วันเสาร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2566

Immortality Chapter 1423 Individual will and national will

 

个人意志与国家意志

  เจตจำนงของตัวเองและเจตจำนงของชาติ.

 

วิกฤติดวงจันทร์หายไปแล้ว! ทว่าความตื่นตะลึงตกใจของเผ่าจิ้งจอกมากมายยังไม่หายไปง่ายๆ.

 

เพราะว่าเพียงแค่ช่วงเวลาไม่นานก่อนหน้านี้,เหล่าจิ้งจอกมากมายที่สัมผัสถึงกลิ่นอายพลังที่สูงใหญ่ของดวงจันทรา,แม้นว่ามันจะอยู่ห่างออกไปบนอวกาศ,ทว่าความเร็วของดวงจันทรานั้นเร็วมาก,พลังของดวงจันทราที่มากมายไม่ต่างจากปราชญ์เทพ,หรือสุดยอดฝีมือเลย.

 

พลังของดวงจันทรา,ที่เหล่าอสูรทั่วหล้าต่างก็ต้องการ,พลังจันทรานั้น,แม้นว่าจะหนาวเย็นรุนแรงมากมาย,ทว่าเหล่าอสูรก็สั่นไหวรับรู้ถึงพลังที่หนาแน่นได้.

 

เป็นดวงจันทร์จริงๆ,นี่คือดวงจันทราจริงๆ! หากแต่มันกับทรงพลังแทบแช่แข็งทุกคนไปเลยไม่ใช่รึ?

 

พริบตานั้น,เหล่าจิ้งจอกมากมายต่างก็จ้องมองจงซานด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป,หลายๆคนที่ต้องการรู้มากมาย,จงซานหลอมของวิเศษชิ้นนี้ขึ้นมาอย่างงั้นรึ? ทำได้อย่างไร,สร้างขึ้นได้อย่างไร?

 

ไม่ไกลออกไป,ใบหน้าของจี่กงหนี่ที่เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม,จ้องมองไม่วางตา.

 

อีกแห่ง,เป๋าซือที่จ้องมองไปยังซูเหม่ยหนิงที่เผยรอยยิ้มตื่นเต้นดีใจ.

 

"เป็นของวิเศษที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!"เป๋าซือที่กล่าวชม.

 

"ตอนนี้แล้วอย่างไร?"ซูเหม่ยหนิงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.

 

"จะให้ข้ายินยอมย่อมเป็นไปไม่ได้!"เป๋าซือกล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

 

เป๋าซือที่ยื่นมือออกไป,แผนผังเทือกเขาและแม่น้ำก่อนที่จะปรากฏเป็นเทือกเขาแม่น้ำที่ใหญ่โตโถมทับไปยังทิศทางซูเหม่ยหนิง,ผังภูเขาและแม่น้ำนั้น,ส่องประกายแสงสีทองมากมาย,สร้างเทือกเขาที่ใหญ่โตหลายลูก,ปลดปล่อยกลิ่นอายที่รุนแรงฉีกสบั้นห้วงมิติ,แผ่นอาบกดบีบไปยังซูเหม่ยหนิง.

 

"ชิ,ไม่จำเป็นต้องใช้ดวงจันทราก็เอาชนะเจ้าได้!"ซูเหม่ยหนิงที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

 

"ทะลวงแผนผังเทือกเขาและแม่น้ำให้กับข้า!"ซูเหม่ยหนิงที่กล่าวกับผังจักรพรรดิ.

 

ที่ไกลออกไป,จงซานที่ฝืนยิ้มอีกครั้ง,ซูเหม่ยหนิงที่เวลานี้ได้ใช้งานผังจักรพรรดิอย่างหนักหน่วง,คงไม่รู้สิ่งที่นางอัญเชิญมานั้น,เป็นสิ่งที่ผังจักรพรรดิสร้างขึ้นรึอย่างไร?

 

โชคยังดี,ที่มีคนช่วย.

 

ในภพหยิน,ร่างแยกเงาที่โยนผังจักรพรรดิขึ้นไปบนท้องฟ้า,ก่อนที่จะขยายปกคลุมท้องฟ้า.

 

ที่ด้านหน้านั้นมีเซียนบรรพชนสามสิบคน,แต่ละคนที่เวลานี้ผสานเทียนเต๋า.

 

"ลงมือ!"จงซานเอ่ย.

 

"รับทราบ!"เหล่าเซียนบรรพชนที่รับคำในทันที.

 

การโจมตีแรกเป็นฝ่ามือใหญ่ยักษ์ที่อาบไปด้วยเทียนเต๋าสีทอง,พุ่งผ่านผังจักรพรรดิออกไป.

 

ทว่าในเวลาเดียวกัน,ผังจักรพรรดิที่ด้านหน้าซูเหม่ยหนิงที่ขยายออกไปมีขนาดใหญ่ยักษ์,เพื่อที่จะต้านพลังผังผังขุนเขาและแม่น้ำที่อยู่ตรงข้าม.

 

ด้วยคำสั่งของซูเหม่ยหนิง,ภายในใจของนางที่เต้นระรัว,ผังจักรพรรดิจะสามารถรับมือกับผังขุนเขาและแม่น้ำได้จริงๆหรือไม่?

 

"ตูมมมมม!"

 

ที่ด้านหน้าผังจักรพรรดิ,ห้วงมิติที่แตกสบั้น,ฝ่ามือสีทองที่ใหญ่ยักษ์,ผุดออกมาจากด้านในเสียงดังกึกก้อง.

 

ฝ่ามือสีทองที่โจมตีออกมาด้วยพลังทุ่รนแรง,กระแทกแผนผังขุนเขาและแม่น้ำ.

"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

ฝ่ามือสีทองที่กระแทกแผนผังและแม่น้ำดังกึกก้อง.

 

หลังจากเสียงระเบิดดังสนั่นห้วงมิติที่แตกกระจาย,ทว่าแผนผังเทือกเขาและแม่น้ำที่เป็นของวิเศษที่แข็งแกร่ง,เพียงแค่การโจมตีระดับเซียนบรรพชน,ทำให้แผนผังเทือกเขาและแม่น้ำสั่นไหวไปมาเล็กน้อยเท่านั้น.

 

ร่างของเป่าซือที่สั่นไปมาเล็กน้อยเท่านั้น,เห็นชัดเจนว่าแผนผังขุนเขาและแม่น้ำนั้นยังแข็งแกร่ง,ดูเหมือนพลังจากผังจักรพรรดิจะไม่เพียงพอ!

 

เป๋าซือที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"ตูมม!” "ตูมม!” "ตูมม!”........................

 

จากภายในผังจักรพรรดิ,ฝ่ามืออีกหลายอันที่ผุดออกมาอีกครั้ง,พลังของฝ่ามืออากาศแต่ละอันนั้นทรงพลังไม่ด้อยกว่าฝ่ามือสีทองฝ่ามือแรกแม้แต่น้อย,ด้วยพลังระดับเซียนบรรพชน,ที่รวมกันหลายฝ่ามือ,พลังที่มากมายเพิ่มพูนขึ้นอีกหลายเท่า,ทำให้พลังที่ปรากฏขึ้นนั้นน่าเกรงขามอย่างที่สุด.

"เป็นไปไม่ได้, มันเป็นไปไม่ได้~~~~~~~~~!”

 

เป๋าซือที่อุทานออกมาเสียงดัง,พลังนี้,พลังอำนาจที่เทียบเท่ากับเซียนบรรพชนสามสิบคนที่โจมตีออกมาพร้อมกัน,เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร,ไม่มีทางที่จะเป็นเช่นนี้ได้.

"ตูมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 ห้วงมิติที่แตกกระจายลามออกเป็นจำนวนกว้างใหญ่,แผนภูมิขุนเขาและแม่น้ำที่แข็งแกร่ง,แต่ก็ยังนับว่าเป็นของวิเศษ,ด้วยการโจมตีของเซียนบรรพชนหลายสิบคนพร้อมกัน,พลังโจมตีที่กระแทกลงมาไม่หยุด,แรงกระแทกของมันที่ดังกึกก้องผลักออกของวิเศษที่ถอยออกไปไม่หยุด.

 

"พุ!"ร่างของเป๋าซือที่สั่นไหวไปมา,ก่อนที่จะพ่นโลหิตออกมาคำโต.

 

"เป๋าซือ~~~~~~~~~~~~~!”จี่กงหนี่ที่ตะโกนออกไปเสียงดัง,ขณะที่เตรียมจะบินออกไป.

 

"ฟิ้ว!"จงซานที่ออกมาขวางทางจี่กงหนี่เอาไว้.

 

"จงซาน,เจ้าต้องการขวางข้าอย่างงั้นรึ?"ดวงตาของจี่กงหนี่ที่เบิกกว้างจ้องเขม็ง.

 

"ขอเพียงแค่เป๋าซือกล่าวยอมรับความพ่ายแพ้,เหม่ยหนิง,โหรวหนิง,ไม่มีทางที่จะทำอะไรกับนาง! จี่กงหนี่,นี่เจ้าไม่รู้กฎเกณฑ์อย่างงั้นรึ?!"จงซานที่เอ่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

 

"ยังเรียกว่ากฎเกณฑ์อีกรึ? เส้นทางน้ำพุหยินหยางทวีปเหนือ,คือสิ่งที่อยู่ในมือของซูเหม่ยหนิง,ทุกสิ่งที่มีอยู่ในภพหยิน,เจ้ายังกล่าวถึงกฎเกณฑ์ได้รึอย่างไร?"จี่กงหนี่ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.

 

จี่กงหนี่ที่มองเห็นพลังบางอย่างของผังจักรพรรดิ,จงซานไม่ได้รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใด.

 

"ทว่ามันก็คือของวิเศษเช่นเดิม! เจ้าควรจะเข้าใจดี,นอกจากนี้ของวิเศษชิ้นนั้น,มันยังมีเงาของแผนผังเทือกเขาและแม่น้ำด้วย!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.

 

แผนผังเทือกเขาและแม่น้ำอย่างงั้นรึ? ดวงตาของจี่กงหนี่ที่หรี่ตาจ้องมอง.

 

"ในอดีตนั้น,ในโลกใบเล็ก,เจ้าได้ส่งมอบชิ้นส่วนและกฎเกณฑ์การสร้างเทือกเขาและแม่น้ำให้ข้ามา,แม้นว่าจะซ่อนอันตรายที่ยิ่งใหญ่เอาไว้ก็ตาม,ทว่าข้าก็สามารถค้นหามันได้สำเร็จ,แม้นว่าจะเห็นว่ามีเงาของเทือกเขาและแม่น้ำอยู่,ทว่าแท้จริงมันเป็นเพียงโครงสร้างของเทือกเขาและแม่น้ำเท่านั้น,มันใช้ประโยชน์เพียงสื่อสารฟ้าดิน,หยินหยางผันกลับ,เทียบกับแผนผังเทือกเขาและแม่น้ำของเจ้า,เป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานที่กล่าวเผยยิ้มบางออกมา.

 

ดวงตาของจี่กงหนี่ที่หรี่เล็กลง.

 

"เจ้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วสินะ!"ดวงตาของจี่กงหนี่ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.

 

"ข้ามีวิธีรับรู้เจตจำนงอันชั่วร้ายได้,กฎเกณฑ์บางอย่างที่หลงเหลืออยู่นั้น,มีเพียงบางส่วนที่เป็นภัยร้าย,ข้าสามารถกำจัดมันทิ้งไป,แยกเศษตะกอนและแก่นออกจากกัน,ของวิเศษแห่งโลกหล้า,ผังราชันย์เวลานี้ได้กลายเป็นสุดยอดสมบัติแห่งโลกหล้าอย่างแท้จริง!"จงซานที่ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง.

 

สองราชาที่จดจ้องมองกันและกัน,พร้อมกับเผยความเย็นชา.

 

"การต่อสู้ของเป๋าซือและซูเหม่ยหนิง,ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถอธิบายอะไรได้,การจะให้เผ่าจิ้งจอกเข้าร่วมราชวงศ์ใดนั้น,สำหรับพวกเขามันเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าและข้าต้องตัดสิน!"จี่กงหนี่ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.

 

จากท่าทาง,ที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้.

 

"ช่างเป็นเกียรติยิ่งนัก!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.

 

จงซานที่เผยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เช่นกัน.

 

เหมือนดั่งที่ซูเหม่ยหนิงเอ่ย,จงซานไม่มีทางปล่อย,จะแบ่งครึ่งได้อย่างไร? ไม่มีใครยอมแน่,แม้แต่จี่กงหนี่ก็ตามที!

 

การต่อสู้ก่อนหน้านี้เอง,ถึงจะเป็นสตรีทั้งสอง,ทว่าก็คล้ายกับเป็นการต่อสู้ของต้าเจิ้งและต้าโจว,เพราะว่าสิ่งที่พวกนางทั้งสองใช้,เป็นสมบัติของเทียนตี้ของแต่ละราชวงศ์.

 

เผ่าจิ้งจอกส่วนใหญ่ที่เป็นกลางเอง,ที่จริงพวกเขาก็ลอบจับจ้องเรื่องดังกล่าวอย่างสนใจเช่นกัน.

 

หากจี่กงหนี่ด้อยกว่าจงซาน,ในยุคแห่งความวุ่นวายนี้,บางที่ต้าโจวอาจล่มสลายอีกครั้ง,เผ่าจิ้งจอกย่อมไม่มีทางที่จะเข้าร่วมต้าโจวอีกครั้ง,การจะเลือกกลุ่มอิทธิพลใดจำเป็นต้องมีความมั่นใจก่อน.

 

เผ่าจิ้งจอกมากมายที่จ้องมองขึ้นไปบนอวกาศ,ทว่าเหล่าอาวุโสนั้นที่จริงจดจ้องมองไปยังจงซานและจี่กงหนี่.

 

"จงซาน? เจ้าดูเหมือนกู่เฉิงตงในอดีตมาก!"

 

"เจ้าก็เหมือนเนี่ยฟ่านเฉินในอดีต!"

 

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...........!”จี่กงหนี่ที่หัวเราะออกมาเสียงดัง.

 

หลังเสียงหัวเราะที่หยุดลง,สายตาของจี่กงหนี่ที่จดจ้องมองไปยังจงซาน,"เจ้าเองก็ต้องการ,เช่นนั้นจะให้เพียงสตรีต่อสู้ได้อย่างไร?"

 

"เชิญ!"จงซานที่โบกมือ.

 

"วูซซซซซ!"

 

จงซาน,จี่กงหนี่ที่พุ่งขึ้นไปบนอวกาศที่อยู่ไกลออกไปในทันที.

 

"เรื่องของจงซานและจี่กงนี่,อย่างไร......?”เหล่าอาวุโสเผ่าจิ้งจอกที่เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.

 

"ซูลี่,นี่หมายความว่าอย่างไร?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่จดจ้องมองไปยังซูลี่ที่กำลังขมวดคิ้วไปมา.

 

ซูลี่จ้องมองไปยังจงซานและจี่กงหนี่ที่อยู่ไกลออกไป,ส่ายหน้าไปมาเบาๆ,"กำลังจะเกิดเรื่องสำคัญขึ้น!"

 

"หมายความว่าอย่างไร?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่เผยท่าทางสงสัย.

 

"โลกใบใหญ่,ผู้ฝึกตนที่จะต่อสู้กันนั้น,ไม่ได้มีกฎที่ไม่ได้เขียนเอาไว้,หรืออาจจะกล่าวได้ว่าไม่มีข้อห้ามที่บอกกล่าวว่า,ห้ามสองราชันย์ต่อสู้กัน!"ซูลี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.

 

"ไม่ได้ห้ามสองราชันย์สู้กันอย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่เอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย.

 

"ใช่,ราชา,ตัวแทนของโลกหล้า,สำหรับราชวงศ์วาสนา,สามารถต่อสู้กับผู้ฝึกตนทั่วไปอื่นๆ,ผลแพ้และชนะนั้น,ไม่ได้ทำให้โชคลาภวาสนาต้องเสียหาย,ส่วนการต่อสู้ของราชานั้นแตกต่างออกไป,สองราชวงศ์ที่ต่างก็ไขว่คว้าหาโชคลาภวาสนาของแผ่นดิน,สองราชวงศ์ในโลกหล้า,สามารถหลีกเลี่ยงได้เป็นดีที่สุด,หากแต่ตอนนี้เทียนตี้และจี่กงหนี่ต้องการต่อสู้กัน,กับสถานการณ์นี้,ชัดเจนว่าเป็นการแย่งชิงเผ่าจิ้งจอกที่เป็นหนึ่งในวาสนานั่นเอง."ซูลี่ที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"หมายความว่าอย่างไร?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ไม่เข้าใจ.

 

"ศาลสวรรค์ต้าเจิ้งและศาลสวรรค์ต้าโจว,ต้องต่อสู้กัน!"ซูลี่ที่ขมวดคิ้วไปมา.

 

"ทำไม? เจ้ากำลังบอกว่าการต่อสู้ของจงซานและต้าโจวนั้นมีความหมายอย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ยังไม่เข้าใจ.

 

"ใช่,มันมีความหมาย,แม้นว่าเทียนตี้และจี่กงหนี่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน,ทว่านั่นคือความสัมผัสส่วนบุคคล,ไม่สามารถนำไปเทียบกับเจตจำนงของชาติได้,สองราชวงศ์ต้องต่อสู้กัน,เทียนตี้และจี่กงหนี่ไม่สามารถนำความสัมพันธ์ส่วนตัวมาใช้ได้"ซูลี่ที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"ข้างงงวยยิ่งนัก,เจ้าช่วยอธิบายให้เขาใจได้หรือไม่?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"เรื่องนี้เจตจำนงส่วนตัวและเจตจำนงของชาตินั้นแตกต่างกัน, ราชาแต่ละคนไม่สามารถหยุดหรือเปิดการต่อสู้เพื่อตัวเองโดยตรงได้,เจตจำนงในนามตัวเองและราชวงศ์นั้นย่อมต้องมีเหตุผลที่ต่างกัน,ต้าเจิ้งไม่สามารถเรียกศาลสวรรค์จงได้,ต้าฉินเองก็ไม่สามารถเรียกศาลสวรรค์หยิงได้,และต้าโจวเองก็ไม่สามารถเรียกศาลสวรรค์จี่ได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวเช่นกัน."ซูลี่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

"ในยุคแห่งความวุ่นวายนั้น,ใต้สวรรค์มีอยู่เก้าทวีป,จงซานและจี่กงหนี่ที่ความสัมพันธ์อันดีต่อกัน,ทำไมถึงไม่ร่วมมือกันกลายเป็นพันธมิตรล่ะ? ทำไมต้องแบ่งแยกต่อสู้แลกชีวิตกันด้วย,ทำไมจะต้องแข่งขันต่อสู้กัน?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

 

"เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมราชาต้องเรียกตัวเองว่า,ข้าพเจ้า,(เจิ้น)?"ซู่ลี่ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.

 

"หืม?"

 

"ข้าพเจ้าคือจ้าว ที่เป็นหนึ่งไม่มีสองของโลกหล้า,ไม่มีใครจะสามารถอยู่ในระดับเดียวกันได้,ในสายตาของข้าพเจ้า,แผ่นดินและประชาชน,กับศัตรูที่จะรุกราน,จะเป็นพันธมิตรได้อย่างงั้นรึ? สี่ศาลสวรรค์,ที่ปรากฏขึ้นคนละมุมของโลกหล้า,ทุกราชวงศ์ล้วนแต่ไม่สามารถเป็นพันธะมิตรกันได้! การเป็นพันธมิตรกับเพื่อนบ้าน,แล้วศัตรูล่ะจะไม่ร่วมมือกันอย่างงั้นรึ? ไม่เลย! หากต้าเจิ้งเป็นพันธะมิตรกับต้าโจว,แล้วพรมแดนของพวกเขาล่ะ,พรมแดนที่มียังมีทวีปปฐพีอยู่,ทวีปปฐพีที่ไม่ใช่ศาลสวรรค์,ราชวงศ์ของทั้งสองจะถูกตัดแบ่งทวีปปฐพีจากทั่วทุกมุมของศัตรู,ด้วยการแข่งขันเช่นนี้,ไม่มีทางที่ใครจะยอมปล่อยไปได้,ในเวลานั้นความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้น,แม้แต่การชิงชัยของต้าเจิ้งและต้าโจว,อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้."ซูลี่ที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"ก่อนหน้านี้เจ้าได้บอกกล่าวเกี่ยวกับสถานการณ์โลกหล้า,ต้าเจิ้งและต้าฉินเป็นเพื่อนบ้านกัน,โดยมีพรมแดนเป็นทวีปเสวียน,เป็นไปได้ว่าเจ้าและต้าฉินก็ต้องต่อสู้กันอย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่กล่าวสอบถาม.

 

"เป็นเรื่องปรกติ,สถานการณ์ทั่วหล้า,ไม่สามารถเปลี่ยนได้ด้วยเจตจำนงส่วนตัว!"ซูลี่ที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเคร่งขรึม.

 

"งั้นก็หมายความว่าต้าเจิ้งไม่เพียงแต่ต่อสู้กับต้าโจว,ยังต้องต่อสู้กับต้าฉินด้วยอย่างงั้นรึ?"ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ยังไม่เข้าใจแต่อย่างใด.

 

"ต้องต่อสู้,ต้าเจิ้งนั้นจำเป็นต้องมุ่งไปด้านหน้า,ไม่ใช่แค่ต้าโจวและต้าฉิน,ทวีปปฐพีและทวีปเสวียน,ล้วนแต่ต้องเกิดการต่อสู้!"ซูลี่ที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

 

ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ,เขาไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับการเมืองและการปกครองนี้เลย.

 

"ต้าเจิ้งที่ต้องต่อสู้กับทวีปทั้งสี่ทันที,สี่ศาลสวรรค์เอง,แต่ละศาลสวรรค์ก็ต้องขยายพื้นที่ออกไปเช่นกัน,มันเป็นการสงครามที่ต้องต่อสู้จนกว่าจะพบผู้ชนะคนสุดท้าย!"ซูลี่ที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

 

"ต้าเจิ้งต้องการจะรวมโลกหล้าเป็นหนึ่งอย่างงั้นรึ?"ท้ายที่สุดปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ราวกับตระหนักอะไรบางอย่างได้.

 

ซูลี่ที่พยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้ม,"ไม่ใช่แค่ต้าเจิ้งแห่งเดียว,อีกสี่ราชวงศ์สวรรค์ก็ต้องการ,รวมโลกหล้าเป็นหนึ่งเช่นกัน."

 

 ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่ตะลึงงัน,พร้อมกับบดขมับตัวเองไปมา,ขณะจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป,สนามรบของจงซานและจี่กงหนี่,ซึ่งเป็นอะไรที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก! การต่อสู้ของราชันย์,เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทั่วหล้าด้วย,ปรมาจารย์หมากซือเหม่ยที่รู้สึกกดดันขึ้นมาทันที.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น