Strongest Sect of All Times Chapter 271 sect Authentication Headquarters came the person
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 271 sect
Authentication Headquarters came the person
门派认证总部来人了
บนเชิงเขาภูเขาไท่กู่,หมอกที่ปกคลุมไปทั่วครึ่งภูเขา,สายลมที่พัดเอื่อย
ๆ.
หลังจากที่ทำการปลูกสมุนไพรกว่า 200,000 ต้น,พลังวิญญาณที่แผ่ฟุ้งไปทั่ว,แม้นว่าจะไม่สามารถเทียบได้กับนิกายใหญ่,ทว่าก็นับว่าบรรยากาศยอดเยี่ยมอย่างไม่มีปัญหา.
“เจ้าสำนัก.”
เหล่าเหว่ยที่กวาดตามองตรวจสอบพื้นที่ปลูกสมุนไพรเอ่ยออกมาว่า,”ขอเพียงปลูกสมุนไพรรอบ
ๆนี้,เมื่อเติบโตจะทำให้พลังวิญญาณฟุ้งกระจายไปทั่ว,นับว่าอุดมสมบูรณ์ขึ้น.”
“ข้าพร้อมจะจ่าย”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
เหล่าเหว่ยตอบ,”ไม่เพียงแค่ต้องลงทุน,แต่ต้องใช้เวลาด้วย,เมื่อพลังวิญญาณฟื้นฟูเติบโตหนาแน่นขึ้น,นอกจากจะส่งผลกับสภาพแวดล้อมแล้วยังส่งผลกับสมุนไพรอื่น
ๆให้เติบโตรวดเร็วกว่าเดิมด้วย.”
“มีเหตุผล.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เปิ่นจัวจะทำการซื้อเมล็ดสมุนไพรเพิ่มเรื่อย
ๆ,คงต้องรบกวนให้เหล่าเหว่ยและหอยาแล้ว.”
“เป็นงานของข้าอยู่แล้ว.”เหล่าเหว่ยเอ่ย.
เข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง,เป็นเจ้าหอยา,เขาเองก็ต้องทำงานเพื่อสำนักเช่นกัน.
“แล้วสมุนไพรชุดใหม่จะเก็บได้ตอนใหน?.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
เหล่าเหว่ยเอ่ย,”รออีกสักสองวัน,ไว้ให้พวกมันแผ่พลังฟ้าดินออกมาก่อน.”
“อืม.”
จุนซ่างเซียวที่ส่งหลี่ชิงหยางออกไปทำธุระที่เมืองฮู่หยาง,ซื้อเมล็ดสมุนไพรระดับสูง
400,000 เม็ดจากตระกูลอ้าย.
“ประมุข.”
อ้ายซางหนีที่กล่าวด้วยความสงสัย,”เจ้าสำนักจุนซื้อเมล็ดสมุนไพรมากมาย,คิดจะปลูกใช้เองอย่างงั้นรึ?”
“หากข้าคาดเดาไม่ผิดล่ะก็.”
อ้ายซางหนี่เอ่ย,”เจ้าสำนักจุนซื้อเมล็ดสมุนไพรมากมาย,ต้องการยกระดับสภาพแวดล้อมของสำนักไท่กู่เจ้ง.”
การปลูกสมุนไพรวิญญาณ,แน่นอนว่าจะช่วยยกระดับพลังฟ้าดิน,เป็นเรื่องปรกติทุกแห่งของทวีปชิงหยุน.
อ้ายซางเกอถึงกับพูดไม่ออก,”เทือกเขาไร้นาม,แทบจะไม่มีพลังวิญญาณ,ใช้เงินมากมายเพื่อเปลี่ยนแปลง,ทางที่ดีเปลี่ยนยอดเขาเพื่อตั้งสำนักไม่ดีกว่ารึ?”
เป็นความจริง.
ต้นทุนในการเปลี่ยนแปลงยอดเขานั้นนับว่าสูงมาก,ยิ่งยอดเขาที่ไร้พลังวิญญาณมากเท่าไหร่,ก็ยิ่งลงทุนมากกว่าปรกติ.
จุนซ่างเซียวแน่นอนว่าเข้าใจเรื่องดังกล่าวดี,ทว่าก็ไม่ต้องการจะย้ายสำนักไปอยู่ที่อื่นเช่นกัน.
สำนักระดับเก้า,ในดินแดนระดับเก้า,จากยอดเขาที่ไร้พลังวิญญาณ,ค่อย
ๆพัฒนาขึ้น,จนท้ายที่สุดกลายเป็นสุดยอดนิกาย,ไม่เป็นการท้าทายกว่ารึ?
ระบบที่รู้ความคิดของเขา,เอ่ยกล่าวออกมาไม่กี่คำ,”ความคิดของโฮสน์ไร้เทียมทานจริง
ๆ.”
......
ไม่กี่วันหลังจากนั้น.
เหล่าเหว่ยที่เก็บเกี่ยววัตถุดิบสมุนไพรกว่า
200,000 ต้น.
จุนซ่างเซียวที่มีวัตถุดิบในการปรุงยารวมวิญญาณกว่า
30,000 เม็ด.
เรื่องนี้สุดยอดเกินไปแล้ว!
เขาที่เปิดฟังก์ชั่นปรุงยา,เริ่มปรุงเม็ดยาโดยอัตโนมัติทันที.
เม็ดยารวมวิญญาณกว่า 30,000
เม็ด,ต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก,เสียงแจ้งเตือนที่ดังไม่หยุด ดังขึ้นที่ในหูของจุนซ่างเซียว.
สองวันหลังจากนั้น,การปรุงยาทั้งหมดก็เสร็จสิ้น.
จ้องมองเม็ดยารวมวิญญาณจำนวนมากในแหวนเก็บของ,จุนซ่างเซียวที่เผยใบหน้ายินดีอย่างที่สุด.
น่าเสียดาย.
เพราะว่าพื้นที่แห้งแล้งจนเกินไป,สมุนไพรชุดนี้มีผลดูดซับพลังวิญญาณเพียง
10 เท่า.
แต่กระนั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว.
ต้องไม่ลืมว่าเม็ดยารวมวิญญาณกว่า 30,000
เม็ดนี้,เพียงพอที่จะให้เขาและศิษย์ใช้ได้อีกระยะ.
หนำซ้ำ.
เหล่าเหว่ยที่ปลูกสมุนไพรขยายขึ้นอีกสองเท่า.
สภาพแวดล้อมกำลังยกระดับขึ้นเรื่อย
ๆ,เมื่อสมุนไพรเติบโตเพียงพอ,พลังวิญญาณเพรียบพร้อม,คุณภาพสมุนไพรจะดีขึ้นเรื่อย ๆด้วย.
จะให้กล่าวล่ะก็.
ขอเพียงมีเงินทุนเหลือเฟื้อ,เมล็ดสมุนไพรเหลือล้น,ปลูกสมุนไพรครบถ้วน,สภาพแวดล้อมจะถูกเปลี่ยนไปช้า
ๆ,แม้แต่เม็ดยารวมวิญญาณจะมีให้ใช้ไม่ขาด.
คิดว่าหลังจากนี้สำนักไท่กู่เจิ้งที่มีพลังวิญญาณสมบูรณ์,เม็ดยารวมวิญญาณไม่ขาดแคลน,จุนซ่างเซียวก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา,ความเหนื่อยล้าที่ทุ่มไปย่อมไม่เปล่าประโยชน์.
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง,”ข้าเพิ่งได้รับข่าวว่า,สำนักงานใหญ่ของจังหวันซีเหนียนเหยาง,ได้ส่งอาวุโสสองคนมายังมนทลชิงหยาง,ตอนนี้เข้าพบกับเจ้าเมืองเซี่ยและจวีซือเจา,ตอนนี้กำลังเดินทางมายังสำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเรา.”
จุนซ่างเซียวเอย,”สำนักงานใหญ่ของสมาคมศิษย์ส่งคนมาเอง,เกิดอะไรขึ้น?”
“ในความเห็นของข้า.”
หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”สำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเราได้รับการประเมิน
2A,ทำให้สำนักงานใหญ่สงสัย,จึงได้ส่งอาวุโสมาตรวจสอบ,ว่าเกิดความผิดพลาดหรือไม่?”
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ชิงหยางเอ่ย,”จวีซือเจาขอเข้าพบ.
เขาที่ได้รับข่าวก่อนแล้ว,จึงไม่ได้ประหลาดใจอะไร,ดังนั้นจึงเอ่ยออกมาว่า,”เชิญเข้ามาแล้วรึ?”
หลี่ชิงหยางเอ่ย,”จวีซือซุนนำชายชราสองคนที่ดูน่าเกรงขามมากมาด้วย,พวกเขาน่าจะมีระดับบรรพชนยุทธ์.”
ไม่ได้มาบุกสำนักใช่ใหม?
ระบบเอ่ย,”หากต้องการบุก,คงไม่มาขอเข้าพบหรอก.”
“เงียบเลย.”
หลี่ชิงหยางเอ่ย,”เจ้าเมืองเซี่ยมาด้วย,เห็นเคารพคนทั้งสองเป็นอย่างมาก,เป็นไปได้ว่าเป็นคนใหญ่คนโต.”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้,เปิ่นจั้วควรจะออกไปต้อนรับด้วยตัวเองหรือไม่?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”ข้าคิดว่า,เห็นแก่หน้าเจ้าเมืองเซี่ย,เจ้าสำนักออกไปรับด้วยตัวเอง,ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร.”
“ศิษย์ก็คิดเช่นนี้.”หลี่ชิงหยางเอ่ย.
“ตกลง.”
จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้นก้าวเดินออกไปทันที,”เห็นแก่เจ้าเมืองเซี่ย,เปิ่นจั้วก็ควรออกไปรับด้วยตัวเอง.”
......
“ชิ.”
อาวุโสเจิ้นที่ยืนอยู่หน้าประตู,อดรนทนไม่ได้,”ช้าเกินไปแล้ว?”
“เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง ใหญ่มาจากใหน,ไม่คิดจะออกมาต้อนรับด้วยตัวเองอย่างงั้นรึ?”
อาวุโสของสมาคมรับรองศิษย์จังหวัดซีเหนียนหยาง,เดินทางมาด้วยตัวเอง,ปรกติต้องตั้งแถวสองแถวต้อนรับแล้ว.
เซี่ยกวนคุนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,”อาวุโสเจิ้นที่เดินทางมาทันทีทันใด,ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า,เจ้าสำนักจุนย่อมไม่ได้เตรียมตัว,ดังนั้นหากว่าขาดตกบกพร่อง,ข้าต้องขออภัยด้วย.”
เจ้าเมืองเซี่ยที่ออกรับจุนซ่างเซียวทันที.
แน่นอน.
ก่อนหน้านี้จุนว่างเซียวที่ไม่ได้มีแผนจะออกมารับด้วยตัวเองด้วยซ้ำ.
“กึก ซี่.”
ประตูสีแดงขนาดใหญ่ที่เปิดออกมา.
จากด้านใน,จุนซ่างเซียวที่เดินออกมา,ไม่ได้มองไปยังอาวุโสสมาคมสิทธิ์ด้วยซ้ำ,เขายกมือประสานเผยยิ้ม,”เจ้าเมืองเซี่ยมีเวลามาเยือนสำนักไท่กู่เจิ้งของข้าแล้วรึ?”
“เอ่อ......”
เจ้าเมืองเซี่ยที่งงงวยเล็กน้อย,กล่าวออกมาว่า,”เจ้าสำนักจุน,ครั้งนี้ข้าเดินทางมาเป็นเพื่อนสองอาวุโสจากสมาคมรับรองศิษย์สำนักงานใหญ่สมาคมรับรองสิทธิ์.”
ด้วยการเน้นคำว่าสำนักงานใหญ่,เพื่อเป็นการแนะนำอีกฝ่าย,ว่าทั้งสองไม่สามารถละเลยได้.
“แท้จริงแล้วก็เป็นอาวุโสจากสำนักงานใหญ่สมาคมรับรองศิษย์นี้เอง.”
จุนซ่างเซียวที่หันหน้ายกมือประสานกล่าวด้วยรอยยิ้ม,”เสียมารยาท,เสียมารยาทแล้ว.”
อาวุโสเจิ้นเอ่ยออกมาเล็กน้อย,”ให้ข้าและคนอื่นรอคอยอยู่ด้านนอกตั้งนาน,เจ้าสำนักจุนช่างใหญ่โตจริง
ๆ.”
อาวุโสโจวเอ่ย,”เจ้าสำนักจุนต้องจัดการภารกิจในสำนัก,ไม่ได้ยืนรออยู่หน้าประตูทั้งวี่ทั้งวัน,เพียงแค่นี้ก็คิดไม่ได้.”
ทั้งสองที่ดูเหมือนว่าหาเรื่องกันตลอดเวลา.
อาวุโสเจิ้นเอ่ย,”อาวุโสโจว,การตรวจสอบในครั้งนี้,หากสำนักไท่กู่เจิ้งไม่มีประสิทธิภาพ
2A,เป็นปัญหาใหญ่แน่.”
“ตาเฒ่าอยากรู้จริง ๆว่าการประเมินของจวีซือเจา,มีปัญหาอย่างไร?.”อาวุโสโจวโต้เถียง.
ทั้งสองที่โต้เถียงกันไปมา,บรรยากาศที่ดูหนักอึ้งเป็นอย่างมาก,ทำให้เจ้าเมืองเซี่ยอยู่ข้าง
ๆ,รู้สึกกระอักกระอ่วน.
โดยเฉพาะจวีซือเจาที่เวลานี้เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลออกเต็มหน้าผาก.
เห็นชัดเจนว่าอาวุโสเจิ้นเดินทางมาครั้งนี้,มุ่งเป้ามาที่ตน,หากสำนักไท่กู่เจิ้งมีประสิทธิภาพไม่ได้
2A
แน่นอนว่าเขาต้องเจอปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน.
เพียงแค่คิดก็ทำให้เขาต้องสั่นสะท้านแล้ว
ก่อนหน้านี้ที่เขาประเมินสำนักไท่กู่เจิ้งไปนั้น,เขาบอกได้ว่ากลุ่มศิษย์เหล่านี้ต่างก็มีระดับศิษย์ยุทธ์,แผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามออกมา,ทำให้เขาประเมินเช่นนั้นไป.
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น