Immortality Chapter 1248 Yi Lanque to the bell it heart( third)
Chapter 1248 Yi Lanque to the clock it
heart( third)
忆蓝阙的向钟之心
ความปรารถนาของอี้หลานเชวี๋ย.
Dawn
Dream Territory.
เขตแดนเสี่ยวเหมิง.(เขตแดนฝันรุ่งอรุณ)
วิหารจวงจื่อ,เขตแดนดังกล่าวนั้น,มีขนาดใหญ่มีลักษณ์เป็นเหมือนกับผีเสื้อยักษ์,เป็นแดนเทวะเผ่าผีเสื้อ,เป็นเขตแดนที่ยากที่เผ่าพันธุ์อื่นจะเทียบได้.
ในช่วงระยะเวลานี้,มีผู้ฝึกตนมากมายทั่วหล้ามารวมตัวกัน,เดินทางมายังเขตแดนเสี่ยวเหมิงในครั้งนี้เพื่อเตรียมที่จะฟังการเทศนาเต๋าของจวงจื่อ.
จวงจื่อ,ผู้ที่ถูกขนานนามว่าอยู่ใกล้เคียงปราชญ์เทพมากที่สุด,ไม่มีใครสามารถเทียบได้,ทว่าเรื่องนี้,ได้ยินข่าวลืมมาว่า,มีแท่นบูชาฟ้าดินที่ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าจวงจือในอดีต,ฟ้าดินได้ประทานตำแหน่งให้.
ช่างน่าเสียดาย,ที่เขาได้ทำให้คนทั่วหล้าต้องสงสัย,จวงจื่อที่ได้ปฏิเสธการประทานในครั้งนี้อย่างคาดไม่ถึง.
เขาได้คำนับให้กับฟ้าดิน,เพื่อที่จะให้ฟ้าดินยกเลิกการประทานตำแหน่ง.
ไม่มีใครเข้าใจเขาเลยสักคน,แม้แต่กลุ่มปราชญ์เทพก็ยังงงวย,ทำไมเข้าถึงไม่ต้องการตำแหน่งปราชญ์เทพ,ทว่าเหล่าปราชญ์เทพทุกคนก็ไม่เคยประเมินเขาต่ำ,เพราะทุกคนรับรู้ว่าเขามีคุณสมบัติที่จะเป็นปราชญ์เทพคนหนึ่ง.
ตำแหน่งปราชญ์เทพซูเหว่ยในเวลานี้,ควรจะเป็นของจวงจื่อ.
ความแข็งแกร่งของจวงจื่อนั้น,ไม่มีใครรู้,ทว่าสามารถยืนยันได้ว่าเหนือกว่าเซียนบรรพชนขั้นที่เก้าอย่างแน่นอน.
จวงจื่อที่เหมือนกับหงจวิน,สามารถเปิดแท่นวิถีธรรมของตัวเอง,ที่ไม่อาศัยเทียนเต๋า,มีวิถีเป็นของตัวเอง,ดังนั้นการเปิดเทศนาธรรมครั้งนี้จะทำให้ทุกคนได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก.
การเปิดเทศนาเต๋า,ตราบเท่าที่ได้รับบัตรเชิญ,แทบทุกคนจะต้องมา,ทว่าคนที่ไม่ได้รับการเชิญ,จวงจื่อก็ไม่ขับไล่ไปแต่อย่างใด,สามารถอยู่ในอาณาเขตเสี่ยวเมิ่งได้.
ที่ใจกลางของอาณาเขตเสี่ยวเมิ่งนั้น,เป็นวิหารจวงจื่อ,รอบๆนั้นเต็มไปด้วยหมู่มวลดอกไม้,เป็นเทเลของผีเสื้อ.
บนท้องฟ้าที่สูงขึ้นไป,เต็มไปด้วยแสงหลากสี,ทว่าที่น่าประหลาดใจนั้น,บนท้องฟ้าไม่ใช่เมฆกรรมวาสนาเหมือนกับดินแดนเทวะอื่นๆอย่างคาดไม่ถึง,นี่ไม่ใช่ทะเลวาสนาด้วย,มันเป็นเพียงแค่แสงหลากสีที่ส่องสว่างเจิดจรัส,เป็นแสงที่เหมือนกับดินแดนฝัน,แสงจากดวงตะวันยามรุ่งอรุณ.
ที่ด้านล่างของแสงหลากสีเวลานี้,มีผู้ฝึกตนมากมายมหาศาลเดินทางเข้ารวมงาน,ผู้ฝึกตนทุกคนต่างก็ค้นหาพื้นที่สงบ,ก่อนที่จะนั่งสมาธิ,รอคอยการเทศนาของจวงจื่อ.
ส่วนบนยอดเขาสูงนั้น,ที่จริงถูกจัดเตรียมอาไว้ให้กับเหล่าแขกที่ได้รับเชิญจากจวงจื่อ.
ที่ตำแหน่งของทิศตะวันออกเฉียงใต้บนเทือกเขาคุนเผิง,มีตำหนักแห่งหนึ่ง,ที่เวลานี้กลุ่มของจงซานได้เดินทางมาถึงเรียบร้อยแล้ว.
ภายในห้องโถงนั้น,มีชายชุดดำ,ที่กำลังถือพัดอยู่,ขณะที่จ้องมองจงซานด้วยความยินดี,ที่ด้านหลังของเขามีผู้ใต้บังคับบัญชาสองคน,ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ยืนอยู่.
"ผู้ก่อตั้งได้เอ่ยว่าเซิ่งหวังอาจจะไม่มา,ในเวลานี้คงจะรู้สึกเสียใจแล้ว,ข้าได้เดิมพันกับศิษย์พี่เอาไว้,ว่าเซิ่งหวังจงจะมา,เห็นทีการเดิมพันนี้ข้าจะเป็นผู้ชนะ,ขอบคุณที่ทำให้ข้าไม่ผิดพลาด!"ชายในชุดสีดำที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เหล่าคนที่มาจากโลกใบเล็กย่อมรู้จักอี้หลานเชวี๋ย.
จงซานที่จ้องมองอี้หลานเชวี๋ย,ภายในใจที่รู้สึกสงสัยอยู่เหมือนกัน,จากน้ำเสียงของอี้หลานเชวี๋ยแล้ว,รู้สึกว่าเขาจะไม่ได้นับถือจวงจื่อมากมายเท่าใดนัก.
"เกือบลืมเรื่องของสหายเต๋าเช่นกัน,เกือบทำให้แย่แล้ว,ต้องขออภัยจริงๆ!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
"ไม่มีอะไรแย่,ขอเพียงเจ้ามา,คิดถึงเรื่องของสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ,คงน่าเสียดายแน่,หากไม่ได้เจอกันอีก."อี้หลานเชวียนเอ่ย.
"นึกถึงเรื่องที่สหายเต๋าช่วยเหลือต้าเจิ้ง,ข้าจงซานจำไม่เคยลืม,หากว่ามีเรื่องอะไรที่ยากรับบาก,ข้าจงซานจะต้องช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถแน่นอน!"จงซานเอ่ย.
"หากว่าจากนี้,ผู้น้อยต้องการเข้าร่วมต้าเจิ้ง,เซิ่งหวังจงจะว่าอย่างไร?"อี้หลานเชวี๋ยที่จ้องมองจงซานรอยยิ้ม.
เข้าร่วมต้าเจิ้งรึ? สายตาของจงซานที่ส่ายไปมาเล็กน้อย,อี้หลานเชวี๋ยหมายความว่าอย่างไร?
เป็นความต้องการของเขา,หรือว่าจวงจื่อกัน?
"ฮ่าฮ่าฮ่า,สหายเต๋าเชวี๋ย,หากต้องการเข้าร่วมต้าเจิ้ง,ต้าเจิ้งยอมอ้าแขนรับอย่างแน่นอน,จงซานปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง."จงซานเอ่ย.
กับคำพูดของจงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง,คล้ายว่าเป็นการพูดทดสอบของจงซาน,ความสามารถของอี้หลานเชวี๋ยนั้น,จงซานรับรู้ดี,ว่านี้อาจจะเป็นแผนการหรือหยั่งเชิงเขา,แต่หากเข้าร่วมต้าเจิ้งด้วยความนับถือ,ต้าเจิ้งเองก็ยินดีเช่นกัน,ทว่าเรื่องนี้มีจวงจื่อเป็นเบื้องหลังหรือไม่,ทุกอย่างมันจะกลายเป็นอะไรที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก,และนอกจากนี้การจะเข้าร่วมต้าเจิ้งนั้นไม่ใช่อะไรที่ง่ายอย่างแน่นอน,คงเป็นการหยั่งเชิงเพื่ออะไรบางอย่าง.
"แค๊ก!” "แค๊ก!”
ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ด้านหลังทั้งสองที่ไอออกมาในทันที,ดูเหมือนว่าจะห้ามการพูดจาเช่นนี้ของอี้หลานเชวี๋ย.
อย่างไรก็ตาม,อี้หลานเชวี๋ยหาได้สนใจไม่,ก่อนที่จะจ้องมองและกล่าวกับจงซาน,"คำพูดของเซิ่งหวังจง,หลานเชวี๋ยปรารถนาเช่นกัน,หากแต่อาจารย์บรรพชนเวลานี้ใกล้จะเริ่มเทศนาเต๋าแล้ว,หลานเชวี๋ยไม่ต้องการจะรบกวน,เมื่ออาจารย์บรรพชนเทศนาเต๋าจบแล้ว,หลานเชวี๋ยจะออกมาขอบคุณเซิ่งหวังจงอีกครั้ง.
อี้หลานเชวี๋ยรู้ดีว่าตอนใหนควรหยุดและเอ่ย,จึงไม่ได้กล่าวอะไรต่ออีก.
"ตกลง,จงซานจะรอก็แล้วกัน!"จงซานพยักหน้ารับ.
"ขอลา!"
อี้หลานเชวี๋ยและผู้ใต้บังคับบัญชาได้ก้าวเดินออกไป.
จงซานที่จ้องมองอี้หลานเชวี๋ยที่จากไป,สูดหายใจลึก,การจัดการของอี้หลานเชวี๋ยนับว่าราบรื่นเป็นอย่างมาก,เขาที่เอ่ยออกมาเอง,ไม่จำเป็นจ้องโยนความรับผิดชอบให้คนอื่นๆ,และไม่ได้เอ่ยอะไรต่อเนื่อง,ทว่ากลับเป็นคำถามที่ไม่จำเป็นต้องตอบรับในทันทีเพื่อที่จะจากไป,นับเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมมาก.
"เซิ่งหวัง,อี้หลานเชวี๋ยหมายความว่าอย่างไร?"จินเผิงที่เผยท่าทางงงงวย.
"ดูไปก่อน,คนผู้นี้,หากต้าเจิ้งสามารถใช้ได้,ก็นับว่ามีประโยชน์!"จงซานที่กล่าวยืนยัน.
"อืม!"ทุกคนที่รับคำ,ไม่มีใครกล่าวอะไรอีก,เพราะว่าทุกคนรู้ดีว่าเซิ่งหวังนั้นชื่นชอบคนที่มีความสามารถ.
ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องโถง,รอคอยจวงจื่อเริ่มเทศนาเต๋า.
ส่วนอี้หลานเชวี๋ยนั้นได้นำสองผู้ใต้บังคับบัญชาจากไปอย่างรวดเร็ว.
จากนั้นพวกเขาก็มาถึงสวนแห่งหนึ่งที่มีค่ายกลติดตั้งไว้.
"เชวี๋ยเอ๋อ,เจ้าหมายความว่าอย่างไร?
เจ้ากำลังหยั่งเชิงจงซานอย่างงั้นรึ?"คนที่เหมือนกับผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งเอ่ยออกมา.
"ใช่,เชวี๋ยเอ๋อ,เจ้าหมายความว่าอย่างไรก่อนหน้านี้?"อีกคนที่ขมวดคิ้วไปมาเช่นกัน.
"บรรพชน,ท่านพ่อ,วันนี้ข้าได้นำพวกท่านไปพบกับจงซาน,มีความคิดเห็นอย่างไร?"อี้หลานเชวี๋ยที่ยังไม่ได้ตอบคำถาม.
"อย่างไร? อย่างไรล่ะ?
จงซานผู้นี้,ข้ารู้จักเขา,แต่เขากลับไม่รู้จักข้า!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่รู้สึกไม่ดีนัก.
"บรรพชน?
เฮ้เฮ้,ข้าไม่ใช่บรรพชนอีกต่อไปแล้ว,ในโลกใบใหญ่นั้น,ในตระกูลอี้มีอาวุโสมากมาย,พวกเขาต่างหากคือบรรพชน!"ชายอีกคนที่เอ่ยออกมาในในทันที.
"บรรพชน,ไม่ว่าอย่างไร,ท่านก็คือบรรพชนในโลกใบเล็กที่ข้ารู้จัก,เพราะว่าในโลกใบเล็กนั้น,ตระกูลอี้คงอยู่ก็เพราะมีท่าน!"อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
"นั่นมันความสามารถของเจ้า."บรรพชนที่ส่ายหน้าไปมา.
"ไม่,เพราะว่าเป็นท่านต่างหากที่ดำเนินการ,ด้วยความสามารถดำเนินการนั้น,ท่านเหนือกว่าข้า,หากเปลี่ยนเป็นข้า,หากไม่ใช่ท่าน,เป็นไปไม่ได้เลยที่เหล่าผู้เยาว์จะเชื่อฟังข้า."อี้หลานเชวี๋ยที่ส่านหน้าไปมา.
"ด้วยความสามารถของข้ารึ?!"บรรพชนที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.
"แน่นอน,การที่ตระกูลสามารถก้าวไปต่อได้ก็เพราะท่าน!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวยืนยัน.
"ดี,ในเมื่อเจ้าต้องการเรียกเช่นนั้นก็เรียกเถอะ!"บรรพชนที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม,การที่จงซานไม่รู้จักท่านพ่อก่อนหน้านี้,นับว่าเป็นหนึ่งในความผิดพลาด,พวกเราเข้าไปในห้องโถงอย่างรวดเร็ว,จงซานจำข้าและบรรพชนได้,ซึ่งมันแตกต่างจากรูปแบบของจงซาน,ดังนั้นเป็นไปได้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว."อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
"ไม่มีทาง!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยกล่าวแย้ง.
"ข้ามั่นใจ!"อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
"ข้าเชื่อเชวี๋ยเอ๋อ!"บรรพชนที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"ดี!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยจึงทำได้แค่ต้องเลือกที่จะเชื่อเช่นกัน.
อี้หลานเชวี๋ยที่เผยยิ้มจ้องมองไปยังบรรพชน,การที่มีบรรพชนของตระกูลอยู่,นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ.
"แต่ว่า,คำพูดของเจ้าที่เอ่ยว่าจะเข้าร่วมต้าเจิ้ง?
เจ้าหยั่งเชิงจงซาน,เพื่อใช้จงซานตรวจสอบผู้ก่อตั้งอย่างงั้นรึ?"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
บรรพชนเองก็ลอบมองไปยังอี้หลานเชวี๋ย.
อี้หลานเชวี๋ยที่เปลี่ยนเป็นจริงจัง,สูดหายใจลึกและกล่าวออกมาจริงจัง,"ไม่ใช่หยั่งเชิง,เชวี๋ยเอ๋อคิดเช่นนั้น."
"หืม?"ทั้งคู่ที่เผยท่าทางตกใจ.
"บรรพชน,ท่านพ่อ,ข้าต้องการให้ท่านดูอะไรบางอย่าง!"อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
จากนั้น,อีหลานเชวี๋ยก็ได้นำกระดาษบันทึกปึกหนึ่งออกมา.
"ตลอดหลายปีมานี้,ข้าเขียนมันด้วยตัวเอง,ท่านรู้ว่าข้านั้นเป็นเช่นไร,ข้าได้ศึกษาคนอื่น,แต่ละคนที่ข้าจับต้านั้น,ข้าจะทำการบันทึกประวัติรายระเอียดของคนผู้นั้นเอาไว้อย่างดี,ไม่ว่าจะเป็นจุดเด่น,จุดด้อย,เป้าหมายนั่นก็เพื่อที่จะใช้วิเคราะห์ฝ่ายตรงข้าม,นี่คือประวัติความเป็นมาของจงซาน."อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
บรรพชนและบิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่มองหน้ากันและกัน,ก่อนที่จะจับจ้องมองข้อมูล,ซึ่งทำให้ทั้งคู่ดวงตาเบิกกว้างไปในทันที.
"เจ้ามั่นใจรึ?"ทั้งสองที่ขมวดคิ้วไปมา.
"จงซานผู้นี้,สมบูรณ์แบบ,ไม่,น่าจะบอกว่าเขาไม่สมบูรณ์,แต่รับรู้ว่าจะทำให้ตัวเองสมบูรณ์อย่างไร,รู้วิธีที่จะทำให้ต้าเจิ้งสมบูรณ์,จื่อหยางจิงหง,ท่านควรจะเห็นท่าทางของเขาก่อนหน้านี้?
เขาที่เป็นขุนนางที่เต็มไปด้วยความเคารพ,จงซานได้รับผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตามา,ข้าสามารถยืนยันได้ว่าแผนการของจงซานต่อไป,คือผนวกดินแดนทั้ง
36 ของทวีปภาคเหนือ!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"ผนวกดินแดน? จะเป็นไปได้อย่างไร? 36
ดินแดน,เข้าไม่มีทางทำได้หรอก!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ.
"ข้าสามารถยืนยันได้!"อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวรับรองด้วยความมั่นใจ.
"แต่...!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่ต้องการเอ่ยอะไร.
"เอาล่ะ,ให้เชวี๋ยเอ๋อพูดต่อ!"บรรพชนที่เอ่ยออกมาอีกครั้ง,ทำให้บิดาของอี้หลานเชวี๋ยไม่สามารถกล่าวอะไรต่อ,หากแต่แววตาที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ.
"ขอบคุณบรรพชน!"อี้หลานเชวี๋ยที่จ้องมองบรรพชน,เป็นความจริง,คำพูดของเขานั้นมีอำนาจมาก.
บรรพชนเองที่เผยยิ้มอย่างข่มๆ,ส่ายหน้าไปมา,"กล่าวตามตรงข้าเองก็ไม่เชื่อว่าจงซานจะยึดครองทวีปภาคเหนือทั้งหมดได้,มันใหญ่เกินไป,ตั้งแต่ในอดีต,กล่าวได้ว่าคนที่ยึดครองพื้นที่หกแห่งนั้น,ก็เพียงพอที่จะกลายเป็นยักษ์ใหญ่ของทวีปภาคเหนือแล้ว,บางที่เรื่องนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย,ทว่าข้าก็ยังเชื่อเจ้า!"
"ข้ารู้,เรื่องนี้เกินจะเชื่อ,ทว่าข้านั้นได้คำนวณอย่างระมัดระวัง,ท่านควรรู้ว่าอี้หลานเชวี๋ยนั้นไม่เคยโกหก,ผู้ก่อตั้งนั้นดูเฉื่อยชาใจเย็นเกินไป,รู้จักเอาตัวรอดแต่ตัวเอง,ทว่ายุคสมัยแห่งความวุ่นวายนั้นได้ใกล้เข้ามาแล้ว,หากเป็นเช่นนี้,พวกเราจะอยู่รอดได้อีกนานเท่าใดกัน."อี้หลานเชวี๋ยที่ส่ายหน้าไปมา.
"พวกเราไม่สามารถพูดเช่นนี้กับผู้ก่อตั้งได้!"บิดาของอี้หลายเชวี๋ยเอ่ย.
"ไม่,ท่านพ่อ,ครั้งนี้ต้องเอ่ย,พวกเราเป็นกลุ่มคนที่มาจากโลกใบเล็ก,ท่านควรจะใส่ใจครอบครัวของพวกเรา,ถึงแม้นว่าพวกเขาจะหาว่าพวกเราแข็งข้อ,ก็ต้องเอ่ย,ข้านั้นไม่ต้องการให้ตระกูลอี้ของข้าไร้ซึ่งอนาคตแน่!"อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
"ทว่าก่อหน้านี้ข้าก็ยังไม่เชื่อ,แล้วคิดว่าคนอื่นจะเชื่อเรื่องจงซานอย่างงั้นรึ?"บิดาของี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
"มีเรื่องเกี่ยวกับอาณาจักรลับมังกรบรรพชน,ข่าว,ยังมาไม่ถึง,ข้านั้นได้ส่งคนไปสืบแล้ว,บางทีหลังจากนี้อีกไม่กี่ปีข่าวนี้น่าจะต้องมาถึง,ข้ารู้ว่าจะซานนั้นเดินทางไปยังทวีปตะวันออกด้วย,แต่ทำไมเขาถึงได้กลับมาได้ในเวลาสั้นล่ะ?
พวกกลับมาอย่างรวดเร็วได้อย่างไร? แม้นว่าข้าจะไม่รู้ว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นในทวีปตะวันออก,แต่ข้ายืนยันได้ว่าจงซานนั้นต้องเก็บเกี่ยวได้มากมาย,นอกจากนี้ข้าที่เคยมองสิ่งที่เขาเคยทำมาในอดีต,เขาเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม,รับรู้ว่าจุดใหนกำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ที่สำคัญ,ไม่เคยผิดพาดเลย,การตัดสินใจของเขานั้นชัดเจนถูกตลอด,แผนการของเขามั่นคงเป็นขั้นเป็นตอน,เขามีกองกำลังขนาดใหญ่,เขาไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวยุคสมัยแห่งความวุ่นวายเลย,เมื่อถึงยุคสมัยแห่งความวุ่นวายเหล่าตัวตนที่อ่อนแอจะถูกสังหารสิ้น,ส่วนต้าเจิ้งนั้นจะอยู่รอดปลอดภัย,การตัดสินใจที่ถูกต้อง,ก็จะทำให้สามารถได้รับชัยชนะได้เช่นกัน!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวด้วยความมั่นใจ.
"ทว่า,ผู้ก่อตั้งต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน,และยังมีบรรพชนตระกูลอี้อีกไม่มีทางที่พวกเขาจะยอมรับ!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่ส่ายหน้าไปมา.
"ดังนั้น,ข้าจึงหวังว่า,บรรพชนและท่านพ่อ,จะช่วยช้า,ไม่ให้คนของตระกูลอี้,ทำอะไรฟุ้งซ่าน."อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
จวงโจว คือ “จวงจื่อ” (庄子) นักปรัชญาและผู้ศึกษาลัทธิเต๋าที่มีชื่อเสียงในยุคจ้านกว๋อ
(战国 ประมาณ 2200 – 2500 ปีก่อน) เนื้อความของ “จวงโจวฝันผีเสื้อ” นี้ นำมาจากคัมภีร์ “จวงจื่อ บทฉีอู้ลุ่น” (庄子·齐物论) ซึ่งเขียนโดยจวงจื่อเอง มีความว่า
“อดีตกาลจวงโจวฝันว่าเป็นผีเสื้อ
ผีเสื้อซึ่งโบยบินอย่างเริงร่า ช่างเบิกบานสุขอุราเสียนี่กระไร!
ไม่รู้ว่าตัวคือจวงโจว ทันใดได้ตื่นขึ้น กลับตกตะลึงข้าคือจวงโจว
ไม่ทราบจวงโจวฝันเป็นผีเสื้อ หรือผีเสื้อฝันเป็นจวงโจว? จวงโจวกับผีเสื้อ
ย่อมต้องแตกต่าง นี่เรียกว่าตัวเราแลสิ่งอื่นรวมรั้งแลแปรเปลี่ยน"
ในบทนี้
จวงจื่อได้ใช้คารมที่โรแมนติกบรรยายถึงความคิดที่ว่าคนเราไม่สามารถแบ่งแยกความจริงกับความฝันและความเป็นความตายกับการแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่นอย่างเด็ดขาดได้
ผ่านการบรรยายเหตุการณ์จวงโจวฝันว่าตนได้กลายเป็นผีเสื้อ
Chapter 1248 Yi Lanque to the clock it
heart( third)
忆蓝阙的向钟之心
ความปรารถนาของอี้หลานเชวี๋ย.
Dawn
Dream Territory.
เขตแดนเสี่ยวเหมิง.(เขตแดนฝันรุ่งอรุณ)
วิหารจวงจื่อ,เขตแดนดังกล่าวนั้น,มีขนาดใหญ่มีลักษณ์เป็นเหมือนกับผีเสื้อยักษ์,เป็นแดนเทวะเผ่าผีเสื้อ,เป็นเขตแดนที่ยากที่เผ่าพันธุ์อื่นจะเทียบได้.
ในช่วงระยะเวลานี้,มีผู้ฝึกตนมากมายทั่วหล้ามารวมตัวกัน,เดินทางมายังเขตแดนเสี่ยวเหมิงในครั้งนี้เพื่อเตรียมที่จะฟังการเทศนาเต๋าของจวงจื่อ.
จวงจื่อ,ผู้ที่ถูกขนานนามว่าอยู่ใกล้เคียงปราชญ์เทพมากที่สุด,ไม่มีใครสามารถเทียบได้,ทว่าเรื่องนี้,ได้ยินข่าวลืมมาว่า,มีแท่นบูชาฟ้าดินที่ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าจวงจือในอดีต,ฟ้าดินได้ประทานตำแหน่งให้.
ช่างน่าเสียดาย,ที่เขาได้ทำให้คนทั่วหล้าต้องสงสัย,จวงจื่อที่ได้ปฏิเสธการประทานในครั้งนี้อย่างคาดไม่ถึง.
เขาได้คำนับให้กับฟ้าดิน,เพื่อที่จะให้ฟ้าดินยกเลิกการประทานตำแหน่ง.
ไม่มีใครเข้าใจเขาเลยสักคน,แม้แต่กลุ่มปราชญ์เทพก็ยังงงวย,ทำไมเข้าถึงไม่ต้องการตำแหน่งปราชญ์เทพ,ทว่าเหล่าปราชญ์เทพทุกคนก็ไม่เคยประเมินเขาต่ำ,เพราะทุกคนรับรู้ว่าเขามีคุณสมบัติที่จะเป็นปราชญ์เทพคนหนึ่ง.
ตำแหน่งปราชญ์เทพซูเหว่ยในเวลานี้,ควรจะเป็นของจวงจื่อ.
ความแข็งแกร่งของจวงจื่อนั้น,ไม่มีใครรู้,ทว่าสามารถยืนยันได้ว่าเหนือกว่าเซียนบรรพชนขั้นที่เก้าอย่างแน่นอน.
จวงจื่อที่เหมือนกับหงจวิน,สามารถเปิดแท่นวิถีธรรมของตัวเอง,ที่ไม่อาศัยเทียนเต๋า,มีวิถีเป็นของตัวเอง,ดังนั้นการเปิดเทศนาธรรมครั้งนี้จะทำให้ทุกคนได้รับประโยชน์เป็นอย่างมาก.
การเปิดเทศนาเต๋า,ตราบเท่าที่ได้รับบัตรเชิญ,แทบทุกคนจะต้องมา,ทว่าคนที่ไม่ได้รับการเชิญ,จวงจื่อก็ไม่ขับไล่ไปแต่อย่างใด,สามารถอยู่ในอาณาเขตเสี่ยวเมิ่งได้.
ที่ใจกลางของอาณาเขตเสี่ยวเมิ่งนั้น,เป็นวิหารจวงจื่อ,รอบๆนั้นเต็มไปด้วยหมู่มวลดอกไม้,เป็นเทเลของผีเสื้อ.
บนท้องฟ้าที่สูงขึ้นไป,เต็มไปด้วยแสงหลากสี,ทว่าที่น่าประหลาดใจนั้น,บนท้องฟ้าไม่ใช่เมฆกรรมวาสนาเหมือนกับดินแดนเทวะอื่นๆอย่างคาดไม่ถึง,นี่ไม่ใช่ทะเลวาสนาด้วย,มันเป็นเพียงแค่แสงหลากสีที่ส่องสว่างเจิดจรัส,เป็นแสงที่เหมือนกับดินแดนฝัน,แสงจากดวงตะวันยามรุ่งอรุณ.
ที่ด้านล่างของแสงหลากสีเวลานี้,มีผู้ฝึกตนมากมายมหาศาลเดินทางเข้ารวมงาน,ผู้ฝึกตนทุกคนต่างก็ค้นหาพื้นที่สงบ,ก่อนที่จะนั่งสมาธิ,รอคอยการเทศนาของจวงจื่อ.
ส่วนบนยอดเขาสูงนั้น,ที่จริงถูกจัดเตรียมอาไว้ให้กับเหล่าแขกที่ได้รับเชิญจากจวงจื่อ.
ที่ตำแหน่งของทิศตะวันออกเฉียงใต้บนเทือกเขาคุนเผิง,มีตำหนักแห่งหนึ่ง,ที่เวลานี้กลุ่มของจงซานได้เดินทางมาถึงเรียบร้อยแล้ว.
ภายในห้องโถงนั้น,มีชายชุดดำ,ที่กำลังถือพัดอยู่,ขณะที่จ้องมองจงซานด้วยความยินดี,ที่ด้านหลังของเขามีผู้ใต้บังคับบัญชาสองคน,ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ยืนอยู่.
"ผู้ก่อตั้งได้เอ่ยว่าเซิ่งหวังอาจจะไม่มา,ในเวลานี้คงจะรู้สึกเสียใจแล้ว,ข้าได้เดิมพันกับศิษย์พี่เอาไว้,ว่าเซิ่งหวังจงจะมา,เห็นทีการเดิมพันนี้ข้าจะเป็นผู้ชนะ,ขอบคุณที่ทำให้ข้าไม่ผิดพลาด!"ชายในชุดสีดำที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เหล่าคนที่มาจากโลกใบเล็กย่อมรู้จักอี้หลานเชวี๋ย.
จงซานที่จ้องมองอี้หลานเชวี๋ย,ภายในใจที่รู้สึกสงสัยอยู่เหมือนกัน,จากน้ำเสียงของอี้หลานเชวี๋ยแล้ว,รู้สึกว่าเขาจะไม่ได้นับถือจวงจื่อมากมายเท่าใดนัก.
"เกือบลืมเรื่องของสหายเต๋าเช่นกัน,เกือบทำให้แย่แล้ว,ต้องขออภัยจริงๆ!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
"ไม่มีอะไรแย่,ขอเพียงเจ้ามา,คิดถึงเรื่องของสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ,คงน่าเสียดายแน่,หากไม่ได้เจอกันอีก."อี้หลานเชวียนเอ่ย.
"นึกถึงเรื่องที่สหายเต๋าช่วยเหลือต้าเจิ้ง,ข้าจงซานจำไม่เคยลืม,หากว่ามีเรื่องอะไรที่ยากรับบาก,ข้าจงซานจะต้องช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถแน่นอน!"จงซานเอ่ย.
"หากว่าจากนี้,ผู้น้อยต้องการเข้าร่วมต้าเจิ้ง,เซิ่งหวังจงจะว่าอย่างไร?"อี้หลานเชวี๋ยที่จ้องมองจงซานรอยยิ้ม.
เข้าร่วมต้าเจิ้งรึ? สายตาของจงซานที่ส่ายไปมาเล็กน้อย,อี้หลานเชวี๋ยหมายความว่าอย่างไร?
เป็นความต้องการของเขา,หรือว่าจวงจื่อกัน?
"ฮ่าฮ่าฮ่า,สหายเต๋าเชวี๋ย,หากต้องการเข้าร่วมต้าเจิ้ง,ต้าเจิ้งยอมอ้าแขนรับอย่างแน่นอน,จงซานปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง."จงซานเอ่ย.
กับคำพูดของจงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง,คล้ายว่าเป็นการพูดทดสอบของจงซาน,ความสามารถของอี้หลานเชวี๋ยนั้น,จงซานรับรู้ดี,ว่านี้อาจจะเป็นแผนการหรือหยั่งเชิงเขา,แต่หากเข้าร่วมต้าเจิ้งด้วยความนับถือ,ต้าเจิ้งเองก็ยินดีเช่นกัน,ทว่าเรื่องนี้มีจวงจื่อเป็นเบื้องหลังหรือไม่,ทุกอย่างมันจะกลายเป็นอะไรที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก,และนอกจากนี้การจะเข้าร่วมต้าเจิ้งนั้นไม่ใช่อะไรที่ง่ายอย่างแน่นอน,คงเป็นการหยั่งเชิงเพื่ออะไรบางอย่าง.
"แค๊ก!” "แค๊ก!”
ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ด้านหลังทั้งสองที่ไอออกมาในทันที,ดูเหมือนว่าจะห้ามการพูดจาเช่นนี้ของอี้หลานเชวี๋ย.
อย่างไรก็ตาม,อี้หลานเชวี๋ยหาได้สนใจไม่,ก่อนที่จะจ้องมองและกล่าวกับจงซาน,"คำพูดของเซิ่งหวังจง,หลานเชวี๋ยปรารถนาเช่นกัน,หากแต่อาจารย์บรรพชนเวลานี้ใกล้จะเริ่มเทศนาเต๋าแล้ว,หลานเชวี๋ยไม่ต้องการจะรบกวน,เมื่ออาจารย์บรรพชนเทศนาเต๋าจบแล้ว,หลานเชวี๋ยจะออกมาขอบคุณเซิ่งหวังจงอีกครั้ง.
อี้หลานเชวี๋ยรู้ดีว่าตอนใหนควรหยุดและเอ่ย,จึงไม่ได้กล่าวอะไรต่ออีก.
"ตกลง,จงซานจะรอก็แล้วกัน!"จงซานพยักหน้ารับ.
"ขอลา!"
อี้หลานเชวี๋ยและผู้ใต้บังคับบัญชาได้ก้าวเดินออกไป.
จงซานที่จ้องมองอี้หลานเชวี๋ยที่จากไป,สูดหายใจลึก,การจัดการของอี้หลานเชวี๋ยนับว่าราบรื่นเป็นอย่างมาก,เขาที่เอ่ยออกมาเอง,ไม่จำเป็นจ้องโยนความรับผิดชอบให้คนอื่นๆ,และไม่ได้เอ่ยอะไรต่อเนื่อง,ทว่ากลับเป็นคำถามที่ไม่จำเป็นต้องตอบรับในทันทีเพื่อที่จะจากไป,นับเป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมมาก.
"เซิ่งหวัง,อี้หลานเชวี๋ยหมายความว่าอย่างไร?"จินเผิงที่เผยท่าทางงงงวย.
"ดูไปก่อน,คนผู้นี้,หากต้าเจิ้งสามารถใช้ได้,ก็นับว่ามีประโยชน์!"จงซานที่กล่าวยืนยัน.
"อืม!"ทุกคนที่รับคำ,ไม่มีใครกล่าวอะไรอีก,เพราะว่าทุกคนรู้ดีว่าเซิ่งหวังนั้นชื่นชอบคนที่มีความสามารถ.
ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องโถง,รอคอยจวงจื่อเริ่มเทศนาเต๋า.
ส่วนอี้หลานเชวี๋ยนั้นได้นำสองผู้ใต้บังคับบัญชาจากไปอย่างรวดเร็ว.
จากนั้นพวกเขาก็มาถึงสวนแห่งหนึ่งที่มีค่ายกลติดตั้งไว้.
"เชวี๋ยเอ๋อ,เจ้าหมายความว่าอย่างไร?
เจ้ากำลังหยั่งเชิงจงซานอย่างงั้นรึ?"คนที่เหมือนกับผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งเอ่ยออกมา.
"ใช่,เชวี๋ยเอ๋อ,เจ้าหมายความว่าอย่างไรก่อนหน้านี้?"อีกคนที่ขมวดคิ้วไปมาเช่นกัน.
"บรรพชน,ท่านพ่อ,วันนี้ข้าได้นำพวกท่านไปพบกับจงซาน,มีความคิดเห็นอย่างไร?"อี้หลานเชวี๋ยที่ยังไม่ได้ตอบคำถาม.
"อย่างไร? อย่างไรล่ะ?
จงซานผู้นี้,ข้ารู้จักเขา,แต่เขากลับไม่รู้จักข้า!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่รู้สึกไม่ดีนัก.
"บรรพชน?
เฮ้เฮ้,ข้าไม่ใช่บรรพชนอีกต่อไปแล้ว,ในโลกใบใหญ่นั้น,ในตระกูลอี้มีอาวุโสมากมาย,พวกเขาต่างหากคือบรรพชน!"ชายอีกคนที่เอ่ยออกมาในในทันที.
"บรรพชน,ไม่ว่าอย่างไร,ท่านก็คือบรรพชนในโลกใบเล็กที่ข้ารู้จัก,เพราะว่าในโลกใบเล็กนั้น,ตระกูลอี้คงอยู่ก็เพราะมีท่าน!"อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
"นั่นมันความสามารถของเจ้า."บรรพชนที่ส่ายหน้าไปมา.
"ไม่,เพราะว่าเป็นท่านต่างหากที่ดำเนินการ,ด้วยความสามารถดำเนินการนั้น,ท่านเหนือกว่าข้า,หากเปลี่ยนเป็นข้า,หากไม่ใช่ท่าน,เป็นไปไม่ได้เลยที่เหล่าผู้เยาว์จะเชื่อฟังข้า."อี้หลานเชวี๋ยที่ส่านหน้าไปมา.
"ด้วยความสามารถของข้ารึ?!"บรรพชนที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.
"แน่นอน,การที่ตระกูลสามารถก้าวไปต่อได้ก็เพราะท่าน!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวยืนยัน.
"ดี,ในเมื่อเจ้าต้องการเรียกเช่นนั้นก็เรียกเถอะ!"บรรพชนที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม,การที่จงซานไม่รู้จักท่านพ่อก่อนหน้านี้,นับว่าเป็นหนึ่งในความผิดพลาด,พวกเราเข้าไปในห้องโถงอย่างรวดเร็ว,จงซานจำข้าและบรรพชนได้,ซึ่งมันแตกต่างจากรูปแบบของจงซาน,ดังนั้นเป็นไปได้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจมาที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว."อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
"ไม่มีทาง!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยกล่าวแย้ง.
"ข้ามั่นใจ!"อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
"ข้าเชื่อเชวี๋ยเอ๋อ!"บรรพชนที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"ดี!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยจึงทำได้แค่ต้องเลือกที่จะเชื่อเช่นกัน.
อี้หลานเชวี๋ยที่เผยยิ้มจ้องมองไปยังบรรพชน,การที่มีบรรพชนของตระกูลอยู่,นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ.
"แต่ว่า,คำพูดของเจ้าที่เอ่ยว่าจะเข้าร่วมต้าเจิ้ง?
เจ้าหยั่งเชิงจงซาน,เพื่อใช้จงซานตรวจสอบผู้ก่อตั้งอย่างงั้นรึ?"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
บรรพชนเองก็ลอบมองไปยังอี้หลานเชวี๋ย.
อี้หลานเชวี๋ยที่เปลี่ยนเป็นจริงจัง,สูดหายใจลึกและกล่าวออกมาจริงจัง,"ไม่ใช่หยั่งเชิง,เชวี๋ยเอ๋อคิดเช่นนั้น."
"หืม?"ทั้งคู่ที่เผยท่าทางตกใจ.
"บรรพชน,ท่านพ่อ,ข้าต้องการให้ท่านดูอะไรบางอย่าง!"อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
จากนั้น,อีหลานเชวี๋ยก็ได้นำกระดาษบันทึกปึกหนึ่งออกมา.
"ตลอดหลายปีมานี้,ข้าเขียนมันด้วยตัวเอง,ท่านรู้ว่าข้านั้นเป็นเช่นไร,ข้าได้ศึกษาคนอื่น,แต่ละคนที่ข้าจับต้านั้น,ข้าจะทำการบันทึกประวัติรายระเอียดของคนผู้นั้นเอาไว้อย่างดี,ไม่ว่าจะเป็นจุดเด่น,จุดด้อย,เป้าหมายนั่นก็เพื่อที่จะใช้วิเคราะห์ฝ่ายตรงข้าม,นี่คือประวัติความเป็นมาของจงซาน."อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
บรรพชนและบิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่มองหน้ากันและกัน,ก่อนที่จะจับจ้องมองข้อมูล,ซึ่งทำให้ทั้งคู่ดวงตาเบิกกว้างไปในทันที.
"เจ้ามั่นใจรึ?"ทั้งสองที่ขมวดคิ้วไปมา.
"จงซานผู้นี้,สมบูรณ์แบบ,ไม่,น่าจะบอกว่าเขาไม่สมบูรณ์,แต่รับรู้ว่าจะทำให้ตัวเองสมบูรณ์อย่างไร,รู้วิธีที่จะทำให้ต้าเจิ้งสมบูรณ์,จื่อหยางจิงหง,ท่านควรจะเห็นท่าทางของเขาก่อนหน้านี้?
เขาที่เป็นขุนนางที่เต็มไปด้วยความเคารพ,จงซานได้รับผู้ฝึกตนช่วงชิงชะตามา,ข้าสามารถยืนยันได้ว่าแผนการของจงซานต่อไป,คือผนวกดินแดนทั้ง
36 ของทวีปภาคเหนือ!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"ผนวกดินแดน? จะเป็นไปได้อย่างไร? 36
ดินแดน,เข้าไม่มีทางทำได้หรอก!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ.
"ข้าสามารถยืนยันได้!"อี้หลานเชวี๋ยที่กล่าวรับรองด้วยความมั่นใจ.
"แต่...!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่ต้องการเอ่ยอะไร.
"เอาล่ะ,ให้เชวี๋ยเอ๋อพูดต่อ!"บรรพชนที่เอ่ยออกมาอีกครั้ง,ทำให้บิดาของอี้หลานเชวี๋ยไม่สามารถกล่าวอะไรต่อ,หากแต่แววตาที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ.
"ขอบคุณบรรพชน!"อี้หลานเชวี๋ยที่จ้องมองบรรพชน,เป็นความจริง,คำพูดของเขานั้นมีอำนาจมาก.
บรรพชนเองที่เผยยิ้มอย่างข่มๆ,ส่ายหน้าไปมา,"กล่าวตามตรงข้าเองก็ไม่เชื่อว่าจงซานจะยึดครองทวีปภาคเหนือทั้งหมดได้,มันใหญ่เกินไป,ตั้งแต่ในอดีต,กล่าวได้ว่าคนที่ยึดครองพื้นที่หกแห่งนั้น,ก็เพียงพอที่จะกลายเป็นยักษ์ใหญ่ของทวีปภาคเหนือแล้ว,บางที่เรื่องนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย,ทว่าข้าก็ยังเชื่อเจ้า!"
"ข้ารู้,เรื่องนี้เกินจะเชื่อ,ทว่าข้านั้นได้คำนวณอย่างระมัดระวัง,ท่านควรรู้ว่าอี้หลานเชวี๋ยนั้นไม่เคยโกหก,ผู้ก่อตั้งนั้นดูเฉื่อยชาใจเย็นเกินไป,รู้จักเอาตัวรอดแต่ตัวเอง,ทว่ายุคสมัยแห่งความวุ่นวายนั้นได้ใกล้เข้ามาแล้ว,หากเป็นเช่นนี้,พวกเราจะอยู่รอดได้อีกนานเท่าใดกัน."อี้หลานเชวี๋ยที่ส่ายหน้าไปมา.
"พวกเราไม่สามารถพูดเช่นนี้กับผู้ก่อตั้งได้!"บิดาของอี้หลายเชวี๋ยเอ่ย.
"ไม่,ท่านพ่อ,ครั้งนี้ต้องเอ่ย,พวกเราเป็นกลุ่มคนที่มาจากโลกใบเล็ก,ท่านควรจะใส่ใจครอบครัวของพวกเรา,ถึงแม้นว่าพวกเขาจะหาว่าพวกเราแข็งข้อ,ก็ต้องเอ่ย,ข้านั้นไม่ต้องการให้ตระกูลอี้ของข้าไร้ซึ่งอนาคตแน่!"อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
"ทว่าก่อหน้านี้ข้าก็ยังไม่เชื่อ,แล้วคิดว่าคนอื่นจะเชื่อเรื่องจงซานอย่างงั้นรึ?"บิดาของี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
"มีเรื่องเกี่ยวกับอาณาจักรลับมังกรบรรพชน,ข่าว,ยังมาไม่ถึง,ข้านั้นได้ส่งคนไปสืบแล้ว,บางทีหลังจากนี้อีกไม่กี่ปีข่าวนี้น่าจะต้องมาถึง,ข้ารู้ว่าจะซานนั้นเดินทางไปยังทวีปตะวันออกด้วย,แต่ทำไมเขาถึงได้กลับมาได้ในเวลาสั้นล่ะ?
พวกกลับมาอย่างรวดเร็วได้อย่างไร? แม้นว่าข้าจะไม่รู้ว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นในทวีปตะวันออก,แต่ข้ายืนยันได้ว่าจงซานนั้นต้องเก็บเกี่ยวได้มากมาย,นอกจากนี้ข้าที่เคยมองสิ่งที่เขาเคยทำมาในอดีต,เขาเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม,รับรู้ว่าจุดใหนกำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ที่สำคัญ,ไม่เคยผิดพาดเลย,การตัดสินใจของเขานั้นชัดเจนถูกตลอด,แผนการของเขามั่นคงเป็นขั้นเป็นตอน,เขามีกองกำลังขนาดใหญ่,เขาไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวยุคสมัยแห่งความวุ่นวายเลย,เมื่อถึงยุคสมัยแห่งความวุ่นวายเหล่าตัวตนที่อ่อนแอจะถูกสังหารสิ้น,ส่วนต้าเจิ้งนั้นจะอยู่รอดปลอดภัย,การตัดสินใจที่ถูกต้อง,ก็จะทำให้สามารถได้รับชัยชนะได้เช่นกัน!"อี้หลานเชวี๋ยกล่าวด้วยความมั่นใจ.
"ทว่า,ผู้ก่อตั้งต้องไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน,และยังมีบรรพชนตระกูลอี้อีกไม่มีทางที่พวกเขาจะยอมรับ!"บิดาของอี้หลานเชวี๋ยที่ส่ายหน้าไปมา.
"ดังนั้น,ข้าจึงหวังว่า,บรรพชนและท่านพ่อ,จะช่วยช้า,ไม่ให้คนของตระกูลอี้,ทำอะไรฟุ้งซ่าน."อี้หลานเชวี๋ยเอ่ย.
จวงโจว คือ “จวงจื่อ” (庄子) นักปรัชญาและผู้ศึกษาลัทธิเต๋าที่มีชื่อเสียงในยุคจ้านกว๋อ
(战国 ประมาณ 2200 – 2500 ปีก่อน) เนื้อความของ “จวงโจวฝันผีเสื้อ” นี้ นำมาจากคัมภีร์ “จวงจื่อ บทฉีอู้ลุ่น” (庄子·齐物论) ซึ่งเขียนโดยจวงจื่อเอง มีความว่า
“อดีตกาลจวงโจวฝันว่าเป็นผีเสื้อ
ผีเสื้อซึ่งโบยบินอย่างเริงร่า ช่างเบิกบานสุขอุราเสียนี่กระไร!
ไม่รู้ว่าตัวคือจวงโจว ทันใดได้ตื่นขึ้น กลับตกตะลึงข้าคือจวงโจว
ไม่ทราบจวงโจวฝันเป็นผีเสื้อ หรือผีเสื้อฝันเป็นจวงโจว? จวงโจวกับผีเสื้อ
ย่อมต้องแตกต่าง นี่เรียกว่าตัวเราแลสิ่งอื่นรวมรั้งแลแปรเปลี่ยน"
ในบทนี้
จวงจื่อได้ใช้คารมที่โรแมนติกบรรยายถึงความคิดที่ว่าคนเราไม่สามารถแบ่งแยกความจริงกับความฝันและความเป็นความตายกับการแปรเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่นอย่างเด็ดขาดได้
ผ่านการบรรยายเหตุการณ์จวงโจวฝันว่าตนได้กลายเป็นผีเสื้อ
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น