วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2564

Immortality Chapter 1252 Opportunity

Immortality Chapter 1252 Opportunity


Chapter 1252 Opportunity

机会

  โอกาส

 

จงซานที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว,แต่ก็มีความพอใจเช่นกัน,สิ่งที่ทำให้โกรธคือการลอบโจมตีของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย,ที่ทำการขัดขวางการยกระดับต้าเต๋าของเขา,แม้นว่าการทำให้มันสมบูรณ์นั้นไม่รู้ว่าต้องรอถึงเมื่อไหร่,อย่างไรก็ตาม,ก็พอใจที่ต้าเต๋าที่หยุดที่ 50 % มายาวนาน,แต่ก็พัฒนาเพิ่มขึ้นมามากมาย.               

 

พลังราชันย์แห่งกฏ,จงซานรับรู้พลังมันดี,จากการที่ใช้ออกมา,ต้าเต๋าของเขามีอำนาจเหนือพลังแห่งกฏต่างๆ,พลังที่สามารถช่วงชิงอำนาจเทียนเต๋าของคนอื่นมาเป็นพลังของตัวเองได้.

 

เกือบเป็นต้าเต๋าที่สมบูรณ์แล้ว,มันขาดแค่เพียง 1%,จงซานไม่สามารถเข้าใจมันได้อีก,บางทีอาจจะต้องเข้าไปอยู่ในสภาวะการดังกล่าวอีกครั้งถึงจะตระหนักรู้ก็เป็นได้.

 

"จงซาน!"หวนจีที่อยู่ใกล้ๆเอ่ยปากออกมาทันที.

 

"หืม?"จงซานจ้องมองหวนจีด้วยความสงสัย.

 

"ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีคนกล้าลอบโจมตีพวกเรา,ดังนั้นข้าเลยไม่ได้สนใจ!"หวนจีที่เอ่ยออกมาเสียงเบาๆ,เผยท่าทางรู้สึกผิดที่ผิดพลาดก่อนหน้านี้.

 

"คงไม่มีใครคาดถึงหรอก,ไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเอง!"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน.

 

เห็นจงซานเผยยิ้ม,ความไม่สบายใจของนางก็มลายหายไปในทันที.

 

"เพียงแต่ว่า,จวงจื่อคงไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี,คาดไม่ถึงเลยว่าจะเมินต่อความปรารถนาดีของเจ้า,เป็นคนที่น่ารำคาญนัก!"หวนจที่เผยท่าทางโกรธเกรี้ยว.

 

"ไม่มีสิ่งใดน่ารำคาญ,เขาทำเช่นนี้ก็ดีแล้ว,หลังจากนี้ข้าไม่จำเป็นทำให้ข้ารู้สึกหนักใจ."จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"ทำไม?"หวนจีที่เผยท่าทางสงสัย.

 

"เขาที่ทำให้ข้ารับรู้ถึงเขตแดนเต๋าได้,จวงจื่อคือตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวมาก,ความแข็งแกร่งของเขานั้นลึกล้ำเป็นอย่างมาก,ในอนาคตมีความเป็นไปได้ว่าพวกเราจะต้องปะทะกับเขา,ในเวลานั้นหากข้ากังวลใจกับบุญคุณล่ะก็,ต้าเจิ้งจะต้องเสียหายอย่างหนัก,ดังนั้น,ครั้งนี้,บุญคุณทั้งหมดจบสิ้นแล้ว,จะกลายเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆรึ?"หวนจีที่เผยท่าทางประหลาดใจ,จะทำให้ต้าเจิ้งเสียหายรึ? แม้แต่ปราชญ์เทพยังไม่สามารถทำได้เลย.

 

"บนท้องฟ้าวิหารจวงจื่อ,พวกเขาไม่ได้มีวาสนา,ไม่ได้มีกรรมวาสนา,ในอดีตเขาปฏิเสธตำแหน่งปราชญ์เทพอีกด้วย,และยังไม่ได้สร้างราชวงศ์วาสนา,ดังนั้นไม่จำเป็นต้องการเดาเลย!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

 

"คาดเดา?"หวนจีสอบถาม.

 

"จวงจื่อ,บางที่คงจะเหมือนกับหงจวิน,เขามีเคล็ดวิชาสวรรค์!"จงซานครุ่นคิด,ดวงตาเป็นประกาย.

 

"เคล็ดวิชาสวรรค์?"หวนจีที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

 

"อืม,มีความเป็นไปได้มาก,ข้าสัมผัสได้,ดังนั้นจวงจื่อผู้นี้,ไม่สามารถประมาทได้!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมาขณะพูด.

 

"แล้วทำไมจวงจื่อต้องช่วยเสวี๋ยเหม่ยด้วย?"หวนจีสอบถาม.

 

"เสวี๋ยเหม่ย? เขามองเห็นคุณค่าบางอย่างในตัวเสวี๋ยเหม่ย!"จงซานกล่าวยืนยัน.

 

"ทักษะเทวะลำดับแปด,วิชาคัดลอก,เนตรดอกเหมย?"หวนจีที่ครุ่นคิดกล่าวออกมา.

 

"หลักแหลม!"จงซานเผยยิ้ม.

 

หวนจีได้ยินคำพูดดังกล่าว,แม้นจะเป็นคำพูดที่จงซานจงใจกล่าวชม,แต่ก็ทำให้ภายในใจของนางมีความสุข.

-------------------------------------------------------------

 

วิหารจวงจื่อ.

 

หลังจากที่กลุ่มของจงซานจากไปแล้ว,การเทศนาเต๋าไม่สามารถดำเนินการต่อได้,สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังยอดเขาคุณเผิงที่ถูกกงเล็บมังกรบดทำลาย,สายตาของทุกคนที่ตื่นตะลึงตาค้าง.

 

บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่ถูกจวงจื่อช่วยเอาไว้,และยังได้รับบาดเจ็บหนักเลยก็ว่าได้.

 

แสงแห่งความโชคร้าย?

 

หลังจากนั้นไม่นาน,เรื่องดังกล่าวที่ถูกส่งไปทั่ว,แสงแห่งความโชคร้าย?

 

พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับผลลัพธ์แสงแห่งความโชคล้ายมาแล้ว,เป็นพลังที่น่าหวาดกลัวมาก,ก่อนหน้านี้หลายร้อยปี,บรรพชนชราที่ได้รับแสงสีน้ำเงินนี้เขาไป,จนทำให้ได้รับความโชคร้ายตลอดเวลา.

 

ความโชคร้ายก่อนหน้านี้ของบรรพชราเสวี๋ยเหม่ยจบไปแล้ว,หากแต่ได้รับแสงสีน้ำเงินเพิ่มเขาไปอีกอย่างงั้นรึ?

 

ดูเหมือนว่าความโชคร้ายของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยจะเริ่มขึ้นอีกแล้ว,นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่าจะเป็นความโชคร้ายที่ใหญ่โตกว่าเดิม.

 

เกี่ยวกับความโชคร้ายนั้น,เรื่องที่ได้ยินจากคนอื่นย่อมแตกต่างกันไป,ความโชคร้ายของบรรพชนเสวี๋ยเหม่ยนั้นมีมากมาย,หลายๆคนได้ยินมาตลอดหลายปี,มันเป็นความรู้สึกที่ฝังใจพวกเขาเช่นกัน,มากมายจนเกินกว่าจะรับได้,ไม่ต้องบอกเลยว่าบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยถึงได้คลั่งแค้นขนาดนั้น,กับยอดคน,จิตใจของพวกเขานั้นแข็งแกร่งมา,โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าเซียนบรรพชน.

 

แต่กระนั้นบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่ได้รับความโชคร้ายตลอดหลายไป,มันเพียงพอที่จะสะบั้นจิตวิญญาณของเขา,จิตใจที่แข็งแกร่งของเขาได้พังทลาย,ด้วยความโชคร้าย,และความโชคร้ายที่เขาได้รับนั้น,ก็ทำให้ผู้ฝึกตนหลายคนเช่นกันที่ได้รับความยินดี.

 

หลายคนในเวลานี้ต่างก็รู้สึกว่าจงซานน่าหวาดกลัว,บางคนที่จับจ้องมองไปยังบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย,คาดหวังที่จะเห็นผลลัพธ์ที่เขาจะได้รับต่อจากนี้.

 

และบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยก็ไม่ได้ทำให้ทุกคนผิดหวัง,อาการบาดเจ็บของเขาที่ไม่เสถียร,มันย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม,เขาที่พ่นโลหิตออกมา,ร่างกายที่เริ่มเขียวคล้ำ,คล้ายกับถูกพิษ,สายตาของทุกคนที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ,พร้อมกับไอเป็นโลหิต,เรื่องนี้? เขาไอออกมาไม่หยุด โลหิตที่อาบไปทั่วร่าง.

 

"ทุกท่าน,การเทศนาเต๋าในวันนี้จบลงแล้ว,ขออภัยกับการตัดรับที่ย่ำแย่!"จวงจื่อที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล.

 

แม้นว่าเสียงจะไม่ดังนัก,ทว่าทุกคนก็ได้ยินอย่างชัดเจน.

 

"ข้าและทุกคนต่างก็ได้รับผลประโยชน์มากมาย,เรื่องนี้ต้องขอบคุณอาวุโส!"

 

"อาวุโสอย่าได้ถ่อมตัว!"

 

"ขอบคุณอาวุโส!"

........................

............

......

 

เสียงสำนึกบุญคุณที่ดังก้องไปทั่วสารทิศ.

 

จวงจื่อที่ก้าวออกไป,มาปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย.

 

บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่ได้รับบาดเจ็บหนักจดจ้องมองไปยังจวงจื่อด้วยแววตาซับซ้อน.

 

"อา,อาจารย์!"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่กล่าวออกมาอย่างยากลำบาก.

 

เขาที่ยากจะกล่าวออกได้,ก่อนหน้านี้,จวงจื่อและเขานั้นมีสถานะเท่ากัน,คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะกลายมาเป็นอาจารย์ของตน,และยังรับเขาต่อหน้าคนเป็นจำนวนมากด้วย.

 

"ไปเถอะ,รักษาตัวก่อน!"จวงจื่อที่เอ่ยตอบ.

 

จวงจื่อที่สะบัดฝ่ามือออกไปพร้อมกับนำบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย,ขึ้นไปยังตำหนักเสี่ยวเมิงบนยอดเขา.

 

"ปัง!"ประตูตำหนักที่ปิดลงเสียงดัง.

 

ทว่าในวิหารจวงจื่อนั้น,ศิษย์จวงจื่ออยู่ประจำอยู่ได้บินออกไป,เพื่อปลอบประโลมอาลมของเหล่าผู้ฝึกตนอื่นๆ,พร้อมกับยื่นเสนอต่อรองกับพวกเขาด้วย.

 

ทว่ารอบๆวิหารจวงจื่อ,บนยอดเขาสีเขียวที่ไม่สูงนัก,เวลานี้มีร่างสามร่างยืนอยู่.

 

เป็นคนที่เขาไปพบกับจงซานก่อนหน้านี้,อี้หลานเชวี๋ย,บิดาและบรรพชน.

 

คนทั้งสามที่เฝ้าดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ,จวบจนถึงตอนนี้ทุกคนที่เงียบงัน,พูดอะไรไม่ออก.

 

จวบจนจงซานจากไปแล้ว,จวงจื่อนำบรรพชนชราเข้าไปในตำหนักเสี่ยวเมิ่ง,คนทั้งสามที่พ่นลมหายใจยาว.

 

"นั่น,นั่นคือจงซานอย่างงั้นรึ?"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อออกมา.

 

"เป็นจงซานที่พวกเรารู้จัก!"อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวยืนยัน.

 

"เชวี๋ยเอ๋อ,ข้าเริ่มเชื่อคำพูดของเจ้าแล้วเวลานี้!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่เผยท่าทางตื่นตระหนก.

 

เห็นชัดเจนว่า,ภายในโลกใบเล็กนั้นพวกเขาที่รับรู้ความแข็งแกร่งของจงซานดี,คาดไม่ถึงเช่นกันว่าในโลกใบใหญ่เองก็ทรงพลังเช่นกัน,สามารถยืนอยู่ต่อหน้าจวงจื่อรึ? มีต้าเต๋าที่ทรงพลัง,นี่คือจงซาน.

 

ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับการสู้รบที่สวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,แม้นว่าจะรู้ว่าจงซานนั้นทรงพลังขนาดใหน,แต่ก็เป็นเพียงแค่เรื่องเล่า,แต่ว่าวันนี้ได้เห็นด้วยตัวเอง,ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงตกใจเป็นอย่างมาก.

 

"เชวี๋ยเอ๋อ,จงซานแข็งแกร่งขนาดใหน?"บรรพชนสสอบถามออกไป.

took a deep breath, Yi Lanque eyes narrows the eyes, incomparably said calmly: „According to the judgment of Que'er, Zhong Shan strength, now might as well founder!”

อี้หลานเชวี๋ยที่สูดหายใจลึก,ดวงตาหรี่เล็กกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ,"ตามความเห็นชองเชวี๋ยเอ๋อนั้น,ความแข็งแกร่งของจงซาน,น่าจะไม่ต่างจากผู้ก่อตั้งแล้ว!"

 

"ผู้ก่อตั้งด้อยกว่าอย่างงั้นรึ? จะเอาจงซานมาเทียบกับผู้ก่อตั้งได้อย่างไร,แม้นว่าจะไม่สามารถเทียบกับปราชญ์เทพได้,ทว่าปราชญ์เทพก็ไม่กล้าประเมินผู้ก่อตั้งต่ำเช่นกัน!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.

 

อี้หลานเชวี๋ยที่ส่ายหน้าเบาๆ.

 

"มีอะไร? ข้ากล่าวผิดอย่างงั้นรึ?"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.

 

"ไม่,ท่านพ่อ,ข้าเชื่อว่าท่านประเมินผู้ก่อตั้งต่ำไป,และประเมินจงซานต่ำไปด้วยเช่นกัน!"อี้หลานเชวี๋ยที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"เจ้าคิดว่าข้าประเมินต่ำไปตรงใหน?"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่ดวงตาเบิกกว้าง,ชัดเจนว่าเขาไม่ค่อยพอใจบุตรเท่าใดนัก.

 

"เอาล่ะ,เชื่อในคำพูดของเชวี๋ยเอ๋อ!"บรรพชนที่กล่าวป้อง.

 

แน่นอนว่า,อี้หลานเชวี๋ยไม่ได้ปฏิเสธ,เพียงแต่มุมมองของทั้งสองต่างกัน,ทำให้เกิดการโต้แย้งขึ้นมา.

 

"ท่านพ่อ,บรรพชน,พวกเราไม่ต้องเอ่ยถึงความแข็งแกร่งของจงซานและผู้ก่อตั้ง,ข้อมูลที่ข้ามอบให้ก่อนหน้านี้,ท่านคิดว่าข้าพูดเกินจริงรึ?"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

 

"ไม่!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ย,ครุ่นคิดและกล่าวยืนยัน.

 

บรรพชนที่พยักหน้ารับเช่นกัน.

 

"ไม่ได้เกินจริง,เพราะว่ามันยังไม่ใช่ข้อมูลทั้งหมด,ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินความแข็งแกร่งของจงซานน้อยไปด้วยซ้ำ!"อี้หลานเชวี๋ยที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"น้อยกว่าอย่างไร? เจ้าไม่ได้บอกว่าเขาไม่ได้ด้อยกว่าผู้ก่อตั้งหรอกรึ?"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"ด้อยกว่านะรึ? ท่านพอ,ท่านคิดว่าจงซานมีอายุเท่าใด?"ใบหน้าของอี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม.

 

ด้วยคำพูดของอี้หลานเชวี๋ย,ทั้งคู่ที่กลายเป็นเงียบไปในทันที? จากโลกใบเล็กจนถึงวันนี้,จงซานอายุพันกว่าปี? พันกว่าปี,กลับกลายเป็นไม่ธรรมดา,เรื่องนี้....

 

"จงซานที่เติบโตแบบก้าวกระโดด,นอกจากนี้,ยุคแห่งความวุ่นวายใกล้เข้ามาแล้ว,ผู้ก่อตั้งไม่สามารถปกป้องพวกเราได้!"อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.

 

"ไม่ปกป้องอย่างงั้นรึ? เป็นไปไม่ได้?"อี้หลานเชวี๋ยเที่กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ.

 

"ไม่,ไม่มีทางปกป้อง,การปกป้องตระกูลอี้องข้า,ก็เหมือนๆกับปกป้องบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยนั่นล่ะ."อี้หลานเชวี๋ยที่ดวงตาหรี่เล็กลง.

 

"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยอย่างไร?"อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.

 

"โปรดคิด,นับตั้งแต่,บรรพชนมาอยุ่ที่นี่,เคยถูกเรียกไปสอบถามหรือไม่!"อี้หลานเชวี๋ยที่ส่ายหน้าไปมาหากแต่ไม่ได้กล่าวอะไรออกไป.

 

อี้หลานเชวี๋ยพอจะเข้าใจจุดจบของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยได้,ทว่าไม่ต้องการกล่าวอะไรออกไป.

 

"แต่ว่านะ,เชวี๋ยเอ๋อ,จงซานที่ถูกผู้ก่อตั้งไล่ไปนั้น,เจ้าเองก็เห็น,จงซานเป็นศัตรูคู่แค้นของบรรพชนชราเสวี๋ยเม่ยที่กลายเป็นศิษย์ของผู้ก่อตั้งแล้ว,จงซานที่จากไปเช่นนั้น,เจ้าคิดว่าตระกูลอี้จะเข้าร่วมต้าเจิ้งนั้น,ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว!"บรรพชนที่เอ่ยปาก.

 

"เฮ้เฮ้,บรรพชน,ท่านเข้าใจผิดแล้ว!"อี้หลานเชวี๋ยที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.

 

"หืม?"

 

"อย่างแรก,บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยไม่ใช่ศัตรูของจงซาน,เขาเป็นเพียงคนที่จงซานรังเกียจเท่านั้น,เพราะว่าเขาไม่คู่ควรจะเป็นศัตรูของจงซาน!"อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวยืนยัน.

 

"หืม?"ทั้งคู่ที่ตกใจเล็กน้อย.

 

"ถัดมา,การที่จงซานจากไปเช่นนี้,เชวี๋ยเอ๋อไม่คิดว่าตระกูลอี้จะไม่มีโอกาสเข้าร่วมต้าเจิ้ง,หนำซ้ำ,เชวี๋ยเอ๋อคิดว่านี้เป็นโอกาสดี!"อี้หลานเชวี๋ยที่ดวงตาเป็นประกาย.

 

"หืม? หมายความว่าอย่างไร?"บิดาของอีหลานเชวี๋ยที่สอบถามออกมาด้วยความสงสัย.

 

"ข้ากล่าวแล้วต้าเจิ้งตอนนี้จะยิ่งสมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อยๆ,พวกเขาที่กำลังดูดซับสิ่งที่ขาดไปเข้ามาเรื่อยๆ,อีกไม่นานแล้ว,ทุกอย่างจะสมบูรณ์,ทว่าตระกูลอี้เข้าร่วมต้าเจิ้ง,จะไม่ได้มีอำนาจมากนัก,ความสามารถของพวกเราไม่ได้แข็งแกร่งนัก,การเข้าร่วมต้าเจิ้งนั้นก็เพื่อความปลอดภัยของพวกเราเท่านั้น!"อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.

 

"ใครบอกว่าพวกเราไร้ความสามารถ,เรื่องกลยุทธิ์บุตรชาย..!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยเอ่ยออกมาในทันที.

 

"ไม่,บุตรรู้ตัวดี,เรื่องเชาว์ปัญญาของบุตรนั้น,ต้าเจิ้งนั้นมีข้าราชบริพารที่เป็นอสุรกายพรสวรรค์มากมาย,หากพวกเราไม่มีความดีความขอบ,ตระกูลอี้ของพวกเราก็ยากที่จะโดดเด่นในต้าเจิ้ง,และเชวี๋ยเอ๋อเองก็ไม่ต้องการสร้างความลำบากใดๆต่ผู้ก่อตั้ง,ทว่าในเวลานี้พวกเราไม่สามารถละทิ้งโอกาสได้! เพราะว่าบางที่นี่จะเป็นเพียงโอกาสที่จะทำให้ตระกูลอี้โดดเด่นได้ในยุคแห่งความวุ่นวาย!"อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวอย่างหนักแน่น.

 


 






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น