Strongest Sect of All Times Chapter 272 Earnest authentication!
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 272 Earnest
authentication!
认真认证!
การประเมินระดับสำนัก,ไม่เป็นที่ถูกใจอย่างงั้นรึ?
ทำให้สำนักงานใหญ่ส่งคนมาตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง,แม้นจะมั่นใจ,แต่ก็รับรู้ถึงความเสี่ยงดี.
หากว่าการทดสอบของสำนักไท่กู่เจิ้งครั้งนี้,ไม่ผ่านการประเมิน,อาชีพจวีซือของเขาเป็นอันจบสิ้นแน่,เรื่องนี้เกี่ยวพันธ์ถึงชีวิตเลยก็ว่าได้.
เมื่อเป็นเช่นนั้นจวีซือเจาจึงได้หลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา,หัวใจเต้นเร็วอย่างบ้าคลั่ง.
“ทุกท่าน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ด้านนอกนั้นค่อนข้างหนาว,เชิญด้านในเถอะ.”
อาวุโสเจิ้นที่ก้าวเข้าไปคนแรก.
อาวุโสโจวและเจ้าเมืองเซี่ยที่ก้าวตาม.
จวีซือเจาที่รั้งรอ,กล่าวเสียงเบา,”เจ้าสำนักจุน,ชีวิตของเจาโหมวตอนนี้อยู่ในมือท่านแล้ว,หวังว่าการประเมินครั้งที่สอง,จะไม่มีอุบัติเหตุอะไรขึ้น.”
ในเวลานี้,เขาที่แทบจะคุกเข่าขอร้องให้ประเมินครั้งนี้ได้
สองA.
จุนซ่างเซียวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางสงสัย,”จะมีอุบัติเหตุอะไรรึ?”
จวีซือเจาเอ่ย,”เจาโหมวหมายความว่า,ขอให้ศิษย์ของท่านตั้งใจประเมินสักหน่อย,อย่าได้ทำเป็นเล่นกัน.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวเดินเข้ามาพร้อมกับเขา,กล่าวเสียงเบา,”จวีซือเจา,การประเมินรอบสองนี้หากไม่ได้
2A,ท่านจะมีปัญหาอย่างงั้นรึ?”
จวีซือเจาที่กล่าวเสียงเบา,”มีปัญหามาก!”
“ทราบแล้ว.”
จุนซ่างเซียวเอยออกมาว่า,”การประเมินรอบสองนี้,เปิ่นจั้วจะให้ศิษย์ตั้งใจอย่างแน่นอน,แต่ว่า....”
เขาหยุดและเอ่ยออกมาว่า,”จวีซือเจาและผู้นำฉินสนิทกันมาก,จุนโหมวและผู้นำฉินนั้นเป็นศัตรูกัน,รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย.”
จวนซางเซียวจำได้ชัดเจน,คนผู้นี้โอหังเป็นอย่างมากในคราแรกที่พบกัน,แม้แต่ขัดขวางเขาไม่ให้ทดสอบอีกด้วย.
หากไม่เพราะว่าอาวุโสหม่าออกหน้า,การประเมินสำนักระดับแปดเขาต้องเดินทางไปยังมนทลอื่นเป็นแน่.
จวีซือเจาที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม,”เจ้าสำนักจุน,เจาโหมวและผู้นำฉินนั้นเพียงแต่ตกลงกันนิดหน่อย,ไม่ได้สนิทกันแม้แต่น้อย,ขออย่าได้เข้าใจผิด!”
ในเวลานี้,ถึงจะเป็นพี่น้องร่วมสาบานเขาก็พร้อมจะตัดสัมพันธ์กับผู้นำฉิน,ต้องไม่ลืมด้วยว่าสถานการณ์เวลานี้เกี่ยวพันธ์ถึงชีวิตน้อย
ๆของเขา!
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”จุนโหมวจะคอยดู,ดังนั้นหวังว่าหลังจากนี้จวีซือเจาจะประเมินพันธมิตรร้อยสำนัก,เป็นไปอย่างเท่าเทียมกัน.”
เป็นการหาเรื่องอย่างแน่นอน.
การกล่าวออกมาเช่นนี้,เป็นการบอกว่า,พันธมิตรร้อยสำนักไม่ควรจะมีสิทธิพิเศษใด
ๆอีก!
จวีซือเจาที่ต้องกล่าวตอบรับในทันที,”แน่นอน,แน่นอน!”
ในเวลานั้นอาวุโสเจิ้นที่เดินนำหน้า,ส่ายหน้าไปรอบ
ๆกล่าวออกไปว่า,”พูดกระซิบกระซาบอะไรกันข้างหลัง,กำลังวางแผนร้ายปิดบังอะไรอยู่อย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”สำนักไท่กู่เจิ้งของข้าต้องการพิสูจน์ความแข็งแกร่ง,ไม่เคยมีแผนร้ายอะไรออกมา.”
“ความแข็งแกร่งอย่างงั้นรึ?”
อาวุโสเจิ้นเอ่ยออกมาว่า,”งั้นก็แสดงความแข็งแกร่งในการประเมินให้ดี,อย่าดีแต่ปากก็แล้วกัน.”
อั๊ยยะ,เฮ้ย ๆ.
ตาเฒ่านี้กำลังโกรธเกรี้ยวอะไรสำนักไท่กู่เจิ้งของข้ากัน.
อาวุโสเจิ้นที่ไม่ใช่ว่าไม่พอใจสำนักไท่กู่เจิ้งเท่านั้น,แต่ต้องการกล่าวแซะอาวุโจวด้วย.
ในความเห็นของเขา,คงคิดว่าเจ้าซิงหมิงรับติดสินบน,แน่นอนว่าสำนักไท่กู่เจิ้งก็ต้องเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไปด้วย,แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถหาหลักฐานเพื่อเอาผิดอาวุโสโจวได้.
เฮ้อ.
เรื่องเกี่ยวกับการเมืองเป็นอะไรที่ซับซ้อนอยู่เล็กน้อย.
ดูเหมือนว่าสำนักไท่กู่เจิ้งจะกลายเป็นสังเวียน,ให้สองอาวุโสชำระแค้นกัน,พวกเขาจึงพลอยได้รับผลกระทบมาอย่างไม่มีเหตุผล.
หากเปลี่ยนเป็นสำนักอื่น,เกรงว่าตอนนี้คงกำลังนอนอยู่บนคมหอกคมดาบ,ทว่าจุนซ่างเซียวนั้นกลับไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงแม้แต่น้อย.
เขาผิดตรงใหน,ไม่เลย!
ดังนั้น,อาวุโสเจิ้นที่กำลังหาเรื่องเขา,เขาก็ต้องปลดเปลื้องข้อหาดังกล่าวให้หมดไป.
“เรียนอาวุโส.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”สำนักงานใหญ่สมาคมสิทธิ์ส่งคนมาทดสอบสำนักไท่กู่เจิ้งถึงสองครั้ง,การประเมินครั้งแรกมีปัญหาอย่างงั้นรึ?”
“มีปัญหาหรือไม่,เจ้าสำนักจุนและจวีซือเจาควรจะรู้แก่ใจ?”อาวุโสเจ้งที่กล่าวด้วยน้ำเสียงโอหัง.
สถานการณ์อึมครึมจริง ๆ!
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ท่านหมายความว่า,สำนักไท่กู่เจิ้งของข้าและจวีซือเจาสมคบคิดกัน,ปลอมแปลงผลประเมินอย่างงั้นรึ?”
“ปลอมแปลงหรือไม่,ประเมินอีกครั้งก็จะรู้กัน.”
ในเวลานี้,อาวุโสเจิ้นที่ตกใจ,เพราะว่าเวลานี้กวาดตามองไปทั่วห้องโถงที่ดูหรูหรายิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก.
แววตาของอาวุโสเจิ้นที่อดไม่ได้ต้องอุทานออกมเบา
ๆเช่นกัน.
เขารู้สึกราวกับว่าห้องโถงสำนักไท่กู่เจิ้งหรูหราไม่ได้ด้อยกว่าเมืองกษัตริย์แม้แต่น้อย,สำนักระดับเจ็ดหรูหราขนาดนี้มีน้อยมาก
ๆ.
เจ้าเมืองเซี่ยที่ดวงตาเบิกกว้าง.
โอ้วสวรรค์!
ห้องโถงของเจ้าสำนักจุน,หรูหราขนาดนี้เลยรึ?
“ถุยย.”
อาวุโสเจิ้นกล่าวหยัน,”หรูหราแล้วอย่างไร,ความแข็งแกร่งไม่ได้วัดที่สิ่งก่อสร้างหรูหรา,หากไร้ซึ่งความแข็งแกร่งก็ไม่ต่างจากเสือกระดาษ.”
“อาวุโสเจิ้น,กล่าวเช่นนั้นก็ไม่ถูก.”
อาวุโสโจวที่ได้โอกาส,กล่าวแย้งทันที,”การที่สิ่งก่อสร้างของเจ้าสำนักจุนนั้นหรูหรา,ก็หมายถึงสำนักร่ำรวยมีทรัพยากรมากมาย,และมีความทะเยอทยาน.”
“ไม่ผิด.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ในเมื่อต้องรองรับคนที่มากขึ้นเรื่อย
ๆในอนาคต,จุนโหมวแน่นอนว่าต้องการทำให้สำนักไท่กู่เจิ้งแข็งแกร่งขึ้นให้ได้,ดังนั้นจึงเตรียมพร้อมเอาไว้ก่อน.”
อาวุโสโจวยกนิ้วโป้ง,กล่าวออกมาว่า,”เจ้าสำนักหนุ่มแน่นเช่นเจ้าสำนักจุน,ที่ไล่ตามความฝันมีความทะเยอทะยานเช่นนี่มีอยู่น้อยมาก.”
การชื่นชมจุนซ่างเซียว,หากทั้งสองไม่รู้จักกัน,อาวุโสเจิ้นคงไม่เชื่ออย่างแน่นอน.
เขาแค่นเสียงเย็นชา,”มีฝันก็ไม่นับว่าผิด,ทว่าก็ต้องทำอะไรให้ตรงไปตรงมา,ไม่ใช่กระทำการน่ารังเกียจหลอกลวงตัวเองและคนอื่น.”
โหว บัดซบจริง ๆ!
นี้คิดว่าสำนักไท่กู่เจิ้งของข้า,หลอกลวงอย่างงั้นรึ?
ก็ดี! เอางั้นก็ได้!
บิดาจะให้ศิษย์ทั้งหมด,ทดสอบด้วยพลังเต็มที่,ให้เจ้าได้รู้เลย,อะไรที่เรียกว่าเผยความแข็งแกร่ง!
จุนซ่างเซียวที่ต้องการอยู่อย่างเงียบ ๆถ่อมตน,ไม่โดดเด่น,ทว่าในเมื่อฝ่ายตรงข้ามคิดว่าตัวเองหลอกลวง,ต้องจัดการให้หนัก
เอาให้หน้าหงายพูดไม่ออกไปเลย!
“ชิงหยาง!”
เขาที่ตะโกนออกไปเสียงดัง,”นำศิษย์ที่เคยเข้าร่วมทดสอบก่อนหน้านี้มา,สั่งให้พวกเขาทดสอบด้วยพลังเต็มที่ด้วย!”
“ครับ!”
จากนั้นไม่นาน,ศิษย์ 550
คน,ได้รวมกันอยู่ที่ลานยุทธ์.
จวีซือเจาที่ผ่อนคลายลง.
เป็นกลุ่มศิษย์ที่เข้าร่วมทดสอบ,ก่อนหน้านี้นะเอง.
ถึงจะเป็นคนที่เจ้าสำนักจุนจ้างมาก็ตาม,ขอเพียงได้
2A,ก็ไม่มีปัญหาอะไร!
“ไม่เลว,ไม่เลว.”
เห็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง,อาวุโสโจวที่กล่าวชม,”กลิ่นอายที่แผ่ออกมา,เป็นเมล็ดพันธ์ชั้นดี!”
เขาที่เป็นถึงอาวุโสสำนักงานใหญ่สมาคมรับรองสิทธิ์,ย่อมมีสายตาที่แหลมคนกว่าจวีซือเจา.
อาวุโสเจิ้นที่กล่าวออกมาเบา
ๆ,”ศิษย์เหล่านี้,แม้นว่าจะไม่เลว,ทว่าอย่างมากก็ได้หนึ่งA,จวีซือเจาให้2A มันมากเกินไป.”
จวีซือเจาเอ่ย,”เรียนอาวุโสเจิ้น,ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ทดสอบศิษย์พวกเขาก่อนแล้ว,ค่อยมอบ
2A”
“งั้นรึ?”
อาวุโสเจิ้งเอ่ยอย่างนุ่มนวล,”งั้นก็เริ่มประเมินใหม่”
ระหว่างที่กล่าวนั้น,เขาได้นำศิลาทดสอบออกมา,”เจ้าสำนักจุน,น่าจะรู้วิธีการ,เชิญศิษย์ของท่านออกมาทดสอบความแข็งแกร่งได้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ศิษย์ทุกคนรับคำสั่ง,อาวุโสทั้งสอง,มาจากสมาคมรับรองสิทธิ์สำนักงานใหญ่,มาทดสอบความแข็งแกร่งครั้งที่สอง,เปิ่นจั้วต้องการให้พวกเจ้าแสดงพลังทั้งหมดออกมา!”
“รับทราบ!”
ศิษย์ทุกคนที่ตะโกนรับเสียงดัง.
“ฟิ้ว!”
ซุยปู่เจี้ยนที่ก้าวออกไปคนแรก,รวมพลังพายุหมุน,ระเบิดพลังที่หมัดพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว.
ในเวลานี้,ไม่จำเป็นต้องกักเก็บพลังเอาไว้,เขาได้ใช้พลังทั้งหมดออกมา!
“ตูมมมมมมมมมมม!”
ปรากฏตัวเลข 13,000 จิน.
กึก.
จวีซือเจาถึงกับขนลุกขึ้นมาทันที.
ศิษย์คนนี้ทดสอบครั้งที่แล้ว,ได้ตัวเลขเพียง
3000 จิน!
ครั้งนี้ 13000 ก่อนหน้า 3000
ตัวเลขห่างกันมากมายนัก!
อาวุโสโจวและอาวุโสเจ้นที่รู้สึกงงงันเล็กน้อย,ต้องไม่ลืมว่า
10,000 จิน,เท่ากับระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นหนึ่งทั่วไป!
“ตูมมม!”
คนถัดไปเป็นซือหม่าจงต้า,หมัดของเขาที่ต่อยออกไป,ปรากฏตัวเลข
14000จิน.
“ตูมมม!”
“ตูมมม!”
“ตูมมม!”
ลี่ซ่างเทียน,หยางยูหัวและอีกหลายคนทดสอบคนแล้วคนเล่า.
พวกเขาที่เพิ่งมาถึงระดับศิษย์ยุทธ์,ทว่าความแข็งแกร่งก็มากกว่า
10,000 จินทุกคน.
แม้กระทั่งหยางกงและศิษย์ใหม่,เพราะว่าเพิ่งก้าวมาถึงระดับศิษย์ยุทธ์จากระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบสอง,ยังได้พลัง
4000 จิน,เกินมาตรฐานเดิมไปมาก.
จวีซือเจาที่เวลานี้แทบไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย.
ศิษย์ 50
คน,ก่อนหน้านี้มีระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบสองเท่านั้น,ผ่านมากี่วันกันเชียว,ตอนนี้อยู่ในระดับศิษย์ยุทธ์กันทุกคนแล้ว!
“ตูมมมมม!”
จุนซ่างเซียวที่ต่อยจนศิลาทดสอบทั่วไปพังแตกออกเป็นเสี่ยง
ๆ,เหมือนเมื่อครั้งที่แล้ว.
ดวงตาของอาวุโสเจินและอาวุโสโจวเบิกกว้า,เจ้าเมืองเซี่ยดวงตาแทบถลนหลุดออกมาด้วยความตกใจ.
พลังทดสอบ,ความแข็งแกร่งไม่ต้องบอกเลยว่าเหนือกว่า
100,000 จินแน่.
เจ้าสำนักระดับเจ็ดระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่เจ็ด,พลังไม่ได้ด้อยกว่าระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นที่หนึ่งเลย,น่าเกรงขามเกินไปแล้ว!
“อาวุโสเจิ้น.”
จุนซ่างเซียวที่ดึงหมัดกลับมา,ส่ายหน้าไปมา,กล่าวออกว่า,”จุนโหมวและศิษย์
550 คนทดสอบเสร็จแล้ว,ไม่รู้ว่าผลประเมินเทียบกับครั้งก่อนเป็นอย่างไร?”
“ไม่มีปัญหา!”อาวุโสโจวที่อ้าปากพะงาบ
ๆ.
“หืม?”
จุนซ่างเซียวเผยท่าทางประหลาดใจ.
อาวุโสโจวจ้องมองด้วยแววตาขึงขัง,”ผลงานของเจ้าสำนักจุนและศิษย์,ควรจะได้
3A!”
“3....3A…”เจ้าเมืองเซี่ยถึงกับตกใจ,ถอยหลังอย่างไม่ตั้งใจสองก้าว,แววตาที่ตื่นตะลึง,อัศจรรย์ใจอย่างที่สุด!
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น