Strongest Sect of All Times Chapter 250 Kills by mistreatment Qi Mountain Sect sect master!
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 250 Kills by mistreatment Qi
Mountain Sect sect master!
虐杀祁山宗宗主!
ในช่วงระยะเวลาวิกฤติ,จุนซ่างเซียวที่ปรากฏขึ้น,ความโกรธเกรี้ยวที่มากล้นจนไม่สามารถระงับเอาไว้ได้.
เพราะว่าหลังจากสมาชิกหอฝนพรำตายลง,เสียงของระบบที่แจ้งสมาชิกลดลงก็ดังขึ้น.
กล้าสังหารศิษย์ของข้า.
ไม่ว่ามันจะเป็นใคร,มาจากใหน,มันจะต้องตาย!!!!!
แน่นอน.
เพียงแค่ตายก็ยังไม่พอ.
มันจะต้องตายอย่างเจ็บปวดทรมาน.
ถึงชายวัยกลางคน,จะเอาออกไป,ก็ต้องตาย,ไม่เอาออกไป,ก็ต้องตายอย่างอนาจ!
“เจ้า...เจ้าสำนัก”
เซียวจุ้ยจื่อที่กล่าวเสียงอ่อน,สายตาที่เผยความดีใจออกมา.
เจ้าสำนักมาแล้ว.
ศิษย์น้องของเขาปลอดภัยแล้ว.
ในเวลานี้,เซียวจุ้ยจื่อไม่ได้นึกถึงตัวเอง,หาแต่คิดถึงสมาชิกหอฝนพรำ.
เห็นศิษย์รัก,ที่บาดเจ็บสาหัส,จิตสังหารของจุนซ่างเซียวยิ่งปะทุขึ้นมากกว่าเดิม.
ร่างกายที่ยืนเด่นเป็นสง่า,ถึงต่อหน้าจะเป็นเทพหรือเซียน,อีกฝ่ายมีเพียงชะตากรรมที่ต้องตาย.
ไม่กลัวที่จะล่วงเกินคนอื่นอย่างงั้นรึ?
โดยปรกติแล้ว,จุนซ่างเซียวที่เลือกจะอยู่แบบสงบเสงี่ยม,ยกตัวอย่างเขาสามารถที่จะอภัยให้กับอาวุโสสำนักกุยโชวได้,ทว่าในเวลานี้,ภายในใจของเขามีแต่ความต้องการฆ่าเท่านั้น!
เกล็ดย้อนของมังกร,ใครสัมผัสมันจะต้องตาย.
เกล็ดย้อนของจุนซ่างเซียว,แน่นอนว่าคือศิษย์ที่เป็นดั่งสมบัติของเขา.
อย่าว่าแต่สังหารเลย,เพียงแค่ทำให้บาดเจ็บ,ก็ต้องชดใช้อย่างสาสม!
ได้ยินคำพูดของเซียวจุ้ยจื่อเหลียวซางฟางเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล,”เจ้านะรึ?เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง,สำนักระดับแปด?”
แม้นว่าจะเอ่ย,ทว่าเท้าของเขาก็ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย.
เขาไม่สนใจไม่ให้ค่าจุนซ่างเซียวเลยแม้แต่น้อย.
อีกฝ่ายที่เป็นเจ้าสำนักวรรณะต่ำชั้นกว่า,หากว่าเหลียวซางฟางยกเท้าออก,ก็แสดงทว่าเขาหวาดกลัวต่ออีกฝ่าย.
“มาก็ดี.”
เหลียวซางฟางยังกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส,”มอบศิษย์คนนี้ให้กับข้า,ข้าจะให้เขาเป็นศิษย์ของสำนักฉีซาน.”
คำพูดของเขา,ที่ไม่ไว้หน้าจุนซ่างเซียวเลยแม้แต่น้อย,ไม่เห็นอยู่ในสายตาสักนิดเดียว.
เพียงแค่สำนักไท่กู่เจิ้งกระจอก ๆ,ต่อให้เป็นฉินเห่าหรานมาเอง,เขาก็ยังไม่เห็นอีกฝ่ายในสายตา.
ไม่ใช่แค่เพียงเผยความอหังการ,แต่อีกฝ่ายอยู่ในระดับต่ำเกินไป.
สำหรับยอดฝีมือที่แข็งแกร่ง,จะต้องสุภาพเรียบร้อยกับคนที่อ่อนแอกว่าอย่างงั้นรึ?
“อยากได้ศิษย์ของข้าอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เจ้าช่างโอหังจริง
ๆ.”
เหลียวซางฟางเอ่ย,”มอบเขาให้กับข้า,ความแค้นครั้งนี้ถือว่าหายกัน.”
เขารู้สึกชื่นชมเซียวจุ้ยจื่อมาก,หากว่าทำให้อีกฝ่ายเป็นศิษย์ของตัวเองได้,แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่คุ้มค่า.
น่าเสียดาย,นี่เป็นแค่ความต้องการฝ่ายเดียว.
ถึงแม้นว่าจุนซ่างเซียวจะมอบเซียวจุ้ยจื่อให้อีกฝ่าย,แต่ก็ไม่มีทางที่จะยอมที่เขาสังหารศิษย์ของตัวเอง.
ดังนั้นเขาจึงยกดาบยาวขึ้น,กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา,”ความแค้นหมดไปอย่างงั้นรึ?
ฝันไปเถอะ!”
เหลียวซางฟางที่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเอ่ยออกมาว่า,”เจ้าควรจะเป็นเจ้าสำนักที่ฉลาด,แต่ปากไม่มีหูรูด,ไม่เคยมีใครสังสอนอย่างงั้นรึ?”
ฆ่าคนของข้า,แล้วยังมาหาว่าตัวเองไม่มีใครสั่งสอนอีกรึ?
ฮึ ฮึ ฮึ!
จุนซ่างเซียวหัวเราะเบา ๆ.
ดาบที่ตวัด,เห็นเพียงริ้วแสงพุ่งออกไปด้วยความเร็ว!
“ฟู่!”
คมดาบที่ตัดออกไป,ความแข็งแกร่งที่มีมากกว่า
300,000 จิน.
เห็นชัดเจนว่า,เขาได้บดยันต์แห่งพลังมาก่อนหน้านี้แล้ว!
ใบหน้าที่ไม่แยแสของเหลียวซางฟาง,สัมผัสได้ถึงสายลมที่พัดผ่านเข้ามา,ใบหน้ากลายเป็นจริงจังทันที,ก่อนที่จะพุ่งออกไปสะบัดฝ่ามือ,”ฝ่ามือเคลื่อนเมฆา!”
“ฟู่ ฟู่!”
พลังวิญญาณที่แผ่พุ่ง,พลุ้งพล่านอาบฝ่ามือ,สร้างคลื่นหมอกที่รุนแรง,รวมตัวเป็นฝ่ามือยักษ์ลอยออกไป.
ดาบของจุนซ่างเซียวนั้นทรงพลังมาก,เขาไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย,แม้แต่ใช้ฝ่ามือระดับสูงขั้นสูงออกมา!
ซูมมม!
ฟู่ ฟู่!
ดาบยาวมังกรเขียวที่เปล่งแสงสีเขียว,พลังที่เพิ่มมากขึ้นทันที,ท้ายที่สุดก็มีพลังโจมตี
400,000 จิน!
นี่หมายความว่าอย่างไร?
นี่ไม่ใช่คนที่ยังไม่คนที่มีระดับบรรพชนยุทธ์ทั่วไปจะรับได้.
พลังที่โจมตีออกมานี้อย่างน้อยก็ต้องระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นที่ห้าแล้ว.
เหลียวซางฟางมีรากวิญญาณระดับสูง,อาจจะรับมือบรรพชนยุทธ์ระดับกลางได้,แต่เขาก็มีระดับแค่บรรพชนยุทธ์ขั้นที่สองเท่านั้น,รวมฝ่ามือเคลื่อนเมฆาของเขา,ความแข็งแกร่งที่มีราว
ๆ 230,000 จิน.
กล่าวได้ว่าเขาคือยอดฝีมือที่โดดเด่นในระดับเดียวกัน.
น่าเสียดาย,ต่อหน้าดาบของจุนซ่างเซียว.
มันไม่พอ.
ทำได้แค่มองเท่านั้น!
“ขาดให้กับข้าซะ!”
เสียงตะโกนด้วยความเย็นชาของจุนซ่างเซียว.
ริ้วแสงสีเขียวที่ตัดผ่าน,ตัดฝ่ามือหมอกขาดออกไปสองส่วน,และพลังที่มากล้นนั้นยังไม่ได้หยุดแค่น้อย.
“เป็นไปไม่ได้....”
เหลียวซางฟางที่ใบหน้าเปลี่ยนสี,ทว่าไม่มีเวลาให้เขาได้ตื่นตะลึง,เขาก้าวหลบออกมาในทันที.
“ตูมมมมม!”
เขาที่ก้าวหนีออกมา,ปราณดาบที่พุ่งผ่านทะลวงพื้นดิน,สร้างรอยแยกขึ้นมาหนึ่งเมตรในทันที.
แก๊ก แก๊ก แก๊ก!
ปราณดาบที่ตัดผ่านพื้นดิน,ลากยาวออกไป
ทะลวงลงไปกว่า 5-6 เมตร.
พลังโจมตี 400,000
จิน,ตัดผ่านพื้นดินขาดเป็นรอยแยกขนาดใหญ่.
แม้นว่าเหลียวซางฟางที่หลบพ้น,ทว่าเห็นพลังโจมตีที่กรีดกราดชั้นดินให้เป็นรอยยาว,ก็ทำให้เขาสะดุ้งตกใจ,เหงื่อที่เย็นเยือบไหลออกมา.
เขาไม่สงสัยเลยว่า,หากไม่หลบเมื่อครู่นี้,ร่างของเขาคงขาดเป็นสองส่วน.
เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งที่ราวกับว่ามีระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นหกหรือเจ็ดเท่านั้น,ทำไมถึงได้มีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้กัน?!
เป็นไปได้ว่า...เขาซ่อนพลังบ่มเพาะอย่างงั้นรึ?
“บุกเดี่ยวข้ามฟาก!”
จุนซ่างเซียวไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น,ยังคงตะวัดดาบยาวออกไปอีก.
ดาบยาวมังกรเขียวที่ตัดผ่าด้านข้าง,ริ้วแสงสีเขียวที่สว่างเจ้าขึ้นมาทันที.
พลังสี่แสนจินที่ระเบิดออกมา.
เหลียวซางฟางที่รู้สึกกริ่งเกรงขึ้นมาทันที,ไม่กล้าที่จะรับโดยตรง,ใช้เท้าเท้าที่รวดเร็วหลบเลี่ยงในทันที.
แม้นว่าจะหลบเลี่ยงได้,ทว่าปราณดาบที่พุ่งออกไปนั้น,รวดเร็วน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
ต่อหน้าพลังที่น่าเกรงขามไร้เทียมทาน,เหลียวซางฟางที่รู้สึกอกสั่นขวัญหาย.
ตอนนี้,เขาสัมผัสได้ถึงพลังของเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง,รับรู้ว่าตัวเองนั้นอ่อนด้อยยิ่งนัก.
นี่คือความแข็งแกร่งที่สูงส่งอย่างงั้นรึ?
ความรู้สึกที่ไม่สามารถที่จะรับมือได้!
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวยังคงตวัดดาบไล่ตามฟันออกไป.
ในเวลานี้เขาได้ใช้ก้าวปิศาจ,เพิ่มความเร็วจนถึงขีดสุด,ขณะที่เหลียวซางฟางกำลังยั้งเท้า,ก็ตะโกนออกไปว่า,”น้ำท่วมเจ็ดทัพ!”
“ฟิ้ว-“ริ้วแสงสีเขียวที่พุ่งออกไปด้วยความเร็ว.
“ไม่ได้การแล้ว!”
เหลียวซ่างฟางที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
เขาต้องการจะหลบ,ทว่าหลบได้เพียงร่าง,ริ้วแสงสีเขียวที่เฉือนผ่านปลายจมูก,ตัดแขนขวาของเขาอย่างโหดร้าย.
“พรึด ซี่!”
พริบตาที่ริ้วแสงสว่างเจ้า,แขนที่หลุดลอยออกไป!
เพราะว่าดาบนั้นเร็วจนเกินไป,ความแข็งแกร่งที่ทรงพลังเหนือล้ำ,โลหิตที่พุ่งกระฉูดปู๊ด!
“ฟิ้ว!”
จุนซ่างเซียวที่ราวกับผีร้าย,พริบตาเดียวก็มาอยู่ด้านหลังของเหลียวซางฟางแล้ว.
“พรึด ซี่!”
ริ้วแสงที่เป็นประกาย,แขนอีกข้างก็ลอยออกไป!
จวบจนถึงตอนนี้,โลหิตที่ไหลอาบไปทั่วร่าง,พุ่งปู๊ด
ๆ,ความเจ็บปวดที่กระจายไปทั่วร่าง,ใบหน้าบิดเบี้ยวอย่างดูไม่ได้.
เซียวจุ้ยจื่อที่อยู่ใกล้ที่สุด,ดวงตาเบิกกว้างเผยความตื่นตะลึงอย่างที่สุด!
บรรพชนยุทธ์,ถูกเจ้าสำนักตัดแขนทั้งสองข้าง,เรื่องนี้เหลือเชื่อเป็นอย่างมาก!
ยังไม่ได้จบเพียงแค่นั้น!
“อุ่นเหล้าสังหารฮัวหยง!”
จุนซ่างเซียวที่ขยับดาบยาวตัดออกไปครั้งที่สาม.
“ฟิ้ว!”ริ้วแสงดาบที่เป็นประกาย,ขาของเหลียวซ่างฟางก็ขาดออกจากกัน,ล้มคว่ำไปกับพื้น.
“อ๊ากกกกก!”
ความเจ็บปวดทรมานที่มากล้น,ทำให้เขาร้องโหยหวน,ดังก้องไปทั่วหุบเขา,แววตาของผู้คนที่เห็นต่างต้องหวาดผวา.
นี่คือความเจ็บปวดขั้นสุดที่มนุษย์จะทนได้,เสียงร้องโหยหวนทรมานอย่างหนัก!
“พรึดโครม!”
ทั้งแขนและขาถูกกุด,สภาพของเหลียวซางฟางที่ล้มอยู่กับพื้น,ร่างกายที่กระตุกเป็นระยะ
ๆด้วยความเจ็บปวดทะลวงจิตใจอย่างไม่หยุดหย่อน!
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ริ้วแสงดาบที่เป็นประกายเฉือนเนื้อบนร่างของเขาเป็นรอย.
ไม่ใช่แค่แขนขาที่ขาดออก,แต่เนื้อทั่วร่างยังถูกเฉือนเป็นรอยเลาะสภาพดูไม่ได้,เจ้าสำนักฉีซาน,สำนักระดับหก,อยู่ในสภาพตายทั้งเป็น!
***
关羽单刀赴会 กวนอูบุกเดี่ยวข้ามฟาก
(เข้างานเลี้ยง)
ครั้งนั้นเล่าปี่ตีได้ฮันต๋ง จึงสถาปนาตนเองเป็นฮันต๋งอ๋อง
ฝ่ายซุนกวนได้ข่าว ก็ยิ่งอยากได้เกงจิ๋วคืน จึงเรียกโลซกมาปรึกษา
โลซกนั้นเดิมเป็นนายประกันให้เล่าปี่ยืมเกงจิ๋วไว้ชั่วคราวเมื่อตีได้เสฉวนแล้วจะคืนเกงจิ๋ว
บัดนี้โลซกขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่กังตั๋งอีก จึงเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในการทวงเกงจิ๋วคืน
โลซกจึงวางแผนเชิญกวนอูมากินโต๊ะ ณ ปากน้ำลกเค้า ฟากตรงข้ามกับเกงจิ๋ว
ตั้งใจว่าถ้าเจรจาขอเกงจิ๋วคืนจากกวนอูไม่สำเร็จจะให้กำเหลงและลิบองซึ่งคุมทหารซุ่มรออยู่รอบด้านจับกวนอูไว้แลกกับเกงจิ๋ว
กวนอูเมื่อได้รับหนังสือเชิญ ก็ตอบรับทันที
กวนเป๋งเกรงบิดาจะได้รับอันตราย แต่กวนอูอธิบายต่อบุตรอย่างละเอียดพิสดาร
สามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) บรรยายความตอนนี้ว่า
“ครั้นเราจะไม่ไปชาวเมืองกังตั๋งจะดูหมิ่นเราว่ากลัว
พรุ่งนี้เราจะพาทหารแต่ยี่สิบคนลงเรือเร็วไปกินโต๊ะ จะดูท่วงทีโลซกจะเกรงง้าวที่เราถือหรือไม่
อันบิดานี้ก็มีฝีมือเลื่องลืออยู่ แต่ทหารโจโฉเป็นอันมากนับตั้งแสน
บิดากับม้าตัวเดียวก็ยังไม่ต้องเกาทัณฑ์แลอาวุธทั้งปวง
ขับม้ารบพุ่งรวดเร็วเป็นหลายกลับ อุปมาเหมือนเข้าดงไม้อ้อแลออกจากพงแขม
จะกลัวอะไรแก่ทหารเมืองกังตั๋งเพียงนี้ดังหนูอันหาสง่าไม่
ได้ออกปากว่าจะไปแล้วจะให้เสียวาจาไย”
ครั้นถึงกำหนดวันนัด
กวนอูก็ลงเรือลำน้อยพร้อมด้วยทหารติดตามไปไม่กี่คนข้ามฟากไปลกเค้า
โลซกเห็นกวนอูท่าทางองอาจก็ให้กริ่งเกรงอยู่ จำข่มใจเอ่ยปากขอเกงจิ๋วคืนจากกวนอู
แต่กวนอูบอกปัดไม่ยอมคืนเกงจิ๋วโดยให้ไปเจรจากับเล่าปี่เอง
แล้วแสร้งเมามายไม่ได้สติและฉวยง้าวจากจิวฉองที่ถือยืนคอยอยู่มาถือมั่นไว้ในมือ
อีกมือหนึ่งคว้าเอามือโลซกมากุมไว้ (นัยว่าเป็นตัวประกัน)
แล้วจูงออกมาหน้าศาลลาริมน้ำแล้วกล่าวว่า “ท่านหามากินโต๊ะนี้ก็ขอบใจแล้ว
แต่เหตุใดจึงเอาการเมืองเกงจิ๋วมาว่าด้วยเล่า บัดนี้เราก็เมาสุราอยู่
แม้ไม่คิดถึงว่าได้รักกันมาแต่ก่อนก็จะขัดเคืองกันเสีย เราจึงอุตส่าห์ระงับโทสะไว้
เราจะลาท่านไปก่อนต่อวันอื่นเราจะเชิญท่านไปกินโต๊ะที่เมืองเกงจิ๋วบ้าง” ว่าแล้ว
กวนอูก็ลงเรือลำน้อยกลับเกงจิ๋ว ปล่อยให้ทหารกังตั๋งที่ซุ่มอยู่นั้นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันที่มิอาจทำอะไรกวนอูได้เลย
เป็นอันว่า แผนการของโลซกต้องล้มเหลวลงอีกครั้ง
ด้วยความกล้าหาญและไหวพริบปฏิภาณของกวนอูนั่นเอง
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น