Strongest Sect of All Times Chapter 249 Moves out of the way the foot, gives you a dignified cause of death
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 249 Moves out of the way the foot,
gives you a dignified cause of death
把脚挪开,给你一个体面死法
ตูมม!
เซียวจุ้ยจื่อที่ถูกโจมตีกระแทกกำแพงหิน,โลหิตสาดกระจาย.
เพียงแค่เวลาสั้น ๆ
เขาก็รับหมัดของบรรพชนยุทธ์ไปกว่า 20 หมัดแล้ว,แต่ละหมัดนั้นมีพลังไม่ต่ำกว่า
100,000 จิน!
อย่างไรก็ตาม.
เขาก็ยังคงพยายามที่จะลุกขึ้นมา,ไม่ยอมที่จะนอนลงไป.
เขาคือศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง,ถึงจะถูกโจมตีอย่างโหดร้าย,ถึงจะบาดเจ็บสาหัส,ก็ไม่มีทางที่จะเผยความอ่อนแอให้เห็น!
“เจ้าสำนักเหลียว,มีระดับบรรพชนยุทธ์,เจ้าเด็กนี้กับยังคงยืนอยู่ได้,กายเนื้อของมันแข็งแกร่งมาก!”
“ไม่สงสัยเลยว่าได้ชัยชนะเลิศการแข่งขัน!”
“น่าเสียดาย,ถึงจะมีกายเนื้อที่แข็งแกร่ง,แต่ต่อหน้าคนที่มีพลังที่เหนือกว่าก็ไร้ประโยชน์!”
คนของหลากหลายสำนักที่ค้นหาล้มกรอบเขามา,ตอนนี้เห็นเซียวจุ้ยจื่อที่ทนทรหด,ก็เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
“ไม่เลว,ไม่เลว.”
เจ้าสำนักเหลียวเอ่ย,”รับหมัดของข้าไปตั้งหลายหมัด,แต่ยังยืนได้,นับเป็นเมล็ดพันธ์ที่ยอดเยี่ยม.”
ใบหน้าของเซียวจุ้ยจื่อที่กลายเป็นเคร่งขรึม,ความเจ็บปวดที่กระจายไปทั่วร่าง,กัดฟันอดทนไม่ให้พ่นโลหิตออกมา.
หากไม่เพราะว่าได้ฝึกฝนในหอเก็บประสบการณ์,บางที่เขาคงจะล้มไปแล้ว.
“ไอ้หนู.”
เจ้าสำนักเหลียวเอ่ยออกมาเล็กน้อย,”ออกจากสำนักไท่กู่เจิ้ง,เข้าร่วมสำนักฉีซานซะ,แล้วข้าจะปล่อยให้เจ้ารอด.”
สำนักฉีซาน.
เป็นสำนักระดับหกของมนทลเหอหยาง.
ความแข็งแกร่งโดยรวมของศิษย์แล้ว,แข่งแกร่งกว่าสำนักเห่าฉีซะอีก.
ชายวัยกลางคนมีนามว่า เหลียวซางฟาง,เป็นเจ้าสำนักฉีซาน,ความแข็งแกร่งบรรพชนยุทธ์ขั้นที่
2 ,แข็งแกร่งกว่าฉินเห่าหราน.
ให้ออกจากสำนักไท่กู่เจิ้งอย่างงั้นรึ?
แม้นว่าจะเจ็บปวดแต่ก็ยังยิ้มออกมาได้.
เขาที่อดทนต่อความเจ็บปวด,กล่าวด้วยเสียงอ่อนแรง,”ชีวิตนี้....ข้าคือคนของสำนักไท่กู่เจิ้ง,ตายเป็นผี
ก็เป็นผีสำนักไท่กู่เจิ้ง....”
“เจ้าหนู,สำนักฉีซานของข้ามีความสามารถที่จะเป็นนิกายระดับห้า,โอกาสเช่นนี้ไม่ได้หาง่าย
ๆ.”
“เจ้าสำนักระดับแปด,เข้าร่วมงานประลอง,เจ้าสำนักไม่แม้แต่ตามมาด้วย,ทำไมต้องสละชีวิตไปเพื่อคนเช่นนั้น.”
“คนที่มีพรสวรรค์ต้องมีความฉลาดด้วย,เจ้าควรจะเข้าใจความจริง.”
เปลี่ยนเป็นจากทำลายมาเป็นพูดจาโน้มน้าวใจ.
อย่างไรก็ตามคำพูดเหล่านั้นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของเซียวจุ้ยจื่อ,ทำให้เขาแสยะยิ้มออกมา.
ปฏิเสธไม่ได้ว่า.
สถานการณ์ในเวลานี้อันตรายเป็นอย่างมาก.
ทว่าให้ออกจากสำนักไท่กู่เจิ้ง,เข้าร่วมสำนักอื่น,ถึงตายก็เป็นไปไม่ได้!
“ฟิ้ว!”
เหลี่ยวซางฟวางที่ยกแขนขึ้น,พลังวิญญาณที่มากล้น,ดึงสไนเปอร์ไรเฟิลออกมาจากแขนของเซียวจุ้ยจื่อ.
สายตาของทุกคนที่เผยความอิจฉา.
การควบคุมพลังวิญญาณเคลื่อนย้ายสิ่งของ,มีเพียงแค่ระดับบรรพชนยุทธ์เท่านั้นที่ทำได้!
เหลียวซางฟางที่ถือสไนเปอร์ไรเฟิล,เอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล,”หากไม่เข้าร่วมสำนักฉีซาน,มีเพียงแค่ตาย.”
เสียงที่เต็มไปด้วยความอหังการ,แผดพลังข่มขู่อย่างที่สุด.
สายตาของเซียวจุ้ยจื่อไร้ซึ่งความหวาดกลัวใด
ๆ,กล่าวออกมาอย่างมั่นคง,”ไม่เข้าร่วม.”
ทุกคนที่จับจ้องเผยความเหยียดหยันออกมา.
มีโอกาสที่จะรอดชีวิตกับไม่คว้ามันเอาไว้,ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่.
มีชาวยุทธ์บางคนที่เผยความเศร้าใจแทน,ต้องไม่ลืมว่าเมล็ดพันธ์ชั้นดีกำลังถูกสังหาร,น่าเสียดายจริง
ๆ.
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้.”
เหลียวซางฟางแค่นเสียงเย็นชา,”สังหารศิษย์สำนักฉีซานไปมากมาย,มีเพียงแต่ต้องตาย.”
กล่าวจบ,เขาก้าวไปด้านหน้าหนึ่งก้าว,ง้างหมัดแผ่พลังวิญญาณหมุนวน,สะสมพลัง,ความแข็งแกร่งการโจมตีครั้งนี้ต้องไม่น้อยกว่า
200,000 จินแน่นอน!
“ฟู่ ฟู่!”
สนามวายุที่หมุนวน,เซียวจุ้ยจื่อที่ผมเผากระเซอะกระเซิง,ใบหน้าซีดขาดแต่สงบ.
ใบหน้าที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใด ๆ.
“ฟิ้ว!”
ในเวลานั้น,เงาร่างหนึ่งที่โผล่มาจากที่ซ่อนตัว!
แม้นว่าจะเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว,ทว่าก็ไม่สามารถที่จะหลบพ้นเหลี่ยวซางฟาง,ที่ต่อยออกไป,เสียงดังกึกก้อง.
“ตูมมม!”
หมัดที่มีพลัง 200,000
จิน,ราวกับคมกระบี่,ทะลวงอกของเงาร่างดังกล่าว,โลหิตที่สาดกระจายไปในทันที.
“ศิษย์น้อง.....”ดวงตาของเซียวจุ้ยจื่อที่แดงซ่านคำรามลั่น.
ร่างเงาที่โผล่ออกมาจากที่ซ่อน,ก็คือสมาชิกหอฝนพรำที่รับหน้าที่ปกป้องเซียวจุ้ยจื่อในที่ลับนั่นเอง.
“ศิษย์พี่...หนี....หนีไป....”ศิษย์คนดังกล่าวที่เป็นเคยเป็นมือสังหาร,กล่าวจบ,ก็ตกตายไปในทันที.
“อ๊าก!”
เซียวจุ้ยจื่อที่ตะโกนออกมาเสียงดัง,ใช้พลังเฮือกสุดท้ายพุ่งเข้าหาเหลียวซางฟาง.
นี่คือการโจมตีครั้งสุดท้ายที่เขาทำได้!
น่าเศร้า,ต่อหน้าระดับบรรพชนยุทธ์,หนำซ้ำตัวเองยังบาดเจ็บหนัก,หมัดที่ต่อยออกมานั้นจึงไม่ได้ทรงพลังใด
ๆ,ซ้ำยังถูกฝ่ายตรงข้ามตบด้วยฝ่ามือเดียวกระเด็น.
“ตูมมมม!”
ร่างของเซียวจุ้ยจื่อกระเด็นกระแทกกำแพงหิน,ล่วงหล่นลงมา,ไม่มีแม้แต่แรงลุกขึ้นได้อีกครั้ง.
การถูกต่อยครั้งแล้วครั้งเหล่า,ทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสนั่นเอง.
เหลียวซางฟางที่เหวียงศพดังกล่าวลอยออกไป,โลหิตที่ฟุ้งไปทั่วท้องฟ้า,พร้อมกับกวาดตามองไปรอบ
ๆเอ่ยออกมาเบา ๆ,”ดูเหมือนว่าจะมีคนซ่อนอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว.
คำพูดดังกล่าว,ทำให้คนอื่น ๆกวาดตามองรอบ
ๆด้วยความระมัดระวัง.
ยังมีสมาชิกหอฝนพรำอีกหลายคนที่ซ่อนอยู่ในที่ลับ,เห็นเพื่อร่วมทีมถูกสังหาร,ได้แต่กำหมัดแน่น,แววตาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
สำหรับหลักการมือสังหาร,เมื่อพบว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นแข็งแกร่งกว่ามาก,พวกเขาจะต้องถอนกำลังในทันที.
อย่างไรก็ตาม.
พวกเขาไม่ได้ถอยหนี,ไม่สามารถหนีได้!
เพราะว่าสถานะของเขาในเวลานี้ไม่ใช่มือสังหาร,แต่เป็นสมาชิกหอฝนพรำของสำนักไท่กู่เจิ้งต่างหาก!
“ฟิ้ว!”
สมาชิกอีกคนที่ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป.
เขาไม่ได้โจมตี,เพียงแต่เผยตัวออกมา,หนีไปยังทิศทางหนึ่ง.
ด้วยตั้งใจจะล่อคนหลุ่มหนีให้บางเบา,เผื่อว่าศิษย์พี่เซียวจะมีโอกาสหนีได้.
เหล่าผู้ฝึกยุทธ์หลายคนที่จับจ้อง,ก่อนจะส่งคนกว่าสิบคนไล่ตามไปในทันที.
หากพวกเขาซ่อนตัว,ก็ยากที่จะหากตัวพบ,ทว่าในเมื่อเผยตัวออกมาเอง,พวกเขาก็ต้องไล่จับให้ได้เช่นกัน.
“พรึด โครม!”
สมาชิกคนดังกล่าวที่ถูกจับได้อย่างรวดเร็ว,ก่อนที่จะนำมาไว้ที่ด้านหน้าเหลียวซางฟาง,และถูกเท้าของเหลียวซางฟางเหยียบไปที่หลัง,ขณะจ้องมองไปยังเซียวจุ้ยจื่อ,เขาเอ่ยออกมาว่า,”นี่คงจะเป็นศิษย์น้องของเจ้าอีกคนสินะ?”
เซียวจุ้ยจื่อที่เวลานี้ใบหน้าบิดเบี้ยวเต็มไปด้วยความอาฆาต,จ้องมองศิษย์น้องของตัวเองถูกเหยียบเอาไว้.
“เดาถูกสินะ.”
เหลี่ยวซางฟางที่เห็นใบหน้าท่าทางของอีกฝ่ายก็ได้คำตอบแล้ว,ยกมือขึ้นเบา
ๆเอ่ยออกมาว่า,”สังหารคนของข้าไปมากมาย,อย่าฝันที่จะรอดชีวิตกลับไป.”
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ในเวลานั้น,ร่างอีกฝ่ายร่างที่โผล่ออกมาจากที่ซ่อน,พวกเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป,พวกเขาที่เผยตัวออกมา,พร้อมกับปล่อยอาวุธลับออกมา.
เหลียวซางฟางที่ยกมือขึ้น,ปัดอาวุธลับลอยออกไปได้อย่างง่ายดาย,ก่อนที่จะชี้นิ้วออกไป.
“จับพวกมันมาให้หมด.”
“รับทราบ!”
ผู้ฝึกยุทธ์คนอื่น ๆที่พุ่งออกไปในทันที.
“โครม!”
เพียงไม่นาน,สมาชิกที่ถูกจับก่อนที่จะถูกเตะไปหยุดอยู่ที่ด้านหน้าเซียวจุ้ยจื่อ,เหลียวซางฟางที่ก้าวไปไปเหยียบบนร่างของพวกเขา.
เขาที่แสดงท่าทางสูงสง,จดจ้องมองคนเหล่านี้ราวกับมดปลวก,”ไม่เพียงไม่ยอมหนีไป,ยังอยากตายไปพร้อมกันอีก,ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ต้องเหงาบนเส้นทางยมโลกแล้ว.”
กล่าวจบ,เขาที่ยกมือขึ้น.
“ฟู่ ฟู่!”
พลังวิญญาณมากมายที่ไหล่บ่ามารวมตัวกัน,พลังความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นช้า
ๆ.
พลังที่รวบรวมมา 100,000
จิน,ด้วยสภาพของอีกฝ่ายในเวลานี้,เพียงแค่โจมตีอีกฝ่ายคงแหลกเป็นเนื้อทุบแล้ว.
“ลากันซะ.”
เหลี่ยวซางฟางที่กำลังจะสังหารสมาชิกหอฝนพรำ.
“ไม่....”เซียวจุ้ยจื่อที่คำรามดัง.
เขาที่ต้องการออกไปปกป้องศิษย์น้อง,ทว่าเขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก,ไม่แม้แต่ขยับร่างกายได้สักนิด.
“โฮกกกกกกกกกกกก!”
ในเวลานั้น,เสียงของสัตว์ร้ายที่โกรธเกรี้ยว,คำรามดังกึกก้องขึ้นมาในทันทีจนทำให้หูดับไปตาม
ๆกัน,ผู้ฝึกยุทธ์หลากหลายคนที่ร้องโอดโอยเจ็บปวดแก้วหูเป็นอย่างมาก.
“หืม?”
เหลียวซางฟางที่ขมวดคิ้ว,ชะงักไปชั่วครู่.
แม้นว่าจะไม่ได้มองกลับไปด้านหลัง,ทว่าเขากับสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่รุนแรงคละคลุ้งไปทั่วอากาศ.
จุนซ่างเซียวที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนใหนยืนอยู่บนผนังภูเขา,มือข้างหนึ่งถือดาบยาวมังกรเขียว,ใบหน้าที่มืดครึ้ม,จิตสังหารที่ราวกับจะทะลวงไปถึงสวรรค์,”เอาเท้านั่นออกไปซะ,แล้วเปิ่นจั้วจะให้ตายอย่างสบาย.”
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น