วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2564

Immortality Chapter 1249 Dao Boundary

Immortality Chapter 1249 Dao Boundary


Chapter 1249 Dao Boundary

道境

เขตแดนเต๋า.

 

อาณาเขตเสี่ยวเมิ่ง,วิหารจวงจื่อ.

 

บนวิหารยอดเขาที่สูงที่สุด,ที่ด้านหน้าตำหนักในเวลานี้มีชายในชุดสีขาวยืนอยู่,ชุดสีขาวของเขามีลายดอกเหม่ยปักที่เสื้อขนาดใหญ่,ดูหรูหราเป็นอย่างมาก.

 

บุรุษคนดังกล่าวที่โค้งคำนับเล็กน้อย.

 

"ขอบคุณจวงจื่อ!"ชายในชุดสีขาวที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพอย่างที่สุด,ในเวลานี้ใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความสุข.

 

จากนั้นเสียงจากด้านในห้องโถงที่ดังขึ้นมาช้าๆ.

 

"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ย,หลายปีมานี้,เจ้าสะสมกรรมดีมาโดยตลอด,คนทั่วหล้ารู้ดี,สร้างประโยชน์ต่อประชาชน,กำจัดทุกข์บำรุงสุขให้มวลประชา,ทว่าภายในร่างของเจ้านั้นก็ยังมีแสงแห่งความโชคร้ายอยู่,พลังของมันที่ไม่ธรรมดา,ถึงจะเป็นข้าก็ทำได้แค่ผนึกมันเอาไว้เท่านั้น."เสียงของจวงจื่อที่ดังออกมาจากภายในห้องโถง.

 

"สามารถผนึกเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์,ไม่ทำให้ผู้น้อยผิดหวังแม้แต่น้อย,ด้วยพลังฝึกตนของข้าที่ล่วงหล่นไปเป็นเซียนโบราณ,เพราะว่าได้ท่านช่วย,ทำให้ข้ากลับมาเป็นเซียนบรรพชนได้อีกครั้ง,นับจากนี้ไป,ไม่ว่าจะเรื่องอะไร,เสวี๋ยเหม่ยจะทำตามคำแนะนำของท่าน!"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่กล่าวอย่างหนักแน่น.

 

"อืม,แม้นว่าภายในร่างของเจ้าแสงแห่งโชคร้ายจะถูกผนึกไว้,ทว่าเจ้ายังคงต้องทำดีต่อไป,เจ้าจะสามารถชำระล้างความโชคร้ายนี้ไปช้าๆ,ห้ามเจ้าปรากฏความ โลภ,โกรธ,หลงอีก!"จวงจื่อที่กล่าวออกมา.

 

"เสวี๋ยเหม่ยจะสลักฝังมันไว้ในใจ!"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

 

"เอาล่ะ,เจ้าไปได้แล้ว,การเทศนาเต๋ากำลังจะเริ่มแล้ว!"จวงจื่อที่เอ่ยกล่าวออกมาอีกครั้ง.

 

"ครับ!"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่พยักหน้ารับ.

 

บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่ก้าวถอยและลงจากยอดเขาไป.

 

ด้วยการช่วยเหลือของจวงจื่อ,ท้ายที่สุดบรรพชนเสวี๋ยเหม่ยก็สามารถผนึกแสงสีน้ำเงินเอาไว้ในส่วนลึกของดวงวิญญาณแล้ว,แสงสีน้ำเงิน,ที่ทำให้เขาต้องทุกข์ทรมานมาหลายปี,ท้ายที่สุด,ตอนนี้เขาก็สามารถผนึกความโชคร้ายเอาไว้ได้แล้ว,ต่อไปเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว.

 

ความโชคร้ายที่ถูกผนึก,ภายในใจของบรรพชนชราที่ดูโล่งสบาย,ความอดสูทั้งหมดได้หายไปแล้ว,เวลานี้เขานับว่าเป็นหนี้ครั้งใหญ่ต่อจวงจื่อ.

 

"อาจารย์!"ชายในชุดสีขาวคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วแน่นขณะที่ก้าวเข้ามาหา.

 

บรรพชนเสวี๋ยเหม่ยที่จ้องมองไปยังศิษย์คนเดียวที่เหลืออยู่,ก็รู้สึกพึงพอใจ,นี่คือศิษย์คนสุดท้าย,เขาที่เคยเป็นเซียนบรรพชนที่มีชื่อเสียงในภาคเหนือ,คาดไม่ถึงเลยว่าทุกอย่างจะจบสิ้น,ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะจงซานคนเดียว.

 

แม้นว่าหลายปีมานี้เขาจะพยายามควบคุมตัวเอง,ทว่ากลับไม่สามารถลดความเกลียดชังที่มีกับจงซานได้เลย.

 

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่สอบถามออกไป.

 

"จงซานมา,อยู่บนยอดเขาคุณเผิง,ศิษย์เห็นมันด้วยตาตัวเอง.

 

"จงซาน?"ดวงตาของจงซานกลายเป็นดุร้ายขึ้นมาในทันที.

 

สายตาของบรรพชนเสวี่ยเหม่ยที่จ้องมองไปยังยอดเขาที่อยู่ไกลออกไป,ก่อนที่จะหลบลี้อย่างรวดเร็ว.

 

สำหรับจงซานนั้น,บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่ทั้งเกลียดและกลัวด้วย,แม้นว่าหลายปีมานี้จะพยายามสงบอารมณ์,ไม่สนใจจงซานอีก,ทว่าก็รับรู้เกี่ยวกับเรื่องที่ปราชญ์เทพสามคนที่เข้าล้อมสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ทำให้เขามีชื่อเสียงมาก,ในภาคเหนือนั้นทุกคนรู้กันหมด,แม้นว่าเรื่องนี้จะดูเกินจริง,ทว่าบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยก็ไม่กล้าประมาทจงซานเช่นกัน.

 

ในอดีตเขามีเพียงระดับต้าเซียน,แต่กลับทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมาน,เวลานี้จะต้องร้ายกาจกว่าเดิมแน่.

 

"อาจารย์,ทำอย่างไรดี? พวกเราจะล้างแค้นให้ศิษย์พี่ศิษย์น้องหรือไม่? วิหารของอาจารย์,เป็นเพราะจงซาน,ทุกอย่างที่พวกเราต้องทนทุกข์ตลอดหลายปีมานี้,ก็เพราะจงซาน,ความแค้นนี้หากไม่ชำระ,คงยากที่จะบรรเทาความเกลียดชังได้!"ศิษย์คนดังกล่าวที่กำหมัดแน่น.

 

บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยเองก็กำหมัดแน่นเช่นกัน,ความเกลียดชังที่มากมายนี้,คงไม่มีใครรับรู้เท่ากันตัวเขาเอง,บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยเองก็ปรารถนาที่จะชำระแค้นนี้ด้วยเช่นกัน.

 

ทว่าทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคำกล่าวของจวงจื่อก่อนหน้านี้ได้.

 

" แม้นว่าภายในร่างของเจ้าแสงแห่งโชคร้ายจะถูกผนึกไว้,ทว่าเจ้ายังคงต้องทำดีต่อไป,เจ้าจะสามารถชำระล้างความโชคร้ายนี้ไปช้าๆ,ห้ามเจ้าปรากฏความ โลภ,โกรธ,หลงอีก!"

 

ห้ามปรากฏความโลภ,ความโกรธ,ความหลงอย่างงั้นรึ?

 

ใบหน้าของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่กระตุก,จ้องมองไปยังทิศทางของยอดเขาคุนเผิง,จับจ้องมองตำหนักบนยอดเขา,ความแค้นอัดอั้นที่ราวกับว่าจะปะทุออกมาจนแทบไม่สามารถขวางกั้นได้.

 

"อาจารย์,ความโชคร้ายของอาจารย์นั้น,เดิมทีเป็นพลังของจงซาน,หากจงซานตายไป,ความโชคร้ายนั่นจะต้องหายไป....!"

 

ศิษย์เขาที่กล่าวยังไม่จบ,บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่หันขวับกลับมองด้วยสายตาดุร้ายในทันที.

 

ใช้,หากจงซานตายไป,ความโชคร้ายจะหายไปรึไม่? บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่สูดหายใจลึกรับรู้ถึงความแค้นของตัวเอง,ถึงแม้นว่าจะสังหารจงซานไป,ความโชคร้ายไม่หายไป,บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยก็ยังต้องการแก้แค้น.

 

"หนึ่งครั้ง,ขอทำชั่วอีกสักครั้ง! จากนั้นจะไม่ทำอะไรอีก,เพื่แก้แค้น,นี่ไม่นับว่าเป็นความชั่วร้ายใดๆ."หัวใจของบรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่กำลังสั่นไหวไปมา.

 

"อาจารย์,จงซานนำคน 12 คนมาด้วย,แน่นอนว่าต้องเป็นยอดฝีมือ,พวกเราจะทำอย่างไรกันดี?"ศิษย์ที่เข้าใจความต้องการของอาจารย์ตัวเองได้.

 

"จวงจื่อกล่าวว่า,เมื่อถึงเวลาทุกคนจะถูกนำเข้าสู่ฝันของจวงจื่อ,คนของจงซานเองก็ไม่มีข้อยกเว้น,เตรียมตัว,สร้างค่ายกล,ช่วงชิงชะตาห้าธาตุ,อย่าให้ใครจับได้,ค่ายกลชะตา,หากเปิดการใช้ง่ายแล้ว,ถึงจะเป็นเซียนบรรพชน,เมื่อเข้าสู่โลกฝัน,ก็ทำได้แค่กลายเป็นผีเท่านั้น!"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา.

"ครับ!"

---------------------------------------------------------------------------

 

บนยอดเขาคุนเผิง,กลุ่มของจงซานที่กำลังรอคอย,ภายในห้องโถงนั้น,มีเพียงจงซานที่มีที่นั่งปลอดภัย,ส่วนคนอื่นๆที่ยืนอยู่รอบๆ,คอยคุ้มกัน.

 

ประตูขนาดใหญ่ที่เปิดขึ้นบนยอดเขา,สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังตำหนักเสี่ยวเหมิง.

 

แทบจะในทันที,ฟ้าดินที่เต็มไปด้วยผีเสื้อ,กำลังบินว่อนไปทั่วอากาศ,ผีเสื้อที่งดงามมากมายที่กำลังร่ายรำ,แทบจะในทันที,ทุกคนเวลานี้กำลังถูกดึงเข้าสู่โลกฝันที่ไร้ที่สิ้นสุดของเขา.

 

จิตสำนึกของทุกคนที่ถูกดึงไป,ทุกคนเข้าใจได้ในทันทีว่าการเทศนาเต๋ากำลังเริ่มขึ้นแล้ว.

"ตูมมมม ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

ประตูตำหนักบนยอดเขาที่เปิดออกทั้งหมดดังกึกก้องเสียงดังสนั่น.

 

เหล่าผีเสื้อมากมายมหาศาลที่ร่ายรำบนอากาศ,ทุกคนที่สามารถมองเห็นม่านพลัง,มองเห็นตำหนักที่ดูเหมือนกับภาพลวง,ความรู้สึกที่คลุมเครือได้ปรากฏขึ้น.

 

เหล่าศิษย์ของจวงจื่อเวลานี้กำลังบินมารวมตัวกันบนลานของตำหนักขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว.

 

ภายในห้องโถง,ปรากฏชายชราที่สวมชุดสีน้ำเงินอ่อน,ชายชราที่มองเห็นเป็นสีขาวดำ,ชุดคลุมที่เขาสวมอยู่นั้นดูประณีตโอ่อ่า,ใบหน้าของเขาที่ดูเปี่ยมไปด้วยเมตตา,ทำให้ทุกคนที่จ้องมองนั้นรู้สึกคุ้นเคย.

 

"นี่คือจวงจื่อ?"จินเผิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

 

"ดูธรรมดา,หาแต่ดูสง่าและยิ่งใหญ่,แผ่กลิ่นอายที่น่าเคารพออกมา,เป็นจวงจื่อแน่นอน!"เต้าเหรินถูเอ่ย.

 

ใบหน้าของจวงจื่อที่ไม่สุขหรือทุกข์,เขาที่ก้าวมาด้านหน้าตำหนัก,ก่อนที่จะเข้าประจำที่นั่ง,พร้อมกับเริ่มเทศนาเต๋า.

 

กาลครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าฝันไปว่าเป็นผีเสื้อโบยบินไปมาอย่างสบายใจ ไม่มีความวิตกกังวลใดๆ ผีเสื้อตัวนี้ไม่รู้เลยว่า มันคือจวงโจว(ชื่อเดิมของจวงจื่อ) แต่แล้วในทันใดก็ตื่นขึ้นรู้สึกตัวว่า ตัวคือจวงโจว

 

ข้าพเจ้ารู้สึกว่า เป็นการยากที่จะบอกได้ว่า ตนเองเป็นจวงโจวที่ฝันไปว่าเป็นผีเสื้อตัวนั้น หรือว่า ผีเสื้อตัวนั้นฝันไปว่า มันเป็นจวงโจว ระหว่างผีเสื้อกับจวงโจวนั้น จะต้องแตกต่างกันแน่ๆ

 

ขณะที่จวงจื่อเริ่มเอ่ย,ทุกสิ่งมีชีวิตในเขตแดนที่ดูมีชีวิตชีวา,ดวงตาของจงซานเอง,รู้สึกราวกับว่าปรากฏผีสีขึ้นมาในทันที,มันปรากฏและหายไป,จากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆที่ราวกับว่าหายไป,จงซานรู้สึกตัวเองพุ่งทะยายทะลวงหมู่มวลเมฆคา,ตัวเองกลายเป็นวัฏจักรฟ้าดินที่กำลังจับจ้องมองโลกหล้า.

 

จงซานที่เข้าสู่โลกลวงตา,อย่างไรก็ตามจงซานก็รับรู้ว่านี่คือโลกลวงตา,กับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้,จงซานที่ขัดขืนเล็กน้อย,เพื่อทะลวงอาณาจักร.

 

จงซานนั้นไม่ได้รู้สึกชื่นชอบพอใจกับภาพลวงตานี้.

 

เพราะว่าจงซานเข้าใจว่าภาพลวงตานี้ไม่ใช่โลกเขตแดน,ทว่ามันคือสิ่งที่ลึกล้ำกว่านี้,นี่คือเขตแดนเต๋า,เขตแดนเต๋าของจวงจื่อ,จวงจื่อที่ใช้ผีเสื้อมากมายนำทุกคนเข้าสู่โลกฝันอย่างคาดไม่ถึง,นั่นก็เพื่อที่จะเทศนาเต๋า,ซึ่งเขาได้ก้าวไปถึงเขตแดนเต๋าแล้ว.

 

มีเรื่องเล่าในอดีตเกี่ยวกับหงจวิน,เขาเองก็สามารถเทศนา,ที่มีความลึกล้ำก้าวสู่เขตแดนเต๋าแล้ว,คำเทศนาของเขานั้นเป็นเหมือนดั่งระฆังสวรรค์,ที่ทำให้ทุกคนได้รับผลประโยชน์มากมาย.

 

จงซานที่ถูกชักนำเข้าสู่เขตแดนเต่า,เหล่าผู้ฝึกตนทั้งหมดรอบๆวิหารจวงจื่อเองก็ถูกนำเข้าสู่เขตแดนเต๋าเกือบทั้งหมดเช่นกัน.

 

ภายในเขตแดนเต๋านี้,เป็นโลกที่มีความผันผวนเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว,ทำให้ทุกคนสัมผัสได้ด้วยใจ,ถึงแสงรุ่งอรุณที่ปรากฏขึ้น,แสงแห่งการกำเนิด,ที่วิวัฒนาการโลกใบนี้.

 

ในเวลานี้,ทั่วทั้งสวรรค์และปฐพีปรากฏเสียงของจวงจื่อที่เหมือนกับระฆังที่ดังก้องกังวาน.

 "แมลงฤดูร้อนไม่สามารถพูดถึงน้ำแข็ง,จิตใจที่คับแคบไม่สามารถพูดจาเปิดกว้าง,ชีวิตของคนเรามีขอบเขต,แต่ความรู้นั้นปราศจากขอบเขต,การที่เราจะใช้ชีวิตอันมีขอบเขตมาสร้างสรรค์เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้สึกอันปราศจากขอบเขตนั้น,จักเป็นอันตรายตายเสียเปล่า,ผู้ใดที่สามารถทำจิตของเขา,มิให้ตกอยู่ภายใต้อารมณ์ดี อารมณ์เลว,ผู้นั้นย่อมไม่แสวงหาซึ่งเสียงเกียรติยศเพราะเหตุแห่งความดี,หรือย่อมไม่กระทำผิดต่อศีลธรรมเพราะเหตุแห่งความเลวร้าย,เขาย่อมครองชีวิตไปตามวิธีตามธรรมชาติ,ไม่ฝืนธรรมชาติที่เขาเป็น,ใต้สวรรค์แห่งนี้เต็มไปด้วยความชั่วร้าย,เข้าใจที่จะหลบเลี่ยงการลงทัณฑ์,ส่งเสริมโชคลาภ,ปล่อยวางทิฐิ,ภัยพิบัติที่หนักหนา,สามารถผ่อนคลายด้วยความรู้."

 

เสียงของจวงจื่อที่ช้า,แต่ชัดเจน,จงซานที่รับฟัง,ทำให้ทันใดนั้นตระหนักรู้บางอย่างได้,ด้วยมุมมองของจวงจื่อ,และด้วยวิถีเต๋าของจวงจื่อทำให้จงซานได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างมาก.

 

ระหว่างนี้,จงซานที่สามารถเพิ่มอำนาจต้าเต๋าของตัวเอง,แม้นว่ามันจะยังไม่สมบูรณ์,แต่ก็รับรู้ว่าจะก้าวไปอย่างไร,รับรู้ว่าอะไรคือความเสี่ยง,ราวกับว่าเขาได้วิ่งเข้าไปพบกับน้ำทะเล,ทำให้เขาสามารถดูดซับความคิดได้,บางที่อาจะเป็นความคิดที่สมบูรณ์,แม้แต่จงซานสัมผัสได้อย่างเรื่อยๆ,ราวกับว่ามีความจริงบางอย่างที่เขาไม่เคยคิดถึง,ในเวลานี้เขากลับสามารถผ่านมันไปได้.

 

ดังนั้นจงซานจึงตั้งใจฟังเป็นการเฉพาะ,แม้แต่ละทิ้งความเป็นไปด้านนอก,เพื่อที่จะตระหนักรู้คำพูดของจวงจื่อ.

 

"เต๋าเป็นสภาวะบริสุทธิ์ ไม่มีการปรุงแต่งแต่อย่างใด,ปราศจากรูปลักษณ์อันพิสูจน์ได้ด้วยประสาทสัมผัส เต่าเป็นบ่อเกิดของสรรพสิ่ง เป็นรากฐานของสรรพสิ่ง และมีอยู่ในทุกสิ่ง,ผีสาง เทพ กษัตริย์ ล้วนเกิดมาจากเต๋าด้วยกันทั้งนั้น,เต๋าไม่มีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด,ดำรงอยู่เป็นเต๋านิรันดร์ "

 

ได้ยินหลักคำสอนแล้ว,ภายในจิตใจของจงซานที่ราวกับเพลิงที่ลุกโชติช่วง,เผาไหม้อย่างรุนแรง,ส่องประกายแสง,อาบไล้ชำระร่างกายของเขา.

 

"มีเต๋าในจิตใจ? จิตใจมีเต๋า? ใช่,ภายในใจมีเต๋า,ทุกสิ่งล้วนแต่มีกฏเกณฑ์,ทำไมถึงสามารถที่จะทำให้ต้าเต๋าเป็นจริงได้!"จงซานที่เอ่ยออกมาเบาๆ.

 

จงซานที่มีความเฉลียวฉลาด,เข้าใจความซับซ้อนได้มากกว่าคนอื่น,พริบตาเดียวนั้น,จงซานที่ราวกับว่าสามารถตระหนักรู้และยอมรับในคำพูดที่เหนือขึ้นไปของจวงจื่อ.

 

คำพูดของจวงจื่อนั้น,ได้ทำให้เขาไม่รับรู้เรื่องราวด้านนอก,เขาสู่ห้วงความคิดของตัวเอง.

 เปี่ยมสมาธิ,จิตสำนึกของเขาที่กำลังยอมรับและหลอมต้าเต๋าของตัวเองขึ้นมา.

 

คำพูดที่จงซานได้รับ,ทำให้ต้าเต๋าของตัวเองก่อนหน้านี้สร้างได้เพียงแค่ 50%,และยังยากที่จะพัฒนาต่อไปได้,การจะยกระดับมันไปอีกนั้น,จงซานที่คิดว่าไม่มีทางสมบูรณ์ได้,จนหยุดไว้ก่อน,การจะสร้างต้าเต๋าของตัวเองค่อยกลับมาคิดใหม่ในคราหลัง.

 

ทว่าในเวลานี้,ตั้งแต่ได้รับการเทศนาเต๋าจากจวงจื่อ,จงซานที่สามารถมองเห็นมุมมองใหม่ๆขึ้นมาในทันที,ทำให้ต้าเต๋า 50% ที่เคยมี,ได้รับการพัฒนาอีกครั้ง.

 

ต้าเต๋าของจงซานที่ก้าวสู่ความสมบูรณ์มากขึ้นและก็มากขึ้น.

 

60%, 70%, 80%, ใกล้เคียงที่จะทำให้ต้าเต๋าสมบูรณ์.

 

บนยอดคุนเผิง,จงซานที่เข้าสู่เขตแดนเต๋าของจวงจื่อ,ส่วนข้าราชบริพารอีกหลายคนเช่นกันที่ถูกดึงเข้าไป,ทว่ายังมีระดับเซียนโบราณเช่นกุยเช่อและหนานกงเซิ่งที่ไม่ได้เข้าไป,หวนจีเองก็ไม่มีผลกับนางเช่นกัน.

 

คนทั้งสามจึงกลายเป็นผู้คุ้มกันไปแทน,ในเวลาเดียวกันคนทั้งสองที่จดจ้องมองคนอื่น,และจ้องมองจงซานที่เวลานี้,มีวงแสงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น,วงแวนแสงที่ดูสูงศักดิ์เต็มไปด้วยอำนาจแห่งกฏ.

 

กุยเช่อและหนานกงเซิ่งที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นซับซ้อน,เผยท่าทางประหลาดใจ,เซิ่งหวังกำลังตัดผ่านระดับอย่างงั้นรึ?

 

คนทั้งสามไม่กล้ารบกวน,ทำได้แค่จับจ้องมองด้วยความระวัง.

90%, 91% 92 ...................

 

ต้าเต๋าของจงซานที่ใกล้สมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆ,เวลานี้จงซานที่สัมผัสได้ถึงอำนาจต้าเต๋าของตัวเอง,มันกำลังจะสมบูรณ์,ภายในใจของจงซานที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมากจนต้องรองออกมา,เขากำลังมีพลังแห่งกฏฟ้าดินของตัวเองแล้ว!

 

ทว่าด้านล่างภูเขาคุนเผิง,บรรพชนเสวี๋ยเหม่ยและศิษย์ของตัวเองที่สบตากันและกัน.

 

"ตอนนี้,จงซานน่าจะเข้าสู่เขตแดนแดนเต๋าของจวงจื่อแล้ว,เริ่มค่ายกลช่วงชิงชะตาห้าธาตุได้!"บรรพชนชราเสวี๋ยเหม่ยที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.

 

"ครับ!"







ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น