วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 58 Martial arts contest

Miracle Throne Chapter 58 Martial arts contest

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 58 - แข่งขันการต่อสู้


บทที่ 58 - แข่งขันการต่อสู้



แค่เพียงฉู่เทียนสามารถล้มหลีซางหยุน,ก็ทำให้คนทุกคนต่างเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงอย่างมากแล้ว,แล้วนี่ยังสามารถใช้ยันต์เวทย์ระดับ 1 สังหารผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตต่อหน้าต่อตาพวกเขา,ทุกคนตอนนี้ย่อมรู้สึกหวาดกลัวอย่างแน่นอน.


คนผู้นี้เป็นใครกัน?


ยังกับอสูรที่น่าสะพรึงกลัว!


ผู้ฝึกตนระดับปรุงร่างอันกระจิดริด,ยันต์เวทย์ระดับหนึ่งอันกระจ้อยร่อย,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีพลังทัณฑ์สวรรค์ที่ใช้ข่มขู่พวกเขาได้,สามารสร้างผลกระทบก้องอยู่ในความรู้สึกของพวกเขาไม่รู้ลืม!



ภายใต้พลังแห่งสวรรค์,ความรู้สึกของทุกคนในตอนนี้,รู้สึกหวาดกลัวไปถึงขั้วหัวใจ.


ถึงแม้ว่าจะเป็นหนานกงอี้ที่มีพลังฝึกตนที่ลึกล้ำ,ยังอดไม่ได้เลยที่จะสั่นไหวเช่นกัน,เขารู้สึกเจ็บไปถึงจิตวิญญาณ,ความหนาวเย็นที่แทรกเข้ามาจากอากาศ,พลังทัณฑ์สวรรค์สายฟ้าส่งผลกระทบกับเขาเป็นอย่างมาก,ถึงเป็นเขาบางทีคงยากที่จะหนีพ้น คงต้องถูกสังหารให้ตายไปอย่างโหดร้ายทารุณแน่นอน!


ลวอ ยวังซานได้ตายไปแล้ว !


เขาเป็นถึงเจ้าหน้าที่อาวุโสตรวจการจากรัฐกลางกลับต้องมาตายเช่นนี้!


ก่อนหน้านั้นสิบห้านาทีเขาคงไม่รู้ว่าพระเจ้ากำลังมอบความตายให้กับเขาแล้ว,ลวอ ยวังซานคงได้แต่รู้สึกเสียใจ,เพียงแค่ผู้เยาว์จากตระกูลสามัญชน,เพื่อความโลภอันน้อยนิด,สุดท้ายแล้วเขาจึงได้สูญเสียชีวิตไป!


ใบหน้าของเย่ซ่ง เปลี่ยนเป็นซับซ้อน,ไม่เพียงความหวาดกลัวตื่นตระหนกมันยังแฝงไปด้วยความโกรธอีกด้วย.


แม้ว่าจะได้ประเมินความสามารถของฉู่เทียนไว้สูงแล้ว,แม้ว่าเขาหวั่นเกรงฉู่เทียนจะรอดไปได้,ถึงกับไม่ลังเลที่จะร่วมมือกับกลุ่มอิทธิพลทั้งสี่,ใช้ความแข็งแกร่งที่มีมากมายและทรัพยากรมากมายเพื่อจัดการกับเขาแล้ว.


ผลสุดท้ายไม่คาดคิดเลย.


เป็นเขาเองที่ประเมินฉู่เทียนต่ำจนเกินไป!


ถูเจิ้นเทียนถึงกับหน้าซีดเผือด,ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง,ทุกสิ่งทุกอย่างหายเป็นขี้เถ้าไปหมดแล้ว,เขาตระหนักได้ว่าได้กระทำเรื่องโง่งมครั้งใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว!


โรงงานของตระกูลมูลค่า 1 ล้านเหรียญทอง,คาดไม่ถึงจะหายไปในภายพริบตา!


ฉู่เทียนไม่ต้องการรอคอยต่อไป"ท่านเจ้าเมืองท่านจะไม่กล่าวอะไรสักคำสองคำรึ?"


หนานกงอี้ดูเหมือนว่ากำลังตื่นจากความฝัน,แต่ก็ทนฝืนยิ้มออกมาอย่างข่มขื่น"ท้ายที่สุดแล้วไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกต่อไปแล้ว,การแข่งขันยันต์เวทย์ในครั้งนี้,ฉู่เทียนชนะโดยไม่ต้องสงสัย!"


พรึบๆๆๆ!!!


ฝูงชนระเบิดเสียงพูดคุยกันอย่างเดือดพล่าน!


ในตอนนี้พวกเขาทุกคนค่อยๆฟื้นคืนสติจากความหวาดกลัวและตื่นตะลึง.


"เมื่อสักครู่ข้าไม่ได้ฝันไปสินะ!"


"ทำไมเวลากลางวันถึงได้มีฟ้าาผ่าลงมากลางแจ้งเช่นนี้ได้?"


"ใช่แล้ว,ผู้เชี่ยวชาญดินแดนปลุกดวงจิตที่มาจากรัฐกลางคาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกแยกออกเป็นส่วนไปแล้ว!"


"สมควรที่จะได้รับโทษแล้ว!นี่เขาถึงเรียกว่าสวรรค์ลงโทษ!ใครให้เขาเดินทางมาเมืองเทียนหนานล่ะ,แล้วยังใส่ร้ายผู้เยาว์มากพรสวรรค์ของเมืองเทียนหนานอีก!"


"กล่าวถูกต้องแล้ว!ฉู่เทียนเป็นผู้เยาว์ที่มากพรสวรรค์ที่พันปียากที่จะพบเห็นได้ ตอนนี้เมืองเทียนหนานของพวกเราจะต้องมีชื่อเสียงเจริญรุ่งเรื่องอย่างแน่นอน!"

„......”


ฉู่เทียนที่ล้มหลีซางหยุน,ด้วยความลึกซึ้งของวิชาดังกล่าวนั้นยากเกินกว่าทุกคนจะเข้าใจได้.


ทว่าด้วยการแข่งขันวิชาวงเวทย์อักขระในครานี้,ถึงแม้จะเป็นคนโง่งมเท่าไหร่ยังสามารถเข้าใจได้,ฉู่เทียนที่ปลดปล่อยพลังสายฟ้าถึงสิบสายเหนือล้ำยิ่งกว่ายันต์เวทย์เปลวเพลิงระเบิดของ ลวอ ยวังซานซะอีก


ชัดเจน.


เทียบกันได้อย่างงั้นรึ?


พวกเขาเหล่านั้นได้กล่าวหาว่าฉู่เทียนได้ขโมยเทคโนโลยีอันโง่งมของพวกเขา,สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น,ถามหน่อยเถอะว่าทั่วทั้งอาณาจักรแห่งนี้,จะมีใครกันที่สามารถใช้ยันต์เวทย์ระดับ 1 ,ที่มีพลังทำลายล้างได้ขนาดนี้รึ?


มีแค่เพียงฉู่เทียนเท่านั้น!


พรสวรรค์ที่สูงล้ำเช่นนี้,ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีชื่อเสียงในตอนนี้,อีกไม่นานก็จะเป็นรู้จักไปถึงเมืองหลวงหรือแม้แต่วังหลวง,แล้วเขาก็จะกลายเป็นคนที่อยู่ในระดับต้นๆของอาณาจักรได้อย่างแน่นอน!


คนเช่นเขานี้จะไปขโมยเทคโลยีคนอื่นจริงรึ?


เป็นคำกล่าวหาที่ไร้ยางอายที่สุด!


ก่อนหน้าเป็นเพราะว่าพวกเขานั้นอิจฉาฉู่เทียน,ทว่าภายในใจของทุกคนตอนนี้เปลี่ยนไปโดยสมบูรณ์,ภายในใจของพวกเขาเหลือเพียงแค่ความเคารพและนับถืออย่างสุดซึ้งจากใจ!



เพราะว่าคนยากจนย่อมอิจฉาคนยากจนที่ร่ำรวยกว่า,ทว่าพวกเขาจะไม่อิจฉาเศรษฐีที่ร่ำรวยกว่าอย่างแน่นอน,เพราะพวกเขานั้นอยู่คนล่ะโลกกันนั่นเอง.



เมิ่งหยิงหยิงและเมิ่งชิงอู๋เองมีความรู้สึกมากมายผสมปนเปกันไป,พวกนางทั้งคู่แอบรู้สึกใจหายอยู่เหมือนกัน.


ฉู่เทียนไม่ใช่แค่เพียงบ้าคลั่ง,ทว่าเขายิ่งกว่าบ้าระห่ำซะอีกและยังดูยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก!

ซ่างหลีซิงรู้สึกตื่นเต้นโลหิตสูบฉีดหน้าแดงขวยเขินเป็นอย่างมาก,สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความนับถือ,ราวกับว่าเขาที่ได้เดินทางแสวงบุณได้พบเห็นกับความเชื่อของพระเจ้าแห่งจิตวิญญาณ "เป็นเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!ชายแก่คนนี้ถึงกับอ่อนแรง,หากว่าสามารถได้เรียนรู้ความลึกซึ้งในวงเวทย์อักขระของฉู่เทียนได้สัก 1 เปอเซ็นล่ะก็,ชีวิตนี้หากตายไปก็ไม่เสียดายแล้ว!"


ฉู่เทียนพ่นลมหายใจสองครั้งออกมาอย่างช้าๆ"พวกเจ้าใช้โอกาสไปสองครั้งแล้ว,เหลือโอกาสเดียวที่เหลืออยู่,ยันต์เวทย์,ปรุงยา,หรือมีอะไรอีก,ตราบเท่าที่พวกเจ้าชนะข้าได้หนึ่งครั้ง,การเดิมพันก็ยังมีผล!"


ใบหน้าของเย่ซ่งเปลี่ยนเป็นดำมืดที่เต็มไปด้วยท่าทางหวาดกลัว,เขาไม่รู้จะหาวิธีใดจริงๆที่จะใช้ในการจัดการกับฉู่เทียน.


ทั่วทั้งใบหน้าของฉู่อี้เปลี่ยนเป็นประหลาดใจพร้อมกับขวัญหนีดีฝ่อไปพร้อมกัน,ทำไมฉู่เทียนถึงได้เปลี่ยนไปมากมายถึงเพียงนี้? นอกเหนือจากใบหน้าที่ยังเหมือนกัน,ส่วนอื่นๆนั้นราวกับว่าเป็นคนล่ะคน!


ราวกับว่าเป็นสัตว์ประหลาดที่ถูกห่มด้วยผิวหนังของฉู่เทียน!


คนผู้นี้น่าหวาดกลัวจนเกินไปแล้ว!


หากว่าฉู่เทียนยังมีชีวิตอยู่,เมื่อเขากลับไปยังตระกูลฉู่,เขายังจะสามารถได้รับความเชื่อใจจากตระกูลอีกหรือ? ,ในเวลานี้,ฉู่อี้กลับมีปัญหาใหญ่เข้าซะแล้วและแม้แต่คนของตระกูลหลักอาจจะถูกดึงเข้ามาเกี่ยวพันเรื่องนี้ได้

ฉู่เทียนจะต้องตาย!


หากไม่แล้วเขาคงไม่มีหน้ากลับไปรัฐกลางเป็นแน่!


ฉู่เทียนมีทักษะเกี่ยวกับความสามารถในสายการผลิตที่หลากหลายจนน่าอัศจรรย์,พลังฝึกตนตอนนี้ยังคงอ่อนด้อยอยู่,ซ้ำยังได้รับบาดเจ็บมาจาก ลวอ ยวังซาน จากยันต์ระเบิดใส่คราแรก ก่อนหน้านี้เขาก็พบเช่นกันว่าว่ายันต์เวทย์สายฟ้าแสดงพลังออกมาเพียงแค่ครึ่งเดียว,แสดงว่าเขามีพลังฝึกตนที่อ่อนด้อยเป็นอย่างมาก.


"การแข่งขันรอบที่สาม!"


"ข้าจะเป็นคนแข่งเอง!"

"ข้าจะขอประลองศิลปะการต่อสู้กับเจ้า!"


เป็นคำพูดของฉู่อี้นั่นเอง!


ลีซางหยุนที่เสนอเป็นตัวแทนของตระกูลเย่,ได้รับความพ่ายแพ้ย่อยยับ!


ลวอ ยวังซานที่เสนอตัวเป็นตัวแทนของตระกูลลวอ,ได้รับความพ่ายแพ้ย่อยยับ!


พวกเขาทั้งคู่เป็นผู้ฝึกตนที่ยอดเยี่ยมในดินแดนปลุกดวงจิตกลับได้รับความพ่ายแพ้กลับไป,ทำไมฉู่อี้ถึงได้กล่าวออกมาท้าทายฉู่เทียนอย่างงั้นรึ?


ใครจะรู้ล่ะฉู่อี้ได้ชักกระบี่ออกมาจากเอว,เป็นกระบี่ยาวสามฟุต,ที่เขากุมอยู่ในมือ,พร้อมกับชี้ปลายกระบี่ไปยังฉู่เทียนพร้อมประกาศออกมาเสียงดังด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว"หากเป็นผู้ชายล่ะก็,ยอมรับการท้าทายของข้าซะ!"


"คำพูดที่เจ้าพ่นออกมาเมื่อซักครู่!"ใบหน้าของหนานกงหยุนที่เต็มไปด้วยท่าทางรังเกียจ,"ข้าไม่เคยเห็นใครที่หน้าด้านไร้ยางอายเช่นเจ้ามาก่อนเลย!"


เมิ่งชิงอู๋ที่เดินออกมาเช่นเดียวกัน"เจ้าอ้างว่าฉู่เทียนได้ขโมยเทคโนโลยีของพวกเจ้ามา,ดังนั้นฉู่เทียนจึงได้ให้โอกาสพวกเจ้าในการพิสูจน์.พวกเจ้าพ่ายแพ้ในเทคโนโลยีการปรุงยาในรอบแรก,และพ่ายแพ้ในการใช้วงเวทย์อักขระในรอบที่สอง,ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเจ้าขอแข่งขันศิลปะการต่อสู้อย่างงั้นรึ?สิ่งดังกล่าวนี้มันเกี่ยวข้องกับเทคโนยีลับตรงใหน,ไม่เห็นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีกระทะพลังเวทย์เลยแม้แต่น้อย,เจ้าทำเช่นนี้,ไม่ใช่ว่าจะปัดสวะให้พ้นตัวใช่หรือไม่?"


เมิ่งหยิงหยิงเองก็ประณามออกมาอย่างรุนแรงเช่นกัน"ไอ้เจ้าบัดซบ!เจ้าเพียงต้องการที่จะข่มเหงรังแกฉู่เทียนเพราะว่าพลังฝึกตนเขายังต่ำอยู่!นอกจากนี้ฉู่เทียนยังแทบจะหมดแรงเพราะใช้พลังวิญญาณไปเกือบหมดและได้รับบาดเจ็บอีกด้วย,เจ้าคิดที่จะเอาเปรียบคนอื่น,เจ้าคิดว่านี่เป็นการแข่งขันแบบใดกัน!"


"ใช่แล้ว!"


"ไม่คิดจริงๆเลยว่าผู้เยาว์ตระกูลฉู่ที่เข็มงวดมีชื่อเสียง,กลับมีคนที่น่าละลายถึงเพียงนี้อยู่ด้วย!"

„......”

เหล่าฝูงชนที่มุงดูอยู่ตางประณามกันไปต่างๆนาๆ,พวกเขาที่เคยสนับสนุนก่อนหน้านี้เปลี่ยนมาเป็นต่อต้านอย่างหนัก.


ฉู่อี้ที่เป็นเหมือนกับจอมวายร้าย,ทำให้ทุกคนรู้สึกรังเกียจเป็นอย่างมาก.


เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่เชื่อเหตุผลใส่ร้ายฉู่เทียนว่าทรยศตระกูลและขโมยเทคโนโลยีลับออกมา!


ตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงโห่จากฝูงชน,คำว่าทรยศตระกูลนั้นเชื่อถือไม่ได้แล้ว,เทียบกับฉู่เทียนกับฝ่ายตรงข้าม,ใครกันที่เป็นฝ่ายข่มเหงรังแก?นี่ไม่ใช่เรื่องตลกแล้ว!


การแข่งขันรอบต่อไปนี้,แทบจะไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง!


เย่ซ่งเดินออกมาพร้อมป่าวประกาศเสียงดัง"ฉู่เทียนเป็นคนให้สัญญาเองว่าจะยอมรับการแข่งขันอะไรก็ได้,การแข่งขันศิลปะการต่อสู้,ไม่ใช่การแข่งขันแบบหนึ่งรึไง?นายน้อยตระกูลฉู่เพียงแค่ต้องการขอคำแนะนำจากฉู่เทียน,ทำไมจะไม่อยุ่ในกรอบกัน?"


จะปล่อยให้ฉู่เทียนนำความฉิบหายและอับอายมาทำลายเขามากเกินไปกว่านี้ไม่ได้!


เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันเกินกว่าจะควบคุมได้แล้ว!


ตาย!


ตราบเท่าที่มันตายไป!


คนอื่นๆหรือเรื่องใดก็ไม่สำคัญแล้ว!


ด้วยพรสวรรค์ที่หายากนับตั้งแต่โบราณหากยังเติบโตขึ้นไป,จากนี้ต่อไปผลที่ได้รับจะน่าพรั่นพรึงมากกว่านี้!


ที่จริงแล้วเย่ซ่งต้องการที่จะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเขาเองเช่นกัน,หากแต่ด้วยสถานะของเขาตอนนี้มันไม่สมเหตุสมผล,หากว่าเขาลงมือด้วยตัวเอง,เป็นไปไม่ได้ที่หนานกงอี้จะนั่งอยู่เฉยเป็นแน่.


โอกาสที่เหลืออยุ่หนึ่งเดียวที่จะสังหารฉู่เทียนได้คงมีแค่นี้เท่านั้น,ด้วยฝีมือของฉู่อี้นั่นเอง!


ฉู่อี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้โดดเด่นเท่าใดนักในรัฐกลาง,ทว่าก็นับว่าเป็นหนึ่งในสิบของผู้มีพรสวรรค์เหมือนกัน,ด้วยพลังที่ภูติวิญญาณที่พวกเขาได้รับแล้ว,โดยตระกูลของพวกเขานั้นมีวิชาลับที่เรียกว่า"ปราณลับกระบี่วิญญาณ"นั่นเอง!


ด้วยปราณลับกระบี่วิญญาณ ซึ่งเป็นวิชาลับจากยุคโบราณที่เป็นวิชาที่วิวัฒนาการจากวิชาที่เหลืออยู่,ภายในรัฐกลางนั้นนับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าเลยทีเดียว,เป็นวิชาหนึ่งที่ทำให้ตระกูลฉู่ยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้


ถึงฉู่อี้จะสำเร็จในวิชา ปราณลับกระบี่วิญญาณ เพียงแค่เล็กน้อยก็ตามที,ทว่า พลังในการต่อสู้ไม่น้อยอย่างแน่นอน!


ฉู่อี้กุมกระบี่กล่าวอ้างออกมาเสียงดัง,"มีปัญหาอะไร,ตอนนี้กลับรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างงั้นรึ?"



ฉู่หัวเราะอย่างเหยียดหยัน"เจ้ากับข้านี่นะ,เท่าเทียมกัน,เจ้ากล้าท้าทายข้า,มีสิ่งใดที่ข้าต้องกลัว? แสดงออกมาให้ข้าเห็นถึงทักษะการต่อสู้ของตระกูลฉู่,มันแตกต่างกับข้าอย่างไร!"


ยอมรับการท้าทายจริงๆสินะ!


"ตามที่เจ้าต้องการ!"ฉู่อี้เผยยิ้มอย่างตระกละตระกลาม,ร่างของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร,พร้อมกับกุมกระบี่ลอยขึ้นไปบนฟ้าทันที,พร้อมกับตระโกนลงมาก"กระบี่!"


พริบตาเดียว.


ทันใดนั้นพลังที่มากมายดุดันหนักหน่วงก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของฉู่อี้.


พลังที่คมกริบราวกับคมมีด,กลายเป็นเกรียวคลื่นที่ใหญ่โตโอฬาร,พลังวิญญาณสีขาวถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า,กลายร่างเป็นกระบี่ล้ำค่าสีเขียวที่แหลมคมอย่างคาดไม่ถึง.




ภูติกระบี่!


ตระกูลฉู่นั้นมีวิชากระบี่ที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก,ภายในตระกูลทุกคนต่างก็มีวิชาพลังฝึกตนปราณกบี่เป็นพื้นฐาน,รวมกับภูติวิญญาณกระบี่เฉพาะของแต่ละคน,พวกเขาทุกคนนั้นต่างก็บำเพ็ญตนด้วยวิชา ปราณลับกระบี่วิญญาณ,มีพลังทำลายล้างที่แข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกตนในระดับเดียวกันเป็นอย่างมาก!


แน่นอน,ลำพังภูติวิญญาณกระบี่ของพวกเขา,ก็แตกต่างจากคนทั่วไปแล้ว.



ฉู่อี้ที่ยังไปไม่ถึงดินแดนปลุกดวงจิตนั้น,ภูติวิญญาณจึงยังไม่ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์,จึงสามารถมองเห็นได้แค่เพียงริ้วแสงสีเขียวของกระบี่อย่างเลือนลางเท่านั้น.


สีเขียว,เป็นคุณสมบัติธาตุวายุ!


นั่นคือภูติกระบี่วายุ!


เป็นภูติกระบี่ที่รวดเร็วและคมกริบเหมือนดังสายลม!


"วิชาลับจิตวิญญาณกระบี่ลมกรดเชือดเฉือน!"


ที่มุมปากของฉู่อี้เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มอันเหยียดหยัน,กระบี่ในมือของเขาราวกับได้ผสานเข้ากับภูติกระบี่,พร้อมทั้งแสงสว่างจ้าเป็นปราณกระบี่สีเขียว,พร้อมกับแปลี่ยนเป็นปราณพายุลมกรดหมุนวนรอบๆกระบี่อย่างรวดเร็วและรุนแรง.


"แข็งแกร่งมากมายนัก!"


"ตระกูลฉู่เชี่ยวชาญในเพลงกระบี่จริงๆ!"


กระบวนท่าของฉู่อี้นั้น,ทำให้คนทุกคนต่างสบตากันและกันด้วยท่าทางประหลาดใจ,ภูติวิญญาณและกระบี่ได้รวมตัวกัน,แปรเปลี่ยนเป็นปราณกระบี่ลมกรด,พร้อมที่จะเข้าสังหารศัตรู,ช่างน่ายำเกรง,สมบูรณ์แบบยิ่งนัก!


ด้วยเพลงกระบี่ของตระกูลฉู่,นับว่ามีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก!


ฉู่เทียนจะสามารถป้องกันการโจมตีเช่นนั้นได้อย่างงั้นรึ?


เมื่อไม่กี่วันมานี้,ในงานวันชุมนุม,ฉู่เทียนมีพลังดินแดนปรุงร่างระดับหก,แม้ว่าจะมีทักษะความสามารถที่น่าสะพรึงกลัวก็ตามที,แต่ถึงกระนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าฉู่อี้ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ย่อมพ่ายแพ้และถูกจัดการเพียงกระบวนท่าแรกแน่นอน!


ฉู่เทียนหรี่ตาลงเล็กน้อย,ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดๆ,พร้อมกับปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมาปกคลุมทั่วร่างกายของเขาอย่างเงียบๆ.


ทุกคนต่างก็รุ้สึกประหลาดใจที่ร่างของฉู่เทียนค่อยๆเรืองแสงออกมาอย่างช้าๆ.


ไม่ได้ดูอบอุ่นเหมือนแสงตะวัน,ไม่ได้ดูโดดเดี่ยวเหมือนแสงจันทร์,ดูระยิบระยับเหมือนดั่งแสงดารา,ที่แจ่มจรัสบนท้องฟ้าในเวลาค่ำคืน,ลึกซึ้งและลึกลับ,ที่กำลังปกคลุมจากบนลงล่าง,เหมือนกับแสงที่ฉาบไว้เพื่อป้องกัน,เหมือนกับเสื้อผ้าที่ทำมาจากคลื่นดวงดาราที่แวววาวประสานกันอย่างยอดเยี่ยม.


"นี่มันวิชากายนิรันดรโอบแสงดารา!"


เมิ่งชิงอู๋,หนานกงหยุนและคนอื่นๆนึกขึ้นมาได้ในทันที.


ฉู่เทียนต้องการจะใช้วิชากายนิรันดรโอบแสงดาว,เพื่อป้องกันวิชาลับของตระกูลฉู่อย่างงั้นรึ?


ด้วยวิชากายนิรันดร์โอบแสงดาราที่ฝึกฝันมาไม่กี่วันมานี่เอง,ตอนนี้ยังไม่สำเร็จขั้นต้น สำเร็จดินแดนขนาดเล็กเลยด้วยซ้ำ!


ฉู่อี้ที่ฝึกฝนวิชาปราณลับกระบี่วิญญาณอย่างหนักมาหลายปี,จนเขามีพลังฝึกตนดินแดนปรุงร่างระดับ 9 ขั้นปลายแล้ว,ซ้ำยังมีสายโลหิตที่มีภูติวิญญาณกระบี่อีกด้วย,แทบจะสามารถรวมพลังโจมตีและป้องกันในวิชาที่เขาใช้ออกมาทีเดียว!


จะสามารถป้องกันได้อย่างงั้นรึ?


"อย่าลืมว่า,แก่นของวิชากายานิรันดรนั้น,ไม่ใช่เพื่อต่อสู้,"ทั่วร่างของฉู่เทียนนั้นเต็มไปด้วยแสงดาราระยิบระยับ,ราวกับว่าอยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้า"ลุกโชนขึ้นอย่างต่อเนื่อง,แสงดาราส่องประกายไม่มีหมด,ถึงแม้ว่าจะพบกับการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัว,แต่ก็ปล่อยตัวตามสบาย,เคลื่อนไหวดั่งใจนึก,ไม่ต้องนึกถึงการโจมตีใดๆ,สร้างการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นในทันที."


คาดไม่ถึงเลยว่ากำลังสอนอยู่!


ไม่ได้ให้ความสนใจต่อฉู่อี้แม้แต่น้อย.


ฉู่เทียนที่กำลังพูดอยู่นั้น,บาดแผลที่ได้รับจากลวอ ยวังซานสร้างเอาไว้นั้น,สามารถมองเห็นความเร็วที่ใช้ในการฟื้นฟูได้ด้วยตาเปล่าเลยทีเดียว.




ร่ายกายที่โอบแสงดารานั้นกำลังรักษาบาดแผลของเขาเอง!


ฉู่อี้ที่พยายามกดข่มความโกรธเกรี้ยวที่ไร้ที่สิ้นสุดของตัวเองเอาไว้นั้นตะโกนออกมาเสียงดัง "ต้องการทำให้ข้าได้อายอย่างงั้นรึ? ตายไปซะ!!"


ปราณกระบี่ลมกรดที่พุ่งออกไปเป็นเส้นโค้ง,ทุกหนทุกแห่งรอบๆตัวฉู่เทียนเกินฝุ่นคละคลุ้งไปหมดมีพลังที่มองไม่เห็นพุ่งโจมตีมาไม่หยุด,จนสุดท้ายแล้วแปรเปลี่ยนเป็นปราณกระบี่ขนาดมหึมามีลักษณะเป็นเส้นโค้งพุ่งออกมา,พลังของปราณกระบี่ลมกรดนั้นมีพลังที่ทรงคุณภาพเป็นอย่างมาก,พร้อมที่จะแยกส่วนฉู่เทียนได้ในพริบตาเดียว.


ด้วยปราณกระบี่ดังกล่าวนั้น!


ถึงจะมีพลังวิญญาณของผู้ฝึกตนดินแดนปลุกดวงจิตก็ยากที่จะป้องกันได้!


ลำพัง,ฉู่เทียนมีพลังฝึกตนดินแดนปรุงร่างเท่านั้น!


ฉู่เทียนที่กำลังเผชิญกับปราณพลังที่น่าเกรงขามกำลังโจมตีเข้ามา,คาดไม่ถึงเลยว่าเขาไม่หลบหรือถอยหนีแม้แต่น้อย,แขนทั้งสองข้างกางออกและผลักดันปราณพลังดังกล่าวไปด้านหน้าทันที,คาดไม่ถึงเลยว่าแขนธรรมดาของเขาจะสามารถรั้งปราณกระบี่ที่ทรงพลังเอาไว้.


หอบ หอบ!


ผู้คนมากมายต่างรู้สึกพรั่นพรึง!


คว้าปราณกระบี่ด้วยมือเปล่าอย่างงั้นรึ?


นี่แทบไม่ต่างจากการแส่หาความตาย!


ฉู่เทียนใช้มือทั้งสองข้างคว้าปราณกระบี่เอาไว้ทันที,ทั่วทั้งร่างของเขานั้นแสงดวงดาราที่ส่องประกายระยิบระยับเริ่มไหลมารวมตัวกันที่มือของเขาเรื่อยๆ,มือทั้งสองข้าในตอนนี้กลายเป็นลุกวาวสว่างจ้า,เปล่งแสงออกมาแสบตาไปหมด,ราวกับว่าแขนทั้งสองข้างนั้นถูกฉาบไปด้วยประกายแสงที่สร้างจ้า.


แสงดวงดาราสีน้ำเงินทีทำให้ดวงตาพล่ามัวได้,ทันใดนั้นก็เปื้อนไปยังปราณกระบี่สีขาว,ทำให้ปราณกระบี่สีขาวได้เปลี่ยนไปเป็นสีน้ำเงินไปด้วย.

!


เหมือนกับประกายของแก้วผลึก!


ปราณกระบี่โค้งก่อนหน้านี้พังทลายลงไปในทันที,ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแสงดวงดาราระยิบระยับรุ่งโรจน์,ก่อนที่จะละลายหายไปกับสายลมที่เหลืออยู่บนอากาศ.


"ไม่ต้องขยับเลยแม้แต่น้อย,ไม่จำเป็นต้องสั่งการ,ความตั้งใจในการป้องกันก็จะขับเคลื่อนเอง,เป็นพลังป้องกันระดับพระเจ้าก็ว่าได้!"ทั่วร่างของฉู่เทียนยังคงถูกคลุมด้วยแสงที่รุ่งโรจน์,เขากล่าวออกมาอย่างสุขุม"จุดสำคัญของพลังป้องกันแสงดวงดาราคือย่อยสลาย,ไม่จำเป็นที่ต้องต่อต้านแรงโจมตี,เพียงแค่หลอมรวมมันเข้ากับพลังภายนอกที่มองไม่เห็นก็เป็นพอ!"


เมิ่งชิงอู๋,เมิ่งหยิงหยิง,หนานกงหยุนและคนอื่นๆถึงกับต้องรำพึงรำพันออกมาทีเดียว.


นี่คือวิชา กายานิรันดร์โอบแสงดาราอย่างงั้นรึ?



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

3 ความคิดเห็น: