Miracle Throne Chapter 386 Forms an alliance with the anthosin
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 386 พันธมิตร
บทที่ 386 พันธมิตร
ทำไมต้องการให้เผ่าพิกซี่รวมมือด้วยล่ะ?
ในความเป็นจริงหากว่าสามารถสร้างความสนิทสนมกับเหล่าพิกซี่ได้นับว่าคุ้มค่ายิ่งนัก.
นี่คือเผ่าที่มีความสามารถช่วยเหลือที่โดดเด่น,ทั้งการรักษา,การล่าสมบัติ,การปลูกพืชและตรวจตรา,ช่วยการบำเพ็ญ,ช่วยต่อสู้,และยังมีความสามารถอื่นๆอีกมากมาย,นับเป็นพลังช่วยเหลือที่มีมาตั้งแต่กำเนิด.
เผ่าพิกซี่ที่มีนิสัยที่ไร้เดียงสา,ดังนั้นจึงไม่ปิดกั้นที่จะคบหากับเผ่าอื่นๆ,เมื่อสามารถได้รับความเชื่อใจจากเหล่าพิกซี่แล้วล่ะก็,จะได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก,โดยเฉพาะชีวิตของเผ่าพิกซี่ที่เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของธรรมชาติ,ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพของโลกจิตวิญญาณและเสริมสร้างเคลือข่ายจิตวิญญาณให้ทรงพลัง.
เขตแดนจิตวิญญาณนั้นไม่ว่าใครก็สามารถสร้างขึ้นมาได้,แต่ละเขตแดนจิตวิญญาณนั้นเปรียบเหมือนกับโลกใหม่,ซึ่งรวมถึงกฏในดินแดนดังกล่าวด้วย,เมื่อสร้างขึ้นมาแล้ว,หากว่าโลกจิตวิญญาณแห่งนั้นไม่มั่นคง,หรือเป็นปฏิปักษ์กับผู้สร้างแล้วล่ะก็,ก็ไม่สามารถที่จะปล่อยทิ้งได้.
คนอย่างฉู่เทียนย่อมไม่ต้องการสร้างมันขึ้นมาชั่วคราวอย่างแน่นอน.
ซึ่งแน่นอนว่าเหมือนกับผู้เชี่ยวชาญด้านมิติที่ต้องการคนที่มีความสามารถทางด้านมิติ,ส่วนผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิญญาณก็จะต้องการคนที่มีความสามารถทางจิตวิญญาณเช่นกัน.
แม้ว่าอีกหนึ่งหมื่นปีหลังจากนี้,ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณนั้นเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าปรมาจารย์ปรุงยา,หรือปรมาจารย์วงเวทย์เลยแม้แต่น้อย,ทุกสาขาต่างก็เป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก.
ทว่าปรมาจารย์ปรุงยาและปรมาจารย์วงเวทย์นั้นมีเป็นจำนวนมาก,ส่วนปรมาจารย์จิตวิญญาณนั้นมีน้อย,ซึ่งแน่นอนว่าคนที่มีพลังทางจิตวิญญาณนั้นก็หายากเช่นกัน,ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณนั้นมีค่าตัวที่สูงเป็นอย่างมาก.
ซึ่งแน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณนั้นมีความต้องการที่สูงสุดๆ.
เพราะว่าโลกจิตวิญญาณนั้นเพียงพอที่จะใช้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนหลายล้านคนโดยที่ไม่พังทลาย,ซึ่งแน่นอนว่าย่อมต้องการผู้เชี่ยวชาญในการสร้างและบำรุงรักษาเช่นกัน.
แน่นอนว่า,คอมพิวเตอพลังเวทย์เวลานี้ยังไม่ได้พัฒนาขึ้นมา,จึงทำให้ไม่สามารถที่จะลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการวิจัยงานทดลอดต่างๆได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพนัก,ดังนั้นจึงทำให้การพัฒนาในเวลานี้ของพวกเขาจึงแทบจะไม่ต่างจะอาณาจักรที่ด้อยพัฒนา,การจะสร้างโลกจิตวิญญาณขนาดใหญ่ขึ้นมาโดยสมบูรณ์แบบนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้,แต่หากมีผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถด้านจิตวิญญาณแล้วล่ะก็,การจะลดเวลาในการสร้างมันขึ้นมานั้นย่อมมีโอกาสสำเร็จอย่างไม่มีปัญหา.
ฉู่เทียนที่มีความรู้ในการสร้างเขตแดนจิตวิญญาณขึ้นมาได้,ส่วนพิกซี่ที่มีความสามารถในการตรวจจับพลังที่แตกต่างกันในโลกจิตวิญญาณได้เป็นอย่างดีที่จะสามารถช่วยเขาในการบันทึกข้อมูล,นอกจากนี้พวกนางทั้งเผ่าต่างก็มีพลังที่ยอดเยี่ยมในการตรวจสอบพลังจิตวิญญาณได้อย่างยอดเยี่ยม.
เผ่าพิกซี่จึงเป็นเผ่าที่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย.
และนอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมของเผ่าพิกซี่อีกด้วย.
ในโลกใบนี้ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดที่จะอยู่ได้โดยไม่ถูกรบกวน,ป่าแห่งความวุ่นวายแห่งนี้ใช้กฏความแข็งแกร่งเป็นคนอยู่รอด,ทั่วทั้งทวีปเองก็ไม่ต่างกันนัก,หลากหลายเผ่าที่มีลักษณ์ส่วนตัว,ชีวิตความเป็นอยู่ที่ต่างกัน,ทว่าสิ่งที่ทุกคนต้องการคือทรัพยากรเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง,เช่นนั้นสงครามก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้,เผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอ
ยากที่จะอยู่รอด,พวกเขาจะต้องถูกเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งกดขี่และทำลายไป.
เผ่าพิกซี่นั้นมีพลังที่ล้ำค่าเป็นอย่างมาก,หากว่าหากถูกพบเข้าโดยมนุษย์คนอื่น,อสูรวิญญาณหรือเผ่าที่เต็มไปด้วยความโลภ,ท้ายที่สุดนั้นผลที่ออกมาแทบจะไม่สามารถคาดได้,เผ่าเอลฟ์ในเวลานี้กำลังตกต่ำไม่หยุด,ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็จะต้องใส่ใจแต่ตัวเอง,ดังนั้นคงจะไม่สามารถเป็นร่มเงาให้กับพวกนางได้,ท้ายที่สุดแล้วเผ่าพิกซี่ก็จะต้องใช้ชีวิตกันเองหาทางรอดด้วยตัวเองในท้ายที่สุด.
หากว่าร่วมมือกับหอการค้าปาฏิหาริย์ล่ะก็,เช่นนั้นพวกนางก็จะมีเทคโนโลยีในการสร้างดินแดนจิตวิญญาณเป็นของตัวเอง,เผ่าพิกซี่ก็สามารถที่ก้าวออกมาสู่ทวีปแห่งนี้ได้อย่างมั่นคง,สามารถที่จะได้รับความรู้และประสบการที่จะเอาตัวรอดได้จากเผ่าอื่นๆ,จนเมื่อพวกเขาสามารถสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งได้,ท้ายที่สุดก็จะสามารถเอาตัวรอดจากการคุกคามได้!
ฉู่เทียนเองก็ต้องการที่จะโน้มน้าวเหล่าพิกซี่อยู่เล็กน้อย.
"เจ้าต้องการให้พวกเราช่วยสร้างดินแดนจิตวิญญาณขึ้นมาอย่างงั้นรึ?"
"ใช่แล้วหากว่าสามารถสร้างโลกเสมือนจริงขึ้นมาได้แล้วล่ะก็,จะทำให้เผ่าพันธุ์ที่แตกต่างที่ไม่สามารถทนการเปลี่ยนแปลงได้เข้าไปอยู่ภายในนั้นได้."
เผ่าพิกซี่ที่ใช้ชีวิตปราศจากความกังวลมาโดยตลอด,จึงทำให้ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงวิกฤติได้,ไม่ต้องดินร้นเพื่อที่จะมีชีวิตรอดได้,พวกนางที่ชื่นชอบในดนตรีและศิลปะ,ชื่นชมความงามและความรักในดินแดนสวรรค์ของเผ่าตัวเอง.
ฉู่เทียนที่นำแผนผังยันต์เวทย์ที่สมบูรณ์แบบออกมา,เพื่อที่หวังว่าจะให้เหล่าพิกซี่ได้ดูและช่วยเหลือ.
เผ่าพิกซี่นั้นยากที่จะสร้างความสัมพันธ์ได้ง่าย,เพราะด้วยนิสัยส่วนตัวที่ไม่ชอบคนโมโหร้าย,นิสัยส่วนตัวของพิกซี่จะอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา,ดังนั้นจึงไม่ง่ายที่จะเข้าไปตีสนิทได้.
ทำไมโลกนี้ต้องมีสงคราม?
ทำไมโลกนี้จะต้องมีการฆ่าฟัน?
ทำไมโลกนี้จะต้องมีการแย่งชิงกันด้วยล่ะ?
ความต้องการของเผ่ามนุษย์มีเจตนาบริสุทธิ์ยางงั้นเหรอ,เหมือนดั่งคำพูดของฉู่เทียนที่ได้กล่าวกับไซนาหลิวซือก่อนหน้า,การมีชีวิตอยู่นั้นคือการแข็งขัน,ทว่าการใช้ชีวิตที่เห็นแก่ตัวก็คือเหล่าโจรร้าย,ทุกสิ่งมีชีวิตนั้นล้วนแล้วแต่มีความปรารถนา,ดังนั้นจึงหลงไหลและเสพติดในความสะดวกสบาย,และการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความโลภต้องการมากกว่าที่ควรจะเป็น,ดังนั้นจึงทำให้เกิดการไล่ล่าสังหารกันอย่างดุร้าย.
เผ่าพิกซี่ที่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตทั่วไป,พวกเขาที่เกิดขึ้นมาจากจิตวิญญาณของผืนปฐพี,เกิดจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ทำให้เกิดแก่นของชีวิต,พวกเขานั้นไม่มีแก่เฒ่า,และไม่ป่วยไข้,ไม่มีความโลภ,สันชาติญาณของพวกเขาที่มีแต่ความสนุกและยินดี,ดังนั้นจึงมีจิตใจที่บริสุทธิ์,พวกเขาที่ไม่ต้องการทรัพยากรใดๆ,ไม่ต้องการเงิน,ไม่ต้องการทรัพยากร,หรือถูกดึงดูดด้วยความต้องการอื่นๆ.
ตามบันทึกของเผ่ามนุษย์ในอนาคตนั้นพวกมนุษย์ที่ละโมบที่ใช้การควบคุมเหล่าพิกซี่,ด้วยการใช้ยาหลอนประสาทอย่างรุนแรง,เพื่อที่จะให้เหล่าพิกซี่เสพติดยาเหล่านั้น,ซึ่งจะเป็นการทำลายนิสัยดั้งเดิมของพวกเขา,จนกลายเป็นหุ่นเชิด,ให้เหล่ามนุษย์สามารถควบคุม.
ฉู่เทียนที่สร้างคำอธิบายเกี่ยวกับเทคโนโลยีให้ดูยิ่งใหญ่เกินกว่าปกติ.
การที่จะนำผลประโยชน์มาชักจูงพิกซี่นั้นทำได้อย่างงั้นรึ?
ด้วยเผ่าพิกซี่ที่ไม่กินไม่ดื่ม,ไม่จำเป็นต้องฝึกฝน,ไม่จำเป็นต้องผลิตทรัพยากรเพื่อหาเงิน
เพื่อนำมาแลกเปลี่ยนทรัพยากรอื่นๆแต่อย่างใด.
สิ่งสำคัญที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของเหล่าพิกซี่ได้?ตามประวัติศาสตร์แล้วพวกเขาไม่ที่ไม่บิดามารดาหรือบรรพชน,ไม่มีอาณาจักรเป็นของตัวเอง,และยังไม่มีโรคภัยอีกด้วย?
อย่างไรก็ตามฉู่เทียนก็เชื่อว่ามันจะประสบความสำเร็จ.
แม้พวกเขาจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีความปรารถนาก็ตามที.
เหล่าพิกซีเองก็ใช่ว่าจะสามารถใช้ชีวิตได้ไปตลอดกาล,พวกเขายังต้องพึ่งพาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม,หากว่าธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมถูกทำลายไปทั้งหมด,เหล่าพิกซี่ก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่เช่นเดียวกัน.
ด้วยการชี้ให้เห็นว่า,ในทวีปแห่งนี้เริ่มมีการสร้างปราสาทราชวัง,และยังมีการถากถางพื้นที่เพื่อเพาะปลูก,จึงมีการทำลายเผาป่าไม้เพื่อหาพื้นที่อุดมบูรณ์,และยังมีการไล่ล่าสังหารเหล่าสัตว์ป่า,พร้อมกับการสร้างมลพิษขึ้นในสิ่งแวดล้อมอยู่ตลอดเวลา.
ป่าแห่งความวุ่นวายนั้นมีขนาดใหญ่มาก.
ภายในป่าแห่งนี้เองก็ถูกยึดด้วยอาณาจักรที่แข็งแกร่งหลากหลายแห่ง.
ใครจะสามารถยืนยันได้ว่าอีกพันปี,หมื่นปีหลังจากนี้,ป่าแห่งความวุ่นวายจะยังคงสภาพเช่นนี้อยู่อีกรึ?
ดังนั้นการพัฒนาเทคโนโลยีดินแดนจิตวิญญาณนั้น,จะสามารถนำสิ่งมีชีวิตเข้าไปอาศัยอยู่ด้านใน,ซึ่งจะช่วยลดการแข่งขันและการไล่ล่าด้วยพื้นที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอ,หรือหากว่าคนที่เข้าไปเขตแดนจิตวิญญาณที่ชอบทำลายล้างเช่นกัน,สถานที่ดังกล่าวก็ไม่แตกต่างกันหรอกรึ?แน่นอนว่าย่อมต่างกันเขตแตนจิตวิญญาณเพราะมันสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างขึ้นมาได้อย่างไม่ยากเย็นเหมือนกับโลกจริงๆ!
ภายในโลกเสมือนนั้นสามารถขับสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลพิษออกมาได้อย่างง่ายดายด้วย!
ฉู่เทียนที่ให้ความรู้ที่ดูจะสมเหตุสมผลออกไป,เพื่อให้เหล่าพิกซี่ได้ตระหนัก,ไม่เพียงแต่พวกเขาเองก็ใส่ใจในถิ่นฐานบ้านเกิด,ดังนั้นด้วยเทคโนโลยีดินแดนจิตวิญญาณ,ก็จะช่วยลดสงครามและลดมลพิษทางธรรมชาติได้ด้วย!
เหล่าพิกซี่ที่ชื่นชมฉู่เทียนเป็นอย่างมาก.
ฉลาด,ฉลาดล้ำลึก,มองการไกล,เหล่าพิกซี่ที่คิดว่าจะมีสหายเช่นนี้,ช่างโชคดีจริงๆ!
เผ่าพิกซี่ที่ดูเชื่อใจและชื่นชมในตัวของฉู่เทียน,และพวกนางก็ชื่นชอบเทคโนโลยีเขตแดนจิตวิญญาณอยู่ไม่น้อย,เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมตามคำแนะนำของฉู่เทียน,ทำให้เหล่าพิกซี่ตัดสินใจที่สำคัญในที่สุด.
พวกนางจะเข้าร่วมหอการค้าปาฏิหาริย์!
พวกนางต้องการที่จะสร้างโลกเขตแดนจิตวิญญาณ!
ฉู่เทียนที่นั่งอยู่บนพื้นพูดคุยกับเหล่าพิกซี่ไม่หยุด,พวกนางเริ่มรู้สึกว่ายิ่งพูดคุยกับฉู่เทียนมากเท่าไหร่พวกนางก็ยิ่งได้รับแรงกระตุ้น,พวกนางใช้ชีวิตที่ธรรมดามากๆ,ทุกวันจะทำการเก็บเกษรดอกไม้และน้ำทิพย์,เพื่อที่จะบำรุงสวนของพวกนาง,พวกนางไม่เคยมีเป้าหมายในชีวิตเลย.
ตอนนี้แตกต่างไปแล้ว.
เหล่าพิกซี่ต้องการศึกษาเทคโนโลยีเขตแดนจิตวิญญาณกับฉู่เทียน,พวกนางสามารถใช้ศิลาคลิสตัลในป่าที่สาบสูญสร้างเขตแดนจิตวิญญาณที่ล้ำลึกและน่าสนใจขึ้นมาได้.
เป็นไปด้วยดี!
ได้รับพันธมิตรที่เชื่อใจได้เป็นอย่างมาก.
ฉู่เทียนที่รู้สึกดีใจ โล่งใจจริงๆ,นี่นับว่าเป็นการบุกเบิกขั้นแรกในดินแดนแห่งนี้เลย!
ทุกคนที่ออกมาจากโลกดินแดนจิตวิญญาณ,ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าวนี้อยู่,ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงหวีดร้องของเหยี่ยวอสูรปรากฏขึ้นที่ท้องฟ้าของสวนพิกซี่,ที่ด้านหลังของเหยี่ยวอสูนั้นมีเอลฟ์ที่สะพายคันศรหลายตน,พวกเขาที่นำสัตว์อสูรเหยี่ยวมังกรที่น่าเกรงขามบินผ่านเข้ามายังดินแดนของพิกซี่.
"เอลฟ์!"
"ไม่ได้การแล้ว,พวกเขาจะต้องมาจับตัวฉู่เทียนอย่างแน่นอน!"
เหล่าพิกซี่ในเวลานี้ต่างก็เชื่อใจฉู่เทียนว่าเขาไม่ใช่คนชั่วร้ายอย่างแน่นอน,คนผู้นี้มีภูมิปัญญาที่ลึกล้ำและยังคิดที่จะปกป้องป่าเอาไว้,จะเป็นคนไม่ดีได้อย่างไร?
ออลีติซือและพรรคพวกที่กระโจนลงมาจากหลังของเหยี่ยมังกร,ก่อนที่จะมาอยู่ด้านหน้าของฉู่เทียนในทันที,พร้อมกับกล่าวออกไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา,"เจ้า,กลับไปเผ่ากับข้า,เผ่าเอลฟ์พร้อมจะไต่สวนเจ้าต่อแล้ว!"
นี่มันเรื่องอะไรกัน!
ในเวลานี้ไม่รู้เลยว่าเผ่าเอลฟ์นั้นต้องการทำอะไรกับข้า!
อย่างไรก็ตามฉู่เทียนก็ไม่จำเป็นต้องคาดเดาให้มากนัก,เหล่าเอลฟ์ในเวลานี้คงจะเข้าใจกันดีแล้ว,ถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น,จึงต้องการจะสอบถามฉู่เทียนเพิ่มจึงต้องการนำเขากลับไป,เพียงแต่ออลิติซือที่ทำหน้าขึงขังเอาไว้,ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่สามารถที่จะซ่อนท่าทีที่แท้จริงเอาไว้ได้,ดังนั้นนางจึงแสดงท่าทางแข็งกร้าวออกมา.
คิดว่าข้าจำไม่ได้ถึงท่าทางเย็นชาก่อนหน้านี้ได้เหรอ.
ท่าทางนี้มันอะไรกัน?
ฉู่เทียนนที่แสดงท่าทางไม่พอใจ,พร้อมกับกล่าวกระตุ้นออกไปทันที."เผ่าเอลฟ์ของเจ้าช่างทำการอะไรชักช้าอืดอาด,ไม่คิดที่จะขอโทษข้าอย่างงั้นรึ?เรื่องที่พวกเจ้าใส่ร้ายข้าขอให้มันจบกันไป,ทำไมจะต้องกลับมาพูดกันอีก!"
ออลิติซือขมวดคิ้วไปมา.
"หยุด!"เหล่าพิกซี่ที่ตะโกนออกมาเสียงดัง"ฉู่เทียนเป็นสหายที่ดีของพิกซี่,พวกเราจะร่วมมือกับฉู่เทียน,เขาเป็นคนดี,เผ่าเอฟล์กล่าวหาอย่างไร้เหตุผล,พวกเราไม่ยอมรับ!"
"ใช่แล้ว!"
"พวกเอลฟ์กลับไปซะ!"
"ฉู่เทียนจะไม่ไปกับพวกเจ้า!"
พิกซี่ที่บินไปมารอบๆร่างกายของฉู่เทียน,พร้อมกับใช้ร่างกายเล็กๆมาขวางทางด้านหน้า,พร้อมต่อสู้ปกป้องฉู่เทียน,ทำให้ออลิติซือตื่นตะลึงเล็กน้อย,เขาได้รับความเชื่อใจจากพิกซี่รวดเร็วขนาดนี้เลยรึ?
มนุษย์ผู้นี้ทำได้อย่างไร!
"ร่วมมือกับพิกซี่อย่างงั้นรึ?"
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เพียงพอที่จะทำให้เอลฟ์ประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
พิกซี่นั้นเป็นเผ่าพันธ์ที่ลึกลับมาก,แม้ว่าจะมีทักษะในการต่อสู้จะอ่อนแอ,ทว่ากลับมีทักษะในการวิเคราะห์ที่สูงมาก,นอกจากนี้ยังมีประชากรที่น้อยนิด,ทั่วทั้งป่านั้นมีเพียงแค่กลุ่มเล็กๆนี้เท่านั้น,ทำไมเผ่ามนุษย์สามารถได้รับความร่วมมือกับพิกซี่ได้ล่ะ?
เผ่าพิกซี่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ,เป็นเผ่าพันธ์ที่อยู่ในความสงบ,ทำไมพวกเขาเปลี่ยนไปแล้วรึ?
"พิกซี่กำลังจะสร้างโลกไหม่กับหอการค้าปาฏิหาริย์,พวกเราจะทำให้สิ่งมีชีวิตในทวีปแห่งนี้ดีขึ้น,พวกเราจะช่วยลดสงคราม,และปกป้องป่าของพวกเรา!"ความตั้งใจของพิกซี่นั้นแน่วแน่,และกล่าวออกมาอย่างมั่นคง"พวกเอลฟ์นั้นไม่ทำการอะไรเลย,.ฉู่เทียนที่มอบป่าเทวะให้เป็นของขวัญพวกเรา,เขาที่เป็นทูตแห่งความสงบสุข,แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนร้ายอย่างแน่นอน!"
"พวกเอลฟ์ออกไปเลย!"
"พวกเอลฟ์ออกไปให้พ้น!"
เหล่าพิกซี่ที่พร้อมกันขับไล่เผ่าเอลฟ์.
แม้ว่าพิกซี่จะอ่อนแอกว่า,แต่เผ่าเอลฟ์ก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรพวกเขา.
เมื่อเห็นเผ่าพิกซี่ที่ยืนกรานที่จะสู้ตายเพื่อปกป้องความปลอดภัยของฉู่ทียน,ส่วนฉู่เทียนเองก็ยืนกอดอกอยู่ในฝูงพิกซี่,ใบหน้าของเขาที่เผยยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจส่งมาให้นาง,ออลิติซือแทบจะกระอักโลหิตออกมา,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าชายคนนี้ตั้งใจทำเช่นนี้!
ทว่า,ชายคนนี้ใช้วิชาปิศาจอะไรกัน?คาดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้เหล่าพิกซี่ต่างก็พร้อมใจกันปกป้องเขา!
ลูลูกล่าวออกมาในทันที"ให้โหยวลีไซซือยกเลิกข้อกล่าวหาต่อฉู่เทียนซะ,ไม่เช่นนั้นเผ่าพิกซี่จะไม่ยอมให้เผ่าเอลฟ์แตะต้องฉู่เทียนแม้แต่ปลายเส้นขน!"
"ยกเลิกข้อกล่าวหาซะ!"
"ยกเลิกข้อกล่าวหาซะ!"
พิกซีต่างตะโกนออกไปเสียงดัง.
"อาวุโสทั้งสอง,พวกเราจะทำอย่างไรดี??"
ออลิติซือที่ไม่สามารถทำอะไรได้,ที่จริงเผ่าเอลฟ์นั้นล้มเลิกแผนการที่จะสังหารฉู่เทียนแล้ว,ทว่าพวกเขาไม่ต้องการอธิบายอะไรตอนนี้
ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใหนกัน?
"พวกเราไม่สามารถทำร้ายพิกซี่ได้."
"พวกเรากลับไปก่อน!"
เหล่าเอลฟ์ถึงกับยินยอม,ถอยกลับไปอย่างห่อเหี่ยวใจ.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==> Click
-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น