Immortality Chapter 1254 Xuan Tianzhong
Chapter 1254 Xian Tianzhong
玄天宗
เซียนเทียนจง.
"กลิ่นอายโลกปิศาจสวรรค์,ข้าสัมผัสได้ถึงโลกปิศาจสวรรค์ที่รุนแรงมาก!"หวนจีที่ส่ายหน้าไปมา.
"โลกปิศาจสวรรค์?"จงซานที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
หวนจีทีเอ่ยออกมาครั้งแรก,กลิ่นอายของโลกปิศาจสวรรค์?
ไม่ใช่ว่าหวนจีสามารถเข้าออกโลกปิศาจสวรรค์ได้ตลอดเวลาอย่างงั้นรึ?
เห็นจงซานที่แสดงท่าทางสงสัย,หวนจีที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"แตกต่างกันอย่างไร?"
"โลกปิศาจสวรรค์นั้นเป็นการคงอยู่ที่ผิดปรกติ,บางที่อาจจะเรียกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบใหญ่,หากแต่มีพลังแห่งกฏที่แตกต่างจากโลกใบใหญ่,คล้ายว่าโลกปิศาจสวรรค์เป็นภาพลวงตาไม่มีอยู่จริง,ทุกสิ่งเป็นเรื่องโกหก,ทว่า,ข้าก็พบเห็นมันกลับกลายเป็นจริง,ทำให้ความรู้สึกของข้ารู้สึกขัดแย้ง."หวนจีที่ส่ายหน้าไปมา.
"โลกเสมือนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.
"อืม,ข้าไม่เข้าใจชัดเจนนัก,โลกปิศาจสวรรค์นี้ดูคล้ายกลับโลกเสมือน,ทุกสิ่งที่เป็นเรื่องโกหก,ทว่า,เมื่อโลกปิศาจสวรรค์เข้ามาในโลกใบใหญ่,,เรื่องนี้,คล้ายกลับว่ามันเป็นเหมือนกับโลกใบเล็กแห่งหนึ่ง,ทว่าข้าก็ยังรู้สึกแตกต่าง,โลกใบเล็กและโลกใบใหญ่นั้นถูกแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง,ทว่าโลกปิศาจสวรรค์นี้,รู้สึกราวกับว่ามีสถานที่หนึ่งของโลกใบใหญ่กำลังเข้าไปในโลกปิศาจสวรรค์,ซึ่งโดยทั่วไปนั้นโลกปิศาจสวรรค์และโลกใบใหญ่ไม่สามารถมาบรรจบกันได้,ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องเข้าออกผ่านทางเข้า,กลิ่นอายของโลกใบใหญ่นี้เป็นไปไม่ได้ที่จะมาปรากฏขึ้นในโลกใบใหญ่,ทว่าข้าอยู่ที่นี่,กลับสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของโลกปิศาจสวรรค์!"หวนจีที่กล่าวด้วยท่าทางไม่เข้าใจเช่นกัน.
"กลิ่นอายมันแผ่ออกมาจากที่ไหน?"จงซานสอบถาม.
"ที่นั่น,ใกล้ๆกลับเสาสวรรค์ทั้งสี่!"หวนจีเอ่ย.
"เสาสวรรค์!"จงซานที่กวาดตามองไปยังเสาสวรรค์.
"อืม,มันไกลมาก,คงต้องเข้าไปใกล้กว่านี้,ข้าถึงจะบอกได้!"หวนจีที่ส่ายหน้าไปมา.
"เช่นนั้นก็เข้าไปใกล้!"จงซานที่กล่าวออกมาตรงๆ.
"เรียนเซิ่งหวัง!"โต้วเหว่ยข้างที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"หืม?"จงซานที่จ้องมองไปยังโต้วเหว่ย.
"สถานที่ดังกล่าวนั้น,เผ่าเต่าทมิฬได้ห้ามทุกคนเข้าใกล้,และยังส่งคนของเผ่าเต่าทมิฬออกมามากมาย,กล่าวเตือนทุกราชวงศ์วาสนา,ห้ามให้ใครเข้าใกล้!"โต้วเหว่ยกล่าว.
"ไม่ให้ทุกคนเข้าใกล้รึ?
มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"ครับ,จากข่าวที่เฉินเพิ่งซื้อมา,กล่าวว่าเผ่าเต่าทมิฬต้องการปิดทาง,เพื่อใช้ต้อนรับแขกผู้ทรงเกียรติ!"โต้วเหว่ยเอ่ย.
"แขกผู้ทรงเกียรติ?
ใครกันที่เป็นแขกผู้ทรงเกียรติของเผ่าเต่าทมิฬ?"จงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.
"เอ่อ,เป็นใครนั้น,เฉินเองก็ไม่รู้!"
"เอาล่ะ,เจ้ากลับไปก่อน,ข้ารู้แล้ว!"จงซานเอ่ย.
"ครับ!"โต้วเหว่ยที่รับคำในทันที.
โต้วเหว่ยที่จ้องมองไปยังกลุ่มของจงซานที่บินออกไป,โดยไม่สนใจแขกผู้ทรงเกียรติใดๆ,ทุกคนที่บินลึกเข้าไปด้านในทันที.
กลุ่มของจงซานไม่ได้บินไปยังเสาสวรรค์ที่อยู่ทางตะวันออก,หากแต่บินลึกเข้าไปยังสถานที่ด้านใน.
เหตุผลหลักๆนั้น,จงซานเป็นห่วงเป่ยชิงซือ,ดังนั้นการไปสำรวจเสาสวรรค์พักไว้ก่อน,เรื่องแรกเขาต้องการไปยังตำหนักเทพเหมันตร์ก่อน.
เรื่องถัดไปค่อยสำรวจเสาสวรรค์.
แน่นอน,แม้นว่าจะไม่เดินทางไปยังเสาสวรรค์,แต่เมื่อบินไปยังทิศเหนือ,ก็จะทำให้สามารถมองเห็นมันได้ชัดขึ้นเช่นกัน.
ความต้องการของจงซานนั้น,แน่นอนว่าเหล่าเสนาธิการย่อมไม่มีความเห็น,ส่วนหวนจีเองก็ไม่ขัด,ขณะที่พวกเขาบินไปยังทางเหนือ,ก็ปรากฏคนผู้หนึ่งเห็นเข้าในทันที.
"เป็นใครกัน,หยุดตรงนั้น!"
ขณะที่บินอยู่นั้น,เสียงๆหนึ่งที่ตะโกนลั่นก็ปรากฏขึ้นในทันที.
จงซานที่ก้มหน้าลงมอง,พบกระดองเต๋าขนาดร้อยจั้ง.
"จินเผิง!"จงซานเอ่ย.
"ตูมมมมมมม!"
หมัดของจินเผิงที่กระแทกพัดพากระดองเต่าออกไป.
เต่าตนนั้น,ยังไม่ได้เป็นเซียนด้วยซ้ำ,เซียนบรรพชนและเต่าระดับสวรรค์แท้,ถึงจะเป็นยอดฝีมือที่มีความสามารถ,ก็ไม่มีทางต้านได้.การให้ระดับเซียนบรรพชนลงมือ
นับว่าเป็นการขี่ช้างไล่จับตั๊กแตน.
หนานกงเซิ่งที่มีระดับเซียนโบราณ,หากแต่มีสถานะสูงกว่าจินเผิงในต้าเจิ้ง,ส่วนกุยเส่อก็มีอำนาจที่แตกต่างกัน,ทว่าเป้าหมายครั้งนี้,คือการจัดการเผ่าเต๋าทมิฬ,งานที่แม้จะเล็กน้อยนั้น,ก็จำเป็นต้องจัดการให้เร็วที่สุด.
ส่วนจินเผิง,เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก,เซิ่งหวังสั่งตัวเขา,ไม่ได้ดูแคลนเขาแน่นอน,แต่เพราะว่าเชื่อใจ,การเดินทางออกไปด้านนอกตลอดหลายปี,มีรึที่จะไม่มีจินเผิงเข้าร่วม?
"หยุด,ใครกันที่กล้าบุกรุกแดนเทวะเต๋าทมิฬ!"ในเวลานั้น,ปรากฏเสียงๆหนึ่งดังขึ้น.
เป็นชายในชุดสีขาว.
"ปัง!”
จงซานไม่จำเป็นต้องสั่งด้วยซ้ำ,ฝ่ามือของจินเผิงก็ตบเขาหมดสติไปในทันที.
พวกเขายังคงเดินทางไปยังทางเหนือต่อ,เหล่ายอดฝีมือเผ่าเต่าทมิฬที่ถูกจินเผิงตบสลบก็มากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน.
พวกเขาที่บินค่อยข้างสูง,ทำให้กลายเป็นเป้าใหญ่,ด้วยจำนวนคนไม่น้อยย่อมสามารถมองเห็นถนัด.
จงซานไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเผ่าเต่าทมิฬแม้แต่น้อย,ทว่าในเวลานี้,จงซานเร่งรีบบินไปยังตำหนักเทพเหมันตร์ให้เร็วที่สุด.
"หยุดตรงนั้น!"ใครอีกคนที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ปัง!”
ฝ่ามือของจินเผิงที่ตบหน้าคนแล้วคนเล่า,ที่ไม่แม้แต่บินขึ้นมาได้.
เพียงแค่เงยหน้าขึ้นมาก็ถูกตบสลบไปแล้ว,จากพื้นที่ไกลออกไปในตำหนักแห่งหนึ่ง,ปรากฏชายชราผมขาวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อาจารย์,มีอะไรอย่างงั้นรึ?"ชายผู้หนึ่งตรงข้ามชายชราเอ่ย.
"ศิษย์น้องเจ้าถูกโจมตี!"ชายชราเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"โจมตี? ทว่าที่นี่คือแดนเทวะเผ่าเต่าทมิฬ,ใครกันที่หาญกล้าขนาดนั้น!"
ชายชราที่ไม่เอ่ยอะไร,ทว่าสัมผัสเทวะของเขาที่กวาดออกไป,ในเวลานี้เขาพบว่าคนของเผ่าทมิฬกว่าสามสิบคนสลบนอนเหยียดบนพื้น.
"ไม่ได้การแล้ว,ไปแจ้งจือจุ้น! ข้าจะเร่งรีบไปขวางไว้ก่อน!"ชายชราะเอ่ย.
"ครับ!"
ชายชราที่ก้าวออกมา,หายไปในทันที.
ส่วนกลุ่มของจงซาน,ในเวลานี้หยุดจ้องมองไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง.
เขาเห็นคนหลายสิบคน,ที่ล้อมรอบอยู่หากแต่ไม่บินออกมา,พวกเขาที่ยังคงคอยเฝ้าพื้นที่ดังกล่าวปกป้องเสาสวรรค์เอาไว้,กลุ่มจงซานที่สามารถมองเห็นท้องฟ้าได้ชัดเจนขึ้น.
เสาสวรรค์,ที่ไม่รู้ว่าสูงขึ้นไปเท่าใด,เพราะสูงขึ้นไปนั้นมีหมอกมากมายปกคลุม.
เสาสวรรค์ที่ตั้งลงบนลานแห่งหนึ่งคำยันกับปลายยอดที่ปรากฏหลุมน้ำวนซึ่งมีขนาดรัศมีหนึ่งล้านลี้,และบนเสาที่สูงขึ้นไปทั้งสี่นั้นก็มีบางอย่างอยู่ด้านบน,ราวกับว่าห้วงมิติได้เปิดออก,ปรากฏทางเข้าอีกแห่งขึ้น.
บนพื้นที่สูงสุดของเสา,ไม่ได้เชื่อมไปยังอวกาศ,ทว่ามันมีแสงมากมายส่องประกายสว่างจ้า,,จงซานที่สามารถมองเห็นปิศาจสวรรค์ที่กำลังโบยบินอยู่รอบๆทางเข้าด้วย.
"โลกปิศาจสวรรค์?"จินเผิงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
โลกปิศาจสวรรค์? คาดไม่ถึงเลยว่าเสาสวรรค์ทั้งสี่จะค้ำยันกับโลกปิศาจสวรรค์อย่างงั้นรึ?
เหล่าปิศาจสวรรค์มากมายกำลังพุ่งลงมาด้านล่าง,มีม่านที่เนื้อเยื่อกั้นอยู่,เหล่าปิศาจสวรรค์ที่พุ่งลงมา,ทันใดนั้นมันที่ถูกกระเด้งกลับไป,ถูกขวางเอาทางเข้าโลกปิศาจสวรรค์เอาไว้.
"นั่นมันโลกปิศาจสวรรค์,กลิ่นอายปิศาจสวรรค์ถูกส่งออกมาจากทางนั้น."หวนจีกล่าว.
"ตำหนานเป็นจริงรึ?
นวีหว๋าอุดรูสวรรค์,ช่องว่างที่เกิดขึ้นระหว่างสวรรค์ปฐพี,ไม่ใช่ว่าสวรรค์จะลม,แต่เป็นทางเขาของโลกปิศาจสวรรค์ฉีกออก,นวีหว่าที่ต้องการฟื้นฟู,จึงใช้ศิลาเทวะห้าสีปิดรอยรั่ว,พร้อมกับใช้ขาเต๋าเทวะสี่ข้างคำยันเอาไว้,ทว่าเสาทั้งสี่คือขาเต๋าจริงๆรึ?
มันจะเกินจริงไปหรือไม่?"จินเผิงที่เผยท่าทางอัศจรรย์ใจ.
"จริง!"มีเสียงๆหนึ่งด้านหลังจินเผิงดังขึ้น.
"หืม?"
จินเผิงที่จ้องมองกุยเสอด้านหลังที่เอ่ยกล่าว.
"ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายจากเสานั่น,ภายในนั้นมีกลิ่นอายของเต่าทมิฬที่เข้มข้น,นอกจากนี้ยังเป็นกลิ่นอายของสายโลหิตลำดับแรกด้วย."กุยเสอที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"เต่าทมิฬรุ่นแรก?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ครับ!
กลิ่นอายนี้เหนือกว่าสายโลหิตของข้าแน่นอนว่าจะต้องเป็นกลิ่นอายของเต่าทมิฬรุ่นแรก,ดูเหมือนว่าจะเป็นขาของเต่าทมิฬของเต่าทมิฬรุนแรงจริงๆ!"กุยเสอที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
ก่อนหน้านี้ปีกหนึ่ง,ขณะที่อี้เหลี่ยนได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำนานให้กับทุกคน,โดยเฉพาะอย่างยิ่งกุยเสอ,เขาไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย,หากแต่เวลานี้มันเกินจริงไปหรือไม่?
เต่าทมิฬรุนแรงคาดไม่ถึงเลยว่าจะใหญ่โตถึงขนาดนี้?
"เซิ่งหวัง,ตำนานเป็นจริงรึ?"จินเผิงที่จ้องมองไปยังจงซาน.
"หากที่นี่คือภูเขาปู้โจว,ในอดีตภูเขาปู้โจวเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"จงซานที่ขมวดคิ้วครุ่นคิด.
"ภูเขาปู้โจว?
เฉินดูเหมือนว่าจะได้ยินตำนานเช่นกัน,ในอดีตหยวนซือเทียจุ้นได้นำบางส่วนของภูเขาปู้โจวมาหลอมเป็นเทละเพื่อใช้ผนึกสวรรค์,และไม้เท้าเคลื่อนภูผา,ซึ่งเวลานี้อยุ่ในมือของเทียนเสิ่นจื่อ,เฉินเองก็ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือไม่!"จินเผิงครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"ไปเถอะ,ไปยังทิศเหนือ,ค่อยกลับมาที่นี่อีกครั้ง!"จงซานเอ่ย.
"ครับ!"ทุกคนที่รับคำในทันที.
ขณะที่ทุกคนกำลังจะมุ่งไปยังทางเหนือ.
"หยุด,พวกเจ้าเป็นใคร!"เสียงๆหนึ่งที่ดังขึ้น.
"วูซซซ!"
จินเผิงที่สะบัดฝ่ามือออกไป,บนอากาศที่วางเปล่า,ปรากฏคนผู้หนึ่ง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนซ่ออยู่ในนั้น.
ชายชราผมขาว.
"เอ๊ะ!"จินเผิงที่ประหลาดใจเล็กน้อย.
"เซียนบรรพชน?"ชายชราผมขาวกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เจ้าเองก็เป็นเซียนบรรพชนอย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่ขมวดคิ้ว,รับรู้ว่าจะเริ่มตรึงมือแล้ว.
ชายชราไม่ได้จดจ้องมองจงซานมากนัก,ทว่าเขาจ้องมองไปยังกุยเสอ,เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
"ผู้น้อยกุยเสิ่นอู๋,ทุกท่านเป็นใคร?"ชายชราที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม,ทว่าสายตายังคงจ้องมองไปยังกุยเสอ.
"เจ้าเป็นเต่าทมิฬรุ่นสีอย่างงั้นรึ?"กุยเสอที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ใช้,ผู้ชรานั้นมีสายโลหิตลำดับสี่,แล้วเจ้าเป็นอะไรกับเผ่าเต่าทมิฬ?
ทำไมถึงได้มีสายโลหิตสูงกว่าข้ากัน? เจ้าเป็นเป็นใคร? ต้องการทำอะไร?"กุยเสิ่นอู๋เอ่ยอย่างเคร่งขรึม.
"ในเมื่อเจ้ามีสายโลหิตที่ต่ำกว่าข้า,เจ้าก็ไม่มีคุณสมบัติถามข้า!"กุยเสอที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จงซานไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา,ก่อนหน้านี้ขาได้พูดคุยกับกุยเสอเอาไว้แล้ว,ดังนั้นจึงอนุญาตให้กุยเสอดำเนินการ.
ภายในใจกุยเสิ่นอู๋ที่ตกใจกับคำพูดของกุยเส่อ,เขาที่ขมวดคิ้วครุ่นคิด,ด้วยสายโลหิตที่สูงกว่าย่อมสะกดข่มสลายโลหิตที่ต่ำกว่าได้.
"เอาล่ะ,อย่าได้มาขวางพวกเรา!"กุยเสอที่ส่ายหน้าไปมา.
ขณะที่พวกเขากำลังจกจากไป,กุยเสิ่นอู๋ก็ส่ายหน้าไปมา,"สายโลหิตของเจ้าบริสุทธิ์กว่าข้า,เกี่ยวกับธรรมเนียมของเผ่าเต่าทมิฬ,เจ้าควรค่าให้ข้าให้ความเคารพ,สายโลหิตรุ่นที่ต่ำกว่าย่อมไม่สามารถต่อต้านรุ่นที่สูงกว่าได้,ทว่า,ที่นี่ไม่ว่าอย่างไรก็คือแดนเทวะของเผ่าเต่าทมิฬ,ข้าได้แจ้งต่อจือจุ้นแล้ว,จื่อจุ้นกำลังมา! โปรดรอสักครู่!"
กุยเสิ่นอู๋ที่กล่าวออกมาด้วยความสุภาพ.
"เซียนเทียนจง?"กุยเสอที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ใช่,ตอนนี้จือจุ้นเผ่าเต่าทมิฬ,ก็คือเซียนเทียนจง!"กุยเสิ่นอู่ไม่ได้ปิดบัง.
"วูซซซซซ!"
สายลมที่ระเบิดพัดกระหน่ำ,ด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่สูงของจื่อจุ้นเผ่าเต่าทมิฬ,พริบตาเดียวก็เดินทางเข้ามาใกล้แล้ว.
ชายในชุดสีทองที่ดูกำยำ,ใบหน้าที่เย็นชาเคร่งขรึม,ทันทีที่มาถึง,ก็จ้องมองกุยเสิ่นอู๋ด้วยความสงสัย,จ้องมองจงซาน,และจ้องมองกุยเส่อ,ดวงตาที่หรี่เล็กลง.
"คารวะจือจุ้น!"กุยเสิ่นอู๋กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"อะไร? เขาคือเซียนเทียนจง?
สายโลหิตรุ่นหก,ก็ได้เป็นจือจุ้นอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของกุยเสอที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
Chapter 1254 Xian Tianzhong
玄天宗
เซียนเทียนจง.
"กลิ่นอายโลกปิศาจสวรรค์,ข้าสัมผัสได้ถึงโลกปิศาจสวรรค์ที่รุนแรงมาก!"หวนจีที่ส่ายหน้าไปมา.
"โลกปิศาจสวรรค์?"จงซานที่ดวงตาหรี่เล็กลง.
หวนจีทีเอ่ยออกมาครั้งแรก,กลิ่นอายของโลกปิศาจสวรรค์?
ไม่ใช่ว่าหวนจีสามารถเข้าออกโลกปิศาจสวรรค์ได้ตลอดเวลาอย่างงั้นรึ?
เห็นจงซานที่แสดงท่าทางสงสัย,หวนจีที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"แตกต่างกันอย่างไร?"
"โลกปิศาจสวรรค์นั้นเป็นการคงอยู่ที่ผิดปรกติ,บางที่อาจจะเรียกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบใหญ่,หากแต่มีพลังแห่งกฏที่แตกต่างจากโลกใบใหญ่,คล้ายว่าโลกปิศาจสวรรค์เป็นภาพลวงตาไม่มีอยู่จริง,ทุกสิ่งเป็นเรื่องโกหก,ทว่า,ข้าก็พบเห็นมันกลับกลายเป็นจริง,ทำให้ความรู้สึกของข้ารู้สึกขัดแย้ง."หวนจีที่ส่ายหน้าไปมา.
"โลกเสมือนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย.
"อืม,ข้าไม่เข้าใจชัดเจนนัก,โลกปิศาจสวรรค์นี้ดูคล้ายกลับโลกเสมือน,ทุกสิ่งที่เป็นเรื่องโกหก,ทว่า,เมื่อโลกปิศาจสวรรค์เข้ามาในโลกใบใหญ่,,เรื่องนี้,คล้ายกลับว่ามันเป็นเหมือนกับโลกใบเล็กแห่งหนึ่ง,ทว่าข้าก็ยังรู้สึกแตกต่าง,โลกใบเล็กและโลกใบใหญ่นั้นถูกแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง,ทว่าโลกปิศาจสวรรค์นี้,รู้สึกราวกับว่ามีสถานที่หนึ่งของโลกใบใหญ่กำลังเข้าไปในโลกปิศาจสวรรค์,ซึ่งโดยทั่วไปนั้นโลกปิศาจสวรรค์และโลกใบใหญ่ไม่สามารถมาบรรจบกันได้,ดังนั้นพวกเราจำเป็นต้องเข้าออกผ่านทางเข้า,กลิ่นอายของโลกใบใหญ่นี้เป็นไปไม่ได้ที่จะมาปรากฏขึ้นในโลกใบใหญ่,ทว่าข้าอยู่ที่นี่,กลับสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของโลกปิศาจสวรรค์!"หวนจีที่กล่าวด้วยท่าทางไม่เข้าใจเช่นกัน.
"กลิ่นอายมันแผ่ออกมาจากที่ไหน?"จงซานสอบถาม.
"ที่นั่น,ใกล้ๆกลับเสาสวรรค์ทั้งสี่!"หวนจีเอ่ย.
"เสาสวรรค์!"จงซานที่กวาดตามองไปยังเสาสวรรค์.
"อืม,มันไกลมาก,คงต้องเข้าไปใกล้กว่านี้,ข้าถึงจะบอกได้!"หวนจีที่ส่ายหน้าไปมา.
"เช่นนั้นก็เข้าไปใกล้!"จงซานที่กล่าวออกมาตรงๆ.
"เรียนเซิ่งหวัง!"โต้วเหว่ยข้างที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"หืม?"จงซานที่จ้องมองไปยังโต้วเหว่ย.
"สถานที่ดังกล่าวนั้น,เผ่าเต่าทมิฬได้ห้ามทุกคนเข้าใกล้,และยังส่งคนของเผ่าเต่าทมิฬออกมามากมาย,กล่าวเตือนทุกราชวงศ์วาสนา,ห้ามให้ใครเข้าใกล้!"โต้วเหว่ยกล่าว.
"ไม่ให้ทุกคนเข้าใกล้รึ?
มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"ครับ,จากข่าวที่เฉินเพิ่งซื้อมา,กล่าวว่าเผ่าเต่าทมิฬต้องการปิดทาง,เพื่อใช้ต้อนรับแขกผู้ทรงเกียรติ!"โต้วเหว่ยเอ่ย.
"แขกผู้ทรงเกียรติ?
ใครกันที่เป็นแขกผู้ทรงเกียรติของเผ่าเต่าทมิฬ?"จงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.
"เอ่อ,เป็นใครนั้น,เฉินเองก็ไม่รู้!"
"เอาล่ะ,เจ้ากลับไปก่อน,ข้ารู้แล้ว!"จงซานเอ่ย.
"ครับ!"โต้วเหว่ยที่รับคำในทันที.
โต้วเหว่ยที่จ้องมองไปยังกลุ่มของจงซานที่บินออกไป,โดยไม่สนใจแขกผู้ทรงเกียรติใดๆ,ทุกคนที่บินลึกเข้าไปด้านในทันที.
กลุ่มของจงซานไม่ได้บินไปยังเสาสวรรค์ที่อยู่ทางตะวันออก,หากแต่บินลึกเข้าไปยังสถานที่ด้านใน.
เหตุผลหลักๆนั้น,จงซานเป็นห่วงเป่ยชิงซือ,ดังนั้นการไปสำรวจเสาสวรรค์พักไว้ก่อน,เรื่องแรกเขาต้องการไปยังตำหนักเทพเหมันตร์ก่อน.
เรื่องถัดไปค่อยสำรวจเสาสวรรค์.
แน่นอน,แม้นว่าจะไม่เดินทางไปยังเสาสวรรค์,แต่เมื่อบินไปยังทิศเหนือ,ก็จะทำให้สามารถมองเห็นมันได้ชัดขึ้นเช่นกัน.
ความต้องการของจงซานนั้น,แน่นอนว่าเหล่าเสนาธิการย่อมไม่มีความเห็น,ส่วนหวนจีเองก็ไม่ขัด,ขณะที่พวกเขาบินไปยังทางเหนือ,ก็ปรากฏคนผู้หนึ่งเห็นเข้าในทันที.
"เป็นใครกัน,หยุดตรงนั้น!"
ขณะที่บินอยู่นั้น,เสียงๆหนึ่งที่ตะโกนลั่นก็ปรากฏขึ้นในทันที.
จงซานที่ก้มหน้าลงมอง,พบกระดองเต๋าขนาดร้อยจั้ง.
"จินเผิง!"จงซานเอ่ย.
"ตูมมมมมมม!"
หมัดของจินเผิงที่กระแทกพัดพากระดองเต่าออกไป.
เต่าตนนั้น,ยังไม่ได้เป็นเซียนด้วยซ้ำ,เซียนบรรพชนและเต่าระดับสวรรค์แท้,ถึงจะเป็นยอดฝีมือที่มีความสามารถ,ก็ไม่มีทางต้านได้.การให้ระดับเซียนบรรพชนลงมือ
นับว่าเป็นการขี่ช้างไล่จับตั๊กแตน.
หนานกงเซิ่งที่มีระดับเซียนโบราณ,หากแต่มีสถานะสูงกว่าจินเผิงในต้าเจิ้ง,ส่วนกุยเส่อก็มีอำนาจที่แตกต่างกัน,ทว่าเป้าหมายครั้งนี้,คือการจัดการเผ่าเต๋าทมิฬ,งานที่แม้จะเล็กน้อยนั้น,ก็จำเป็นต้องจัดการให้เร็วที่สุด.
ส่วนจินเผิง,เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก,เซิ่งหวังสั่งตัวเขา,ไม่ได้ดูแคลนเขาแน่นอน,แต่เพราะว่าเชื่อใจ,การเดินทางออกไปด้านนอกตลอดหลายปี,มีรึที่จะไม่มีจินเผิงเข้าร่วม?
"หยุด,ใครกันที่กล้าบุกรุกแดนเทวะเต๋าทมิฬ!"ในเวลานั้น,ปรากฏเสียงๆหนึ่งดังขึ้น.
เป็นชายในชุดสีขาว.
"ปัง!”
จงซานไม่จำเป็นต้องสั่งด้วยซ้ำ,ฝ่ามือของจินเผิงก็ตบเขาหมดสติไปในทันที.
พวกเขายังคงเดินทางไปยังทางเหนือต่อ,เหล่ายอดฝีมือเผ่าเต่าทมิฬที่ถูกจินเผิงตบสลบก็มากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน.
พวกเขาที่บินค่อยข้างสูง,ทำให้กลายเป็นเป้าใหญ่,ด้วยจำนวนคนไม่น้อยย่อมสามารถมองเห็นถนัด.
จงซานไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเผ่าเต่าทมิฬแม้แต่น้อย,ทว่าในเวลานี้,จงซานเร่งรีบบินไปยังตำหนักเทพเหมันตร์ให้เร็วที่สุด.
"หยุดตรงนั้น!"ใครอีกคนที่เอ่ยออกมาในทันที.
"ปัง!”
ฝ่ามือของจินเผิงที่ตบหน้าคนแล้วคนเล่า,ที่ไม่แม้แต่บินขึ้นมาได้.
เพียงแค่เงยหน้าขึ้นมาก็ถูกตบสลบไปแล้ว,จากพื้นที่ไกลออกไปในตำหนักแห่งหนึ่ง,ปรากฏชายชราผมขาวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อาจารย์,มีอะไรอย่างงั้นรึ?"ชายผู้หนึ่งตรงข้ามชายชราเอ่ย.
"ศิษย์น้องเจ้าถูกโจมตี!"ชายชราเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"โจมตี? ทว่าที่นี่คือแดนเทวะเผ่าเต่าทมิฬ,ใครกันที่หาญกล้าขนาดนั้น!"
ชายชราที่ไม่เอ่ยอะไร,ทว่าสัมผัสเทวะของเขาที่กวาดออกไป,ในเวลานี้เขาพบว่าคนของเผ่าทมิฬกว่าสามสิบคนสลบนอนเหยียดบนพื้น.
"ไม่ได้การแล้ว,ไปแจ้งจือจุ้น! ข้าจะเร่งรีบไปขวางไว้ก่อน!"ชายชราะเอ่ย.
"ครับ!"
ชายชราที่ก้าวออกมา,หายไปในทันที.
ส่วนกลุ่มของจงซาน,ในเวลานี้หยุดจ้องมองไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง.
เขาเห็นคนหลายสิบคน,ที่ล้อมรอบอยู่หากแต่ไม่บินออกมา,พวกเขาที่ยังคงคอยเฝ้าพื้นที่ดังกล่าวปกป้องเสาสวรรค์เอาไว้,กลุ่มจงซานที่สามารถมองเห็นท้องฟ้าได้ชัดเจนขึ้น.
เสาสวรรค์,ที่ไม่รู้ว่าสูงขึ้นไปเท่าใด,เพราะสูงขึ้นไปนั้นมีหมอกมากมายปกคลุม.
เสาสวรรค์ที่ตั้งลงบนลานแห่งหนึ่งคำยันกับปลายยอดที่ปรากฏหลุมน้ำวนซึ่งมีขนาดรัศมีหนึ่งล้านลี้,และบนเสาที่สูงขึ้นไปทั้งสี่นั้นก็มีบางอย่างอยู่ด้านบน,ราวกับว่าห้วงมิติได้เปิดออก,ปรากฏทางเข้าอีกแห่งขึ้น.
บนพื้นที่สูงสุดของเสา,ไม่ได้เชื่อมไปยังอวกาศ,ทว่ามันมีแสงมากมายส่องประกายสว่างจ้า,,จงซานที่สามารถมองเห็นปิศาจสวรรค์ที่กำลังโบยบินอยู่รอบๆทางเข้าด้วย.
"โลกปิศาจสวรรค์?"จินเผิงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
โลกปิศาจสวรรค์? คาดไม่ถึงเลยว่าเสาสวรรค์ทั้งสี่จะค้ำยันกับโลกปิศาจสวรรค์อย่างงั้นรึ?
เหล่าปิศาจสวรรค์มากมายกำลังพุ่งลงมาด้านล่าง,มีม่านที่เนื้อเยื่อกั้นอยู่,เหล่าปิศาจสวรรค์ที่พุ่งลงมา,ทันใดนั้นมันที่ถูกกระเด้งกลับไป,ถูกขวางเอาทางเข้าโลกปิศาจสวรรค์เอาไว้.
"นั่นมันโลกปิศาจสวรรค์,กลิ่นอายปิศาจสวรรค์ถูกส่งออกมาจากทางนั้น."หวนจีกล่าว.
"ตำหนานเป็นจริงรึ?
นวีหว๋าอุดรูสวรรค์,ช่องว่างที่เกิดขึ้นระหว่างสวรรค์ปฐพี,ไม่ใช่ว่าสวรรค์จะลม,แต่เป็นทางเขาของโลกปิศาจสวรรค์ฉีกออก,นวีหว่าที่ต้องการฟื้นฟู,จึงใช้ศิลาเทวะห้าสีปิดรอยรั่ว,พร้อมกับใช้ขาเต๋าเทวะสี่ข้างคำยันเอาไว้,ทว่าเสาทั้งสี่คือขาเต๋าจริงๆรึ?
มันจะเกินจริงไปหรือไม่?"จินเผิงที่เผยท่าทางอัศจรรย์ใจ.
"จริง!"มีเสียงๆหนึ่งด้านหลังจินเผิงดังขึ้น.
"หืม?"
จินเผิงที่จ้องมองกุยเสอด้านหลังที่เอ่ยกล่าว.
"ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายจากเสานั่น,ภายในนั้นมีกลิ่นอายของเต่าทมิฬที่เข้มข้น,นอกจากนี้ยังเป็นกลิ่นอายของสายโลหิตลำดับแรกด้วย."กุยเสอที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"เต่าทมิฬรุ่นแรก?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ครับ!
กลิ่นอายนี้เหนือกว่าสายโลหิตของข้าแน่นอนว่าจะต้องเป็นกลิ่นอายของเต่าทมิฬรุ่นแรก,ดูเหมือนว่าจะเป็นขาของเต่าทมิฬของเต่าทมิฬรุนแรงจริงๆ!"กุยเสอที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
ก่อนหน้านี้ปีกหนึ่ง,ขณะที่อี้เหลี่ยนได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตำนานให้กับทุกคน,โดยเฉพาะอย่างยิ่งกุยเสอ,เขาไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย,หากแต่เวลานี้มันเกินจริงไปหรือไม่?
เต่าทมิฬรุนแรงคาดไม่ถึงเลยว่าจะใหญ่โตถึงขนาดนี้?
"เซิ่งหวัง,ตำนานเป็นจริงรึ?"จินเผิงที่จ้องมองไปยังจงซาน.
"หากที่นี่คือภูเขาปู้โจว,ในอดีตภูเขาปู้โจวเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"จงซานที่ขมวดคิ้วครุ่นคิด.
"ภูเขาปู้โจว?
เฉินดูเหมือนว่าจะได้ยินตำนานเช่นกัน,ในอดีตหยวนซือเทียจุ้นได้นำบางส่วนของภูเขาปู้โจวมาหลอมเป็นเทละเพื่อใช้ผนึกสวรรค์,และไม้เท้าเคลื่อนภูผา,ซึ่งเวลานี้อยุ่ในมือของเทียนเสิ่นจื่อ,เฉินเองก็ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือไม่!"จินเผิงครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"ไปเถอะ,ไปยังทิศเหนือ,ค่อยกลับมาที่นี่อีกครั้ง!"จงซานเอ่ย.
"ครับ!"ทุกคนที่รับคำในทันที.
ขณะที่ทุกคนกำลังจะมุ่งไปยังทางเหนือ.
"หยุด,พวกเจ้าเป็นใคร!"เสียงๆหนึ่งที่ดังขึ้น.
"วูซซซ!"
จินเผิงที่สะบัดฝ่ามือออกไป,บนอากาศที่วางเปล่า,ปรากฏคนผู้หนึ่ง,คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนซ่ออยู่ในนั้น.
ชายชราผมขาว.
"เอ๊ะ!"จินเผิงที่ประหลาดใจเล็กน้อย.
"เซียนบรรพชน?"ชายชราผมขาวกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เจ้าเองก็เป็นเซียนบรรพชนอย่างงั้นรึ?"จินเผิงที่ขมวดคิ้ว,รับรู้ว่าจะเริ่มตรึงมือแล้ว.
ชายชราไม่ได้จดจ้องมองจงซานมากนัก,ทว่าเขาจ้องมองไปยังกุยเสอ,เผยท่าทางประหลาดใจออกมา.
"ผู้น้อยกุยเสิ่นอู๋,ทุกท่านเป็นใคร?"ชายชราที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม,ทว่าสายตายังคงจ้องมองไปยังกุยเสอ.
"เจ้าเป็นเต่าทมิฬรุ่นสีอย่างงั้นรึ?"กุยเสอที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ใช้,ผู้ชรานั้นมีสายโลหิตลำดับสี่,แล้วเจ้าเป็นอะไรกับเผ่าเต่าทมิฬ?
ทำไมถึงได้มีสายโลหิตสูงกว่าข้ากัน? เจ้าเป็นเป็นใคร? ต้องการทำอะไร?"กุยเสิ่นอู๋เอ่ยอย่างเคร่งขรึม.
"ในเมื่อเจ้ามีสายโลหิตที่ต่ำกว่าข้า,เจ้าก็ไม่มีคุณสมบัติถามข้า!"กุยเสอที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
จงซานไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา,ก่อนหน้านี้ขาได้พูดคุยกับกุยเสอเอาไว้แล้ว,ดังนั้นจึงอนุญาตให้กุยเสอดำเนินการ.
ภายในใจกุยเสิ่นอู๋ที่ตกใจกับคำพูดของกุยเส่อ,เขาที่ขมวดคิ้วครุ่นคิด,ด้วยสายโลหิตที่สูงกว่าย่อมสะกดข่มสลายโลหิตที่ต่ำกว่าได้.
"เอาล่ะ,อย่าได้มาขวางพวกเรา!"กุยเสอที่ส่ายหน้าไปมา.
ขณะที่พวกเขากำลังจกจากไป,กุยเสิ่นอู๋ก็ส่ายหน้าไปมา,"สายโลหิตของเจ้าบริสุทธิ์กว่าข้า,เกี่ยวกับธรรมเนียมของเผ่าเต่าทมิฬ,เจ้าควรค่าให้ข้าให้ความเคารพ,สายโลหิตรุ่นที่ต่ำกว่าย่อมไม่สามารถต่อต้านรุ่นที่สูงกว่าได้,ทว่า,ที่นี่ไม่ว่าอย่างไรก็คือแดนเทวะของเผ่าเต่าทมิฬ,ข้าได้แจ้งต่อจือจุ้นแล้ว,จื่อจุ้นกำลังมา! โปรดรอสักครู่!"
กุยเสิ่นอู๋ที่กล่าวออกมาด้วยความสุภาพ.
"เซียนเทียนจง?"กุยเสอที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ใช่,ตอนนี้จือจุ้นเผ่าเต่าทมิฬ,ก็คือเซียนเทียนจง!"กุยเสิ่นอู่ไม่ได้ปิดบัง.
"วูซซซซซ!"
สายลมที่ระเบิดพัดกระหน่ำ,ด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่สูงของจื่อจุ้นเผ่าเต่าทมิฬ,พริบตาเดียวก็เดินทางเข้ามาใกล้แล้ว.
ชายในชุดสีทองที่ดูกำยำ,ใบหน้าที่เย็นชาเคร่งขรึม,ทันทีที่มาถึง,ก็จ้องมองกุยเสิ่นอู๋ด้วยความสงสัย,จ้องมองจงซาน,และจ้องมองกุยเส่อ,ดวงตาที่หรี่เล็กลง.
"คารวะจือจุ้น!"กุยเสิ่นอู๋กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"อะไร? เขาคือเซียนเทียนจง?
สายโลหิตรุ่นหก,ก็ได้เป็นจือจุ้นอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของกุยเสอที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น