Immortality Chapter 1259 Silly little girl
Chapter 1259 Silly little girl
傻妞
สาวโง่.
"ประชาชนทั่วหล้าอย่างงั้นรึ? เป็นประชาชนทั่วหล้าเลือกเจ้าอย่างงั้นรึ? ทุกคนจะประสบสถานการณ์เลวร้ายอย่างงั้นรึ?
เจ้ากำลังกังวลอะไร?"จงซานที่กล่าวทั้งโกรธและสงสาร.
"ข้า!"เป่ยชิงซือที่สะอึกไม่รู้จะกล่าวสิ่งใดออกมาดี,คำพูดของนางในเวลานี้,มันจุกแน่นที่ลำคอ,จงซานที่ไม่ทำให้นางรู้สึกแย่,แต่ได้ทำให้หัวใจที่หนาวเย็นของนางอบอุ่นขึ้น.
จิตใจที่หนักอึ้งเต็มไปด้วยภาระนั้น,ด้วยคำพูดไม่กี่คำของจงซานทำให้นางผ่อนคลายลง.
เป็นประชาชนทั่วหล้าเลือกเจ้าอย่างงั้นรึ? ด้วยคำพูดดังกล่าวนี้,ทำให้เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์โกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันที.
"จงซานเจ้าพูดอะไร?
เจ้าไม่เห็นประชาชนทั่วหล้าอยู่ในสายตาเจ้าเลยรึ?
เจ้าต้องการเห็นโลกปิศาจสวรรค์เข้ามาในโลกใบใหญ่,เจ้า............!”เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
"หนวกหู!"จงซานแค่นเสียงเย็นชา.
เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์,"
@#¥%...... &\;!”
เป่ยชิงซือที่อยู่ข้างๆที่กัดริมฝีปากแน่น,ส่ายหน้าไปมา,"ข้ารู้,ถึงจะไม่มีใครเห็น,หากแต่ชีวิตของคนทั่วหล้า,หลายล้านลาน,ข้าไม่สามารถมองข้าม............!”
จงซานที่เห็นท่าทีของเป่ยชิงซือที่ดูหนักแน่น,พร้อมกับทอดถอนหายใจเบาๆ,"เจ้าไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลย,โลกปิศาจสวรรค์อย่างงั้นรึ?
แม้แต่ปราชญ์เทพยังไม่ร้อนใจอะไร,แต่กลับเป็นเจ้าที่กำลังรำพึงคิดถึงมัน!"
"ข้า,ข้า,ข้า! "เป่ยชิงซือกล่าวข้าถึงสามครั้ง,แต่กลับไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้.
"จงซาน,เจ้ากำลังล่อลวงชิงซือ?
นางกล่าวถูกแล้ว,ใครบอกว่าปราชญ์เทพไม่รู้?
นางกำลังช่วยชีวิตคนทั่วหล้า,ทุกคนจะจดจำนาง,เจ้าต้องการเป็นคนเห็นแก่ตัว,เจ้ามันชั่วร้าย."เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่รู้สึกไม่ดีกำลังพลั่งพรูเอ่ยปากมากมาย.
ทว่าจงซานหาได้สนใจนางแต่อย่างใด,เขาที่เข้าไปใกล้ๆพร้อมกับกุมมือของเป่ยชิงซือเอาไว้.
เป่ยชิงซือที่ถูกจงซานกุมมือเอาไว้,นางที่ขัดขืนเล็กน้อย,ทว่าจงซานที่กุมมือนางแน่น,เขาจะปล่อยนางหนีไปได้อย่างไร?
"ไปเถอะ,พวกเราไปหาสถานที่เงียบๆ,ที่นี่วุ่นวายเกินไป!"จงซานที่กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน.
"อืม!"เป่ยชิงซือพยักหน้ารับ.
ทว่าเจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่ลมออกหู,หนวกหูอะไร?
ใครหนวกหูกัน?
เสี่ยวเหม่ยและเสี่ยวหลิงในเวลานี้เผยท่าทางมีความสุขออกมา,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังจงซาน,ด้วยความนับถือ,คนผู้นี้แข็งแกร่งมาก,เป็นคนที่ทรงพลังอหังการ,เขาที่สามารถที่จะช่วยเจ้าตำหนักน้อยได้.
"เจ้าตำหนักน้อย,ตำหนักเดิมของท่านพังทลายไปแล้ว,ทว่าตำหนักปุถุชนนั้นยังสมบูรณ์,ท่านไปที่นั่นเถอะ!"เสี่ยวเหม่ยเอ่ยเสนอความเห็นในทันที.
ตำหนักปุถุชน?
จงซานที่จ้องมองตามนิ้วของเสี่ยวเหม่ย,ซึ่งเป็นตำหนักที่เป่ยชิงซือออกมาก่อนหน้านี้.
เป่ยชิงซือและจงซานที่บินออกไปช้าๆ,ในเวลานี้,เป่ยชิงซือไม่ขัดขืนอีกต่อไป,หลังจาที่จงซานรู้ทุกอย่างแล้ว,นางรู้สึกราวกับว่ามีเสาหลักให้นางพักพิง,ท้องฟ้าที่มืดมัวก่อนหน้านี้ได้สลายหายไป.
เสี่ยวเหม่ยและเสี่ยวหลิงที่บินตามไปในทันที,สองสาวใช้ที่รู้ตัวว่าตัวเองได้ล่วงเกินเจ้าตำหนักแล้ว,ดังนั้นจึงไม่กล้าอยู่,ส่วนเสนาธิการต้าเจิ้งเองก็บินตามไปด้วยเช่นกัน.
"เป่ยชิงซือ,เจ้าควรรู้ว่านั่นคือที่ใหน,อย่าได้ทำให้ตำหนักปุถุชนเสื่อมเสีย!"เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือพร้อมกับเผยความโกรธเกรี้ยวออกมา.
ด้วยเหตุนั้น,ถึงกับทำให้เป่ยชิงซือสั่นสะท้านเล็กน้อย,ราวกับรู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้ง.
จงซานที่ยกมือขึ้นโอบด้านหลังนางเพื่อปลอบนาง.
”!”
จงซานที่นำเป่ยชิงซือเข้าไปในห้องโถง,ประตูตำหนักที่ปิดลงเสียงดัง.
เหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้งที่รอคอยอยู่ด้านนอกตำหนัก,ด้วยกลุ่มของเซียนบรรพชนคุ้มกันอยู่,ใครจะกล้าบุกเข้ามา?"
ต้าเจิ้งในเวลานี้ไม่คิดที่จะออมชอมอีกต่อไป,ต้าเจิ้งที่กลายเป็นตัวตนที่แข็งแกร่ง,สำหรับตำหนักเทพเหมันตร์
หนึ่งในสามของกลุ่มอิทธิพลของขั้วโลกเหนืออย่างงั้นรึ? แล้วอย่างไร?
เต้าเจิ้งยังไม่ได้ส่งยอดฝีมือทั้งหมดมาด้วยซ้ำ,คิดว่าจะต้านได้อย่างงั้นรึ?
เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์เวลานี้ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความโกรธ,หากแต่ไม่สามารถทำอะไรได้,ก่อนหน้านี้นางถูกจงซานทำลาย,อีกทั้งข้าราชบริพารของจงซาน,คาดไม่ถึงเลยว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้?
เป็นเซียนบรรพชนทั้งหมดเลยรึ?
ที่ด้านนอกตำหนักปุถุชน,หวนจีที่ขมวดคิ้วไปมา,เพราะนางสัมผัสกลิ่นอายที่คุ้นเคยนี้ขึ้นมาได้ในทันที.
"คุ้นเคยยิ่งนัก!"หวนจีที่บ่นพึมพำ.
หวนจีที่ปรารถนาพุ่งเข้าไปในตำหนักเช่นกัน,ทว่ารับรู้ว่าจงซานในเวลานี้ต้องการปลอบเป่ยชิงซือ,จึงต้องระงับความคิดพร้อมกับรอคอยอยู่ด้านนอก.
ภายในตำหนัก.
ขณะที่ประตูปิดลง,เป่ยชิงซือที่โผซบอกของจงซานร้องไห้เสียงดัง.
นางที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าอย่างที่สุด,ความทุกข์ระทมที่นางได้รับ,แม้แต่ความคิดถึงมากมายที่โถมกระหน่ำใส่นางจนหัวใจนางเจ็บปวด,ในเวลานี้นางไม่ต้องการกล่าวสิ่งใด,ได้แต่ร้องไห้ในอ้อมกอดของจงซาน,ร้องไห้และก็ร้องเท่านั้น.
จงซานที่กอดเป่ยชิงซือ,พร้อมกับลูกเผาของนางเบาๆ,พร้อมกับรับฟังเสียงร้องไห้ของนาง,หัวใจของจงซานที่รู้สึกเจ็บปวด,พร้อมกับปฏิญาณในใจว่าจะไม่ให้นางต้องระทมทุกข์อีกครั้งแน่.
หลายปีมานี้เขาไม่มาตำหนักเทพเหมันตร์,ไม่ใช่ว่าจงซานลืม,ในทางตรงข้าม,ชีวิตของภรรยาทุกคน,จงซานไม่เคยลืมผู้ใด,หลายปีมานี้,แม้นว่า,เขาจะเดินทางไปยังทวีปตะวัน,เดินทางไปยังทวีปตะวันออก,ทว่าจงซานก็ไม่เคยละเลยทีใด,หากแต่มีบางอย่างที่จะต้องก้าวไปทีละขั้นเพื่อให้มันสำเร็จ.
หลังจากแยกสวรรค์,เพื่อที่จะให้ต้าเจิ้งสะสมอำนาจได้,เขาจึงต้องวางแผนให้ระเอียดรอบครอบ,เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับต้าเจิ้ง,กว่าที่จะมีพลังมากพอ,เขาจึงค่อยๆไปรับสตรีของเขาทีละคน,เขาจำเป็นต้องมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อไม่ต้องการให้พวกนางลำบาก,ต้องเติบโตเพื่อไม่ให้ทุกคนมาเสี่ยงอันตราย,จึงต้องก้าวไปอย่างมีแบบแผน.
จงซานต้องใช้เวลาไม่น้อยในการบริหารต้เจิ้ง,ในเวลานั้น,จงซานยังไม่แข็งแกร่ง,ยังไม่มีเซียนบรรพชนมากมาย,ทว่าในเวลานี้,เขาแตกต่างไปจากเดิมแล้ว,ในเวลานั้นเขาสามารถมองเห็นเจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่กำลังโกรธเกรี้ยว,ไม่มีความสุข,แต่นางในเวลานี้ไม่สามารถที่จะทำอะไรเขาได้.
แม้นว่าจงซานจะพยายามอย่างหนัก,ทว่าเห็นเป่ยชิงซือที่เศร้าทุกข์ระทม,จงซานก็รู้สึกอับอายนัก,เขาอับอายที่พัฒนาช้าเกินไป,เขาได้เกือบที่จะทำผิดของสตีของเขา,นางเวลานี้แทบจะกลายเป็นศพแล้ว.
"อือ ฮือ!"
เป่ยชิงซือที่ร้องไห้เสียงสะอื้นที่ค่อยๆเล็งลงเรื่อย,ทว่าจงซานยังคงกอดนางเอาไว้,หลังจากนั้นนางที่ร้องไห้ผ่านไปอีกหนึ่งก้านธูป,เป่ยชิงซือคาดไม่ถึงว่าจะหลับไป.
นางหลับไปอย่างไม่คาดคิด?
จงซานที่ไม่ปลุกนาง,ทว่านำเก้าอี้ออกมา,พร้อมกับกอดนางเอาไว้รอคอยให้นางตื่น,เห็นเป่ยชิงซือที่หลับไป,จงซานในเวลานี้ที่สามารพบอกได้ว่า,นางแบกรับเรื่องราวมากมายจนเหนื่อยล้าแทบจะล้มลงแล้ว.
เป่ยชิงซือที่หลับไปใบหน้าของนางไม่ได้เย็นชาต่อไป,ทว่านางที่กุมเสื้อผ้าของจงซานแน่น,ที่มุมปากเผยยิ้มหวานออกมาเล็กน้อย,จากนั้นนางก็เผยท่าทางหวาดกลัวออกมา,หากแต่จงซานก็ลูกหลังปลอบโยนนาง,ทำให้นางค่อยๆดีขึ้นมาช้าๆ.
ขณะที่เป่ยชิงซือหลับนั้น,จงซานที่กวาดตามองภายในตำหนัก,แม้นว่าจะมีเรื่องสงสัยหลายอย่าง,ทว่าก็ยังคงไม่ได้สำรวจอะไร,เวลานี้เขาจำเป็นต้องปลอบเป่ยชิงซือ,ดูเหมือนว่านางจะถูกเจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ล้างสมองไปจนสิ้นแล้ว.
ในจดหมายนั้น,เป่ยชิงซือได้อธิบายว่า,พิธีบูชายันต์นั้น,ก็เพื่อประชาชนทั่วหล้า,ป้องกันโลกปิศาจสวรรค์เข้ามาในโลกใบใหญ่,ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวายโกลาหล.
ทว่าในความคิดของจงซานนั้น,กลับเป็นเรื่องราวที่ไร้สาระเป็นอย่างมาก.
สำหรับจงซานแล้วเขาที่ต้องการบุกเบิกดินแดนไปทั่วหล้า,มีเรื่องที่เขาต้องหวาดกลัวอย่างงั้นรึ?
หากโลกปิศาจสวรรค์มายังโลกใบใหญ่จริง,ในเวลานั้นแย่ที่สุดก็คือต่อสู้กับโลกปิศาจสวรรค์ทุกอย่างก็จบแล้ว.
นอกจากนี้,กลุ่มปราชญ์เทพที่เป็นทองไม่รู้ร้อน,แต่กลับให้สตรีที่มีระดับเซียนโบราณปกป้องประชาชนทั่วหล้าอย่างงั้นรึ?
เป็นเรื่องน่าขันไม่ใช่รึ?
แล้วบุรุษจากโลกใบใหญ่ตายไปหมดแล้วรึ?
ถึงจะให้สตรีผู้เดียวสังเวยเพื่อให้ทุกคนใต้สวรรค์รอด?
ในใจของจงซาน,ขอตายในสนามรบดีกว่า,จะยินยอมรับเรื่องที่น่าละอายเช่นนี้ได้อย่างไร.
นอกจากนี้สวรรค์กำลังจะล่มสลาย.
ปราชญ์เทพมีอยู่เพื่ออะไร,พวกเขาเป็นแค่ของประดับอย่างงั้นรึ?
นอกจากนี้ยังมีหงจวิน,บรรพชนมังกร,มารดาแห่งหง,ตัวตนที่แข็งแกร่ง,พวกเขากลับไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องราวนี้เลยรึ?
แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวนี้จงซานไม่เชื่อเด็ดขาด.
นวีหว๋าอดีตปราชญ์เทพที่ร่างหล่นจากสวรรค์,ที่ใช้ขาของบรรพชนเต่าทมิฬสี่ขา,นับว่านวีหว๋ามีความสามารถที่ร้ายกาจมาก,แล้วหงจวินล่ะ?
ในเวลานี้,จงซานที่ครุ่นคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาในทันที,กงกงทำลายเทือกเขาปู้โจวพังทลายลง,แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่? กงกงคือบรรพชนเผ่าอู่ในทวีปภาคใต้,เขาเป็นคำทำลายอย่างงั้นรึ?เขาที่อยู่ภาคใต้เดินทางมายังขั้วโลกเหนือ,เพียงเพื่อทำลายภูเขา?
เขาคิดว่าเทือกเขาปู้โจวเป็นของเล่นอย่างงั้นรึ?
หากว่าผลที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นมันน่าสะพรึง,เขาไม่กลัวถูกสังหารจากยอดฝีมือทั่วหล้าอย่างงั้นรึ?
"อือ,อืม!"
หลังจากพักตลอดทั้งวัน,เป่ยชิงซือที่ค่อยๆตื่นขึ้นมา,เห็นตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของจงซาน,เป่ยชิงซือที่ไม่เร่งรีบ,ยังคงนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา,ใบหน้าที่ซบไปที่อกฟังหัวใจของจงซานที่กำลังเต้น.
จงซานที่รู้ว่าเป่ยชิงซือตื่นแล้ว,เขาที่ประคองหลังนางเอาไว้,เพื่อที่จะให้นางอยู่ในท่าทางที่สบาย.
นางที่อยู่ในสภาพดังกล่าว,ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา."เฮ้อ!"
"ถอนหายใจรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงอ่อนโยน.
"ข้า!"เป่ยชิงซือไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร.
"เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มให้ข้าฟัง!"จงซานที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน.
"อืม!"เป่ยชิงซือที่ซบอกของจงซานพยักหน้ารับ.
จากนั้น,เป่ยชิงซือก็ค่อยๆเล่าเรื่องทั้งหมด,เกี่ยวกับเรื่องราวหลายอย่างที่นางคาดเดา,นางที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อและรู้สึกโศกเศร้าในหัวใจ.
"เจ้ามันสาวโง่!"จงซานที่ถอนหายใจออกมาในที่สุด.
สาวโง่?
เป่ยชิงซือที่ใบหน้าเป็นสีแดง,แสดงท่าทางฮึกฮักไม่พอใจเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวออกมเสียงเล็ก,"ข้า,ข้าโง่ตรงใหน!"
เป่ยชิงซือที่แสดงเหมือนกับเด็กเอาแต่ใจ,ไม่ชอบให้ใครมาว่าตัวเองโง่,ถึงแม้นว่าคำพูดที่เขาเอ่ยว่าสาวโง่ของเขาจะฟังดูแล้วอบอุ่น,หากแต่นางก็กล่าวออกมาเสียงเบาอย่างไร้เดียงสา.
เห็นเป่ยชิงซือที่จีบปากจีบคอ,จงซานที่ถอนหายใจเบาๆ,"เอาล่ะ,ไม่ได้โง่,เป็นข้าเองที่ผิดตั้งแต่แรก,ไม่ควรให้เจ้ามายังสถานที่โง่เง่านี้,คาดไม่ถึงเลยว่าคนที่นี่จะมีแต่กล้ามเนื้อ,จนสามรถเปลี่ยนให้เจ้ากลายเป็นสาวโง่ไปแล้ว!"
เป่ยชิงซือที่กัดไปยังแขนของจงซาน,ด้วยท่าทางไม่พอใจ,นางไม่ใช่สาวโง่,ที่นี่ไม่ใช่สถานที่โง่เง่า.
แน่นอน,ว่าแรงกัดนั้นไม่ได้ให้เกิดแผลมากมายนัก,จึงไม่ได้ทำให้จงซานได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด,หากแต่การกัดนี้เป็นการกัดที่เต็มไปด้วยความรักและอาดูรของนาง,หลังจากที่กัดแล้วนางก็แลบลิ้นเลียแผลเบาๆ.
"เรื่องแรก,โลกปิศาจสวรรค์เข้ามาในโลกใบใหญ่ะทำให้ผู้คนได้รับความเดือดร้อน,ใครพูด?"จงซานสอบถาม.
"ใช่,บรรพชน!"เป่ยชิงซือที่กล่าวตอบเสียงเบาๆ.
"นางบอกเจ้าก็เชื่อเลยรึ? นางบอกว่าใช้มีดปลายคอหอยจะได้กลายเป็นปราชญ์เทพ,เจ้าก็จะเชื่ออย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวชี้นำ.
เป่ยชิงซือ"..................!”
น้ำแข็งหนาสามฟุต
มิใช่จากความหนาวเพียงวันเดียว,ตลอดหลายปีมานี้เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่ได้กล่าวเกี่ยวกับความเที่ยงธรรมอยู่ตอลดเวลา,นางที่กล่าวว่าการบูชายันต์ครั้งนี้ก็เพื่อถวายดงวิญญาณต่อปิศาจเป็นพิธีที่ทรงเกียรติ,คาดไม่ถึงเลยว่าจงซานจะวิเคราะห์มันและกล่าวอธิบายบายนางข้าๆ,ทำให้เป่ยชิงซือได้ครุ่นคิด,อะไรคือความผิดถูกกันแน่,ทำให้เป่ยชิงซือเริ่มสงสัยเกี่ยวกับการบูชายันต์,เพื่อประชาชนคนใดกัน,นี่นางกลายเป็นสาวโง่ไปแล้วอย่างงั้นรึ?
***********
สุภาษิตจีนวันนี้ขอเสนอ "น้ำแข็งหนาสามฟุต
มิใช่จากความหนาวเพียงวันเดียว" (冰冻三尺非一日之寒 / bīng dòng sān chǐ,fēi yī rì zhī hán / ปิงต้งซานฉื่อ
เฟยอีรื่อจือหาน)
วิกฤติต่างๆ ที่เกิดในสังคมที่หมักหมม คือฝีที่เกิดขึ้นนานแล้ว
แต่เพิ่งแตกให้เห็นเลือดเห็นหนองเอาวันนี้
Chapter 1259 Silly little girl
傻妞
สาวโง่.
"ประชาชนทั่วหล้าอย่างงั้นรึ? เป็นประชาชนทั่วหล้าเลือกเจ้าอย่างงั้นรึ? ทุกคนจะประสบสถานการณ์เลวร้ายอย่างงั้นรึ?
เจ้ากำลังกังวลอะไร?"จงซานที่กล่าวทั้งโกรธและสงสาร.
"ข้า!"เป่ยชิงซือที่สะอึกไม่รู้จะกล่าวสิ่งใดออกมาดี,คำพูดของนางในเวลานี้,มันจุกแน่นที่ลำคอ,จงซานที่ไม่ทำให้นางรู้สึกแย่,แต่ได้ทำให้หัวใจที่หนาวเย็นของนางอบอุ่นขึ้น.
จิตใจที่หนักอึ้งเต็มไปด้วยภาระนั้น,ด้วยคำพูดไม่กี่คำของจงซานทำให้นางผ่อนคลายลง.
เป็นประชาชนทั่วหล้าเลือกเจ้าอย่างงั้นรึ? ด้วยคำพูดดังกล่าวนี้,ทำให้เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์โกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันที.
"จงซานเจ้าพูดอะไร?
เจ้าไม่เห็นประชาชนทั่วหล้าอยู่ในสายตาเจ้าเลยรึ?
เจ้าต้องการเห็นโลกปิศาจสวรรค์เข้ามาในโลกใบใหญ่,เจ้า............!”เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
"หนวกหู!"จงซานแค่นเสียงเย็นชา.
เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์,"
@#¥%...... &\;!”
เป่ยชิงซือที่อยู่ข้างๆที่กัดริมฝีปากแน่น,ส่ายหน้าไปมา,"ข้ารู้,ถึงจะไม่มีใครเห็น,หากแต่ชีวิตของคนทั่วหล้า,หลายล้านลาน,ข้าไม่สามารถมองข้าม............!”
จงซานที่เห็นท่าทีของเป่ยชิงซือที่ดูหนักแน่น,พร้อมกับทอดถอนหายใจเบาๆ,"เจ้าไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลย,โลกปิศาจสวรรค์อย่างงั้นรึ?
แม้แต่ปราชญ์เทพยังไม่ร้อนใจอะไร,แต่กลับเป็นเจ้าที่กำลังรำพึงคิดถึงมัน!"
"ข้า,ข้า,ข้า! "เป่ยชิงซือกล่าวข้าถึงสามครั้ง,แต่กลับไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้.
"จงซาน,เจ้ากำลังล่อลวงชิงซือ?
นางกล่าวถูกแล้ว,ใครบอกว่าปราชญ์เทพไม่รู้?
นางกำลังช่วยชีวิตคนทั่วหล้า,ทุกคนจะจดจำนาง,เจ้าต้องการเป็นคนเห็นแก่ตัว,เจ้ามันชั่วร้าย."เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่รู้สึกไม่ดีกำลังพลั่งพรูเอ่ยปากมากมาย.
ทว่าจงซานหาได้สนใจนางแต่อย่างใด,เขาที่เข้าไปใกล้ๆพร้อมกับกุมมือของเป่ยชิงซือเอาไว้.
เป่ยชิงซือที่ถูกจงซานกุมมือเอาไว้,นางที่ขัดขืนเล็กน้อย,ทว่าจงซานที่กุมมือนางแน่น,เขาจะปล่อยนางหนีไปได้อย่างไร?
"ไปเถอะ,พวกเราไปหาสถานที่เงียบๆ,ที่นี่วุ่นวายเกินไป!"จงซานที่กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน.
"อืม!"เป่ยชิงซือพยักหน้ารับ.
ทว่าเจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่ลมออกหู,หนวกหูอะไร?
ใครหนวกหูกัน?
เสี่ยวเหม่ยและเสี่ยวหลิงในเวลานี้เผยท่าทางมีความสุขออกมา,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังจงซาน,ด้วยความนับถือ,คนผู้นี้แข็งแกร่งมาก,เป็นคนที่ทรงพลังอหังการ,เขาที่สามารถที่จะช่วยเจ้าตำหนักน้อยได้.
"เจ้าตำหนักน้อย,ตำหนักเดิมของท่านพังทลายไปแล้ว,ทว่าตำหนักปุถุชนนั้นยังสมบูรณ์,ท่านไปที่นั่นเถอะ!"เสี่ยวเหม่ยเอ่ยเสนอความเห็นในทันที.
ตำหนักปุถุชน?
จงซานที่จ้องมองตามนิ้วของเสี่ยวเหม่ย,ซึ่งเป็นตำหนักที่เป่ยชิงซือออกมาก่อนหน้านี้.
เป่ยชิงซือและจงซานที่บินออกไปช้าๆ,ในเวลานี้,เป่ยชิงซือไม่ขัดขืนอีกต่อไป,หลังจาที่จงซานรู้ทุกอย่างแล้ว,นางรู้สึกราวกับว่ามีเสาหลักให้นางพักพิง,ท้องฟ้าที่มืดมัวก่อนหน้านี้ได้สลายหายไป.
เสี่ยวเหม่ยและเสี่ยวหลิงที่บินตามไปในทันที,สองสาวใช้ที่รู้ตัวว่าตัวเองได้ล่วงเกินเจ้าตำหนักแล้ว,ดังนั้นจึงไม่กล้าอยู่,ส่วนเสนาธิการต้าเจิ้งเองก็บินตามไปด้วยเช่นกัน.
"เป่ยชิงซือ,เจ้าควรรู้ว่านั่นคือที่ใหน,อย่าได้ทำให้ตำหนักปุถุชนเสื่อมเสีย!"เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่จ้องมองไปยังเป่ยชิงซือพร้อมกับเผยความโกรธเกรี้ยวออกมา.
ด้วยเหตุนั้น,ถึงกับทำให้เป่ยชิงซือสั่นสะท้านเล็กน้อย,ราวกับรู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้ง.
จงซานที่ยกมือขึ้นโอบด้านหลังนางเพื่อปลอบนาง.
”!”
จงซานที่นำเป่ยชิงซือเข้าไปในห้องโถง,ประตูตำหนักที่ปิดลงเสียงดัง.
เหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้งที่รอคอยอยู่ด้านนอกตำหนัก,ด้วยกลุ่มของเซียนบรรพชนคุ้มกันอยู่,ใครจะกล้าบุกเข้ามา?"
ต้าเจิ้งในเวลานี้ไม่คิดที่จะออมชอมอีกต่อไป,ต้าเจิ้งที่กลายเป็นตัวตนที่แข็งแกร่ง,สำหรับตำหนักเทพเหมันตร์
หนึ่งในสามของกลุ่มอิทธิพลของขั้วโลกเหนืออย่างงั้นรึ? แล้วอย่างไร?
เต้าเจิ้งยังไม่ได้ส่งยอดฝีมือทั้งหมดมาด้วยซ้ำ,คิดว่าจะต้านได้อย่างงั้นรึ?
เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์เวลานี้ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความโกรธ,หากแต่ไม่สามารถทำอะไรได้,ก่อนหน้านี้นางถูกจงซานทำลาย,อีกทั้งข้าราชบริพารของจงซาน,คาดไม่ถึงเลยว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้?
เป็นเซียนบรรพชนทั้งหมดเลยรึ?
ที่ด้านนอกตำหนักปุถุชน,หวนจีที่ขมวดคิ้วไปมา,เพราะนางสัมผัสกลิ่นอายที่คุ้นเคยนี้ขึ้นมาได้ในทันที.
"คุ้นเคยยิ่งนัก!"หวนจีที่บ่นพึมพำ.
หวนจีที่ปรารถนาพุ่งเข้าไปในตำหนักเช่นกัน,ทว่ารับรู้ว่าจงซานในเวลานี้ต้องการปลอบเป่ยชิงซือ,จึงต้องระงับความคิดพร้อมกับรอคอยอยู่ด้านนอก.
ภายในตำหนัก.
ขณะที่ประตูปิดลง,เป่ยชิงซือที่โผซบอกของจงซานร้องไห้เสียงดัง.
นางที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าอย่างที่สุด,ความทุกข์ระทมที่นางได้รับ,แม้แต่ความคิดถึงมากมายที่โถมกระหน่ำใส่นางจนหัวใจนางเจ็บปวด,ในเวลานี้นางไม่ต้องการกล่าวสิ่งใด,ได้แต่ร้องไห้ในอ้อมกอดของจงซาน,ร้องไห้และก็ร้องเท่านั้น.
จงซานที่กอดเป่ยชิงซือ,พร้อมกับลูกเผาของนางเบาๆ,พร้อมกับรับฟังเสียงร้องไห้ของนาง,หัวใจของจงซานที่รู้สึกเจ็บปวด,พร้อมกับปฏิญาณในใจว่าจะไม่ให้นางต้องระทมทุกข์อีกครั้งแน่.
หลายปีมานี้เขาไม่มาตำหนักเทพเหมันตร์,ไม่ใช่ว่าจงซานลืม,ในทางตรงข้าม,ชีวิตของภรรยาทุกคน,จงซานไม่เคยลืมผู้ใด,หลายปีมานี้,แม้นว่า,เขาจะเดินทางไปยังทวีปตะวัน,เดินทางไปยังทวีปตะวันออก,ทว่าจงซานก็ไม่เคยละเลยทีใด,หากแต่มีบางอย่างที่จะต้องก้าวไปทีละขั้นเพื่อให้มันสำเร็จ.
หลังจากแยกสวรรค์,เพื่อที่จะให้ต้าเจิ้งสะสมอำนาจได้,เขาจึงต้องวางแผนให้ระเอียดรอบครอบ,เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับต้าเจิ้ง,กว่าที่จะมีพลังมากพอ,เขาจึงค่อยๆไปรับสตรีของเขาทีละคน,เขาจำเป็นต้องมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อไม่ต้องการให้พวกนางลำบาก,ต้องเติบโตเพื่อไม่ให้ทุกคนมาเสี่ยงอันตราย,จึงต้องก้าวไปอย่างมีแบบแผน.
จงซานต้องใช้เวลาไม่น้อยในการบริหารต้เจิ้ง,ในเวลานั้น,จงซานยังไม่แข็งแกร่ง,ยังไม่มีเซียนบรรพชนมากมาย,ทว่าในเวลานี้,เขาแตกต่างไปจากเดิมแล้ว,ในเวลานั้นเขาสามารถมองเห็นเจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่กำลังโกรธเกรี้ยว,ไม่มีความสุข,แต่นางในเวลานี้ไม่สามารถที่จะทำอะไรเขาได้.
แม้นว่าจงซานจะพยายามอย่างหนัก,ทว่าเห็นเป่ยชิงซือที่เศร้าทุกข์ระทม,จงซานก็รู้สึกอับอายนัก,เขาอับอายที่พัฒนาช้าเกินไป,เขาได้เกือบที่จะทำผิดของสตีของเขา,นางเวลานี้แทบจะกลายเป็นศพแล้ว.
"อือ ฮือ!"
เป่ยชิงซือที่ร้องไห้เสียงสะอื้นที่ค่อยๆเล็งลงเรื่อย,ทว่าจงซานยังคงกอดนางเอาไว้,หลังจากนั้นนางที่ร้องไห้ผ่านไปอีกหนึ่งก้านธูป,เป่ยชิงซือคาดไม่ถึงว่าจะหลับไป.
นางหลับไปอย่างไม่คาดคิด?
จงซานที่ไม่ปลุกนาง,ทว่านำเก้าอี้ออกมา,พร้อมกับกอดนางเอาไว้รอคอยให้นางตื่น,เห็นเป่ยชิงซือที่หลับไป,จงซานในเวลานี้ที่สามารพบอกได้ว่า,นางแบกรับเรื่องราวมากมายจนเหนื่อยล้าแทบจะล้มลงแล้ว.
เป่ยชิงซือที่หลับไปใบหน้าของนางไม่ได้เย็นชาต่อไป,ทว่านางที่กุมเสื้อผ้าของจงซานแน่น,ที่มุมปากเผยยิ้มหวานออกมาเล็กน้อย,จากนั้นนางก็เผยท่าทางหวาดกลัวออกมา,หากแต่จงซานก็ลูกหลังปลอบโยนนาง,ทำให้นางค่อยๆดีขึ้นมาช้าๆ.
ขณะที่เป่ยชิงซือหลับนั้น,จงซานที่กวาดตามองภายในตำหนัก,แม้นว่าจะมีเรื่องสงสัยหลายอย่าง,ทว่าก็ยังคงไม่ได้สำรวจอะไร,เวลานี้เขาจำเป็นต้องปลอบเป่ยชิงซือ,ดูเหมือนว่านางจะถูกเจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ล้างสมองไปจนสิ้นแล้ว.
ในจดหมายนั้น,เป่ยชิงซือได้อธิบายว่า,พิธีบูชายันต์นั้น,ก็เพื่อประชาชนทั่วหล้า,ป้องกันโลกปิศาจสวรรค์เข้ามาในโลกใบใหญ่,ไม่เช่นนั้นจะเกิดความวุ่นวายโกลาหล.
ทว่าในความคิดของจงซานนั้น,กลับเป็นเรื่องราวที่ไร้สาระเป็นอย่างมาก.
สำหรับจงซานแล้วเขาที่ต้องการบุกเบิกดินแดนไปทั่วหล้า,มีเรื่องที่เขาต้องหวาดกลัวอย่างงั้นรึ?
หากโลกปิศาจสวรรค์มายังโลกใบใหญ่จริง,ในเวลานั้นแย่ที่สุดก็คือต่อสู้กับโลกปิศาจสวรรค์ทุกอย่างก็จบแล้ว.
นอกจากนี้,กลุ่มปราชญ์เทพที่เป็นทองไม่รู้ร้อน,แต่กลับให้สตรีที่มีระดับเซียนโบราณปกป้องประชาชนทั่วหล้าอย่างงั้นรึ?
เป็นเรื่องน่าขันไม่ใช่รึ?
แล้วบุรุษจากโลกใบใหญ่ตายไปหมดแล้วรึ?
ถึงจะให้สตรีผู้เดียวสังเวยเพื่อให้ทุกคนใต้สวรรค์รอด?
ในใจของจงซาน,ขอตายในสนามรบดีกว่า,จะยินยอมรับเรื่องที่น่าละอายเช่นนี้ได้อย่างไร.
นอกจากนี้สวรรค์กำลังจะล่มสลาย.
ปราชญ์เทพมีอยู่เพื่ออะไร,พวกเขาเป็นแค่ของประดับอย่างงั้นรึ?
นอกจากนี้ยังมีหงจวิน,บรรพชนมังกร,มารดาแห่งหง,ตัวตนที่แข็งแกร่ง,พวกเขากลับไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องราวนี้เลยรึ?
แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวนี้จงซานไม่เชื่อเด็ดขาด.
นวีหว๋าอดีตปราชญ์เทพที่ร่างหล่นจากสวรรค์,ที่ใช้ขาของบรรพชนเต่าทมิฬสี่ขา,นับว่านวีหว๋ามีความสามารถที่ร้ายกาจมาก,แล้วหงจวินล่ะ?
ในเวลานี้,จงซานที่ครุ่นคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาในทันที,กงกงทำลายเทือกเขาปู้โจวพังทลายลง,แท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่? กงกงคือบรรพชนเผ่าอู่ในทวีปภาคใต้,เขาเป็นคำทำลายอย่างงั้นรึ?เขาที่อยู่ภาคใต้เดินทางมายังขั้วโลกเหนือ,เพียงเพื่อทำลายภูเขา?
เขาคิดว่าเทือกเขาปู้โจวเป็นของเล่นอย่างงั้นรึ?
หากว่าผลที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นมันน่าสะพรึง,เขาไม่กลัวถูกสังหารจากยอดฝีมือทั่วหล้าอย่างงั้นรึ?
"อือ,อืม!"
หลังจากพักตลอดทั้งวัน,เป่ยชิงซือที่ค่อยๆตื่นขึ้นมา,เห็นตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของจงซาน,เป่ยชิงซือที่ไม่เร่งรีบ,ยังคงนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา,ใบหน้าที่ซบไปที่อกฟังหัวใจของจงซานที่กำลังเต้น.
จงซานที่รู้ว่าเป่ยชิงซือตื่นแล้ว,เขาที่ประคองหลังนางเอาไว้,เพื่อที่จะให้นางอยู่ในท่าทางที่สบาย.
นางที่อยู่ในสภาพดังกล่าว,ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา."เฮ้อ!"
"ถอนหายใจรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงอ่อนโยน.
"ข้า!"เป่ยชิงซือไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร.
"เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มให้ข้าฟัง!"จงซานที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน.
"อืม!"เป่ยชิงซือที่ซบอกของจงซานพยักหน้ารับ.
จากนั้น,เป่ยชิงซือก็ค่อยๆเล่าเรื่องทั้งหมด,เกี่ยวกับเรื่องราวหลายอย่างที่นางคาดเดา,นางที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อและรู้สึกโศกเศร้าในหัวใจ.
"เจ้ามันสาวโง่!"จงซานที่ถอนหายใจออกมาในที่สุด.
สาวโง่?
เป่ยชิงซือที่ใบหน้าเป็นสีแดง,แสดงท่าทางฮึกฮักไม่พอใจเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวออกมเสียงเล็ก,"ข้า,ข้าโง่ตรงใหน!"
เป่ยชิงซือที่แสดงเหมือนกับเด็กเอาแต่ใจ,ไม่ชอบให้ใครมาว่าตัวเองโง่,ถึงแม้นว่าคำพูดที่เขาเอ่ยว่าสาวโง่ของเขาจะฟังดูแล้วอบอุ่น,หากแต่นางก็กล่าวออกมาเสียงเบาอย่างไร้เดียงสา.
เห็นเป่ยชิงซือที่จีบปากจีบคอ,จงซานที่ถอนหายใจเบาๆ,"เอาล่ะ,ไม่ได้โง่,เป็นข้าเองที่ผิดตั้งแต่แรก,ไม่ควรให้เจ้ามายังสถานที่โง่เง่านี้,คาดไม่ถึงเลยว่าคนที่นี่จะมีแต่กล้ามเนื้อ,จนสามรถเปลี่ยนให้เจ้ากลายเป็นสาวโง่ไปแล้ว!"
เป่ยชิงซือที่กัดไปยังแขนของจงซาน,ด้วยท่าทางไม่พอใจ,นางไม่ใช่สาวโง่,ที่นี่ไม่ใช่สถานที่โง่เง่า.
แน่นอน,ว่าแรงกัดนั้นไม่ได้ให้เกิดแผลมากมายนัก,จึงไม่ได้ทำให้จงซานได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด,หากแต่การกัดนี้เป็นการกัดที่เต็มไปด้วยความรักและอาดูรของนาง,หลังจากที่กัดแล้วนางก็แลบลิ้นเลียแผลเบาๆ.
"เรื่องแรก,โลกปิศาจสวรรค์เข้ามาในโลกใบใหญ่ะทำให้ผู้คนได้รับความเดือดร้อน,ใครพูด?"จงซานสอบถาม.
"ใช่,บรรพชน!"เป่ยชิงซือที่กล่าวตอบเสียงเบาๆ.
"นางบอกเจ้าก็เชื่อเลยรึ? นางบอกว่าใช้มีดปลายคอหอยจะได้กลายเป็นปราชญ์เทพ,เจ้าก็จะเชื่ออย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวชี้นำ.
เป่ยชิงซือ"..................!”
น้ำแข็งหนาสามฟุต
มิใช่จากความหนาวเพียงวันเดียว,ตลอดหลายปีมานี้เจ้าตำหนักเทพเหมันตร์ที่ได้กล่าวเกี่ยวกับความเที่ยงธรรมอยู่ตอลดเวลา,นางที่กล่าวว่าการบูชายันต์ครั้งนี้ก็เพื่อถวายดงวิญญาณต่อปิศาจเป็นพิธีที่ทรงเกียรติ,คาดไม่ถึงเลยว่าจงซานจะวิเคราะห์มันและกล่าวอธิบายบายนางข้าๆ,ทำให้เป่ยชิงซือได้ครุ่นคิด,อะไรคือความผิดถูกกันแน่,ทำให้เป่ยชิงซือเริ่มสงสัยเกี่ยวกับการบูชายันต์,เพื่อประชาชนคนใดกัน,นี่นางกลายเป็นสาวโง่ไปแล้วอย่างงั้นรึ?
***********
สุภาษิตจีนวันนี้ขอเสนอ "น้ำแข็งหนาสามฟุต
มิใช่จากความหนาวเพียงวันเดียว" (冰冻三尺非一日之寒 / bīng dòng sān chǐ,fēi yī rì zhī hán / ปิงต้งซานฉื่อ
เฟยอีรื่อจือหาน)
วิกฤติต่างๆ ที่เกิดในสังคมที่หมักหมม คือฝีที่เกิดขึ้นนานแล้ว
แต่เพิ่งแตกให้เห็นเลือดเห็นหนองเอาวันนี้
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น