Strongest Sect of All Times Chapter 270 Falling Star Great Continent’s pattern
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 270 Falling
Star Great Continent’s pattern
星陨大陆的格局
จุนซ่างเซียวที่ใช้แต้มสนับสนุน 200
เพื่อซื้ออุปกรณ์เสริมพลังค่ายกล.
เขาที่นำมันไปยกระดับค่ายกลรวมวิญญาณ,ด้วยสิ่งของชิ้นนี้ทำให้ค่ายกลรวมวิญญาณเพิ่มพลังขึ้น
100 %,เรื่องนี้เป็นอะไรที่สุดยอดมาก.
เขามีศิษย์เป็นจำนวนมาก,เม็ดยารวมวิญญาณไม่มีทางที่จะแจกจ่ายให้กับทุกคนได้.
ในเวลานี้การบ่มเพาะในค่ายกลรวมวิญญาณ,คือเรื่องที่ดีที่สุด,ต้องไม่ลืมว่าสามารถเข้าไปใช้ได้หลายคนพร้อมกัน.
“วูซซซซ!”
ค่ายกลรวมวิญญาณที่เพิ่มพลัง,พลังวิญญาณที่หนาแน่นขึ้นเป็นสามเท่าของปรกติ.
แม้นว่าจะยกระดับขึ้นเพียงเท่าเดียว,ทว่าการที่ศิษย์สามารถดูดซับพลังวิญญาณได้เพิ่มขึ้น,ย่อมตัดผ่านระดับขึ้นได้อย่างรวดเร็ว.
จุนซ่างเซียวที่ให้ศิษย์ใหม่แยกกลั่นร่างกายและบ่มเพาะในค่ายกลรวมวิญญาณเท่า
ๆกัน.
หลังจากเสร็จทุกอย่าง,เขาก็เข้าใช้งานหอคอยเก็บประสบการ,กลั่นร่างกายและเพิ่มความเร็ว.
หลังจากกลั่นร่างกายสี่ชั่วโมงและวิ่งหนีฝูงสัตว์ร้ายสองชั่วโมง,เขาก็กลับออกมา.
หลี่ชิงหยาง,เซียวจุ้ยจื่อและเย่ซิงเฉิน,ทั้งสามคนยังคงจมอยู่ในชั้นที่นี่,พวกเขาต้องการยกระดับร่างกายไปจนถึงขีดสุด,ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ขึ้นไปบนชั้นที่สอง.
ซูเซียวโม่และลี่เฟย,ทั้งสองเวลานี้จมอยู่แต่ในชั้นที่สอง,เพื่อยกระดับท่าเท้าของตัวเอง.
ซ่งเสวียนโจวที่เวลานี้ใช้ชีวิตในสำนักมากว่าหนึ่งเดือนแล้ว,แม้นว่าต้องการเข้าไปใช้หอคอยเก็บประสบการเป็นอย่างมาก,ทว่าก็ยังต้องอดใจใช้เพียงห้องปั้นกล้ามเนื้อ.
ด้วยการที่เขาเป็นอัมพาตมาเป็นเวลานาน,สิ่งสำคัญที่สุดเวลานี้,คือการฟื้นฟูกล้ามเนื้อของตัวเองให้กลับมาสมบูรณ์ที่สุดอีกครั้ง.
ในสำนักไท่กู่เจิ้ง,ยิ่งมีพรสวรรค์อาจจะก้าวได้มากกว่าคนอื่น,ทว่าการจะเป็นผู้แข็งแกร่ง,ก็ยังจำเป็นต้องฝึกฝนอย่างหนัก.
ไม่สามารถเกียจคร้านได้เลยแม้แต่น้อย,หากไม่ขยัน,เหล่าพรสวรรค์ธรรมดาก็สามารถแซงได้เสมอ.
ไม่กี่วันหลังจากนั้น.
ศิษย์ที่ออกไปทำภารกิจก็เสร็จสิ้นสมบูรณ์.
คะแนนความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นเป็น
500,คะแนนสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นเป็น 1287.
“เอ๊ะ,ซื้ออะไรดี?”
“ข้าคิดว่าผงรวมวิญญาณคุ้มค่าที่สุด.”
“ไม่ผิด,อาวุธนั้นยังไม่จำเป็น,ซื้อผงรวมวิญญาณดีกว่า!”
ศิษย์หลายคนที่สำเร็จภารกิจ,ได้รับคะแนนของตัวเอง,สามารถซื้อผงรวมวิญญาณในเครื่องขายสินค้าได้.
แม้นว่าประสิทธิภาพจะไม่เท่ากับเม็ดยารวมวิญญาณ,ทว่าด้วยการมีของค่ายกลรวมวิญญาณ,ก็ทำให้ความสามารถของผงรวมวิญญาณไม่ธรรมดา,ช่วยยกระดับพลังบ่มเพาะได้อย่างรวดเร็ว.
สิบวันหลังจากนั้น,ศิษย์ใหม่ 400
คน,ยกเว้นเหยาเมิ่งหยิงที่ยังไม่ได้ฝึกยุทธ์,ก็สามารถก้าวไปถึงระดับเปิดชีพจรได้ทั้งหมด.
แม้แต่มีศิษย์บางคนได้รับเม็ดยาผสานวิญญาณในการก้าวสู่ระดับศิษย์ยุทธ์แล้ว.
จากวันรับเข้าสำนักผ่านมา 50
วัน,ก้าวไปถึงระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบสอง,นี่เป็นความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ.
......
ทวีปชิงหยุนนั้นมีพื้นที่ขนาดใหญ่,แบ่งออกไปสิบสองดินแดน,หรือที่เรียกว่า
12 จังหวัด.
เก้าจังหวัดที่ไกลและไม่เชื่อมต่อกัน,แทบจะถูกตัดขาดออกจากกัน,นอกจากนี้สามจังหวัดที่ถูกกั้นด้วยทะเลที่กว้างใหญ่,กล่าวได้ว่าดินแดนทั้งสามนี้เป็นพื้นที่ที่โลกลืม.
แต่ละดินแดนนั้นมีวัฒนาธรรมของตัวเอง,หลาย
ๆพื้นที่ที่แยกตัวออกจากกัน,จนดูเหมือนการเป็นโลกที่อิสระเสรี.
นอกจากจะแบ่งแยกพื้นที่ออกจากกันแล้ว,ไม่เพียงแบ่งออกเป็นจังหวัด,ยังแบ่งเป็นมนทล,เมืองและหมู่บ้าน.
ยกตัวอย่าง,จังหวัดซีเหนียนหยาง(หยางตะวันตกเฉียงใต้),มีดินแดน
200-300 มนทล,ประชาชนรวมกันกว่า 10 ล้านคน.
มนทลชิงหยางเป็นหนึ่งในจังหวัดซีเหนียนหยาง,และเป็นดินแดนระดับเก้าต่ำที่สุด.
จังหวัดซีเหนียนหยาง,เป็นหนึ่งในดินแดนของทวีปชิงหยุน,เป็นดินแดนที่มีขนาดใหญ่มาก.
เพราะเหตุผลทางด้านตำแหน่งภูมิศาสตร์,ด้วยมีมนทลระดับจำนวนมาก
ทำให้จังหวัดซีเหนียนหยางเป็นเพียงดินแดนระดับเก้าที่ไม่แข็งแกร่ง,อยู่ในระดับต่ำขั้นกลาง.
จังหวัดซีเหนียนหยางไม่รวมตัวกันเป็นหนึ่งอาณาจักร,แต่ละมนทลมีการปกครองตัวเองมีกฎเกณฑ์ของตัวเอง,เป็นการแตกแบ่งอำนาจเล็ก
ๆออกมาเป็นจำนวนมาก.
มนทลที่แข็งแกร่งที่สุด,เป็นดินแดนระดับสาม,มนทลเทียนยวี.
มนทลเทียนยวีนั้นเมืองเทียนยวีเป็นเมืองหลวงของจังหวัดซีเหนียนหยาง,ซึ่งเป็นเมืองระดับกษัตริย์.
ไม่ผิด.
ไม่เพียงแค่แบ่งแยกดินแดน,เมืองเองก็มีการแบ่งระดับเช่นกัน.
การแบ่งแยกของเมืองนั้น.
การจะมีระดับกษัตริย์,ไม่เพียงแค่เป็นเมืองใหญ่ที่แข็งแกร่งมีประชาชนมากพอ,ผู้ปกครองเองก็ต้องมีระดับกษัตริย์ยุทธ์เป็นผู้ปกครองด้วย.
ในจังหวัดซีเหนียนหยาง,บางเมืองอาจจะมีเจ้าเมืองอยู่ในระดับกษัตริย์ยุทธ์?ว่าก็ยังมีจำนวนประชาชนไม่เพียงพอ,จึงถูกเรียกแค่เมือง,ไม่สามารถเรียกเมืองกษัตริย์ได้.
เหนือเมืองกษัตริย์,ก็ยังมีเมืองจักรพรรดิ,เมืองศักดิ์สิทธิ์,และเมืองราชันย์.
เมืองจักรพรรดิและเมืองศักดิ์สิทธิ์,แน่นอนว่าผู้ปกครองย่อมเป็นจักรพรรดิยุทธ์และปราชญ์ยุทธ์.
ในทวีปชิงหยุน,เก้าจังหวัด,เมืองกษัตริย์นั้นมีมากกว่าหนึ่งร้อยเมือง,ทว่าเมืองจักรพรรดิและเมืองศักดิ์สิทธิ์นั้นค่อนข้างหายาก.
ส่วนเมืองราชันย์นั้น,เคยปรากฏแต่ในอดีตเท่านั้น,คาดว่าน่าจะผ่านมาหลายหมื่นปีแล้ว.
ตามบันทึกที่มี,มีสามราชันย์ปกครองเมือง,จึงถูกเรียกว่าเมืองราชันย์.
กล่าวกันว่าทวีปชิงหยุนมีเก้าราชันย์เก้าจังหวัด,ส่วนอีกสามราชันย์ปรกครองเมืองเดียวกันแยกออกมาจากโพ้นทะเล
,ทว่าเรื่องในยุคโบราณที่เป็นเรื่องบอกเล่า,ยากจะรับประกันความจริงได้.
กลับมายังเมืองกษัตริย์เทียนยวี,สมาคมรับรองสิทธิ์สำนัก.
ในเวลานี้,ชายชราผมขาว,นั่งอยู่ในห้องโถง,มือที่เหี่ยวแห้งยกชาขึ้นดื่ม.
เขามีนามว่าอี้เทียนเจียน.
จ้าวสมาคมรับรองสิทธิ์สำนักงานใหญ่ของจังหวัดซีเหนียนหยาง.
ที่รอบ
ๆเองก็มีชายชราอีกสี่คนสวมชุดสีทองนั่งอยู่.
พวกเขาคืออาวุโสสมาคมรับรองสิทธิ์สำนัก,หนึ่งในนั้นเผยแววตาขุ่นมั่ว,แผ่กลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา,เพียงแค่จ้องมองก็รู้ว่าเป็นยอดฝีมือ.
“ทุกท่าน.”
อี้เทียนเจียนที่เป็นคนเอ่ยปากออกมา,”มีความเห็นอย่างไรกับรายงานที่จวีซือเจาส่งมา?”
อาวุโสเอ่ย,”สำนักมนทลระดับเก้า,ได้รับประเมิน 2
A,มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ.”
อีกคนเอ่ย,”ตั้งแต่ตาเฒ่าเป็นอาวุโสของสมาคม,ยังไม่เคยเห็นมนทลระดับเก้ามีประสิทธิภาพที่จะได้รับ
2 A
เลย.”
“หนำซ้ำ.”
เขาหยุดและเอ่ยออกมาว่า,”ยังยกระดับสำนักไท่กู่เจิ้งให้เป็นสำนักขั้นที่เจ็ดไปแล้ว.”
อาวุโสอีกคนเอยออกมาว่า,”คิดว่าประเมินผิดอย่างงั้นรึ?”
“เจ้าซิงหมิงเป็นจวีซือมา 350 ปี
ที่สาขามนทลชิงหยาง.”
อาวุโสอีกคน,”แม้นว่าจะไม่ได้โดดเด่น,แต่ควรจะมีความชำนาญ,ไม่ควรประเมินผิด.”
“อาวุโสโจว,เจ้าคิดว่า,เจ้าซิงหมิงถูกเงินซื้องั้นรึ?”อาวุโสอีกคนที่กล่าวพร้อมกับเสียงหัวเราะ.
อาวุโสโจวขมวดคิ้ว,”อาวุโสเจิ้น,เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
อาวุโสเจิ้นเอ่ย,”เท่าที่ข้ารู้นั้น,เจาซิงหมิงในมนทลชิงหยางนั้น,ได้ทำข้อตกลงบางอย่างกับพันธะมิตรร้อยสำนัก,แม้แต่แอบจัดเตรียมว่าคนที่จะได้ยกระดับต้องได้รับใบรับรองจากพันธมิตรร้อยสำนักก่อน.”
หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง.
เรื่องของจวีซือเจาที่มนทลชิงหยาง,กับถูกส่งมาถึงอาวุโสได้.
ใบหน้าของอาวุโสโจวที่กลายเป็นอัปลักษณ์ทันที.
เจ้าซิงหมิงนั้นเป็นคนของเขา,หากว่าสืบสวนเรื่องนี้,เจ้าสมาคมเอาเรื่อง,แน่นอนว่าจะต้องลามมาถึงเขาแน่.
น่ารังเกียจนัก.
สมองของมันถูกลาถีบรึอย่างไร?
ถึงได้แอบตกลงกับพันธมิตรร้อยสำนักอย่างลับ ๆ!
คำพูดของอาวุโสเจิ้น,ที่ทำให้บรรยากาศในห้องโถงหนักอึ้งขึ้นมาทันที.
อาวุโสสองคนด้านข้างไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา.
อาวุโสโจวและอาวุโสเจิ้น,ไม่ค่อยกินเส้นกันนัก,ประชุมทีไรก็โต้เถียงกันตลอด.
อี้เทียนเจียนเอ่ย,”พวกเรามาประชุมเรื่องใหญ่กันก่อน,ส่วนเรื่องเจ้าซิงเหมิงนั้น,ค่อยพูดกันวันหลัง.”
อาวุโสเจิ้นยกมือประสานออกไป,”เจ้าสมาคม,จวีซือเจารับสินบน,ตาเฒ่าเชื่อว่าเรื่องประเมิน
2A
ของสำนักไท่กู่เจิ้งจะต้องมีอะไรไม่ถูกต้องอยู่แน่.”
“อาวุโสเจิ้น.”
อาวุโสโจวกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,”หากไม่มีหลักฐาน,ไม่ควรกล่าวพร่อย
ๆ,ตัดสินราวกับว่าจวีซีเจาผิดไปแล้ว.”
“ชิ.”
อาวุโสเจิ้นที่กล่าวออกมาทันที,”เรื่องที่เจ้าซิงหมิงทำข้อตกลงกับพันธมิตรร้อยสำนักนั้น,ตาเฒ่ายากจะหาหลักฐานได้,ทว่าการประเมินที่ผิดพลาดนี้,หมายความว่าอย่างไร.”
ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่มีใครยอมใคร!
อาวุโสโจวที่เจ้าคิดเจ้าแค้น,ฟื้นฝอยหาตะเข็บ.
อี้เทียนเจียนที่คร้านจะฟังการโต้เถียงของคนทั้งสอง,จึงเอ่ยออกมาว่า,”ส่งคนไปยังมนทลชิงหยาง,ให้ตรวจสอบอีกครั้งก็แล้วกัน.”
“ไม่เลว.”
อาวุโสคนหนึ่งที่ราวกับต้องการดูเรื่องสนุกเอ่ยออกมาว่า,”ตาเฒ่าก็คิดว่า,ส่งคนของสำนักงานใหญ่ออกไป,น่าจะยุติธรรมที่สุด.”
อาวุโสเจิ้นเอ่ย,”เจ้าสมาคม,ตาเฒ่ายินดีที่จะไปเอง.”
“ข้าเองก็ด้วย!”อาวุโสโจวเอ่ย.
อาวุโสสองคนได้แต่ส่ายหน้าไปมา.
เพียงแค่สำนักในมนทลระดับเก้า,จำเป็นต้องส่งอาวุโสสองคนของสำนักงานใหญ่ออกไปตรวจสอบเลยรึ?
ทำราวกับเป็นเรื่องใหญ่โต.
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น