วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 248 Rescue

Strongest Sect of All Times  Chapter 248 Rescue

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 248 Rescue!

救援!

 

อัตรากลายพันธ์ที่เพิ่มมาเป็น 85%จุนซ่างเซียวที่ต้องตัดสินใจยอมแพ้,เวลานี้เหลือเพียงเงิน 20 กว่าล้าน,หากใช้ไปทั้งหมดก็เพิ่มขึ้นมาได้แค่ 1-2% ตอนนี้คงทำได้แค่ปล่อยไปตามดวง.

โอกาสความน่าจะเป็นเพิ่มขึ้นอีก 1% อัตราการกลายพันธ์อาจจะเพิ่มขึ้นด้วย.

ทว่าไม่ว่าจะเพิ่มหรือลด,ก็ไม่มีสิ่งยืนยันได้ว่าจะสำเร็จ,เขาไม่สามารถที่จะลงทุนต่อไปได้อีก,มันเป็นการเผาผลาญเงินมากจนเกินไป.


หากว่าล้มเหลวจะทำอย่างไร?

โอกาสสำเร็จ 85% หวังว่าคงจะไม่ซวยจนเกินไป.

“โอกาสล้มเหลว 15 %,หวังว่าคงจะไม่โชคร้าย.”จุนซ่างเซียวกล่าวปลอบใจตัวเอง.

ระบบเอ่ย,” 15% ก็มีโอกาสที่จะล้มเหลวได้เช่นกัน.”

ไม่ต้องกล่าวทำลายจิตใจข้าเลย!

จุนซ่างเซียวที่ไม่สนใจเรื่องดังกล่าวอีกต่อไป,ตอนนี้ทำได้แค่รออย่างใจเย็น.

ตอนนี้ผ่านมาแค่หนึ่งวัน,ยังเหลืออีก 14 วัน.

เวลาฟักไข่ยังอีกนาน,ดังนั้นตอนนี้ควรที่จะบ่มเพาะพลังตัวเองและแนะนำศิษย์.

เช้าวันถัดมา.

ซูเซียวโม่ที่มาจากมนทลด้านนอกเข้าร่วมงานประลองยุทธ์สำนักได้กลับมา,ร่างกายที่ไร้รอยขีดข่วน,หากแต่ร่างกายทั่วร่างเต็มไปด้วยฝุ่นเกาะเต็มไปหมด.

จากที่เห็นเขาวิ่งกลับมาด้วยความเร็วสุดจิตสุดใจ.

ทันทีที่เข้าสำนักมา ก็ถูกเหล่าศิษย์น้องรุมล้อมทันที,เห็นศิษย์พี่มีเหรียญผู้ชนะเลิศกลับมา,ทุกคนที่ส่งเสียงดังก้อง.

ศิษย์พี่รองก่อนหน้านี้ก็ได้ชัยชนะเลิศกลับมา,และตอนนี้ศิษย์พี่สามก็ได้อีกคน,จิตใจของเหล่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่ฮึกเหิม,มองเห็นอนาคตที่สดใสไปเรียบร้อยแล้ว!

ซูเซียวโม่ที่เข้าพบเจ้าสำนัก,พร้อมกับส่งรางวัลชัยชนะเลิศให้กับเขา.

เขาไม่มีทางที่จะแอบเม้มใด ๆทั้งนั้น,เพราะหากไม่มีเจ้าสำนัก,เขาก็ไม่มีวันนี้,ไม่มีทางที่จะชนะเลิศได้ง่าย ๆ.

แน่นอน.

จุนซ่างเซียวย่อมไม่ปฏิบัติกับเขาอย่างไรความเป็นธรรมอย่างแน่นอน,เขาได้มอบศิลาวิญญาณให้กับซูเซียวโม่สิบก้อน.

ที่เหลือเก็บไว้,เพื่อเป็นรางวัลในงานอย่างอื่น,ให้กับศิษย์คนอื่น ๆ.

ไม่กี่วันหลังจากนั้น,ลี่เฟยและเถียนซีก็กลับมา.

ทั้งสองก็ไม่ได้ทำให้เจ้าสำนักผิดหวัง,กลับมาพร้อมตำแหน่งผู้ชนะเลิศ,ได้รับทรัยากรฝึกฝนไม่น้อย.

ศิษย์สายในภายใต้การดูแลของจุนซ่างเซียวนั้น,แม้นว่าพวกเขาจะอยู่ในระดับศิษย์ยุทธ์,ทว่าความแข็งแกร่งนั้นแข็งแกร่งทะลุไปถึงระดับอาจารย์ยุทธ์เรียบร้อยแล้ว.

นอกเหนือจากการประลองที่เฉพาะ,การต่อสู้กับสำนักระดับต่ำ,พวกเขาไร้เทียมทาน,ไม่มีใครสู้ได้อย่างแน่นอน.

“ทั้งสี่คน,ได้รางวัลศิลาวิญญาณรวมกัน 100 ก้อน,แม้นว่าจำนวนจะไม่มาก,ทว่าถือว่าเก็บเกี่ยวได้เป็นอย่างมาก.”

การส่งศิษย์เข้าร่วมประลองยุทธ์สำนัก,ได้รับทรัพยากรกลับมาไม่น้อย,จุนซ่างเซียวที่รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

น่าเสียดาย.

การแข่งขันนั้นมีน้อยมาก,ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างสะดวกสบายนัก.

“แปลก.”

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา,เอ่ยออกไปว่า,”ทำไมจุ้ยจื่อยังไม่กลับกัน?”

ศิษย์สายในห้าคนเสร็จสิ้นภารกิจกลับมากันหมดแล้ว,เหลือเพียงเซียวจุ้ยจื่อยังไม่กลับมา.

เป็นไปได้ว่า.

เกิดปัญหาในงานประลองอย่างงั้นรึ?

“เจ้าสำนัก!

ในเวลานั้น,หลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามาในห้องโถงอย่างรีบเร่ง,เอ่ยออกมาว่า,”ที่มนทลเหอหยางมีข่าวส่งมา,เซียวจุ้ยจื่อได้ชัยชนะเลิศการแข่งขัน,ทว่าถูกคน กลุ่มใหญ่หยุดเอาไว้ในป่าแห่งหนึ่ง,สถานการณ์ไม่ดีนัก,จำเป็นต้องไปช่วยอย่างรวดเร็ว!

จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้ว.

ไม่แปลกใจเลยว่าไม่กลับมา,แท้จริงถูกขวางเอาไว้นี่เอง!

“อีกฝ่ายมีกี่คน?”

“อย่างน้อยก็ 110 คน,มีผู้ฝึกยุทธ์ระดับบรรพชนยุทธ์หลายคนด้วย.

จุนซ่างเซียวที่เงียบไปครู่หนึ่งและเอ่ยออกมาว่า,”เรียกคนของหอฝนพรำ,เดินทางไปยังมนทลเหอหยางพร้อมกับเปิ่นจั้ว.”

“รับทราบ!

หลี่ลั่วฉิวที่ออกจากห้อง,สั่งการคนของหอฝนพรำในทันที.

สำหรับความหมายของจุนซ่างเซียว,คือให้ศิษย์คนอื่น ๆ บ่มเพาะในสำนักต่อไป.

ทว่าเมื่อเข้าก้าวออกมานอกห้องโถง,ก็พบหลี่ชิงหยาง,ซูเซียวโม่และศิษย์อีกหลายคนที่ยืนอยู่ด้านนห้า,ใบหน้าที่เผยความลึกล้ำ.

พวกเขาที่ได้รับข่าวว่าศิษย์น้องเซียวถูกขวางเอาไว้ที่มนทลเหอหยาง.

“พวกเจ้าก็ต้องการจะไปอย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

หลี่ชิงหยางเอ่ย,”ศิษย์น้องกำลังประสบความยากลำบาก,พวกเราต้องการไปช่วย!

“ก็ดี!

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ออกเดินทาง!

ศิษย์อีกหลายคนก็ต้องการไปช่วยศิษย์พี่เซียวเหมือนกัน,ทว่าก็รับรู้ความแข็งแกร่งของตนดี,ไม่เพียงแต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้,ยังไปถ่วงความเร็วที่จะไปช่วยด้วย,ดังนั้นจึงทำได้แค่มอง,และภาวนาช่วยเท่านั้น.

......

ฟิ้ว!ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ระหว่างทางไปยังมนทลเหอหยาง,สมาชิกหอฝนพรำกว่าห้าสิบคนที่ใช้ก้าวปิศาจพุ่งออกไปเป็นกลุ่มใหญ่.

“มารดาเถอะ!

ลี่ซางเทียนที่ตามมาด้วย,เอ่ยออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว,”ใจกล้าเกินไปแล้ว,กล้ารังแกศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง!

เจ้าเด็กนี้ตั้งแต่เหตุการณ์หออินทรีย์ดำ,ดูเหมือนว่าจะเติบขึ้นอย่างมาก,เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ.

เพราะว่าเป็นภารกิจช่วยเหลือ,ทุกคนจึงได้เดินทางด้วยความเร็ว.

จุนซ่างเซียวที่ขี่พยัคฆ์หนุ่มสายฟ้าม่วงนำหน้า,แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา,แม้แต่เผยความดุร้ายออกมา.

แม้นว่าจะไม่รู้อีกฝ่ายขวางเซียวจื่อจื่อเพื่ออะไร,ทว่าในเมื่อกล้าหาเรื่องสำนักไท่กู่เจิ้งของข้า,จะต้องถูกลงทัณฑ์!

หลี่ชิงหยางและซูเซียวโม่ที่ไล่ตามมา,ด้วยความเป็นห่วงศิษย์น้องเช่นกัน,ดังนั้นพวกเขาจึงเพิ่มความเร็วขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า,จนไม่สามารถเพิ่มความเร็วไปกว่านี้อีกแล้ว.

ศิษย์น้องเซียว.

พวกเรามาช่วยแล้ว!

ระยะห่างระหว่างมนทลเหอหยางและมนทลชิงหยางนั้นราว ๆ พันลี้,ปรกติต้องใช้เวลาดินทาง 2-3 วัน.

อย่างไรก็ตามจุนซ่างเซียวที่นำศิษย์เดินทางมาด้วยความเร็วเต็มที่,มาถึงที่นี่เวลาเย็น,ก็เข้าอาณาเขตมนทลเหอหยางแล้ว.

ลี่ลั่วฉิวที่ยืนอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง,ตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ,ก่อนที่จะพบกันสัญลักษณ์ที่คนของนางทิ้งเอาไว้,ชี้ไปยังทิศตะวันออก,”เจ้าสำนัก,ควรเป็นที่นั่น.”

“ไป.”

จุนซ่างเซียวที่พุ่งตรงไปยังทิศตะวันออกในทันที.

......

ภายในหุบเขาที่ซ่อนตัว.

เซียวจุ้ยจื่อเสื้อผ้าขาดวิ่น,รอบ ๆแขนขามีรอยกระบี่มากมาย,เขาถือไรเฟิลสไนเปอร์,แววตาเผยความเย็นชาออกมา.

ร่างกายของเขาที่ซีดขาว,ไม่เพียงมีบาดแผลมากมายทั่วร่าง,ยังบาดเจ็บภายในด้วย.

หลังจากเสร็จสิ้นงานประลองยุทธ์สำนักของมนทลเหอหาง,เซียวจุ้ยจื่อกำลังจะกลับสำนัก,กลับมีผู้ฝึกยุทธ์หลากหลายทางขวางทางเอาไว้.

เหตผล?

เหล่าคนที่พ่ายแพ้,ย่อมไม่ยินยอมในการพ่ายแพ้ของตน.

เพราะว่าการประลองยุทธ์สำนักครั้งนี้,ศิษย์มากมายหลากหลาคนต่างดูแคลนเซียวจุ้ยจื่อที่เป็นสำนักระดับแปดจากดินแดนระดับเก้า,ทำให้พวกเขาไม่เห็นเซียวจุ้ยจื่อในสายตา.

มนทลเหอหยางนั้นมีสำนักใหญ่มากมาย,ย่อมไม่เอาเรื่องนี้มาคิดแม้แต่น้อย.

เมื่อศิษย์ของพวกเขาบาดเจ็บกลับมา,พวกเขาก็พร้อมจะแก้แค้นเอาคืนในทันที!

“ไอ้หนู!

ในเวลานั้น,เสียงที่ดังขึ้นผ่านเข้ามา,”เจ้าคิดจะอยู่ในหุบเขาไปตลอดเลยรึไง,ยอมแพ้ซะ,คิดว่าในมือมีอาวุธลับที่ร้ายกาจ,จะช่วยชีวิตแกได้รึอย่างไร?.”

เซียวจุ้ยจื่อที่ยังถือสไนเปอร์ไรเฟิล,กล้องส่องทางไกลแปดเท่าจ้องมองไปยังต้นของเสียง,มีคนหลายสิบคนปรากฏขึ้น,เขาที่เหนียวไกออกไปในทันที.

ฟิ้ว-

กระสุนที่พุ่งออกไป,สังหารผู้ฝึกยุทธ์ศิษย์ยุทธ์ขั้นหลายคนหนึ่งไปในทันที,เมื่อยิงเสร็จเขาก็เปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองในทันที.

“มันอยู่นั่น!

“มารดาเถอะ,ไล่ตามมันไปเร็วเข้า!

“อาวุธลับนั่นสังหารพวกเราไปหลายคนแล้ว,จับได้เมื่อไหร่จะต้องแยกร่างของมันให้เป็นเสี่ยง ๆ!

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์หลากหลายคนที่วิ่งออกไป.

น่าเสียดาย,เซียวจุ้ยจื่อมีประสบการในการสู้แล้วถอย,หลังจากสังหารคนไปแล้วหนึ่งคน,ด้วยอาวุธลับที่เขาถนัด,เขาก็เปลี่ยนที่ซ่อนของตัวเองในทันที.

อย่างไรก็ตาม,หุบเขาดังกล่าวนั้นไม่ใหญ่นัก,ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากสามารถล้อมกรอบและตีวงเข้ามาเรื่อย ๆ.

เซียวจุ้ยจื่อไม่รู้ว่าเขาสังหารคนไปเป็นจำนวนมากเท่าไหร่,ทว่าเขาเริ่มพบ อีกไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องถูกจับตัวได้แน่,ดังนั้นเขาจึงลั่นไกยิงออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า.

สังหารให้ได้มากที่สุด,ตายไปจะได้ไม่ขาดทุน.

“ฟู่!

เสียงของกระแสงลมที่ม้วนกวาดออกมาเป็นบริเวณกว้าง.

“ไม่ได้การ....”ใบหน้าของเซียวจุ้ยจื่อที่เปลี่ยนสี,เขาที่กำลังจะก้าวหลบออกไป,ทว่าก้าวออกไปได้แค่เก้าเดียว,หมัดที่เต็มไปด้วยพลังก็ต่อยมายังด้านหลัง.

“ตูมมม!

เสียงระเบิด,กระแทกเขาลอยออกไปกระแทกกำแพงศิลา.

ใครบางคนที่ลอบโจมตีเขา,เป็นชายวัยกลางคนในชุดสีขาว,กลิ่นอายที่แผ่ออกมานั้นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับบรรพชนยุทธ์,เขาเอ่ยออกมาว่า,”เป็นแค่ผู้เยาว์ตัวเล็ก ๆแต่สามารถซ่อนตัวได้เป็นเวลานานขนาดนี้,ยอดเยี่ยม.”

“อั๊ก!

เซียวจุ้ยจื่อที่ลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก,พ่นโลหิตออกมาคำโต.

“หืม?”

ชายวัยกลางคนที่เผยท่าทางประหลาดใจเอ่ยออกมาว่า,”ทนหมัดของข้าที่มีพลัง 200,000 จินได้,แม้แต่ยืนขึ้นมาได้,ทนทรหดดี.”

เซียวจุ้ยจื่อที่เช็ดโลหิตออกจากปาก,กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,”....อย่าดูแคลนข้า.”

“ฟิ้ว!

ชายวัยกลางคนที่ก้าวเข้าไปเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงอหังการ,”ข้าต้องการเห็นจริง ๆ,ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง,จะกระดูกแข็งขนาดใหน.”

หมัดของเขาที่ระดมต่อยไปยังร่างของเซียวจุ้ยจื่อ.

ตูมม! ตูมม! ตูมม!


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น