Immortality Chapter 1305 Great Zheng recruits the imperial edict
Chapter 1305 Great Zheng recruits the
imperial edict
大崝招募诏书
ต้าเจิ้งออกราชโองการรับคน.
"อย่าลืมว่ามีสุรารสดี,ที่เจ้าควรไปดื่ม,มันคือสุราที่อยู่ในห้องเก็บใต้ดิน,ที่เจ้าจะได้ดื่มเมื่อครั้งเจ้ากลับไป,จะสามารถดื่มมันได้เท่าไหร่ก็ได้!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"กลับไปนะรึ?"ตี้เสวียนชาที่ฝืนยิ้ม,สายหน้าไปมา,ไม่ได้เอ่ยอะไร,ขณะที่ยกสุราขึ้นดื่มอีกครั้ง.
จงซานที่เข้าใจดีในเวลานี้,ตี้เสวียนชาไม่ต้องการกลับไป,ในทางตรงข้าม,ถึงตี้เสวียนชากลับไปต้าเจิ้งในเวลานี้,จงซานก็ไม่ต้องรับ,เพราะว่าตี้เสวียนชายังไม่กลับคืนมาสมบูรณ์.
ทั้งสองที่กลายเป็นเงียบลง.
จงซานที่สูดหายใจลึก,ยกสุราขึ้นดื่มเช่นกัน,"ต้าเจิ้งนั้น,มีที่ให้ตี้เสวียนชาตลอดกาล,ถึงตอนนี้เจ้ามีสองเจตจำนง,ข้าก็ไม่สามารถไล่เจ้าไปได้! ได้แต่รอ,อย่างน้อยเจ้าควรจะไปดูเซียนเซียนบ้าง,ไม่เช่นนั้นข้ากลัวว่าอีกไม่นานเจ้าจะลืมเซียนเซียน!"
ตี้เสวียนชาที่ยกสุราขึ้นดื่มด้วยท่าทางเศร้าๆ.
แม้นว่าไหสุราจะมีขนาดเล็ก,ทว่ามันกับบรรจุสุราไว้อย่างมากมาย,ที่ด้านในเป็นเหมือนกับช่องมิติขนาดใหญ่,ดังนั้นมันจึงไม่หมดง่ายๆ.
ทั้งสองที่ยังคงนั่งอยู่ในซุ้มไม้,ยกสุราขึ้นดื่มเป็นระยะ,ตี้เสวียนชาที่ยกสุราขึ้นดื่มพร้อมกับเต็มไปด้วยความเศร้า,จงซานเองก็ดื่มเป็นเพื่อของเขาเช่นกัน.
ตี้เสวียนชาที่ดื่มสุรา,ใบหน้าของเขาที่อึมครึมซับซ้อน,ก่อนที่จะหันหน้าไปมองจงซาน.
"หือ?"จงซานที่เผยท่าทางสงสัย.
"ข้าเชื่อว่าเจ้าจะไม่ทำร้ายข้า! อย่างไรก็ตาม,ขอเพียงเซียนเซียนปลอดภัย,ข้าสามารถบอกกล่าวต่อบางอย่างต่อเจ้าได้."ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ทำร้ายเจ้ารึ?
พวกเรารู้จักกันมานานหลายปี,แน่นอนเจ้าย่อมรู้จักนิสัยของข้าดี,ขอเพียงตี้เสวียนชายังมีเวลาเพียงหนึ่งวัน,ข้าก็ไม่เคยคิดร้ายต่อเจ้า!"
ในเวลาเดียวกัน,ตี้เสวียนชาย่อมเข้าใจความหมายของจงซาน,มันเป็นเรื่องที่ยากที่เขาจะทำร้ายตัวเอง.
ตี้เซียนเซียนที่ได้รับบาดเจ็บ,ทำให้สามารถฟื้นคืนเจตจำนงของตี้เสวียนชากลับมาได้มากกว่าเดิม,ตี้เสวียนชาที่พยายามกำราบเจตจำนงของตี้ซือเทียน,เขาเองก็ต้องการเอ่ยความลับของตัวเองออกไป,เพื่อที่จะป้องกันเอาไว้,เพื่อปกป้องเซียนเซียนอีกแรงนั่นเอง.
"หากจำเป็น,ข้าก็ไม่ต้องการเอ่ยสิ่งใดเกี่ยวกับตี้ซือเทียน,ทว่ามันเกี่ยวข้องกับบรรพชนหมาป่าคืนกลับ,เจ้าควรรู้ว่าเหตุใดตี้ซือเทียนถึงได้มีความคิดเซียนเซียน?"ตี้เสวียนชาเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ทำไม?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ได้ยินมาว่าเจ้าสังหารเซียนเทียนจงเผ่าเต่าทมิฬ,หากกล่าวตามตรงเจ้าน่าจะเข้าใจ!ข้าเป็นบรรพชนหมาป่า,ตี้ซือเทียนเองก็เป็นบรรพชนหมาป่า,ทว่าไม่ใช่สายโลหิตรุ่นแรก,ตี้ซือเทียนนั้นได้ใช้พลังของดวงวิญญาณพัฒนากายเนื้อ,เพื่อยกระดับสายโลหิตให้สูงขึ้นด้วยพลังวิญญาณ,ความจริงเขามีสายโลหิตขั้นที่สองเท่านั้น!"ตี้เสวียนชาที่ส่ายหน้าไปมา.
สายโลหิตรุ่นที่สองรึ?
ทันใดนั้นจงซานที่เข้าใจได้ในทันที,สายโลหิตรุ่นที่สอง? ตี้เสวียนชาก็มีสายโลหิตรุ่นที่สองเช่นกัน?
ทว่าเซียนเซียนมีระดับสายโลหิตที่สูงกว่าเขา,อธิบายได้ว่าเซียนเซียนนั้นมีสายโลหิตรุ่นที่หนึ่ง!
สายโลหิตรุ่นที่หนึ่ง,สายโลหิตรุ่นที่สอง?
แม้นว่าจะห่างกันเพียงแค่หนึ่งรุ่น,ทว่าจงซานก็รู้ดี,หนึ่งรุ่นที่ต่างกันนั้นแตกต่างกันราวกับสวรรค์และปฐพี,อย่างน้อยบรรพชนมังกรที่กลายเป็นหนึ่งผู้ก่อตั้งก็สามารถสั่งการมังกรได้ทั่วหล้า.
บรรพชนมังกรที่มีสายโลหิตที่แข็งแกร่ง,ไม่ว่ามังกรอยู่ที่ใหนก็สามารถสัมผัสได้.
ส่วนเผ่าหมาป่าเองก็เช่นกัน,แม้นว่าเซียนเซียนยังไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้,ทว่าสายโลหิตที่นางมี,ก็เรียกว่าสายโลหิตชั้นสูง,รอเพียงแค่โอกาสมาถึง,เซียนเซียนก็สามารถสั่งการหมาป่าทั่วหล้าได้เช่นกัน.
แน่นอน,สายโลหิตรุ่นที่หนึ่งนั้น,นับว่าเป็นความลับสำหรับคนอื่น.
ไม่สงสัยเลยว่าตี้ซือเทียนต้องการเซยีนเซียน,ดูเหมือนเหตุผลนั้นจะไม่ต่างจากเซียนเทียนจง,ที่มีทักษะเทวะหลอมรวม,ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดเซียนเซียนไม่สามารถปล่อยให้ตกอยู่ในมือของตี้ซือเทียนได้.
การที่ตี้เสวียนชาเอ่ย,ทว่าแน่นอนว่าจงซานย่อมเข้าใจถึงความหมายนั่นดี.
"โปรดวางใจ!
ข้าจะต้องดูแลเซียนเซียนอย่างดี!"จงซานที่กล่าวยืนยัน.
"อืม!"ตี้เสวียนชาที่ยกสุราขมขึ้นดื่มอีกครั้ง.
"สาเหตุที่เซียนเซียนได้รับบาดเจ็บเพราะว่ามีโจรร้ายอยู่เบื้องหลังอย่างงั้นรึ?"ตี้เสวียนชาเอ่ย.
"เจ้าสังหารยูไลไปแล้ว,ยังไม่พอใจอีกรึ?"จงซานที่เอ่ยออกมาเล็กน้อย.
"ยูไล?
ยังไม่พอ,ข้าจะต้องแสดงให้ทุกคนได้เห็น,จะได้ไม่มีใครกล้าทำร้ายเซียนเซียนอีก!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม,จิตสังหารที่แผ่ออกมารอบๆ.
จงซานที่จ้องมองตี้เสวียนชา,เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า,"หนึ่งปีที่แล้ว,หากจะกล่าวล่ะก็,โจรร้ายที่อยู่เบื้องหลังมีสองคน,เป็นปราชญ์เทพลู่หย๋าและราชันย์ตะวันออกไท่อี้!"
"เป็นพวกเขาอย่างงั้นรึ?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่,เป็นพวกเขา,ลู่หย๋าที่ดำเนินการครั้งนี้,ไท่อี้ย่อมรู้เห็น! ข้าเองก็สามารถบอกได้ว่าไท่อี้ผู้นี้นับเป็นหนึ่งคนที่เต็มไปด้วยแผนการ!"จงซานที่สูดหายใจลึกด้วยความเย็นชา.
"ไท่อี้? เคยเป็นบุคคลอับดับหนึ่งในโลกหล้าในยุคหนึ่ง,คนนั้นนะรึ?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่,ก่อนยุคของหงจวิน,ถูกเรียกว่ายุคไท่อี้."จงซานพยักหน้ารับ.
"ข้าจะสู้กับไท่อี้,เจ้าสู้กับลู่หย๋า,ย่อมไม่มีปัญหา,พวกเขาต้องได้รับการชดใช้!"
"กึก!"
ตี้เสวียนชาที่วางถ้วนสุราบนโต๊ะศิลาเสียงดัง,แววตาที่เต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งการต่อสู้! ดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะไปหาคนทั้งสองในทันทีเลย.
"อาการของเซียนเซียนคงที่แล้ว,ข้าจะไปตามที่เจ้าต้องการ!"จงซานพยักหน้า.
"ตกลง!"ตี้เสวียนชาที่ระงับความโกรธของตัวเองเอาไว้.
พวกเขาทั้งคู่ที่พูดคุยกันอีกชั่วขณะ,ก่อนที่จะเก็บซุ้มนั่งกลับไป,ก่อนที่จะบินตรงไปยังห้องโถงก่อนหน้านี้,รอคอยการรักษาของเซียนเซียน.
ที่หน้าประตูของห้องโถงนั้น,เหล่าเสนาธิการต้าเจิ้งที่รออยู่,จงซานที่จ้องมองไปยังเซิ่งกงเป้า,ขณะที่เซิ่งกงเป้าพยักหน้ารับเบาๆ.
เซิ่งกงเป้าที่โค้งคำนับ,ก่อนที่จะถอยออกไป.
ตี้เสวียนชาที่เห็นการกระทำของจงซาน,ทำให้เขาครุ่นคิดเล็กน้อย,หากแต่ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องใส่ใจนัก,เรื่องที่เขาต้องทำนั้นมีเพียงแค่สองอย่างเท่านั้น,คือหนึ่งรักษาเซียนเซียน,อีกหนึ่งก็คือต่อสู้กับไท่อี้!
เซิ่งกงเป้าถอยออกไป,พร้อมกับนำจินเผิง,เต้าเหรินถูกและโหยวหลานไปด้วย.
"เซียนเซิงเซิ่ง,ให้พวกเราทำอะไรอย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
จินเผิงที่เป็นคนชื่นชอบการต่อสู้,เพียงแค่ได้เห็นได้ยินก็ทำให้เลือดในกายร้อนแล้ว,ขณะที่เขาได้ยินเกี่ยวกับความร้ายกาจของตี้เสวียนชาจากโหยวหลาน,คิดถึงตัวเองถูกยูไลสะกดข่ม,หากแต่ต่อหน้าตี้เสวียนชา,ยูไลกับไม่แม้แต่ต่อต้านได้เลย.
จากการคาดเดาของเขายูไลนั้นน่าจะมีระดับเซียนบรรพชนขั้นที่เก้า,หรือเข้าใกล้ขั้นที่สิบแล้ว,เมื่อเขาเข้าร่วมพิธีใต้หว่านฝูผาน,เป็นไปได้ว่าเขาจะก้าวไปถึงขั้นที่สิบ,กลายเป็นหนึ่งตัวตนที่แข็งแกร่ง,ทว่าเขากลับไม่มีพลังที่จะต่อสู้ตี้เสวียนชากลับได้เลย.
กับเรื่องที่เขาได้ยิน,คราแรกนั้นจินเผิงไม่ยากเชื่อแม้แต่น้อย,ทว่าขณะที่โหยวหลานนำหยกบันทึกออกมา,จินเผิงก็สามารถบอกได้ในที่สุด,เมื่อเห็นการต่อสู้ของตี้เสวียนชา,โลหิตในกายก็พลุ้งพล่านเช่นกัน,เพียงคำพูดไม่กี่คำสามารถข่มขู่ปราชญ์เทพได้,ต้าเจิ้งมีอสุรกายมากมายจริงๆ.
ตี้เสวียนชาที่เป็นดังเทพแห่งความดุร้าย,ดูน่าสนใจเป็นอย่างมาก.
"ใช่,เซียนเซิงเซิ่ง,มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"เต้าเหรินถูที่ขมวดคิ้วและกล่าวออกมา.
"เริ่ม,เตรียมการ!"เซิ่งกงเป้าเอ่ย.
"อะไร....?เตรียมการอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของจินเผิงเปลี่ยนเป็ฯเคร่งขรึมท่านที.
"รับทราบ!"เต้าเหรินถู,โหยวหลานที่กล่าวตอบรับอย่างเคร่งขรึม.
สามวันหลังจากที่ตี้เสวียนชาสังหารทำลายวิหารใต้เหล่ยหยิน,ในดินแดนเหล่ยหยิน,ราชโองการรับคนของต้าเจิ้งก็ถูกประกาศออกมา,ทุกเมือง,ทุกนิกาย,ต่างก็ได้รับราชโองการ.
ราชโองการ,ประกาศไปทั่วดินแดนเหล่ยยินสร้างความสนใจต่อผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วน.
"ราชโองการรับคนเข้าร่วมศาลเทวะต้าเจิ้ง,รับสมัครยอดฝีมือทั่วหล้า,เข้าร่วมศาลเทวะต้าเจิ้ง?"
"ต้าเจิ้ง? เป็นต้าเจิ้งจริงๆ?"
"มีลายมือของจงซาน,ไม่ผิดแน่,บางที่คงไม่ใช่แค่เพียงดินแดนเหล่ยหยิน,ประกาศนี้คงประกาศไปทั่วทุกพื้นที่,ไม่ได้มีเพียงแค่ที่นี่แน่นอน!"
"ใต้สวรรค์แห่งนี้,ทวีปตะวันออก,ทวีปทิศใต้,ทวีปตะวันตก,ทวีปทิศเหนือ,ทุกแห่งล้วนเข้าสู้ยุคแห่งความวุ่นวายแล้ว,ทวีปกลางเองก็ไม่มีทางที่จะไม่ถูกลากเข้าไปเกี่ยวด้วย,การจะอยู่รอดในยุคแห่งความวุ่นวาย,ทางที่ดีต้องเลือกเข้าร่วมสักแห่ง!"
"แต่ว่า,เจ้าจะเลือกต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ?"
"เจ้าจะไปรู้อะไร? ต้าเจิ้งเวลานี้เหลือเพียงสังหารปราชญ์เทพก่อตั้งศาลสวรรค์เท่านั้น,เจ้าก็เห็นตี้เสวียนชา,ไม่ใช่ว่าจงซานเป็นคนสั่งเขาเคลื่อนไหวรึ?"
"จงซานสั่งตี้เสวียนชาอย่างงั้นรึ?"
"ไร้สาระ,เจ้าโง่,เจ้าไม่เห็นสภาพวิหารใต้เหล่ยหยินรึ?
ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็เห็นทุกอย่างแล้วไม่ใช่รึ?"
..........................................
........................
......
ราชโองการประกาศรับคนของต้าเจิ้ง,ได้ถูกส่งออกไปทั่วทุกดินแดน.
เซิ่งกงเป้าที่มีหน้าที่รับผิดชอบรับคน,โดยมีหวนจีรับผิดชอบทดสอบจิตใจ,ส่วนจินเผิงและเต้าเหรินถูรับผิดชอบทดสอบฝีมือ.
การรับคนของต้าเจิ้งนี้ราวกับไฟลามทุ่งสร้างความสนใจต่อผู้ฝึกตนมากมาย.
แม้นว่าจะมีคนที่มั่นใจยินดีเข้าร่วมต้าเจิ้งทันทีมีไม่มากนักในระยะเริ่มแรก,ทว่าเซิ่งกงเป้าไม่ได้กังวลแม้แต่น้อย,เพราะว่างานชุมนุมใต้หว่านฝูผานใกล้เข้ามาแล้ว,ในทวีปกลางนี้,ย่อมมียอดฝีมือมารวมกันมากขึ้นเท่านั้น,ถึงแม้นว่าจะไม่สามารถดึงดูดได้ทั้งหมด,ก็ย่อมสามารถเก็บเกี่ยวได้มากกมาย,นอกจากนี้,นี่เพียงแค่เริ่มเท่านั้น,เมื่องานชุมนุมใต้หว่านฝูผานผ่านไป,ถึงจะรับรู้บอกได้ถึงความสนใจที่แท้จริง.
ที่พักของเทียนโจวจื่อ.
"ปราชญ์เทพจู่,ดูเหมือนว่า,ต้าเจิ้งจะประกาศรับคน! นอกจากนี้ยังได้ยินมาว่ามีเซียนบรรพชนมากมายที่ถูกเซิ่งกงเป้ากล่อมให้เข้าร่วมไปหลายคนแล้ว."เซียนบรรพชนคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
ภายใต้ใบหน้าที่เลือนลางขมวดแน่น.
"จงซาน?ถึงกับฉวยโอกาสกับชื่อเสียงที่ได้รับ,รับคนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างงั้นรึ?"เทียนโจวจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ใช่,ก่อนหน้านี้จงซานจัดการพวกเรา,ก็สร้างชื่อเสียงไม่น้อย,และยิ่งตี้เสวียนชาปรากฏตัวขึ้นอีก,พวกเขายิ่งมีชื่อเสียงมากกว่าเดิม,ไม่คิดเลยว่ากลายเป็นพวกเราที่สร้างโอกาสให้กับพวกเขา!"เซียนบรรพชนคนหนึ่งเอ่ย.
"เมื่อจบพิธีใต้หว่านฝูผาน,จงซานคงจะเก็บเกี่ยวได้เป็นอย่างมาก,กับการเก็บเกี่ยวยอดฝีมือที่มีพรสวรรค์เช่นนี้,ที่จริงคนอื่นๆคงยากที่จะทำตามได้!"เซียนบรรพชนที่เผยท่าทางไม่ค่อยดีนัก.
"ปราชญ์เทพจู่,ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ท่านเคยต่อสู้กับตี้เสวียนชาครั้งนี้,ตี้เสวียนชาอยู่ในระดับใด?"เซียนบรรพชนคนหนึ่งสอบถาม.
เทียนโจวจื่อเคยต่อสู้ครั้งนี้,แน่นอนว่าเกิดขึ้นเมื่อครั้งเขาไล่ล่าจงซานไปจนถึงแดนเทวะซือเทียน,และได้ปะมือกับตี้เสวียนชา.
เทียนโจจื่อจ้องมองเหล่าเซียนบรรพชนที่มองมา,พลางเอ่ยตอบ,"ก่อนหน้านี้ข้าและตี้เสวียนชาเพียงแค่หยั่งเชิงกันเท่านั้นไม่ได้ลงมือเต็มที่,แน่นอนว่าเขายังเทียบเขาไม่ได้,ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้ด้อยกว่าปราชญ์เทพหรือแข็งแกร่งกว่า,ทว่าข้าที่เป็นปราชญ์เทพ,หากต่อสู้แลกชีวิต,ผลจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครรู้,ตอนนี้พวกเจ้าเตรียมตัวให้ดี,เรื่องของจงซานและตี้เสวียนชา,อย่าเพิ่งเอามาใส่ใจ!"
"ครับ!"เหล่าเซียนบรรพชนพยักหน้ารับ,เห็นเทียนโจวจื่อไม่ต้องการเอ่ยถึง,พวกเขาก็ไม่ถามต่อไปเช่นกัน.
อีกฝั่งหนึ่ง,ภายในหุบเขาของไท่อี้.
ลู่หย๋าที่เป็นคนรวบรวมข้อมูลมารายงานไท่อี้.
"ต้าเจิ้งออกราชโองการรับคน?
คาดไม่ถึงเลยว่าจงซานจะลงมือก่อนพวกเราก้าวหนึ่ง!"ไทอี้ที่ขมวดคิ้วแน่น.
"ท่านพ่อ,จงซานต้องการทำลายแผนของพวกเราอย่างงั้นรึ?"ลู่หย๋าที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"โปรดวางใจ,1-2 ปีนี้สำหรับต้าเจิ้ง,แม้นว่าจะนับว่ามีชื่อเสียงไม่น้อย,ทว่ามันยังไม่พอ,ที่นี่ไม่ใช่ภาคเหนือถิ่นของเขา,ถึงเขาจะแสดงพลังออกมาสองครั้ง,ทว่าก็ยังไม่พอที่จะให้คนอื่นถวายชีวิตให้กับเขา,มันเริ่มเกินไปสำหรับพวกเขา,ไม่ต้องกังวล,เมื่องานชุมนุมใต้หว่านฝูผานเริ่มขึ้น,พวกเราจะลงมือทันที!"ไท่อี้กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"ลู่หย๋าพยักหน้ารับ.
ภายในหุบเขาของจงซาน.
เกี่ยวกับการรับคนของต้าเจิ้งนั้น,จงซานมอบเป็นหน้าที่ของเซิ่งกงเป้า,ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องลงมือเอง,ส่วนตี้เสวียชานั้นอยู่คอยคุ้มครองตี้เซียนเซียน.
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น,ตี้เซียนเซียนอาการคงตัว,ทว่ายังไม่ฟื้น.
"อีกครึ่งเดือน,เซียนเซียนก็จะฟื้น!"เป่าเอ๋อกล่าว.
ตี้เสวียนชาที่จ้องมองเซียนเซียนที่เหมือนกับนอนหลับและส่งเสียงหายใจเบาๆ,ภายในใจของเขาที่รู้สึกผ่อนคลาย.
"ไป,พวกเราควรจะไปคิดบัญชีกับไท่อี้และลู่หย๋า!"ตี้เสวียนชาที่หันหน้าจ้องมองมายังจงซาน.
Chapter 1305 Great Zheng recruits the
imperial edict
大崝招募诏书
ต้าเจิ้งออกราชโองการรับคน.
"อย่าลืมว่ามีสุรารสดี,ที่เจ้าควรไปดื่ม,มันคือสุราที่อยู่ในห้องเก็บใต้ดิน,ที่เจ้าจะได้ดื่มเมื่อครั้งเจ้ากลับไป,จะสามารถดื่มมันได้เท่าไหร่ก็ได้!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"กลับไปนะรึ?"ตี้เสวียนชาที่ฝืนยิ้ม,สายหน้าไปมา,ไม่ได้เอ่ยอะไร,ขณะที่ยกสุราขึ้นดื่มอีกครั้ง.
จงซานที่เข้าใจดีในเวลานี้,ตี้เสวียนชาไม่ต้องการกลับไป,ในทางตรงข้าม,ถึงตี้เสวียนชากลับไปต้าเจิ้งในเวลานี้,จงซานก็ไม่ต้องรับ,เพราะว่าตี้เสวียนชายังไม่กลับคืนมาสมบูรณ์.
ทั้งสองที่กลายเป็นเงียบลง.
จงซานที่สูดหายใจลึก,ยกสุราขึ้นดื่มเช่นกัน,"ต้าเจิ้งนั้น,มีที่ให้ตี้เสวียนชาตลอดกาล,ถึงตอนนี้เจ้ามีสองเจตจำนง,ข้าก็ไม่สามารถไล่เจ้าไปได้! ได้แต่รอ,อย่างน้อยเจ้าควรจะไปดูเซียนเซียนบ้าง,ไม่เช่นนั้นข้ากลัวว่าอีกไม่นานเจ้าจะลืมเซียนเซียน!"
ตี้เสวียนชาที่ยกสุราขึ้นดื่มด้วยท่าทางเศร้าๆ.
แม้นว่าไหสุราจะมีขนาดเล็ก,ทว่ามันกับบรรจุสุราไว้อย่างมากมาย,ที่ด้านในเป็นเหมือนกับช่องมิติขนาดใหญ่,ดังนั้นมันจึงไม่หมดง่ายๆ.
ทั้งสองที่ยังคงนั่งอยู่ในซุ้มไม้,ยกสุราขึ้นดื่มเป็นระยะ,ตี้เสวียนชาที่ยกสุราขึ้นดื่มพร้อมกับเต็มไปด้วยความเศร้า,จงซานเองก็ดื่มเป็นเพื่อของเขาเช่นกัน.
ตี้เสวียนชาที่ดื่มสุรา,ใบหน้าของเขาที่อึมครึมซับซ้อน,ก่อนที่จะหันหน้าไปมองจงซาน.
"หือ?"จงซานที่เผยท่าทางสงสัย.
"ข้าเชื่อว่าเจ้าจะไม่ทำร้ายข้า! อย่างไรก็ตาม,ขอเพียงเซียนเซียนปลอดภัย,ข้าสามารถบอกกล่าวต่อบางอย่างต่อเจ้าได้."ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ทำร้ายเจ้ารึ?
พวกเรารู้จักกันมานานหลายปี,แน่นอนเจ้าย่อมรู้จักนิสัยของข้าดี,ขอเพียงตี้เสวียนชายังมีเวลาเพียงหนึ่งวัน,ข้าก็ไม่เคยคิดร้ายต่อเจ้า!"
ในเวลาเดียวกัน,ตี้เสวียนชาย่อมเข้าใจความหมายของจงซาน,มันเป็นเรื่องที่ยากที่เขาจะทำร้ายตัวเอง.
ตี้เซียนเซียนที่ได้รับบาดเจ็บ,ทำให้สามารถฟื้นคืนเจตจำนงของตี้เสวียนชากลับมาได้มากกว่าเดิม,ตี้เสวียนชาที่พยายามกำราบเจตจำนงของตี้ซือเทียน,เขาเองก็ต้องการเอ่ยความลับของตัวเองออกไป,เพื่อที่จะป้องกันเอาไว้,เพื่อปกป้องเซียนเซียนอีกแรงนั่นเอง.
"หากจำเป็น,ข้าก็ไม่ต้องการเอ่ยสิ่งใดเกี่ยวกับตี้ซือเทียน,ทว่ามันเกี่ยวข้องกับบรรพชนหมาป่าคืนกลับ,เจ้าควรรู้ว่าเหตุใดตี้ซือเทียนถึงได้มีความคิดเซียนเซียน?"ตี้เสวียนชาเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ทำไม?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ได้ยินมาว่าเจ้าสังหารเซียนเทียนจงเผ่าเต่าทมิฬ,หากกล่าวตามตรงเจ้าน่าจะเข้าใจ!ข้าเป็นบรรพชนหมาป่า,ตี้ซือเทียนเองก็เป็นบรรพชนหมาป่า,ทว่าไม่ใช่สายโลหิตรุ่นแรก,ตี้ซือเทียนนั้นได้ใช้พลังของดวงวิญญาณพัฒนากายเนื้อ,เพื่อยกระดับสายโลหิตให้สูงขึ้นด้วยพลังวิญญาณ,ความจริงเขามีสายโลหิตขั้นที่สองเท่านั้น!"ตี้เสวียนชาที่ส่ายหน้าไปมา.
สายโลหิตรุ่นที่สองรึ?
ทันใดนั้นจงซานที่เข้าใจได้ในทันที,สายโลหิตรุ่นที่สอง? ตี้เสวียนชาก็มีสายโลหิตรุ่นที่สองเช่นกัน?
ทว่าเซียนเซียนมีระดับสายโลหิตที่สูงกว่าเขา,อธิบายได้ว่าเซียนเซียนนั้นมีสายโลหิตรุ่นที่หนึ่ง!
สายโลหิตรุ่นที่หนึ่ง,สายโลหิตรุ่นที่สอง?
แม้นว่าจะห่างกันเพียงแค่หนึ่งรุ่น,ทว่าจงซานก็รู้ดี,หนึ่งรุ่นที่ต่างกันนั้นแตกต่างกันราวกับสวรรค์และปฐพี,อย่างน้อยบรรพชนมังกรที่กลายเป็นหนึ่งผู้ก่อตั้งก็สามารถสั่งการมังกรได้ทั่วหล้า.
บรรพชนมังกรที่มีสายโลหิตที่แข็งแกร่ง,ไม่ว่ามังกรอยู่ที่ใหนก็สามารถสัมผัสได้.
ส่วนเผ่าหมาป่าเองก็เช่นกัน,แม้นว่าเซียนเซียนยังไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้,ทว่าสายโลหิตที่นางมี,ก็เรียกว่าสายโลหิตชั้นสูง,รอเพียงแค่โอกาสมาถึง,เซียนเซียนก็สามารถสั่งการหมาป่าทั่วหล้าได้เช่นกัน.
แน่นอน,สายโลหิตรุ่นที่หนึ่งนั้น,นับว่าเป็นความลับสำหรับคนอื่น.
ไม่สงสัยเลยว่าตี้ซือเทียนต้องการเซยีนเซียน,ดูเหมือนเหตุผลนั้นจะไม่ต่างจากเซียนเทียนจง,ที่มีทักษะเทวะหลอมรวม,ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดเซียนเซียนไม่สามารถปล่อยให้ตกอยู่ในมือของตี้ซือเทียนได้.
การที่ตี้เสวียนชาเอ่ย,ทว่าแน่นอนว่าจงซานย่อมเข้าใจถึงความหมายนั่นดี.
"โปรดวางใจ!
ข้าจะต้องดูแลเซียนเซียนอย่างดี!"จงซานที่กล่าวยืนยัน.
"อืม!"ตี้เสวียนชาที่ยกสุราขมขึ้นดื่มอีกครั้ง.
"สาเหตุที่เซียนเซียนได้รับบาดเจ็บเพราะว่ามีโจรร้ายอยู่เบื้องหลังอย่างงั้นรึ?"ตี้เสวียนชาเอ่ย.
"เจ้าสังหารยูไลไปแล้ว,ยังไม่พอใจอีกรึ?"จงซานที่เอ่ยออกมาเล็กน้อย.
"ยูไล?
ยังไม่พอ,ข้าจะต้องแสดงให้ทุกคนได้เห็น,จะได้ไม่มีใครกล้าทำร้ายเซียนเซียนอีก!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม,จิตสังหารที่แผ่ออกมารอบๆ.
จงซานที่จ้องมองตี้เสวียนชา,เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า,"หนึ่งปีที่แล้ว,หากจะกล่าวล่ะก็,โจรร้ายที่อยู่เบื้องหลังมีสองคน,เป็นปราชญ์เทพลู่หย๋าและราชันย์ตะวันออกไท่อี้!"
"เป็นพวกเขาอย่างงั้นรึ?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่,เป็นพวกเขา,ลู่หย๋าที่ดำเนินการครั้งนี้,ไท่อี้ย่อมรู้เห็น! ข้าเองก็สามารถบอกได้ว่าไท่อี้ผู้นี้นับเป็นหนึ่งคนที่เต็มไปด้วยแผนการ!"จงซานที่สูดหายใจลึกด้วยความเย็นชา.
"ไท่อี้? เคยเป็นบุคคลอับดับหนึ่งในโลกหล้าในยุคหนึ่ง,คนนั้นนะรึ?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่,ก่อนยุคของหงจวิน,ถูกเรียกว่ายุคไท่อี้."จงซานพยักหน้ารับ.
"ข้าจะสู้กับไท่อี้,เจ้าสู้กับลู่หย๋า,ย่อมไม่มีปัญหา,พวกเขาต้องได้รับการชดใช้!"
"กึก!"
ตี้เสวียนชาที่วางถ้วนสุราบนโต๊ะศิลาเสียงดัง,แววตาที่เต็มไปด้วยเจตจำนงแห่งการต่อสู้! ดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะไปหาคนทั้งสองในทันทีเลย.
"อาการของเซียนเซียนคงที่แล้ว,ข้าจะไปตามที่เจ้าต้องการ!"จงซานพยักหน้า.
"ตกลง!"ตี้เสวียนชาที่ระงับความโกรธของตัวเองเอาไว้.
พวกเขาทั้งคู่ที่พูดคุยกันอีกชั่วขณะ,ก่อนที่จะเก็บซุ้มนั่งกลับไป,ก่อนที่จะบินตรงไปยังห้องโถงก่อนหน้านี้,รอคอยการรักษาของเซียนเซียน.
ที่หน้าประตูของห้องโถงนั้น,เหล่าเสนาธิการต้าเจิ้งที่รออยู่,จงซานที่จ้องมองไปยังเซิ่งกงเป้า,ขณะที่เซิ่งกงเป้าพยักหน้ารับเบาๆ.
เซิ่งกงเป้าที่โค้งคำนับ,ก่อนที่จะถอยออกไป.
ตี้เสวียนชาที่เห็นการกระทำของจงซาน,ทำให้เขาครุ่นคิดเล็กน้อย,หากแต่ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องใส่ใจนัก,เรื่องที่เขาต้องทำนั้นมีเพียงแค่สองอย่างเท่านั้น,คือหนึ่งรักษาเซียนเซียน,อีกหนึ่งก็คือต่อสู้กับไท่อี้!
เซิ่งกงเป้าถอยออกไป,พร้อมกับนำจินเผิง,เต้าเหรินถูกและโหยวหลานไปด้วย.
"เซียนเซิงเซิ่ง,ให้พวกเราทำอะไรอย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
จินเผิงที่เป็นคนชื่นชอบการต่อสู้,เพียงแค่ได้เห็นได้ยินก็ทำให้เลือดในกายร้อนแล้ว,ขณะที่เขาได้ยินเกี่ยวกับความร้ายกาจของตี้เสวียนชาจากโหยวหลาน,คิดถึงตัวเองถูกยูไลสะกดข่ม,หากแต่ต่อหน้าตี้เสวียนชา,ยูไลกับไม่แม้แต่ต่อต้านได้เลย.
จากการคาดเดาของเขายูไลนั้นน่าจะมีระดับเซียนบรรพชนขั้นที่เก้า,หรือเข้าใกล้ขั้นที่สิบแล้ว,เมื่อเขาเข้าร่วมพิธีใต้หว่านฝูผาน,เป็นไปได้ว่าเขาจะก้าวไปถึงขั้นที่สิบ,กลายเป็นหนึ่งตัวตนที่แข็งแกร่ง,ทว่าเขากลับไม่มีพลังที่จะต่อสู้ตี้เสวียนชากลับได้เลย.
กับเรื่องที่เขาได้ยิน,คราแรกนั้นจินเผิงไม่ยากเชื่อแม้แต่น้อย,ทว่าขณะที่โหยวหลานนำหยกบันทึกออกมา,จินเผิงก็สามารถบอกได้ในที่สุด,เมื่อเห็นการต่อสู้ของตี้เสวียนชา,โลหิตในกายก็พลุ้งพล่านเช่นกัน,เพียงคำพูดไม่กี่คำสามารถข่มขู่ปราชญ์เทพได้,ต้าเจิ้งมีอสุรกายมากมายจริงๆ.
ตี้เสวียนชาที่เป็นดังเทพแห่งความดุร้าย,ดูน่าสนใจเป็นอย่างมาก.
"ใช่,เซียนเซิงเซิ่ง,มีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?"เต้าเหรินถูที่ขมวดคิ้วและกล่าวออกมา.
"เริ่ม,เตรียมการ!"เซิ่งกงเป้าเอ่ย.
"อะไร....?เตรียมการอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของจินเผิงเปลี่ยนเป็ฯเคร่งขรึมท่านที.
"รับทราบ!"เต้าเหรินถู,โหยวหลานที่กล่าวตอบรับอย่างเคร่งขรึม.
สามวันหลังจากที่ตี้เสวียนชาสังหารทำลายวิหารใต้เหล่ยหยิน,ในดินแดนเหล่ยหยิน,ราชโองการรับคนของต้าเจิ้งก็ถูกประกาศออกมา,ทุกเมือง,ทุกนิกาย,ต่างก็ได้รับราชโองการ.
ราชโองการ,ประกาศไปทั่วดินแดนเหล่ยยินสร้างความสนใจต่อผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วน.
"ราชโองการรับคนเข้าร่วมศาลเทวะต้าเจิ้ง,รับสมัครยอดฝีมือทั่วหล้า,เข้าร่วมศาลเทวะต้าเจิ้ง?"
"ต้าเจิ้ง? เป็นต้าเจิ้งจริงๆ?"
"มีลายมือของจงซาน,ไม่ผิดแน่,บางที่คงไม่ใช่แค่เพียงดินแดนเหล่ยหยิน,ประกาศนี้คงประกาศไปทั่วทุกพื้นที่,ไม่ได้มีเพียงแค่ที่นี่แน่นอน!"
"ใต้สวรรค์แห่งนี้,ทวีปตะวันออก,ทวีปทิศใต้,ทวีปตะวันตก,ทวีปทิศเหนือ,ทุกแห่งล้วนเข้าสู้ยุคแห่งความวุ่นวายแล้ว,ทวีปกลางเองก็ไม่มีทางที่จะไม่ถูกลากเข้าไปเกี่ยวด้วย,การจะอยู่รอดในยุคแห่งความวุ่นวาย,ทางที่ดีต้องเลือกเข้าร่วมสักแห่ง!"
"แต่ว่า,เจ้าจะเลือกต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ?"
"เจ้าจะไปรู้อะไร? ต้าเจิ้งเวลานี้เหลือเพียงสังหารปราชญ์เทพก่อตั้งศาลสวรรค์เท่านั้น,เจ้าก็เห็นตี้เสวียนชา,ไม่ใช่ว่าจงซานเป็นคนสั่งเขาเคลื่อนไหวรึ?"
"จงซานสั่งตี้เสวียนชาอย่างงั้นรึ?"
"ไร้สาระ,เจ้าโง่,เจ้าไม่เห็นสภาพวิหารใต้เหล่ยหยินรึ?
ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็เห็นทุกอย่างแล้วไม่ใช่รึ?"
..........................................
........................
......
ราชโองการประกาศรับคนของต้าเจิ้ง,ได้ถูกส่งออกไปทั่วทุกดินแดน.
เซิ่งกงเป้าที่มีหน้าที่รับผิดชอบรับคน,โดยมีหวนจีรับผิดชอบทดสอบจิตใจ,ส่วนจินเผิงและเต้าเหรินถูรับผิดชอบทดสอบฝีมือ.
การรับคนของต้าเจิ้งนี้ราวกับไฟลามทุ่งสร้างความสนใจต่อผู้ฝึกตนมากมาย.
แม้นว่าจะมีคนที่มั่นใจยินดีเข้าร่วมต้าเจิ้งทันทีมีไม่มากนักในระยะเริ่มแรก,ทว่าเซิ่งกงเป้าไม่ได้กังวลแม้แต่น้อย,เพราะว่างานชุมนุมใต้หว่านฝูผานใกล้เข้ามาแล้ว,ในทวีปกลางนี้,ย่อมมียอดฝีมือมารวมกันมากขึ้นเท่านั้น,ถึงแม้นว่าจะไม่สามารถดึงดูดได้ทั้งหมด,ก็ย่อมสามารถเก็บเกี่ยวได้มากกมาย,นอกจากนี้,นี่เพียงแค่เริ่มเท่านั้น,เมื่องานชุมนุมใต้หว่านฝูผานผ่านไป,ถึงจะรับรู้บอกได้ถึงความสนใจที่แท้จริง.
ที่พักของเทียนโจวจื่อ.
"ปราชญ์เทพจู่,ดูเหมือนว่า,ต้าเจิ้งจะประกาศรับคน! นอกจากนี้ยังได้ยินมาว่ามีเซียนบรรพชนมากมายที่ถูกเซิ่งกงเป้ากล่อมให้เข้าร่วมไปหลายคนแล้ว."เซียนบรรพชนคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
ภายใต้ใบหน้าที่เลือนลางขมวดแน่น.
"จงซาน?ถึงกับฉวยโอกาสกับชื่อเสียงที่ได้รับ,รับคนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างงั้นรึ?"เทียนโจวจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ใช่,ก่อนหน้านี้จงซานจัดการพวกเรา,ก็สร้างชื่อเสียงไม่น้อย,และยิ่งตี้เสวียนชาปรากฏตัวขึ้นอีก,พวกเขายิ่งมีชื่อเสียงมากกว่าเดิม,ไม่คิดเลยว่ากลายเป็นพวกเราที่สร้างโอกาสให้กับพวกเขา!"เซียนบรรพชนคนหนึ่งเอ่ย.
"เมื่อจบพิธีใต้หว่านฝูผาน,จงซานคงจะเก็บเกี่ยวได้เป็นอย่างมาก,กับการเก็บเกี่ยวยอดฝีมือที่มีพรสวรรค์เช่นนี้,ที่จริงคนอื่นๆคงยากที่จะทำตามได้!"เซียนบรรพชนที่เผยท่าทางไม่ค่อยดีนัก.
"ปราชญ์เทพจู่,ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ท่านเคยต่อสู้กับตี้เสวียนชาครั้งนี้,ตี้เสวียนชาอยู่ในระดับใด?"เซียนบรรพชนคนหนึ่งสอบถาม.
เทียนโจวจื่อเคยต่อสู้ครั้งนี้,แน่นอนว่าเกิดขึ้นเมื่อครั้งเขาไล่ล่าจงซานไปจนถึงแดนเทวะซือเทียน,และได้ปะมือกับตี้เสวียนชา.
เทียนโจจื่อจ้องมองเหล่าเซียนบรรพชนที่มองมา,พลางเอ่ยตอบ,"ก่อนหน้านี้ข้าและตี้เสวียนชาเพียงแค่หยั่งเชิงกันเท่านั้นไม่ได้ลงมือเต็มที่,แน่นอนว่าเขายังเทียบเขาไม่ได้,ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้ด้อยกว่าปราชญ์เทพหรือแข็งแกร่งกว่า,ทว่าข้าที่เป็นปราชญ์เทพ,หากต่อสู้แลกชีวิต,ผลจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีใครรู้,ตอนนี้พวกเจ้าเตรียมตัวให้ดี,เรื่องของจงซานและตี้เสวียนชา,อย่าเพิ่งเอามาใส่ใจ!"
"ครับ!"เหล่าเซียนบรรพชนพยักหน้ารับ,เห็นเทียนโจวจื่อไม่ต้องการเอ่ยถึง,พวกเขาก็ไม่ถามต่อไปเช่นกัน.
อีกฝั่งหนึ่ง,ภายในหุบเขาของไท่อี้.
ลู่หย๋าที่เป็นคนรวบรวมข้อมูลมารายงานไท่อี้.
"ต้าเจิ้งออกราชโองการรับคน?
คาดไม่ถึงเลยว่าจงซานจะลงมือก่อนพวกเราก้าวหนึ่ง!"ไทอี้ที่ขมวดคิ้วแน่น.
"ท่านพ่อ,จงซานต้องการทำลายแผนของพวกเราอย่างงั้นรึ?"ลู่หย๋าที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"โปรดวางใจ,1-2 ปีนี้สำหรับต้าเจิ้ง,แม้นว่าจะนับว่ามีชื่อเสียงไม่น้อย,ทว่ามันยังไม่พอ,ที่นี่ไม่ใช่ภาคเหนือถิ่นของเขา,ถึงเขาจะแสดงพลังออกมาสองครั้ง,ทว่าก็ยังไม่พอที่จะให้คนอื่นถวายชีวิตให้กับเขา,มันเริ่มเกินไปสำหรับพวกเขา,ไม่ต้องกังวล,เมื่องานชุมนุมใต้หว่านฝูผานเริ่มขึ้น,พวกเราจะลงมือทันที!"ไท่อี้กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"ลู่หย๋าพยักหน้ารับ.
ภายในหุบเขาของจงซาน.
เกี่ยวกับการรับคนของต้าเจิ้งนั้น,จงซานมอบเป็นหน้าที่ของเซิ่งกงเป้า,ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องลงมือเอง,ส่วนตี้เสวียชานั้นอยู่คอยคุ้มครองตี้เซียนเซียน.
หนึ่งเดือนหลังจากนั้น,ตี้เซียนเซียนอาการคงตัว,ทว่ายังไม่ฟื้น.
"อีกครึ่งเดือน,เซียนเซียนก็จะฟื้น!"เป่าเอ๋อกล่าว.
ตี้เสวียนชาที่จ้องมองเซียนเซียนที่เหมือนกับนอนหลับและส่งเสียงหายใจเบาๆ,ภายในใจของเขาที่รู้สึกผ่อนคลาย.
"ไป,พวกเราควรจะไปคิดบัญชีกับไท่อี้และลู่หย๋า!"ตี้เสวียนชาที่หันหน้าจ้องมองมายังจงซาน.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น