Strongest Sect of All Times Chapter 265 Breaks through to Seventh Stage Martial Master difficultly
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 265 Breaks
through to Seventh Stage Martial Master difficultly 【Fourth】
艰难突破到七品武师【第四更】
เมื่อสมาชิกสำนักครบพันคน,ภารกิจสำนักก็ปรากฏ,และปรากฏขึ้นที่ป้ายออกภารกิจทันที.
ผลประโยชน์สามอย่างที่เขาได้รับ.
อย่างแรก,จำนวนศิษย์เพิ่มขึ้น
เขาก็จะสามารถยกระดับสำนักได้.
อย่างที่สอง,ศิษย์ทำภารกิจได้แต้มความสำเร็จ,จะทำให้เขาสามารถยกระดับสิ่งก่อสร้างสำนักได้.
อย่างที่สาม,ภารกิจสำนักสำเร็จ,เขาได้รับแต้มสนับสนุน,แต้มความสำเร็จพันแต้ม,เขาก็ได้แต้มสนับสนุนพันแต้มเช่นกัน!
ในเวลานี้,เจ้าสำนักจุนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังรวย,ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรอีกแล้ว.
ภารกิจสำนัก,นี่เป็นครั้งที่สามแล้ว,หนึ่งดาวเวลานี้ค่อนข้างหายาก,ส่วนใหญ่เป็นสองถึงสามดาว,แม้แต่มีภารกิจสี่ดาวด้วย!
กล่าวได้ว่าความแข็งแกร่งของศิษย์ที่เพิ่มมากขึ้น,ทำให้ภารกิจสองและสามดาวมีมากขึ้นนั่นเอง.
ส่วนภารกิจหนึ่งดาวเวลานี้คงเหลือให้กับศิษย์ใหม่ที่ยังอ่อนประสบการณ์.
จุนซ่างเซียวรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก.
สำนักที่เขาต้องการไม่เพียงแค่แข็งแกร่งเท่านั้น,ศิษย์จะต้องรักสำนัก,ช่วยเหลือกันและกันในกลุ่มศิษย์,ไม่เห็นแก่ตัว,นี่คือเป้าหมายที่เขาต้องการ.
ภารกิจสี่ดาวที่ยากจะทำสำเร็จ,ส่วนมากแล้วเป็นการสังหารสัตว์ร้ายระดับสูง,จำเป็นต้องมีคนที่มากเพียงพอ,ซึ่งมีเพียงศิษย์สายในเท่านั้นที่จะทำสำเร็จ.
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ชิงหยางเอ่ย,”ห้องปั้นกล้ามเนื้อไม่พอแล้ว.”
การที่มีศิษย์ใหม่กว่าสี่ร้อยคน,พวกเขาต้องการแข็งแกร่งขึ้น,นอกจากเม็ดยาและวิชาบ่มเพาะยังไม่พอ,พวกเขาจะต้องมีการยกระดับกล้ามเนื้อขึ้นมาด้วย.
“ติ๊ง! โฮสน์ใช้แต้ม
400 แต้ม,ได้รับห้องปั้นกล้ามเนื้อ 20,ถูกส่งเข้าในแหวนมิติแล้ว.”
“ติ๊ง!
คะแนนสนับสนุนสำนัก : 102 / 1000.”
จุนซ่างเซียวที่ซื้อเพิ่ม 20
,ทำให้ห้องปั้นกล้ามเนื้อเวลานี้,มีจำนวนถึง 40 ห้องแล้ว.
แต่กระนั้น,ห้องปั้นกล้ามเนื้อที่มีก็ยังไม่พอเพียงศิษย์หลายคนเช่นเดิม,ทว่าเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว
เพราะขีดจำกัดการซื้อ,ทำได้แค่นี้,ดังนั้นจึงต้องมีการแบ่งปันในการใช้ห้องปั้นกล้ามเนื้อ.
......
ศิษย์ใหม่ที่เข้ามานั้นได้ผลประโยชน์ไม่น้อย.
เม็ดยาฟื้นฟูระดับต้น,และเม็ดยาบูรณะร่างกาย,นอกจากนี้ยังมีเม็ดยาเปิดชีพจรตลอดจนเม็ดยารวมวิญญาณ,ที่มีการมอบให้ตามระดับบ่มเพาะ.
สำหรับทักษะยุทธ์,จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้มีเวลาในการแจกมอบให้ทีละคน,เขาได้สร้างหอตำราขึ้นมา,ที่นั่นมีทักษะยุทธ์ที่ซื้อจากร้านค้าคัดลอกไว้แล้วนำไปวางไว้.
ศิษย์ต้องการศึกษาสิ่งใด,สามารถเข้าไปเลือกด้วยตัวเอง.
ภายใต้เงื่อนไขทั่วไป,ไม่ว่าจะเป็นสำนักใด,ตระกูล,สำนักยุทธ์ทุกแห่ง,ต่างก็มีหอยุทธ์ด้วยกันเท่านั้น.
เพียงแต่ในสำนักไท่กู่เจิ้งไม่จำกัดคนหรือคุณสมบัติในการเข้าไป,ไม่มีอาวุโสคอยคุ้มกันประตูเอาไว้.
ทุกคนสามารถเข้าไปได้,ศึกษาได้อย่างอิสระ.
“ลึกล้ำเกินไปแล้ว!”
หลังจากกินเม็ดยาบูรณะร่างกายแล้ว,ซ่งเสวียนโจวที่รู้สึกร่างกายและความแข็งแกร่งเพิ่มสูงขึ้น,จนทำให้เขาสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น.
เขาที่เป็นหนึ่งในพรสวรรค์,ย่อมเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย,เข้าใจในวิถียุทธ์ได้อย่างไม่ธรรมดา.
หลังจากที่เขาศึกษาวิชาบ่มเพาะเปลี่ยนเส้นเอ็น,หมัดระเบิดและทักษะอีกหลายอย่าง,ยิ่งทำให้เขาตื่นตะลึงเข้าไปอีก.
ในเวลานี้.
ซ่งเสวียนโจวก็เข้าใจในที่สุด,สำนักไท่กู่เจิ้งที่มีเชื่อเสียงขึ้นมาเร็ว
ๆนี้ ไม่ใช่ความบังเอิญแม้แต่น้อย!
และยิ่งเข้าร่วมสำนัก,เขาก็ได้รับรู้ ความจริงหลายอย่างที่ไม่มีใครรู้,แม้แต่เรื่องเม็ดยาฟื้นฟูที่เขาเคยกินก็ด้วย.
ที่จริงแล้วเม็ดยาฟื้นฟูที่ตระกูลอ้ายขายให้เขาในครั้งนั้น
เป็นเจ้าสำนักเป็นคนกลั่นขึ้นมา,ซ่งเสวียนโจวถึงกับเดินทางมายังห้องโถง,เตรียมคุกเข่าคารวะจุนซ่างเซียวด้วยความเคารพ.
เขาที่เป็นอมพาตนอนซมอยู่บนเตียง,จิตใจที่พังทลายไปเรียบร้อยแล้ว.
ตอนนี้เขาสามารถกลับสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้ง,สามารถฝึกยุทธ์ได้อีกครั้ง,เป็นดั่งผู้รอดชีวิตที่ผ่านความยากลำบากมา!
กับคนที่สามารถทำให้เขากลับมายืนได้อีกครั้ง,แน่นอนว่าเขาต้องคุกเข่าให้ด้วยความเคารพ.
จุนซ่างเซียวที่โบกมือ,ขวางเขาไม่ให้คำนับ,กล่าวออกไปว่า,”ต้องการตอบแทนเปิ่นจั้ว,จงแข็งแกร่งขึ้น,แล้วสร้างชื่อเสียงให้กับสำนัก.”
ซ่งเสวียนโจวที่ดวงตากลายเป็นหนักแน่น,”ศิษย์ซ่งเสวียนโจว,ยินดีจะบุกน้ำลุยไฟเพื่อสำนักไท่กู่เจิ้ง!”
ลำพังซ่งเสวียนโจวที่มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม.
การได้เขาเข้าร่วมสำนัก,หลังจากได้ทรัพยากรสนับสนุน,จะยิ่งเติบโตได้อย่างรวดเร็ว.
สิ่งที่ซ่งเสวียนโจวเสียใจที่สุด,คือไม่ได้เข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้งเร็วกว่านี้,ไม่เช่นนั้นเขาคงกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งไปแล้ว.
แน่นอน.
หลังจากเข้าร่วมสำนักไม่นาน,เขาก็สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว,โดยเฉพาะสามารถเข้าร่วมเล่นฟุตบอลได้กับศิษย์พี่
กลุ่มของลี่เฟยได้แล้ว.
ทว่า,
ทั้งเจ็บปวดและยินดี!
ทว่าขอเพียงเขาแข็งแกร่งขึ้น,แม้ว่าจะถูกบอลอัดสักกี่ครั้งเขาก็สามารถทนได้.
......
หอฝนพรำและหอยาที่ขาดกำลังคน,จุนซ่างเซียวได้เลือกศิษย์ใหม่หลายคนแบ่งปันไปยังหอทั้งสอง,เพื่อฝึกฝนและสนับสนุนสำนัก.
อีกฝั่งหนึ่ง,เหล่าศิษย์ที่รับภารกิจจากหอภารกิจมีทั้งทำเป็นทีมและเดี่ยว,เริ่มเสร็จบ้างเป็นบางส่วนแล้ว.
จากนั้น,จุนซ่างเซียวที่ได้ยินเสียงของระบบแจ้งภารกิจเสร็จสิ้น,แม้แต่คะแนนความสำเร็จและคะแนนสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย
ๆ.
การยกระดับสิ่งก่อสร้างเลเวล 4 จะต้องมีคะแนนความสำเร็จ
1000 แต้ม.
ส่วนการยกระดับสำนัก,ต้องฝึกฝนศิษย์ใหม่ให้มีระดับเปิดชีพจรระดับสิบสองให้พอ.
ทั้งสองอย่างต่างก็ต้องการเวลาสักพักหนึ่ง.
ไม่ต้องรีบ,อีกไม่นานนี้แล้ว.
หนึ่งเดือนครึ่งหรือสองเดือน,น่าจะเสร็จสิ้นทั้งหมด.
จุนซ่างเซียวที่ให้หลี่ลั่วฉิวจัดการงานของสำนักชั่วคราว,เวลานี้เขาจำเป็นต้องยกระดับตัวเองให้เร็วที่สุด.
การประลองกับนิกายเซิ่งชวนกำหนดเวลาหนึ่งปี,เหลือเวลา
7-8 เดือนเท่านั้น,เขาต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างเร็ว,หากเป็นไปได้ควรจะอยู่ในระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายหรือระดับบรรพชนยุทธ์!
มีเรื่องที่น่าตกใจ.
เขาใช้เวลาหนึ่งเดือยหลังจากนั้นก็สามารถตัดผ่านระดับจากอาจารย์ยุทธ์ขั้นที่หกไปยังขั้นที่เจ็ดได้.
ทำไมถึงได้น่าตกใจเช่นนั้น? เขาทำได้อย่างไร?
นั่นก็เพราะเม็ดยารวมวิญญาณ 10 เท่านั่นเอง!
“ไม่.”
จุนซ่างเซียวที่เอ่ยกับตัวเอง,”หนึ่งเดือนของข้าเท่ากับสิบเดือนของคนอื่น,การยกระดับเช่นนี้คาดไม่ถึงว่าจะยกระดับได้หนึ่งขั้น!”
ระบบเอ่ย,”ธรรมดามาก.”
ธรรมดาอย่างงั้นรึ?
จุนซ่างเซียวที่พูดไม่ออก.
ทว่าการยกระดับจากศิษย์ยุทธ์มายังระดับอาจารย์ยุทธ์,เขาสัมผัสได้การเขายกระดับได้ง่ายกว่าปรกติมาก.
ครั้งนี้ที่ระบบหมดคำจะพูด,เอ่ยออกมาว่า,”เจ้าคิดว่ามันง่ายอย่างงั้นรึ?เพราะว่าเจ้าถูกยกระดับเพราะทำภารกิจมหากาพย์จึงทำให้ข้ามผ่านดินแดนยุทธ์มาได้,ในความเป็นจริงยอดฝีมือที่โดเด่นการจะตัดผ่านระดับดินแดนได้นั้นจำเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองปี.”
“ข้ายังมีเม็ดยารวมวิญญาณสิบเท่า.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ระบบเอ่ย,”การยกระดับขั้นนั้น,จำเป็นต้องได้รับพลังฟ้าดินที่มากขึ้นเรื่อย
ๆ,เม็ดยารวมวิญญาณสิบเท่ายิ่งใช้มากเท่าไหร่ประสิทธิภาพก็จะลดลงเรื่อย
ๆ,การรวมพลังวิญญาณในครั้งต่อไปก็จะยากขึ้นเป็นเท่าตัว.”
“งั้นเหรอ.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เจ้าหมายความว่า,ยิ่งระดับสูงขึ้น,ก็ต้องใช้เม็ดยารวมวิญญาณมากขึ้นอย่างงั้นสินะ.”
ระบบ.” ......”
ความหมายของข้า,คือไม่ควรยึดติดกับเส้นทางเดียว,การยกระดับวิธียุทธ์นั้น,จำเป็นต้องค่อยเป็นค่อยไป.
เจ้าคิดแต่จะใช้เม็ดยารวมวิญญาณอย่างเดียวเลย,เรื่องนี้....ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง.
“ไม่รู้ว่าสมุนไพรของเหล่าเหว่ยเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้?”
หลายวันมานี้,สวนสมุนไพรด้วยจำนวนสมาชิกหอยากที่เพิ่มขึ้น,พวกเขาได้ขยายพื้นที่จากสิบมู่เป็นห้าสิบมู่แล้ว.
นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรชนิดต่าง
ๆ,ทำให้พลังวิญญาณที่หนาแน่นปกคลุมราวกับท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมอกหนา.
กระท่อมแห่งหนึ่ง.
เหล่าเหว่ยที่ส่งมอบแหวนมิติออกไปหลายวง,กล่าวออกมาว่า,”นี่คือสมุนไพรระดับสูงชุดที่สาม.”
สมุนไพรชุดที่แล้วผ่านมาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น,เพราะว่าจุนซ่างเซียวตั้งหน้าตั้งตาบ่มเพาะ,จึงรู้สึกว่าเวลามันผ่านไปเร็วมาก.
“เหล่าเหว่ย.”
จุนซ่างเซียวที่รับแหวนมิติมา,พร้อมกับยกชาขึ้นดื่ม,พร้อมกับสอบถามเกี่ยวกับเมล็ดสมุนไพร
200,000 เมล็ด,”สมุนไพรก่อนหน้านี้,เติบโตบ้างหรือไม่?”
เหล่าเหว่ยเอ่ย,”เพราะว่าพื้นที่รอบ
ๆนี้เพิ่งเคยใช้ปลูกสมุนไพรเป็นครั้งแรก,ทำให้พื้นที่ยังไม่เหมาะเท่าใดนัก,จำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักเดือนถึงจะงอกต้นกล้าได้.”
“ไม่ต้องรีบ,ยังมีเวลา.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
“เอ๊ะ?”
หลิวหว่านซี่ที่มีเหยาเมิ่งหยิงคอยตามก้น,นางที่เอ่ยออกมาว่า,”เจ้าสำนัก.”
จุนซ่างเซียวที่กล่าวล้อ,”ไม่เห็นว่าเปิ่นจั้วอยู่ตรงนี้รึ?”
ระหว่างที่กล่าว,เขาที่จ้องมองไปยังเด็กสาว.
หนึ่งเดือน,เหยาเมิ่งหยิงที่คลายความเศร้าและปรับตัวเข้ากับสำนักไท่กู่เจิ้งได้.
เพราะว่านางยังเด็กนัก,จึงยังไม่สามารถฝึกยุทธ์ได้,ทุก
ๆวันนางจึงเดินตามหลิวหว่านซี่,เหมือนกับลูกไก่เดินตามแม่ไก่.
ศิษย์ทุกคนภายในสำนักไท่กู่เจิ้งต่างก็รู้เรื่องน่าสงสารของเหยาเมิ่งหยิง,ดังนั้นทุกคนจึงเอ็นดูนาง,ต้อนรับนางอย่างอบอุ่น.
โดยเฉพาะซูเซียวโม่และลี่เฟย,ที่ชอบทำตัวสนุกสนานหยอกล้อนางหัวเราะได้ทั้งวี่ทังวัน.
กล่าวไปแล้วก็แปลก.
ต่อหน้าศิษย์พี่มากมาย,เหยาเมิ่งหยิงที่เปิดใจได้อย่างรวดเร็ว,ทว่าเมื่อพบกับเจ้าสำนักนางกับรู้สึกระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา.
นางที่ซ่อนอยู่ด้านหลังหลิวหว่านซี่,ใบหน้าเล็ก
ๆของนางที่เผยความขลาดเขลาออกมา.
จุนซ่างเซียวที่ได้แต่ส่ายหน้าไปมา,กล่าวในใจ,”นี่ข้าน่ากลัวขนาดนั้นเลยรึ?”
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น