วันอังคารที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2564

Immortality Chapter 1246 Goes north Ice God Palace( first)

Immortality Chapter 1246 Goes north Ice God Palace( first)


Chapter 1246 Goes north Ice God Palace( first)

北上冰神(第一更)

  เดินทางไปยังตำหนักเหมันต์ทางเหนือ.

 

"สองปี? พิธีบูชายันต์? ตำหนักเทพเหมันต์?"จงซานที่สูดหายใจที่เย็นเยือบเข้ามา.

 

"ทำไมการสังเวยในครั้งนี้,คนที่จะถูกนำไปบูชายันต์,แม้แต่เผ่าจิงเองก็ไม่รู้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกมาอีกครั้ง.

 

"จิงอู๋เองเพิ่งได้เป็นอาวุโสไม่นาน,เขายังไม่มีประสบการ,จงไม่ได้มีสิทธิ์ในการรับรู้เรื่องราวสำคัญของเผ่า!"อี้เหยี่ยนที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"หมื่นปีจะมีสักครั้งอย่างงั้นรึ? ตำหนักเทพเหมันต์เป็นคนส่งคนไปบูชายันต์,คาดไม่ถึงเลยว่าเวลานี้จะเป็นเผ่าจิง,ดูเหมือนว่าจะไม่ธรรมดา!"จงซานที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

 

"ครับ,นอกจากเผ่าจิงแล้ว,ยังมีเผ่าเต่าทมิฬทางเหนือ,ที่นำสมาชิกเข้าร่ม,ในเวลานี้พวกเขาได้เชิญยอดฝีมือหลายคนจากทั่วหล้าด้วย."อี้เหยี่ยนกล่าว.

 

"อืม,เผ่าเต่าทิฬทางเหนือ,ก่อนหน้านี้เคยได้ยิน,เกี่ยวกับสถานะของเต่าทมิศทางเหนือ,พวกเขาปรากฏตัวน้อยมาก,แทบไม่ออกมาจากขั้วโลกเหนือ,นอกตากนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเหมือนเผ่าจิง,พวกเขาไม่ต้อนรับคนนอก,แล้วได้อะไรจากจิงอู๋เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันบ้าง?"จงซานสอบถาม.

 

"เพียงเล็กน้อย,ดินแดนขั้วโลกเหนือนั้น,มีสามกลุ่มอิทธิพลใหญ่,เผ่าจิง,เผ่าเต่าทมิฬและตำหนักเทพเหมันต์!"อี้เหยี่ยนกล่าว.

 

"อืม!"จงซานที่พยักหน้ารับ.

 

"มี,เสาค้ำสวรรค์สี่เสา! ที่ดูเหมือนว่าเป็นเสาที่ใช้ค้ำยันฟ้าดิน,เซิ่งหวังเคยได้ยินหรือไม่?"อี้เหยี่ยนสอบถาม.

 

"ได้ยินมาบ้าง,เสาค้ำยันสวรรค์ทั้งสี่ที่ตั้งตระหง่านค้ำยันท้องฟ้า,ทว่าเจ้ารู้ที่มามันรึ?"จงซานสอบถามออกไป.

 

"ไม่เลย,เฉินได้ส่งคนออกไปสืบเช่นกัน,ในดินแดนขั้วโลกเหนือไม่ได้รับอะไรเลย,รับรู้เพียงว่ามันปรากฏขึ้นเมื่อหนึ่งล้านปีก่อน,ส่วนมาจากใหน,ไม่มีใครบอกได้,แม้แต่สำนักใหญ่เองก็ไม่มีใครรู้."อี้เหยี่ยนที่ส่ายหน้าไปมา.

 

"หนึ่งล้านปีที่แล้ว?"จงซานที่ครุ่นคิด.

 

เสาค้ำยันสวรรค์ทั้งสี่ปรากฏขึ้นเมื่อล้านปีก่อน? มีใครจงใจต้องการปกปิดอะไรหรือไม่?

 

"ทว่า,ในสถานที่ของเหล่าปุถุชน,เฉินได้ยินมาว่ามันเป็นตำนาน,นอกจากนี้ยังเป็นตำนานภายในอาณาเขตเฟิงจงของพวกเราด้วย,ทว่าอาจจะไม่สามารถเชื่อถือได้!"อี้เหยี่ยนกล่าว.

 

"หืม?ตำนาน,ไม่มีตำนานที่นั่น,แต่กลับมีตำนานที่นี่อย่างงั้นรึ?"

 

"ครับ,เพราว่ามันตำนาน,เสาค้ำยันสวรรค์ทั้งสี่,จึงเกี่ยวข้องกับท่านหญิงนวีหว๋าเป็นคนทำ."

 

"เจ้ากล่าวต่อ."

 

"ตามตำนานได้เล่าว่า,ทวีปภาคเหนือมีภูเขาใหญ่ลูกหนึ่ง,ที่เรียกกว่า,ภูเขาปู้โจว,หลังจางนั้นมันได้ล่มสลายจากการต่อสู้,ภูเขาปู่โจวนั้นเดิมที่ใช้ค้ำยันสวรรค์และปฐพี,เมื่อมันถล่มลงมา,ผืนปฐพีได้ถูกฉีกออกเป็นส่วนๆ,ภูเขาและแม่น้ำทั้งหมดแตกสลาย,ทุกคนอยู่ในสภาพย่ำแย่,ท่านหญิงนวีหว๋าเพื่อประชาชนทั่วหล้า,นางที่ใช้สมบัติสวรรค์,กลั่นศิลาเทวะห้าสี,จนท้ายที่สุดก็ทำการปิดรูรั่วของสวรรค์พร้อมกับใช้ขาทั้งสี่ของเต่าเทวะมายันเอาไว้,เสาค้ำยันสวรรค์ทั้งสี่,ก็คือขาทั้งสี่ของเต่าเทวะนั่นเอง."อี้เหยี่ยนกล่าว.

 

"ขาทั้งสี่ของเต่าเทวะอย่างงั้นรึ?"ดวงตาของจงซานที่หรี่เล็ก.

 

"มีเต่าเทวะที่แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึ? นอกจากนี้ถึงกับสามารถฉีกทำลายเทียนเต๋าฟ้าดิน,เป็นเรื่องที่ยากจะทำได้? บางทีมันอาจเป็นเพียงตำนาน!"อี้เหยี่ยนกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

 

ส่วนจงซานเองก็ส่ายหน้าไปมา,เพราะว่าเรื่องเล่านี้,ดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินมาก่อน,มันเป็นตำนานในโลกของเขา,นอกจากนี้ยังเหมือนกันมาก,นวีหว๋าอุดสวรรค์? ใช้ขาทั้งสี่ของเตาเทวะมาค่ำยันเอาไว้อย่างงั้นรึ? แม้แต่ยอมให้นำบ่าไหลสังหารเหล่าสัตว์เพื่อให้เผ่ามนุษย์ได้ประโยชน์?

 

หางมันเกิดขึ้นในอาณาเขตเฟิงจง,บางทีอาจจะพอเป็นไปได้,ทว่าทำไมถึงได้มีเรื่องเช่นนี้ในโลกมนุษย์ด้วย?

 

"เซิ่งหวัง,ท่านคิดว่านี่เป็นเรื่องจริงอย่างงั้นรึ?"อี้เหยี่ยนที่เผยท่าทางประหลาดใจ,เห็นชัดเจนว่าไม่อยากเชื่อ.

 

"หากไม่ใช่เรื่องจริง,เผ่าเต่าทมิฬทำไมถึงได้ปกป้องที่นั่นรุ่นแล้วรุ่นเล่า? เสาค้ำยันสวรรค์ต้องเกี่ยวข้องกับเสาค้ำยันสวรรค์ทั้งสี่,ทำไมเผ่าจิงจึงไม่ยอมไปใหน,บางที่เรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกัน,ดูเหมือนว่าข้าคงต้องเดินทางไปยังทิศเหนือแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

 

"เซิ่งหวัง,เกี่ยวกับคนที่ถูกบูชายันต์ของตำหนักเทพเหมันต์,อาจจะไม่ใช่ฮวงโหวก็ได้,เซิ่งหวังส่งคนอื่นไปสืบ,ไม่เห็นต้องนำตัวเองไปเสี่ยงภัยเลย."อี้เหยี่ยนกล่าว.

 

จงซานที่ส่ายหน้าไปมา,และกล่าวออกไปว่า,"ตำหนักเทพเหมันต์ทางเหนือนั้น,ข้าเคยเอ่ยแล้วว่าจะไป,ทว่าด้วยมีธุระอยู่มากมาย,ปีที่แล้วจึงไม่ได้ไปรับชิงซือ,แน่นอนว่าข้าจะต้องไปพบนางแน่,เจ้าไม่จำเป็นต้องกล่าวอะไร,ในเมื่อตำหนักเทพหมันต์อยู่ทางเหนือ,ก็ถือว่าไม่ไกล,หนึ่งปี,พวกเราก็เดินทางไปถึงแล้ว."

 

"ครับ!"อี้เหยี่ยนพยักหน้า.

 

ในเมื่อเซิ่งหวังตัดสินใจแล้วถึงเขากล่าวสิ่งใดไปก็ไร้ประโยชน์.

 

"เซียนเซิงซือยังคงปิดด่านอยู่รึ?"จงซานสอบถาม.

 

"เซียนเซิงซือยังคงปิดด่านอยู่,บางที่คงไม่สามารถเดินทางไปกับเซิ่งหวัง,ส่วนหวังคูในเวลานี้ก็ได้เดินทางกลับไปยังอาณาเขตโครงกระดูก."อี้เหยี่ยนกล่าวรายงาน.

 

ความหมายของจงซานชัดเจนอยู่แล้ว,ในเมื่อเตรียมการที่จะไปทิศเหนือ,เขาจะต้องทำในทันที,และต้องคัดเลือกคนเดินทางไปในครั้งนี้ด้วย.

 

จงซานเดินทางไปด้านนอกทุกครั้ง,จะมีเซียนเซิงซือด้วย,ในเวลานี้,ดูเหมือนว่าจะไม่ได้.

 

"อืม,ไม่มีปัญหา."จงซานพยักหน้ารับ.

 

"แล้วจะทำอย่างไรกับเผ่าจิง?"อี้เหยี่ยนสอบถาม.

 

"ขังเอาไว้ก่อน! เจ้าควรรู้ว่าควรทำอย่างไร."จงซานกล่าว.

 

"ครับ!"

 

หลังจากที่อี้เหยี่ยนออกไปแล้ว,จงซานที่เรียกใครคนหนึ่งเข้ามาพบ.

 

เป็นบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง,แววตาที่เต็มไปด้วยความอหังการ,ทว่าหลังจากที่มองจงซานแล้ว,เขากลับเต็มไปด้วยความเคารพ.

 

"เฉินกุยเส่อ,คารวะเซิ่งหวัง!"ชายหนุ่มที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

 

บุรุษหนุ่มผู้นี้ก็คือกุยเสอ,ในอดีตเขาก็คือเส้าเหยี่ยนเผ่าเต่าทมิฬนั่นเอง,เมื่อครั้งแดนเทพอมตะและต้าเจิ้งตัดสินใจต่อสู้เป็นตาย,เขาได้นำเผ่าเต๋าทมิฬกลุ่มหนึ่งทรยศจื่อจุ้น,ละทิ้งแดนเทพอมตะเข้ารวมต้าเจิ้งแทน.

 

เป็นความจริง,ที่การตัดสินใจของกุยเส่อนั้นไม่ผิดพลาด,ต้าเจิ้งนั้นทรงพลังกว่า,แดนเทพอมตะและราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย,และศาลเทวะมากมายของโลกใบใหญ่,ไม่สามารถขวางกั้นการเติบโตของต้าเจิ้งได้,ส่วนในภพหยินเองก็พัฒนาอย่างก้าวกระโดด.

 

เมื่อไม่นานมานี้,กุยเสอพบข้าราชบริพารของต้าเจิ้งจำนวนมหาศาล,กุยเส่อที่รู้สึกราวกับฝันไป.

 

เมื่อครั้งแยกสวรรค์สะบั้นปฐพีนั้น,แม้แต่ต้าเซียนก็ยังไม่มี,ต้าเจิ้งคือศาลเทวะที่อ่อนแอที่สุดในประวัติศาสตร์,ทว่าตอนนี้,มีเซียนบรรพชนหลายสิบคน,ส่วนจงซานเองก็กลายเป็นคนที่ทุกคนทั่วหล้าต้องหวั่นเกรง,กุยเส่อเองก็กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มอิทธิพลเช่นกัน,แม้นว่าจะไม่นับว่าใหญ่โต,ทว่ากลับทรงอำนาจกว่าเมื่อก่อนจนเทียบไม่ติด,เผ่าเต่าทมิฬของเขาเองก็ยังได้รับความเชื่อใจจากจงซานเช่นเดิม.

 

หากไม่ใช่เซิ่งหวัง,จะให้กุยเส่อซื่อสัตย์ต่อใครกัน?

 

"อืม,กุยเส่อหลายปีมานี้,พลังฝึกตนของเจ้าก้าวหน้าไม่น้อย!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

 

"แม้นว่าเฉินจะพยายามอย่างเต็มที่,ทว่าก็ยังด้อยกว่าเซิ่งหวังและอีกหลายคนของต้าเจิ้ง,เวลานี้เฉินเพิ่งก้าวไปถึงระดับเซียนโบราณเท่านั้น!"กุยเสอที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางละอายอยู่เหมือนกัน.

 

ในโลกใบเล็ก,เผ่าเต๋าทมิฬนับว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มอิทธิพลใหญ่,ได้รับการสนับสนุนของต้าเจิ้งมากมาย,เมื่อครั้งเดินทางมาถึงโลกใบใหญ่,แม้นว่าพวกเขาจะยังไม่แข็งแกร่งนัก,เขาเองก็มีระดับเซียนโบราณเท่านั้น,หากไม่เพราะว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเซิ่งหวังในอดีต,อำนาจของเขาในเวลานี้ก็คงยากที่จะมีได้.

 

"การทรมานตัวเองไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด,การเดินทางที่ถูกต้องนั้น,ไม่ใช่เพียงแค่เป้าหมายที่ต้องไปถึง แต่ต้องรอคอยโอกาสด้วย!"จงซานเอ่ย.

 

"ครับ,เฉินจะจดจำไว้,ขอบคุณเซิ่งหวังที่ชี้แนะ!"กุยเส่อที่กล่าวออกมาในทันที.

 

"ต้าเจิงนั้นมีเผ่าอสูรคู่บารมี,เป็นหมาป่า,มังกร,หงส์เพลิง,พยัคฆ์,และเต่าทมิฬ,เผ่าเต่าทมิฬและเผ่าพยัคฆ์นั้นไม่ค่อยเติบโตนัก!"จงซานเอ่ย.

 

เผ่าหมาป่ามีตี้เสวียนชา,ที่คอยกำราบเผ่าหมาป่ามากมาย.

 

เผ่ามังกรมีเสี่ยวจิน,ที่คอยรวบรวมเผ่ามังกรมา.

 

เผ่าหงส์เพลิงมีเสี่ยวหง,เป็นหงสาเพลิง,ทำให้สามารถเพิ่มเผ่าหงส์เข้ามาได้เช่นกัน.

 

ส่วนเผ่าเต่าทมิฬและเผ่าพยัคฆ์นั้นไม่มีตัวช่วยให้เติบโต.

 

"เฉินจะพยายามให้หนัก!"กุยเส่อที่คิดว่าจงซานกำลังตำหนิ,จึงเร่งรีบเอ่ยออกมาในทันที.

 

"เจ้าไม่ต้องกังวลไป,ข้าไม่ได้ตำหนิเจ้า,ทว่าจะคอยช่วยเจ้าวิเคราะห์,ทำไมเผ่าของเจ้าจึงพัฒนาได้ช้า?"จงซานเอ่ยถาม.

 

"เพราะว่าในทวีปทิศเหนือนั้น,ยังมีกลุ่มอิทธิพลใหญ่ของเผ่าเต๋าทมิฬ,ดินแดนขั้วโลกเหนือ,จื่อจุ้นเผ่าเต่าทมิฬนั้น! พวกเขาที่ครอบครองทิศเหนือ,ทำให้เผ่าเต๋าทมิฬมากมายไม่ยินดีที่จะเข้าร่วม,แม้นว่ามีคนต้องการเข้าร่วมก็มักเอ่ยเปรียบเทียบกับเผ่าเต๋าทมิฬของขั้วโลกเหนือ!"กุยเส่อที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

 

"เจ้าไม่ยินยอมอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถามด้วยรอยยิ้ม.

 

"ยินยอมหรือไม่,หาได้มีสิ่งใด,เวลานี้ทำได้แค่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง,รอให้ข้าแข็งแกร่งเหนือกว่าจื่อจิ้นเผ่าทมิฬ,เซียนเทียนจง,ข้าถึงจะมีคุณสมบัติแข่งขัน!"กุยเส่อพยักหน้ารับ.

 

"ข้าจำได้ว่าสายโลหิตของเจ้านั้น,อยู่ในระดับเดียวกับเซียนเซิง,ถือว่าเป็นสายโลหิตระดับสูงไม่ใช่รึ?"จงซานสอบถามออกไป.

 

"ครับ,แม้นว่าเฉินจะไม่สามารถเทียบกับสายโลหิตสุดยอดของเผ่าเต่าทมิฬ,ทว่าสายโลหิตที่เฉินมีนั้นค่อนข้างบริสุทธิ์,เทียบได้กับสายโลหิตรุ่นสอง."กุยเสอกล่าวยืนยัน.

 

"สายโลหิตรุ่นสอง?"

 

"ครับ,นอกจากบรรพชนเผ่าเต่าทมิฬแล้ว,สายโลหิตของเฉินสูงที่สุด."กุยเสอกล่าวยืนยัน.

 

"ดี,เจ้าไปเตรียมตัว,สามวันหลังจากนี้,เดินทางไปยังภาคเหนือพร้อมกับข้า."จงซานพยักหน้าและกล่าวออกไป.

 

"ไปทางเหนือ?"กุยเสอที่ดวงตาเป็นประกาย.

 

"ตัวตนของเซียนเทียนจง,พวกเราควรที่จะไปตรวจสอบเขาก่อน!"จงซานเอ่ย.

 

"ครับ!"กุยเสอที่เผยท่าทางตื่นเต้นเล็กน้อย.

 

ภายในใจของกุยเสอที่พอจะคาดเดาอะไรได้บางอย่าง,เขาที่นึกอะไรได้,ดังนั้นรู้สึกตื่นเต้นจนสั่นไหว,ทว่าก็สามารถก้าวออกไปได้อย่างไม่ได้โดยไม่เสียอาการ.

 

กุยเสอที่ออกไปแล้ว,จงซานที่เริ่มตะวัดพู่กันลงไปบนกระดาษแผ่นหนึ่ง.

 

"กุยเส่อ,จินเผิง,เต้าเหรินถู,โหลวซิงเฉิน,โหยวซาน,โหยวสุ่ย,โหยวฉวน,จื่อหยางจิงหง,โหยวหลาน,หนานกงเซิ่ง!"

 

สิบคนที่จะเดินทางไปทางเหนือกับเขา.

 

"นี่คือรายชื่อที่จะไปยังขั้วโลกเหนืออย่างงั้นรึ?"ในเวลานั้นเสียงเจื้อยแจ้วของสตีผู้หนึ่งก็ดังขึ้น.

 

"หวนจี? ไม่ใช่ว่าเจ้า,กุยเอ๋อ,หลิงเอ๋อ,โหยวโหยว,เห่าเม่ยลี่เดินทางไปกำราบเผ่ามังกรด้วยกันหรอกรึ? กลับมากันแล้วรึ?"จงซานที่เผยท่าทางประหลาดใจ.

 

ในเมื่อเห่าเม่ยลี่ต้องกำราบเผ่ามังกรในภพหยิน,เหล่ากลุ่มฮวงโหวที่เดินทางออกไปด้วยกัน,พวกเขาที่ต้องการช่วยกันและกัน,กลับกองทัพของสตรีที่แข็งแกร่ง,ทุกที่ที่พวกนางผ่านไป,ทุกอย่างที่กำราบแม้แต่หญ้าก็ไม่มีเหลือ,อย่างไรก็ตาม,เหล่าฮวงโหวของต้าเจิ้งนั้นไม่ใช่ตัวตนธรรมดา,นอกจากนี้ยังมีเซียนบรรพชนไม่น้อยที่ตามไปด้วย,ภารกิจดังกล่าว,ย่อมนับว่าไม่มีปัญหา.

 

แม้นแต่ตี้เซียนเซียน,ที่กำราบเผ่าหมาป่า,ยังมาเป็นผู้นำทาง,เหมือนกับการไปเที่ยวเล่นไปแล้ว.

 

"เจี่ยเจี่ยกุยเอ๋อให้ข้ากลับมา."หวนจีที่เผยออกมาด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ.

 

"กุยเอ๋อ?"จงซานที่ประหลาดใจเล็กน้อย.

 

จากนั้น,ก็ฝืนยิ้มออกมา,เข้าใจความหมายของกุยเอ๋อได้.

 

"เกี่ยวกับเรื่องนี้,ข้าจำได้ว่าข้ามาจากดินแดนขั้วโลกเหนือ,ที่นั่นเดิมที่เรียกว่าต้นกำเนิดปิศาจ,บางที่การที่ข้าไปที่นั่น,จะสามารถช่วยเจ้าได้,ข้าจึงต้องการเดินทางไปกับเจ้า!"หวนจีเอ่ย.

 

"อืม,ตกลง,หลังจากนี้สามวันพวกเราจะออกเดินทาง!"จงซานกล่าวรับคำในทันที.

 

ดินแดนขั้วโลกเหนือ? จงซานที่เต็มไปด้วยความสนใจ,เผ่าจิง,เผ่าเต่าทมิฬ,ตำหนักเทพเหมันต์? หวนจีก่อนหน้านี้,ก็บอกว่าตัวเองมาจากขั้วโลกเหนือ? ที่นั่นมีความลับอะไรกัน?

 

จงซานที่สังหารใจบางอย่าง,บางที่การเดินทางไปยังขั้วโลกเหนือครั้งนี้,อาจจะพบหนทางในการควบคุมภาคเหนือทั้งหมด,ดังนั้นจงซานจึงค่อนข้างสนใจเป็นอย่างมากว่าจะมียอดฝีมือจากที่ใหนบ้างที่จะเดินทางไปยังขั้วโลกเหนือในครั้งนี้.

 

สามวันหลังจากนี้เวลาเย็น.

 

ที่ด้านหน้าตำหนักเทียนหยวน,กุยเส่อ,จินเผิง,เต้าเหรินถู,โหลวซิงเฉิน,โหยวซาน,โหยวสุ่ย,โหยวฉวน,จื่อหยางจิงหง,โหยวหลาน,หนานกงเซิ่งและหวนจีที่อยู่กันครบ.

 

"เสวียนเอ๋อ,เรื่องต่างๆที่จื่อหยางจิงหงดูแล,เกี่ยวกับสถานการณ์ของภพหยาง,โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวต่างๆที่สำคัญทั่วหล้า,จงดูแลให้ดี!"จงซานที่กล่าวกับจงเสวียนอย่างเคร่งขรึม.

 

"ครับ,บุตรจะไม่ทำให้ฟู่หวงเสียชื่อเสียง!"จงเสวียนที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

 

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.

 

จากนั้นจงซานที่กวาดหน้ามองทุกคน,และกล่าว,"เริ่มเดินทาง!"

 

"รับทราบ!"เหล่าเสนาธิการทั้งหมดรับคำ.

 

จากนั้น,กลุ่มคน 12 คน,ก็บินตรงไปยังทางเหนือด้วยความเร็ว.


*********

ตำนานนวีหว๋าปิดฟ้า,(อุดรอยรั่วของสวรรค์)

ตามตำนานกล่าวว่าเมื่อนานมาแล้ว,เทพสององค์,เทพไฟและเทพน้ำทะเลาะกันจนถึงกับต่อสู้กัน,ต่อมาเทพน้ำพ่ายแพ้,จึงรู้สึกอับอายจึงได้เอาหัวโขกไปยังภูเขาปู้โจว,ทำให้ภูเขาปู้โจวพังทลาย,ไม่มีใครรู้ว่าภูเขาปู้โจวนั้นเป็นเสาคำยันฟ้าดินอยู่,หลังจากภูเขาปู้โจวพังทลายลงทำให้ฟ้าดินแปรปรวน,ฟ้าเอียงไปทางทิศตะวันตกเฉยงเหนือ,ดินเอดียงไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้,ภูเขาและผืนป่าถูกไฟไหม้ทั้งหมด,ปิศาจออกมาทำร้ายผู้คน,มนุษย์ประสบภัยพิบัติอย่างใหญ่หลวง

 

นวีหว๋าเห็นดังนั้นจึงรู้สึกเจ็บปวดจึงได้ตั้งใจอุดรอยรั่วของสวรรค์,เพื่อที่จะอุดรอยรั่วนั้นได้นำหินห้าสีมาหลอมเพื่อเชื่อมต่อฟ้าดิน,โดยการตัดขาทั้งสี่ของเต่ายักษ์มาค้ำเอาไว้,แต่ดูเหมือนว่านวีหว๋าจะทำไม่สมบูรณ์,ฟ้าดินยังคงเอียงอยู่เล็กน้อยทำให้เกิดปรากฏการ,ดวงตะวัน,ดวงจันทรและดวงดาวเคลื่อนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ,ทำให้แม่น้ำไหลบ่าไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้.






ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น