Chapter 1375 Astute Jun Tianxia
Chapter 1375 Astute Jun Tianxia
精明至极的君天下
ความฉลาดล้ำของจุนเทียนเซี่ย.
ภพหยิน,เมืองซ่าง!
ภายในห้องฝึกฝนวิชาของจงซาน,ด้วยการที่ร่างหลักทะลวงไปยังขั้นที่เจ็ดเซียนบรรพชน,ร่างแยกเงาก็ยกระดับไปยังขั้นที่เจ็ดได้ในทันที,ดวงตาของจงซานที่ลืมขึ้น,ปรากฏวงแหวนสองวงขึ้นที่ด้านหน้า.
หนึ่งวงมีขนาดความสูงหนึ่งฟุต,และมีรัศมีครึ่งฟุต,หนึ่งวงสีดำหนึ่งวงสีน้ำเงิน,ขณะกำลังหมุนวนตามเข็มนาฬิกา,ส่วนอีกวงกำลังหมุนทวนเข็มนาฬิกาเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน.
จงซานจ้องมองวงแหวนทั้งสอง,ขณะกำลังเคลื่อนที่เข้าหากันช้าๆ.
"วูซซซซซ!"วงแหวนทั้งสองที่ผสานกันเป็นหนึ่ง.
หากจะจ้องมองให้ดีทั้งสองที่หมุนวนอยู่บนล่างแยกชั้น,กันเป็นหลุมน้ำวนที่คลุมหลุมอีกอัน,และทั้งสองหลุมก็หมุนวนไปคนละทิศ.
"สังสารวัฏวิถีสวรรค์,สังสารวัฏวิถีอสูร?
ยังขาดอีกสี่!"จงซานที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"ฟิ้ว!"
วงแหวนทั้งสองที่สลายหายไป.
จงซานที่ลุกขึ้นยืนช้าๆ.
ก่อนที่จะออกจากห้องฝึกฝน,เขาที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า.
ข้ามผ่านวาสนาบนท้องฟ้า,จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"มาแล้ว?"
จงซานที่ก้าวออกไป,ก่อนที่จะไปปรากฏที่ห้องอักษร!
ภายในห้องอักษร,หวังจิงเหวิน,จงเสวียนที่รออยู่.
"ยินดีกับเซิ่งหวังด้วย,หวังคู,เหยี่ยนฉงจื่อได้รับชัยทั้งทางเหนือและใต้,กำราบอีกสี่ดินแดน!"หวังจิงเหวินกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"สี่ดินแดน,อีกสองดินแดนที่เหลือ,ส่วนมากเป็นเพียงราชวงศ์สวรรค์,การจะกำราบไม่ใช่เรื่องยาก,อีกสองแห่งเป็นนิกายและศาลเทวะ,หวังคูที่นำเผ่าโครงกระดูกและทัพของเหยี่ยนเฉิงจื่อจากต้าเจิ้ง,ทำให้การกำราบภพหยินเป็นไปอย่างง่ายดาย,ประมาณการณ์แล้วน่าจะต่ำกว่า
20 ปี!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"เซิ่งหวัง,ที่ค่อนยากคงจะเป็นศาลเทวะหลุนฮุย,ดังนั้นพวกเราจะล่าช้าไม่ได้,แม้นว่าจะเหลือเวลายี่สิบปี,ทว่าก็ยังจำเป็นต้องทำให้แผ่นดินสงบเป็นปึกแผ่นด้วย!"หวังจิงเหวินที่กล่าวตอบ.
"อืม,หลังจากอีกสองดินแดนทางใต้,ตอนนี้ต้าเจิ้งภพหยินก็มี
14 ดินแดนแล้ว?"จงซานที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"ครับ,ทวีปเหนือ 36
ดินแดน,เป็นของต้าเจิ้งแล้ว 14 ดินแดน!"หวังจิงเหวินที่พยักหน้ารับ.
"ศาลเทวะหลุนฮุยล่ะ?"จงซานที่กล่าวสอบถามอย่างเคร่งขรึม.
"ศาลเทวะหลุนฮุย? ขณะนี้ครอบครอง 17
ดินแดน,ตอนนี้เหลือ 5 ดินแดนของทวีปเหนือที่กำลังต้านทานอย่างแข็งขัน! อย่างไรก็ตาม,ไม่ช้าก็เร็วสองดินแดนจะเป็นของเราเร็วๆนี้!"หวังจิงเหวินเอ่ย.
"ให้หวังคูและเหยี่ยนฉงจื่อรักษากองทัพให้มั่นคงก่อน,จากนี้เตรียมการต่อสู้กับศาลเทวะหลุนฮุย!"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"หวังจิงเหวินพยักหน้ารับ.
"ภพหยาง,จากนี้ต้องเตรียมการงานวันเกิดข้า,ไม่สามารถส่งมายังภพหยินได้,ที่นี่เจ้าคงต้องทำงานหนัก!"จงซานที่จ้องมองไปยังหวังจิงเหวิน.
"ครับ,ภพหยางเวลานี้กำลังรวมเหล่ายอดฝีมือทั่วหล้ามารวมกัน,ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย,เฉินรับรู้ความหนักหนาเรื่องนี้ดี!"หวังจิงเหวินพยักหน้ารับ.
"เสวียนเอ๋อ,ฝั่งเจิ้งเอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานที่จ้องมองไปยังจงเสวียน.
จงเสวียนที่ส่ายหน้าไปมา,"ไม่ราบรื่นนัก!"
"หืม?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เซียนเซิงกู่นั้น,ยากจะจัดการ,จุนหมอจื่อนั้นไม่เชื่อเซียนเซิงกู่,ทว่าจุนเทียนเซี่ยนั้นเชื่อใจเขาเป็นอย่างมาก!"จงเสวียนที่ส่ายหน้าไปมา.
"จุนเทียนเซี่ย?
เขาไม่เชื่อใจเซียนเซิงกู่,คงไม่ใช่เซียนเซิงกู่,ตราบเท่าที่ไม่มีพายุใหญ่คงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง,นอกจากนี้เซียนเซิงกู่ยังจำเป็นอีกด้วย!"หวังจิงเหวินกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เช่นนั้น,ไม่ใช่ว่าสิ่งที่จงเจิ้งทำไปเสียเปล่าหรอกรึ?"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ไมได้การ,ไม่ถูกต้อง!"จงซานที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงเสวียนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"เซิ่งหวัง,มีอะไรไม่ถูกต้องอย่างงั้นรึ?"หวังจิงเหวินที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"จุนเทียนเซี่ย,จุนหมื่อจื่อ,ต่างก็มีข้อมูลเกี่ยวกับปราชญ์เทพสังสารวัฏ,และยังมีการบันทึกทุกอย่างเอาไว้,นำมันมาให้ข้า!"ใบหน้าของจงซานที่เปลี่ยนเป็นดำมืด.
"รับทราบ!"หวังจิงเหวินที่กล่าวออกมาในทันที.
"ฟู่หวง!"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
จงซานที่ยกมือขึ้นห้าม,ไม่ให้จงเสวียนรบกวน,จงเสวียนที่เงียบไปในทันที.
ทว่าหวังจิงเหวินที่เริ่งรีบถอยออกไป,ก่อนที่จะนำแผ่นริ้วหยกสามแผ่นกลับมา.
"เซิ่งหวัง!"หวังจิงเหวินที่ส่งมอบแผ่นริ้วหยกออกไป.
"อืม!"จงซานที่รับแผ่นริ้วหยก,ก่อนที่จะกวาดสัมผัสเทวะออกไป.
"ตำหนักไท่จื่อด้านล่าง,มีข้อมูลบางอย่าง,ที่ต้องการหรือไม่?"หวังจิงเหวินที่กล่าวสอบถาม.
"อืม!"จงเสวียนพยักหน้ารับ.
ทั้งสามที่เริ่มตรวจสอบข้อมูลอย่างระมัดระวัง.
จงซานที่ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด,ก่อนที่จะวางแผ่นริ้วหยกลง,ก่อนที่จะหลับตาครุ่นคิดอย่างระมัดระวัง.
จงเสวียนที่กวาดตามอง,แต่ไม่กล้ารบกวนจงซาน,เวลาผ่านไปถึงสองชั่วยาม,จงซานที่ลืมตา,ก่อนที่จะสูดหายใจลึก.
"ฟู่หวง? ข้อมูลเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง?"จงเสวียนที่กล่าวออกไป.
"สถานะของเจิ้งเอ๋อ,บางทีคงถูกเปิดเผยแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
"เป็นไปได้อย่างไร?
ฟู่หวงไม่ใช่ว่าได้ใช้สังสารวัฏวิถีสวรรค์เปลี่ยนข้อมูลของจงเจิ้งหรอกรึ?
ถึงแม้นว่าจะเป็นปราชญ์เทพสังสารวัฏไม่ได้จะตรวจสอบพบง่ายๆ."จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ข้าได้เปลี่ยนบันทึกการจุติของเจิ้งเอ๋อไปด้วยสังหารวัฏวิถีสวรรค์,ก่อนส่งเข้าไปอยู่ที่วิหารสังสารวัฏ,ดูเหมือนว่าจะยังไม่พอ,ปราชญ์เทพสังหารวัฏนั้นฉลาดมาก,แม้แต่ไม่ได้ด้อยกว่าปราชญ์เทพภพหยางเลย!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
”?”
"ปราชญ์เทพสังสารวัฏนั้นมีศิษย์ห้าคน,ศิษย์คนแรก,จุนเทียนเซี่ย,เป็นบุตรของเขา,และเขายังให้ความสำคัญเพียงแค่สองคน,คือจุนเทียนเซี่ยและศิษย์คนที่สองจุนหมอจื่อ,จุนหมอจื่อ?
ปัญหาคงจะอยู่ที่เขา!"
"ปัญหา?"
"ก่อนอื่นแจ้งไปยังเจิ้งเอ๋อให้ระวังความปลอดภัย,พวกเราจะทำสอบครั้งสุดท้าย,ก่อนที่จะตัดสินใจอีกครั้ง!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"อืม!"จงเสวียนที่พยักหน้ารับในทันที.
---------------------------
ภพหยิน,ศาลเทวะหลุนฮุย,ห้องอักษรจุนเทียนเซี่ย,จุนเทียนเซี่ยที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะอักษร,เฝ้ามองการโต้เถียงของข้าราชบริพาร.
"เซียนเซิงกุ่?
ไม่ใช่ว่าดินแดทางอวิ๋นทางเหนือ,ทำไมท่านไม่โจมตี?"จุนหมอจื่อที่กล่าวด้วยเสียงเย็นชา.
"ยังไม่ใช่เวลา!"เซียนเซิงกู่ที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
จินเหวินด้านข้างที่เอ่ยออกมาอีกคน,"ถงเวลาแล้ว,เขตแดนอวิ๋นเหนือนั้น,เวลานี้อยู่ในสภาวะวุ่นวาย,แม้นว่าจะยังแข็งแกร่ง,แต่ศิลาวิญญาณหดหาย,เศรษฐกิจล่ม,ผู้คนไร้ซึ่งกำลังใจ,จิตใจของประชาชนไม่เป็นหนึ่ง,นี่คือโอกาสที่ดีแล้ว!"
"ใช่เรื่องเศรษฐกิจนั้นข้ารู้ดี,ข้าคิดว่า,เจ้าคงจะไม่รู้?"จุนหมอจือที่กล่าวขึ้นอีกครั้ง.
เซียนเซิงกู่ที่ดวงตาหรี่เล็กจ้องมองจินเหวินและกล่าวออกมาว่า,"มีบางคนที่จงใจทำเช่นนั้น,หลังจากที่ราคาสินค้าเปลี่ยนแปลง,ก็มีบางคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องกลัง,กำลังรวบรวมทรัพยากร,บางที่อาจจะมีกองทัพอวิ๋นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย,ทำให้สถานการณ์มั่นคง,ทัพของพวกเราโจมตีไปก็จะตกอยู่ในกับดัก!"
"จะเป็นไปได้อย่างไร?"จุนหมอจื่อกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"เป็นเรื่องทั่วไปที่ทุกคนรู้!"เซียนเซิงกู่เอ่ย.
"หืม?"ใบหน้าของจุนหมอจือเปลี่ยนสี.
"เฮ้เฮ้,เรื่องทั่วไปที่ทุกคนรู้อย่างงั้นรึ?
เซียนเซิงกู่ไม่ใช่ว่าสงครามเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ไม่มีความรู้หรอกรึ?"จินเหวินที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ใช่,ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็รู้เรื่องสงครามเศรษฐกิจมากไปหรอกรึ?"จินหมอจื่อที่ได้ที่กล่าวสวนทันที.
เซียนเซิงกู่ส่ายหน้าไม่เอ่ยอะไรมาก,จ้องมองไปยังจุนเทียนเซี่ย,ทว่าจุนเทียนเซี่ยที่ไม่แยแส,ไม่ตำหนิเซียนเซิงกู่แม้แต่น้อย.
เห็นท่าทางของจุนเทียนเซี่ยแล้ว,จินเหวินที่ใบหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย,ก่อนที่จะไม่กล่าวสิ่งใดอีก.
จินเหวินที่ไม่เอ่ยอะไรต่อไป,ทว่าจินหมอจื่อที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ยอม.
"ศิษย์พี่ใหญ่,ท่านเชื่อเซียนเซิงกู่อย่างงั้นรึ?เขาเป็น............!”จุนหมอจื่อที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
"หุบปาก!"จุนเทียนเซี่ยที่ตะโกนออกไปเสียงดัง,ไม่ให้จุนหมอจื่อเอ่ยอะไรอีก.
"ท่านอ๋อง!"จินเหวินที่เอ่ยออกมา.
จินเหวินที่ส่ายหน้าไปมาเบาๆ,แสดงสัญญาณเห็นชัดเจนว่าหลักฐานไม่เพียงพอ,ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้.
"จินเหวิน,เจ้าถอยไปก่อน,วันนี้ข้าต้องการพูดกับศิษย์พี่ใหญ่เกี่ยวกับการหลอกลวงครั้งนี้,เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไร,ข้าจะเป็นคนเผยสายลับออกมาเอง!"จุนหมอจือเอ่ย.
"ฮือฮา!"
ทันทีที่จุนหมอจือเอ่ยออกมา,เหล่ากลุ่มกุยซือที่ส่งเสียงดังอื้ออึ้ง,สายลับ?
เซียนเซิงกู่เป็นสายลับอย่างงั้นรึ?
ทว่าจินเหวินที่อยู่ข้างๆไม่เอ่ยอะไรออกมาใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด.
เซียนเซิงกู่ที่ส่ายหน้าไปมาเผยยิ้มพลางมองไปยังจุนเทียนเซี่ย.
จุนเทียนเซี่ยที่สูดหายใจลึก,ถอนหายใจเบาๆ,"ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถเล่นต่อไปได้อีกแล้ว.
"หืม?"จุนหมอจือที่ตกใจเล็กน้อย.
"ความจริงสายลับนั้น,ไม่ใช่ผู้น้อย,แต่เป็นจินเหวินที่อยู่ด้านหลังต่างหาง,ไท่จื่อต้าเจิ้ง,จงเจิ้ง!"เซียนเซิงกู่ที่หรี่ตาจ้องมอง.
เหล่าเสนาธิการทุกคนที่ตะลึงงัน,สถานการณ์เช่นนี้คืออะไร?
"เป็นไปไม่ได้? จินเหวินจะเป็นสายลับได้อย่างไร?
อาจารย์ได้ตรวจสอบอดีตชาติเขาแล้ว,เจ้านะเป็นสายลับ,ต้องการสร้างความสับสน,เจ้าคือจงเจิ้งใช่หรือไม่?"จุนหมอจื่อที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
เซียนเซิงกู่ไม่ได้เอ่ยอะไร,ทว่าจ้องมองไปยังจุนเทียนเซี่ย.
"จงเจิ้ง,มีอะไรจะพูด?"จุนเทียนเซี่ยจ้องมองไปยังจินเหวินด้านหลัง.
"ศิษย์พี่ใหญ่,ท่าน,ท่านว่าอย่างไร............!”จุนหมอจือที่กล่าวด้วยความกระวนกระวายใจ.
จินเหวนที่อยู่ด้านหลังใบหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมนก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า,"จุนเทียนเซี่ย?
ร้ายกาจจริงๆ,ไม่รู้ว่าเจ้าพบได้อย่างไร?"
จินเหวินไม่คิดที่จะปกปิดอีกต่อไป,จงซานเองก็เหมือนจะคาดเดาผลได้ก่อนหน้านี้แล้ว.
"อะไร,อะไรนะ?
จินเหวิน,เจ้ากล่าวอะไร?"จุนหมอจือที่หันหน้ากลับ,เผยใบหน้าที่หวาดผวาออกมา.
"นับจากเรื่องดินแดนโครงกระดูก,ไม่ใช่ว่าจงซานสามารถใช้แผ่นวงแหวนสังสารวัฏได้หรอกรึ?
นับจากวันนั้นข้าก็ไม่เชื่อใจในสังสารวัฏวิถีสวรรค์อีก!"จุนเทียนเซี่ยกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จุนหมอจือที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน,ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นทั้งโกรธทั้งอายออกมา.
"จินเหวิน,เจ้าคือจงเจิ้งอย่างงั้นรึ?"จุนหมอจือที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
"จงซานเป็นคนที่ร้ายกาจจริงๆ,ช่างน่าเสียดายที่มาพบข้า,ต้องการจะหลอกข้า,ช่างน่าเสียดาย,จงซานเองก็คงไม่ต้องการเล่นอีกแล้ว!"จุนเทียนเซี่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"เพียงแค่แผ่นจานสังสารวัฏ,เจ้าก็สามารถสรุปได้ว่าบิดาข้าครอบครองสังหารวัฏวิถีสวรรค์อย่างงั้นรึ?"จงเจิ้งที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เปลี่ยนเป็นคนอื่น,แน่นอนว่าข้าย่อมไม่เชื่อ,ทว่าเขาคือจงซาน,ข้าไม่เคยประเมินจงซานต่ำ,ทว่าข้าก็เชื่อว่าเขาทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้!"จุนเทียนเซี่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ฮ่าฮ่าฮ่า,ดูเหมือนว่าท่านพ่อเองก็ต้องการขอบคุณที่เจ้ากล่าวชื่นชุมเขา?"จงเจิ้งกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม.
"เจ้าเป็นจงเจิ้งจริงๆรึ? สารเลว,ข้าอุตส่าเชื่อใจเจ้า!"จุนหมอจื่อที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
จุนหมอจื่อที่ยื่นมือออกไปเตรียมที่จะโจมตีจงเจิ้ง!
วูซซซซ!
ขณะที่จงเจิ้งจะนำของวิเศษออกมา,ร่างกายของเขาที่หยุดนิ่งไม่สามารถขยับได้.
"หยุด,เขายังมีประโยชน์!"จุนเทียนเซี่ยนห้ามจุนหมอจือเอาไว้.
"แต่ว่า,เรื่องนี้,เรื่องนี้............!”จุนหมอจื่อที่ไม่อยากยินยอม.
"ท่านพ่อให้ข้าส่งข้อความให้กับเจ้า!"จงเจิ้งที่เอ่ยขณะที่ร่างกายขยับไม่ได้.
"หืม?"จุนเทียนเซี่ยที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"สิ่งนี้,อยู่ในอกเสื้อข้า,เจ้าดูเอง!"จงเจิ้งที่กล่าวยืนยัน.
จุนหมอจื่อที่โกรธเกรี้ยวฉีกเสื้อผ้าของจงเจิ้ง,ก่อนที่จะนำจดหมายออกมามอบให้กับจุนเทียนเซี่ย.
จุนเทียนเซี่ยที่เปิดออกด้วยความอยากรู้,แววตาของจุนหมอจื่อที่ลอบมองออกไปด้วย.
บนสารนั้นมีรายมือของจงซานจริงๆ.
-----------
จุนเทียนเซี่ย,เจ้ากล้าแตะบุตรของข้า,ข้าจะเอาชีวิตบุตรชายของเจ้า!
-----------
จุนเทียนเซี่ยที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
"ฮ่าฮ่าฮ่า,จงซานกล้าข่มขู่ศิษย์พี่ใหญ่อย่างคาดไม่ถึง?
ศาลเทวะหลุนฮุยไม่ได้มีไท่จื่อ,เขาเสียสติไปแล้ว?"จุนหมอจื่อที่เผยยิ้มหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง.
จงเจิ้งที่เผยท่าทางเหยียดหยันกล่าวออกมาว่า,"ไอ้โง่,ไม่ใช่ว่าเจ้าคือบุตรของจุนเทียนเซี่ยรึอย่างไร?"
Chapter 1375 Astute Jun Tianxia
精明至极的君天下
ความฉลาดล้ำของจุนเทียนเซี่ย.
ภพหยิน,เมืองซ่าง!
ภายในห้องฝึกฝนวิชาของจงซาน,ด้วยการที่ร่างหลักทะลวงไปยังขั้นที่เจ็ดเซียนบรรพชน,ร่างแยกเงาก็ยกระดับไปยังขั้นที่เจ็ดได้ในทันที,ดวงตาของจงซานที่ลืมขึ้น,ปรากฏวงแหวนสองวงขึ้นที่ด้านหน้า.
หนึ่งวงมีขนาดความสูงหนึ่งฟุต,และมีรัศมีครึ่งฟุต,หนึ่งวงสีดำหนึ่งวงสีน้ำเงิน,ขณะกำลังหมุนวนตามเข็มนาฬิกา,ส่วนอีกวงกำลังหมุนทวนเข็มนาฬิกาเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน.
จงซานจ้องมองวงแหวนทั้งสอง,ขณะกำลังเคลื่อนที่เข้าหากันช้าๆ.
"วูซซซซซ!"วงแหวนทั้งสองที่ผสานกันเป็นหนึ่ง.
หากจะจ้องมองให้ดีทั้งสองที่หมุนวนอยู่บนล่างแยกชั้น,กันเป็นหลุมน้ำวนที่คลุมหลุมอีกอัน,และทั้งสองหลุมก็หมุนวนไปคนละทิศ.
"สังสารวัฏวิถีสวรรค์,สังสารวัฏวิถีอสูร?
ยังขาดอีกสี่!"จงซานที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"ฟิ้ว!"
วงแหวนทั้งสองที่สลายหายไป.
จงซานที่ลุกขึ้นยืนช้าๆ.
ก่อนที่จะออกจากห้องฝึกฝน,เขาที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า.
ข้ามผ่านวาสนาบนท้องฟ้า,จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,"มาแล้ว?"
จงซานที่ก้าวออกไป,ก่อนที่จะไปปรากฏที่ห้องอักษร!
ภายในห้องอักษร,หวังจิงเหวิน,จงเสวียนที่รออยู่.
"ยินดีกับเซิ่งหวังด้วย,หวังคู,เหยี่ยนฉงจื่อได้รับชัยทั้งทางเหนือและใต้,กำราบอีกสี่ดินแดน!"หวังจิงเหวินกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"สี่ดินแดน,อีกสองดินแดนที่เหลือ,ส่วนมากเป็นเพียงราชวงศ์สวรรค์,การจะกำราบไม่ใช่เรื่องยาก,อีกสองแห่งเป็นนิกายและศาลเทวะ,หวังคูที่นำเผ่าโครงกระดูกและทัพของเหยี่ยนเฉิงจื่อจากต้าเจิ้ง,ทำให้การกำราบภพหยินเป็นไปอย่างง่ายดาย,ประมาณการณ์แล้วน่าจะต่ำกว่า
20 ปี!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"เซิ่งหวัง,ที่ค่อนยากคงจะเป็นศาลเทวะหลุนฮุย,ดังนั้นพวกเราจะล่าช้าไม่ได้,แม้นว่าจะเหลือเวลายี่สิบปี,ทว่าก็ยังจำเป็นต้องทำให้แผ่นดินสงบเป็นปึกแผ่นด้วย!"หวังจิงเหวินที่กล่าวตอบ.
"อืม,หลังจากอีกสองดินแดนทางใต้,ตอนนี้ต้าเจิ้งภพหยินก็มี
14 ดินแดนแล้ว?"จงซานที่กล่าวออกมาเบาๆ.
"ครับ,ทวีปเหนือ 36
ดินแดน,เป็นของต้าเจิ้งแล้ว 14 ดินแดน!"หวังจิงเหวินที่พยักหน้ารับ.
"ศาลเทวะหลุนฮุยล่ะ?"จงซานที่กล่าวสอบถามอย่างเคร่งขรึม.
"ศาลเทวะหลุนฮุย? ขณะนี้ครอบครอง 17
ดินแดน,ตอนนี้เหลือ 5 ดินแดนของทวีปเหนือที่กำลังต้านทานอย่างแข็งขัน! อย่างไรก็ตาม,ไม่ช้าก็เร็วสองดินแดนจะเป็นของเราเร็วๆนี้!"หวังจิงเหวินเอ่ย.
"ให้หวังคูและเหยี่ยนฉงจื่อรักษากองทัพให้มั่นคงก่อน,จากนี้เตรียมการต่อสู้กับศาลเทวะหลุนฮุย!"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"หวังจิงเหวินพยักหน้ารับ.
"ภพหยาง,จากนี้ต้องเตรียมการงานวันเกิดข้า,ไม่สามารถส่งมายังภพหยินได้,ที่นี่เจ้าคงต้องทำงานหนัก!"จงซานที่จ้องมองไปยังหวังจิงเหวิน.
"ครับ,ภพหยางเวลานี้กำลังรวมเหล่ายอดฝีมือทั่วหล้ามารวมกัน,ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย,เฉินรับรู้ความหนักหนาเรื่องนี้ดี!"หวังจิงเหวินพยักหน้ารับ.
"เสวียนเอ๋อ,ฝั่งเจิ้งเอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานที่จ้องมองไปยังจงเสวียน.
จงเสวียนที่ส่ายหน้าไปมา,"ไม่ราบรื่นนัก!"
"หืม?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เซียนเซิงกู่นั้น,ยากจะจัดการ,จุนหมอจื่อนั้นไม่เชื่อเซียนเซิงกู่,ทว่าจุนเทียนเซี่ยนั้นเชื่อใจเขาเป็นอย่างมาก!"จงเสวียนที่ส่ายหน้าไปมา.
"จุนเทียนเซี่ย?
เขาไม่เชื่อใจเซียนเซิงกู่,คงไม่ใช่เซียนเซิงกู่,ตราบเท่าที่ไม่มีพายุใหญ่คงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง,นอกจากนี้เซียนเซิงกู่ยังจำเป็นอีกด้วย!"หวังจิงเหวินกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เช่นนั้น,ไม่ใช่ว่าสิ่งที่จงเจิ้งทำไปเสียเปล่าหรอกรึ?"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ไมได้การ,ไม่ถูกต้อง!"จงซานที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงเสวียนที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"เซิ่งหวัง,มีอะไรไม่ถูกต้องอย่างงั้นรึ?"หวังจิงเหวินที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"จุนเทียนเซี่ย,จุนหมื่อจื่อ,ต่างก็มีข้อมูลเกี่ยวกับปราชญ์เทพสังสารวัฏ,และยังมีการบันทึกทุกอย่างเอาไว้,นำมันมาให้ข้า!"ใบหน้าของจงซานที่เปลี่ยนเป็นดำมืด.
"รับทราบ!"หวังจิงเหวินที่กล่าวออกมาในทันที.
"ฟู่หวง!"จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
จงซานที่ยกมือขึ้นห้าม,ไม่ให้จงเสวียนรบกวน,จงเสวียนที่เงียบไปในทันที.
ทว่าหวังจิงเหวินที่เริ่งรีบถอยออกไป,ก่อนที่จะนำแผ่นริ้วหยกสามแผ่นกลับมา.
"เซิ่งหวัง!"หวังจิงเหวินที่ส่งมอบแผ่นริ้วหยกออกไป.
"อืม!"จงซานที่รับแผ่นริ้วหยก,ก่อนที่จะกวาดสัมผัสเทวะออกไป.
"ตำหนักไท่จื่อด้านล่าง,มีข้อมูลบางอย่าง,ที่ต้องการหรือไม่?"หวังจิงเหวินที่กล่าวสอบถาม.
"อืม!"จงเสวียนพยักหน้ารับ.
ทั้งสามที่เริ่มตรวจสอบข้อมูลอย่างระมัดระวัง.
จงซานที่ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด,ก่อนที่จะวางแผ่นริ้วหยกลง,ก่อนที่จะหลับตาครุ่นคิดอย่างระมัดระวัง.
จงเสวียนที่กวาดตามอง,แต่ไม่กล้ารบกวนจงซาน,เวลาผ่านไปถึงสองชั่วยาม,จงซานที่ลืมตา,ก่อนที่จะสูดหายใจลึก.
"ฟู่หวง? ข้อมูลเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง?"จงเสวียนที่กล่าวออกไป.
"สถานะของเจิ้งเอ๋อ,บางทีคงถูกเปิดเผยแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.
"เป็นไปได้อย่างไร?
ฟู่หวงไม่ใช่ว่าได้ใช้สังสารวัฏวิถีสวรรค์เปลี่ยนข้อมูลของจงเจิ้งหรอกรึ?
ถึงแม้นว่าจะเป็นปราชญ์เทพสังสารวัฏไม่ได้จะตรวจสอบพบง่ายๆ."จงเสวียนที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ข้าได้เปลี่ยนบันทึกการจุติของเจิ้งเอ๋อไปด้วยสังหารวัฏวิถีสวรรค์,ก่อนส่งเข้าไปอยู่ที่วิหารสังสารวัฏ,ดูเหมือนว่าจะยังไม่พอ,ปราชญ์เทพสังหารวัฏนั้นฉลาดมาก,แม้แต่ไม่ได้ด้อยกว่าปราชญ์เทพภพหยางเลย!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
”?”
"ปราชญ์เทพสังสารวัฏนั้นมีศิษย์ห้าคน,ศิษย์คนแรก,จุนเทียนเซี่ย,เป็นบุตรของเขา,และเขายังให้ความสำคัญเพียงแค่สองคน,คือจุนเทียนเซี่ยและศิษย์คนที่สองจุนหมอจื่อ,จุนหมอจื่อ?
ปัญหาคงจะอยู่ที่เขา!"
"ปัญหา?"
"ก่อนอื่นแจ้งไปยังเจิ้งเอ๋อให้ระวังความปลอดภัย,พวกเราจะทำสอบครั้งสุดท้าย,ก่อนที่จะตัดสินใจอีกครั้ง!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"อืม!"จงเสวียนที่พยักหน้ารับในทันที.
---------------------------
ภพหยิน,ศาลเทวะหลุนฮุย,ห้องอักษรจุนเทียนเซี่ย,จุนเทียนเซี่ยที่นั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะอักษร,เฝ้ามองการโต้เถียงของข้าราชบริพาร.
"เซียนเซิงกุ่?
ไม่ใช่ว่าดินแดทางอวิ๋นทางเหนือ,ทำไมท่านไม่โจมตี?"จุนหมอจื่อที่กล่าวด้วยเสียงเย็นชา.
"ยังไม่ใช่เวลา!"เซียนเซิงกู่ที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
จินเหวินด้านข้างที่เอ่ยออกมาอีกคน,"ถงเวลาแล้ว,เขตแดนอวิ๋นเหนือนั้น,เวลานี้อยู่ในสภาวะวุ่นวาย,แม้นว่าจะยังแข็งแกร่ง,แต่ศิลาวิญญาณหดหาย,เศรษฐกิจล่ม,ผู้คนไร้ซึ่งกำลังใจ,จิตใจของประชาชนไม่เป็นหนึ่ง,นี่คือโอกาสที่ดีแล้ว!"
"ใช่เรื่องเศรษฐกิจนั้นข้ารู้ดี,ข้าคิดว่า,เจ้าคงจะไม่รู้?"จุนหมอจือที่กล่าวขึ้นอีกครั้ง.
เซียนเซิงกู่ที่ดวงตาหรี่เล็กจ้องมองจินเหวินและกล่าวออกมาว่า,"มีบางคนที่จงใจทำเช่นนั้น,หลังจากที่ราคาสินค้าเปลี่ยนแปลง,ก็มีบางคนที่คอยชักใยอยู่เบื้องกลัง,กำลังรวบรวมทรัพยากร,บางที่อาจจะมีกองทัพอวิ๋นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย,ทำให้สถานการณ์มั่นคง,ทัพของพวกเราโจมตีไปก็จะตกอยู่ในกับดัก!"
"จะเป็นไปได้อย่างไร?"จุนหมอจื่อกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"เป็นเรื่องทั่วไปที่ทุกคนรู้!"เซียนเซิงกู่เอ่ย.
"หืม?"ใบหน้าของจุนหมอจือเปลี่ยนสี.
"เฮ้เฮ้,เรื่องทั่วไปที่ทุกคนรู้อย่างงั้นรึ?
เซียนเซิงกู่ไม่ใช่ว่าสงครามเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ไม่มีความรู้หรอกรึ?"จินเหวินที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ใช่,ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็รู้เรื่องสงครามเศรษฐกิจมากไปหรอกรึ?"จินหมอจื่อที่ได้ที่กล่าวสวนทันที.
เซียนเซิงกู่ส่ายหน้าไม่เอ่ยอะไรมาก,จ้องมองไปยังจุนเทียนเซี่ย,ทว่าจุนเทียนเซี่ยที่ไม่แยแส,ไม่ตำหนิเซียนเซิงกู่แม้แต่น้อย.
เห็นท่าทางของจุนเทียนเซี่ยแล้ว,จินเหวินที่ใบหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย,ก่อนที่จะไม่กล่าวสิ่งใดอีก.
จินเหวินที่ไม่เอ่ยอะไรต่อไป,ทว่าจินหมอจื่อที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ยอม.
"ศิษย์พี่ใหญ่,ท่านเชื่อเซียนเซิงกู่อย่างงั้นรึ?เขาเป็น............!”จุนหมอจื่อที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
"หุบปาก!"จุนเทียนเซี่ยที่ตะโกนออกไปเสียงดัง,ไม่ให้จุนหมอจื่อเอ่ยอะไรอีก.
"ท่านอ๋อง!"จินเหวินที่เอ่ยออกมา.
จินเหวินที่ส่ายหน้าไปมาเบาๆ,แสดงสัญญาณเห็นชัดเจนว่าหลักฐานไม่เพียงพอ,ไม่สามารถเอ่ยออกมาได้.
"จินเหวิน,เจ้าถอยไปก่อน,วันนี้ข้าต้องการพูดกับศิษย์พี่ใหญ่เกี่ยวกับการหลอกลวงครั้งนี้,เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอะไร,ข้าจะเป็นคนเผยสายลับออกมาเอง!"จุนหมอจือเอ่ย.
"ฮือฮา!"
ทันทีที่จุนหมอจือเอ่ยออกมา,เหล่ากลุ่มกุยซือที่ส่งเสียงดังอื้ออึ้ง,สายลับ?
เซียนเซิงกู่เป็นสายลับอย่างงั้นรึ?
ทว่าจินเหวินที่อยู่ข้างๆไม่เอ่ยอะไรออกมาใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด.
เซียนเซิงกู่ที่ส่ายหน้าไปมาเผยยิ้มพลางมองไปยังจุนเทียนเซี่ย.
จุนเทียนเซี่ยที่สูดหายใจลึก,ถอนหายใจเบาๆ,"ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถเล่นต่อไปได้อีกแล้ว.
"หืม?"จุนหมอจือที่ตกใจเล็กน้อย.
"ความจริงสายลับนั้น,ไม่ใช่ผู้น้อย,แต่เป็นจินเหวินที่อยู่ด้านหลังต่างหาง,ไท่จื่อต้าเจิ้ง,จงเจิ้ง!"เซียนเซิงกู่ที่หรี่ตาจ้องมอง.
เหล่าเสนาธิการทุกคนที่ตะลึงงัน,สถานการณ์เช่นนี้คืออะไร?
"เป็นไปไม่ได้? จินเหวินจะเป็นสายลับได้อย่างไร?
อาจารย์ได้ตรวจสอบอดีตชาติเขาแล้ว,เจ้านะเป็นสายลับ,ต้องการสร้างความสับสน,เจ้าคือจงเจิ้งใช่หรือไม่?"จุนหมอจื่อที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
เซียนเซิงกู่ไม่ได้เอ่ยอะไร,ทว่าจ้องมองไปยังจุนเทียนเซี่ย.
"จงเจิ้ง,มีอะไรจะพูด?"จุนเทียนเซี่ยจ้องมองไปยังจินเหวินด้านหลัง.
"ศิษย์พี่ใหญ่,ท่าน,ท่านว่าอย่างไร............!”จุนหมอจือที่กล่าวด้วยความกระวนกระวายใจ.
จินเหวนที่อยู่ด้านหลังใบหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมนก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า,"จุนเทียนเซี่ย?
ร้ายกาจจริงๆ,ไม่รู้ว่าเจ้าพบได้อย่างไร?"
จินเหวินไม่คิดที่จะปกปิดอีกต่อไป,จงซานเองก็เหมือนจะคาดเดาผลได้ก่อนหน้านี้แล้ว.
"อะไร,อะไรนะ?
จินเหวิน,เจ้ากล่าวอะไร?"จุนหมอจือที่หันหน้ากลับ,เผยใบหน้าที่หวาดผวาออกมา.
"นับจากเรื่องดินแดนโครงกระดูก,ไม่ใช่ว่าจงซานสามารถใช้แผ่นวงแหวนสังสารวัฏได้หรอกรึ?
นับจากวันนั้นข้าก็ไม่เชื่อใจในสังสารวัฏวิถีสวรรค์อีก!"จุนเทียนเซี่ยกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จุนหมอจือที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน,ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นทั้งโกรธทั้งอายออกมา.
"จินเหวิน,เจ้าคือจงเจิ้งอย่างงั้นรึ?"จุนหมอจือที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
"จงซานเป็นคนที่ร้ายกาจจริงๆ,ช่างน่าเสียดายที่มาพบข้า,ต้องการจะหลอกข้า,ช่างน่าเสียดาย,จงซานเองก็คงไม่ต้องการเล่นอีกแล้ว!"จุนเทียนเซี่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"เพียงแค่แผ่นจานสังสารวัฏ,เจ้าก็สามารถสรุปได้ว่าบิดาข้าครอบครองสังหารวัฏวิถีสวรรค์อย่างงั้นรึ?"จงเจิ้งที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เปลี่ยนเป็นคนอื่น,แน่นอนว่าข้าย่อมไม่เชื่อ,ทว่าเขาคือจงซาน,ข้าไม่เคยประเมินจงซานต่ำ,ทว่าข้าก็เชื่อว่าเขาทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้!"จุนเทียนเซี่ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ฮ่าฮ่าฮ่า,ดูเหมือนว่าท่านพ่อเองก็ต้องการขอบคุณที่เจ้ากล่าวชื่นชุมเขา?"จงเจิ้งกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม.
"เจ้าเป็นจงเจิ้งจริงๆรึ? สารเลว,ข้าอุตส่าเชื่อใจเจ้า!"จุนหมอจื่อที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
จุนหมอจื่อที่ยื่นมือออกไปเตรียมที่จะโจมตีจงเจิ้ง!
วูซซซซ!
ขณะที่จงเจิ้งจะนำของวิเศษออกมา,ร่างกายของเขาที่หยุดนิ่งไม่สามารถขยับได้.
"หยุด,เขายังมีประโยชน์!"จุนเทียนเซี่ยนห้ามจุนหมอจือเอาไว้.
"แต่ว่า,เรื่องนี้,เรื่องนี้............!”จุนหมอจื่อที่ไม่อยากยินยอม.
"ท่านพ่อให้ข้าส่งข้อความให้กับเจ้า!"จงเจิ้งที่เอ่ยขณะที่ร่างกายขยับไม่ได้.
"หืม?"จุนเทียนเซี่ยที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
"สิ่งนี้,อยู่ในอกเสื้อข้า,เจ้าดูเอง!"จงเจิ้งที่กล่าวยืนยัน.
จุนหมอจื่อที่โกรธเกรี้ยวฉีกเสื้อผ้าของจงเจิ้ง,ก่อนที่จะนำจดหมายออกมามอบให้กับจุนเทียนเซี่ย.
จุนเทียนเซี่ยที่เปิดออกด้วยความอยากรู้,แววตาของจุนหมอจื่อที่ลอบมองออกไปด้วย.
บนสารนั้นมีรายมือของจงซานจริงๆ.
-----------
จุนเทียนเซี่ย,เจ้ากล้าแตะบุตรของข้า,ข้าจะเอาชีวิตบุตรชายของเจ้า!
-----------
จุนเทียนเซี่ยที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
"ฮ่าฮ่าฮ่า,จงซานกล้าข่มขู่ศิษย์พี่ใหญ่อย่างคาดไม่ถึง?
ศาลเทวะหลุนฮุยไม่ได้มีไท่จื่อ,เขาเสียสติไปแล้ว?"จุนหมอจื่อที่เผยยิ้มหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง.
จงเจิ้งที่เผยท่าทางเหยียดหยันกล่าวออกมาว่า,"ไอ้โง่,ไม่ใช่ว่าเจ้าคือบุตรของจุนเทียนเซี่ยรึอย่างไร?"
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
อ่านต่อที่ MyNovel | ชุมชนสำหรับนักอ่าน นักเขียน นิยายออนไลน์ บนโลกแห่งจินตนากา
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น