วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 328 Malim kills

Miracle Throne Chapter 328 Malim kills

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 328 สังหารหม่าหลีมู่


บทที่ 328 สังหารหม่าหลีมู่




ในเวลานี้ได้ถึงยามค่ำสนธยาแล้ว.

ทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยแสงสลัวปกคลุม,ซ่อนอันตรายไปทุกหนแห่ง,คนทั้งสองที่ได้รับบาดเจ็บ,จึงได้มองหาป่าขนาดเล็กเพื่อพักผ่อนและป้องกันภัย.


ฉู่เทียนที่กลืนยาทิพย์ไปหลายขนานพร้อมกับเริ่มโคจรพลังรักษาอาการบาดเจ็บ,แต่เป็นไปตามคาด,อาการของเขาแย่มาก,เพราะว่าใช้พลังเกินขีดจำกัดร่างกายทำให้ได้รับบาดเจ็บไปจนถึงเส้นปราณ,ด้วยการต่อสู้ที่หนักหน่วงนั่น,ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสทีเดียว,ถึงจะรักษาอย่างจริงจัง,เกรงว่าสิบวันก็ยังไม่หาย,บางทีอาจจะเป็นครึ่งเดือน,ถึงจะเริ่มฟื้นตัว,หรืออาจจะเป็นอาการบาดเจ็บเรื้อรังจนยากจะฟื้นร่างกายได้ด้วยวิธีการปรกติ.

เมิ่งชิงอู๋ที่อุ่นอาหารกระป๋องก่อนที่จะส่งให้กับฉู่เทียน."กินซะ!"

เนื้อสัตว์อสูรระดับ 2 ,สามารถทีจะฟื้นฟูร่างกายของผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตได้,ตราบเท่าที่ได้กินอาหารกระป๋องนี้พลังวิญญาณก็จะฟื้นฟูในทันที.

เมิ่งชิงอู๋ที่จ้องมองไปรอบๆ,"จิ้งจอกน้อยล่ะ?"

"ไปทำลายร่องรอยกลิ่นอายของพวกเราที่ทิ้งไว้."ฉู่เทียนที่กินอาหารกระป๋องไป 2-3 กระป๋องและยาทิพย์คอยช่วยพยุง,ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อย"เผ่าเฉวียนหยงเชี่ยวชาญการสะกดรอย,ยิ่งเผ่าหมาป่า,ยิ่งตามกลิ่นได้อย่างยอดเยี่ยม,หากไม่มีจิ้งจอกน้อยคอยลบกลิ่นอายของพวกเรา,ตอนนี้พวกเราคงจะถูกบุกเข้ามาโจมตีไม่หยุดแล้ว!"

เมิ่งชิงอู๋ที่อยากรู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของจิ้งจอกน้อย,"เจ้าตัวเล็กนี้เหมือนว่าจะไม่ธรรมดาเลย,มีพลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,ข้าเห็นมันแปลงกายในวันนี้ด้วย,กลิ่นอายของมันนั้นดูคล้ายเป็นอย่างมาก,บางทีคงจะเป็นสัตว์อสูรบรรพกาลในยุคบรรพกาล."

"สัตว์อสูรบรรพกาลอย่างงั้นรึ?"

ฉู่เทียนรู้ความสามารถของท่านหญิงดี,ด้วยภูติวิญญาณตำราสวรรค์นั้นทำให้นางมีความรู้จากยุคโบราณเป็นจำนวนมาก,ตราบเท่าที่สามารถฟื้นฟูความรู้ที่หลับไหลอยู่ขึ้นมาได้,ต้นตระกูลของจิ้งจอกน้อยที่ฉู่เทียนยังไม่รู้แต่เมิ่งชิงอู๋ต้องรู้เป็นแน่!

จากที่กล่าวมา,สัตว์อสูรบรรพกาลนับว่ามีความแตกต่างจากสัตว์อสูรทั่วไปเป็นอย่างมาก.

สัตว์อสูรเมื่อครั้งบรรพกาลนั้นจะมีเชาว์ปัญญาที่สูงเป็นอย่างมาก,นอกจากนี้ยังมีวิชาอสูรที่แปลกประลาดอีกด้วย,และวิชาที่สามารถสืบทอดผ่านสายโลหิตมาได้,ดังนั้นจิ้งจอกน้อยตนนี้จึงมีความสามารถและวิชาที่ยอดเยี่ยมติดตัวมาด้วย.

ฉู่เทียนที่สอบถามออกไป"ท่านรู้มากเท่าไหร่?"

"ก็ไม่มากนัก,จากความทรงจำที่ถูกสืบทอดมาจากตำราสวรรค์มีอยู่น้อยมาก."เมิ่งชิงอู๋ที่ดูลังเลอยู่ไม่น้อย"ในตำนานยุคปฐมโลกนั้นมียุคบรรพกาลที่มาก่อนยุคโบราณกาล,ซึ่งในยุคนั้นมีเผ่าอสูรมากมาย,รวมทั้งเทพอสูรด้วย,เผ่าผู้นำของเหล่าอสูรนับว่าเป็นตัวตนที่น่าพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก,และมีเผ่าหนึ่งที่มีความสามารถที่โดดเด่น,เผ่าจิ้งจอกอสูรเก้าหาง!"

"จิ้งจอกอสูรเก้าหาง?"

ฉู่เทียนจำได้ดีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หอกคอยฝึกฝนของรัฐกลาง,จิ้งจอกน้อยนั้นสืบสายโลหิตมาจากอสูรบรรพกาลอย่างงั้นรึ?หากว่าสืบทอดสายโลหิตดังกล่าวมาแน่นอนย่อมอธิบายได้ว่าทำไมจิ้งจอกน้อยถึงได้มีวิชาที่แปลกประหลาดอยู่มากมาย!

เมิ่งชิงอู๋เองก็สายหน้าไปมา"ข้าไม่สามารถยืนยันได้ถึงต้นกำเนิดของจิ้งจอกน้อยได้แต่ก็ดูเหมือนว่าต้นกำเนิดมันนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน."

ฉู่เทียนที่คิดใคร่ครวญ.

ร่างหลักของจิ้งจอกน้อยนั้นเป็นจิ้งจอกน้อยอสูรเก้าหาง,ฉู่เทียนที่มีภูติวิญญาณเทพอสูรเก้าดวงเนตร,มีความสัมพันธ์กันหรือไม่,ทั้งสองบางทีอาจจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกัน? ด้วยตัวเลขเก้านั้นอาจเป็นจำนวนที่แข็งแกร่งที่สุดนั่นเอง!

ฉู่เทียนที่ส่ายหน้าไปมาไม่ต้องการคิดอะไรให้มาก,ไม่ว่าจิ้งจอกน้อยจะมีต้นกำเนิดอย่างไร,อย่างน้อยที่สุดตอนนี้ก็ยังเด็กอยู่,ในเวลานี้จึงไม่มีความแข็งแกร่งมากมายนัก,สัตว์อสูรบรรพการนั้นมีอายุขัยที่ยาวนาน,บางทีอาจจะหลายพันปีหรือหมื่นปีในช่วงเวลาเติบโตวัยเด็กของมัน,จะเอาอายุขัยของมนุษย์มาเทียบไม่ได้เลยไม่ใช่รึ? ฉู่เทียนเองก็ได้ไล่ตามความเป็นอมตะเช่นกัน,บางทีอาจจะไม่สามารถค้นพบก็เป็นได้.

ค่ำคืนที่มืดมิด,ความมืดที่ปกคลุมไปทั่วไร้ที่สิ้นสุด.

ในเวลากลางคืนนั้นความหนาวเย็นที่แผ่ซ่านกระจายไปทั่วถึงขั้นวิกฤติเลยทีเดียว,ราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นกำลังปกคลุมคนทั้งสองเอาไว้,เมิ่งชิงอู๋ที่เป็นกังวลว่าจะมีเผ่าเฉวียนหยงจะไล่พวกนางมาทันอีก,ซ้ำยังต้องหวั่นเกรงว่าจะมีอสูรตนอื่นในทุ่งหญ้าบุกเข้ามาโจมตี,ดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะหลับเลยแม้แต่น้อย,ในเวลานั้นมีมือที่ว่างเปล่าโอบมายังไหล่ของเมิ่งชิงอู๋"อย่าได้กังวลไปจิ้งจอกน้อยมีความสามารถที่น่าอัศจรรย์,หากว่ามีสิ่งใดเข้าใกล้,ไม่มีทางหลบรอดสายตาของมันได้แน่นอน,ท่านวางใจพักผ่อนได้เลย."

เมิ่งชิงอู๋นั้นหมดแรงแล้วจริงๆ,ใบหน้าของนางที่ซบลงบนไหล่ของฉู่เทียน,ดวงตาที่ค่อยๆหลับลงพร้อมกับหลับสนิทไป.

ฉู่เทียนเองก็พยายามที่จะโคจรพลังเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง.

กล่าวตามตรงแล้วเมื่อพบวิกฤติก็ต้องพบเข้ากับโอกาส.

ฉู่เทียนที่ฝืนใช้พลังเกินกว่าร่างกายตัวเอง,แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ตามที,ที่จริงแล้วก็เป็นการกระตุ้นร่างกายของเขาอีกอย่างหนึ่งเช่นกัน,หากว่าสามารถรักษาให้หายดีได้แล้ว,พลังฝึกตนของฉู่เทียนจะต้องเติบโตขึ้นมากกว่าเดิม,แม้แต่เกินระดับผู้เชี่ยวชาญเขตแดนดวงจิตปรากฏอย่างไม่ต้องสงสัย.

เมื่อดวงตะวันกำลังเคลื่อนเลื่อนขึ้นเปล่งแสงออกมาช้าๆ,ฉู่เทียนในตอนนี้ยังคงโคจรพลังรักษาร่างกายของตัวเองอยู่,ด้วยการใช้ยาทิพย์ไปเป็นจำนวนมากเพื่อรักษาร่างกาย,แม้ว่าจะไม่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บทั้งหมดได้,แต่ก็ทำให้เขาอาการดีขึ้นอยู่ไม่น้อย,อย่างน้อยที่สุดพลังวิญญาณส่วนหนึ่งในเวลานี้เริ่มฟื้นฟูกลับมาแล้ว,เช่นนั้นก็ทำให้เขาสามารถที่จะใช้ทักษะการต่อสู้ได้,ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวสัตว์อสูรในทุ่งหญ้าขนาดใหญ่แห่งนี้อีก.

เมิ่งชิงอู๋ที่ซบไหล่ของฉู่เทียน,ลมหายใจของนางที่สม่ำเสมอ,ด้วยการได้พักผ่อนเต็มที,ฉู่เทียนที่เขย่าร่างนางเบาๆ,"ท่านหญิง,ท่านหญิง,ดวงตะวันทอแสงแล้ว,ตื่นเถอะ!"

ร่างของเมิ่งชิงอู๋ที่ได้รับความอบอุ่นจากฉู่เทียน,แขนทั้งสองข้างของนางที่คว้าไปที่แขนของฉู่เทียนแน่น,ใบหน้าที่งามงดมีฝุ่นดินโคลนเปอะเปื้อนเล็กน้อยทว่ากับไม่สามารถลดทอนความงามของนางได้เลย,นางยังคงสวยสง่าอยู่เช่นเดิม.

ความงามของท่านหญิงนั้น,ไม่ว่าจะมองมุมใหน,ก็ไม่ทำให้หมองลงเลย.

"งืมมมม!"เมิ่งชิงอู๋ที่ค่อยลืมตาขึ้นมา,ถึงจะเป็นกังวลเล็กน้อย,หากแต่เมื่อคิดว่า,มีฉู่เทียนอยู่,การที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเขาก็ทำให้นางรู้สึกสงบปลอดภัย,คาดไม่ถึงเลยว่านางจะหลับลึกถึงเพียงนี้.

อะไรกันนี้?

นางไม่เคยนอนหลับสดชื่นมาก่อนขนาดนี้เลย,นับตั้งแต่เด็กมานางก็เป็นคนที่ต้องระแวดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา,นอกจากนี้นางยังเป็นห่วงและกังวลอยู่ตลอดด้วย,นอกเหนือจากน้องสาวของนางแล้วนางรู้สึกไม่ปลอดภัยไม่เคยวางใจใครเลย,ถึงแม้ว่าจะเป็นตอนนอนหลับที่บ้านก็ไม่เคยหลับลึกถึงเพียงนี้.

หัวใจของนางในเวลานี้,ไว้วางใจชายคนนี้ถึงเพียงนี้เลยรึ? ด้วยความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เมิ่งชิงอู๋รู้สึกขัดแย้งและสับสนเล็กน้อย,แต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร.

"พวกเรารีบไปกันเถอะ"ฉู่เทียนที่ดูไม่สนใจท่าทางที่ดูครุ่นคิดของเมิ่งชิงอู๋,เมื่อเขาเห็นเมิ่งชิงอู๋ที่ยังคงนั่งอยู่บนพื้น,จึงสอบถามออกไปด้วยความสงสัย"ท่านหญิงมองอะไรอยู่รึ?ไปกันได้แล้ว!"

"เจ้าบอกว่าข้าได้รับเป็นคนเจ็บ,ห้ามให้ข้าใช้ขาไม่ใช่หรอกรึ?"เมิ่งชิงอู๋ที่กล่าวออกมาอย่างมีเหตุผล,พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อน"เจ้าไม่อุ้มข้าแล้วเหรอ!"

理直气壮 ความหมายคือ (lǐ zhí qì zhuàng)มีเหตุผลเต็มที่ที่จะพูดได้เต็มปากเต็มคำ


"เมื่อครั้งท่านหลับ,ข้าได้ใช้พลังวิญญาณของข้าขับพิษกร่อนกระดูกไปแล้ว,ตอนนี้ไม่มีพิษตกค้างแล้ว,และท่านสามารถใช้ขาได้แล้ว,ดังนั้นจึงสามารถเดินได้แล้วนั่นเอง!"ฉู่เทียนที่กล่าวเย้าแหย่"หรือต้องการที่จะเตะก้นข้าอย่างงั้นรึ?พอได้แล้วน่า!"

เมิ่งชิงอู๋พบว่าต้นขาของนางมีผ้าพันแผลพันไว้แล้ว,รู้สึกเจ็บใจขึ้นมา,ไม่คิดเลยว่าใบหน้าทั้งสองข้างของนางจะร้อนผ่าว,คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น,ภายในใจได้แต่ด่าว่าฉู่เทียน!

โง่จริงเชี่ยว!

อุตสาให้โอกาสแล้ว,ไม่คิดเลยว่าจะปฏิเสธเช่นนี้?คนผีทะเล!

เมื่อจิ้งจอกน้อยกลับมาจากสำรวจ,พวกเขาก็เดินทางไปยังทิศใต้.

หลังจากต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันมา,เหมือนว่าท่านหญิงจะเปิดใจ,รับความสัมพันธ์ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก,อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องทีแปลกมาก,ยิ่งทำตัวออกห่างก็ยิ่งดึงเข้าใกล้,เพียงแค่ผิวเผินนั้นไม่สามารถที่จะมองท่านหญิงได้อย่างชัดแจ้งนัก,โดยปรกตินางจะเป็นหญิงงามที่ดูเคร่งขรึมเก็บอารมณ์,ด้วยความชาญฉลาดเหมือนกับสุดยอดแม่ค้า,ที่ไม่สามารถคาดเดาได้,บางครั้งก็พูดกัดเจ็บรุนแรง,บางครั้งก็อรชรอ้อนแอ้น,บางครั้งก็ยั่วยวนมีเสน่ห์,หญิงงามผู้นี้,ยากที่จะคาดเดาได้จริงๆ.

ความเป็นจริงที่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนั้นเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่,ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาไปมาก,ดังนั้นจึงเห็นได้อย่างชัดแจ้งอย่างรวดเร็ว,หลังจากที่ทั้งคู่เดินทางอย่างเร่งรีบผ่านมาหลายชั่วโม.,พวกเขาก็อยู่ห่างจากเส้นทางไปยังตำหนักจักรพรรดิไม่ถึง 500 ลี้แล้ว,สถานที่แห่งนี้อยู่ในอาณาเขตของตำหนักจักรพรรดิซึ่งนับว่ามีความปลอดภัยอยู่มากเลยทีเดียว,เหล่านักรบเหยี่ยวอสูรในเวลานี้ไม่สามารถที่จะจับพวกเขาได้แล้ว.

ฉู่เทียนที่จ้องมองไกลออกไป,"ใกล้ๆนี้มีกองกำลังลาดตระเวนของตำหนักจักรพรรดิ,เป็นทีมเฝ้าระวังด่านหน้า,ตราบเท่าที่พวกเราหาพวกเขาพบ,พวกเราก็จะได้รับอาชาหรือรถเทียมอสูร,เช่นนั้นก็จะทำให้พวกเราวางใจได้."

ท่านหญิงที่ถอนหายใจยาว"ข้าก็หวังไว้เช่นนั้น!"

การเดินทางด้วยตัวเองนับว่ากินพลังวิญญาณไม่น้อยเลย,ตอนนี้ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นนับว่ามีค่าอย่างที่สุด,หากสามารถประหยัดได้แล้วล่ะก็,การเดินทางด้วยม้านับว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด.

อย่างไรก็ตามขณะที่ทั้งสองรู้สึกผ่อนคลายอยู่นั้น"จิ้งจอกน้อยก็ร้องเตือนออกมาในทันที"คู คู!"

เสียงดังสนั่นข้ามผ่านท้องฟ้ามา,สายฟ้าที่ระเบิดออกมาพุ่งเข้ามาในทันที,เสียงที่พุ่งตัดผ่านทองฟ้ามานั้น,เพียงพริบตาเดียวก็ปรากฏเหยี่ยวยักษ์สีน้ำเงิน,ขนาดตัวยาวกว่าสองจ้าง,ขนทั่วร่างของมันเป็นประกายสีน้ำเงินลู่พุ่งตัดผ่านอากาศ,บริเวณรอบๆของมันมีกระแสไฟฟ้าแปบๆส่งออกมาตลอด,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก.

"ระวัง!"

ฉู่เทียนที่กระโดดกอดเมิ่งชิงอู๋ให้หมอบลงกับพื้น.

พลังสายฟ้าที่รุนแรงกระแทกลงมา,เผาไหม้บริเวณรอบๆให้กลายเป็นตอตะโกไปเลยทีเดียว.

คนทั้งสองสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลดังกล่าวได้,ถึงกับทำให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ,เหยี่ยวสายฟ้าตนนี้มีพลังอย่างต่ำคือระดับปลุกดวงจิตระดับ 9 ขั้นปลายทีเดียว.

จิ้กจอกน้อยที่ยิงฟันให้,ดวงตาเป็นประกาย,ร่างกายที่เปลี่ยนไปดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวในทันที,ร่างกายที่มีขนาดเล็กของมันขยายร่างขึ้นมา,กลายเป็นจิ้งจอกอสูรที่มีขนาดตัวสองจ้าง,หลังจากที่จิ้งจอกน้อยแปลงร่าง,ดวงตาสีเขียวของมันเปลี่ยนเป็นดุร้ายมากขึ้นและก็มากขึ้น,พร้อมกับจ้องมองไปยังเหยี่ยวสายฟ้าที่กำลังร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด,ดวงตาของมันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียว,กระจายออกไปเรื่อยๆ,จนท้ายที่สุดก็กลายเป็นสีเขียวเข้มทั้งลูก.

"ควีกกก!"

เหยี่ยวสายฟ้าที่ร้องออกมาเสียงแหลม,ก่อนที่มันจะค่อยสงบลง,เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าจิ้งจอกน้อยกำลังพยายามควบคุมมันอยู่,อย่างไรก็ตามเหยี่ยวสายฟ้านั้นมีพลังที่น่าหวั่นเกรงจนเกินไป,แม้ว่าจิ้งจอกน้อยจะควบคุมมันได้,แต่ก็ไม่สามารถทำให้มันเคลื่อนไหวไปมาได้,ทำให้เหยี่ยวสายฟ้าหยุดนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับยืนเป็นรูปปั้นไป.

"น่าสนใจ,น่าสนใจ."

"เหยี่ยวสายฟ้านั้นอย่างน้อยที่สุดก็มีพลังปลุกดวงจิตระดับ 9 ขั้นปลาย,น่าประทับใจจริงไม่คิดว่าสัตว์อสูรของเจ้าจะไม่ธรรมดาจริงๆ!"

เมิ่งชิงอู๋ที่พบว่าบนหลังของเหยี่ยวสายฟ้านั้นมันอสูรวิญญาณตนหนึ่ง,อสูรตนนี้รูปร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ทรงพลัง,พร้อมกับกุมดาบยาวสีดำ,ทั่วทั้งร่างกายของเขานั้นมีพลังที่ยิ่งใหญ่จากอเวจีแผ่ซานออกมา.

ดาบเพลิงอเวจี,หม่าลี่มู่!

ผู้เชี่ยวชาญเผ่าเฉวียนหยงเขตแดนภูติแท้!

เขาที่ราวกับว่าเป็นทูตแห่งความมืดที่มาจากนรกอเวจี,ทำให้คนอื่นๆรู้สึกหวั่นเกรง.


หม่าลีมู่ที่เป็นคนกล่าวออกมาก่อน,จับจ้องมองออกไปราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ"พวกเจ้าซ่อนกลิ่นอายได้อย่างยอดเยี่ยม,ทำให้ต้าเหรินต้องค้นหาพวกเจ้าทั้งคืน,หากว่าพวกเจ้าไม่ขยับเผยตัวออกมาเองในตอนเช้า,ถึงแม้ว่าจะเป็นข้าก็ยากที่จะหาพวกเจ้าพบ,พวกเจ้าทำให้ข้าเสียเวลามากไปแล้ว,คิดว่าจะต้องชดใช้ขนาดใหนกัน?"


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น