Immortality Chapter 1260 Ate it
Chapter 1260 Ate it
把它吃了
กินมัน.
ภายใต้การอธิบายยกตัวอย่างของจงซาน,มันได้ค่อยๆทำลายโซ่ตรวนที่ผนึกความคิดของเป่ยชิงซือช้าๆ.
กับคำพูดที่เอ่ยอ้างเพื่อประชาชนทั่วหล้า,จากคำอธิบายของจงซาน,มันกลับกลายเป็นคำพูดโคมรอยที่ไร้ซึ่งหลักฐาน,โลกปิศาจสวรรค์จะเข้ามาในโลกใบใหญ่ได้ง่ายๆเลยอย่างงั้นรึ?
กับวิกฤติของปิศาจสวรรค์!ต้าเจิ้งพร้อมที่จะทำสงครามด้วย,แล้วยอดฝีมือทั่วหล้าล่ะ?
กับสถานการณ์ที่จะกลายเป็นย่ำแย่,ทั่วหล้าไม่ใช่ว่าต้องวุ่นวายอย่างงั้นรึ?
หากแต่ในเวลานี้กลับไม่มีที่ใดกำลังวุ่นวายบ้าคลั่งเลย?
คนทั่วโลกใบใหญ่ที่จะต้องตกตายแต่กลับไม่มีใครให้ความสนใจเลย,ไม่ใช่ว่านี่เป็นแค่คำพูดลวงหลอกของปิศาจสวรรค์รึอย่างไร?
สังหารคนทุกคน? ทำลายล้างชนชาติ? หากมันไม่ใช่คำพูดไร้สาระ,แล้วเหล่าปราชย์เทพในโลกนี้เป็นของประดับอย่างงั้นรึ?
เทียนชูมีไว้เติมให้เต็มอย่างงั้นรึ? นางที่เป็นสตรีตัวเล็กๆกำลังกังวลอะไร?
แม้นว่าคำพูดของจงซานนั้นจะเต็มไปด้วยไหวพริบ,ทว่าเป่ยชิงซือย่อมสามารถมองเห็นปัญหาได้,หากไม่โง่ล่ะก็,จะต้องเข้าใจในทันที.
กับคำพูดและอธิบายทั้งหมดที่เป่ยชิงซือได้รับใบหน้าที่ขาวหิมะกลายเป็นสีแดง,ในเวลานี้นางพบแล้วว่า,นางโง่จริงๆ.
เป่ยชิงซือที่เห็นอธิบาย,นางก็ยิ่งเข้าใจได้มากขึ้นเรื่อยๆ.
"แน่นอน,คงไม่สามารถตำหนิเจ้าได้,สามคนกลายเป็นเสือ,หนำซ้ำเจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ยังกล่าวกรอกหูเจ้านับหมื่นครั้ง,อีกทั้งยังกล่าวว่าหลายร้อยปี,ปราชญ์เทพจะมาคาวะ,เจ้ายังเด็กนัก,เลยไม่เข้าใจ............!”
三人成虎 สามคนกลายเป็นเสือ เป็นสำนวนหมายถึง คนพูดมากๆ
จากข่าวลือกลายเป็นข่าวจริง
จงซานที่เห็นเป่ยชิงซือเข้าใจดีแล้ว,จึงได้เริ่มกล่าวล้อ.
”!”
จงซานที่จ้องมองเป่ยชิงซือที่กำลังอักอ่วนละอายใจ,จนนางขุ่นข้องใจ,และกัดจงซานเป็นรอย.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"จงซานเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
เป่ยชิงซือที่เห็นจงซานจงใจล้อนาง,ขณะที่นางเปลี่ยนเป็นผ่อนคลายและดีใจออกมา,ทันใดนั้นนางที่รู้สึกตกใจขึ้นมาในทันที.
"แย่แล้ว,แย่แน่เลย!"เป่ยชิงซือที่ลุกขึ้นนั่งในทันที,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล,ราวกับว่ากำลังจะร้องไห้อีกครั้ง.
"มีอะไร?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"ข้า,ข้า......!”เป่ยชิงซือที่กระวนกระวาย,จากนั้นก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง.
"กล่าวออกมาช้าๆ,มีเรื่องอะไร,มีข้าอยู่,ทุกอย่างต้องจัดการได้!"จงซานกล่าวออกมาเบาๆ.
"ข้า,ข้าเป็นคนโง่จริงๆ! "เป่ยชิงซือที่ราวกับว่าได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการร้องไห้ไปซะแล้ว.
"ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เจ้ารู้ตัวไปแล้วรึ?"
ได้ยินคำพูดของจงซานกล่าวล้อ,เป่ยชิงซือที่อาย,จากนั้นก็กลายเป็นร้อนรน,เดี๋ยวหัวเราะ,เดี๋ยวร้องไห้,ไม่รู้ว่ามีอารมณ์ใด,ขณะนี้นางแทบปรับอารมณ์ไม่ถูก.
"บอกซิ,ว่ามีปัญหาอะไร!"จงซานที่ขยับเข้าไปโอบกอด,พร้อมกับปลอบนางอีกครั้ง.
"ข้าได้ทำผิดสองสิ่ง,จากนี้ต้องทำอย่างไรดี?"เป่ยชิงซือเอ่ย.
"หืม? มีสิ่งใดที่ผิด?"
"ข้าได้กินเม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณ,พร้อมกับผูกดวงวิญญาณมอบให้กับเผ่าเต่าทมิฬ,ตอนนี้คิดจะกลับตัวก็ยากแล้ว!"เป่ยชิงซือที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย.
"ค่อยๆอธิบาย,เม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณ?
หมายความว่าอย่างไร?"
"เม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณ,หกเดือนหลังจากนี้,ดวงวิญญาณข้าจะหลุดออกจากร่าง,กายเนื้อของข้าก็จะแข็งตัว,แม้นว่าจะสามารถเก็บรักษากายเนื้อเอาไว้ได้,ทว่าดวงวิญญาณก็ไม่สามารถกลับร่างได้แล้ว,เจ้าก็เห็นศพทั้งแปดสิบนั่น,ข้าจะกลายเป็นเหมือนกับพวกนาง."เป่ยชิงซือกล่าว.
จงซานกวาดตามองไปยังศพทั้ง 80
,สายตาของเขาที่จ้องมองศพเหล่านั้น,พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาแน่น.
"เม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณมาจากที่ใด,มียาแก้หรือไม่?"จงซานที่สอบถามอย่างจริงจัง.
"ข้าไม่รู้ยาแก้,มันเป็นสูตรลับของเม็ดยาเผ่าจิง,บางที่ถึงพวกเขาจะมียาแก้,ทว่าเผ่าจริงเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมรับข้อเสนอ,จากนี้จะทำอย่างไรดี?"เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความเจ็บปวด,ราวกับว่าสวรรค์ได้ถล่มทลายไปแล้ว.
"มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"หืม?"เป่ยชิงซือตกใจเล็กน้อย.
ไม่ได้แย่อย่างงั้นรึ?เป็นไปไม่ได้?
กับเรื่องคอขาดบาดตาย,จงซานกลับบอกว่ายังไม่แย่อีกอย่างงั้นรึ?
"ถอยกลับพันก้าว,ถึงแม้นว่าจะถูกดึงวิญญาณออกจากร่าง,ขอเพียงเจ้ายังไม่เป็นไร,อย่างแย่ที่สุดก็บำเพ็ญวิชาภูติ,หรือจุติเกิดใหม่อีกครั้ง,นอกจากนี้ข้ายังไม่ไปที่เผ่าจริงเลย,เมื่อถึงเวลานั้นอาจจะหายาแก้ได้!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
เป่ยชิงซือ,"
...........!”
ได้ยินจงซานกล่าว,บางที่อาจจะไม่ใช่เรื่องแย่ที่สุดก็ได้,แล้วนางต้องการอะไร?เป่ยชิงซือไม่รู้จะเอ่ยอะไรเช่นกัน,เวลานี้คงได้แต่เชื่อใจจงซาน,การมีบุรุษที่ดีไว้เคียงข้าง,ถึงเจอปัญหาที่ยากจะแก้ไข,ก็ไม่ได้ทำให้นางต้องหมดหวัง.
"แล้วเรื่องผูกดวงวิญญาณหมายความว่าอย่างไร?"จงซานที่กล่าวสอบถามออกมาอีกครั้ง.
"เรื่องนี้?
บางที่อาจจะเป็นปัญหาก็เป็นได้."
"หืม?"
"วิธีนี้เป็นวิชาที่ท่านหญิงนวีหว๋าได้สร้างขึ้นในอดีต,ผูกดวงวิญญาณของเหล่าผู้ฝึกตนเอาไว้,หากผู้ฝึกตนตายไปด้านนอก,ขอเพียงแค่มีดวงวิญญาณ,สามารถผูกมันไว้กับหยกสัญญาณชีพ,เมื่อบดหยกสัญญาณชีพ,ก็จะสามารถดึงดวงวิญญาณเอาไว้กลับมายังสำนักได้,ทว่าหลายปีมานี้หยกผูกวิญญาณนี้กลับถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการบูชายันต์,ตอนนี้ข้าได้ถูกผูกมันเอาไว้แล้ว,หกเดือนหลังจากนี้,เมื่อดวงวิญญาณข้าออกจากร่าง,ตราบเท่าที่บดหยกผูกวิญญาณ,ดวงวิญญาณของข้าก็จะถูกดึงไปในทันที,ซึ่งหยกผูกวิญญาณนี้อยู่ในมือของจือจุ้นเผ่าเต่าทมิฬ,เซียนเทียนจงแล้ว!"ใบหน้าของเป่ยชิงซือที่กลายเป็นเคร่งขรึม.
"อยู่ในมือเซียนเทียนจงอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อืม,ห้องโถงบูชายันต์นั้น,อยู่ในตำหนักของเสาสวรรค์ทั้งสี่,อยู่ในแดนเทวะเผ่าเต่าทมิฬ,ดังนั้นนี้มันกลายเป็นประเพณี,ข้า,ข้า............!”เป่ยชิงซือที่ยากจะพูดออกมา,ที่นางโง่มาได้ตลอดหลายปี.
กับสิ่งที่เกิดขึ้นนางที่ถูกลวงหลอกด้วยคำว่าความเที่ยงธรรมสำหรับประชาชนทั่วหล้า,นางโง่จริงๆ,เป่ยชิงซือรู้สึกอับอายนัก.
ในเวลานี้,เป่ยชิงซือจ้องมองจงซานด้วยความหวัง,หวังว่าจงซานจะมีวิธี.
จงซานที่ขมวดคิ้วแน่น,ในระหว่างนี้,แววตาที่เผยความลังเลออกมาหลายครั้ง,จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายเคร่งขรึม,ราวกับว่าได้คำนวณเรื่องสำคัญขึ้นมาได้แล้ว.
เป่ยชิงซือที่รอคอยอย่างอดทน.
ขณะที่ครุ่นคิดแผนการต่างๆ,จงซานที่พ่นลมหายใจยาว,"โปรดวางใจ,ปล่อยเป็นหน้าที่ของข้าเอง!"
"แล้วต้องทำอย่างไร?"เป่ยชิงซือกล่าว.
"ในเมื่อเรื่องผูกดวงวิญญาณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้,เช่นนั้นก็ต้องเผชิญหน้าตรงๆ,ระหว่างนี้,ข้าจะเป็นต้องวางแผนบางอย่าง!"จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.
"แผนการ?"เป่ยชิงซือที่ขมวดคิ้วตื่นตระหนกเล็กน้อย.
"เจ้ารู้จักแดนขั้วโลกเหนือทั้งหมดดีหรือไม่?"จงซานสอบถาม.
"อืม,หลายร้อยปีมานี้,ข้าได้ตะเวณไปรอบๆดินแดนขั้วโลกเหนือ."เป่ยชิงซือพยักหน้ารับ.
"จากนี้,พวกเราจะแยกเป็นสองกลุ่ม,สร้างเรื่องใหญ่โตขึ้นในดินแดนขั้วโลกเหนือแห่งนี้!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"อืม!"
แม้นว่าเป่ยชิงซือจะไม่รู้ว่าจงซานมีแผนอันใด,ทว่านางก็พยักหน้าอย่างมีความสุข.
จากนั้น,จงซานและเป่ยชิงซือที่พูดคุยกันตลอดสองวันสองคืน.
ระหว่างสองวันนี้เป่ยชิงซือที่บอกเล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างภายในดินแดนขั้วโลกเหนือ,ส่วนจงซานนั้นบอกเล่าแผนการที่อหังการภายในใจแจ้งต่อเป่ยชิงซือ.
แม้นว่าเป่ยชิงซือเต็มไปด้วยความประหลาดใจ,ทว่าก็มากด้วยความตื่นเต้น,จากนั้นก็พยักหน้ารับในทันที.
---------------------
ที่ด้านนอกตำหนักปุถุชน.
เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่เฝ้ามองอยู่ด้านนอกไม่ไปใหน,นางที่พากลุ่มยอดฝีมือล้อมรอบตำหนักปุถุชนเอาไว้.
ตอนนี้เป่ยชิงซือที่อาศัยอยู่ในตำหนักปุถุชนในเวลานี้,สถานะของนางที่เทียบได้กลับเจ้าตำหนักจึงไม่มีใครที่กล้าท้าทายนาง,นอกจากนี้เป่ยชิงซือยังยินยอมนำตัวเองไป
เหล่าเสนาธิการต้าเจิ้งที่กวาดตามองฝ่ายตรงข้ามเฝ้าระวังเอาไว้,เสี่ยวเหม่ย,เสี่ยวหลิงที่ซ่อนอยู่ด้านหลังพวกเขา.
"ครืดดด!”
The gate of main hall opens loudly.
ประตูตำหนักที่เปิดออกมาเสียงดัง.
ทันทีที่ประตูเปิดออก,จิตใจของทุกคนที่สั่นไหวจับจ้องมองไปเป็นสายตาเดียวกัน.
"เป่ยชิงซือ,เจ้าต้องการทำอะไร,คิดจะทำให้ตำหนักปุถุชนเสื่อมเสียอย่างงั้นรึ?"เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่คำรามออกมาด้วยความโกรธ.
จงซานที่นำเป่ยชิงซือออกมาช้าๆ.
ในเวลานี้,เป่ยชิงซือที่ไม่ดูท่าทางคร่ำครวญเต็มไปด้วยความทุกข์อีกแล้ว,นางที่เปลี่ยนเป็นสุขุม.
"เจ้าตำหนัก,ตอนนี้ข้าเป็นเจ้าของตำหนักปุถุชนไปแล้ว,ทุกอย่างในตำหนักปุถุชน,ท่านไม่สามารถที่จะตัดสินใจแทนข้าได้!"เป่ยชิงซือเอ่ยออกมาเบาๆ.
"หืม?"เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่ขมวดคิ้วไปมา,เพราะว่านางพบว่าเป่ยชิงซือที่ราวกับว่าเปลี่ยนเป็นคนละคน.
"เจ้าวิหารปุถุชน?
จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์,ในวันข้างหน้าจะต้องถูกนำไปบูชายันต์เพื่อคนทั่วหล้า!"เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"ถูกส่งไปบูชายันต์อย่างงั้นรึ?
ข้าเคยกล่าวรึว่าจะไม่ไปรึ?"
เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์".................!”
ในเวลานี้เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่พบกว่าเป่ยชิงซือที่พูดจาคมคายขึ้น.
"เจ้าตำหนักโปรดกลับไป,ตอนนี้ข้าคือเจ้าวิหารปุถุชน,ท่านเตรียมศิษย์พี่กลับไปยังตำหนักสวรรค์ที่พังทลายได้,คิดจะทำลายธรรมเนียมของตำหนักเทพเหมันตร์อย่างงั้นรึ?"เป่ยชิงซือที่กล่าวอย่างชอบธรรม.
"เจ้า!"เจ้าตำหนักที่พูดไม่ออก,ทำลายธรรมเนียมอย่างงั้นรึ?
นางเป็นเจ้าตำหนักที่เร่งคัดจะทำลายธรรมเนียมปฏิบัติได้อย่างไร?
"ดวงวิญญาณของข้าถูกเซียนเทียนจงผูกเอาไว้,และข้ายังได้กินเม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณไป,ท่านยังต้องกังวลอะไรอีก?"เป่ยชิงซือเอ่ย.
เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ใบหน้ากระตุก,เพราะว่านางพบว่าเป่ยชิงซือเวลานี้ได้หลุดจากการควบคุมของนางไปแล้ว,เวลานี้นางจากที่จะทำอะไรได้,ขณะที่นางจ้องมองจงซานด้วยความขมขื่น,ก่อนที่จะสะบัดแขวนเสื้อ,พร้อมกับหันหลังกลับบินจากไป.
เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่จากไปแล้ว,เหล่าศิษย์ของตำหนักเทพเหมันตร์ที่จ้องมองหน้ากันและกัน,ก่อนที่จะจากไปเช่นกัน.
"เสนาธิการต้าเจิ้งคารวะฮวงโหว!"ในเวลานี้เสนาธิการทุกคนที่แสดงความเคารพออกมา.
"อืม!"เป่ยชิงซือที่พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม.
"เจ้าตำหนักน้อย,ท่านยิ้มแล้ว,นานแค่ใหนกันที่ไม่ได้เห็นท่านยิ้ม!"เสี่ยวเหม่ยที่เอ่ยปากออกมาด้วยความประหลาดใจและยินดี.
"ใช่,เจ้าตำหนักน้อย,รอยยิ้มของท่านช่างงดงามนัก!"เสี่ยวหลิงที่เอ่ยปากออกมาทันทีเช่นกัน.
"เด็กทั้งสองคนนี่!"เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,ปมในหัวใจมันได้คลายแล้ว,ทำให้นางอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก.
"เสี่ยวเหม่ย?
เสี่ยวหลิง?"จงซานที่จ้องมองไปยังคนทั้งสอง.
"สามีเจ้าตำหนักน้อย!"สตรีทั้งสองที่แสดงความเคารพออกมา.
"ไม่ต้องมีพิธีรีตองหรอก,ครั้งนี้,ต้องขอบใจเจ้ามาก!"จงซานทีกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่มีอะไรเลย,ก่อนหน้านี้,เจ้าตำหนักน้อยดีกับพวกเรามาก,แน่นอนว่าพวกเราย่อมไม่ต้องการที่จะเห็นเจ้าตำหนักน้อยต้องตายไป!"เสี่ยวเหม่ยที่กล่าวออกมาในทันที.
"จงซานพยักหน้ารับ.
"ปกป้องพวกนางด้วย,หวนจี,หนานกงเซิ่ง,กุยเสอ,เซียนเซิงจินหง,ตามพวกเรามา,คนอื่นๆปกป้องรอบๆตำหนักปุถุชนให้ดี!"จงซานกล่าว.
"รับทราบ!"เหล่าเสนาธิการทุกคนที่รับคำสั่งในทันที.
"ครืดๆ!"ประตูตำหนักที่ปิดเสียงดัง.
หวนจีที่ตรงมายังกลางห้องโถง,พุ่งตรงไปยังสระแก่นปิศาจ,ส่วนคนอื่นๆที่จ้องมองภายในห้องโถงด้วยความประหลาดใจ.
แม้นว่าจะแตกต่างจากสระอสูรทว่าด้านในนั้นมีศพอยู่มากมายสร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก,พวกเขาไม่ได้กล่าวสิ่งใด,เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าการที่เซิ่งหวังเรียกพวกเขาเข้ามา,ย่อมต้องมีเรื่องสำคัญอย่างแน่นอน.
"ต้นกำเนิดปิศาจ? มีตั้ง 18 อันเลยรึ?
นี่มัน,นี่..................!”หวนจีที่เอ่ยออกมาด้วยความดีใจและประหลาดใจ.
จงซานและเสนาธิการคนอื่นๆที่มาอยู่ที่ขอบสระจ้องมองไปยังหวนจี.
เป่ยชิงซือที่จ้องมองหวนจีด้วยความสงสัย,เพราะว่ามีเพียงนางเท่านั้นที่ถูกรัดพันด้วยชุดสีดำทั่วร่าง,ทำไมนางถึงต้องสวมชุดดำปกปิดทั้งหมดเช่นนี้ด้วย?
ไม่ใช่ว่าหวนจีไม่ต้องการถอดชุดดำออก,ทว่าหากไม่รัดพันด้วยชุดดำ,ยกเว้นจงซาน,จะไม่มีใครมองเห็นนางได้แม้แต่คนเดียว.
"เจ้าเห็นสระแก่นปิศาจแล้ว,เจ้าต้องการทำอะไร?"จงซานที่สอบถามออกไปด้วยรอยยิ้ม.
คนอื่นๆต่างก็จ้องมองหวนจีด้วยความประหลาดใจ,เซิ่งหวังหมายความว่าอย่างไร?
หวนจีต้องการทำอะไร?
"กินมัน!"หวนจีที่กล่าวออกมาตามตรง.
เป่ยชิงซือ"............!”
หนานกงเซิ่ง"............!”
จื่อหยางจิงหง"............!”
........................
............
......
Chapter 1260 Ate it
把它吃了
กินมัน.
ภายใต้การอธิบายยกตัวอย่างของจงซาน,มันได้ค่อยๆทำลายโซ่ตรวนที่ผนึกความคิดของเป่ยชิงซือช้าๆ.
กับคำพูดที่เอ่ยอ้างเพื่อประชาชนทั่วหล้า,จากคำอธิบายของจงซาน,มันกลับกลายเป็นคำพูดโคมรอยที่ไร้ซึ่งหลักฐาน,โลกปิศาจสวรรค์จะเข้ามาในโลกใบใหญ่ได้ง่ายๆเลยอย่างงั้นรึ?
กับวิกฤติของปิศาจสวรรค์!ต้าเจิ้งพร้อมที่จะทำสงครามด้วย,แล้วยอดฝีมือทั่วหล้าล่ะ?
กับสถานการณ์ที่จะกลายเป็นย่ำแย่,ทั่วหล้าไม่ใช่ว่าต้องวุ่นวายอย่างงั้นรึ?
หากแต่ในเวลานี้กลับไม่มีที่ใดกำลังวุ่นวายบ้าคลั่งเลย?
คนทั่วโลกใบใหญ่ที่จะต้องตกตายแต่กลับไม่มีใครให้ความสนใจเลย,ไม่ใช่ว่านี่เป็นแค่คำพูดลวงหลอกของปิศาจสวรรค์รึอย่างไร?
สังหารคนทุกคน? ทำลายล้างชนชาติ? หากมันไม่ใช่คำพูดไร้สาระ,แล้วเหล่าปราชย์เทพในโลกนี้เป็นของประดับอย่างงั้นรึ?
เทียนชูมีไว้เติมให้เต็มอย่างงั้นรึ? นางที่เป็นสตรีตัวเล็กๆกำลังกังวลอะไร?
แม้นว่าคำพูดของจงซานนั้นจะเต็มไปด้วยไหวพริบ,ทว่าเป่ยชิงซือย่อมสามารถมองเห็นปัญหาได้,หากไม่โง่ล่ะก็,จะต้องเข้าใจในทันที.
กับคำพูดและอธิบายทั้งหมดที่เป่ยชิงซือได้รับใบหน้าที่ขาวหิมะกลายเป็นสีแดง,ในเวลานี้นางพบแล้วว่า,นางโง่จริงๆ.
เป่ยชิงซือที่เห็นอธิบาย,นางก็ยิ่งเข้าใจได้มากขึ้นเรื่อยๆ.
"แน่นอน,คงไม่สามารถตำหนิเจ้าได้,สามคนกลายเป็นเสือ,หนำซ้ำเจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ยังกล่าวกรอกหูเจ้านับหมื่นครั้ง,อีกทั้งยังกล่าวว่าหลายร้อยปี,ปราชญ์เทพจะมาคาวะ,เจ้ายังเด็กนัก,เลยไม่เข้าใจ............!”
三人成虎 สามคนกลายเป็นเสือ เป็นสำนวนหมายถึง คนพูดมากๆ
จากข่าวลือกลายเป็นข่าวจริง
จงซานที่เห็นเป่ยชิงซือเข้าใจดีแล้ว,จึงได้เริ่มกล่าวล้อ.
”!”
จงซานที่จ้องมองเป่ยชิงซือที่กำลังอักอ่วนละอายใจ,จนนางขุ่นข้องใจ,และกัดจงซานเป็นรอย.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"จงซานเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
เป่ยชิงซือที่เห็นจงซานจงใจล้อนาง,ขณะที่นางเปลี่ยนเป็นผ่อนคลายและดีใจออกมา,ทันใดนั้นนางที่รู้สึกตกใจขึ้นมาในทันที.
"แย่แล้ว,แย่แน่เลย!"เป่ยชิงซือที่ลุกขึ้นนั่งในทันที,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล,ราวกับว่ากำลังจะร้องไห้อีกครั้ง.
"มีอะไร?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"ข้า,ข้า......!”เป่ยชิงซือที่กระวนกระวาย,จากนั้นก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง.
"กล่าวออกมาช้าๆ,มีเรื่องอะไร,มีข้าอยู่,ทุกอย่างต้องจัดการได้!"จงซานกล่าวออกมาเบาๆ.
"ข้า,ข้าเป็นคนโง่จริงๆ! "เป่ยชิงซือที่ราวกับว่าได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการร้องไห้ไปซะแล้ว.
"ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เจ้ารู้ตัวไปแล้วรึ?"
ได้ยินคำพูดของจงซานกล่าวล้อ,เป่ยชิงซือที่อาย,จากนั้นก็กลายเป็นร้อนรน,เดี๋ยวหัวเราะ,เดี๋ยวร้องไห้,ไม่รู้ว่ามีอารมณ์ใด,ขณะนี้นางแทบปรับอารมณ์ไม่ถูก.
"บอกซิ,ว่ามีปัญหาอะไร!"จงซานที่ขยับเข้าไปโอบกอด,พร้อมกับปลอบนางอีกครั้ง.
"ข้าได้ทำผิดสองสิ่ง,จากนี้ต้องทำอย่างไรดี?"เป่ยชิงซือเอ่ย.
"หืม? มีสิ่งใดที่ผิด?"
"ข้าได้กินเม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณ,พร้อมกับผูกดวงวิญญาณมอบให้กับเผ่าเต่าทมิฬ,ตอนนี้คิดจะกลับตัวก็ยากแล้ว!"เป่ยชิงซือที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย.
"ค่อยๆอธิบาย,เม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณ?
หมายความว่าอย่างไร?"
"เม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณ,หกเดือนหลังจากนี้,ดวงวิญญาณข้าจะหลุดออกจากร่าง,กายเนื้อของข้าก็จะแข็งตัว,แม้นว่าจะสามารถเก็บรักษากายเนื้อเอาไว้ได้,ทว่าดวงวิญญาณก็ไม่สามารถกลับร่างได้แล้ว,เจ้าก็เห็นศพทั้งแปดสิบนั่น,ข้าจะกลายเป็นเหมือนกับพวกนาง."เป่ยชิงซือกล่าว.
จงซานกวาดตามองไปยังศพทั้ง 80
,สายตาของเขาที่จ้องมองศพเหล่านั้น,พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาแน่น.
"เม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณมาจากที่ใด,มียาแก้หรือไม่?"จงซานที่สอบถามอย่างจริงจัง.
"ข้าไม่รู้ยาแก้,มันเป็นสูตรลับของเม็ดยาเผ่าจิง,บางที่ถึงพวกเขาจะมียาแก้,ทว่าเผ่าจริงเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมรับข้อเสนอ,จากนี้จะทำอย่างไรดี?"เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความเจ็บปวด,ราวกับว่าสวรรค์ได้ถล่มทลายไปแล้ว.
"มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"หืม?"เป่ยชิงซือตกใจเล็กน้อย.
ไม่ได้แย่อย่างงั้นรึ?เป็นไปไม่ได้?
กับเรื่องคอขาดบาดตาย,จงซานกลับบอกว่ายังไม่แย่อีกอย่างงั้นรึ?
"ถอยกลับพันก้าว,ถึงแม้นว่าจะถูกดึงวิญญาณออกจากร่าง,ขอเพียงเจ้ายังไม่เป็นไร,อย่างแย่ที่สุดก็บำเพ็ญวิชาภูติ,หรือจุติเกิดใหม่อีกครั้ง,นอกจากนี้ข้ายังไม่ไปที่เผ่าจริงเลย,เมื่อถึงเวลานั้นอาจจะหายาแก้ได้!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
เป่ยชิงซือ,"
...........!”
ได้ยินจงซานกล่าว,บางที่อาจจะไม่ใช่เรื่องแย่ที่สุดก็ได้,แล้วนางต้องการอะไร?เป่ยชิงซือไม่รู้จะเอ่ยอะไรเช่นกัน,เวลานี้คงได้แต่เชื่อใจจงซาน,การมีบุรุษที่ดีไว้เคียงข้าง,ถึงเจอปัญหาที่ยากจะแก้ไข,ก็ไม่ได้ทำให้นางต้องหมดหวัง.
"แล้วเรื่องผูกดวงวิญญาณหมายความว่าอย่างไร?"จงซานที่กล่าวสอบถามออกมาอีกครั้ง.
"เรื่องนี้?
บางที่อาจจะเป็นปัญหาก็เป็นได้."
"หืม?"
"วิธีนี้เป็นวิชาที่ท่านหญิงนวีหว๋าได้สร้างขึ้นในอดีต,ผูกดวงวิญญาณของเหล่าผู้ฝึกตนเอาไว้,หากผู้ฝึกตนตายไปด้านนอก,ขอเพียงแค่มีดวงวิญญาณ,สามารถผูกมันไว้กับหยกสัญญาณชีพ,เมื่อบดหยกสัญญาณชีพ,ก็จะสามารถดึงดวงวิญญาณเอาไว้กลับมายังสำนักได้,ทว่าหลายปีมานี้หยกผูกวิญญาณนี้กลับถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการบูชายันต์,ตอนนี้ข้าได้ถูกผูกมันเอาไว้แล้ว,หกเดือนหลังจากนี้,เมื่อดวงวิญญาณข้าออกจากร่าง,ตราบเท่าที่บดหยกผูกวิญญาณ,ดวงวิญญาณของข้าก็จะถูกดึงไปในทันที,ซึ่งหยกผูกวิญญาณนี้อยู่ในมือของจือจุ้นเผ่าเต่าทมิฬ,เซียนเทียนจงแล้ว!"ใบหน้าของเป่ยชิงซือที่กลายเป็นเคร่งขรึม.
"อยู่ในมือเซียนเทียนจงอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อืม,ห้องโถงบูชายันต์นั้น,อยู่ในตำหนักของเสาสวรรค์ทั้งสี่,อยู่ในแดนเทวะเผ่าเต่าทมิฬ,ดังนั้นนี้มันกลายเป็นประเพณี,ข้า,ข้า............!”เป่ยชิงซือที่ยากจะพูดออกมา,ที่นางโง่มาได้ตลอดหลายปี.
กับสิ่งที่เกิดขึ้นนางที่ถูกลวงหลอกด้วยคำว่าความเที่ยงธรรมสำหรับประชาชนทั่วหล้า,นางโง่จริงๆ,เป่ยชิงซือรู้สึกอับอายนัก.
ในเวลานี้,เป่ยชิงซือจ้องมองจงซานด้วยความหวัง,หวังว่าจงซานจะมีวิธี.
จงซานที่ขมวดคิ้วแน่น,ในระหว่างนี้,แววตาที่เผยความลังเลออกมาหลายครั้ง,จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายเคร่งขรึม,ราวกับว่าได้คำนวณเรื่องสำคัญขึ้นมาได้แล้ว.
เป่ยชิงซือที่รอคอยอย่างอดทน.
ขณะที่ครุ่นคิดแผนการต่างๆ,จงซานที่พ่นลมหายใจยาว,"โปรดวางใจ,ปล่อยเป็นหน้าที่ของข้าเอง!"
"แล้วต้องทำอย่างไร?"เป่ยชิงซือกล่าว.
"ในเมื่อเรื่องผูกดวงวิญญาณไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้,เช่นนั้นก็ต้องเผชิญหน้าตรงๆ,ระหว่างนี้,ข้าจะเป็นต้องวางแผนบางอย่าง!"จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.
"แผนการ?"เป่ยชิงซือที่ขมวดคิ้วตื่นตระหนกเล็กน้อย.
"เจ้ารู้จักแดนขั้วโลกเหนือทั้งหมดดีหรือไม่?"จงซานสอบถาม.
"อืม,หลายร้อยปีมานี้,ข้าได้ตะเวณไปรอบๆดินแดนขั้วโลกเหนือ."เป่ยชิงซือพยักหน้ารับ.
"จากนี้,พวกเราจะแยกเป็นสองกลุ่ม,สร้างเรื่องใหญ่โตขึ้นในดินแดนขั้วโลกเหนือแห่งนี้!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"อืม!"
แม้นว่าเป่ยชิงซือจะไม่รู้ว่าจงซานมีแผนอันใด,ทว่านางก็พยักหน้าอย่างมีความสุข.
จากนั้น,จงซานและเป่ยชิงซือที่พูดคุยกันตลอดสองวันสองคืน.
ระหว่างสองวันนี้เป่ยชิงซือที่บอกเล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างภายในดินแดนขั้วโลกเหนือ,ส่วนจงซานนั้นบอกเล่าแผนการที่อหังการภายในใจแจ้งต่อเป่ยชิงซือ.
แม้นว่าเป่ยชิงซือเต็มไปด้วยความประหลาดใจ,ทว่าก็มากด้วยความตื่นเต้น,จากนั้นก็พยักหน้ารับในทันที.
---------------------
ที่ด้านนอกตำหนักปุถุชน.
เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่เฝ้ามองอยู่ด้านนอกไม่ไปใหน,นางที่พากลุ่มยอดฝีมือล้อมรอบตำหนักปุถุชนเอาไว้.
ตอนนี้เป่ยชิงซือที่อาศัยอยู่ในตำหนักปุถุชนในเวลานี้,สถานะของนางที่เทียบได้กลับเจ้าตำหนักจึงไม่มีใครที่กล้าท้าทายนาง,นอกจากนี้เป่ยชิงซือยังยินยอมนำตัวเองไป
เหล่าเสนาธิการต้าเจิ้งที่กวาดตามองฝ่ายตรงข้ามเฝ้าระวังเอาไว้,เสี่ยวเหม่ย,เสี่ยวหลิงที่ซ่อนอยู่ด้านหลังพวกเขา.
"ครืดดด!”
The gate of main hall opens loudly.
ประตูตำหนักที่เปิดออกมาเสียงดัง.
ทันทีที่ประตูเปิดออก,จิตใจของทุกคนที่สั่นไหวจับจ้องมองไปเป็นสายตาเดียวกัน.
"เป่ยชิงซือ,เจ้าต้องการทำอะไร,คิดจะทำให้ตำหนักปุถุชนเสื่อมเสียอย่างงั้นรึ?"เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่คำรามออกมาด้วยความโกรธ.
จงซานที่นำเป่ยชิงซือออกมาช้าๆ.
ในเวลานี้,เป่ยชิงซือที่ไม่ดูท่าทางคร่ำครวญเต็มไปด้วยความทุกข์อีกแล้ว,นางที่เปลี่ยนเป็นสุขุม.
"เจ้าตำหนัก,ตอนนี้ข้าเป็นเจ้าของตำหนักปุถุชนไปแล้ว,ทุกอย่างในตำหนักปุถุชน,ท่านไม่สามารถที่จะตัดสินใจแทนข้าได้!"เป่ยชิงซือเอ่ยออกมาเบาๆ.
"หืม?"เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่ขมวดคิ้วไปมา,เพราะว่านางพบว่าเป่ยชิงซือที่ราวกับว่าเปลี่ยนเป็นคนละคน.
"เจ้าวิหารปุถุชน?
จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์,ในวันข้างหน้าจะต้องถูกนำไปบูชายันต์เพื่อคนทั่วหล้า!"เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"ถูกส่งไปบูชายันต์อย่างงั้นรึ?
ข้าเคยกล่าวรึว่าจะไม่ไปรึ?"
เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์".................!”
ในเวลานี้เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่พบกว่าเป่ยชิงซือที่พูดจาคมคายขึ้น.
"เจ้าตำหนักโปรดกลับไป,ตอนนี้ข้าคือเจ้าวิหารปุถุชน,ท่านเตรียมศิษย์พี่กลับไปยังตำหนักสวรรค์ที่พังทลายได้,คิดจะทำลายธรรมเนียมของตำหนักเทพเหมันตร์อย่างงั้นรึ?"เป่ยชิงซือที่กล่าวอย่างชอบธรรม.
"เจ้า!"เจ้าตำหนักที่พูดไม่ออก,ทำลายธรรมเนียมอย่างงั้นรึ?
นางเป็นเจ้าตำหนักที่เร่งคัดจะทำลายธรรมเนียมปฏิบัติได้อย่างไร?
"ดวงวิญญาณของข้าถูกเซียนเทียนจงผูกเอาไว้,และข้ายังได้กินเม็ดยาเทวะสกัดวิญญาณไป,ท่านยังต้องกังวลอะไรอีก?"เป่ยชิงซือเอ่ย.
เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ใบหน้ากระตุก,เพราะว่านางพบว่าเป่ยชิงซือเวลานี้ได้หลุดจากการควบคุมของนางไปแล้ว,เวลานี้นางจากที่จะทำอะไรได้,ขณะที่นางจ้องมองจงซานด้วยความขมขื่น,ก่อนที่จะสะบัดแขวนเสื้อ,พร้อมกับหันหลังกลับบินจากไป.
เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่จากไปแล้ว,เหล่าศิษย์ของตำหนักเทพเหมันตร์ที่จ้องมองหน้ากันและกัน,ก่อนที่จะจากไปเช่นกัน.
"เสนาธิการต้าเจิ้งคารวะฮวงโหว!"ในเวลานี้เสนาธิการทุกคนที่แสดงความเคารพออกมา.
"อืม!"เป่ยชิงซือที่พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม.
"เจ้าตำหนักน้อย,ท่านยิ้มแล้ว,นานแค่ใหนกันที่ไม่ได้เห็นท่านยิ้ม!"เสี่ยวเหม่ยที่เอ่ยปากออกมาด้วยความประหลาดใจและยินดี.
"ใช่,เจ้าตำหนักน้อย,รอยยิ้มของท่านช่างงดงามนัก!"เสี่ยวหลิงที่เอ่ยปากออกมาทันทีเช่นกัน.
"เด็กทั้งสองคนนี่!"เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,ปมในหัวใจมันได้คลายแล้ว,ทำให้นางอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก.
"เสี่ยวเหม่ย?
เสี่ยวหลิง?"จงซานที่จ้องมองไปยังคนทั้งสอง.
"สามีเจ้าตำหนักน้อย!"สตรีทั้งสองที่แสดงความเคารพออกมา.
"ไม่ต้องมีพิธีรีตองหรอก,ครั้งนี้,ต้องขอบใจเจ้ามาก!"จงซานทีกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่มีอะไรเลย,ก่อนหน้านี้,เจ้าตำหนักน้อยดีกับพวกเรามาก,แน่นอนว่าพวกเราย่อมไม่ต้องการที่จะเห็นเจ้าตำหนักน้อยต้องตายไป!"เสี่ยวเหม่ยที่กล่าวออกมาในทันที.
"จงซานพยักหน้ารับ.
"ปกป้องพวกนางด้วย,หวนจี,หนานกงเซิ่ง,กุยเสอ,เซียนเซิงจินหง,ตามพวกเรามา,คนอื่นๆปกป้องรอบๆตำหนักปุถุชนให้ดี!"จงซานกล่าว.
"รับทราบ!"เหล่าเสนาธิการทุกคนที่รับคำสั่งในทันที.
"ครืดๆ!"ประตูตำหนักที่ปิดเสียงดัง.
หวนจีที่ตรงมายังกลางห้องโถง,พุ่งตรงไปยังสระแก่นปิศาจ,ส่วนคนอื่นๆที่จ้องมองภายในห้องโถงด้วยความประหลาดใจ.
แม้นว่าจะแตกต่างจากสระอสูรทว่าด้านในนั้นมีศพอยู่มากมายสร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก,พวกเขาไม่ได้กล่าวสิ่งใด,เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าการที่เซิ่งหวังเรียกพวกเขาเข้ามา,ย่อมต้องมีเรื่องสำคัญอย่างแน่นอน.
"ต้นกำเนิดปิศาจ? มีตั้ง 18 อันเลยรึ?
นี่มัน,นี่..................!”หวนจีที่เอ่ยออกมาด้วยความดีใจและประหลาดใจ.
จงซานและเสนาธิการคนอื่นๆที่มาอยู่ที่ขอบสระจ้องมองไปยังหวนจี.
เป่ยชิงซือที่จ้องมองหวนจีด้วยความสงสัย,เพราะว่ามีเพียงนางเท่านั้นที่ถูกรัดพันด้วยชุดสีดำทั่วร่าง,ทำไมนางถึงต้องสวมชุดดำปกปิดทั้งหมดเช่นนี้ด้วย?
ไม่ใช่ว่าหวนจีไม่ต้องการถอดชุดดำออก,ทว่าหากไม่รัดพันด้วยชุดดำ,ยกเว้นจงซาน,จะไม่มีใครมองเห็นนางได้แม้แต่คนเดียว.
"เจ้าเห็นสระแก่นปิศาจแล้ว,เจ้าต้องการทำอะไร?"จงซานที่สอบถามออกไปด้วยรอยยิ้ม.
คนอื่นๆต่างก็จ้องมองหวนจีด้วยความประหลาดใจ,เซิ่งหวังหมายความว่าอย่างไร?
หวนจีต้องการทำอะไร?
"กินมัน!"หวนจีที่กล่าวออกมาตามตรง.
เป่ยชิงซือ"............!”
หนานกงเซิ่ง"............!”
จื่อหยางจิงหง"............!”
........................
............
......
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น