วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2565

Immortality Chapter 1400 The thing of mortal, saying ‚spade’!

Immortality Chapter 1400 The thing of mortal, saying ‚spade’!


Chapter 1400 The thing of mortal, saying ‚spade’!

凡人之物,’!

  สิ่งของปุถุชน,ที่ถูกเรียกว่า พลั่ว!

 

"กงเชวียน,เจ้าต้องการทำอะไร?"เซียนบรรพชนอีกคนที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.

 

"จินเผิง,เป็นน้องชายของข้า,เจ้า? เมื่อกี้เจ้าจะสังหารน้องชายของข้าอย่างงั้นรึ?"

 

กงเชียนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นยะเยือ,เสียงที่ตรงข้ามกับยูไลโปรดสัตว์ในนรก,เสียงที่แช่แข็งไปถึงขั้ววิญญาณ,จิตสังหารที่แผดกลิ่นอายเหมือนกับใบมีด,เจาะทะลวงลงไปในกระดูก!

 

กล่าวจิบ,พายุที่หมุนวนระเบิดออกมา,ปราณทมิฬที่ฟุ้งกระจายถูกพัดออกไป.

 

"แฮกๆ!"สามเซียนบรรพชนที่สูดหายใจลึก,แววตาที่ส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง.

"หนี ~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

เซียนบรรพชนคนหนึ่งที่ร้องตะโกน,พร้อมกับหนีในทันที.

 

ในอดีต,ปราชญ์เทพเจ็ดคนที่ต่อต้านสวรรค์,กงเชวียนที่ถูกได้สมญาว่าเป็นเทพแห่งความดุร้าย,สามารถที่จะขับไล่ยอดฝีมือทุกคนกลับไปได้.

 

ผ่านมากี่ปีแล้วที่เขากลับมาหลังจากที่เขาต่อต้านเทียนชู? กงเชวียนเวลานี้มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่?

 

ทั้งสามไม่รู้ว่ากงเชวียนแข็งแกร่งเท่าใดแล้ว,ทว่ารู้เพียง,กงเชวียนที่ยึดครองตำแหน่งประมุขคืนจากปราชญ์เทพกงจื่อ.

 

หนี!เซียนบรรพชนทั้งสามที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อยพุ่งออกไปคนละทิศทาง.

 

เซียนบรรพชนที่ถอยหนี,ทว่ากลับมีเซียนบรรพชนฝั่งละสองคนปรากฏออกมา.

"ปัง!” "ปัง!” "ปัง!”

 

เกิดเสียงดังสนั่น,สามเซียนบรรพชนที่หยุดอยู่กับที่ทันที.

 

เพราะว่าแต่ละคนนั้น,ปรากฏยอดฝีมือสองคนขวางทางพวกเขาเอาไว้,หกเซียนบรรพชนที่ขว้างกั้นพวกเขา.

 

"กงเชวียน,เจ้าต้องการทำอะไร? พวกเราเป็นคนตระกูลเทียน,เวลานี้รับคำสั่งท่านประมุข,เจ้ากล้า ............!”

 

กงเชวียนที่ไม่สนใจเหล่าเซียนบรรพชนเหล่านั้น,ทว่าเขาหันหน้ากลับมามองจินเผิง.

 

จินเผิงที่จ้องมองไปยังกงเชวียน,เผยยิ้มที่ซับซ้อนออกมา.

 

"เจ้าดีกับข้าข้า!"จินเผิงที่เผยรอยยิ้มขมๆ.

 

จากนั้นจินเผิงที่เริ่มนั่งสมาธิ,บำเพ็ญลมหายใจ,ในเวลานี้เขาที่รู้สึกปลอดภัยเมื่อมีกงเชวียน.

 

ในเวลาเดียวกัน,กงเชวียนที่เผยยิ้มที่ยากจะหาได้เช่นกัน.

 

ที่ไกลออกไป,เต้าเหรินถูที่จ้องมอง,ไม่ได้ก้าวเข้ามา,ขณะที่จ้องมอไปยังเซียนบรรพชนสองคนที่สู้กับเซียนเซิงซือ,ก่อนที่เขาจะกำชักดาบโลหิต,พุ่งตรงไปยังสองเซียนบรรพชน.

 

"กงเชวียน!"

 

เสียงจากบนอากาศที่เกิดขึ้นในทันที.

 

กงเชวียนที่เงยหน้าขึ้นมอง,เป็นเซิ่งกงเป้า! ที่ด้านหลังเซิ่งกงเป้ามีคนอีกสี่คน.

 

"ราชครู!"กงเชวียนที่เอ่ยปากออกมา.

 

เห็นชัดเจนว่า,เขายังคงเรียกเหมือนเมื่อครั้งราชวงศ์ซ่างยังอยู่.

 

"ดูเหมือนว่า,จะมาเร็วกว่าพวกเรา,ที่นี่มอบให้เจ้า,ข้าจะไปยังที่อื่น!"เซิ่งกงเป้าที่เอ่ยออกมาเบาๆ.

 

"อืม!"กงเชวียนพยักหน้ารับ.

 

เซิ่งกงเป้าที่หันหน้ากลับไปพูดกับสี่ร่างข้างหลัง,"ทุกท่าน,มายังต้าเจิ้ง,ต้องขอรบกวนแล้ว.

 

"เซียนเซิงเซิ่งโปรดวางใจ,ข้าแลพวก,ในเมื่อตัดสินใจเข้าร่วมต้าเจิ้ง,แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ควรกระทำ,หาได้เป็นปัญหา,อีกอย่างยังเป็นช่วงเวลาที่จะสะสมคุณงามความดี,โปรดวางใจ,พวกเราจะกระทำสุดความสามารถ."หนึ่งในนั้นเอ่ย.

 

เห็นชัดเจนว่า,เซิ่งกงเป้านั้นได้เดินทางไปยังทวีปตะวันออก,เชิญกงชวียนมาช่วยจงซาน,เซิ่งกงเป้าที่ไม่ได้เพียงทำงานสำเร็จ,ยังสามารถนำอีกสี่เซียนบรรพชนกลับมาอีกด้วย!

 

"ดี!"เซิ่งกงเป้าที่พยักหน้ารับ.

 

"ปัง!"เซิ่งกงเป้าที่นำสี่เซียนบรรพชนเข้าสู่สนามรบ.

 

ในเวลาเดียวกันนั้น,กงเชวียนที่หันหน้าไปมองเซียนบรรพชนสามคนที่ถูกล้อมเอาไว้,แววตาที่ปะทุจิตสังหารที่รุนแรงออกมา.

 

"กงเชวียน,จินเผิงเขาไม่ได้เป็นไร,ข้าและคนอื่นก็ไม่ได้สังการเขา,ไว้วันหน้าพวกเราพี่น้องจะไปขอขมาเจ้าอีกครั้ง!"เซียนบรรพชนอื่นที่เอ่ยออกมา.

 

"ไม่จำเป็น!"กงเชวียนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา.

 

"หืม?"

 

"เจ้าตาย,ถึงจะเป็นการขอขมาต่อน้องของข้า!"กงเชวียนที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

 

ระหว่างที่กล่าวนั้น,กงเชวียนที่ดวงตาเบิกกว้าง.

 

"วูซซซซซ!"

 

ในเวลาเดียวกันนั้นพื้นที่รอบๆที่ถูกปกคลุมด้วยแสงสีฟ้า,ภาพเงาของนกยูงที่ใหญ่ยักษ์ปกคลุมท้องฟ้า,กงเชวียนที่เริ่มลงมือ!

--------------------------------------------------------

 

ทันทีที่กงเชวียนเข้าร่วมการต่อสู้,เทียนเต๋าจื่อที่อยู่บนอวกาศต้องขมวดคิ้วไปมา.

 

"สายลมกำลังเปลี่ยนทิศ!"หยิงที่กล่าวออกมาเสียงเย็น.

 

ใบหน้าของเทียนเต๋าจื่อที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน,เพราะว่าค่ายกลปราณศพนั้น,แม้นว่าจะไม่มีใครมองเป็นพื้นที่ด้านใน,ทว่าสุดยอดฝีมือทั้งสองย่อมเห็นอย่างแน่นอน,ทันทีที่กงเชวียนมาถึง,ทำให้สนามรบกลายเป็นสมดุล,แม้แต่ต้าเจิ้งกลายเป็นทรงพลังมากกว่าเดิมอีก.

 

ปราณทมิฬที่ปกคลุมสนามรบทางตะวันตกเฉียงใต้ของสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ส่วนทางใต้นั้นสนามรบที่เป็นหมอกสีขาว.

 

สนามรบที่ปกคลุมด้วยหมอกสีขาวเพราะว่าเป็นพลังฮวงจุ้ยที่แตกต่างกันปะทะกันนั่นเอง.

 

หนี่ปู่ซาที่อัญเชิญตำหนักสังสารวัฏคฤหาสน์อเวจี,และเหรินชุนที่ใช้เพลิงจินอู๋ซาน.

 

ด้านนอกที่ขาวโพลน,ส่วนด้านในก็เกิดการปะทะที่รุนแรงเช่นกัน.

 

กลุ่มคนที่สนับสนุนตำหนักสังสารวัฏเพื่อใช้แดนห้ามลทิน,ส่วนอีกฝั่งเป็นดวงตะวันขนาดใหญ่,เพลิงของจินอู๋ซานที่มีดวงตะวันขนาดเล็กถึงห้าสิบสามดวง.

 

ดวงตะวันห้าสิบสามดวงที่,หมุนวนโคจรไปเรื่อย,เข้าปะทะตำหนักสังสารวัฏ,ล้อมรอบตำหนัก,ขณะที่ผลักดันให้มันเล็กลงเรื่อยๆ.

"ปัง!” "ปัง!” "ปัง!”..............................

 

กลุ่มของจินอู๋วานที่โจมตีตำหนักสังสารวัฏกระหน่ำไม่หยุด.

 

ภายในโลกเขตแดนตำหนักสังสารวัฏ,ที่ใจกลางของตำหนักหลัก.

 

หนี่ปู่ซาที่สวมชุดสีดำ,ขณะกำลังกระตุ้นเคลื่อนย้ายตราผนึกขนาดใหญ่,ควบคุมตราขนาดใหญ่ในสระขนาดเล็กใจกลางห้องโถงใหญ่.

 

สระขนาดเล็กที่กำลังส่ายไปมา,ตราผนึกขนาดใหญ่ที่เวลานี้เริ่มไม่มั่นคง.

 

ในเวลาเดียวกัน,เงาๆหนึ่งที่ก้าวเดินเข้ามา.

 

"อาจารย์ไม่ได้การแล้ว,พวกเราจะขวางไม่ไหวแล้ว!"ร่างดังกล่าวที่เอ่ยออกมาด้วยความกระวนกระวายใจ.

 

"ไม่สามารถขวางได้,ก็ไม่มีใครช่วยพวกเรา,ให้พวกเขาใช้เทียนเต๋าต่อไป,ข้าก็จะกระตุ้นน้ำพุเหลืองเต็มกำลัง!"หนี่ปู่ซาที่เอ่ยออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว.

 

"รับทราบ!"ร่างในชุดดำที่รับคำ,ก่อนที่จะถอยกลับไป.

 

ร่างเงาดังกล่าวที่ถอนกลับไปแล้ว,ใบหน้าของหนี่ปู่ซาที่เผยท่าทางกระวนกระวายใจเช่นกัน.

 

ตำหนักสังสารวัฏคฤหาสน์อเวจีนั้น,ในภพหยาง,ทำให้เขาอ่อนด้อยกว่าเหรินชุด,และเซียนบรรพชนเองก็น้อยกว่า,พวกเขามีเพียง 35 ทั้งที่ฝั่งตรงข้ามีถึงห้าสิบห้า,ต่างกันถึง 20 คน.

 

ความแตกต่างนี้,มากเกินไป,เกินกว่าจะใช้อำนาจวิชาของฮวงจุ้ยทดแทนกันได้.

 

หนี่ปู่ซาที่เผยท่าทางร้อนใจ.

 

ห้าสิบห้าดวงตะวันขนาดเล็กนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก.

 

และที่ใจกลางพวกเขานั้น,มีแท่นบูชาขนาดมหึมา.

 

"ตูมมมมม!"เสียงที่ดังกระหึ่มก้องกังวานไปทั่ว.

 

บนแท่นบูชาที่ใหญ่ยักษ์นั้น,มีร่างสองร่างยืนอยู่.

 

เหรินชุดและกุยเช่อ,ที่ด้านหน้าพวกเขานั้นมีระฆังฮุ่นตุ้นที่ปล่อยเปลวเพลิงพุ่งออกไปทั่วทุกสารทิศ.

 

"ฮ่าฮ่าฮ่า,หนี่ปู่ซา,เจ้าอย่าได้ขัดขืน,ไม่มีทางขัดขืนได้,ยอมแพ้ซะ,ศาลสวรรค์เหยาจูไร้เทียมทาน!"เหรินชุนที่ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น.

 

เสียงของระฆังที่ยังคงดังก้องออกไปรอบๆ.

 

"ไร้ประโยชน์,จงซานจะต้องตายวันนี้,ยอมแพ้ซะ."กุยเซ่อที่กล่าวเพิ่มอีกคน.

 

ทั้งคู่ที่เวลานี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นกับชัยชนะที่ได้รับ,พวกเขาที่ยังคงกระตุ้นระฆังฮุ่นตุ้นอยู่ตลอดเวลา.

 

หนี่ปู่ซาที่ได้ยินเสียงของคนทั้งสองที่เผยใบหน้าอับลักษณ์,กัดฟันแน่นทว่ายังคงอดทนอยู่.

 

ทว่าในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหมอกขาวนั่น.

 

"ปัง!"เสียงที่ดังก้องกังวาน.

 

"ร้อนๆ!"เสียงๆหนึ่งที่ดังขึ้นในทันที.

 

"วูซซซซ!"ลูกบอลสีน้ำเงินที่ปิดกั้นเสียงเอาไว้.

 

ภายในบอลน้ำเงินนั้น,มีร่างสองร่างยืนอยู่,ทั้งสองที่กุมหยกอันหนึ่งเอาไว้,หนึ่งอ้วนหนึ่งผอม,เป็นเฟยเกอและจูกานที่หนีมาจากเมืองอู๋ซวังนั่นเอง.

 

"ไป๋จื่อหลอกพวกเรา,อะไร,หยกชี้นำ,สัมผัสได้ถึงลิขิตของเทียนชู,และจะนำพวกเราไปพบกับคนที่คุ้นเคยอย่างงั้นรึ? นี่เต็มไปด้วยทะเลเพลิง,มีแต่ทำให้เราต้องตาย!"เฟยเกอที่กล่าวออกมาด้วยความร้อนใจ.

 

"โชคดีที่พวกเรามีพลั่วยักษ์,ไม่เช่นนั้นได้ตายไปแล้ว! เฟยเกอ,ไป๋จื่อต้องเป็นไม่ดีแน่เลย!"จูกานเอ่ย.

 

"ใช่,เป็นคนไม่ดี!"

 

"ให้พวกเรามาฆ่าตัวตาชัดๆ! เจ้าเฒ่าเจ้าเล่,ฝากไว้......"จูกานที่กำลังกล่าวสาปแช่ง.

 

"ไม่ใช่!"เฟยเกอที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

 

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"

 

"หยกชี้นำนี้เขาไม่ได้มอบให้พวกเรา,เขาไม่ได้บอกว่าให้พวกเรา,พวกเราชิงมาเอง!"เฟยเกอที่ขมวดคิ้วไปมา.

จูกาน"..................!”

 

"ไม่ว่าเขาจะให้หรือชิงมา,เขาก็เป็นคนหลอมขึ้นมา,เขาไม่ควรทำของไร้ประโยชน์ออกมา!"เฟยเกอที่กล่าวเว้นความผิดตัวเองไป.

 

"ใช่! มันเป็นของเจ้าแก่นั่น!"จูกานเอ่ย.

 

"อืม!"เฟยเกอที่แค่นเสียงออกมาเช่นกัน.

 

"เฟยเกอ,พวกเราจะทำอย่างไรดี?"จูกานที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.

 

"พวกเรามีพลั่วยักษ์ปกป้อง,พวกเราก็คงต้องก้าวต่อไป!"เฟยเกอกล่าว.

 

"ดี!"

 

คนทั้งสองที่กุมพลั่วยักษ์,ขณะบินต่อไปอีก.

 

"สารเลว!"จูกานที่คำรามออกมาเสียงดัง.

 

"เจ้าด่าข้าทำไมกัน!"เฟยเกอที่คำรามเสียงดัง.

 

"ข้าไม่ได้ว่าท่าน,ท่านดูนั่น,เจ้าสารเลวทั้งสองนั่น,เห็นใหม? พวกมัน,คือคนที่ขโมยครอบครัวของพวกเรา,ขโมยน้องสาวของท่านและพี่สาวของข้า!"จูกานที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงคลั่งแค้น.

 

"เป็นพวกมันจริงๆ? สารเลว,ไป,ต้องสั่งสอนพวกมัน!"เฟยเกอแค่นเสียง.

 

"อืม!"จูกานที่บินออกไปด้วยความชั่วร้าย.

 

ทั้งสองที่บินไปหยุดที่ด้านบนแท่นบูชา.

 

"หนี่ปู่ซา,อย่าได้ขัดขืน!"เหรินชุนที่กระตุ้นระฆังฮุ่นตุ้น,พร้อมกับร้องออกไป.

 

"การต่อสู้ครั้งนี้พวกเจ้าแพ้แล้ว,สิบลมหายใจ,ต่อให้ปราชญ์เทพก็ช่วยเจ้าไม่ได้!"กุยเช่อที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

 

"ปราชญ์เทพ? ฮ่าฮ่าฮ่า!"เหรินชุนที่หัวเราะเสียงดัง.

 

ในเวลาเดียวกัน,เหรินชุนที่รู้สึกขนทั่วร่างที่ลุกตั้งชัน,สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายทำให้หยุดหัวเราะทันที.

 

อะไร?

 

"ปัง!"

 

พลั่วยักษ์สองพี่น้องที่ฟาดมายังกบาลด้านหลังเหรินชุนทันที.

 

"เคร้ง!"

 

ระฆังฮุ่นตุ้นที่สั่นไปมาเล็กน้อย,ก่อนที่เหรินชุดจะหมดสติไป,"เพลิงจินอู๋ซานรอบๆนี้,ไม่มีทางที่จะตรวจจับข้าได้? เป็นไปไม่ได้,แม้แต่ปราชญ์เทพก็ไม่สามารถเข้ามาได้!"

 

เพราะเหรินชุดหมดสติ,ทันใดนั้นเพลิงจินอู๋ซานที่พุ่งมารายล้อมกุยเช่อ.

 

กุยเช่อที่เคลื่อนพลังป้องกัน.อย่างรวดเร็ว.

 

"เหรินชุน,เจ้าทำอะไร?"กุยเช่อที่หันหน้ากลับไป.

 

พริบตาที่กุยเช่อหันหลังกลับ,ก็ปรากฏพลั่วยักษ์ที่พุ่งมา.

"ปัง ~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

ใบหน้าของกุยเช่อที่ถูกฟาดด้วยพลั่วยักษ์,กระแทกไปยังใบหน้าจมูกหักปากเบี้ยว,หมดสติทันที.

"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

ดวงตะวันที่ใหญ่ยักษ์,ทันใดนั้นก็ระเบิดสลายหายไปในทันที.

 

หนี่ปู่ซาที่อยู่ตรงข้ามที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่หนักหน่วงหายไป.

 

"อาจารย์,เพลิงของเหรินชุดสลายหายไปแล้วอย่างงั้นรึ? หมายความว่าอย่างไร? เป็นแผนการอย่างงั้นรึ?"ศิษย์ของหนี่ปู่ซาที่เอ่ยออกมาในทันที.

 

"แผนการอย่างงั้นรึ? อย่าได้สนใจ,กระตุ้นพลังตอบโต้ต่อไป!"หนี่ปู่ซาที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.

 

"รับทราบ!"

 

บนอวกาศ.

 

หยิงและเทียนเต๋าจื่อจ้องมองสนามรบ,พวกเขาที่จดจ้องมองไปยังค่ายกลปราณศพ,และจ้องมองการต่อสู้ในค่ายกลฮวงุจ้น.

 

ขณะที่พวกเขากำลังจดจ้องมองอยู่นั้น,หยิง,เทียนเจื่อ,กุยกู่ซือ,เทียนโจวจื่อ,ทั้งสี่คนที่ใบหน้ากระตุก.

 

"เหรินชุน,ถูกมดปลวกสองคน,ทำให้สลบเลยรึ?"เทียนโจวจื่อที่เผยท่าทางประหลาดใจแทบไม่อยากเชื่อ.

 

"สิ่งนี้ในโลกปุถุชน,เรียกว่า,พลั่ว!"กุยกู่ซือที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจเช่นกัน.







ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


อ่านต่อที่  MyNovel | ชุมชนสำหรับนักอ่าน นักเขียน นิยายออนไลน์ บนโลกแห่งจินตนากา



***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น