วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 68 Ten thousand corpse ancient grave

Miracle Throne Chapter 68 Ten thousand corpse ancient grave

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 68 - สุสานศพทมิฬหมื่นปี


บทที่ 68 - สุสานศพทมิฬหมื่นปี




ชายชราหน้ากากผีนั้นมีพลังฝึกตนที่ลึกล้ำ,เปรียบกับหนานกงอี้แล้ว,คงจะต่างกันไม่มากนัก.


ฉู่เทียนที่ล้มไป๋จื่อหลง,นั่นก็เพราะว่าเขาประสบโชคด้วยเหมือนกัน,หากว่าเป็นผู้ฝึกตนดินแดนปลุกดวงจิตอย่างเช่นผู้อาวุโสหน้ากากผีล่ะก็,อย่าคิดว่าเขาจะสามารถคาดหวังใดๆได้เลย.


ผู้อาวูโสหน้ากากผีหากไม่มีจุดประสงค์อะไรคงไม่มาหาเขาแน่.


เขามาด้วยตัวเองไร้ซึ่งองค์รักษ์ป้องกัน!



อย่างไรก็ตามแค่คิดว่าชายชราหน้ากากผีนั้นทางพลังเพียงใด,หากเขาลงมือล่ะก็,ในตลาดมืดแห่งนี้มีน้อยคนนักที่จะสามารถต้านเขาได้,จะมีใครที่กล้าลอบทำร้ายเขาล่ะ?


เมื่อประตูเปิดขึ้น,ชายชราหน้ากากผีก็ยืนอยู่หน้าลานที่พัก,เขายืนหลังค่อม,พร้อมกับพยุงไม้เท้าเหล็ก,สำหรับคนทั่วไปแล้วดูเหมือนกับว่าอาการเขาไม่ดีนัก,ทว่ากับผู้ฝึกตนแล้วกลับรุ้สึกได้ถึงกับความล้ำลึก.


ชายชราหน้ากากผีนั้นดวงตาลุกโชนเป็นประกาย,"มีพลังฝึกตนดินแดนปรุงร่างระดับ 9 กับสามารถสังหารผู้ฝึกตนดินแดนปลุกดวงจิตได้,ภายในอาณาจักรต้าโจวของข้าก็ยังนับว่าหายาก,อาวุโสเช่นข้ามองข้ามเจ้าไป,อย่าได้ถือสา."


"ท่านอาวุโสกล่าวหนักเกินไปแล้ว,ไม่ทราบว่าท่านมีสิ่งใดจะชี้แนะอย่างงั้นรึ?"


"ชีแนะคงมิกล้า,ทว่าข้าคิดว่าหากเจ้ายังอยู่ภายในอาณาจักรหนานเซียแห่งนี้คงน่าเศร้านัก,คงจะดีหากเจ้าเดินทางไปยังอาณาจักรต้าโจว,ข้าสามารถแนะนำเจ้าเพื่อเข้าสำนักได้,ด้วยความสามารถที่เจ้ามีย่อมสามารถที่จะฝึกฝนบำเพ็ญพลังได้เต็มความสามารถของเจ้าได้!"


"ความปรารถนาดีของผู้อาวุโสนั้น,ผู้เยาว์คงรับได้แต่เพียงน้ำใจ."ฉู่เทียนขมวดคิ้วแน่น,พร้อมกับปฏิเสธด้วยความฉลาด"ทั้งนี้,ด้วยผู้เยาว์นั้นเป็นเพียงคนเถื่อน,หากเร่งรีบก้าวออกไปภายนอก,แทนที่จะทำให้ตัวเองพัฒนา,อาจจะเป็นเหตุให้ฝึกฝนได้อย่างยากลำบากกว่าเดิมก็เป็นได้."


ชายชราหน้ากากผีนั้นเป็นอาวุโสจัดการงานระหว่างอาณาจักร,รับผิดชอบเกี่ยวกับการค้าขาย,จัดการธุรกิจของนิกาย.


คำพูดที่เขากล่าวออกมานั้นอาจจะกล่าวออกมาเล่นๆก็ได้.


ไม่ได้จริงจังมากนัก.


"ก็ดี,ความทะเยอทะยานของแต่ล่ะคนนั้นต่างกัน,ข้าย่อมไม่บังคับเจ้า."ชายหน้ากากผีกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ชัดถ้อยชัดคำ,พร้อมกับแสดงท่าทางปรารถนาดีพร้อมกับเริ่มเผยจุดประสงค์ที่แท้จริง"ชายแก่คนนี้ต้องการที่จะชวนเจ้าเข้าร่วมภารกิจบางอย่าง,ไม่รู้ว่าเจ้ามีความสนใจหรือไม่?"


"เป็นภารกิจแบบใดกันรึ?"


"ซากโบราณสถานศพทมิฬหมื่นปี!"

เหมือนว่าฉู่เทียนจะได้ยินเรื่องราวดังกล่าวจากภายในตลาด.


สถานที่แห่งนี้ที่ครั้งนี้มีนิกายทรงพลังครอบครองอยู่,พวกเขาที่เป็นคนปลุกศพทมิฬขึ้นมา,ก่อร่างสร้างกองกำลังศพทมิฬ,ขึ้นปกครองแผ่นดินส่วนหนึ่ง,หลายพันปีมาแล้ว,สำนักแห่งนี้ต้องประสบเหตุการณที่ไม่คาดฝัน,ล่มสลายภายในพริบตา,ทว่าเหล่าศพทมิฬมากมายที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมายังคงถูกผนึกไว้อยู่,และส่วนมากที่มีอายุหลายพันปีซึ่งอยู่ในสุสานนั่นเอง.


ชายชราคนนี้ไม่ใช่ว่าต้องการที่จะทำอันตรายข้าหรอกรึ?


มีศพทมิฬหลายพันปีที่ถูกผนึกเอาไว้ภายในสุสานโบราณ!


ใครจะรู้เล่าว่าภายในจะเป็นอสูรที่ที่น่าสะพรึงกลัวเพียงใดที่ถูกผนึกเอาไว้!


อาจจะต้องพบเข้ากับอสูรที่มีอายุหลายพันปีในนั้นก็ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร!


ชายหน้ากากผีเหมือนจะคาดเดาความคิดของฉู่เทียนได้"ศพทมิฬพันปีนั้นอยู่ในเขตของสำนักโบราณ,เพื่อป้องกันการก่อกบฏของศพทมิฬ,พวกเขาได้วางค่ายกลเอาไว้,ถึงจะมีศพทมิฬมากมายในสุสาน,ตราบเท่าที่มันยังไม่ออกจากสุสาน,แน่นอนว่ามันจะมีพลังเพียงแค่ผู้ฝึกตนดินแดนปลุกดวงจิตหรือต่ำกว่า,เจ้าไม่จำเป็นต้องหวั่นเกรงว่าจะไม่สามารถจัดการมันได้."


ภายในใจของฉู่เทียนเองก็ยังคงสงสัยอยู่เล็กน้อย.


มันคงไม่ง่ายดายถึงเพียงนั้นที่จะเชื่อใจคนอื่น.


ฉู่เทียนไม่ใช่ผู้เยาว์ธรรมดา,เขาสามารถตระหนักได้ถึงอันตราย,เขาจำเป็นที่จะต้องระวังตัวเอาไว้!


ไฉ่เตี๋ยกล่าวออกมาเบาๆ,"ข้าเคยได้ยินมาเช่นกัน,พลังหยินภายในนั้นรุนแรงมากและยังมีค่ายกลที่จำกัดพลังเอาไว้ด้วย,ไม่เพียงแค่พลังเหล่าศพทมิฬที่ถูกจำกัดพลัง,ผู้ฝึกตนทั้งหมดก็ถูกจำกัดพลังด้วยเช่นกัน,เหล่าผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตก็จะเหลือเพียงขั้นปรุงร่างเท่านั้น,ดังนั้นภายในสุสานดังกล่าวนั้น,ทุกคนจะมีพลังเพียงดินแดนปรุงร่างเท่านั้นเอง!"


ใช่แล้ว?

มันมีความหมายเช่นนี้นั่นเอง.

ฉู่เทียนที่นำมือท้าวคางตัวเองเพื่อคิดใครครวญอย่างใจจดใจจ่อ.    


ภายในเขตของสุสานพลังถูกจำกัดเอาไว้,มีความแข็งแกร่งเท่าไหร่ก็ไร้ประโยชน์,ตราบเท่าที่เข้าไปในสุสานโบราณแล้ว,ถึงจะเป็นคนที่มีพลังดินแดนปรุงร่างก็เปี่ยมความสามารถได้.


หากเป็นฉู่เทียนที่เข้าร่วมแย่งชิงกับเหล่าผู้ฝึกตนล่ะก็,ย่อมสามารถได้ผลประโยชน์จำนวนมากภายในสุสานโบราณแน่นอน!ถึงแม้ว่าภายนอกผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตจะน่าพรั่นพรึงก็ตามที,หากแต่อยู่ภายในสุสานแม้แต่ภูติวิญญาณยังไม่สามารถนำออกมาใช้ได้เต็มทีเลย,พวกเขาย่อมไม่มีความสามารถพอที่จะจัดการฉู่เทียนแน่นอน.


ฉู่เทียนสอบถามออกไป,"ท่านต้องการให้ข้าทำอย่างไรล่ะ?"

"ร่วมมือ!"ชายชราหน้าการผีตอบกลับ,"ข้าต้องการบางสิ่งภายในสุสานโบราณนั่น,ตราบเท่าที่เจ้าช่วยข้าให้ได้สิ่งนั้น,เจ้าสามารถบอกสิ่งที่เจ้าต้องการมาได้."


ฉู่เทียนสอบถามออกไป,"ท่านต้องการสิ่งใดล่ะ?"


ดวงตาของชายชราหน้ากากผีถึงกับลุกวาว,"แก่นหยินของราชันย์ศพทมิฬ!"


ฉู่เทียนที่หายใจอันเย็นเยือบเข้ามา!


ราชันย์ศพทมิฬอย่างน้อยที่สุดต้องมีอายุมาหลายพันปีแล้ว!


หากว่าราชันย์ศพทมิฬหลุดออกมาด้านนอกล่ะก็,ถึงจะมีผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตกี่คนก็คงไม่เพียงพอ!


ฟังจากน้ำเสียงของผู้อาวุโสหน้ากากผีแล้ว,ต้องการที่จะเข้าไปในสุสานนั้นคาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นการไล่สังหารราชันย์ศพทมิฬนั่นเอง!


ชายชราหน้ากากผีกล่าวออกมาว่า"ถึงแม้ว่าจะเป็นราชันย์ศพทมิฬก็ตาม,ด้วยผนึกอาคมภายในสุสานดังกล่าวนั้น,ความแข็งแกร่งของมันย่อมถูกยับยั้งอยุ่แค่เพียงระดับปลุกดวงจิต,อย่างไรก็ตามร่างของราชันย์ศพทมิฬนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,ถึงแม้ว่าจะถูกผนึกอยู่ก็ตาม,ไม่สามารถที่จะจัดการได้อย่างง่ายดาย,ความแข็งแกร่งของเจ้านั้นมีเพียงพอที่จะจัดการผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตได้,ถึงจะมีคนมากมายเข้าร่วมการชิงชัยครั้งนี้ก็ตามที,ตราบเท่าที่พวกเราร่วมมือกัน,ข้าคิดว่ามันคงจะเพียงพอย่างแน่นอน."



ฉู่เทียนเริ่มชั่งน้ำหนักความเสี่ยง.


ราชันย์ศพทมิฬใช่ว่าจะจัดการได้อย่างง่ายดาย!


อสูรที่อยู่ในระดับเช่นนั้น,ย่อมมีเชาว์ปัญญาที่ฉลาดล้ำ,ซ้ำยังมีพลังฝึกตนของอสูรที่แข็งแกร่ง,ถึงแม้ว่าจะถูกผนึกเอาไว้ยังไงก็อาจจะไม่เพียงพอ,ถึงเป็นฉู่เทียนก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถล้มมันได้.


"ข้าจะสามารถเชื่อใจท่านได้อย่างไร?"


"นอกจากข้าจะเป็นผู้ฝึกตนแล้ว,ยังเป็นพ่อค้าด้วย,นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าเดินทางมายังอาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้,และมันก็จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายด้วย."ชายชราหน้ากากผีกล่าวอย่างจริงจัง"ด้วยเกียรติของที่มีมาหลายปีแล้ว,ข้าไม่จำเป็นต้องหลอกลวงเจ้า."


เกียรติ?

!

จะให้บิดาผู้นี้เชื่อในสิ่งที่เรียกว่าเกียรตินี้นะ,เช่นนั้นข้าคงต้องเชื่อสินะ,ว่าชุดแดงในหอนางโลมคือเทพธิดาที่ยังบริสุทธิ์คนหนึ่ง!


ชายชราหน้ากากผีเห็นท่าทางของฉู่เทียนที่ยังลังเล,ทันใดนั้นเขาก็วางเดิมพันทันที"ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น,ข้าจะมอบผลไม้ทารกวิญญาณให้กับเจ้า!"


ผลไม้ทารกวิญญาณนั้นเป็นสิ่งของจำเป็นเร่งด่วนในตอนนี้.


ด้วยเงื่อนไขของชายชราหน้ากากผีแล้ว,ทำให้ฉู่เทียนนั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.


"ผลไม้ทารกวิญญาณเพียงผลเดียวคงไม่เพียงพอ,ข้าต้องการสามผล!"


"ตกลง!"


ฉู่เทียนยังคงกล่าวต่อชายชราหน้ากากผี"สิ่งที่เก็บเกี่ยวได้ภายในสุสานโบราณ,ข้าจะต้องได้มันมาครึ่งหนึ่ง!"


ชายชราหน้ากากผีถึงกับจ้องมองไปมา"เจ้าไม่คิดว่ามันมากจนเกินไปรึ?"


ฉู่เทียนกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล"คนที่ทำงานได้มากที่สุด,สมควรที่จะได้รับ,ข้าไม่คิดรึว่าหากท่านมีพลังต่ำกว่าระดับปลุกดวงจิต,ถึงเป็นท่านก็ไม่สามารถชนะข้าได้."


เป็นเด็กที่โอหังยิ่งนัก!


หลายปีมาแล้วไม่มีใครกล้าพูดจาเช่นนี้กับข้า!


แม้ว่าฉู่เทียนจะต้องการที่มากเกินไป,ทว่าหากคิดเกี่ยวกับสิ่งดังกล่าวแล้ว,ชายชราหน้ากากผีเองรู้สึกมั่นใจในตัวของฉู่เทียน,ตอนนี้เขาเองก็จำเป็นต้องได้รับแก่นหยินพันปีเพื่อมาใช้ในการทะลวงสภาพคอขวดของเขา,หากว่าเขาได้แก่นหยินพันปีมาล่ะก็,จากนั้นก็ไม่ต้องกังวลเลยว่ากำไรหรือผลประโยชน์มากมายที่เขาจะได้รับจากนิกายของเขา!


ผลประโยชน์อื่นใด.


ล้วนแล้วแต่ไม่สำคัญ!


ชายชราหน้ากากผีครุ่นคิดไปหลายนาทีก่อนที่จะตอบออกไปว่า"ก็ได้,ผลประโยชนที่ได้รับจากการต่อสู้ที่พวกเราร่วมมือกัน,พวกเราจะแบ่งคนละครึ่ง!"


ชายชราหน้ากากผีนี้ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากใหน.


อย่างไรก็ตามฉู่เทียนเองย่อมไม่คิดที่จะทิ้งโอกาสนี้ไปอย่างแน่นอน.


อาวุโสหน้ากากผีได้นำเหรียญตราออกมาจากอกเสื้อ"เจ้ามีตราคำสั่งโบราณสถานของไป๋จื่อหลงที่เจ้าเก็บมาอยู่แล้ว,ข้าเองก็มีอยู่ด้วยกันหลายอัน,ภารกิจนี้,เจ้าสามารถนำคนไปด้วย,เจ้าเป็นคนเลือกด้วยตัวเองแล้วกัน."


"ข้าไม่รู้ว่ามีใครอื่นอีกที่มีความสามารถพอ,เหรียญตรานี้มอบให้เจ้าแล้วกัน."ฉู่เทียนที่รับเหรียญตรามาพร้อมกับยื่นให้กับไฉ่เตี๋ย,"สถานที่ดังกล่าวนั้นอันตรายมาก,เจ้าควรที่จะคิดให้ดี!"


"ข้าไป!แน่นอนว่าข้าจะไป!"


ไฉ่เตี๋ยไม่คิดเลยแม้แต่น้อยนางตกลงที่จะเข้าร่วมเสี่ยงภัยกับเขาทันที.


นางเป็นหนึ่งคนที่มีจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยอยู่,เป็นไปได้ไงที่นางจะไม่ยอมรับ.


เพื่อนร่วมทีมที่ฉู่เทียนเลือกนั้นมีพลังความแข็งแกร่งทั่วไปเท่านั้น,ผู้อาวุโสหน้ากากผีเองรู้สึกผิดหวังอยู่เหมือนกัน,ทว่าเขาก็ไม่ได้กล่าวออกไป,ต้องไม่ลืมว่าเหรียญตราที่มอบให้ฉู่เทียนนั้น,เป็นเขาที่ต้องการให้นำคนไปช่วยเพิ่มเท่านั้น.



"เหตุการณ์เมือวานที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งหุบเขานั้น,เป็นเหตุให้สุสานโบราณศพทมิฬหมื่นปีเปิดขึ้นมาก่อนกำหนด,เรื่องนี้จะล่าช้าไม่ได้,พวกเรารีบเตรียมตัวเลย,ทันทีที่พร้อมก็จะออกเดินทางทันที,เพื่อหลีกเลี่ยงคนอื่นๆไล่ตามพวกเราไป!"


"ก็ดี!"


ศพทมิฬหมื่นปีในสุสานโบราณนั้นไม่รู้ว่ามีประวัตศาสตร์อย่างไร,ลำพังเพียงสุสานโบราณที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่นั้นก็มีอายุหลายพันปีแล้ว.


สถานที่แห่งนี้เป็นเขตของสำนักโบราณ.


แน่นอนว่าต้องมีสมบัติล้ำค่ามากมายหลากหลายฝังอยู่.


ฉู่เทียนนั้นไม่หวาดกลัวในการท้าทาย,ยิ่งเสี่ยงเท่าใด ผลที่ได้กลับมานั้นยิ่งคุ้มค่า!


เพราะว่าสุสานโบราณนั้นเปิดออกมาอย่างไม่คาดฝัน,ไม่มีเวลาให้เตรียมตัว,ฉู่เทียนและไฉ่เตี๋ยช่วยเซี่ยงหู่รักษาแผลเสร็จก็เริ่งรีบตามผู้อาวุโสหน้ากากผีไปในทันที.


ชายชราหน้ากากผีได้นำลูกน้องไปด้วยสองคน,พวกเขาทั้งสองนั้นมีร่างกายใหญ่โต,สวมชุดคลุมยาวสมส่วน,พร้อมกับสวมใส่หน้ากากคล้ายกัน,คนหนึ่งสวมหน้ากากเปลวเพลิง,อีกคนสวมหน้ากากน้ำแข็ง.


"คนนี้มีนามว่า เหยี่ยน โก่ว!"


"อีกคนนั้นมีนามว่า ปิงโม่!"


"พวกเขาทั้งคู่นั้นเป็นฝาแฝดกัน,เป็นศิษย์หลักของนิกาย,ตอนนี้ข้าได้นำพวกเขามาหาประสบการณ์."


ชายชราหน้ากากผีแนะนำตัวพวกเขา.

ฉู่เทียนสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แข็งแกร่งของพวกเขาได้,น่าจะเป็นผู้ฝึกตนเขตแดนปลุกดวงจิตระดับ 1 ,ความสามารถในการต่อสู้เองก็ไม่น่าจะด้อยไปกว่าไป๋จื่อหลง.


แม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นท่าทางของพวกเขาด้วยมีหน้าการสวมอยู่,ทว่าดูแล้วจะยังไม่แก่เท่าไหร่นัก,สมแล้วที่เป็นคนของนิกายจากอาณาจักรต้าโจว,ผู้เยาว์ทั้งคู่นั้นต่างก็สามารถทะลวงไปยังดินแดนปลุกดวงจิตได้แล้ว.


สองพี่น้องเหยี่ยนโก่วราวกับกว่าไม่อยากจะกล่าวอะไรออกมา,ทว่าก็หันหน้ามาสบตาฉู่เทียนหนึ่งครั้ง,แม้ว่าพลังฝึกตนของฉู่เทียนจะไม่สูง,ทว่ากับสามารถสังหารไป๋จื่อหลงได้,ด้วยทั้งสองเองก็ได้ยินมาเช่นกัน,ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่กล้าที่จะเหยียดหยันเขา.


"ไปกันได้แล้ว!"


พวกเขาทั้งห้าได้ออกจากค่ายแล้ว.


พวกเขาพบเข้ากับเหล่าศพทมิฬมากมายระหว่างทาง,หลายร้อยตนเลยก็ว่าได้,ทว่าด้วยการมีผู้อาวุโสหน้ากากผีที่เป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอด,และยังมีสองพี่น้องเหยี่ยนโก่วและปิงโม่มาด้วย,เหล่าศพทมิฬเหล่านั้นไม่สามารถที่จะขวางทางพวกเขาได้เลย,พวกมันทั้งหมดถูกจัดการลงอย่างรวดเร็ว.


พวกเขาทั้งห้าได้เข้ามาในอาณาเขตซากสำนักโบราณเรียบร้อยแล้ว.


"สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของสำนักโบราณมาก่อนอย่างงั้นรึ?"ไฉ่เตี๋ยอยากรู้อยากเห็นจ้องมองไปรอบๆ"ช่างดูมโหฬารจริงๆ!หากสำนักแห่งนี้ยังไม่ถูกทำลายไปล่ะก็,จะต้องน่าสะพรึงกลัวอย่างแน่นอน!"


มีแอ่งน้ำที่เจิ่งน้องไปทั่ว,พร้อมกับหมอกควันที่ดำมืดกระจายตัวไปมากมาย,ทำให้บรรยากาศหนักอึ้งเลยทีเดียว!


มีสิ่งก่อสร้างที่หลงเหลืออยู่กลายเป็นซากอยู่ทุกหนทุกแห่ง,สถานที่แห่งนี้เป็นหน้าผาสูงราวๆร้อยเมตร,มีหินผาขนาดมหึมาที่ถูกแกะสลัก,เป็นรูปร่างกระจายตัวไปมากมายนับไม่ถ้วน,พันตัวเห็นจะได้,ตั้งกระจายไปทั่วบริเวณหลายลี้ทีเดียว.


แต่ล่ะรูปสลักหินนั้นมีรูปร่างเหมือนกับภูติอสูรที่ดุร้ายก็ไม่ปาน!


รูปร่างของหินสลักหลายพันตนนั้น,แทบจะไม่มีตัวใหนที่เหมือนกันเลย!


รูปร่างของอสูรแต่ละตนนั้นมีความสูงหลายร้อยเมตรทีเดียว,ดูเหมือนเป็นอสูรที่แข็งแกร่งไร้เทียมทาน,ทำให้คนที่อยู่รอบๆรู้สึกตึงเครียดไปด้วย!


มีตำหนักขนาดมหึมาตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า,ดูเงียบงันตั้งอยู่ลับๆอยู่ลึกเข้าไปในซากปรักหักพัง,ครึ่งหนึ่งถูกสร้างล้ำออกมาด้านนอก,ส่วนอึกครึ่งหนึ่งถูกฝังเข้าไปในภูเขา,มีหมอกทมิฬสีดำที่ปกคลุมไปรอบๆ,ซึ่งมีกลิ่นอายแห่งความตายถูกแผ่ออกมาไม่หยุด.

วูซซ!

วูซซ!


วูซซ!


มีเหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่เดินทางเข้ามายังสถานทีแห่งนี้,พวกเขากระโดดไปมาก่อนที่จะร่อนลงมายังสถานที่ดังกล่าว,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าด้านหน้านั้นเป็นทางเขาสุสานโบราณศพทมิฬหมื่นปี.


ชายชราหน้ากากผีได้นำคนทั้งสี่เข้าไปในตำหนักดังกล่าวที่เป็นทางเดินที่กว้างขวางลึกเขาไปด้านใน,ที่ใจกลางนั้นมีรูปปั้นภูติปิศาจสูงหลายเมตร,ดูน่าเกียจน่ากลัว,กำลังโผล่ขึ้นมาจากพื้นมีแขนทั้งแปดที่ยื่นออกมาจากร่างของมัน.


มีผู้ฝึกตนกว่าร้อยคนที่เดินทางมายังที่แห่งนี้,กระจายตัวออกไปรอบๆรูปปั้นดังกล่าว,บางคนนั่งอยู่บนเสา,พร้อมกับนั่งรอคอยอย่างเงียบๆรอคอยให้สุสานโบราณดังกล่าวเปิด.


ชายชราหน้ากากผีและเหล่าสมาชิกต่างก็กระโดดขึ้นไปบนเสาหยกต้นหนึ่ง,ก่อนที่จะนั่งสมาธิพักรอเวลา.


ชายคนหนึ่งที่ดูหัวล้านร่างกายใหญ่ยักษ์แค่นเสียงออกมาอย่างเหยียดหยัน"ไม่ใช่ผู้เฒ่าหน้ากากผีหรอกรึนั่น?"


"ที่นี่เป็นซากปรักหักพังของอาณาจักรหนานเซี่ยของพวกเรา,คนของอาณาจักรต้าโจวยังต้องการส่วนแบ่งอย่างงั้นรึ?"ชายวัยกลางคนที่ยืนเด่นเป็นสง่า,คนๆนี้ยืนอยู่ใจกลางตลาดมืด,ที่ตระหนักได้ถึงเหตุการณ์ลึกลับจากฝีมือของฉู่เทียนได้.


"บัณฑิตวิญญาณหยางคุน,กระบี่วายุน้ำแข็ง,หว่านอู๋ยี่?"ชายชราหน้ากากผีกวาดตามองไปยังคนทั้งสอง,มีประกายแสงหวั่นเกรงอยู่เล็กน้อย"สมบัติที่ถูกฝังอยู่ในโลกแห่งนี้,ไม่มีใครที่เป็นเจ้าของ,เจ้าสามารถมาได้,ทำไมข้าจะไม่สามารถเข้าไปค้นหาได้ล่ะ?"


ใบหน้าของไฉ่เตี๋ยเปลี่ยนเป็นซับซ้อน"หยางคุนและหว่านอู๋ยี่?"


ฉู่เทียนสอบถามด้วยความอยากรู้,"เจ้ารู้จักพวกเขาอย่างงั้นรึ?"


ไฉ่เตี๋ยพยักหน้าเบาๆ,"พวกเขาทั้งสองนั้นเป็นผู้ฝึกตนเร่ร่อนที่มีชื่อเสียงที่สุดในรัฐกลาง,ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นลึกล้ำ,บิดาของข้าเคยชักชวนพวกเขามาทำงานด้วย,ทว่าก็ไม่สำเร็จ."


ฉู่เทียนขมวดคิ้วเป็นเลขแปดที่เดียว.


พวกเขาทั้งคู่ต่างก็มีพลังที่แข็งแกร่งจริงๆ.


บัณฑิตวิญญาณและมือกระบี่วายุน้ำแข็ง,พวกเขาทั้งคู่ต่างก็นับว่ามีชื่อเสียง,บิดาของไฉ๋เตี๋ยต้องการให้พวกเขามารับใช้อย่างงั้นรึ?แล้วบิดาของนางนั้นเป็นใครกัน!



ชายหัวล้านหยางคุนหัวเราะออกมาเสียงดัง"ก็ดีคนที่มีความสามารถก็ย่อมได้ครอบครองมัน!ข้าบอกพวกเจ้าไว้ก่อนเลยว่าภายในสุสานแห่งนี้นั้นมีศพทหารชั้นยอดที่หลับไหลอยู่,หากว่าใครก็ตามที่ได้รับอะไรมาจากศพทหารตนนั้น!ข้าหยางคุนคนนี้จะรับมันมาใช้เอง!"



ชายวันกลางคนที่ยืนอยู่อย่างสุขุม,กล่าวออกมาอย่างใจเย็น"ศพทหารรึ?ไม่เห็นน่าสนใจ!ข้าต้องการกระบี่อเวจี!ใครกล้ามาฉกฉวยจากข้าล่ะก็,ข้าจะขอรับชีวิตมันไปด้วยเลย!"


"ฮ่า ฮ่า!"


ที่ได้นอกเองก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาทันที,ดังขึ้นและก็ดังขึ้น,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนผู้นี้มีพลังฝึกตนที่ไม่ธรรมดา.


"สุสานโบราณยังไม่เปิดด้วยซ้ำกลับเริ่มแบ่งสมบัติกันแล้ว,เจ้าไม่คิดว่ามันน่าหัวร่ออย่างงั้นรึ!"


เห็นได้ชัดเจนเป็นหญิงสาวนางหนึ่ง,แม้ว่าจะได้ยินเพียงแค่เสียงที่น่ารื่นรมก้องอยู่ในหูก็ตามที,ทว่ากลับแหลมลึกบาดแก้วหูเป็นอย่างมาก,นอกจากนี้ยังแฝงด้วยท่าทางยโสโอหังอีกด้วย,ต้องไม่ใช่หญิงสาวธรรมดาอย่างแน่นอน.


มือกระบี่วายุน้ำแข็งแสดงท่าทางโกรธเกรี้ยว,"มันเป็นใครกัน!"


พลังสายฟ้ามากมายส่องประกายระยิบระยับ,กลายเป็นอสรพิษมากมายหลายพันตัวที่เลื้อยเข้ามา,บ้างก็กระโดดเหินเข้ามาในห้องโถง,สร้างความตื่นตระหนกให้คนที่อยู่ภายในเป็นอย่างมาก.




สายฟ้ามากมายมหาศาลส่องแสงเจิดจ้ารวมตัวกันขึ้นที่ใจกลางของห้องโถง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะแปรเปลี่ยนเป็นเงาคนในชุดสีม่วงช้าๆ,


หญิงสาวในชุดคลุมสีม่วง,อายุราวๆยี่สิบปี,นางมาในชุดผ้าแพรสีม่วงเฉิดฉาย,ผิวกายที่ดูขาวกระจ่างราวกับหยกสลัก,แตกต่างจากไฉ่เตี๋ยที่ดูสว่างและยั่วยวน,แตกต่างจากหนานกงหยุนที่ตรงไปตรงมา,เหมือนกับเมิ่งชิงอู๋ทว่ากลับไม่เคร่งขรึม,และไม่เหมือนเมิ่งหยิงหยิงที่ดูน่ารักไร้เดียงสา.


นางเป็นหญิงสาวที่อหังการ,ไม่สนใจปลดปล่อยสายฟ้าออกมารอบๆไม่หยุดหย่อน,ดุเดือดเลือดพล่าน,ไม่สอบถามหรือสนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น,นางกระทำไปโดยไม่คิดอะไรเลยแม้แต่น้อย,ด้วยพลังที่มากมายที่พร้อมกดขี่คนทุกคน!


"ไม่ใช่ท่านหญิงหยุนเหยาอสนีบาตม่วง,หนึ่งในสี่ต้าซือแห่งรัฐกลางหรอกเหรอ?"


"บัดซบ,นางก็มาด้วยเหรอ!"


"การช่วงชิงแข็งขันดูเหมือนว่าจะหนักหนายิ่งกว่าเดิมเสียแล้ว!"
„......”




ไฉ่เตี๋ยกล่าวออกมาด้วยเสียงโทนต่ำ"นางเป็นหนึ่งในสี่ต้าซือแห่งรัฐกลาง,นางเป็นหนึ่งในผู้เยาว์มีพรสวรรค์มากที่สุด,อันดับหนึ่ง กระบี่นภา ฉู่ซิงเหอ,รองลงมาก็เป็นนาง แม่นางหยุนเหยาอสนีบาตม่วง,และนางยังเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวในสี่ต้าซือแห่งรัฐกลาง,อย่างไรก็ตามพลังความแข็งแกร่งของนางนั้นล้ำลึกเป็นอย่างมาก,ภูติวิญญาณสายฟ้าที่นางมีเองก็นับว่าหายากเป็นอย่างมาก,สามารถที่จะปลดปล่อยสายฟ้าและประกายแสงออกมาได้ด้วย,นับว่ามีพลังทำลายที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก."


หว่านอู๋ยี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับกล่าวออกมาว่า"เจ้าไม่ได้อยู่รัฐกลางหรอกเหรอ,แล้วมาที่นี่ทำสิ่งใดกัน?"


หยุนเหยานั้นไม่แม้แต่จะมองเขา"พวกผู้ร้ายยังมาได้,ทำไมข้าจะมาไม่ได้ล่ะ?"


หว่านอู๋ยี่ที่เต็มไปด้วยความโกรธ,"เจ้ากำลังพูดอะไร?"



ทั่วทั้งร่างของหยุนเหยามีสายฟ้าปรากฏออกมาส่องประกายวับวาว"มีปัญหาอะไร,มั่นใจแล้วรึที่ต้องการจะหาเรื่องกับข้านะ?"


สี่ต้าซือแห่งรัฐกลางนั้นไม่ใช่ธรรมดา!


แน่นอนว่าพวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่มีพรสวรรค์ที่สวรรค์ประทานมาให้โดยเฉพาะ!


นับตั้งแต่เด็กจนโตพวกเขาต่างก็ได้รับทรัพยากรมากมายจากตระกูลในการฝึกฝน,มีระดับที่สูงกว่าคนทั่วไป,ยากที่จะมีคนกล้าท้าทายพวกเขา,คนที่ท้าทายพวกเขาก็เหมือนกับพวกที่กำลังดื่มน้ำร้อนเข้าไปนั่นล่ะ!


หว่านอู๋ยี่นั้นรู้สึกขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก,ทว่าก็ไม่กล้าที่จะท้าทายอะไร,"ชิ,ข้ามาที่นี้เพื่อหาสมบัติในสุสานโบราณไม่ได้มาจัดการและหาเรื่องกับผู้เยาว์เช่นเจ้า!"


หยุนเหยาแค่นเสียงอย่างเหยียดหยัน"ไม่คิดเลยว่าจะขลาดเขลาขนาดนี้!"


หว่านอู๋ยี้ยังคงสงบเงียบ,แสร้งไม่ได้ยินสิ่งใดทั้งนั้น.


ในเวลาเดียวกัน,ทันใดนั้นหยุนเหยาก็เดินมา,ก่อนที่จะมองไปยังเสาที่ฉู่เทียนและคนอื่นๆนั่งอยู่"ข้าต้องการที่ยืนตรงนั้นพวกเจ้า!ไปให้พ้น!"


ฉู่เทียนถึงกับกำหมัดแน่น.


ผู้หญิงคนนี้มันจะมากเกินไปแล้ว!


หนานกงหยุนถึงจะมีนิสัยไม่ดีนัก,ทว่านางก็รู้จักหนักเบา,รู้จักเหตุและผล,ทว่าหญิงนางนี้นั้นกลับไร้ซึ่งเหตุผลเอาแต่ใจโดยสิ้นเชิง,ไม่รู้จักไว้หน้าใครเลยก็ว่าได้.


"ในเมื่อ,ท่านหญิงอสนีบาตม่วงชอบที่จะนั่งตรงหนี้,พวกเราก็มอบสถานที่แห่งนี้กับนางเถอะ!"


ชายชราหน้ากากผีเองก็ไม่ต้องการที่จะสร้างความขัดแย้งต่อใครทั้งนั้น.

ที่ต้องหวั่นเกรงนางนั้น,ด้วยสถานที่แห่งนี้อยู่ในอาณาจักรหนานเซี่ย,ตระกูลหยุนเองก็นับว่ามีอำนาจทีเดียว.


เหยี่ยนโก่ว,ปิงโม่และผู้เฒ่าหน้ากากผีต่างก็ถอยห่างออกจากเสาต้นดังกล่าว.


หยุนเหยาที่จ้องมองฉู่เทียนที่ไม่ขยับ,ทั่วทั้งร่างของนางปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาในทันที"เจ้ายังไม่ไปอีก,ต้องการให้ข้าส่งเจ้าออกไปอย่างงั้นรึ?"


ไฉ่เตี๋ยที่หวั่นเกรงหยุนเหยา,พร้อมเข้าไปคว้าตัวฉู่เทียน,พลางกระซิบข้างหูเขา,"ผู้กล้าย่อมไม่สร้างเรื่องไร้ประโยชน์ที่ไม่ได้อะไรให้กับตัวเอง,พวกเราไปกันเถอะ!"


หยุนเหยานั้นมีพลังฝึกตนอย่างน้อยก็ดินแดนปลุกดวงจิตระดับ 3 แล้ว!


เป็นความจริงที่ฉู่เทียนไม่สามารถทำร้ายนางได้.


ไฉ่เตี๋ยกล่าวถูกแล้ว.


มันไม่ได้สร้างผลประโยชน์อะไรกับเขาเลย!


มันเป็นเพียงแค่สถานที่รวมตัวกันเท่านั้น!


ชายชราหน้ากากผีเองก็หลบเลี่ยงปัญหาด้วยเช่นกัน.


หยุนเหยานั่งลงบนเสาต้นดังกล่าวโดยไม่ใส่ใจใคร,ทว่านางเองก็จงใจจ้องมองมายังฉู่เทียนด้วยเจตนาหาเรื่องอย่างจงใจ,พร้อมกับกล่าวอย่างโอหัง"เจ้านี่มันตัวเหม็นจริงๆ,เป็นพวกขึ้ขลาดตาขาว,กลับหาญกล้ากระเสือกกระสนที่จะมาแย่งชิงสมบัติกับข้าอย่างงั้นรึ?คาดไม่ถึงเลยว่าเด็กน้อยขนบัวยังไม่ขึ้นเช่นเจ้าจะกล้าขนาดนี้,ข้าว่าทางที่ดีกลับบ้านไปกินนมดีๆซะเถอะ!"


ชายชราหน้ากากผีนั้นเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังทีเดียว.


ด้วยความคิดที่เขาต้องการฉู่เทียนที่มีพรสวรรค์ที่หายากแล้ว,การค้นหาสมบัติในครานี้มีโอกาสสำเร็จได้ถึงเก้าสิบเปอรเซ็นทีเดียว.

ตอนนี้เกรงว่ามันจะไม่ง่ายอย่างที่เขาได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว!


บัณฑิตวิญญาณและนักดาบวายุน้ำแข็ง,ชายชราหน้ากากผี,ท่านหญิงอสนีบาตม่วง,ทั้งสี่นี้คือคนที่มีพลังความแข็งแกร่งที่สุด,ใครจะรู้ล่ะในกลุ่มของคนจำนวนมากอยู่ตอนนี้ยังมีคนที่น่าสะพรึงกลัวได้ซ่อนตัวอยู่อีกหรือไม่!


การล่าสมบัติในครั้งนี้เกรงว่ามันจะไม่ง่ายอย่างที่คิดแล้ว.


ใบหน้าสายตาของฉู่เทียนจ้องมองอย่างขุ่นมัวไปยังท่านหญิงอสนีม่วง.

เจ้าเป็นหญิงที่หยิ่งเกินไปแล้ว,กล้าที่จะข่มเหงพี่ชายเทียนคนนี้เรอะ,รอก่อนเถอะ,อย่าให้ข้าได้เจอเจ้าภายในสุสานแล้วกัน,ไม่ใช่นั้นแล้วข้าจะจัดให้เจ้าอย่างเช้งวับเลย!





ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

6 ความคิดเห็น:

  1. จัดให้สาสมใจไปเลยทีเดียวเชียว

    ขอบคุณผู้แปลมาก ๆ ครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ28 กันยายน 2560 เวลา 15:02

    ปักธงคนเจ็บในสุสานเลยนี่หว่า R.I.P. ล่่วงหน้านะท่านหญิงสายฟ้า

    ตอบลบ
  3. แอดเปลี่ยนเปลี่ยนสามวันสองตอนได้ไหมอ่ะ สองวันหนึ่งตอนแบบนี้ไม่ไหว ใจจะขาดตาย

    ตอบลบ
  4. คนน่าสะพรึงกลัวก็จอมมหาวายร้ายฉู่เทียนนั่งอยู่นั่นงั้ยยย

    ตอบลบ
  5. ข้าจะจับเจ้ามาตีก้นซะ

    ตอบลบ