหยู.
"ตอนนี้พวกเราไปคุยกันที่อื่นเถอะ."เขาได้ฉุด
นวอฮัว ตามมา,พวกเขาเดินตรงไปยังรถยนต์ขนาดเล็กที่อยู่ไกลออกมา,สายตาที่หันหลังกับไปมองบ้านเรือนตระกูลเหล่ยอีกครั้ง,ภายในดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและคับข้องใจ
ขณะที่นั่งอยู่ในรถนั้น,เหล่อยหยูได้บอกกล่าวสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต,ทว่าเขาก็ได้ปกปิดสิ่งมหัศจรรย์ที่เขาได้รับมาเกี่ยวกับวิชายุทธ์สายฟ้า.
"พวกเขาทำเกินไปแล้ว!"นวอฮัวตบไปยังพวกมาลัยรถด้วยความโกรธ"ยอมไม่ได้,ข้าจะไปนำพ่อของข้ามาที่นี้,เขาจะต้องจัดการเรื่องนี้ได้แน่."
"ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น,ตระกูลเหล่ยได้ไล่ข้าออกจากตระกูลแล้ว,แต่ว่าข้าก็ยังสามารถมีชีวิตและสามารถอยู่ได้ด้วยตัวข้าเอง,สักวันหนึ่งข้าจะทำให้พวกเขาเสียใจที่ได้ตัดสินใจทำเช่นนั้น."หลังจากกล่าวจบ,ภายในประกายแสงดวงตาของเขาลุกวาวด้วยความโกรธเกียจอยู่ภายใน
.
"แล้วตอนนี้เจ้าจะทำอะไรต่อไปล่ะ?"นวอฮัวสอบถาม.
"ข้าไม่รู้เลย,ยังไม่มีแผนการณ์อะไรเลยตอนนี้."
"เอาอย่างนี้เป็นไร,เปาและข้าจะพาเจ้าเข้ากองกำลังมังกรเอง,เจ้าจะได้ศึกษาศิลปะการต่อสู้ด้วย,ในเมื่อเจ้าต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเอง,เจ้าเองก็จำเป็นที่จะต้องมีการฝึกปรือในระดับสูง."
ในตอนนี้เหล่ยหยูยังไม่มีแผนการใดๆ,มีเพียงความต้องการที่จะตามหาเบาะแสอะไรสักเกี่ยวกับแม่ของเขา,ไม่เช่นนั้นแล้วมันคงจะยากราวกับงมเข็มในมหาสมุทรเป็นแน่,นอกจากนี้,เหล่ยหยูยังต้องการที่จะสอบถามอะไรบางอย่างกับลุงหลิว,ต้องไม่ลืมว่า,เขานั้นเคยพบเจอกับมารดาเมื่อนานมาแล้ว.และลุงหลิวเป็นคนที่คอยดูแลเหล่ยหยูตลอดเวลาจวบจนเขาเติบใหญ่,ถึงแม้ว่าจะทำเหมือนกับว่าเขานั้นเป็นเหมือนกับตัวซวยอยู่ก็ตามที,ทว่าในตระกูลเหล่ยนั้นก็มีเพียงเขาคนเดียวที่เหล่ยหยูรู้สึกเคารพที่สุด,ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีสายโลหิตเกี่ยวข้องกันก็ตามที.
หลังจากที่ได้พาเหล่ยหยูซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่,ตัดผมเผ้าเป็นระเบียบเรียบร้อย,เหล่ยหยูคนใหม่ก็ปรากฏต่อหน้า
นวอฮัว.
"ตอนนี้เจ้าดูดีขึ้นมาแล้วซินะ!"นวอฮัวเผยยิ้มออกมาพลางตบเบาๆไปที่ไหล่ของเหล่ยหยู.
เกี่ยวกับเรื่องที่เหล่ยหยูต้องประสบ,นวอฮัวรู้สึกปวดใจยิ่งนัก,เขาเพิ่งรู้ว่าเหล่ยหยูได้กระโดดลงไปในหุบเขาและไม่รู้ความเป็นไปเลย,พวกเขานั้นเติบโตมาด้วยกัน,เขาคนนี้ที่เป็นสหายที่เป็นยิ่งกว่าพี่น้อง,เขาได้ปรากฏขึ้นอยู่ต่อหน้าแล้ว.
ตระกูลของนวอฮัวนั้นค่อนข้ามีชื่อเสียงและมีสถานะที่ยอดเยี่ยมในประเทศเถิงหลงแห่งนี้,ด้วยพ่อของเขานั้นเป็นหนึ่งในสมาชิก,"นิกายนักรบ"เป็นกองกำลังหลักของประเทศแห่งนี้,เป็นที่รู้กันโดยทั่วว่าตระกูลนักรบโบราณของประเทศนี้,ตระกูลนวอ
มีกองกำลังทหารที่ความแข็งแกร่งและกล้าหาญโดดเด่นที่สุดของประเทศ,เป็นที่รู้จักกันในนาม,กองกำลังมังกร.
หลังจากเตรียมการบางอย่างเสร็จ,เหล่ยหยูก็ได้ที่พักส่วนตัวเพื่อพักอาศัยอยู่ชั่วคราว,คนคุ้มกันส่วนตัวของนวอฮัว,เปา,ก็สามารถช่วยจัดการให้เหล่ยหยูสามารถเข้าร่วมกองกำลังมังกรได้สำเร็จ.
กองกำลังมังกรของนิกายนักรบนั้นเป็นเหมือนกับกองกำลังทหารอื่นๆ,ที่มีความเข้มงวดเป็นอย่างมาก.เหล่านักรบแต่ล่ะคนนั้นถูกพิจารณาว่าเป็นหัวกะทิของหัวกะทิ.ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ผ่านศึกมาอย่างโชคโชน,ทว่าด้วยการฝึกฝนของพวกเขาแล้ว,พวกเขาทุกคนมีร่างกายและจิตใจที่แข็งแกร่งเหมือนดั่งเหล็กไหล,ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าพวกเขาทั้งหมดนั้นมีความจงรักภัคดีต่อกองกำลังของพวกเขาเองมากเพียงใด
การที่จะได้เข้าร่วมกองกำลังมังกรเป็นความฝันของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์ทุกคน,เพราะเหล่ยหยูนั้นสามารถได้เข้าร่วมกองกำลังแห่งนี้โดยการจัดการของ
นวอฮัว,จึงเป็นเหตุให้คนจำนวนมากจับจ้อง,มองเขาด้วยสายตาที่เหยียดหยัน.
เหล่าทหารที่เขาร่วมกองกำลังมังกรนั้น,จะถูกเลือกคนที่ดีที่สุดครั้งแล้วครั้งเล่า,กองกำลังมังกรนั้นถูกแบ่งออกเป็นสามทีม,ตอนนี้เขาได้อยู่ในทีมที่เรียกว่า
หมาป่าคลั่ง,มีสมาชิกเพียงเล็กน้อยราว 2000
คน,ถึงแม้ว่าจะเป็นกลุ่มที่มีสมาชิกทั่วไปแต่พวกเขาคนหนึ่งก็สามารถจัดการคนธรรมดา
3-4 คนได้อย่างสบายๆ,นอกจากนี้ทีมดังกล่าวยังสามารถจัดการกองกำลัง 5-6
พันคนได้อย่างไม่มีปัญหา.
เหล่านักรบที่มาใหม่นั้นจะได้รับการฝึกฝนและทดสอบ.หลังจากที่มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมแล้ว,จะมีคนที่สามารถผ่านระดับไปยังทีมที่มีระดับสูงกว่าเดิมนั่นคือ,ทีมราชสี.โดยทั่วไปแล้วสมาชิกของกลุ่มหมาป่าคลั่งนั้นสมาชิกยี่สิบคนจะเหลือเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่มีความสามารถพอที่จะเข้าทีมราชสีห์ได้,ดังนั้นแล้วในกลุ่มนี้จะมีคนเพียงแค่หนึ่งร้อยคนเท่านั้นที่จะได้เลื่อนระดับสูงขึ้น.
เหล่านักรบของทีมราชสีนั้นจะแตกต่างจากนักรบกลุ่มธรรมดาเป็นอย่างมาก,แต่ล่ะคนล้วนแล้วแต่มีทักษะที่พิเศษเป็นอย่างมาก.
และทีมมังกร ของกองกำลังมังกรนั้นเป็นกลุ่มที่ลึกลับมากที่สุด,ไม่เพียงพวกเขาเป็นไพ่ลับของกองกำลังมังกรเท่านั้น,พวกเขายังเป็นเหมือนจิตวิญญาณทั้งหมดของกองกำลัง,แม้ว่าทั้งกลุ่มนั้นจะมีคนเพียง
18 คน,แต่พวกเขาก็เป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุด,พลังความแข็งแกร่งของนักรบกลุ่มนี้นั้นจะได้รับการฝึกฝนวิชายุทธ์ด้วยวิชาการต่อสู้โบราณของตระกูล,พวกเขามีพลังภายในที่อยู่ในระดับที่เหนือล้ำ,แต่ล่ะคนนั้นแน่นอนว่ามีความภัคดีต่อกองกำลังมังกรเป็นอย่างมาก,เพียงแค่กองกำลังมังกรก็มีความสามารถอย่างที่สุดแล้ว,ไม่ต้องสงสัยเลยว่านิกายนักรบนั้นจะมีพลังอำนาจในมือเท่าใดกัน.
เหล่ยหยูที่ได้เข้าร่วมกองกำลังมังกร,แน่นอนว่าเขาจะต้องผ่านการทดสอบก่อน,แม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์กับ
นวอฮัว ก็ตามที,ก็ใช่ว่าจะได้รับการยกเว้นแต่อย่างใด.
การทดสอบของกองกำลังมังกรนั้นเข้มงวดเป็นอย่างมาก,ไม่มีทางลัดให้ผ่านแต่อย่างใด,นวอฮัวนั้นสามารถนำเหล่ยหยูเข้ามาในกองกำลังได้,ทว่า
เหล่ยหยูจะสามารถเข้ามาอยู่อย่างสงบสุขได้หรือไม่นั้น,ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาเอง.
การทดสอบนี้จัดขึ้นเพื่อเหล่ยหยู,เพราะว่ามันไม่ใช่เวลาที่ถูกต้องของกองกำลังมังกรที่จะรับคนใหม่เข้ามา.
ประธานในการทดสอบของกองกำลังมังกรนั้นมีชื่อเสียงอยู่ในลำดับที่
3,ฟานหงช่าง.กองกำลังมังกรนั้นมีจ้าวขุนเขาทั้งสาม(สามเสาหลัก)คนแรกคือจ้าวขุนเขาที่หนึ่งคือบิดาของนวอฮัว,นวอ
อวี้หลง,ความแข็งแกร่งของเขานั้น อยู่ในระดับขุนศึกเดนตายขั้นห้า.ตามมาด้วยน้องสาวฝาแฝดของนวออวี้หลง,นวออวี้เฟิง พวกเขาทั้งคู่
หลงและเฟิงนั้น(มังกรและหง)มีความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมจนยากที่จะจินตนาการถึงได้.
ส่วนจ้าวขุนเขาที่สามนั้นมีนามว่า ฟานหงช่าง,เขาเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลการต่อสู้โบราณ,เขามีระดับขุนศึกขั้นที่สี่.เขาเหลืออีกเพียงนิดเดียวจะทะลวงผ่านและยกระดับพลังของตัวเองขึ้นได้.
เหล่ยหยู
เขาร่วมกองกำลังมังกรด้วยความสัมพันธ์พิเศษซึ่งเป็นเหตุให้คนหลายคนมองเขาในแง่ไม่ดีนัก,ไม่เพียงแต่เหล่านักรบธรรมดาที่จ้องมองด้วยความเหยียดหยันเท่านั้น,ฟานหงช่างเองก็ชำเลืองมองเหล่ยหยูด้วยความรังเกียจเช่นกัน.
ปล.เป็นนิยายร่วมสมัย มีรถยนต์,มีโทรศัพท์ต่างๆ เป็นมิติใหม่ที่คล้ายๆกับโลกปัจจุบัน แนวๆมีวรยุทธ์หลงเหลืออยู่....
ที่มาจาก https://omgitsaray.wordpress.com/9-heavenly-thunder-manual/
#นิยาย ตำราวิทยายุทธ์สายฟ้าเก้าสวรรค์ #9 Heavenly Thunder Manual#นิยายแปลไทย
Author(s)
ปล.เป็นนิยายร่วมสมัย มีรถยนต์,มีโทรศัพท์ต่างๆ เป็นมิติใหม่ที่คล้ายๆกับโลกปัจจุบัน แนวๆมีวรยุทธ์หลงเหลืออยู่....
จะได้โชว์พลังแล้วสินะ
ตอบลบกำลังงงว่านั่งในรถยนต์ 5555
ตอบลบขอบคุณคับ จะได้โชว์แล้วสินะ
ตอบลบขอบคุณมากเลยนะคับ
ตอบลบ