วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 373 Mayor Chu Tian

Miracle Throne Chapter 373 Mayor Chu Tian

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 373 เจ้าเมืองฉู่เทียน


บทที่ 373 เจ้าเมืองฉู่เทียน


เผ่าคนแคระที่ยืนนิ่งงันอยู่ด้านหน้าประตูเหมืองออเตอแมน,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและเงียบงัน,ปรากฏความเคารพและหวาดกลัวไปพร้อมกัน,ราวกับกำลังยืนต้อนรับราชาที่เพิ่งกลับมาด้วยชัยชนะ!

คลืน! คลืน!

เสียงฝีเท้าที่หนักหน่วงวุ่นวาย,ทว่ากลับเต็มไปด้วยพลัง,โลหิตที่ชุ่มไปทั่วร่างเศษชิ้นเนื้อที่เละติดชุดเกราะมาด้วยเต็มไปด้วยกลิ่นคาวโลหิตอย่างรุนแรง,มันอาบหนาไปทั่วอาวุธและชุดเกราะสีแดงฉานย้อมสีของชุดเกราะของพวกเขาไปเกือบทั้งหมด,ดูไม่ต่างจากอสุรกายแม้แต่น้อย.


เหล่าคนแคระถึงกับต้องกลืนน้ำลาย.

น่ากลัว,น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว,หากว่าไม่เห็นด้วยตนเองแล้วล่ะก็,คงจะไม่มีใครเชื่อว่ากองกำลัง 3000 คนนี้ได้ไล่ล่าสังหารกองกำลังที่มีมากกว่าหลายเท่า,ซ้ำยังเป็นกองกำลังมนุษย์แมงมุมที่น่าหวาดกลัวนั่นอีก,จนพวกมันแทบไม่มีกำลังต่อต้านได้เลย.

"รายงานเจ้านาย!"หนานกงหยุนที่เดินเข้ามารายงาน"ภารกิจได้เสร็จสิ้นแล้ว,พวกเราได้สังหารศัตรูไปหมดแล้ว,กองกำลังของพวกเรามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 100 กว่าคน,มากกว่า 30 คนได้เสียชีวิตในการต่อสู้!"

เสียชีวิตเพียงสามสิบคนเองรึ?

เผ่าคนแคระถึงกับตื่นตกใจกับจำนวนดังกล่าว.

"ลำบากเจ้าแล้ว!"ฉู่เทียนที่ประกาศออกไปในทันที"สำหรับครอบครัวของนักรบผู้กล้าที่ได้เสียชีวิตในสนามรบจะได้รับค่าตอบแทนจากหอการค้าปาฏิหาริย์นอกจากนี้จะได้รับบำเหน็จจากอาณาจักรเป็นจำนวนสิบเท่า! ส่วนนักรบที่ได้แสดงพลังในวันนี้,ก็จะได้รับรางวัลเช่นกัน!"

ดวงตาของเหล่านักรบอสูรคลั่งที่ลุกโชนขึ้นมาในทันที.

เผ่าคนเถื่อนนั้นเป็นเผ่าที่มีสถานะต่ำต้อยเป็นเพียงแค่เผ่าโจร,ตอนนี้พวกเขาได้กลายเป็นนักรบอสูรคลั่งของหอการค้าปาฏิหาริย์ที่ทรงเกียรติ,ทำให้ได้เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง,นอกจากานี้ผลตอบแทนยังยอดเยี่ยวอีกด้วย,ไม่เพียงแต่ได้รับการฝึกฝนทุกคนอย่างโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย,พวกเขายังได้รับการดูแลราวกับนักรบระดับสูง,และยังได้รับการดูแลไปถึงครอบครัว,ทำให้เหล่านักรบอสูรคลั่งไม่ต้องกังวลใดๆเลย.

"สุราและอาหารได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว!"

"ขอให้นักรบผู้กล้าทุกท่านจง กินดื่มให้หนำใจได้เลย!"

เพียงแค่ได้ยินคำพูดดังกล่าวเหล่านักรบอสูรคลั่งถึงกับตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความตื่นเต้น,ที่จริงหลังจากที่ได้ต่อสู้อย่างหนักหน่วง,ทำให้นักรบอสูรคลั่งเหล่านี้รู้สึกหิวเป็นอย่างมาก,ตอนนี้พวกเขาแทบไม่ต้องทำอะไรก็มีอาหารจัดเตรียมให้แล้ว!

เมิ่งชิงอู๋ได้จัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว,นางได้นำอาหารชั้นดีส่งผ่านมายังคลังต่างมิติเป็นจำนวนมาก,เหล่านักรบคนเถื่อนแทบจะไม่ต้องถอดชุดเกราะด้วยซ้ำ,พวกเขาก็สามารถที่จะกินและดื่มอย่างเต็มที,ด้วยท่าทางหิวโซบ้าคลั่ง,ถึงกับทำให้เหล่าคนแคระตื่นตกใจไปเลยทีเดียว.

นักรบอสูรคลั่งรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า,หลังจากพวกเขาได้ต่อสู้อย่างหนักหน่วง,จึงจำเป็นต้องกินอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน,ไม่เพียงแต่ทำให้พลังของพวกเขาฟื้นฟูและแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นหลังจากการกิน,บาดแผลต่างๆที่พวกเขาได้รับนั้น,แทบจะถูกเยี่ยวยารักษาให้หายไปภายในเวลาสองชั่วโมง,ด้วยการถูกกระตุ้นด้วยพลัง,จิตใจการต่อสู้ที่พวยพุ่งขึ้นอีก,พร้อมที่จะต่อสู้ได้อีกตลอดเวลา!

นี่คือคุณสมบัติเด่นของนักรบอสูรคลั่งนั่นเอง.

นี่คือกองกำลังที่แข็งแกร่งและร้ายกาจได้ปรากฏขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว.

ในการฝึกฝนนักรบอสูรคลั่งนั้น,ไม่จำเป็นต้องใช้สมบัติล้ำค่ามากมาย,ตราบเท่าที่กินและดื่ม,ยิ่งเป็นอาหารที่ได้มาจากเนื้อสัตว์อสูรด้วยแล้ว,จะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งในการต่อสู้เป็นอย่างมาก,อาการบาดเจ็บธรรมดาจะหายไปอย่างรวดเร็ว,ความแข็งแกร่งที่มีราวกับว่าไร้ซึ่งก้นขอบ,ตราบเท่าที่มีอาหารสนับสนุนเพียงพอ,ถึงจะต่อสู้สิบวันสิบคืนก็ไม่มีปัญหา!

เมื่อนักรบอสูรคลั่งเปิดใช้งานสภาวะอสูรคลั่ง,ด้วยอาวุธขวานหรือค้อน,ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตถึงไม่ตายก็อาจพิการได้,ยิ่งพวกเขามีอาวุธพลังเวทย์ด้วยแล้ว,ก็ยากที่จะมีกองกำลังใดๆต้านได้!

แต่ก็มีจุดหลักๆที่ไม่สมบูรณ์แบบเช่นกันด้วยความที่นักรบอสูรคลั่งที่เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างสูง,เมื่อเข้าต่อสู้จะเข้าทุบเหล่าศัตรูละเลงโลหิตศัตรูไม่ต่างจากทุบมะเขือเทศบดขยี้อย่างรุนแรง,ทั้งชุดเกราะและเนื้อถูกบดขยี้บุบแบนเข้าหากัน,ศพทุกศพของฝ่ายตรงข้ามยากที่จะแยกออกโดยสมบูรณ์,ไม่สามารถบอกได้ว่าได้สังหารฝ่ายตรงข้ามให้ตกตายไปเรียบร้อยแล้ว.

เป็นสิ่งตรงข้ามจากมนุษย์โดยสิ้นเชิง!

แตกต่างจากการรบของมนุษย์ทั่วไป!

ฉู่เทียนที่ขี้เกียจจะตรวจสอบจึงได้ออกคำสั่งต่อตงฟางเห่าเหรียน"เผาพวกมันให้หมด."

หลังจากที่ตงฟางเห่าเหรียนได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับกองกำลังนักรบอสูรคลั่งที่ทรงพลังน่ากลัวนี้แล้ว,ทำให้เขานั้นเต็มไปด้วยความชื่นชมในตัวของฉู่เทียนเป็นอย่างมาก,หากว่าฉู่เทียนปรากฏตัวเร็วกว่านี้ห้าปี,อาจจะสองปี,หรือหนึ่งปี,ปรากฏขึ้นในอาณาจักรหนานเซี่ย,หากเป็นเช่นนั้นแล้วอาณาจักรหนานเซี่ยคงจะไม่ถดถอยถึงเพียงนี้!

"ได้!"

ตงฟางเห่าเหรียนที่จ้องมองไปยังสนามรบ,เหล่ากองซากศพมากมายที่ถูกนำมากองพะเนินกลายเป็นเนินเขาย่อมๆ,ท้ายที่สุดเย็นวันนั้น,เปลวไฟก็ถูกจุดเผ่าไหม้ทุกชิ้นส่วนให้กลายเป็นขี้เถ้า.

ควันสีดำจางๆ,ปกคลุมไปทั่วป่า,กลิ่นอายแห่งความตายที่ส่งผ่านไปทั่ว.

สถานที่แห่งนี้มีหลากหลายเผ่าที่กำลังจับจ้องมายังทิศทางของเมืองเล็กออเตอแมน,เมื่อพวกเขาเห็นควันสีดำที่ลอยขึ้นมา,พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้ได้จบลงแล้ว.

ในเมืองเล็กแห่งนี้เวลานี้ได้เปิดประชุมสำคัญขึ้นมา,ทุกคนที่นั่งล้อมโต๊ะใหญ่,ครึ่งหนึ่งเป็นมนุษย์,ครึ่งหนึ่งเป็นคนแคระ,และเอลฟ์หนึ่งตน,ที่พูดคุยกันเรื่องต่างๆของเมืองแห่งนี้.

ท้ายที่สุดประมุขเผ่าคนแคระก็ลุกขึ้นยืน"เหล่าอาวุโสคนอื่นๆเองหลังจากที่ได้ปรึกษาหารือกันแล้วตอนนี้อนุญาตให้กองกำลังอสูรคลั่งเป็นกองกำลังหลักในการปกป้องเมืองเล็กแห่งนี้,เป็นการป้องกันเมืองจะทำให้ศักยภาพในการต่อสู้ของเมืองเล็กแข็งแกร่งสมบูรกว่าเดิม,ซึ่งนับอัตราส่วนการคุ้มกันที่มีจำนวนกว่า 75 เปอร์เซ็นต์,ดังนั้นต้าเหรินฉู่เทียนนับว่าเป็นคนที่มีสัดส่วนถือครองเมืองเล็กแห่งนี้ด้วยสัดส่วน 75 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน!"

เหล่าคนแคระคนอื่นๆต่างก็พยักให้กันและกัน.

ผลสรุปดังกล่าวนี้ทำให้ทุกคนค่อนข้างถึงพอใจ.

ที่จริงแล้วด้วยความแข็งแกร่งของกองกำลังอสูรคลั่งนั้นเทียบกับพลังในการรบแล้วมีเพียงแค่ 75 เปอรเซ็นต์จริงๆรึ? บางทีควรจะ 90 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ! ทว่าฉู่เทียนและพรรคพวก,จงใจที่จะให้พวกเขาประเมินค่าต่ำกว่าความเป็นจริง,เพื่อไว้หน้าต่อเหล่าคนแคระ,เพื่อให้พวกเขานั้นได้รับผลประโยชน์บ้าง.

"กองกำลังของต้าเหรินฉู่เทียนในเมืองเล็กแห่งนี้ทรงพลังเป็นอย่างมาก,ท่านควรจะเป็นคนที่มีความเป็นเจ้าของมากที่สุด,และยังได้รับการยอมรับจากกลุ่มคนแคระ,ตอนนี้กิจการต่างๆภายในเมืองเล็กแห่งนี้ควรที่จะกลายเป็นท่านที่จะบริหาร,ดังนั้นท่านจึงควรที่จะเป็นเจ้าเมืองของเมืองเล็กออเตอแมนแห่งนี้! พวกเราหวังว่าท่านจะทำให้เมืองแห่งนี้รุ่งเรือง,และกลายเป็นเมืองที่รุ่งโรจน์กว่านี้ขึ้นไปเรื่อยๆ!"

เมิ่งหยิงหยิง,เหว่ยเหว่ยอันพร้อมคนอื่นๆต่างก็เผยสีหน้ามีความสุข.

เมืองเล็กแห่งนี้ถึงจะมีขนาดไม่ใหญ่นัก,จะดีจะร้ายก็เป็นเมืองแห่งหนึ่ง,ยิ่งอยู่ภายในป่าแห่งความวุ่นวายด้วยแล้ว,นับว่ากลายเป็นเขตแดนอย่างเป็นทางการของพวกเขา,การได้เป็นเจ้าเมือง,เมืองเล็กแห่งนี้,นับว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ก้าวแรกที่พวกเขาก้าวเข้ามาเลย.

ฉู่เทียนพึงพอใจกับผลที่ออกมาเช่นนี้เหมือนกัน"ขอบคุณที่เผ่าคนแคระเชื่อใจ,ข้าจะทำงานสุดความสามารถ,เพื่อนำพาเมืองเล็กแห่งนี้ให้เจริญก้าวหน้า!"

ก่อนหน้านี้ฉู่เทียนที่ได้ช่วยเหลือเหล่าคนแคระยึดเหมืองแห่งนี้คืนมา,ซึ่งได้ทำให้เขาสนใจในสถานที่แห่งนี้ก่อนแล้ว.

เหมืองออเตอแมนแห่งนี้นั้นเหล่าคนแคระที่ได้ทำการวางรากฐานโครงสร้างมากว่า 100 ปีแล้ว,ตอนนี้มันสมบูรณ์แบบและมั่นคง,ภูมิประเทศรอบๆนั้นยากที่จะถูกโจมตี,และยังอยู่ชายขอบป่าแห่งความวุ่นวาย,จึงไม่ง่ายนักที่จะไปดึงดูดเหล่าตัวตนที่น่าพรั่นพรึง,บริเวณรอบๆนี้เองก็ไม่ได้มีตัวตนที่น่าหวาดกลัวจนพวกเขารับมือไม่ได้,ดังนั้นนับว่าเป็นพื้นที่ที่ฉู่เทียนต้องการทีเดียว.

แต่ถึงกระนั้น,ฉู่เทียนย่อมไม่สามารถบอกความต้องการออกมาตรงๆได้และเผ่าคนแคระเองก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะตอบรับเขาง่ายๆเช่นนั้น.

จิตสำนึกในดินแดนของเผ่าคนแคระนั้นหนักแน่นมาก,เรื่องที่จะให้ใครมาควบคุมดินแดนของพวกเขานั้นเป็นไปได้ยาก,ไม่มีทางที่ฉู่เทียนจะกล่าวความต้องการออกมาเช่นนั้นได้,ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกเหล่าคนแคระต่อต้านได้.

ดังนั้นฉู่เทียนจึงไม่ได้เปิดเผยเป้าหมายของตัวเองออกมา,ก่อนที่จะสร้างบุญคุณและได้รับความเชื่อใจจากเผ่าคนแคระ,ซึ่งหลังจากที่เหมืองออเตอแมนได้เปลี่ยนเหมืองแห่งนี้ให้กลายเป็นเมืองเล็ก,และเมื่อกลายเป็นเมืองเล็กแล้วค่อยควบคุมจัดการในทีหลัง,ในความจริงแล้วพื้นที่แห่งนี้ก็ยังแยกออกเป็นสองดินแดน.

เหมืองของเหล่าคนแคระก็ยังคงอยู่เช่นเดิม,คิดเป็น 40 เปอร์เซ็นซึ่งเป็นเขตแดนที่ถูกแบ่งเป็นสัดส่วนสำหรับพวกเขา,ส่วนอีก 60 เปอเซ็นนั้นได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเมืองเล็กและจะกลายเป็นดินแดนที่จะถูกนำมาปฏิรูป.

ท้ายที่สุดฉู่เทียนก็ได้นำกองกำลังทั้งหมดเข้ามาในเมืองเล็ก,ความแข็งแกร่งของฉู่เทียนเหนือกว่าเหล่าคนแคระไปมากนัก,ทว่าเผ่าคนแคระเองก็ยินดีที่จะมอบตำแหน่งเจ้าเมืองให้กับฉู่เทียน.

ที่จริงแล้วเผ่าคนแคระไม่ได้ขาดดุลแต่อย่างใด.

เหมืองก็ยังคงเป็นของคนแคระ,พวกเขายังมีส่วนหนึ่งที่ปกปิดซึ่งสามารถที่จะเป็นแหล่งผลิตให้กับตัวเอง,เพียงแค่แบ่งพื้นที่อีกส่วนหนึ่งให้กับฉู่เทียนสามารถพัฒนาได้เท่านั้น,ซึ่งด้วยขนาดของมันที่ใหญ่โตเกินไปนับว่าเป็นการกระทำที่สมเหตุสมผลและยังได้รับประโยชน์อีกด้วย.

ด้วยการกลายเป็นหุ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่ที่สุด,ตอนนี้ฉู่เทียนที่ได้ตัดสนใจที่จะพัฒนาเมืองเล็กแห่งนี้อย่างจริงจัง,จำนวนหุ้นของเขาเองก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆกลายเป็น 70-80 เปอร์เซ็น,ส่วนเปอร์เซ็นของเผ่าคนแคระเองก็ลดลงเหลือ 20 กว่าเปอร์เซ็นเท่านั้น,ยิ่งฉู่เทียนลงทุนในเมืองเล็กมากเท่าไหร่,ตำแหน่งเจ้าเมืองนี้ ช่างเป็นเรื่องที่ถูกจังหวะและขั้นตอนโดยแท้.

ซึ่งก็กระตุ้นให้เหล่าคนแคระต้องจ่ายเงิน,ลงทุนมากขึ้นและก็มากขึ้นตามไปด้วย.

อย่างแรกการลงทุนในการสร้างความปลอดภัย,นับว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน!

เรื่องต่อมาคือประสิทธิภาพของรายได้ที่จะได้รับนั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในอนาคต,เผ่าคนแคระที่มีหุ้นในเมืองเล็กออเตอแมนนั้น,ไม่ว่าจะได้รับมากเท่าไหร่พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะจะได้รับเงินปันผลอยู่แล้ว,นอกจากนี้เมืองเล็กแห่งนี้ยังมีการแบ่งปันสัดส่วนที่ชัดเจนไม่ว่ามูลค่าของหุ้นจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ก็ตาม,ดินแดน 40 เปอร์เซ็นต์นั้นถูกกำหนดให้เป็นของเผ่าคนแคระไม่เปลี่ยนแปลง,และเผ่าคนแคระยังสามารถใช้อีกดินแดนแห่งนี้หากำไรได้อีกเป็นจำนวนมาก.

ฉู่เทียนที่เป็นเจ้าเมือง.

ในเมือเขาเป็นเจ้าเมือง,แน่นอนว่าจะต้องออกมาจัดการเรื่องความปลอดภัยนี้.

ฉู่เทียนที่กล่าวเสนอต่อเผ่าคนแคระโดยตรง"พวกเราจะต้องหาหุ้นส่วนรวมมือที่ไว้ใจได้,ยิ่งมีพันธมิตรมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี,เมืองเล็กของพวกเรานั้นเติบโตรวดเร็วมาก,ซึ่งยิ่งเติบก็จะต้องยิ่งมีหุ้นส่วนให้มากขึ้นเท่านั้น!"

ฉู่เทียนต้องการให้ทุกคนเข้าใจ.

ป่าแห่งความวุ่นวายนั้น,เพียงแค่หอการค้าปาฏิหาริย์นั้นไม่สามารถที่จะยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้.

หอการค้าปาฏิหาริย์นั้นต้องการที่จะขยายทั้งอิทธิพลและความแข็งแกร่งให้มากขึ้น,ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งมีสัดส่วนของพันธมิตรมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้รับผลประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น,การเก็บเกี่ยวก็จะหลากหลาย,และยังมีช่องทางเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า.

ชัยชนะของพวกเขานั้นได้สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งป่า.

เมืองเล็กออเตอแมนในเวลานี้นับว่ามีชื่อเสียงเป็นอย่างมากทีเดียว.

ตอนนี้ผู้คนมากมายราวกับเข้าใจแล้วว่าทำไมเมืองเล็กออเตอแมนถึงได้อหังการเช่นนี้,ถึงกับกล้าเปิดเผยตัวออกมาอยู่ในที่แจ้งอย่างคาดไม่ถึง,ที่จริงแล้วความแข็งแกร่งของเมืองเล็กออเตอแมนนั้น,บางทีอาจจะก้าวไปอยู่ในกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ที่อยู่รอบๆชายขอบไปเรียบร้อยแล้ว.

กลุ่มอิทธิพลระดับต้นที่มีพลังในการปกป้องดินแดนของตน,ตราบเท่าที่ยังไม่เข้าลึกเข้าไปในป่าเจอกับสุดยอดผู้เชี่ยวชาญ,แม้ว่าจะเผยตัวออกมาก็ไม่มีปัญหา,เพราะในดินแดนรอบนอกนั้นยากที่จะมีใครคุกคามพวกเขาได้,ซึ่งหากว่าเกิดการต่อสู้กับกลุ่มอิทธิพลขนาดในในเขตชายขอบด้วยกันมีแต่จะทำให้สูญเสียทั้งสองฝ่ายโดยไร้ซึ่งประโยชน์,ทำให้ไม่มีใครที่จะคิดเริ่มสงครามขึ้นก่อน.

ในเวลานี้,เมืองเล็กออเตอแมนได้ประกาศ,เสนอหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์สำหรับผู้สนใจเป็นพันธมิตรในครั้งนี้,นับว่าเป็นการประกาศที่ใจกล้ามากที่กล้าเชิญกลุ่มอิทธิพลอื่นๆให้เข้ามาร่วม,เพื่อมาช่วยในการบริหารและปกป้องเมืองออเตอแมนร่วมกันนั่นเอง.

หากก่อนหน้า กระทำเช่นนี้ล่ะก็,แน่นอนว่ามันเป็นแผนการที่เสี่ยงเป็นอย่างมาก!

ป่าแห่งความวุ่นวายนั้น,ต่างก็เป็นที่ชุมนุมของคนที่ร้ายกาจ,ใครจะรู้ล่ะว่าจะมีใครที่ใช้คำว่าพันธมิตร,จงใจเข้ามาเพื่อเอามีดจ่อรออยู่ด้านหลัง?

ตอนนี้ดูจะแตกต่างไปจากเดิม.

ด้วยการต่อสู้เกิดขึ้นถึงสองครั้งในเมืองเล็กออเตอแมน,ที่มีกองกำลังเผ่าแมงมุมที่นับว่ามีความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา,ทุกคนต่างก็พบแล้วว่าเผ่าคนแคระนั้นมีพันธมิตรที่ทรงพลังอยู่.


ตอนนี้ไม่มีใครกล้าท้าทายเมืองเล็กออเตอแมนง่ายๆแน่,เพราะว่าความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นเหนือกว่าผลกำไรที่พวกเขาจะได้รับกลับคืนมา,ยอมที่จะแทะกระดูกดีกว่าแทะก้อนหินที่ไม่มีสารอาหารไม่ดีกว่ารึ?ดังนั้นเมืองเล็กออเตอแมนจึงได้ทำการจัดเตรียมดึงดูดเหล่าผู้มีอิทธิพลกลุ่มต่างๆที่สนใจเข้าร่วม,ต้องไม่ลืมว่าเมื่อสิ่งแปลกใหม่เกิดขึ้นมาในป่า,ทุกคนต่างก็ต้องการรู้จริงๆว่ามีกลุ่มอิทธิพลใดที่ยืนอยู่เบื้องหลังเผ่าคนแคระกัน.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น