วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 6 Making money important matter

Miracle Throne Chapter  6 Making money important matter

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 6   หาเงินคือเรื่องสำคัญ


บทที่ 6   หาเงินคือเรื่องสำคัญ


เนื้อของสัตว์อสูรนั้นอุดมไปด้วยสารอาหาร,เพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย,ทั้งยังช่วยเพิ่มพลังเวทย์อีกด้วย,ที่จริงแล้วหากไม่มีวิธีการที่พิเศษล่ะก็,ไม่มีทางที่จะนำเนื้อสัตว์เหล่านั้นมาทำอาหารได้,คนทั่วไปจึงไม่กล้าที่จะใช้เนื้อดังกล่าวมาทำอาหาร,ถึงแม้ว่าพลังเวทย์ของคนนั้นจะลึกล้ำก็ตามที,การจะกินก็ยังต้องระมัดระวัง,หากไม่แล้วอาจได้รับบาดเจ็บได้.


การทำอาหารด้วยพลังเวทย์ของฉู่เทียนนั้น,แทบจะรวมวิธีการทั้งหมดให้ออกมาโดยง่าย!



ในคราแรก!

แม้แต่เมิ่งหยิงหยิงเองก็คิดว่าการทำนั้นต้องออกแรงและใช้พลังเวทย์อย่างสุดกำลัง!


ในชีวิตของนาง,ไม่เคยมีเหตุการณ์ที่นางดูมีความสามารถเช่นนี้มาก่อน,ไม่เคยมีความรู้สึกที่โลหิตพลุ้งพล่านเหมือนกับตอนนี้เลย,นางปรารถนาที่จะทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวมาโดยตลอด,ในก่อนหน้านี้,แต่ก็แทบจะไม่เคยมีความคิดที่จะทำเรื่องเช่นนี้เลย.


ครั้นเมื่อเริ่มคิดจะทำงานเป็นชิ้นเป็นอันมันง่ายดายขนาดนี้เลยรึ?

ไม่ใช่ว่าพี่สาวของนางมีความสามารถมากจนเกินไป,นางครุ่นคิดเรื่องนี้มาตลอดเลย?


ความเป็นจริงเมิ่งหยิงหยิงเองก็ไม่เคยรู้ว่าพี่สาวของนางต้องอดทนและใช้ความรู้มากมายเท่าใด,ไม่รู้ว่าการค้านั้นเป็นต้องมีเชาว์ปัญญามากเท่าไหร่และต้องใช้สมองในการทำธุรกิจขนาดใหน,นางเห็นความแปลกประหลาดของฉู่เทียน,นางจึงได้เกิดกิเลสขึ้นมา,ตระหนักได้ถึงการค้าและโอกาส.


ความเป็นจริงโอกาสทางการค้านั้นเป็นไปได้ยาก.


เมิ่งหยิงหยิงที่เพิ่งถูกไล่ออก,ด้วยถูกหานเซาหลงดูหมิ่นดูแคลน,จนเจ็บแค้นเป็นอย่างมาก,นางจึงต้องการที่จะพิสูจน์,ทำให้ทุกคนได้เห็นความสามารถของนาง.


ฉู่เทียนเองก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด,ทว่าก็ถามนางอีกครั้ง,"เจ้าวางแผนที่จะทำอย่างไรบ้างล่ะ?"


"พวกเราจะไปที่ลานกลางเมืองเพื่อขายเนื้อสเต๊ก!"เมิ่งหยิงหยิงที่กล่าวออกมาด้วยความมุ่งหวัง"หาเงิน,ส่วนแบ่งคนละครึ่ง!"


ฉู่เทียนได้ยินคำพูดเหล่านั้น,น้ำชาที่ดื่มอยู่แทบพุ่งออกมา.


สาวน้อยคนนี้คงจะสมองทื่อเกินไปแล้ว,ความจริงยังมีสินค้าที่หายากและเปี่ยมไปด้วยคุณภาพอยู่.


ไม่ใช่ว่านางมองไม่เห็นโอกาสทำการค้ากับหลอดไฟฟ้าที่ไม่เคยมีมาก่อนไปหรอกรึ?


นางมองไม่เห็นโอกาสทำการค้ากับเครื่องระบายอากาศที่ล้ำค่าเลยรึอย่างไร?



นางมองไม่เห็นอะไรเลย,คิดได้แค่เพียงการขายเนื้อสเต๊ก.


การปรุงอาหารขั้นสูงนี้,สามารถหาเงินได้อีกหลายวิธี,ยกตัวอย่างเช่นการขายวิธีการที่ทันสมัยในการทำเงิน,อย่างวิธีการพัฒนาแฟรนไชร์เป็นต้น,เป็นทางที่จะทำให้ได้รับเงินได้เยอะขึ้น,แต่ท้ายที่สุดแล้ว,แม่นางเมิ่งหยิงหยิงคนนี้กับคิดอย่างโง่งมที่สุดที่จะทำการค้าแบบแผงลอยที่ต้องขายด้วยกำลังตัวเอง!

!

คงจะเป็นเรื่องดีก็ได้!


อย่างน้อยที่สุด,นางก็ไม่ป่าวประกาศที่จะคืนสินค้าเช่นเขาแล้ว.


ลานใจกลางเมืองเทียนหนานนั้น,อยู่ใกล้กับสมาคมทหารรับจ้าง,สามาคมผู้เชี่ยวชาญวิชาอักขระและสมาคมผู้เชี่ยวชาญปรุงยา,นับว่าเป็นสถานที่คึกคักอยู่ทีเดียว.


เมิ่งหยิงหยิงผู้ร้อนรุ่มได้ตรงดิ่งออกไปทันที,นางได้ใช้เงิน 10 เหรียญทอง เพื่อซื้อเนื้อสเต็กวัวแสงจันทร์ 200 ชิ้น,จากนั้นก็จัดแจงซื้ออุปกรณ์ทำครัวทั่วไป,พร้อมกับนำโต๊ะเก้าอี้จากตระกูลของนาง,พร้อมกับร่มขนาดใหญ่,และรถเข็นขายเนื้อทั่วไป,เข้าไปยังลานกลางเมืองพร้อมกับฉู่เทียน.


"พวกเราจะขายเนื้อสเต็กในราคาเท่าไหรดี?"เมิ่งหยิงหยิงที่นั่งหลบมุมอยู่ด้วยท่าทางเอียงอาย,"เนื้อสเต็กยังไม่ปรุงที่พวกเราใช้เป็นวัตถุดิบนั้นมีราคาต้นทุนอันล่ะ 5 เหรียญเงินเลยนะ!"


ฉู่เทียนกล่าวเสนอออกมา"ในความเห็นของข้านั้น,ควรขายอันล่ะ 1 เหรียญทอง!"


เมิ่งหยิงหยิงถึงกับสะดุ้งกับข้อเสนอทันที,"มันไม่แพงไปสำหรับคนทั่วไปที่จะซื้อรึ?"


1 เหรียญทอง = 100 เหรียญเงิน = 10,000 เหรียญทองแดง,ค่าใช้จ่ายของครอบครัวๆหนึ่งที่มีคนสามคนรวมกันยังแค่เพียง 20-30 เหรียญเงินเท่านั้น,เมิ่งหยิงหยิงที่เล่าเรียนที่สถาบันของซางหลีซิงต้าซือ ที่มีชื่อเสียง,ตลอดทั้งสี่ปีคือ  2000 เหรียญทอง.



เนื้อวัวแสงจันทร์เปล่าๆซึ่งเป็นเนื้อของสัตว์อสูร,ถึงจะเป็นสัตว์อสูรทั่วไประดับ 1 ก็ตามที,เมิ่งหยิงหยิงได้ซื้อเนื้อ 200 ชิ้น,พร้อมกับต้องจ่ายไปถึง 10 เหรียญทอง.


ราคาของเนื้อสเต็กหนึ่งชิ้นจึงหมายถึงค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของคนทั่วไปสองคนรวมกันถึงสองเดือนทีเดียว.


คนทั่วไปจะซื้อกินจริงๆอย่างงั้นรึ?


ฉู่เทียนกล่าว"คนทั่วไปจะไม่กินเนื้อสัตว์อสูรหรอกนัก,คนที่จะกินเนื้อนี้ได้จะต้องเป็นคนที่มีความสามารถในการกินเนื้อสัตว์อสูร,ไม่ใช่คนธรรมดาแต่ต้องเป็นคนรวย,พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้สนใจในราคาเช่นนี้หรอก."


ฉู่เทียนจ้องมองเมิ่งหยิงหยิงที่ดูจะวิตกกังวลกับผลได้ผลเสีย,ทันใดนั้นเขาก็กล่าวเปลี่ยนเรื่องว่า"พวกเรามีของหายากที่พอจะกักตุนเอาไว้เก็งกำไรได้,นอกจากนี้ยังมีเพียงเจ้าเดียว,หากไม่ได้ผลกำไรสิบเท่าล่ะก็,มันคงไม่คุ้มค่าที่จะเปิดร้านหรอกนะ,ฟังข้าให้ดี,ใช่แล้ว!,อย่างไรก็เหอะ,อย่าได้ลืมคำสัญญาของเจ้าล่ะ,เงินที่ได้จะต้องแบ่งให้ข้าครึ่งหนึ่ง."


เมิ่งหยิงหยิงที่ได้ยิน,นางยืดอกขึ้นในทันที,พร้อมกับกล่าวออกมาราวกับเต็มไปด้วยความชอบธรรม"เจ้าวางใจได้เลย,ข้า,เมิ่งหยิงหยิงพูดคำใหนคำนั้น,หากมันสามารถขายได้ล่ะก็,แม้จะได้แค่หนึ่งเหรียญทองแดงข้าก็จะแบ่งเจ้า."

............

จตุรัสลานเทียนหนาน.

ต้นปาล์มที่สูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่สองข้างถนน,มันถูกปลูกประดับด้านข้างถนนมานานแล้ว,ต้นปาล์มแต่ละต้นนั้นออกผลดกเต็มต้น,ผลของต้นปาล์มชนิดนี้นั้นมีชื่อว่า,ตะวันสีน้ำตาล,ในเวลากลางวันมันจะทำการดูดซับแสงอาทิตย์เอาไว้,เพื่อเปล่งแสงโชติช่วงในเวลากลางคืน,ต้นไม้ดังกล่าวนี้จึงทำการปลูกเพื่อให้แสงสว่างกับถนนสัญจรในโลกใบนี้นั่นเอง.


มีสวนดอกไม้มากมายหลากหลายปกคลุมไปทั่วลานแห่งนี้,ส่วนมากก็เป็นพืชให้แสงด้วยกันทั้งนั้น.


ยกตัวอย่าง,เห็ดแสงจันทร์,หรือจะเป็นดอกไม้เรืองแสง,ซึ่งสามารถเปล่งแสงมากมายหลากสี,ทำให้ดูสวยงามยิ่งนัก.

สิ่งก่อสร้างและร้านค้าต่างๆ,ด้านบนหน้าร้านมีเถาวัลย์ปลูกเอาไว้,เพื่อช่วยในการส่องแสง,พร้อมกับเป็นการสร้างสีสันจากเรื่องแสงสีต่างๆ,นอกจากนี้ยังทำให้สะดุดตาด้วยป้ายร้านเรืองแสงอีกด้วย.


เหล่าคนที่สัญจรไปมาถือตะเกียงฟักทองและตะเกียงแมงกระพรุน,เพื่อช่วยในการมองเห็นและนำทาง.


ตะเกียงฟักทอง,ที่จริงแล้วมันถูกเรียกว่า"ฟังทองแสงอาทิตย์"เป็นพืชชนิดหนึ่ง,หลังจากที่นำมันแช่น้ำยาพิเศษแล้ว,จะทำให้มันคงความสดใสและมีลักษณะเฉพาะ,ฟักทองแสงอาทิตย์นั้น,มันสามารถเก็บธาตุแสงในเวลากลางวัน,และจะสามารถส่องแสงเองได้ในเวลากลางคืน,เหมือนกับว่าเป็นโคมไฟมือถือก็ว่าได้.


ตะเกียงแมงกระพรุน,เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังพิเศษอยู่ภายในตัว,แต่เพราะมีพลังที่อ่อนด้อยเป็นอย่างมาก,จึงแทบจะไม่มีคุณสมบัติใช้ในการต่อสู้ได้เลย,ราวกับแสงของหิ่งห้อยที่คอยส่องแสงก็ไม่ปาน,มันสามารถให้แสงสว่างได้ในทุกคืน,ความเร็วในการเรืองแสงก็รวดเร็ว,จึงเหมาะที่จะใช้เป็นตะเกียงสิ่งมีชีวิตได้เป็นอย่างดี,โดยเฉพาะการใช้เพื่อเดินทางในเวลากลางคืนตามถนนหนทาง.


ตามท้องถนนของเมืองเทียนหนานนั้นเต็มไปด้วยรถลากด้วยสัตว์,มีจำพวกสัตว์เลื้อยคลานต่างๆที่ใช้ในการลากรถ,หรือวัวตัวมหึมา,รวมทั้งสัตว์อสูรลากรถอีกด้วย,หลากหลายชนิดแล้วแต่ฐานะของแต่ละบุคคล,เป็นเรื่องที่ล้ำลึกเป็นอย่างมาก


นี่เป็นชีวิตในเวลากลางคืนของโลกใบนี้,มีการปลูกพฤกษาชนิดต่างๆภายในเมืองกว่าครึ่งหนึ่ง,และครึ่งหนึ่งเป็นที่อยู่อาศัย,เป็นการสร้างเมืองที่บูรณาการระหว่างชีวิตในเมืองกับธรรมชาติที่อยู่ร่วมกันอย่างสมบูรณ์แบบ,ไร้ซึ่งข้อขัดแย้งใดๆ.


เมิ่งหยิงหยิงมาสายอยู่เหมือนกัน.


พื้นที่จตุรัสลานเมืองแห่งนี้ถูกจับจองไปเกือบหมดแล้ว,นางจ้องมองไปยังบรรยากาศรอบๆ,หาตำแหน่งที่ยังว่าง,เพื่อที่จะตั้งแผงขายของ.


"เร็วเข้า!"


"ข้าจะหาที่กางร่มเอง!"


"เจ้าไปหาที่แขวนหลอดไฟฟ้าเถอะ!"


ทันทีที่หลอดไฟฟ้าส่องแสงสว่างขึ้น, มันดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก แสงที่ปล่อยออกมามีความสว่างและมั่นคงกว่าเมื่อเทียบกับแสงสว่างจากสิ่งมีชีวิตหรือตะเกียงไฟคริสตัล อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้ไม่รู้จักและไม่รู้ว่าแสงสว่างเช่นนี้คือแสงอะไร.


เมิ่งหยิงหยิงสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวและกางเกงขายาว สามผ้าพันคอและผ้าปิดหน้า,นางรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและตื่นเต้นเล็กน้อย,อย่างไรก็ตามนางไม่รู้ ว่านางจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในการค้าครั้งนี้,  นางรีบตะโกนเสียงดังว่า"ขายสเต็กวัวแสงจันทร์จ้า อร่อยและมีคุณค่าทางอาหาร,ชิ้นละหนึ่งเหรียญทอง"


เมิ่งหยิงหยิงตะโกนเรื่อยๆ ไม่ล่ะความพยายาม.


เพราะแสงไฟและความงามของนาง,เหล่าคนที่อยู่รอบๆจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว.



ถึงอย่างงั้นเมิ่งหยิงหยิงรู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก,แม้ว่าฝูงคนจะมามุงกันมากมาย,ทว่ากลับไม่มีคนซื้อเลย,ภายในใจของนางนั้นกระวนกระวายเป็นอย่างมาก,เริ่มเย็นขนาดนี้แล้วนางจะไม่สามารถขายได้จริงๆรึ?การทำการค้าครั้งแรกของนางจะต้องล้มเหลวรึอย่างไร,การทำงานของนางครั้งแรกนั้นดูเหมือนมันจะหนักหนาจนเกินไปสินะ.




"สเต็กวัวแสงจันทร์มีอะไรพิเศษอย่างงั้นรึ,ถึงได้ขายแพงอย่างคาดไม่ถึงเช่นนี้?"


ชายวัยกลางคนสวมหมวกเหล็กและเกราะพร้อมถือดาบยาวและสะพายธนูที่ด้านหลังเดินเข้ามาเอ่ยถาม


เมิ่งหยิงหยิงกำลังจะเอ่ยปากแต่ฉู่เทียนกลับพูดขึ้นก่อนว่า"ท่านลุงเป็นลูกค้าคนแรกของเราเลย, สเต็กชิ้นนี้ข้าจะให้ท่านชิมฟรี, ถ้าท่านพบว่ารสชาติเป็นที่น่าพอใจแล้วละก็ โปรดช่วยบอกต่อให้กับร้านของเราด้วย"


"ฟรี ! แน่นอนๆ ถ้าสเต็กนี่รสชาติดีจริงๆ ไม่ต้องห่วงข้าจะป่าวประกาศให้พวกเจ้าแน่ๆ"


ชายคนนี้เป็นทหารรับจ้างที่เพิ่งกลับจากการทำภารกิจ ทหารรับจ้างมักมีเงินไม่ขาดมือ ดังนั้นเมื่อเขาเห็นร้านขายสเต็กเนื้อสัตว์อสูรร้าย เขาจึงเข้าถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น อีกอย่างเขายังไม่เคยเห็นร้านขายเนื้อสเต็กสัตว์อสูรมาก่อน ผลก็คือเขาได้รับเลือกให้ชิมสเต็กฟรี โอกาสดีๆ เช่นนี้ไม่ควรที่จะปล่อยไปอย่างแน่นอน.


สายตาฉู่เทียนส่งสัญญาณไปยังเมิ่งหยิงหยิง


"ถ้ายังงั้นท่านลุงโปรดรอสักครู่"


เมิ่งหยิงหยิงใส่ชิ้นเนื้อสเต็กลงในกระทะและย่างสเต็กอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ส่งมอบให้กับทหารรับจ้างที่อยู่ด้านหน้าด้วยตัวเอง.


ถาดจานสเต็กที่สุกได้ที่,ทำให้ทหารรับจ้างคนดังกล่าวยากที่จะหักห้ามใจเอาไว้ได้,ปีแล้วปีเล่าที่เขาได้แต่ทำการล่าสัตว์อสูรไม่น้อยเลย,เขาตระหนักได้ว่าเนื้อสัตว์อสูรนั้นยากที่จะนำมาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร,หญิงสาวคนนี้สามารถทำได้อย่างไร,เพียงแค่ไม่กี่นาทีคาดไม่ถึงแล้วว่าจะย่างมันจนสุกเลยอย่างงั้นรึ?ไม่ใช่ว่าเนื้อนี้มันมีความผิดปรกติหรอกรึ?




ลุงทหารรับจ้างคนนี้ลองตัดเนื้อชิ้นเล็กๆ และใส่มันลงในปากของเขาอย่างระมัดระวัง


"ซิ้ดๆๆๆ ........."


ทหารรับจ้างคนดังกล่าวถึงกับขมวดคิ้วไปมาทันที.


เรื่องนี้ทำให้หัวใจของเมิ่งหยิงหยิงกระสับกระส่าย ขณะที่นางคิดว่าทหารรับจ้างอาจจะยังอิ่มอยู่เขาเลยยังไม่มีความอยากอาหาร ในขณะที่ทหารรับจ้างนั้นยังไม่ใด้ว่ากล่าวใด ๆ แต่เขาเริ่มตัดเนื้อสเต็กส่งเข้าปากช้าๆ และ หลังจากนั้นการกินของเขาก็เริ่มเร็ว,เร็วขึ้น และเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนในเวลาไม่ถึงสามนาที สเต็กทั้งหมดก็ลงไปอยู่ในท้องเขาเรียบร้อยแล้ว



"เยี่ยม,ยอดเยี่ยม,อร่อยมากๆ" ทหารรับจ้างลุกขึ้นยืนเช็ดปากของเขาและหัวเราะเสียงดัง"เนื้อสเต็กนี่อร่อยมาก ยอดเยี่ยมคุ้มค่าเงินจริงๆ"


เมิ่งหยิงหยิงมีความสุขเป็นอย่างมาก,หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านี้"ขอบคุณมากท่านลุง"


แม้ว่าจะยังไม่ได้เงินมา,ทว่าการทำให้ผู้คนยอมรับ,นี่ก็นับว่าเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับคนอื่นๆเช่นกัน!


ลุงทหารรับจ้างหยิบเหรียญทองออกมาสามเหรียญ และกล่าวอย่างมีชีวิตชีวา"อร่อยมากข้าจะต้องนำกลับไปให้ภรรยาและลูกๆ ที่บ้านด้วย เจ้าช่วยทำให้ข้าอีกสามชิ้นสิ"


ประสบความสำเร็จอย่างงาม!

นี่ไม่ใช่แค่ธุรกิจแรกของวันเท่านั้น แต่นี่เป็นการขายครั้งแรกในชีวิตของเมิ่งหยิงหยิงด้วย เป็นครั้งแรกที่นางได้รับเงินที่เป็นรายได้ด้วยตัวเอง ความสำคัญและคุณค่าของสิ่งนี้ไม่สามารถวัดได้ ถ้าข้าบอกท่านพี่นางคงจะมีความสุขมาก



เมิ่งหยิงหยิงที่ได้รับเงินมานั้น,แทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น,สามเหรียญทองเป็นเงินค่าใช้จ่ายของนางครึ่งเดือนเลย,  แต่ตอนนี้นางกลับได้รับอย่างง่ายดาย นางแทบจะกระโดดกอดฉู่เทียนเป็นการเฉลิมฉลอง,ทว่ายังมีเวลาให้ดีใจและประหลาดใจต่อจากนี้อีกมาก.


"คนนั้นไม่ใช่ หวัง เหลาซี หรอกรึ? เขาอยู่ในกลุ่มพยัคฆ์คลั่ง ข้าได้ยินว่าเขาเป็นคนที่เรื่องมาก ถ้าเขาพอใจกับสเต็กร้านนั้น แสดงว่ามันจะต้องอร่อยมากแน่ๆ ใช่ไหม?"


"แล้วใครจะรู้รสชาติได้เล่า!"


"เถ้าแก่เนี่ยทั้งสอง,ขอข้าด้วยที่หนึ่ง!"


"ของข้าชิ้นหนึ่งด้วย"

„......”



ด้วยท่าทางของทหารรับจ้างคนดังกล่าวได้สร้างความสนใจจากหลาย ๆ คนทันที จากนั้นมีคนแต่งตัวเหมือนทหารรับจ้างคนอื่นๆ แห่เข้ามาเพื่อลิ้มลองสเต็ก ผลออกมาดีอย่างคาดไม่ถึง ร้านแผงลอยขายอาหารขนาดเล็กเริ่มจากการไม่มีลูกค้าแม้แต่รายเดียว จนถึงได้รับความนิยมสูงระดับนี้ เมิ่งหยิงหยิงกับฉู่เทียนต่างยุ่ง,มือเป็นระวิง พยายามทำสเต็กขายกับให้กับทุกคน


"อร่อยๆๆมาก!"


"รสชาติเยี่ยมจริงๆ!"


"ห่อกลับบ้านให้ข้าด้วย!"


"อร่อยมาก! ข้าจะต้องบอกเหล่าพี่น้องของข้า,พวกเขาทุกคนจะได้ชิมกัน! "


"เถ้าแก่เนี่ย! พวกเจ้าต้องมาขายบ่อยๆนะ, พวกเราจะเป็นลูกค้าประจำเลย"

„............”


เหรียญทองเงาวับเต็มกระเป๋าเก็บเงิน.



เมิ่งหยิงหยิงยิ้มจนปากของนางแทบจะเป็นตะคริว,นางไม่เคยรู้สึกเยี่ยมยอดเหมือนกับวันนี้มาก่อนเลย,ไม่เคยคาดคิดเลยว่านางจะรู้สึกประสบความสำเร็จขนาดนี้มาก่อน,เป็นความรู้สึกที่หาเส้นทางของตัวเองเจอทั้งที่หลงทางมาโดยตลอด,ความรู้สึกนี้มันช่างดีเหลือเกิน.


ลูกค้าส่วนใหญ่นั้นเป็นทหารรับจ้าง,เหล่าทหารรับจ้างนั้นเป็นคนที่ตรงไปตรงมา,ใจกว้างและไม่เกี่ยงเรื่องราคา.


แม้ว่าฉู่เทียนจะเตรียมกระทะทอดไว้ถึงสามเตา, แต่เขาคาดไม่ถึงว่าร้านขายสเต็กจะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ ทั้งสองมีระดับพลังไม่สูงมาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องผลัดกันฟื้นฟูพลังเวทย์ของตัวเอง เพื่อย่างสเต็กอย่างต่อเนื่อง ภายในสองชั่วโมงพวกเขาขายได้มากกว่าหนึ่งร้อยชิ้น


ฉู่เทียนและเมิ่งหยิงหยิงหมดเรี่ยวหมดแรงตกอยู่ในความตื่นตะลึง!


เมิ่งหยิงหยิงพักอยู่ชั่วขณะ,นางเดินไปยังแผงขายของร้านอื่น,ก่อนที่จะซื้อน้ำผลไม้เย็นๆกลับมาสองขวด,นางได้มอบมันให้ฉู่เทียนหนึ่งขวด"สำหรับธุรกิจที่ดีของพวกเรา,พวกเราแทบจะไม่ว่างเลย,พวกเราน่าจะจ้างคนช่วยนะ,อาจจะสามารถเพิ่มรายได้ก็เป็นได้."




"เจ้ามีมันมันสมองใหมนี่?"ฉู่เทียนปาดเหงื่อด้วยผ้าเช็ดเหงื่อ,ก่อนที่จะดื่มน้ำผลไม้และกล่าวว่า"ในเมื่อได้การตอบรับที่ดี,พวกเราควรที่จะเพิ่มการลงทุน,อย่างเช่นการลงทะเบียนกับหอการค้า,ขายในภัตตาคาร,หาตราสินค้าที่เป็นของตัวเองเพื่อให้ได้ความนิยม,สิ่งที่พวกเราหากำไรอยุ่ตอนนี้มันเป็นการขายตามแผงลอยเท่านั้นไม่ใช่รึ?"



เมิ่งหยิงหยิงพยักหน้าหงึกๆราวกับลูกไกกำลังจิกข้าวสาร"ใช่,ใช่,เพื่อลดต้นทุน,เช่นนั้นก็เปิดร้านเอง!ข้าจะรับฟังความเห็นเจ้า!"


เมิ่งหยิงหยิงรู้ดีว่าต้องได้กำไรแน่,นางจึงกล้าที่จะเฉือนเลือดเนื้อตัวเอง,เงินที่ซ่างหลีซิงได้คืนให้นาง 2000 เหรียญทองนั้น,นางตัดสินใจที่จะแอบเก็บเอาไว้ไม่ส่งคืนพี่สาว,เก็บเอาไว้เป็นเงินทุนส่วนตัว,ตราบเท่าที่สามารถสร้างร้านตัวเองได้,พี่สาวของนางย่อมไม่ตำหนิแน่,บางทีนางอาจจะได้รับการชื่นชมด้วยซ้ำ!



ใช่! อย่างนี้แหละถูกตัองเลย



ตราบเท่าที่นางทำงานร่วมกับฉู่เทียนแล้วละก็,แน่นอนว่านางจะต้องเดินไปสู่เส้นทางที่มั่งคั่งแน่นอน!



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย




5 ความคิดเห็น:

  1. สนุกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    ตอบลบ
  2. ทำอาหารคนสมัยใหม่แล้ว ยุคดึกดำบรรพ์กิน เกิดเปงหมอ พ่อครัว ไม่อดตายจิงๆ

    ตอบลบ
  3. ยืมเงินเนี่ยหลี่ซักหน่อยมั้ย

    ตอบลบ
  4. มันอยู่จักรวาลเดียวกันหรอไม่ม้างงงง

    ตอบลบ