วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 271 sect Authentication Headquarters came the person

Strongest Sect of All Times  Chapter 271 sect Authentication Headquarters came the person

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 271 sect Authentication Headquarters came the person

门派认证总部来人了

 

บนเชิงเขาภูเขาไท่กู่,หมอกที่ปกคลุมไปทั่วครึ่งภูเขา,สายลมที่พัดเอื่อย ๆ.

หลังจากที่ทำการปลูกสมุนไพรกว่า 200,000 ต้น,พลังวิญญาณที่แผ่ฟุ้งไปทั่ว,แม้นว่าจะไม่สามารถเทียบได้กับนิกายใหญ่,ทว่าก็นับว่าบรรยากาศยอดเยี่ยมอย่างไม่มีปัญหา.


“เจ้าสำนัก.”

เหล่าเหว่ยที่กวาดตามองตรวจสอบพื้นที่ปลูกสมุนไพรเอ่ยออกมาว่า,”ขอเพียงปลูกสมุนไพรรอบ ๆนี้,เมื่อเติบโตจะทำให้พลังวิญญาณฟุ้งกระจายไปทั่ว,นับว่าอุดมสมบูรณ์ขึ้น.”

“ข้าพร้อมจะจ่าย”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

เหล่าเหว่ยตอบ,”ไม่เพียงแค่ต้องลงทุน,แต่ต้องใช้เวลาด้วย,เมื่อพลังวิญญาณฟื้นฟูเติบโตหนาแน่นขึ้น,นอกจากจะส่งผลกับสภาพแวดล้อมแล้วยังส่งผลกับสมุนไพรอื่น ๆให้เติบโตรวดเร็วกว่าเดิมด้วย.”

“มีเหตุผล.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เปิ่นจัวจะทำการซื้อเมล็ดสมุนไพรเพิ่มเรื่อย ๆ,คงต้องรบกวนให้เหล่าเหว่ยและหอยาแล้ว.”

“เป็นงานของข้าอยู่แล้ว.”เหล่าเหว่ยเอ่ย.

เข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง,เป็นเจ้าหอยา,เขาเองก็ต้องทำงานเพื่อสำนักเช่นกัน.

“แล้วสมุนไพรชุดใหม่จะเก็บได้ตอนใหน?.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

เหล่าเหว่ยเอ่ย,”รออีกสักสองวัน,ไว้ให้พวกมันแผ่พลังฟ้าดินออกมาก่อน.”

“อืม.”

 

จุนซ่างเซียวที่ส่งหลี่ชิงหยางออกไปทำธุระที่เมืองฮู่หยาง,ซื้อเมล็ดสมุนไพรระดับสูง 400,000 เม็ดจากตระกูลอ้าย.

“ประมุข.”

อ้ายซางหนีที่กล่าวด้วยความสงสัย,”เจ้าสำนักจุนซื้อเมล็ดสมุนไพรมากมาย,คิดจะปลูกใช้เองอย่างงั้นรึ?”

“หากข้าคาดเดาไม่ผิดล่ะก็.”

อ้ายซางหนี่เอ่ย,”เจ้าสำนักจุนซื้อเมล็ดสมุนไพรมากมาย,ต้องการยกระดับสภาพแวดล้อมของสำนักไท่กู่เจ้ง.”

การปลูกสมุนไพรวิญญาณ,แน่นอนว่าจะช่วยยกระดับพลังฟ้าดิน,เป็นเรื่องปรกติทุกแห่งของทวีปชิงหยุน.

อ้ายซางเกอถึงกับพูดไม่ออก,”เทือกเขาไร้นาม,แทบจะไม่มีพลังวิญญาณ,ใช้เงินมากมายเพื่อเปลี่ยนแปลง,ทางที่ดีเปลี่ยนยอดเขาเพื่อตั้งสำนักไม่ดีกว่ารึ?”

เป็นความจริง.

ต้นทุนในการเปลี่ยนแปลงยอดเขานั้นนับว่าสูงมาก,ยิ่งยอดเขาที่ไร้พลังวิญญาณมากเท่าไหร่,ก็ยิ่งลงทุนมากกว่าปรกติ.

จุนซ่างเซียวแน่นอนว่าเข้าใจเรื่องดังกล่าวดี,ทว่าก็ไม่ต้องการจะย้ายสำนักไปอยู่ที่อื่นเช่นกัน.

สำนักระดับเก้า,ในดินแดนระดับเก้า,จากยอดเขาที่ไร้พลังวิญญาณ,ค่อย ๆพัฒนาขึ้น,จนท้ายที่สุดกลายเป็นสุดยอดนิกาย,ไม่เป็นการท้าทายกว่ารึ?

ระบบที่รู้ความคิดของเขา,เอ่ยกล่าวออกมาไม่กี่คำ,”ความคิดของโฮสน์ไร้เทียมทานจริง ๆ.”

......

ไม่กี่วันหลังจากนั้น.

เหล่าเหว่ยที่เก็บเกี่ยววัตถุดิบสมุนไพรกว่า 200,000 ต้น.

จุนซ่างเซียวที่มีวัตถุดิบในการปรุงยารวมวิญญาณกว่า 30,000 เม็ด.

เรื่องนี้สุดยอดเกินไปแล้ว!

เขาที่เปิดฟังก์ชั่นปรุงยา,เริ่มปรุงเม็ดยาโดยอัตโนมัติทันที.

เม็ดยารวมวิญญาณกว่า 30,000 เม็ด,ต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก,เสียงแจ้งเตือนที่ดังไม่หยุด ดังขึ้นที่ในหูของจุนซ่างเซียว.

สองวันหลังจากนั้น,การปรุงยาทั้งหมดก็เสร็จสิ้น.

จ้องมองเม็ดยารวมวิญญาณจำนวนมากในแหวนเก็บของ,จุนซ่างเซียวที่เผยใบหน้ายินดีอย่างที่สุด.

น่าเสียดาย.

เพราะว่าพื้นที่แห้งแล้งจนเกินไป,สมุนไพรชุดนี้มีผลดูดซับพลังวิญญาณเพียง 10 เท่า.

แต่กระนั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว.

ต้องไม่ลืมว่าเม็ดยารวมวิญญาณกว่า 30,000 เม็ดนี้,เพียงพอที่จะให้เขาและศิษย์ใช้ได้อีกระยะ.

หนำซ้ำ.

เหล่าเหว่ยที่ปลูกสมุนไพรขยายขึ้นอีกสองเท่า.

สภาพแวดล้อมกำลังยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ,เมื่อสมุนไพรเติบโตเพียงพอ,พลังวิญญาณเพรียบพร้อม,คุณภาพสมุนไพรจะดีขึ้นเรื่อย ๆด้วย.

จะให้กล่าวล่ะก็.

ขอเพียงมีเงินทุนเหลือเฟื้อ,เมล็ดสมุนไพรเหลือล้น,ปลูกสมุนไพรครบถ้วน,สภาพแวดล้อมจะถูกเปลี่ยนไปช้า ๆ,แม้แต่เม็ดยารวมวิญญาณจะมีให้ใช้ไม่ขาด.

คิดว่าหลังจากนี้สำนักไท่กู่เจิ้งที่มีพลังวิญญาณสมบูรณ์,เม็ดยารวมวิญญาณไม่ขาดแคลน,จุนซ่างเซียวก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา,ความเหนื่อยล้าที่ทุ่มไปย่อมไม่เปล่าประโยชน์.

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง,”ข้าเพิ่งได้รับข่าวว่า,สำนักงานใหญ่ของจังหวันซีเหนียนเหยาง,ได้ส่งอาวุโสสองคนมายังมนทลชิงหยาง,ตอนนี้เข้าพบกับเจ้าเมืองเซี่ยและจวีซือเจา,ตอนนี้กำลังเดินทางมายังสำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเรา.”

จุนซ่างเซียวเอย,”สำนักงานใหญ่ของสมาคมศิษย์ส่งคนมาเอง,เกิดอะไรขึ้น?”

“ในความเห็นของข้า.”

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”สำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเราได้รับการประเมิน 2A,ทำให้สำนักงานใหญ่สงสัย,จึงได้ส่งอาวุโสมาตรวจสอบ,ว่าเกิดความผิดพลาดหรือไม่?”

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ชิงหยางเอ่ย,”จวีซือเจาขอเข้าพบ.

เขาที่ได้รับข่าวก่อนแล้ว,จึงไม่ได้ประหลาดใจอะไร,ดังนั้นจึงเอ่ยออกมาว่า,”เชิญเข้ามาแล้วรึ?”

หลี่ชิงหยางเอ่ย,”จวีซือซุนนำชายชราสองคนที่ดูน่าเกรงขามมากมาด้วย,พวกเขาน่าจะมีระดับบรรพชนยุทธ์.”

ไม่ได้มาบุกสำนักใช่ใหม?

ระบบเอ่ย,”หากต้องการบุก,คงไม่มาขอเข้าพบหรอก.”

“เงียบเลย.”

หลี่ชิงหยางเอ่ย,”เจ้าเมืองเซี่ยมาด้วย,เห็นเคารพคนทั้งสองเป็นอย่างมาก,เป็นไปได้ว่าเป็นคนใหญ่คนโต.”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้,เปิ่นจั้วควรจะออกไปต้อนรับด้วยตัวเองหรือไม่?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”ข้าคิดว่า,เห็นแก่หน้าเจ้าเมืองเซี่ย,เจ้าสำนักออกไปรับด้วยตัวเอง,ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร.”

“ศิษย์ก็คิดเช่นนี้.”หลี่ชิงหยางเอ่ย.

“ตกลง.”

จุนซ่างเซียวที่ลุกขึ้นก้าวเดินออกไปทันที,”เห็นแก่เจ้าเมืองเซี่ย,เปิ่นจั้วก็ควรออกไปรับด้วยตัวเอง.”

......

“ชิ.”

อาวุโสเจิ้นที่ยืนอยู่หน้าประตู,อดรนทนไม่ได้,”ช้าเกินไปแล้ว?”

“เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง ใหญ่มาจากใหน,ไม่คิดจะออกมาต้อนรับด้วยตัวเองอย่างงั้นรึ?”

อาวุโสของสมาคมรับรองศิษย์จังหวัดซีเหนียนหยาง,เดินทางมาด้วยตัวเอง,ปรกติต้องตั้งแถวสองแถวต้อนรับแล้ว.

เซี่ยกวนคุนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,”อาวุโสเจิ้นที่เดินทางมาทันทีทันใด,ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า,เจ้าสำนักจุนย่อมไม่ได้เตรียมตัว,ดังนั้นหากว่าขาดตกบกพร่อง,ข้าต้องขออภัยด้วย.”

เจ้าเมืองเซี่ยที่ออกรับจุนซ่างเซียวทันที.

แน่นอน.

ก่อนหน้านี้จุนว่างเซียวที่ไม่ได้มีแผนจะออกมารับด้วยตัวเองด้วยซ้ำ.

“กึก ซี่.”

ประตูสีแดงขนาดใหญ่ที่เปิดออกมา.

จากด้านใน,จุนซ่างเซียวที่เดินออกมา,ไม่ได้มองไปยังอาวุโสสมาคมสิทธิ์ด้วยซ้ำ,เขายกมือประสานเผยยิ้ม,”เจ้าเมืองเซี่ยมีเวลามาเยือนสำนักไท่กู่เจิ้งของข้าแล้วรึ?”

“เอ่อ......”

เจ้าเมืองเซี่ยที่งงงวยเล็กน้อย,กล่าวออกมาว่า,”เจ้าสำนักจุน,ครั้งนี้ข้าเดินทางมาเป็นเพื่อนสองอาวุโสจากสมาคมรับรองศิษย์สำนักงานใหญ่สมาคมรับรองสิทธิ์.”

ด้วยการเน้นคำว่าสำนักงานใหญ่,เพื่อเป็นการแนะนำอีกฝ่าย,ว่าทั้งสองไม่สามารถละเลยได้.

“แท้จริงแล้วก็เป็นอาวุโสจากสำนักงานใหญ่สมาคมรับรองศิษย์นี้เอง.”

จุนซ่างเซียวที่หันหน้ายกมือประสานกล่าวด้วยรอยยิ้ม,”เสียมารยาท,เสียมารยาทแล้ว.”

อาวุโสเจิ้นเอ่ยออกมาเล็กน้อย,”ให้ข้าและคนอื่นรอคอยอยู่ด้านนอกตั้งนาน,เจ้าสำนักจุนช่างใหญ่โตจริง ๆ.”

อาวุโสโจวเอ่ย,”เจ้าสำนักจุนต้องจัดการภารกิจในสำนัก,ไม่ได้ยืนรออยู่หน้าประตูทั้งวี่ทั้งวัน,เพียงแค่นี้ก็คิดไม่ได้.”

ทั้งสองที่ดูเหมือนว่าหาเรื่องกันตลอดเวลา.

อาวุโสเจิ้นเอ่ย,”อาวุโสโจว,การตรวจสอบในครั้งนี้,หากสำนักไท่กู่เจิ้งไม่มีประสิทธิภาพ 2A,เป็นปัญหาใหญ่แน่.”

“ตาเฒ่าอยากรู้จริง ๆว่าการประเมินของจวีซือเจา,มีปัญหาอย่างไร?.”อาวุโสโจวโต้เถียง.

ทั้งสองที่โต้เถียงกันไปมา,บรรยากาศที่ดูหนักอึ้งเป็นอย่างมาก,ทำให้เจ้าเมืองเซี่ยอยู่ข้าง ๆ,รู้สึกกระอักกระอ่วน.

โดยเฉพาะจวีซือเจาที่เวลานี้เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลออกเต็มหน้าผาก.

 

เห็นชัดเจนว่าอาวุโสเจิ้นเดินทางมาครั้งนี้,มุ่งเป้ามาที่ตน,หากสำนักไท่กู่เจิ้งมีประสิทธิภาพไม่ได้ 2A แน่นอนว่าเขาต้องเจอปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน.

เพียงแค่คิดก็ทำให้เขาต้องสั่นสะท้านแล้ว

ก่อนหน้านี้ที่เขาประเมินสำนักไท่กู่เจิ้งไปนั้น,เขาบอกได้ว่ากลุ่มศิษย์เหล่านี้ต่างก็มีระดับศิษย์ยุทธ์,แผ่กลิ่นอายน่าเกรงขามออกมา,ทำให้เขาประเมินเช่นนั้นไป.


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น