วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Immortality Chapter 1304 Bitter tasting wine

Immortality Chapter 1304 Bitter tasting wine


Chapter 1304 Bitter tasting wine

苦酒

สุรารสขม. 

 

หนึ่งปีก่อน,สองปราชญ์เทพ,สิบเซียนบรรพชนที่เข้าล้อมสังหารต้าเจิ้งสิบเอ็ดคน.

 

ในครั้งนั้นเหล่าผู้ฝึกตนทั่วทั้งดินแดนเหล่ยหยินก็ตื่นตะลึงไปครั้งหนึ่งแล้ว,ข่าวเรื่องดังกล่าวได้กระฉ่อนไปทั่วเกาะแม้แต่ไปลามไปยังดินแดนอื่นๆ.

 

มีผู้ฝึกตนหลายคนที่ต้องการเห็นความร้ายกาจของจงซานด้วยตัวเองเช่นกัน.

 

ช่างน่าเสียดาย,หลังจากนั้นกลุ่มของจงซานก็ซ่อนตัวไม่เห็นตลอดหนึ่งปี,ทำให้ผู้ฝึกตนไม่น้อยรู้สึกเศร้าใจไม่น้อย.

 

ทว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา,ภายในเกาะเหล่ยหยินก็ปรากฏเรื่องที่น่าตื่นตะลึงขึ้นอีกครั้ง,วิหารเหล่ยหยินถูกสังหารไปทั้งหมด.

 

เพียงแค่คนๆเดียว,หนึ่งกระบวนท่าทำลายค่ายกลห้าร้อยพุทธะ,กระบวนท่าที่สองสังหารอรหันต์และปู่ซาเกือบทั้งหมด,จนเหลือเพียงแค่ยูไลเจ้าอาวาสคนเดียวที่รับคมมีดเจ็ดสิบสองใบมีด,ก่อนที่จะโดยกุดหัวไป.

 

ยูไลไม่สามารถที่จะทนได้ถึง 72 ใบมีดแน่นอน,แต่กระนั้นก็ยังถูกสับไปจนครบ 72 ใบมีด.

 

เป็นการสังหารที่ดุร้ายน่าหวาดกลัวมาก,เต็มไปด้วยพลังที่เปี่ยมไปด้วยความชั่วร้าย.

 

ในระหว่างนั้น,ปราชญ์เทพม่อจื่อก็ได้ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน,ช่างน่าเสียดาย,ไม่สามารถที่จะป้องกันตี้เสวียนชาที่ดุร้ายได้,เพียงแค่คำขู่,หากเจ้ากล้าแส่,ข้าจะสังหารเจ้าทั้งตระกูล,กับสามารถห้ามเขาเข้ามายุ่งกับยูไลได้,ก่อนที่จะถูกตี้เสวียนชาสับไม่มีเหลือ.

 

ดุร้ายมาก,อรหันต์ยูไล,เป็นหนึ่งในอรหันต์ในพิธีชุมนุมพิธีใต้หว่านฝูผานที่ใกล้เข้ามา,คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีพลังต้านทานได้เลย,ตี้เสวียนชาน่าสะพรึงกลัวจนเกินไป.

 

เสียงของหมาป่าคำราม,ดังกึกก้องไปทั่วดินแดนเหล่ยหยิน,ผืนปฐพีที่สั่นสะเทือกดังกึกก้อง,พลังของดวงจันทรา,ถูกดูดซับหายไปหมด.

 

นี่คือสุดยอดฝีมือ,เทพแห่งความดุร้าย,ที่ทำให้โลหิตของผู้ฝึกตนทั่วดินแดนเหล่ยหยินพลุ้งพล่าน,ไม่ว่าใครก็ต้องหวั่นเกรง.

 

ในเวลานี้,ทุกคนค่อยๆรู้จักตัวตนของตี้เสวียนชาที่น่าเกรงขามได้แล้ว.

 

บรรพชนหมาป่า,จื่อจุ้นเผ่าหมาป่าแดนเทวะซือเทียน,จากทวีปฐพีที่เดินทางมาที่นี่,เพราะว่าก่อนหน้านี้เป็นเพราะว่าสองปราชญ์เทพ,สิบเซียนบรรพชนที่ล้อมสังหารจงซาน,ยูไลไดพลั้งมือทำร้ายหลานของตี้เสวียนชา,ตี้เซียนเซียน.

 

นางช่างมีปู่ที่ดีนัก!

 

ในเวลาเดียวกันนี้,ชื่อเสียงของต้าเจิ้งก็กระจายไปทั่วดินแดนเหล่ยหยินอีกครั้ง.

 

ตี้เสวียนชาออกจากต้าเจิ้งแล้วอย่างไร? หลานสาวของเขายังอยู่ต้าเจิ้ง,ตี้เสวียนชาก่อนหน้านี้ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับต้าเจิ้ง,ต้าเจิ้ง? นี่คือศาลเทวะแน่รึ?

 

พวกเขามีข่าวลือที่เกิดขึ้นมากมาย,มียักษ์ใหญ่กลุ่มอิทธิพลมากมายที่เกี่ยวข้องกับต้าเจิ้ง.

 

ภายในหุบเขาแห่งหนึ่งในดินแดนเหล่ยหยิน.

 

บนทะเลสาบที่เงียบสงบ,ราชันย์ตะวันออกไท่อี้ลืมตาขึ้นช้าๆ,ที่ด้านหน้าของเขาก็คือปราชญ์เทพลู่หย๋า.

 

"ท่านพ่อ,เป็นตี้เสวียนชาจริงๆ."ลู่หย๋าที่ขมวดคิ้วไปมา.

 

"ตี้เสวียนชา? จงซานไม่ธรรมดาจริงๆ,เขาคาดการได้แม่นยำยิ่งกว่าข้าอีก,สามารถที่จะล้มกระดานหมากทั้งหมดได้,ดูเหมือนว่าแผนการของพวกเราจะล้มเหลวแล้ว!"ราชันย์ตะวันออกไท่อี้ที่ดวงตาหรี่เล็กลง.

 

"ล้มเหลว? ทำไม? พวกเราจะออกไปจัดการเองหรือไม่?"ลู่หย๋าที่เผยท่าทางสงสัย.

 

"ออกไปรึ?ยาก!"ราชันย์ตะวันออกที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"ยาก? ท่านพ่อ,ตี้เสวียนชาเป็นใครกัน? ถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้? ยูไลถึงกับถูดสับเป็นชิ้นๆ,ข้าได้ยินเพียงแค่ว่าบรรพชนหมาป่าคืนกลับ? บรรพชนหมาป่า,หมายความว่าอย่างไร?"ลู่หย๋าที่เผยท่าทางสงสัย.

 

"ตี้เสวียนชา? ก็คือตี้ซือเทียน,ยอดฝีมือในยุคโบราณ,ความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถประเมินได้!"ราชันย์ไท่อี้กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

"ยุคโบราณ? นานเพียงใดกัน? ท่านพ่อบอกว่าตี้ซือเทียนนั้นมาก่อนผ่านกู่อีกอย่างงั้นรึ?"ลู่หย๋าที่ขมวดคิ้วไปมา.

 

"ใช่,ก่อนที่ผ่านกู่จะแยกสวรรค์สะบั้นปฐพีซะอีก,ตี้ซือเทียนก็สั่นคลอนโลกหล้าแล้ว!"ราชันย์ตะวันออกไท่อี้กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

 

"หากเทียบภพหยางเป็นสระน้ำ,นับว่ามันลึกสุดที่จะหยั่งจริงๆ!"ลู่หย๋าที่ขมวดคิ้วไปมา.

 

"ไม่มีปัญหา,ถึงมาก่อนก็ไม่ได้แปลว่าแข็งแกร่งที่สุด,เหมือนบรรพชนเต่าทมิฬที่มีอายุมากที่สุด,ในอดีตยังไม่สามารถเทียบกับนวีหว๋าได้! แม้แต่ผ่านกู๋ที่มาทีหลัง,เขาก็กลายเป็นคนที่ทั้งสองภพหยินหยางยากจะมีคนเทียบเขาได้,ถึงตี้ซือเทียนจะมาจากยุคที่เก่าแก่,ก็อาจจะไม่สามารถเทียบได้เช่นกัน,ความแข็งแกร่ง,ไม่ได้วัดกันที่จำนวนอายุ."ราชันย์ตะวันออกไท่อี้ที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"อืม!"ลู่หย๋าพยักหน้ารับ.

-----------------------------------------

 

ดินแดนเหล่ยหยิน,ฐานของตระกูลเทียน,ที่ห้องโถงตำหนักตรงกลาง.

 

เทียนโจวจื่อที่ได้ยินข่าวต่างๆที่หน่วยสอดแนมตระกูลเทียนส่งออกไป,เก้าเซียนบรรพชนที่หายจากบาดเจ็บแล้ว,ขณะที่นั่งอยู่ทั้งสองฝั่ง.

 

"ปราชญ์เทพจู่,เรื่องนี้,คนของวิหารใต้เหล่ยหยิน,ดูเหมือนว่าตี้เสวียนชาจะไม่ปล่อยให้ใครรอดเลย,ช่างดุร้ายยิ่งนัก,แม้แต่ม่อจื่อยังถูกไล่ไป!"ผู้เยาว์สอดแนมที่เผยท่าทางหวาดกลัว.

 

"อืม,เจ้าออกไปก่อน!"เทียนโจวจื่อพยักหน้ารับ.

 

"ครับ!"

 

ผู้เยาว์สอดแนมที่เดินออกไป,ในห้องโถงที่กลายเป็นเงียบงันในทันที.

 

เมื่อคืนนี้เทียนโจวจื่อตัดสินใจไม่เดินทางยังวิหารใต้เหล่ยหยิน,เพราะว่าสังหรใจไม่ดี,ท้ายที่สุดก็เป็นดั่งที่เขาสังหารใจ

 

ตี้เสวียนชา? ตี้เสวียนมาเดินทางมาอย่างงั้นรึ? เป็นเขาจริงๆ.

 

ในอดีตเขาคือเทพแห่งความดุร้ายที่ประจันหน้ากับท่านประมุข.

 

ก่อนหน้าไม่ได้เห็นเขาลงมือ,ตอนนี้ได้เห็นแล้ว,ไม่คิดเลยว่าจะทรงพลังน่าเกรงขามขนาดนั้น.

 

ในเวลานี้,เทียนโจวที่คิดถึงคำพูดของจงซานในเวลานั้น.

 

"เจ้าช่างสมองเบา!"

 

ในเวลานี้,เทียนโจวจื่อคิดถึงคำพูดที่จงซานตำหนิเขา,ทันใดนั้นเขาก็อดรู้สึกถึงคำพูดนี้เสียไม่ได้,ก่อนหน้านี้หนึ่งปี,พวกเขาที่ไปล้อมสังหารจงซาน,กลายเป็นตัวเขาที่แส่หาเรื่องจริงๆ.

 

ลู่หย๋าที่หาคนสังหารจงซาน,ทว่าตัวเองกลับซ่อนถอนตัวไป.

 

จงซานสามารถสังหารได้จริงๆรึ? จงซานไม่ได้เอ่ยหรอกเหรอที่นี่ยังมีเทพแห่งความดุร้าย,เทพแห่งความดุร้ายกำลังมา.

 

ยูไลทำร้ายตี้เซียนเซียน,ท้ายที่สุดก็ถูกสับเป็นท่อนๆอย่างงั้นรึ?

 

"โชคดีที่,พวกเราต่อสู้กับจงซาน,หากพวกเราต่อสู้กับตี้เซียนเซียน,บางที่ตี้เสวียนชาคงเดินทางมาถึงที่นี่!"เซียนบรรพชนอีกคนที่เอ่ยออกมาด้วยความตกใจ.

 

เทียนโจวจื่อที่ขมวดคิ้วแน่น.

 

"วางใจ,มีข้าอยู่,พวกเจ้าย่อมไม่มีเรื่องอันใด,ตี้เสวียนชาไม่สามารถทำอะไรพวกเจ้าได้,ความแข็งแกร่งของตี้เสวียนชา,ข้าควรจะรับมือได้!"เทียนโจวจื่อที่ส่ายหน้าไปมา.

 

เก้าเซียนบรรพชนที่เอ่ยปากจะกล่าวอะไรบางอย่าง,ทว่าท้ายที่สุดก็ไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา,คราแรกพวกเขาที่เอ่ยเกี่ยวกับการสังหารจงซาน,แต่แล้วก็รู้สึกว่าชีวิตของตัวเองสำคัญกว่า.

 

"เรื่องของตี้เสวียนชา,อย่าเพิ่งไปสนใจ,รักษาตัวเองให้แข็งแรง,งานชุมนุมใต้หว่านฝูผานใกล้เข้ามาแล้ว,ทำงานที่ประมุขสั่งก่อน!"เทียนโจวจื่อกล่าว.

 

"ครับ!"

------------------------------------------------

 

ที่ชายฝั่งแห่งหนึ่งของดินแดนเหล่ยหยิน.

 

ม่อจื่อที่ร่อนลงมาจากบนท้องฟ้า.

 

"อาจารย์!"เหล่าศิษย์สองสามคนที่ก้าวเข้ามาแสดงความเคารพ.

 

"ยูไลตายแล้ว,งานชุมนุมใต้หว่านฝูผานหาได้มีเรื่องที่สำคัญอีกต่อไป,พวกเราจะไม่เข้าร่วม,เก็บของ,พวกเราจะเดินทางกลับ!"ม่อจื่อกล่าวออกมาเบาๆ.

 

"?หืม!"ศิษย์หลายคนที่เผยท่าทางงงงวย,ได้แต่พยักหน้ารับ.

 

ศิษย์ทั้งหมดที่แยกย้ายสั่งการ,เก็บของในทันที,ม่อจื่อที่หันหน้าจ้องมองไปยังส่วนลึกของดินแดนเหล่ยหยิน,ไม่เคลื่อนไหว,รอคอยศิษย์ของตัวเอง.

 

เหล่าศิษย์ที่เก็บของเสร็จแล้วแต่ก็ไม่กล้ารบกวน.

 

"เฮ้อ~~~~~~~~~~!”ม่อจื่อที่สูดหายใจลึก.

 

"ไป!"ม่อจื่อเอ่ย.

 

"ครับ!"

--------------------------------------------------

 

ดินแดนเหล่ยหยิน,ยอดเขาแห่งหนึ่งไม่ไกลจากที่พักของจงซาน.

 

ภายในซุ้มไม้.

 

"ผลิตภัณฑ์พิเศษต้าเจิ้ง? สุราเหล่าหลางเสี่ยวหลางเหนียง(หมาป่าชราและหมาป่าตัวน้อย) อย่างงั้นรึ?"ตี้เสวียนชาที่จ้องมองสุราสีเขียวพลางขมวดคิ้วไปมา.

 

ตี้เสวียนชาที่เป็นเหมือนกับจงซาน,เขาที่สามารถบอกได้ว่า,สุรานี้ไม่ต่างจากของเสียที่ถูกคัดออกมา,ตี้เสวียนชาที่ไม่ได้ปฏิเสธ,ชื่อของมันที่พิเศษ,ทำให้เขาทอดตามองอย่างสงสัย.

 

ทว่าขณะที่เขาเพ่งพิศ,ราวกับรู้สึกอะไรบางอย่าง,นี่คือสุราที่หลานของเขาหมักด้วยตัวเอง,ทว่าชี่อของมัน,สุราเหลาหลางเสียวหลางเหนียง,ตี้เสวียนชาก็ไม่ยากที่จะคาดเดา,เหล่าหลางเสียวหลางเหนียง,เหล่าหลางก็คือเขา,ส่วนเสียวหลางเหนียงก็คือเซียนเซียน.

 

หลายปีมานี้,เป็นเซียนเซียนบ่มสุรานี้ขึ้นมาอย่างงั้นรึ?

 

"ไม่ดื่ม!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบาๆ.

 

ตี้เสวียนชาที่พยักหน้า,พร้อมกับยกสุราขึ้นดื่ม.

 

สุราเหล่าหลางเสียวหลางเหนียงไม่ใช่สุราเลอเลิศ,ในทางตรงกันข้าม,มันกลับเป็นสุราที่ขมอย่างที่สุด.

 

"นี่มัน,น้ำนี้,ไม่ใช่เป็นน้ำตาของเซียนเซียนหรอกรึ?"ตี้เสวียนชาที่อารมณ์ไม่ค่อยคงที.

 

"เซียนเซียนเล่าให้ฟังว่าเมื่อนางยังเด็ก,ทุกๆปีเจ้าจะพานางไปปลูกต้นไม้หนึ่งต้น,ต้นไม้เหล่านั้นจะเติบโตไปพร้อมๆกันนาง,ซึ่งมีหมาป่าชราหนึ่งต้น,หมาป่าตัวน้อยอีกหนึ่งต้น,ปลูกคู่กัน,สุรานี้,หมักมาจากผลของต้นไม้เหล่านั้น!"จงซานเอ่ย.

 

"หืม?"ใบหน้าของตี้เสวียนชาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก.

 

"ผ่านมาไม่กี่ร้อยปี,มันได้ออกผลเกือบทั้งหมดแล้ว,เซียนเซียนที่เก็บมันมาด้วยตัวเอง,นางที่เก็บตัวอาศัยอยู่แต่ในห้อง,ผลของต้นไม้หมาป่าชราและผลของต้นไม้ที่หมาป่าน้อยปลูกร่วมกัน,ถูกนำมันมาบ่มเป็นสุรา,นางได้แบ่งคัดสุราที่ผิดพลาดออกมาเป็นส่วนดีและไม่ดี,ส่วนดีครึ่งหนึ่งถูกเก็บไว้ในห้องใต้ดิน,รอคอยให้หมาป่าชรากลับมา,อีกครึ่งหนึ่ง,เป็นของนางเอง,นางได้แบ่งมาให้กับข้าด้วย!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.

 

ได้ยินคำอธิบายของจงซาน,ตี้เสวียนชาที่สามารถมองเห็นภาพในทันที,นางที่ต้องใช้ความพยายามไม่น้อย,น้ำหมักที่ผสมด้วยน้ำตาของนางรึ? และส่วนนี้คือส่วนที่ไม่ดีอย่างงั้นรึ?ไม่ต้องแปลกใจเลยว่ามันถึงได้มีรสขมขนาดนี้.

 

น้ำตาของตี้เสวียนชาที่คลอเบ้า,แม้ว่ามันจะระเหยไปอย่างรวดเร็ว,ทว่าจงซานที่สามารถเข้าใจตี้เสวียนชาที่กำลังพยายามกำราบเจตจำนงของตี้ซือเทียนอีกครั้งแล้ว.

 

"เซียนเซียน,หลายปีนี้เป็นเช่นไร?"ตี้เสวียนชาเอ่ยถาม.

 

"นางที่ทำตัวร่าเริง,พยายามอย่างหนัก!"จงซานเอ่ย.

 

"หมายความว่าอย่างไร?"

 

"หลายปีมานี้ในภพหยิน.นางได้กำราบหมาป่าภพหยินได้อย่างสมบูรณ์!"จงซานที่กล่าวออกมาเบาๆ.

 

คำพูดไม่กี่คำของจงซานนั้น,ได้บอกกล่าวว่านางที่สามารถกำราบเผ่าหมาป่าได้ทั้ง 36 ดินแดนเลยรึ? ดูเหมือนว่านางจะบุกเบิก,ทำงานอย่างหนัก.

 

นางกระทำตัวร่าเริงเพราะมีความสุขอย่างนั้นรึ? ที่จริงแล้วการที่นางต้องทำงานอย่างหนัก,ก็เพื่อที่จะสะกดความรู้สึกโศกเศร้าในใจอย่างงั้นรึ?

 

นางที่ฝืนทำตัวร่างเริง,พยายามอย่างหนัก?ด้วยคำพูดของจงซาน ทันทีที่เขาได้ยินก็รับรู้ได้ถึงสิ่งที่ซ่อนเอาไว้,ทำให้เขารู้สึกเศร้ายิ่งกว่าเดิม,ขณะที่เขายกสุราขึ้นดื่ม.

 

"ครั้งนี้,ข้าต้องการนำนางมาผ่อนคลาย."จงซานกล่าว.

 

"อืม!"ตี้เสวียนชาที่พยักหน้ารับ,พร้อมกับดื่มสุราลงไปอีก.

 

"ข้าโชคดี,ขอนำสุราไปกลับไปด้วย!"ตี้เสวียนชาเอ่ยปาก.

 

"ไม่ได้!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

 

ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองจงซาน.

 

"อย่าลืมว่ามีสุรารสดี,ที่เจ้าควรไปดื่ม,มันคือสุราที่อยู่ในห้องเก็บใต้ดิน,ที่เจ้าจะได้ดื่มเมื่อครั้งเจ้ากลับไป,จะสามารถดื่มมันได้เท่าไหร่ก็ได้!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"กลับไปนะรึ?"ตี้เสวียนชาที่ฝืนยิ้ม,สายหน้าไปมา,ไม่ได้เอ่ยอะไร,ขณะที่ยกสุราขึ้นดื่มอีกครั้ง.







ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น