วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 2 Dream light dance

Miracle Throne Chapter  2 Dream light dance

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 2  เมิ่งชิงอู๋


บทที่ 2  เมิ่งชิงอู๋




"หยิงหยิง,เจ้าหลับรึยัง?"


เป็นเสียงของหญิงสาวที่ดึงดูดเป็นอย่างมาก,ราวกับเสียงของนกนางนวลที่ได้ร้องเพลงลึกลับประสานเสียงออกมา,ถึงแม้ว่าจะเป็นกะลาสีที่มากประสบการณ์,ก็คงอดรนทนไม่ได้ที่จะสับสนตาพร่ามัว,จนท้ายที่สุดก็จะเดินเขาไปติดบ่วงกับดักอย่างช่วยไม่ได้.

ดึกดื่นปานนี้เป็นเรื่องที่ไม่ปรกติเลยที่นางจะมาเยือนวันนี้?


เมิ่งหยิงหยิงตะโกนออกไปอย่างเร่งรีบ"ข้า,ข้า,ข้า...เพิ่งนอน,ตอนนี้จึงไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลย!"



นางผลักฉู่เทียนขึ้นไปบนเตียง,ก่อนที่จะกระซิบอย่างแผ่วเบาไปว่า"ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว,เจ้าเข้าไปซ่อนตัวบนเตียงแล้วห้ามขยับตัวล่ะ."


เมิ่งหยิงหยิงรีบผลักเสื้อนอกและรองเท้าของฉู่เทียนเข้าไปใต้เตียงทันที,พร้อมกับปลดเสื้อนอก,ปล่อยผมที่เงาสลวย,คลายลงไปด้านล่างราวกับน้ำตกที่ไหลเชี่ยวลงด้านล่างอย่างสวยงาม,นางเองก็เร่งรีบถอดร้องเท้าก่อนปีนป่ายขึ้นเตียงอย่างรวดเร็ว,อย่าแรกนางต้องซ่อนฉู่เทียนไว้ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่,ก่อนที่จะหันหน้ามาเกะผ้าม่านคลุมเตียงของนางลง.


กลิ่นกายของสาววัยแรกแย้มผ่านเข้ามาในจมูกของเขา.


สาววัยใสรูปร่างเพรียวบางอ้อนแอ้นอรชรขึ้นมานอนเคียงข้าง,เรียวขาคู่งามที่แทรกและเบียดตัวเขาลงไป,ผิวกายที่เนียนนุ่มราวกับว่าไม่มีรูขุมขนเลย,ทำให้เหล่าบุรุษทุกคนต้องตื่นเต้นสูบฉีดอย่างรุนแรง.


ช่างเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้หัวใจเต้นแรงและสั่นสะท้านทีเดียว!


ฉู่เทียนยากที่จะกดข่มความคิดของตัวเองเอาไว้ได้เลย.


ในเวลาเดียวกัน,พี่สาวของนางก็ก้าวเข้ามาเรื่อยๆ,ร่างของเมิ่งหยิงหยิงอดไม่ได้ที่จะหดตัวและขยับถอยหลัง,จนเบียดไปที่ร่างของฉู่เทียน,บั้นท้ายของนางนั้นได้ชนเข้ากับอะไรบางอย่าง,นี่เป็นครั้งแรกที่นางตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที.


ใบหน้าเรียวเล็กของนางเปลี่ยนเป็นแดงกล่ำ!


เมิ่งหยิงหยิงแทบจะกรีดร้องออกมาเสียงดัง.


มือของฉู่เทียนขยับชั่วพริบตา,เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว,มือหนึ่งที่โอบไปยังร่างของนาง,อีกมือหนึ่งขยับไปปิดปากนางเพื่อป้องกันเสียง,พวกเขากอดรัดกันแน่นอย่างไม่ต้องสงสัย,นั่นยิ่งเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งดิ้นไปมาอย่างรุนแรง.


"อื้อ!"


เมิ่งหยิงหยิงดิ้นอย่างหนักอยู่หลายครั้ง,ร่างกายที่เนียนนุ่มราวปุยนุ่น,บั้นท้ายที่นุ่มนวลขยับไปมาเสียดสีร่างเขาอย่างเผ็ดร้อน,ฉู่เทียนรู้สึกราวกับว่าปิศาจแห่งราคะกำลังฮึกเหิม,แทบจะทำให้เขานั้นไม่สามารถควบคุมมันเอาไว้ได้,ร่างกายที่เขาได้มานี้ยังคงเด็กจนเกินไป,จึงไร้ซึ่งความต้องการอย่างเต็มที่,จึงสามารถต้านทานความยั่วยวนนี่ได้.


"อย่าขยับ,ห้ามร้อง!"


เมิ่งหยิงหยิงยังคงพึมพำอยู่ในลำคอ.


ฉู่เทียนลูบลงไปยังบั้นท้ายของเมิ่งหยิงหยิงเบาๆ,"หากไม่หยุดร้องละก็!"


เมิ่งหยิงหยิงครวญครางเบาๆออกมาเล็กน้อย.


ใบหน้าที่หล่อเหลาเนียนนุ่มของเขากำลังถูไปมาที่แก้มของนาง,ดวงตาที่ลึกลับชำเลืองมองจ้องนางอย่างดุๆ,นางที่ขยับหันมาจมูกของนางแทบจะชนเข้ากับจมูกของเขา,กลิ่นของผู้ชายที่รุนแรงผ่านเข้ามาในจมูกของนาง.


สมองของนางกำลังเลือนลางจนตาพร่ามัวไปหมด.


ตั้งแต่เด็กจนโต,นางไม่เคยสัมผัสกับชายคนใดขนาดนี้มาก่อนเลย,ภายในสถานการณ์ที่ปลุกเร้านี้,ส่งผลให้ร่างกายของนางร้อนขึ้นเล็กน้อย,พร้อมกับรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างไม่คาดคิด.


พี่สาวของนางได้อยู่นอกประตูแล้ว,สถานการณ์ตอนนี้เข้าขั้นวิกฤติ,ทำไมนางจะไม่รู้ล่ะ,ในส่วนลึกเข้าไปในใจของนางตื่นเต้นกับเรื่องพี่สาวของนางอย่างงั้นรึ?


แก้มของเมิงหยิงหยิงถึงกับร้อนผ่าว,สายตาที่กระจ่างใสและลุกวาว,เหมือนกับเริ่มปริ่มไปด้วยน้ำตา.


ฉู่เทียนมีแต่ความคิดที่ชั่วร้ายอยู่เต็มหัวไปหมด.


ลูกเจี๊ยบน้อยนี้พร้อมที่จะถูกเคี้ยวแล้วไม่ใช่รึ?เขายิ่งพร้อมอยู่แล้วด้วย.


แต่ว่าคงจะต้องจ่ายมันไปด้วยชีวิตของเขาแหง่มๆ!


เอี๊ยดดด!


ประตูไม้ถูกเปิดออกมา.


เมิ่งหยิงหยิงที่ดูเหมือนว่าจะตื่นขึ้นจากความฝันแล้ว,ก่อนที่จะชำเลืองมองค้อนไปยังฉู่เทียน,มือของเขาจึงได้ขยับออกมาจากปากของนาง,นางพยายามอย่างจริงจังที่จะกล่าวออกมาให้เป็นปรกติ,"ท่านพี่,ท่านมาได้อย่างไร,ข้ายังได้สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเลย!"


ฉู่เทียนยังคงกอดเมิ่งหยิงหยิงไม่ปล่อย,แต่ว่าคนด้านนอกนั้นไม่สามารถมองลอดผ่านม่านคลุมเตียงเข้ามาได้,เขาสามารถมองเห็นด้านนอกเป็นเงาของคนๆหนึ่ง,ที่สูงอย่างน้อยราวๆ 1.72 เมตร,ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้,หากแต่จริงๆแล้วขาคู่นั้นช่างเรียวงาม จนน่าตื่นตะลึง.


ไม่จำเป็นต้องบรรยายอะไรเลย,เพียงแค่นั้นก็สามารถดึงดูดยั่วยวนได้แล้ว,ขาที่เรียวยาวสมบูรณ์แบบนั่น,เพียงพอที่จะทำให้ใจของบุรุษคลั่งได้.


"ปัญหาเดิมๆมันรุนแรงจนทำให้ข้านั้นนอนไม่หลับ,จนอยากมาพบหน้าเจ้า."


"เจ้านอนอยู่นั่นล่ะ,ไม่จำเป็นต้องลุกขึ้นมา."


หญิงสาวที่ขาเรียวทรงเสน่ห์กล่าวออกมาด้วยเสียงที่หวานหยดย้อยก่อนที่จะเดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ไม่ห่างจากเตียง.


เมิงหยิงหยิงรู้สึกราวกับว่าหัวใจของนางเต้นระรัวราวกับกำลังตีกองอยู่,หากว่าพี่สาวของนางแหวกม่านเข้ามาล่ะก็,แน่นอนว่าจะต้องเห็นฉู่เทียนที่กำลังโอบกอดนางอยู่เป็นแน่,แน่นอนว่านางคงไม่สามารถอธิบายเรื่องดังกล่าวได้อย่างแน่นอน.


เมิ่งหยิงหยิงตื่นตระหนกเต็มไปด้วยความกังวลใจ.


อารมณ์ที่แท้จริงของฉูเทียนเองก็หดหู่อยู่เหมือนกัน.


แม้ว่าข้าจะไม่ใช่วีระบุรุษก็ตามที,ทว่าก็มีดีที่จะหยิ่งยโสและทำอะไรก็ได้,ถ้าไม่ใช่เพราะการทดลองข้ามมิติที่ล้มเหลวอันบัดซบนั่น,ทำให้ข้าต้องย้อนเวลามาเกิดในยุคโบราณเช่นนี้!มิหนำซ้ำยังกลายเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง,หากไม่เพราะพลังฝึกตนของเขาได้หายไปจนหมด!คงไม่ต้องกลายไปเป็นทาสเช่นนี้แน่!


เรื่องเลวร้ายเช่นนี้,ทำไมต้องเกิดกับข้าด้วย?


ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม,ข้าจะต้องได้ทั้งต้นทั้งดอกคืนมา.


มือของฉู่เทียนตอนนี้เริ่มไต่ไปบนต้นข้าที่ขาวราวหิมะอย่างแผ่วเบา,ผิวที่ละออและเนียนนุ่มชวนสัมผัสนั่น,ฉู่เทียนจะไม่ทนอีกต่อไป,เมิ่งหยิงหยิงหนีบขาของนางแน่น,ทั่วทั้งร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด,หล่อนไม่กล้าที่จะหายใจออกมาอย่างรุนแรงในเวลานี้,ภายในใจ,ได้แต่ด่าว่าสาปแช่งฉู่เทียนเป็นหลายสิบครั้งในความคิดของนาง,ข้าจะปล่อยให้เจ้าลูบคลำเรียวขาของข้าก็ได้,แต่ว่านะอย่าได้กล้าเลือนขึ้นมาบนจุดสำคัญบนร่างของข้าเด็ดขาด!


เป็นเรื่องที่อับอายน่ารังเกียจมาก,มือของเขายังคงไต่ขึ้นมาบนบั้นท้ายของนาง.



ด้วยสถานการณ์เช่นนี้,ถึงกับกล้าเอาเปรียบข้าสินะ!


หน้าด้าน!


หน้าไม่อาย!


หากว่าถูกพี่สาวของนางพบเข้าล่ะก็,ไม่ว่าพวกเขาจะมีสัมพันธ์กันหรือไม่,เขาจะต้องถูกสับกลายเป็นอาหารสุนัขแน่นอน.!


เมิ่งหยิงหยิงยกม่านคลุมเตียงขึ้นเล็กน้อย,พร้อมยื่นหน้าออกไป,กล่าวสอบถามออกไปด้วยเสียงที่สั่นเทา,"ท่านพี่ถึงกับมาหาข้าเวลาค่ำคืนเช่นนี้เพื่อพูดคุย,มีสิ่งใดที่กังวลอย่างงั้นรึ?"


คิ้วที่คมเข้มของเมิ่งชิงอู๋ขยับไปมา,ท่าทางหนักใจเป็นอย่างมาก,ไม่คิดเลยว่าน้องสาวจะพบเขากับท่าทางเช่นนี้ของนาง,ทว่านางก็ได้ถอนใจยาวก่อนพูดออกมาว่า"เรื่องเกี่ยวกับร้านขายยา,ไม่มีใครที่จะให้ข้าสามารถเชื่อใจได้เลย,ดังนั้นข้าจึงแค่เพียงต้องการที่จะพูดคุยกับเจ้าเท่านั้นเอง."


เมิ่งชิงอู๋นั้นต้องคอยควบคุมดูแลกิจการของตระกูลด้วยตัวเอง.


หอการค้าหนานหยุนทำธุรกิจเกี่ยวกับยันต์เวทย์ระดับต้น,เมิ่งชิงอู๋นั้นได้ใช้เงินมากมายมอบให้กับผู้ช่วยของปรมาจารย์ซ่างหลีชิงเพื่อให้น้องสาวนางได้เข้าเรียน,กลายเป็นศิษย์ของเขาอย่างมีเกียรติ,หวังว่าน้องสาวของนางนั้นจะได้กลายเป็นผู้สืบทอดกิจการ,และอาจจะช่วยยกระดับตระกูลของนางขึ้นได้อีกด้วย.


บิดามารดาของเมิงชิงอู่,ผู้ก่อตั้งกิจการ,การค้าหนานหยุน,ก่อนนั้นพวกเขาได้ผู้ขาดการค้าตลาดยันต์เวทย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองเทียนหนานแห่งนี้เลยทีเดียว.


หกปีต่อมา,หลักจากที่เกิดความวุ่นวาย,จนทำให้หอการค้าหนานหยุนได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว,ตอนนี้ถูกลดระดับลงการเป็นเพียงหอการค้าระดับสองเท่านั้น.


ธุรกิจยันต์เวทย์ของหอการค้าเหนานหยุนนั้นยิ่งถดถอยและตกต่ำลงเป็นอย่างมาก,ทว่าด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง,เมิ่งชิงอู๋จึงยังสามารถประคับประคองกิจการเอาไว้ได้อยู่,ด้วยจำต้องลงทุนเป็นอย่างมาก,เพื่อซื้ออุปกรณ์,วัสดุ,สูตรยาและใช้เงินในการว่าจ้างอาจารย์ปรุงยาเป็นจำนวนเงินมหาศาล,ตอนนี้ภายในเมืองนางก็ได้เปิดร้านขายยาในทำเลทอง,หวังว่าประสบความสำเร็จได้.


สายตาของเมิ่งหยิงหยิงเริ่มพล่ามัวแล้ว,พร้อมกับหายใจขาดๆหายๆ,ไม่ค่อยมีสมาธิ,ถามออกไปในทันที,"ร้านขายยาเพิ่งเปิดมาไม่กี่วันนี้เอง,ธุรกิจเองก็ดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดีไม่ใช่รึ?หากเป็นเช่นนี้,ตระกูลเราก็สามารถขยายสาขาเพิ่มได้,ยังมีสิ่งใดกันที่ท่านพียังกังวลอยู่รึอย่างไร?"


เมิ่งชิงอู๋ส่ายหน้าไปมา,"ยันต์เวทย์ต่างหากที่น่าเป็นห่วง,เจ้ายังจำเรื่องราวเมื่อหกปีที่แล้วได้หรือไม่?"


ด้วยคำพูดดังกล่าวนั้นราวกับว่านางได้ถูกแช่ลงไปในถังน้ำแข็ง.


ทำให้เมิ่งหยิงหยิงที่สั่นสะท้านถึงกับแข็งค้างเลยทีเดียว.


ไฟแห่งราคะภายในใจของนางถึงกับมอดลงในทันที.


"ข้าจะลืมมันลงได้อย่างไร?"เมิ่งหยิงหยิงถึงกับขบฟันของนางแน่น,พร้อมกับสะอื้นออกมาเล็กน้อย"ข้าอายุเพียงสิบปีเท่านั้น,ท่านพ่อและท่านแม่เองก็ได้จากไปในปีนั้น!"


ใบหน้าที่สวยงามของเมิ่งชิงอู๋เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกก่อนที่จะกล่าวออกมาเสียงต่ำ,"ความจริงแล้วข้าสงสัยว่าบิดามารดของพวกเราไม่ได้พบเข้ากับสัตว์อสูรแต่อย่างใด,ทว่ามีคนสังหารพวกเขา!หลายปีมานี้ข้าได้ทำการสืบสวนอย่างเปิดเผยและอย่างลับๆ,ข้าได้ร่องรอยบางอย่าง,แต่ว่ากลับไม่สามารถหาหลักฐานยืนยันได้."




ร่างของเมิ่งหยิงหยิงถึงกับสั่นสะท้าน,"ท่านพ่อและท่านแม่ถูกสังหาร!"


"เจ้าตอนนี้มีอายุ 16 ปีแล้ว,โตพอที่จะรับรู้เรื่องราวเช่นนี้แล้ว,ข้าไม่จำเป็นต้องปกปิดเจ้าอีกต่อไป."กำปั้นของเมิ่งชิงอู๋กำหมัดแน่น"ในครานั้นท่านพ่อท่านแม่เพิ่งตายไป,ท่านลุงกลับกระตือลือร้นต้องการแบ่งสมบัติ,อาจารย์ผู้สร้างยันต์อักขระเองก็เลิกติดต่อกับพวกเรา,เหล่ายันต์เวทย์ที่พัฒนาขึ้นมาก็ถูกเปิดเผย,เหล่าผู้จัดหาวัสดุอุปกรณ์ต่างๆก็ตัดการค้าขายกับพวกเขาราวกับว่าได้ถูกเตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว,ในเมืองเองร้านต่างๆของพวกเราก็ถูกคนบุกเข้าโจมตีแทบทุกวัน,เพียงหนึ่งปี,สัดส่วนการค้าขายของพวกเราลดลงกว่าแปดส่วน,เจ้าคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องบังเอิญอย่างงั้นรึ?"

„......”



"แผนการทุกอย่างนั้นได้วางแผนเอาไว้อย่างดีแล้ว,หากแต่ยังมีสิ่งที่ผิดพลาดไปอยู่,ก็คือ,ข้าไงล่ะ"

เมิ่งหยิงหยิงรู้ดีว่าหลายปีที่ผ่านมานี้พี่สาวของนางต้องประสบเรื่องหลายอย่างและมันไม่ง่ายสำหรับนางเลย.


"หยิงหยิงช่างเป็นคนไร้ประโยชน์เหลือเกิน,ท่านพี่เองก็มีอายุ 16 ปีเอง,กลับต้องรับภาระหนักของตระกูลในภาวะที่หนักหนาสาหัส,ทว่าสิ่งที่ข้าทำ,แค่เรียนก็ยังไม่ดีเลย,ต้องการที่จะเที่ยวเล่นเตร็ดเตร่อยู่ตลอดเวลา,ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย,ข้ายัง...!"


เมิ่งหยิงหยิงต้องการที่จะผลักฉู่เทียนออกไปให้พ้น.



ฉู่เทียนที่ดูเหมือนกำลังเข้าตาจน,ได้เลื่อนมือขวาของเขา,ขึ้นไปบนตัวนาง,เลื้อยไปบนหน้าอกและบีบมันเบาๆ!


เมิ่งหยิงหยิงถึงกับเงียบเสียบในทันทีทันใด,ใบหน้าน้อยๆกลายเป็นแดงกล่ำ,ร่างกายสั่นสะท้าน,จุดดังกล่าวที่เป็นเหมือนเนินศักดิ์สิทธิ์ที่ใครห้ามรุกล้ำเด็ดขาด,เพียงแค่คิดก็ทำให้รู้สึกงงงวย,ทำให้นางถึงกับต้องหนีบขาทั้งสองข้าเข้าหากัน,กัดฟันแน่น,เพื่อไม่ให้เสียงหลุดออกมา.


เจ้าคนพาล...คาดไม่ถึงว่าจะกล้าจับหน้าอกข้า!


เมิ่งชิงอู่ที่เห็นดวงตาทั้งสองข้างของน้องสาวเต็มไปด้วยน้ำตา,ใบหน้าของนางแทบจะกลายเป็นสีแดงไปทั้งหมด,เป็นไปได้ว่านางคงจะรู้สึกละอายใจ,ทำให้นางแอบซาบซึ้ง,ก่อนนั้นนางต้องการเที่ยวเล่นอยู่ทุกเวลาไม่รู้จักโตเลย,ในที่สุดตอนนี้ก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดได้แล้ว.


เมิ่งหยิงหยิงกลัวว่าจะถูกเขาจู่โจมเข้าอีกครั้ง,เขาจึงไม่กล้าที่จะผลักฉู่เทียนให้ออกไป,,หล่อนจึงได้ถามเรื่องที่ต้องการที่จะรู้"เป็นใครกันที่กล้าทำเรื่องเลวร้าย,โจมตีทำร้ายตระกูลของพวกเขาเช่นนี้!"


เมิ่งชิงอู๋ลังเลอยู่ชั่วขณะ,ก่อนที่จะตอบกลับน้องสาวของนางไป,"ตระกูลเย่,ตระกูลเย่ที่ทำธุรกิจทหารรับจ้าง,มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่มีทหารรับจ้างที่มีฝีมือโดยไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ในการโจมตีกองคาราวานสินค้า,แต่ว่าการสร้างเรื่องว่าหลอกว่าสัตว์อสูรเข้าจู่โจมนั้นยังไม่สมบูรณ์พอ."


ตระกูลเย่นั้นมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก.


ตระกูลทหารรับจ้าง,มีกองกำลังทหารรับจ้างถึงสามกลุ่ม,แต่ละกลุ่มมีสมาชิกกว่าหมื่นคนทีเดียว!


หากผู้อยู่เบื้องหลังเป็นตระกูลเย่จริงๆล่ะก็,เช่นนั้นหอการค้าหนานหยุนเองย่อมไม่มีกำลังที่จะต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย!


เมิ่งชิงอู๋กล่าวต่อไปว่า"เหล่าอาจารย์สร้างอักขระเวทย์เกือบทั้งหมดของตระกูลเราได้ย้ายไปทำงานที่หอการค้าเห่ยซุยกันหมดถึงด้านหน้านั้นจะเป็นตระกูลหานดูแลจัดการ,แต่เบื้องหลังที่คอยช่วยเหลือพวกเขาอยู่นั้นคือตระกูลเย่,ไม่เช่นนั้นแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะเติบโตได้รวดเร็วขนาดนั้น!"


"เมิงหยิงหยิงกัดฟันแน่นพร้อมกับกล่าวว่า"พวกเขาจะต้องแก้แค้นอย่างแน่นอน!"


"เรื่องการแก้แค้นอย่าได้ผลีผลาม,เมื่อเร็วๆนี้ข้ารู้สึกราวกับว่าจะมีเรื่องที่สำคัญบางอย่างเกิดขึ้นภายในตระกูลเรา."ร่างๆหนึ่งที่อยู่นอกผ้าม่านยืนขึ้นอวดรูปร่างที่เพรียวบางสวยงาม."หยิงหยิง,เจ้าจงสัญญากับข้า,เจ้าจะต้องตั้งใจเรียนทำผลงานให้ดี,และกลายเป็นศิษย์ของเจาต้าซือให้จงได้,ถึงเจ้าพบเข้ากับสถานการณ์อันตราย,ด้วยสถานะศิษย์ของเจาต้าซือล่ะก็,ย่อมรับประกันความปลอดภัยของเจ้าได้."



ทันใดนั้นเมิ่งหยิงหยิงก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาในทันที.



พี่สาวของนางถึงจะไม่แข็งแรงเท่าใดนัก,กลับจะต้องแบกรับภาระหนักหนาของตระกูล.


หล่อนได้พานางเพื่อเข้าเรียนกับเจาชิงฟานต้าซือ,ไม่เพียงนางต้องเรียนไม่จบ,แล้วต้องกลับมาดูแลตระกูลแทนพ่อแม่,แต่ว่าด้วยรับรู้ถึงกลิ่นอายที่ไม่ชอบมาพากล,นางยังได้หาที่พักพิงป้องกันตัวให้กับน้องสาวเอาไว้อีกด้วย.


"ท่านพี่,ท่านจะไม่เป็นอะไร,ใช่ใหม?"


"เด็กโง่,พี่ของเจ้าไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดนั้น,หกปีก่อนสถานการณ์ย่ำแย่กว่านี้ซะอีก,ข้ายังผ่านมาได้,ในเวลานี้,ข้าก็ต้องการที่จะเห็นจริงๆ,พวกเขาจะจัดการข้าด้วยวิธีใด,นี่ก็ดึกมากแล้ว,หยิงหยิงเจ้ารีบพักเถอะ,พรุ่งนี้เจ้าจะตื่นสายเอา,เจ้าไม่ควรไปเรียนสายนะ."


"ค่ะ!"


"ซ่างหลีชิงตาซือนั้นเป็นคนที่สำคัญอย่างมาก,เพื่อตัวเจ้าเอง,เพื่อตระกูลของเรา,เจ้าจะต้องตั้งใจเรียนขยันขันแข็ง."


"หยิงหยิงทราบแล้ว,ท่านพี่เองร่างกายอ่อนแอนเดียวจะไม่สบาย,ท่านไปพักเถอะ."


"มันเป็นเรื่องเล็กๆมาหลายปีแล้ว,ข้าชินกับเรื่องนี้แล้ว,เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง."


เมิ่งชิงอู๋ปลอบใจน้องสาวก่อนที่ร่างที่เพรียวบางอรชรจะก้าวย่างจากไป.


เมิ่งหยิงหยิงรู้สึกย่ำแย่เป็นอย่างมาก,นางเงียบไปหลายนาที,ก่อนที่จะสะอึกสะอื้นขึ้นมาทันที.


ฉู่เทียนกอดหญิงสาวเบาๆอย่างนุ่มนวล"อย่าเศร้าไปเลย,ไม่เศร้านะ,มันจะดีเอง."


เมิ่งหยิงหยิงที่อยู่ภายในอ้อมกอดของฝ่ายตรงข้าม,รู้สึกอบอุ่น,สบายใจ,คาดไม่ถึงเลยว่าจะรู้สึกพึงใจอยู่เล็กน้อย.


"เจ้าคนฉวยโอกาส!"


"เจ้าจะกอดข้าไปถึงเมื่อไหร่กัน!"


จริงๆแล้วเมิ่งหยิงหยิงเองก็ต้องการไหล่ของบุรุษสักคน,ต้องการที่จะโผเข้าไปซบฝ่ายตรงข้ามเพื่อร้องให้,หากแต่สหายคนนี้ของนางนั้นทำตัวน่ารังเกียจจนเกินไป,ก่อนหน้านี้เขาได้ฉวยโอกาสล่วงเกินนางอย่างคาดไม่ถึง,นางจะไม่ยอมให้เขาได้สมหวังฉวยโอกาสจากนางอีกต่อไป,ด้วยนางยังบริสุทธ์อยู่นั่นเอง.


ฉู่เทียนลุกออกมาจากเตียงโดยไม่เต็มใจนัก,ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างเฉยเมยราวกับไม่ได้ตั้งใจพร้อมกับเผยยิ้มและกล่าวว่า"ขออภัยด้วย,ข้าไม่ได้ต้องการทำเช่นนั้นเลย,เรื่องมันคอขาดบาดตายจริงๆ,ข้าไม่มีทางเลือก,ไม่เช่นนั้นแล้ว,ข้าคงต้องตายแน่ๆเลย!"


เมิ่งหยิงหยิงที่กำลังเศร้าเป็นอย่างมาก,สหายคนนี้กับยิ้มออกมาอย่างเฉยเมย,,หล่อนพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง,พร้อมกับจ้องมองไปยังระหว่างขาฝ่ายตรงข้าม,ที่ใบหน้าของนางรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างดุร้ายออกไปว่า"นี่ก็ช่วยไม่ได้จริงๆ,ใช่ใหม?"


ฉู่เทียนกุมไปที่เป้าด้วยท่าทางกระอักกระอ่วนใจ"แน่นอนมันเป็นปรากฏการทางสรีระ,ข้าไม่สามารถควบคุมมันได้,เจ้าก็เป็นเหมือนกันด้วยไม่ใช่รึ?"


"ไร้สาระ,ข้าไม่ได้เป็นคนหน้าหนาเช่นเจ้า!"


"แต่ว่า..."


เมิ่งหยิงหยิงรู้สึกโกรธเกรี้ยวข้นมาทันที"ไม่มี,แต่,หากเจ้าไม่หยุดต่อล้อต่อเถียงข้าล่ะก็,ข้า...ข้าจะทุบเจ้าให้สาแก่ใจเลย!"


"ช่วยด้วย!คุณหนูรองกำลังจะฆ่าคนแล้ว!"


ฉูเทียนไม่รีรอวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว.


เมิ่งหยิงหยิงที่จ้องมองแผ่นหลังของฉูเทียนกำลังวิ่งหนีอย่าเป็นทุกข์,ทันใดนั้นนางก็รู้สึกขำขัน,สหายคนนี้เป็นใครมาจากใหนกัน?"

............

ฉู่เทียนออกมาจากลานที่พัก.


เขายั้งเท้าเอาไว้,ก่อนที่จะจ้องมองกลับมาด้วยสายตาธรรมดา,ก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นลึกซึ้ง,เขากัดฟันจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ว่างเปล่า,ชำเลืองมองดูเหล่าดวงดาราบนท้องฟ้าที่มืดมิด,จ้องมองดูตำแหน่งดาว,การโคจรเคลื่อนที่,ซึ่งมันก็ยังเป็นเหมือนเดิมไมได้เปลี่ยนไปจากที่เขารับรู้มาทั้งหมด.


ภายในโลกใบนี้คงไม่มีใครเชื่อว่าดวงวิญญาณของฉูเทียนนั้นได้มาจากอนาคตหลายหมื่นปีจากนี้.


ใช่แล้ว.


เขาไม่ใช่คนของที่นี่,เขาเดินทางมากจากอนาคตนั่นเอง.


เขาเป็นจอมปราชญ์รอบรู้ที่อายุน้อยที่สุด,มีความคิดที่ต่างจากคนยุคนี้,แหวกแนว,เป็นจอมเวทย์ที่พันปีจะพบเจอ.


ขณะที่เขาได้ศึกษารอยแยกของกาลอากาศและเวลา,ไม่ได้ระมัดระวังให้ดีทำให้สูญเสียการควบคุม,ก่อนที่จะเกิดการระเบิด,ก่อนที่เขาจะฟื้นคืนมาในร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง,ที่มีพลังเวทย์ถูกทำลาย,และกลายไปเป็นทาส.


พันธะสัญญาทาสนับเป็นลักษณะพิเศษของคนยุคนี้.


แก่นพันธะสัญญาธาตุนั้นคือการแบ่งแยกดวงจิตออกเป็นสองส่วน,โดยส่วนหนึ่งนั้นจะถูกผนึกลงบนอักขระม้วนสัญญา,เพื่อที่จะให้เจ้าของทาสยึดครองและใช้ควบคุมเหล่าทาส.


"ใช้วิชาเวทย์ที่ล้าสมัยควบคุมข้าอย่างงั้นรึ?ช่างน่าหัวร่อซะจริง!"การควบคุมดวงจิตวิญญาณในเวลานี้นั้นไม่สามารถที่จะแก้ไขได้,แต่ถึงกระนั้นเขาก็มีความคิดบางอย่างอยู่"ตราบเท่าที่ข้าฝึกฝนพลังเวทย์ไปถึงระดับดินแดนปลุกดวงจิตแล้วล่ะก็,การทำลายพันธะสัญญานี้ก็เป็นเพียงแค่เรื่องง่ายดาย,จริงๆแล้วแม่นางน้อยคนนี้ช่างดูน่าสนใจจริงๆ,อาจจะเป็นทางเลือกที่จะได้ประสบการณ์แบบใหม่ของชีวิตก็เป็นได้."


นิสัยของฉู่เทียนที่เป็นสบายๆง่ายๆ,ไม่ยึดติดกับสิ่งใด,ไม่เพียงแต่เป็นคุณชายเจ้าสำราญเท่านั้น,เขายังชอบมองโลกในแง่ดีอีกด้วย.


เขาเองก็ต้องการที่จะปรับตัวเช่นกัน.


ในเมื่อได้เดินทางมาแล้ว,ก็จะต้องใช้ชีวิตให้ดีที่สุด.


ฉู่เทียนไม่เพียงต้องการกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งภายใต้ดาวดวงนี้,เขาจะต้องใช้ความรู้ความสามารถที่เขามี,เปลี่ยนแปลงยุคนี้,เขาต้องการที่จะเห็นเหมือนกัน,โลกที่เปลี่ยนไปเพราะเขา,มันจะหมุนไปด้วยภาพที่เปลี่ยนไปเช่นใดกัน.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย




6 ความคิดเห็น:

  1. ถ้ามันได้โชว์ความสามารถ เดะคงเริ่มมีปัญหาวิ่งเข้ามาแน่นอน

    ตอบลบ
  2. เรื่องดูน่าสนุกดีครับ ติดตามอย่างใจจดใจจ่อ

    ตอบลบ
  3. น่ากลัวจริงๆอ่านแล้วขนลุก

    ตอบลบ
  4. นิยายสนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่าน🌸😊

    ตอบลบ
  5. สปอยครับตอนหน้าตอนที่3. (มึงไปเล่นตรงนู้นไป)

    ตอบลบ