วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2564

Immortality Chapter 1260 Ate it

Immortality Chapter 1260 Ate it


Chapter 1260 Ate it

把它吃了

  กินมัน.

 

ภายใต้การอธิบายยกตัวอย่างของจงซาน,มันได้ค่อยๆทำลายโซ่ตรวนที่ผนึกความคิดของเป่ยชิงซือช้าๆ.

 

กับคำพูดที่เอ่ยอ้างเพื่อประชาชนทั่วหล้า,จากคำอธิบายของจงซาน,มันกลับกลายเป็นคำพูดโคมรอยที่ไร้ซึ่งหลักฐาน,โลกปิศาจสวรรค์จะเข้ามาในโลกใบใหญ่ได้ง่ายๆเลยอย่างงั้นรึ?

 

กับวิกฤติของปิศาจสวรรค์!ต้าเจิ้งพร้อมที่จะทำสงครามด้วย,แล้วยอดฝีมือทั่วหล้าล่ะ? กับสถานการณ์ที่จะกลายเป็นย่ำแย่,ทั่วหล้าไม่ใช่ว่าต้องวุ่นวายอย่างงั้นรึ? หากแต่ในเวลานี้กลับไม่มีที่ใดกำลังวุ่นวายบ้าคลั่งเลย? คนทั่วโลกใบใหญ่ที่จะต้องตกตายแต่กลับไม่มีใครให้ความสนใจเลย,ไม่ใช่ว่านี่เป็นแค่คำพูดลวงหลอกของปิศาจสวรรค์รึอย่างไร?

 

สังหารคนทุกคน? ทำลายล้างชนชาติ? หากมันไม่ใช่คำพูดไร้สาระ,แล้วเหล่าปราชย์เทพในโลกนี้เป็นของประดับอย่างงั้นรึ? เทียนชูมีไว้เติมให้เต็มอย่างงั้นรึ? นางที่เป็นสตรีตัวเล็กๆกำลังกังวลอะไร?

 

แม้นว่าคำพูดของจงซานนั้นจะเต็มไปด้วยไหวพริบ,ทว่าเป่ยชิงซือย่อมสามารถมองเห็นปัญหาได้,หากไม่โง่ล่ะก็,จะต้องเข้าใจในทันที.

 

กับคำพูดและอธิบายทั้งหมดที่เป่ยชิงซือได้รับใบหน้าที่ขาวหิมะกลายเป็นสีแดง,ในเวลานี้นางพบแล้วว่า,นางโง่จริงๆ.

 

เป่ยชิงซือที่เห็นอธิบาย,นางก็ยิ่งเข้าใจได้มากขึ้นเรื่อยๆ.

 

"แน่นอน,คงไม่สามารถตำหนิเจ้าได้,สามคนกลายเป็นเสือ,หนำซ้ำเจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ยังกล่าวกรอกหูเจ้านับหมื่นครั้ง,อีกทั้งยังกล่าวว่าหลายร้อยปี,ปราชญ์เทพจะมาคาวะ,เจ้ายังเด็กนัก,เลยไม่เข้าใจ............!”

三人成虎 สามคนกลายเป็นเสือ เป็นสำนวนหมายถึง คนพูดมากๆ จากข่าวลือกลายเป็นข่าวจริง

 

จงซานที่เห็นเป่ยชิงซือเข้าใจดีแล้ว,จึงได้เริ่มกล่าวล้อ.

”!”

 

จงซานที่จ้องมองเป่ยชิงซือที่กำลังอักอ่วนละอายใจ,จนนางขุ่นข้องใจ,และกัดจงซานเป็นรอย.

 

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"จงซานเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

 

เป่ยชิงซือที่เห็นจงซานจงใจล้อนาง,ขณะที่นางเปลี่ยนเป็นผ่อนคลายและดีใจออกมา,ทันใดนั้นนางที่รู้สึกตกใจขึ้นมาในทันที.

 

"แย่แล้ว,แย่แน่เลย!"เป่ยชิงซือที่ลุกขึ้นนั่งในทันที,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล,ราวกับว่ากำลังจะร้องไห้อีกครั้ง.

 

"มีอะไร?"จงซานที่สอบถามออกไป.

 

"ข้า,ข้า......!”เป่ยชิงซือที่กระวนกระวาย,จากนั้นก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง.

 

"กล่าวออกมาช้าๆ,มีเรื่องอะไร,มีข้าอยู่,ทุกอย่างต้องจัดการได้!"จงซานกล่าวออกมาเบาๆ.

 

"ข้า,ข้าเป็นคนโง่จริงๆ! "เป่ยชิงซือที่ราวกับว่าได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการร้องไห้ไปซะแล้ว.

 

"ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เจ้ารู้ตัวไปแล้วรึ?"

 

ได้ยินคำพูดของจงซานกล่าวล้อ,เป่ยชิงซือที่อาย,จากนั้นก็กลายเป็นร้อนรน,เดี๋ยวหัวเราะ,เดี๋ยวร้องไห้,ไม่รู้ว่ามีอารมณ์ใด,ขณะนี้นางแทบปรับอารมณ์ไม่ถูก.

 

"บอกซิ,ว่ามีปัญหาอะไร!"จงซานที่ขยับเข้าไปโอบกอด,พร้อมกับปลอบนางอีกครั้ง.

 

"ข้าได้ทำผิดสองสิ่ง,จากนี้ต้องทำอย่างไรดี?"เป่ยชิงซือเอ่ย.

 

"หืม? มีสิ่งใดที่ผิด?"

 

"ข้าได้กินเม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณ,พร้อมกับผูกดวงวิญญาณมอบให้กับเผ่าเต่าทมิฬ,ตอนนี้คิดจะกลับตัวก็ยากแล้ว!"เป่ยชิงซือที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย.

 

"ค่อยๆอธิบาย,เม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณ? หมายความว่าอย่างไร?"

 

"เม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณ,หกเดือนหลังจากนี้,ดวงวิญญาณข้าจะหลุดออกจากร่าง,กายเนื้อของข้าก็จะแข็งตัว,แม้นว่าจะสามารถเก็บรักษากายเนื้อเอาไว้ได้,ทว่าดวงวิญญาณก็ไม่สามารถกลับร่างได้แล้ว,เจ้าก็เห็นศพทั้งแปดสิบนั่น,ข้าจะกลายเป็นเหมือนกับพวกนาง."เป่ยชิงซือกล่าว.

 

จงซานกวาดตามองไปยังศพทั้ง 80 ,สายตาของเขาที่จ้องมองศพเหล่านั้น,พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาแน่น.

 

"เม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณมาจากที่ใด,มียาแก้หรือไม่?"จงซานที่สอบถามอย่างจริงจัง.

 

"ข้าไม่รู้ยาแก้,มันเป็นสูตรลับของเม็ดยาเผ่าจิง,บางที่ถึงพวกเขาจะมียาแก้,ทว่าเผ่าจริงเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมรับข้อเสนอ,จากนี้จะทำอย่างไรดี?"เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความเจ็บปวด,ราวกับว่าสวรรค์ได้ถล่มทลายไปแล้ว.

 

"มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

 

"หืม?"เป่ยชิงซือตกใจเล็กน้อย.

 

ไม่ได้แย่อย่างงั้นรึ?เป็นไปไม่ได้? กับเรื่องคอขาดบาดตาย,จงซานกลับบอกว่ายังไม่แย่อีกอย่างงั้นรึ?

 

"ถอยกลับพันก้าว,ถึงแม้นว่าจะถูกดึงวิญญาณออกจากร่าง,ขอเพียงเจ้ายังไม่เป็นไร,อย่างแย่ที่สุดก็บำเพ็ญวิชาภูติ,หรือจุติเกิดใหม่อีกครั้ง,นอกจากนี้ข้ายังไม่ไปที่เผ่าจริงเลย,เมื่อถึงเวลานั้นอาจจะหายาแก้ได้!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

 

เป่ยชิงซือ," ...........!”

 

ได้ยินจงซานกล่าว,บางที่อาจจะไม่ใช่เรื่องแย่ที่สุดก็ได้,แล้วนางต้องการอะไร?เป่ยชิงซือไม่รู้จะเอ่ยอะไรเช่นกัน,เวลานี้คงได้แต่เชื่อใจจงซาน,การมีบุรุษที่ดีไว้เคียงข้าง,ถึงเจอปัญหาที่ยากจะแก้ไข,ก็ไม่ได้ทำให้นางต้องหมดหวัง.

 

"แล้วเรื่องผูกดวงวิญญาณหมายความว่าอย่างไร?"จงซานที่กล่าวสอบถามออกมาอีกครั้ง.

 

"เรื่องนี้? บางที่อาจจะเป็นปัญหาก็เป็นได้."

 

"หืม?"

 

"วิธีนี้เป็นวิชาที่ท่านหญิงนวีหว๋าได้สร้างขึ้นในอดีต,ผูกดวงวิญญาณของเหล่าผู้ฝึกตนเอาไว้,หากผู้ฝึกตนตายไปด้านนอก,ขอเพียงแค่มีดวงวิญญาณ,สามารถผูกมันไว้กับหยกสัญญาณชีพ,เมื่อบดหยกสัญญาณชีพ,ก็จะสามารถดึงดวงวิญญาณเอาไว้กลับมายังสำนักได้,ทว่าหลายปีมานี้หยกผูกวิญญาณนี้กลับถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการบูชายันต์,ตอนนี้ข้าได้ถูกผูกมันเอาไว้แล้ว,หกเดือนหลังจากนี้,เมื่อดวงวิญญาณข้าออกจากร่าง,ตราบเท่าที่บดหยกผูกวิญญาณ,ดวงวิญญาณของข้าก็จะถูกดึงไปในทันที,ซึ่งหยกผูกวิญญาณนี้อยู่ในมือของจือจุ้นเผ่าเต่าทมิฬ,เซียนเทียนจงแล้ว!"ใบหน้าของเป่ยชิงซือที่กลายเป็นเคร่งขรึม.

 

"อยู่ในมือเซียนเทียนจงอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

 

"อืม,ห้องโถงบูชายันต์นั้น,อยู่ในตำหนักของเสาสวรรค์ทั้งสี่,อยู่ในแดนเทวะเผ่าเต่าทมิฬ,ดังนั้นนี้มันกลายเป็นประเพณี,ข้า,ข้า............!”เป่ยชิงซือที่ยากจะพูดออกมา,ที่นางโง่มาได้ตลอดหลายปี.

 

กับสิ่งที่เกิดขึ้นนางที่ถูกลวงหลอกด้วยคำว่าความเที่ยงธรรมสำหรับประชาชนทั่วหล้า,นางโง่จริงๆ,เป่ยชิงซือรู้สึกอับอายนัก.

 

ในเวลานี้,เป่ยชิงซือจ้องมองจงซานด้วยความหวัง,หวังว่าจงซานจะมีวิธี.

 

จงซานที่ขมวดคิ้วแน่น,ในระหว่างนี้,แววตาที่เผยความลังเลออกมาหลายครั้ง,จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายเคร่งขรึม,ราวกับว่าได้คำนวณเรื่องสำคัญขึ้นมาได้แล้ว.

 

เป่ยชิงซือที่รอคอยอย่างอดทน.

 

ขณะที่ครุ่นคิดแผนการต่างๆ,จงซานที่พ่นลมหายใจยาว,"โปรดวางใจ,ปล่อยเป็นหน้าที่ของข้าเอง!"

 

"แล้วต้องทำอย่างไร?"เป่ยชิงซือกล่าว.

 

"ในเมื่อเรื่องผูกดวงวิญญาณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้,เช่นนั้นก็ต้องเผชิญหน้าตรงๆ,ระหว่างนี้,ข้าจะเป็นต้องวางแผนบางอย่าง!"จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.

 

"แผนการ?"เป่ยชิงซือที่ขมวดคิ้วตื่นตระหนกเล็กน้อย.

 

"เจ้ารู้จักแดนขั้วโลกเหนือทั้งหมดดีหรือไม่?"จงซานสอบถาม.

 

"อืม,หลายร้อยปีมานี้,ข้าได้ตะเวณไปรอบๆดินแดนขั้วโลกเหนือ."เป่ยชิงซือพยักหน้ารับ.

 

"จากนี้,พวกเราจะแยกเป็นสองกลุ่ม,สร้างเรื่องใหญ่โตขึ้นในดินแดนขั้วโลกเหนือแห่งนี้!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

 

"อืม!"

 

แม้นว่าเป่ยชิงซือจะไม่รู้ว่าจงซานมีแผนอันใด,ทว่านางก็พยักหน้าอย่างมีความสุข.

 

จากนั้น,จงซานและเป่ยชิงซือที่พูดคุยกันตลอดสองวันสองคืน.

 

ระหว่างสองวันนี้เป่ยชิงซือที่บอกเล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างภายในดินแดนขั้วโลกเหนือ,ส่วนจงซานนั้นบอกเล่าแผนการที่อหังการภายในใจแจ้งต่อเป่ยชิงซือ.

 

แม้นว่าเป่ยชิงซือเต็มไปด้วยความประหลาดใจ,ทว่าก็มากด้วยความตื่นเต้น,จากนั้นก็พยักหน้ารับในทันที.

---------------------

 

ที่ด้านนอกตำหนักปุถุชน.

 

เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่เฝ้ามองอยู่ด้านนอกไม่ไปใหน,นางที่พากลุ่มยอดฝีมือล้อมรอบตำหนักปุถุชนเอาไว้.

 

ตอนนี้เป่ยชิงซือที่อาศัยอยู่ในตำหนักปุถุชนในเวลานี้,สถานะของนางที่เทียบได้กลับเจ้าตำหนักจึงไม่มีใครที่กล้าท้าทายนาง,นอกจากนี้เป่ยชิงซือยังยินยอมนำตัวเองไป

เหล่าเสนาธิการต้าเจิ้งที่กวาดตามองฝ่ายตรงข้ามเฝ้าระวังเอาไว้,เสี่ยวเหม่ย,เสี่ยวหลิงที่ซ่อนอยู่ด้านหลังพวกเขา.

"ครืดดด!”

The gate of main hall opens loudly.

ประตูตำหนักที่เปิดออกมาเสียงดัง.

 

ทันทีที่ประตูเปิดออก,จิตใจของทุกคนที่สั่นไหวจับจ้องมองไปเป็นสายตาเดียวกัน.

 

"เป่ยชิงซือ,เจ้าต้องการทำอะไร,คิดจะทำให้ตำหนักปุถุชนเสื่อมเสียอย่างงั้นรึ?"เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่คำรามออกมาด้วยความโกรธ.

 

จงซานที่นำเป่ยชิงซือออกมาช้าๆ.

 

ในเวลานี้,เป่ยชิงซือที่ไม่ดูท่าทางคร่ำครวญเต็มไปด้วยความทุกข์อีกแล้ว,นางที่เปลี่ยนเป็นสุขุม.

 

"เจ้าตำหนัก,ตอนนี้ข้าเป็นเจ้าของตำหนักปุถุชนไปแล้ว,ทุกอย่างในตำหนักปุถุชน,ท่านไม่สามารถที่จะตัดสินใจแทนข้าได้!"เป่ยชิงซือเอ่ยออกมาเบาๆ.

 

"หืม?"เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่ขมวดคิ้วไปมา,เพราะว่านางพบว่าเป่ยชิงซือที่ราวกับว่าเปลี่ยนเป็นคนละคน.

 

"เจ้าวิหารปุถุชน? จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์,ในวันข้างหน้าจะต้องถูกนำไปบูชายันต์เพื่อคนทั่วหล้า!"เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

 

"ถูกส่งไปบูชายันต์อย่างงั้นรึ? ข้าเคยกล่าวรึว่าจะไม่ไปรึ?"

 

เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์".................!”

 

ในเวลานี้เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่พบกว่าเป่ยชิงซือที่พูดจาคมคายขึ้น.

 

"เจ้าตำหนักโปรดกลับไป,ตอนนี้ข้าคือเจ้าวิหารปุถุชน,ท่านเตรียมศิษย์พี่กลับไปยังตำหนักสวรรค์ที่พังทลายได้,คิดจะทำลายธรรมเนียมของตำหนักเทพเหมันตร์อย่างงั้นรึ?"เป่ยชิงซือที่กล่าวอย่างชอบธรรม.

 

"เจ้า!"เจ้าตำหนักที่พูดไม่ออก,ทำลายธรรมเนียมอย่างงั้นรึ? นางเป็นเจ้าตำหนักที่เร่งคัดจะทำลายธรรมเนียมปฏิบัติได้อย่างไร?

 

"ดวงวิญญาณของข้าถูกเซียนเทียนจงผูกเอาไว้,และข้ายังได้กินเม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณไป,ท่านยังต้องกังวลอะไรอีก?"เป่ยชิงซือเอ่ย.

 

เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ใบหน้ากระตุก,เพราะว่านางพบว่าเป่ยชิงซือเวลานี้ได้หลุดจากการควบคุมของนางไปแล้ว,เวลานี้นางจากที่จะทำอะไรได้,ขณะที่นางจ้องมองจงซานด้วยความขมขื่น,ก่อนที่จะสะบัดแขวนเสื้อ,พร้อมกับหันหลังกลับบินจากไป.

 

เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่จากไปแล้ว,เหล่าศิษย์ของตำหนักเทพเหมันตร์ที่จ้องมองหน้ากันและกัน,ก่อนที่จะจากไปเช่นกัน.

 

"เสนาธิการต้าเจิ้งคารวะฮวงโหว!"ในเวลานี้เสนาธิการทุกคนที่แสดงความเคารพออกมา.

 

"อืม!"เป่ยชิงซือที่พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม.

 

"เจ้าตำหนักน้อย,ท่านยิ้มแล้ว,นานแค่ใหนกันที่ไม่ได้เห็นท่านยิ้ม!"เสี่ยวเหม่ยที่เอ่ยปากออกมาด้วยความประหลาดใจและยินดี.

 

"ใช่,เจ้าตำหนักน้อย,รอยยิ้มของท่านช่างงดงามนัก!"เสี่ยวหลิงที่เอ่ยปากออกมาทันทีเช่นกัน.

 

"เด็กทั้งสองคนนี่!"เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,ปมในหัวใจมันได้คลายแล้ว,ทำให้นางอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก.

 

"เสี่ยวเหม่ย? เสี่ยวหลิง?"จงซานที่จ้องมองไปยังคนทั้งสอง.

 

"สามีเจ้าตำหนักน้อย!"สตรีทั้งสองที่แสดงความเคารพออกมา.

 

"ไม่ต้องมีพิธีรีตองหรอก,ครั้งนี้,ต้องขอบใจเจ้ามาก!"จงซานทีกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

"ไม่มีอะไรเลย,ก่อนหน้านี้,เจ้าตำหนักน้อยดีกับพวกเรามาก,แน่นอนว่าพวกเราย่อมไม่ต้องการที่จะเห็นเจ้าตำหนักน้อยต้องตายไป!"เสี่ยวเหม่ยที่กล่าวออกมาในทันที.

 

"จงซานพยักหน้ารับ.

 

"ปกป้องพวกนางด้วย,หวนจี,หนานกงเซิ่ง,กุยเสอ,เซียนเซิงจินหง,ตามพวกเรามา,คนอื่นๆปกป้องรอบๆตำหนักปุถุชนให้ดี!"จงซานกล่าว.

 

"รับทราบ!"เหล่าเสนาธิการทุกคนที่รับคำสั่งในทันที.

 

"ครืดๆ!"ประตูตำหนักที่ปิดเสียงดัง.

 

หวนจีที่ตรงมายังกลางห้องโถง,พุ่งตรงไปยังสระแก่นปิศาจ,ส่วนคนอื่นๆที่จ้องมองภายในห้องโถงด้วยความประหลาดใจ.

 

แม้นว่าจะแตกต่างจากสระอสูรทว่าด้านในนั้นมีศพอยู่มากมายสร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก,พวกเขาไม่ได้กล่าวสิ่งใด,เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าการที่เซิ่งหวังเรียกพวกเขาเข้ามา,ย่อมต้องมีเรื่องสำคัญอย่างแน่นอน.

 

"ต้นกำเนิดปิศาจ? มีตั้ง 18 อันเลยรึ? นี่มัน,นี่..................!”หวนจีที่เอ่ยออกมาด้วยความดีใจและประหลาดใจ.

 

จงซานและเสนาธิการคนอื่นๆที่มาอยู่ที่ขอบสระจ้องมองไปยังหวนจี.

 

เป่ยชิงซือที่จ้องมองหวนจีด้วยความสงสัย,เพราะว่ามีเพียงนางเท่านั้นที่ถูกรัดพันด้วยชุดสีดำทั่วร่าง,ทำไมนางถึงต้องสวมชุดดำปกปิดทั้งหมดเช่นนี้ด้วย?

 

ไม่ใช่ว่าหวนจีไม่ต้องการถอดชุดดำออก,ทว่าหากไม่รัดพันด้วยชุดดำ,ยกเว้นจงซาน,จะไม่มีใครมองเห็นนางได้แม้แต่คนเดียว.

 

"เจ้าเห็นสระแก่นปิศาจแล้ว,เจ้าต้องการทำอะไร?"จงซานที่สอบถามออกไปด้วยรอยยิ้ม.

 

คนอื่นๆต่างก็จ้องมองหวนจีด้วยความประหลาดใจ,เซิ่งหวังหมายความว่าอย่างไร? หวนจีต้องการทำอะไร?

 

"กินมัน!"หวนจีที่กล่าวออกมาตามตรง.

เป่ยชิงซือ"............!”

หนานกงเซิ่ง"............!”

จื่อหยางจิงหง"............!”

........................

............

......







ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น