วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2566

Immortality Chapter 1428 I do not believe

 

我不信

ข้าไม่เชื่อ.

 

ในโลกจิ้งจอก,จื่อจิ้นที่นำสิบหกอาวุโส,พวกเขาที่เป็นหัวหน้าของเผ่าจิ้งจอกแต่ละเผ่าในเวลานี้,หลังจากประชุมเสร็จสิ้น,ทุกคนก็เริ่มมารวมตัวกัน,ก่อนที่จะเดินทางไปยังดวงดาวเริ่มต้นเพื่อออกจากโลกจิ้งจอก.

 

ดาวจื่อจุ้น,ตำหนักจื่อจุ้น,ขณะที่จงซาน,ซูเหม่ยหนิง,ซูโหรวหนิงที่กำลังพูดคุยปรึกษากันอยู่.

 

"ข้าได้แจ้งข่าวไปด้านนอกแล้ว,เมื่อออกไปจากโลกจิ้งจอก,จะมีคนมารอรับพวกเจ้า,โปรดวางใจ,ต้าเจิ้งได้เตรียมการทุกอย่างไว้ให้เจ้าแล้ว!"จงซานกล่าว.

 

"อืม!"ซูเหม่ยหนิงที่พยักหน้าอย่างอ่อนโยน.

 

"ข้ารู้ไม่ว่าสิ่งใดเจ้าย่อมทำสำเร็จ!"ซูโหรวหนิงที่จ้องมองจงซานพร้อมกล่าวด้วยความพอใจ.

 

"ต้นกำเนิดโลกจิ้งจอกนั้น,ข้าได้บอกเจ้าไปหมดแล้ว,ที่ด้านนอกนั้นมีสนามพลังของผ่านกู๋ขวางอยู่,ทว่าห้าราชันย์ที่ติดตามบรรพชนจิ้งจอกในอดีต,ตอนนี้ต้องไปที่นั่น,แน่นอนว่าพวกเขามีวิธีจัดการเจ้าต้องระมัดระวังด้วย!"ซูเหม่ยหนิงที่กล่าวออกมาด้วยเสียงอ่อนโยน.

 

"โปรดวางใจ!"จงซานพยักหน้ารับ.

 

"เทือกเขาชิง,เป็นสถานที่ฝังกระดูกบรรพชนจิ้งจอก,ที่ด้านในนั้นมีสมบัติที่สั่นคลอนโลกหล้าฝังอยู่ด้วย,เผ่าจิ้งจอกที่ถดถอย,จึงไม่สามารถเข้าไปได้,หากเจ้ามีโอกาสก็จงนำสมบัติเหล่านั้นออกมาให้ได้!"ซูเหม่ยหนิงที่กล่าวถลางถอนหายใจ.

 

"ข้ารู้!"จงซานพยักหน้า.

 

"ให้จงซาน!"ซูโหรวหนิงที่จ้องมองซูเหม่ยหนิง.

 

"หืม?"จงซานที่จ้องมองซูโหยวหนิงด้วยความสงสัย.

 

ซูเหม่ยหนิงที่นำเตาฟ้าดินออกมาพร้อมกับเสียงนุ่มนวล,"ห้าราชันย์นั้นร้ายกาจ,พวกเขาคือยอดฝีมือโบราณ,เตาฟ้าดินนี้ให้เจ้ายืมไปใช้ก่อน!"

 

ระหว่างที่กล่าวนั้น,ซูเหม่ยหนิงที่ใบหน้าแดงระเรื่อ,ส่วนซูโหรวหนิงที่เผยใบหน้าดีใจเป็นอย่างมาก,นางที่ไม่สนใจเกี่ยวกับเตาฟ้าดินแม้แต่น้อย.

 

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ,ไม่ปฏิเสธ.

 

จงซานที่รับเตาฟ้าดิน,ก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า,"ข้าต้องไปแล้ว!"

 

"เดี๋ยวก่อน!"ซูโหรวหนิงที่เอ่ยออกมาในทันที.

 

"หืม?"

 

"ต้นกำเนิดโลกจิ้งจอกนั้นอยู่ไกลจากที่นี่มาก,ถึงแม้นจะเป็นเซียนบรรพชน,ก็ต้องใช้เวลาหลายวัน! อย่างไรก็ตาม,พวกเราสามารถทำให้เจ้าไปถึงที่นี่ทันที!"โหรวหนิงที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.

 

"ไปถึงที่นั่นทันที?"จงซานที่เผยความประหลาดใจออกมา.

 

"ฟิ้ว!"

 

ซูโหรวหนิงที่นำธวัชเจาเหยาอออกมา.

 

"ธวัชเจาเหยาอย่างงั้นรึ?"จงซานทีเผยท่าทางสงสัย.

 

"ที่ใกล้ๆนั้นมีตำหนักหกแห่ง,หนึ่งในนั้นคือตำหนักบรรพชนจิ้งจอก,ธวัชเจาเหยานั้น,หลายปีมานี้พวกเราก็ไม่ได้หยุดศึกษา,ที่จริงพวกเราพบว่ามันมีวิชาลับบางอย่างที่บรรพชนจิ้งจอกทิ้งเอาไว้,มันสามารถใช้ประโยชน์ส่งเจ้าไปยังที่นั่นได้!"โหรวหนิงเอ่ย.

 

"?"จงซานที่เผยใบหน้ายินดีออกมา.

 

เป็นความจริง,จงซานที่ตระหนักได้ขวานที่แหลมคมอย่าช้าที่จะสับฟืน,จี่กงหนี่ได้เดินทางไปก่อนนานแล้ว,ไม่มีทางที่เขาจะไล่พวกเขาทัน.

 

"ฟิ้ว!"

 

โหรวหนิงที่สะบัดธวัชหนึ่งครั้ง,ปราณทมิฬมากมายที่ปรากฏขึ้น,ก่อนที่จะสร้างภาพเงาบางอย่างขึ้น.

 

"ครืนนนนนนน!"

 

ภาพเงาที่หายไป,ก่อนที่จะปรากฏเป็นประตูบานหนึ่งขึ้นมา.

 

"นี่คือช่องกาลอวกาศ,ที่จะใช้เดินทางไปยังตำหนักบรรพชนจิ้งจอก!"โหรวหนิงเอ่ย.

 

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ,ก่อนที่จะก้าวเข้าไปด้านใน.

 

"ครืนนนน!"

 

ประตูที่สลายหายไป,ปราณทมิฬทั้งหมดก็หายไปเช่นกัน.

"ฟิ้ว!” "ฟิ้ว!”

 

สตรีทั้งสองที่นั่งสมาธิลง,ใช้เวลาครึ่งชั่วยาม,ทั้งสองค่อยตื่นขึ้นมา.

 

ทั้งคู่ที่ลืมตาขึ้น,ซูโหรวหนิงที่จ้องมองซูเหม่ยหนิง,พร้อมกับขยิบตาให้.

 

"มีอะไร?"ซูเหมยหนิงที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.

 

"การเปิดประตูการอวกาศในแต่ละครั้ง,พวกเราจะต้องเสียหนึ่งลิขิตหยวน,เจ้าไม่โกรธ....รึ?"โหรวหนิงที่เผยท่าทางสงสัย.

 

ซูเหม่ยหนิงที่ใบหน้าซับซ้อนมีสีแดงกล่ำ,"เอาล่ะ,อย่าได้พูดมาก,พวกเราต้องรีบออกจากโลกจิ้งจอก!"

 

จากนั้นนางที่ไม่สนที่จะตอบคำถามซูโหรวหนิง,ก่อนที่จะก้าวออกจากประตูไปทันที.

 

ซูโหรวหนิงที่เผยยิ้มเล็กน้อย.

---------------------------------------------------------------------

 

ที่ลานตำหนักบรรพชนจิ้งจอก.

 

ราชันย์เขียว,ราชันย์ขาว,ราชันย์ดำ,ราชันย์แดง,สี่ราชันย์ที่คุ้มกันที่นี่,เห่าเม่ยลี่ที่ไม่สามารถขยับได้.

 

ความพยาบาทของเห่าเม่ยลีที่มากขึ้นเรื่อย,ความเศร้าใจขุ่นข้องใจที่ทรงพลัง,ทำให้ห้วงมิติรอบๆเกาะลอยฟ้ากำลังสั่นไหวไปมา,ตำหนักของบรรพชนจิ้งจอกที่สมบูรณ์,ดูเหมือนว่าจะมีพลังพิเศษของบรรพชนจิ้งจอกคุ้มครองเอาไว้.

 

"เป็นความขุ่นเคืองพยาบาทที่รุนแรงยิ่งนัก!"ราชันย์เขียวที่เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

"บางทีคงเป็นเพราะคำสาปจากตำราชีวิตและความตาย,และยังมีตำราคำสาปจากตำราทำลายล้าง,ราชันย์เหลือคงไม่รู้ว่าเห่าเม่ยลี่นั้นสำเร็จวิชาคำสาปที่รุนแรงทั้งสองได้อย่างคาดไม่ถึง."ราชันย์ดำที่เผยคำพูดที่ประหลาดใจ.

 

"ในอดีตประมุขตระกูลจากที่ทำให้บรรพชนจิ้งจอกร่วงหล่นจากสวรรค์ด้วยตำราแห่งการทำลายล้าง,คาดไม่ถึงว่าตำราทั้งสองจะมาอยู่ในมือนาง,ช่างมีโชคที่ยิ่งใหญ่นัก!"ราชันย์เขียวที่สูดหายใจลึก.

 

"ช่างน่าเสียดายที่พลังฝึกตนของนางต่ำไป! ไม่สามารถใช้พลังของมันได้เต็มที่!"ราชันย์ขาวที่ส่ายหน้าไปมา.

 

ฝ่ายตรงข้าม,เห่าเม่ยลี่ที่เวลานี้ใบหน้าบิดเบี้ยว,แววตาที่เอ่อล้นด้วยน้ำตาโลหิตด้วยความเกลียดชัง,ทำให้คำสาปที่ปรากฏต่อสี่ราชันย์นั้นรุนแรงขึ้นทุกที่.

 

ความขุ่นเคืองพยาบาทที่โลกโชน,รอบๆร่างของอดีตเทียนตี้มีประกายแสงราชันย์คุ้มครอง,ทำให้คำสาปไม่สามารถโจมตีพวกเขาได้.

 

"เป็นคำสาปที่รุนแรงมา,แม้นว่าจะไม่สามารถทำอะไรข้าได้,ทว่าการอยู่ใกล้ๆกับพลังคำสาปเช่นนี้,ทำให้ข้าไม่สบายตัวเลย,ข้าขอขยับไปห่างๆหน่อยก็แล้วกัน!"ราชันย์แดงที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"อืม,ขอเพียงป้องกันพื้นที่รอบๆเกาะเอาไว้,ก็ไม่มีใครชิงเห่าเม่ยลี่ไปจากมืพวกเราได้แล้ว? นอกจากนี้จะมีสักคนที่เข้ามาถึงที่นี่!"ราชันย์ดำพยักหน้ารับ.

 

"แต่ว่าจะอย่างไร,เพื่อไม่ให้เกิดอะไรผิดพลาด,อย่าได้ไปไกลจากเกาะบรรพชนจิ้งจอกนี้เกินไป!"ราชันย์ขาวเอ่ยอย่างจริงจัง.

 

"อืม!"สี่ราชันย์ที่พยักหน้ารับ.

 

ด้วยการขยับมือหนึ่งครั้ง,ทั้งสี่ที่เรียกเกาะของตัวเองออกมา,เกาะราชันย์เขียว,เกาะราชันย์แดง,เกาะราชันย์ขาว,สี่เกาะที่บินมาอย่างรวดเร็ว,ก่อนที่จะโคจรรอบๆเกาะบรรพชนจิ้งจอกเอาไว้.

 

"ครืนนนนนน!"

 

ปราณพยาบาทขุ่นเคืองที่พวยพุ่ง,ปราณทมิฬที่คลุ้งไปทั่วเกาะบรรพชนจิ้งจอกพุ่งขึ้นไปด้านบน.

 

สี่ราชันย์ที่อยู่บนเกาะตัวเองล้อมรอบเกาะบรรพชนจิ้งจอกเอาไว้ตรงกลาง.

 

เห่าเม่ยลี่ที่สาปสี่ราชันย์ต่อเนื่อง,ทำให้พวกเขาหลีกหนี้ออกไปอยู่ห่างๆ,หากแต่นางก็ไม่สามารถขยับได้เช่นเดิม,ในเวลานี้ภายในใจของนางที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า.

 

"เสี่ยวจิน,ข้าขอโทษ,ที่ทำให้เจ้าต้องติดร่างแหไปด้วย.!"เห่าเม่ยลี่ที่โอดครวญด้วยความเจ็บปวด.

 

"!"เสี่ยวจินที่ได้รับบาดเจ็บ,อยู่ในสภาพอ่อนแอ.

 

"เม่ยลี่,เจ้าจำไม่ได้รึจงซานเคยบอกเจ้าเช่นไร? ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็อย่าได้ทิ้งความหวัง! พวกเราถูกจับ,ซูลี่ต้องไปรายงานจงซานและ,จงซานสามารถช่วยพวกเราได้!"เสี่ยวจินที่เอ่ยออกมาด้วยเสียงอ่อนแรง.

 

"จงซานที่เป็นห่วงเหล่าฮวงโห่วของเขา,ข้าเป็นแค่เด็กสาวแก่นแก้วเอาแต่ใจเท่านั้น!"เห่าเม่ยลี่ที่สะอื้น.

 

"เด็กสาวแก่นแก้ว,ใครบอกเจ้ากัน,ว่าเจ้าเป็นเด็กสาวแก่นแก้ว."มังกรทองเสี่ยวจินที่เอ่ยตำหนิ.

 

"ตั้งแต่อยู่ที่โลกใบเล็ก,นับตั้งแต่ที่ข้าเกิดมา,แม่ก็ตาย,พ่อก็ตาย,ข้าไม่มีพ่อไม่มีแม่,ข้าอยู่คนเดียว,ไม่มีใครสั่งใครสอน,ตั้งแต่เด็กข้าต้องยิ้มทุกวัน,ข้าต้องยิ้มให้กับเหล่ามังกรทุกตน,ข้าไม่ต้องการให้พวกเขาเห็นว่าข้าเศร้า,ข้ารู้ว่าก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะไปเจอกับตาเฒ่า,ข้าได้แอบซ่อนร้องไห้ในห้องทุกวัน,ไม่มีใครต้องการข้า,ท่านพ่อมีพันธะสัญญากับเผ่ามังกร,หากแต่มังกรเฒ่านั่นก็ไปสวามิภัคหยิง,ไม่มีใครอยู่ข้างข้า! ข้าพบกับบรรพชน,ราชันย์หยก,พอมีญาติพี่น้อง,แต่นั่นกับเป็นแผนการที่ถูกวางไว้,แผนการเพื่อที่จากเอาชีวิตข้า,ข้าเกลียดมัน,ข้าเกลียดมัน!"เห่าเม่ยหลี่ที่ร้องไห้พร้อมกับสะอื้นไม่หยุด.

 

"ไม่,เจ้ามีข้า,มีตาเฒ่า,จงซานที่เป็นห่วงเจ้า! เจ้าเกิดปัญหา,แน่นอนจงซานต้องช่วยเจ้าแน่,เขาต้องมาแน่นอน!"เสี่ยวจินที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"เขาจะมารึ?"เห่าเม่ยลี่ที่ยังคงสะอื้นไม่หยุด.

 

กับภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง,หากแต่หัวใจบางครั้งก็เปราะบาง,ด้วยท่าทางที่ดูอหังการ,หากแต่ซ่อนความรู้สึกที่อ่อนไหวที่สุดเอาไว้,กับท่าทางรูปลักษณ์ที่แข็งกร้าวเพื่อปกปิดความอ่อนแอ,เมื่อความอหังการที่เคยมีพลังทลายลง,หัวใจจึงเปราะบางยิ่งกว่า.

 

"มา,เขาต้องมาแน่!"เสี่ยวจินที่กล่าวยืนยัน.

 

"แต่ว่า,หากจงซานหาที่นี่ไม่พบล่ะ!"

 

"จงซาน,ต้องหาที่นี่พบ!"เสี่ยวจินที่ยังกล่าวยืนยันหนักแน่น.

 

"แต่ว่าพวกสารเลวทั้งห้า,จงซานจะรับมือพวกเขาได้อย่างงั้นรึ?"

 

"เจ้าไม่เชื่อในจงซานอย่างงั้นรึ?"เสี่ยวจิงที่กล่าวสอบถาม.

 

"ข้าเชื่อ!"

 

"ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่เชื่อหรอกรึ?"มังกรน้อยเสี่ยวจินเอ่ย.

 

"แต่ว่า,ข้ากลัว!"เห่าเม่ยลี่ที่ส่ายหน้าไปมา,ร่างกายของนางที่สั่นสะท้าน.

 

"กลัวอะไร? ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้พวกเราเคยพบเรื่องที่น่ากลัวมาก่อนหรอกรึ? เจ้าบัดซบทั้งห้ายังกลัวเจ้าเลย? ข้าไม่เชื่อ!"เสี่ยวจินที่กล่าวกระตุ้น.

 

เห่าเม่ยลี่ที่กัดริมฝีปาก,ร่างของนางที่สั่นไหว,ขณะที่นางกลิ้นไปมา,นางที่สั่นไปทั่วร่าง,ส่ายหน้าไปมา,ไม่กล้าเอ่ย.

 

"เม่ยลี่,ในเวลานี้,มีอะไรไม่พูดออกมาล่ะ? เจ้ากลัวอะไร?"เสี่ยวจินที่กล่าวสอบถาม.

 

"ข้า..................!”เห่าเม่ยลี่ที่ร้องไห้จนพูดไม่ได้.

 

"ไม่พูด?เม่ยลี่,เจ้ากลัวอะไร?"เสี่ยวจินยังคงสอบถามออกไป.

 

"ข้ากลัวจงซานเขาจะไม่มาช่วยข้า!"

 

เพียงไม่กี่คำ,เห่าเม่ยลี่กับต้องใช้พลังทั้งหมดเอ่ยออกมา.

 

ความรู้สึกที่อยู่ด้านในเป็นต้นเหตุ,นางที่ไม่เคยหวากลัวความตาย,หากแต่นางไม่กล้าคิดหากว่าจงซานไม่มาช่วยนาง.

 

เห่าเม่ยลี่ไม่ใช่ผู้หญิงของเขา,และจงซานยังไม่จำเป็นต้องมาช่วยนางด้วย.

 

เวลานี้,มังกรทองเสี่ยวจินที่ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดง,คำพูดของเห่าเม่ยลีที่ไม่เหมือนในอดีต,นางที่เป็นผู้ฝึกตนคำสาป,ทำให้อารมณ์ของเห่าเม่ยลี่นั้นค่อนข้างรุนแรง,ทุกคนรู้ดีว่ายิ่งอารมณ์รุนแรงเท่าไหร่,พลังของนางก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น.

 

"มา,จงซานต้องมาแน่นอน!"มังกรทองเสี่ยวจินที่กล่าวยืนยันอีกครั้ง.

 

ในเวลาเดียวกัน,ไม่ไกลออกไปจากตำหนักบรรพชนจิ้งจอกที่เกิดสายฟ้าที่ฟาดลงมาในทันที.

 

ทว่าสายฟ้าที่ฟาดลงมานั้นเห่าเม่ยลี่ไม่สนใจแม้แต่น้อย.

 

"เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าจงซานจะมา!"เห่าเม่ยลี่เอ่ยกล่าว.

 

"เจ้าต้องเชื่อจงซานเขาต้องมาแน่,เขาต้องช่วยเจ้าจากพวกปิศาจนี้ได้แน่!"เสี่ยวจินที่ยังคงกล่าวอย่างหนักแน่น.

 

"ข้าไม่เชื่อ,ข้าไม่เชื่อว่าจงซานจะมา,ข้าไม่ใช่ฮวงโหวของเขา,เขาจะไม่ช่วยข้า,ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะมาช่วยข้า! ข้าไม่เชื่อ!"เห่าเม่ยลี่ที่ตะโกนออกมาด้วยเสียงแหบเครือ ร้องไห้โหยหวน.

เสี่ยวจินเองก็ร้องไห้เช่นกัน.

 

ในเวลานี้,หัวใจที่เปราะบางของนางที่เริ่มแตกสลาย,ความรู้สึกที่ท่วมท้นของนางที่บีบรัด,ความเศร้าขุ่นเคืองไม่พอใจที่เพิ่มพูนขึ้นนับสิบเท่าเกิดเสียงดังกึกก้อง.

 

"จงซานเขาจะไม่มา,ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะมา!"เห่าเม่ยลี่ที่คร่ำครวญโหยหวน.

 

ขณะที่อารมณ์ของเห่าเม่ยลี่ที่กำลังจมห่อเหี่ยวขั้นสูด,เสียงที่ร่าเริงที่ดังขึ้นมาด้านหลังในทันที.

 

"ข้าต้องผ่านพันภูผาหมื่นวารี,หมื่นอุปสรรค์เพื่อมาช่วยเจ้า,เจ้าจะไม่เชื่อได้อย่างไร?"

 

เสียงที่เฉิดฉาย,คุ้นเคย,ที่เอ่ยขึ้นมา, คำว่าข้าไม่เชื่อในใจที่หนาแน่น,โหยหาเสียงดังกล่าวยิ่งนัก,มันได้ทำลายความเศร้าขุ่นข้องหมองใจของเห่าเม่ยลี่ให้สลายหายไปทันที.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น