วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2564

Immortality Chapter 1230 Ancestor Immortal 2-layer Heaven

Immortality Chapter 1230 Ancestor Immortal 2-layer Heaven


Chapter 1230 Ancestor Immortal 2-layer Heaven

祖仙二重天

  เซียนบรรพชนขั้นที่สอง.

 

ภายในอาณาจักรมังกรบรรพชน,บนอดีตวิหารโหยวหลานเดิม.

 

หลังจากที่ปราชญ์เทพโหยวหลานสละตำแหน่ง,หยวนซือก็ต่อสู้กับหงจวิน,จนพื้นที่รอบๆพังทลายไม่มีชิ้นดี,เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่มาสำรวจแต่ไม่อยู่นาน,พวกเขาที่มาถึงก็เร่งรีบจากไป,ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีอะไรให้สนใจอีกแล้ว.

 

ทว่าไม่ไกลออกไปมากนัก,ภายในหุบเขาแห่งหนึ่ง,มียอดฝีมือกลุ่มหนึ่งประจำอยู่.

 

ด้านนอกหุบเขานั้นมีเหล่าเสนาธิการของต้าเจิ้งประจำการอยู่.

 

ภายในตำหนักแห่งหนึ่ง.

 

จินเผิงที่รู้สึกสงสัยเล็กน้อยจึงได้สอบถามกับเซียนเซิงซือ,"เซียนเซิงซือ,นั่นคือฮวงโหวลำดับหนึ่งของต้าเจิ้งจริงๆรึ? ไม่ใช่ว่าฮวงโหวลำดับหนึ่งเป็นปุถุชนหรอกรึ? ทำไมแม้แต่ข้ายังไม่สามารถมองเห็นพลังฝึกตนของฮวงโหวได้ล่ะ?"

 

เซียนเซิงซือที่จ้องมองไปยังจินเผิงและเอ่ยออกมาว่า,"แม่ทัพจิน,เรื่องบางอย่างพวกเราก็ไม่ควรจะถาม!"

 

ใบหน้าของจินเผิงที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน,ครุ่นคิดถึงคำพูดของเซียนเซิงซือ,ก็เข้าใจเหตุผลได้ในทันที.

 

ฮวงโหวลำดับหนึ่ง,เป็นภรรยาของเซิ่งหวัง,ไม่ว่าจะมีพลังฝึกตนเท่าใด,แต่นั่นก็เป็นเรื่องในครอบครัวของเซิ่งหวัง,เขาที่เป็นข้าราชบริพารของเซิ่งหวัง,ควรรับรู้เกี่ยวกับราชกิจของแผ่นดินเท่านั้น,เรื่องของงานก็ส่วนงาน,เรื่องของครอบครัวก็ส่วนครอบครัว,เรื่องนี้จำเป็นต้องทำให้ชัดเจน,ไม่เช่นนั้นแล้วจะมีปัญหาตามมาได้.

 

จินเผิงที่สูดหายใจลึก,ก่อนที่จะโค้งคำนับให้กับเซียนเซิงซือ,"ขอบคุณเซียนเซิงซือที่กล่าวเตือน!"

 

เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ,เขาที่เป็นข้าราชบริพารคนอื่นๆ,แม้นว่าคำถามจะไม่ได้มีเจตนาร้าย,ทว่าในเมื่อเข้าร่วมต้าเจิ้งแล้ว,ก็ควรจะทำตามกฎเกณฑ์ให้ดีที่สุด.

 

"วูซซซซ ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~!”

 

ในเวลานั้น,กลิ่นอายที่หนักหน่วงรุนแรงน่าเกรงขาม,แผ่ออกจากภายในหุบเขา,กระจายไปทั่วทุกสารทิศ,ต้นไม้รอบๆที่ราวกับถูกเป่าหักโคลน,เมฆฝนบนท้องฟ้ามารวมตัวกัน,หมุนวนไปมาด้วยความเร็วสูงล้อมรอบหุบเขาแห่งนี้,จำในตำหนักภายในหุบเขา,ที่พักของจงซาน.

 

"กลิ่นอายของการก้าวสู่ขั้นเซียนบรรพชน? ทรงพลังมาก!"ที่ไกลออกไปเต้าเหรินถูที่กำลังสอนเหล่าเซียนโบราณอยู่.

 

ในตำหนักอีกแห่งหนึ่ง,เจี้ยนอ้าวที่นั่งสมาธิวางกระบี่ยาวบนตัก,หลับตาบำเพ็ญ.

 

ทันใดนั้น,กลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวที่ระเบิดออกมา,กระบี่บนตักของเขาที่สั่นไหวเล็กน้อย,ดวงตาของเจี้ยนอ้าวที่ลืมขึ้นในทันที,ร่างกายของเขาที่ยังคงสงบ,แตะไปที่กระบี่เล็กน้อย,จากนั้นก็จ้องมองไปยังทิศทางของหุบเขาแห่งหนึ่ง.

 

ดวงตาของเจี้ยนอ้าวที่เป็นประกาย,เจตจำนงแห่งการต่อสู้ที่ปะทุขึ้นมาในทันที.

 

"ไม่ทำให้ข้าต้องผิดหวังจริงๆ!"เจี้ยนอ้าวสูดหายใจลึก.

 

จากนั้นก็หลับตาลงและบำเพ็ญต่อ.

 

กลิ่นอายที่หนักหน่วงทรงพลัง,กวาดไปยังพื้นที่รอบๆ,ราวกับจะกดทับให้ทุกคนไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้,เหล่าเซียนบรรพชนเองก็เผยท่าทางจริงจังออกมาด้วยเช่นกัน.

 

"ศัตรูบุก!"เซียนโบราณคนหนึ่งที่อุทานออกมาด้วยท่าทางตกใจ.

 

เสียงดังกล่าว,ทำให้เซียนโบราณหลายคนเร่งรีบระงับแรงกดทับและบินออกมาอย่างรวดเร็ว.

 

"กลับไป!"ทันใดนั้นเสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นในทันที.

 

เป็นเสียงของเซิ่งกงเป้านั่นเอง.

 

เหล่าเซียนโบราณที่ตื่นตกใจเล็กน้อย,ทว่าก็หยุดลงในทันที.

 

"เป็นกลิ่นอายของเซิ่งหวัง,ไม่จำเป็นต้องตกอกตกใจไป!"เซิ่งกงเป้าที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

 

"เซิ่ง,เซิ่งหวัง?"เหล่าเซียนโบราณที่บินออกมาเผยท่าทางตื่นตกใจทันที.

 

ราวกับเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ขึ้น,เซียนโบราณทุกคนต่างก็เผยท่าทางประหลาดใจออกมา,เรื่องนี้,จะเป็นไปได้อย่างไร!

 

กลิ่นอายของเซิ่งหวัง?นี่คือกลิ่นอายยกระดับเซียนบรรพชน? นี่คือการเลื่อนระดับไปยังเซียนบรรพชน? เซิ่งหวังตัดผ่านระดับไปยังเซียนบรรพชนอย่างงั้นรึ? เป็นไปได้รึ? เหล่าเซียนโบราณทั้งหมดไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.

 

ภายในใจของเขานั้น,เซิ่งหวังนั้นมีพลังเกินจะหยั่งได้,และยังสามารถใช้เทียนเต๋าได้หลายสิบเส้น,เรื่องนี้แม้แต่เซียนบรรพชนด้วยกันการที่จะทำได้นั้น,ต้องเป็นเซียนบรรพชนชั้นยอดเท่านั้น,พลังที่น่าหวาดกลัวนี้,อยู่ในระดับเซียนโบราณ? เซียนโบราณเองรึ?

 

เทียบกับพวกเขา,ที่เป็นเซียนโบราณล่ะ?

 

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ได้ทำลายความรู้สึกนึกคิดของเหล่าเซียนโบราณไปทั้งหมด,พวกเขากับเซิ่งหวังช่างแตกต่างกันจนไม่อยากเชื่อ,ทว่ากลิ่นอายนี้,เป็นเซิ่งหวังจริงๆ.

 

นี่เซิ่งหวังเพิ่งก้าวไปถึงระดับเซียนบรรพชนจริงๆรึ?

 

"เซียนเซิงเซิ่ง,เซิ่งหวังก่อนหน้านี้มีระดับแค่เซียนโบราณอย่างงั้นรึ?"เซียนโบราณคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ.

 

"ใช่,เซียนเซิงเซิ่ง,เซิ่งหวังแข็งแกร่งมาก,จะมีระดับเพียงแค่เซียนโบราณได้อย่างไร?"เซียนโบราณอีกคนที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อ.

 

"เซิ่งหวังและเจ้านั้นแตกต่างกัน."เซิ่งกงเป้าที่เอ่ยออกมาเพียงเท่านั้น.

 

ทว่าเพียงเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว,จงซานที่เป็นเซิ่งหวังของต้าเจิ้ง,ทว่าพวกเขาเป็นเพียงแค่ข้าราชบริพาร,ง่ายๆ,เรื่องนี้ก็ต่างกันมากมายแล้ว.

 

"รับทราบ!"ทุกคนที่ยิ้มอย่างข่มขื่นยอมรับความจริง.

 

อย่างไรก็ตาม,แม้นว่าจะยิ้มอย่างขมขื่นก็เผยท่าทางตื่นเต้นด้วยเช่นกัน,เซียนโบราณ? เซิ่งหวังมีระดับเซียนโบราณยังแข็งแกร่งขนาดนี้,ตอนนี้ก้าวไปถึงเซียนบรรพชนแล้ว,จะแข็งแกร่งขนาดใหนกัน?

 

เหล่าเซียนโบราณบางคนเพียงแค่คิดก็ร่างสั่นสะท้านเล็กน้อยแล้ว.

 

"เอาล่ะ,คุ้มกันพื้นที่รอบๆให้แน่นหนา,อย่าได้รบกวนเซิ่งหวัง!"เซิ่งกงเป้าที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

 

"รับทราบ!"เหล่าเซียนโบราณที่รับคำอย่างแข็งขัน.

 

หลังจากออกมาสั่งการเซียนโบราณแล้ว,เซิ่งหงเป้าก็จ้องมองไปยังทิศทางของหุบเขาดังกล่าว,พลางถอนหายใจออกมาด้วยเช่นกัน.

 

เซียนเซิงซือและจินเผิงที่ก้าวออกมาจากซุ้มตำหนัก,จ้องมองไปยังหุบเขาแห่งหนึ่ง,จินเผิงที่เผยความตื่นเต้นดีใจออกมา,ส่วนเซียนเซิงซือที่เผยใบหน้าขอบคุณอกมาด้วย,ราวกับว่าเขาได้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องแล้ว.

 

หวังคูที่นำโหยวซาน,โหยวสุ่ย,โหยวฉวน,ก้าวออกมาจากตำหนัก,จ้องมองไปยังทิศทางของหุบเขาแห่งหนึ่ง,โหยวซานที่กล่าวออกมาว่า,"องค์ราชา,ครั้งนี้ผู้น้อยมั่นใจในการตัดสินใจขององค์ราชายิ่งนัก."

 

"พวกเจ้าล่ะ?"หวังคูที่จ้องมองไปยังโหยวสุ่ยและโหยวฉวน.

 

"การที่องค์ราชาได้พาเผ่าโครงกระดูกเข้าร่วมต้าเจิ้ง,รับจงซานเป็นนาย,เรื่องนี้ผู้น้อยย่อมยินดีทำตาม,หากแต่คราแรกนั้นผู้น้อยรู้สึกไม่พอใจอยู่เหมือนกัน,และไม่ใช่แค่ผู้น้อย,ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดต่างก็เผยท่าทางไม่พอใจ,ในภพหยินนั้น,พวกเราถือว่าเป็นเผ่าใหญ่,ตอนนี้กลับยินดีเป็นเพียงข้าราชบริพารของศาลเทวะ,ข้าและคนอื่นๆแน่นอนย่อมไม่สบายใจ,ตอนนี้ดูเหมือนกว่าการตัดสินใจขององค์ราชาจะได้รับการรับรองแล้ว."โหยวสุ่ยที่กล่าวตอบ.

 

"ผู้น้อยเองก็คิดว่าเติ้งเจิ้งนั้นเติบโตได้อย่างรวดเร็ว,เซิ่งหวังก้าวหน้าได้เร็วจนน่าเหลือเชื่อ,พริบตาเดียวก็เกินกว่าที่พวกเราจะคาดถึงได้แล้ว,การที่องค์ราชาอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญ,ข้าและคนอื่นๆชื่นชมยิ่งนัก!"โหยวฉวนที่พยักหน้ายอมรับ.

 

"อืม!"หวังคูพยักหน้ารับ.

 

บนสถานที่แห่งหนึ่งโหลวซิงเฉินและจื่อหยางจิงหงที่อยู่สถานที่เดียวกัน.

 

โหลวซิงเฉินที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอาย,แววตาที่เผยท่าทางถอนหายใจเช่นกัน,ตัวเขาที่ได้รับมรดกโห่วอี้มา,ทำให้ก้าวไปถึงระดับเซียนบรรพชนได้,ส่วนเซิ่งหวังกับก้าวไปเป็นขั้นเป็นตอนจนถึงระดับเซียนบรรพชน,ในอดีตเขาได้พ่ายแพ้เซิ่งหวัง,เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สมควรอย่างยิ่งแล้ว.

 

จื่อหยางจิงหงที่จ้องมองไปยังทิศทางของหุบเขาด้านหน้า,พร้อมกับนับนิ้วคำนวณอย่างรวดเร็ว.

”!”

 

ขณะที่คำนวณพยากร,นิ้วมือของเขาโก่งโค้งจนแทบกลายเป็นวงกลม,หากแต่จื่อหยางจิงหงที่ยังคงนับนิ้วไปมาอีกหลายครั้ง.

"ปับปับปับปับ ............!”

 

หลายต่อหลายครั้ง,แต่กลับถูกพลังสะท้อนกลับจนต้องหยุด,นิ้วของเขาที่สั่นไหวไปมา,จนกระทั่งไม่สามารถ พยากรต่อไปได้,สร้างความตื่นตะลึงประหลาดใจต่อเขาเป็นอย่างมาก.

 

"ท่านพ่อ,ท่านบอกว่าจงซานเพิ่งตัดผ่านไปยังระดับเซียนบรรพชนอย่างงั้นรึ?"โหยวจิงซินที่เผยท่าทางตื่นตะลึง.

 

โหยวหลานทื่ตื่นตะลึงเช่นกัน.

 

"ควรจะเป็นเช่นนั้น!"ดูเหมือนว่าโหยวหลานก็รู้สึกราวกับว่าฝันไปไม่ต่างกัน.

 

"เรื่องนี้,เป็นไปไม่ได้?"โหยวจิงซินที่รู้สึกราวกับถูกเล็บแมวที่ข่วนใจ,จนต้องอุทานออกมา.

 

"จิงซิน!"โหยวหลานที่กล่าวปรามโหยวจิงซิน.

 

"ท่านพ่อ,เรื่องนี้....,มันยากที่จะยอมรับได้จริงๆ."โหยวจิงซินที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางร้อนรน.

 

โหยวจิงซินที่เห็นพลังของจงซานในวันนั้น,ทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก,ในเวลานี้กับพบว่าตอนนี้พลังฝึกตนของจงซานกลับไม่ได้สูงอะไรเลย,มันได้ทำร้ายจิตใจของเขา,จนไม่สามารถยอมรับได้,เป็นเรื่องเท็จ,ไม่จริงแน่นอน!

 

"ข้ามอบนาม,จิงซินให้กับเจ้า,หวังว่าเมื่อเจ้าพบกับความยากลำบากจะเผชิญมันด้วยความสุขุม,เจ้าจงรู้จักคิดแยกแยะ,พลังฝึกตนของเจ้าก็ไม่ได้ย่ำแย่,แต่ไม่ว่าเซิ่งหวังจะมีพลังฝึกตนเท่าใด,ด้วยพลังของเจ้าก็ไม่สามารถเทียบเขาได้เหมือนเดิม,ไม่แม้แต่เงยหน้าหันมอง,ความลึกลับของโลกใบใหญ่นั้น,เจ้าควรจะรอคอยไปดูมันด้วยตาตัวเอง!"โหยวหลานเอ่ย.

 

"ครับ!"โหยวจิงซินพยักหน้ารับ.

 

ภายในหุบเขาที่ใกล้ที่สุด,เป็นที่พักของหวนจี,นางที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่แผ่เข้ามา,หวนจีที่จดจ้องมองออกไป,ใบหน้าที่เผยความซับซ้อนออกมา,นางที่หัวเราะร่าในใจ,จากนั้นก็นั่งเงียบ,ขณะที่จ้องมองไปยังทางออกหุบเขา,ราวกับว่ากำลังรอคอยอะไรบางอย่าง.

 

ในหุบเขาแห่งนั้น,มีกระท่อมขนาดเล็ก,เวลานี้มีบ่อน้ำพุผุดพ่นขึ้นมาด้วย.

 

กระท่อมที่สร้างขึ้น,ก่อนหน้านี้มันเคยอยู่สถานที่แห่งหนึ่ง,ในคฤหาสน์จง,มันดูเหมือนกันมาก,หากแต่สถานที่ดังกล่าวจงซานไม่ได้ไปเยือนมันนานแล้ว.

 

ภายในห้อง,บนเตียงนอน,ในเวลานี้มีเพียงจงซานที่นั่งสมาธิอยู่.

 

จงซานในร่างที่เปลือย,เสื้อผ้าที่วางอยู่บนหัวเตียง,ไม่มีทีท่าว่าจะนำมาสวม.

 

จิตสำนึกของจงซานที่จมเข้าไปในร่างกาย.

 

เซียนบรรพชน,ท้ายที่สุดก็ก้าวมาถึงเซียนบรรพชน! หลายวันมานี้เพราะการช่วยเหลือของกุยเอ่อที่มีร่างธาตุดิน,ทำให้จงซานทะลวงไปยังระดับเซียนบรรพชน,และยังมีพลังจากการย่อยอสูรระเบิดจากแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบที่เพิ่งถูกนำมาใช้.

 

พลังของเขาจึงยกระดับขึ้นไปสองขั้นทันที.

 

กุยเอ๋อที่เหนื่อยล้า,เวลานี้กลับนอนหลับลึกเหมือนเช่นในอดีต,จงซานที่เริ่มทะลวงระดับ,และปรับสภาพร่างกาย,ด้วยเขามีรากของร่างกายที่กว้างใหญ่,การจะทะลวงไปแต่ละระดับนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย.

 

แต่ด้วยการเตรียมพร้อมอย่างดี,ทำให้เขาก้าวไปอยู่ในระดับเซียนบรรพชนขั้นที่สองได้อย่างมั่นคง.

 

เซียนบรรพชน,จงซานรู้สึกว่า ดูคล้ายกับระดับสวรรค์แท้เมื่อครั้งเป็นปุถุชน,ระดับสวรรค์แท้เมื่อครั้งเป็นปุถุชนนั้น,มีอยู่ด้วย 12 ขั้น,เพียงแค่อยู่ในระดับ 9 ก็สามารถโบยบินเป็นเซียนได้แล้ว,ทว่าขั้นที่เก้าจะเป็นเพียงเซียนมนุษย์,ระดับสิบโบยบินกลายเป็นเซียนลึกล้ำ,ระดับสิบเอ็ดโบยบินเป็นเซียนปฐพี,และระดับสิบสองเป็นเซียนสวรรค์.

 

เซียนบรรพชน,ขั้นที่เก้าก็มีคุณสมบัติที่จะกลายเป็นปราชญ์เทพได้,มีความสามารถแย่งชิงตำแหน่งปราชญ์เทพได้,และยิ่งมีระดับพลังฝึกตนสูงเท่าไหร่,เมื่อได้ตำแหน่งปราชญ์เทพก็จะมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น,เทียบกับหงจวินและหมี่เทียน,ทั้งที่ทั้งสองเป็นปราชญ์เทพเช่นกัน,ทว่าความแข็งแกร่งนั้นกลับไม่สามารถนำมาเทียบกันได้เลยแม้แต่น้อย.

 

เซียนโบราณขั้นที่ 12 ,นี่คือสิ่งที่ทุกคนรับรู้,ทว่าเซียนเซิงซือบอกจงซานว่าไม่ได้มีแค่สิบสองระดับ,แต่มี 13 ระดับ,และม่อจื่อยังเอ่ยว่าภายในโลกใบใหญ่นั้นไม่มีใครสามารถก้าวไปถึงระดับเซียนบรรพชนขั้นสมบูรณ์แบบ,บางที,ในสายตาของพวกเขา,เซียนบรรพชนขั้นที่ 13 ,ถึงจะถูกเรียกว่าขั้นสมบูรณ์แบบ.

 

จงซานที่ก้าวมาถึงระดับเซียนบรรพชนแล้ว,เวลานี้ได้ก้าวเข้ามาในอาณาจักรสุดท้ายของสวรรค์และปฐพีแห่งนี้แล้ว.

 

เซียนบรรพชนขั้นที่สอง.

 

เมื่อครั้งอยู่ในระดับเซียนโบราณ,จงซานสามารถที่จะกระตุ้นต้าเต๋าของตัวเองได้,เวลานี้เมื่อเขามาถึงระดับเซียนบรรพชน,เขาย่อมสามารถสร้างมันขึ้นมาได้เช่นกัน,ซึ่งก่อนหน้านี้เขาสามารถทำได้แค่เวลาสั้นๆเท่านั้น.

...

 

ภพหยิน,เขตแดนจวงหลุน,ร่างแยกเงาจงซานที่กำลังเก็บตัวอยู่.

 

ที่ด้านนอกตำหนักปู่ซือ,เหล่าองค์รักษ์มากมายที่คอยคุ้มกัน,ทว่าจู่ๆในเวลาเดียวกันกลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังพวยพุ่งออกมาจากด้านนอกตำหนัก.

 

"เซิ่งหวัง,ทรงพระเจริญ!"เหล่าเสนาธิการที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.

 

ในเวลาเดียวกันนั้น,ทุกคนต่างก็เข้าใจ,เซิ่งหวังได้ก้าวถึงระดับเซียนบรรพชนแล้ว,หนึ่งพันปีกกว่า,ใช้เวลาเพียงหนึ่งพันปีกว่าๆเท่านั้น.

 

"เซิ่งหวัง,นำพาความรุ่งโรจน์ต่อแผ่นดิน,เป็นนิรันดร์เหมือนดั่งสวรรค์!"ประชาชนทั่วไปที่ตะโกนออกมาเสียงดังกระหึ่ม.

 

เซิ่งหวังได้ก้าวไปถึงระดับเซียนบรรพชนแล้ว,ดินแดนทางเหนือต้องกลัวใครอีก? ต้าเจิ้งจะก้าวออกไป,ใครกล้าขวาง?

 

บนท้องฟ้าของสวนสวรรค์ลอยฟ้าหลิงเซียว,วาสนาที่อยู่ๆก็พลุ้งพล่าน,ต้นพลังของต้าเจิ้งที่ดูเหมือนว่าดูทรงพลังน่าเกรงขามมากขึ้น.

 

ภายในเมฆวาสนา,มังกรทองวาสนาตนหนึ่ง,ที่หน้าผากมีขีดสีชาติ,หลังจากที่พบว่าเมฆวาสนาพลุ้งพล่านดูแข็งแกร่งน่าเกรงขามขึ้น,มันได้ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.

 

ภายในหุบเขาเทียนเซี่ย.

 

เทียนเสิ่นจื่อที่ปิดด่าน,ทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้น,ภายในตำหนักใต้ดิน,เหล่าคนในชุดดำที่ขาดวิ่น,ต่างก็ลืมตาขึ้น,ทุกคนที่ขมวดคิ้วแน่น,ท้ายที่สุดก็มองไปยังเทียนเสิ่นจื่อพร้อมๆกัน.

 

"ใจเย็นไว้,งานสำคัญใกล้มาถึงแล้ว,อย่าได้ทำให้มันซับซ้อนยิ่งขึ้น!"เทียนเสิ่นจื่อเอ่ย.

 

"ตกลง!"เหล่าคนชุดดำที่พยักหน้ารับ,ทุกคนเวลานี้ที่ดูเหมือนกับศพมีชีวิต,ขณะที่หลับตาลงพักผ่อนต่อไป.







ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

ปัจจุบันแปลจบแล้ว 1672 ตอน สนใจติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ครับ

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ แปลจบแล้ว.

 

8 ความคิดเห็น:

  1. คิดถึงแอดจังเลย แอดหายไปไหน เป็นสองอาทิตย์แล้ว แอดทำงานเหนื่อยไหม สู้ๆนะแอด

    ตอบลบ
  2. รอใจจะขาดละครับหายนานเกิน

    ตอบลบ
  3. เลิกแปลเรื่องนี้แล้วหรอครับ

    ตอบลบ
  4. น่าจะอดอ่านแล้วครับ TT

    ตอบลบ
  5. ใจเย็น ความหวังน่ะเป็นสิ่งที่สวยงาม

    ตอบลบ
  6. สงสัยอดอ่านแล้ว นานเกิน

    ตอบลบ
  7. หวังว่าแอดจะไม่ติดโควิทนะคับ

    ตอบลบ