Strongest Sect of All Times Chapter 153 Destroys to Laozi/father the signboard!
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 153 Destroys to Laozi/father the
signboard!
把牌匾给老子打碎!
เมื่อฮู่เจิ้งถูกทุบสลบบนลานยุทธ์,ฉินเห่าหรานก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป,เขารู้สึกโลกทั้งโลกหยุดนิ่งไปในทันที.
เหล่าชาวยุทธ์ที่ชะงักงัน,ตื่นตะลึงผ่านไปนานเหมือนกันถึงจะดึงสติกลับมาได้.
เหล่าพันธมิตรร้อยสำนัก,ที่จ้องมองฉินเห่าหรานด้วยความเศร้าใจ.
ชนะสี่ในเจ็ดการต่อสู้,ตอนนี้สำนักเห่าฉีแพ้ไปสี่แล้ว,นั่นก็หมายความว่าอีกสามการต่อสู้พวกเขาชนะหมดก็ไร้ความหมายอยู่ดี.
นี่หมายความว่าผู้นำฉิน,จะต้องไปล้างห้องสวมสำนักไท่กู่เจิ้งอย่างงั้นรึ?
นี่คือเจ้าสำนักเห่าฉี,นี่คือผู้นำพันธมิตรของพวกเรา,อ๊าก!
ไม่สามารถยอมรับได้,ยากจะยอมรับ!
พวกเขาที่เดินทางมารวมตัวกันที่สำนักเห่าฉีก่อนเวลา,ไม่เพียงแต่ต้องการเห็นจุนซ่างเซียวขายหน้าอับอาย,และยังต้องการเห็นศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งถูกยำใหญ่ด้วย.
ท้ายที่สุด!
ท้ายที่สุดแล้ว!
แผนการที่วางแผนเอาไว้ทั้งหมด,กลับกลายเป็นขวางงูไม่พ้นคอ,คนที่ขายหน้ากับเป็นฉินเห่าหรานแทน,และศิษย์ของสำนักเห่าฉีถูกทุบตีไม่ต่างจากหมาตาย!
เหล่าชาวยุทธ์ที่มาชมเพื่อความสนุก,เวลานี้กลายเป็นเงียบงัน.
แม้นว่าพวกเขาจะไม่คิดจะเข้าข้างจุนซ่างเซียวเลย,ทว่าศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งเองก็ชนะสี่คน,อย่างหมดจด.
สำนักระดับแปด,เอาชนะสำนักระดับหกได้อย่างราบคาบ.
หากว่าพวกเขาไม่เห็นกับตา คงเชื่อไม่ลงอย่างแน่นอน.
ไม่ยากจะจินตนาการถึง,เมื่อเรื่องนี้กระจายไปทั่วมนทลชิงหยาง,กับคนที่ไม่ได้เห็นการต่อสู้,อย่างแรกคงจะไม่มีใครเชื่อ,หรือแม้แต่เอ่ยกล่าวว่าพวกเขาพูดเรื่องไร้สาระออกมาอย่างแน่นอน!
หวังตงหลิงเองก็คาดไม่ถึงด้วยเหมือนกัน.
ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งสี่คนนั้นแข็งแกร่างมาก,ทำให้ทุกคนต้องตื่นตะลึงดวงตาเบิกกว้าง.
แม้แต่แอบคิด,อีกหนึ่งปีหลังจากนี้พวกเขาเดินทางไปยังนิกายเซิ่งชวน,ผู้เยาว์เหล่านี้จะแข็งแกร่งไปถึงระดับใหน?
อาวุโสเขาซางซานเวลานี้ รู้สึกคาดหวังอยู่เล็กน้อยเช่นกัน.
“ผู้นำฉิน,ศิษย์ของข้าชนะสี่คนแล้ว,โปรดทำตามการเดิมพันด้วย,มาทำความสะอาดห้องน้ำให้กับสำนักไท่กู่เจิ้ง.”
รอยยิ้มปริ่ม ๆนิ่ง ๆ
ดูไม่มีเจตนาอะไร,”โปรดวางใจ,ห้องส้วมสำนักข้านั้นไม่เหม็นหรอก.”
ที่มุมปากของทุกคนกระตุก.
มารดาเถอะ,ห้องส้วมใหนไม่เหม็นกัน!
ผู้นำฉินที่กุมหน้าอก,ร่างกายสั่นเทิ้ม,หายใจแรงเร็วขึ้น.
เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้,เขาไม่ยอมรับที่จะไปทำความสะอาดห้องส้วมของสำนักไท่กู่เจิ้ง!
“ทุกท่าน.”
จุนซ่างเซียวที่จ้องมองไปยังเหล่าชาวยุทธ์ที่มาชมการแข่งขัน,กล่าวออกไปว่า,”โปรดเอ่ยคำพูดที่พวกเจ้าพูดไปก่อนหน้านี้,ให้ผู้นำฉินได้ฟังอีกครั้งหน่อย.”
เหล่าชาวยุทธ์ที่ได้แต่ก้มหน้าก้มตากันลงไปตาม ๆ
กัน.
จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมา,กล่าวออกไปว่า,”พวกเจ้าไม่พูด,เปิ่นจั้วจะเป็นคนพูดให้ฟังก็ได้.”
เขาจ้องมองไปยังผู้นำฉิน,กล่าวออกมาเสียงดังฟังชัด,”ใครที่ไม่รักษาคำพูด,ล้วนแต่ถูกรังเกียจจากทุกคนทั่วยุทธภพ,ใครที่ผิดสัญญา,พวกเราทุกคนพร้อมร่วมมือกันกำจัดให้สิ้น.”
“พรึด!”
ได้ยินคำพูดดังกล่าว,ฉินเห่าหรานที่พ่นโลหิตออกมาอีกครั้ง.
ชื่อเสียงของเขาในยุทธ์ภพ,เขายังต้องสนใจหรือไม่?
ชื่อเสียงเกียรติยศที่สั่งสมมา!
การประลองวันนี้สำนักเห่าฉีพ่ายแพ้แล้ว,หากไม่ทำตามคำมั่น,ก็เท่ากับกลายเป็นคนหน้าไม่อาย,เสียชื่อเสียงที่สั่งสมมาไปในทันที.
ฉินเห่าหรานที่เงยหน้าขึ้นช้า
ๆ,ดวงตาทั้งสองข้างที่แดงซ่านจ้องมองจุนซ่างเซียว,จิตสังหารมากมายที่แผ่ออกมา,”เจ้าสำนักจุน,รังแกคนอื่นเกินไปแล้ว!”
“อั๊ยยะ,กลัวไปหมดแล้ว.”
吓死宝宝了=ทำเอาฉันตกใจหมด เวลาผู้หญิงรู้สึกตกใจ มักใช้คำนี้กันเพราะฟังดูสดใส
และน่ารักมาก 宝宝(เบบี๋) แต่ในที่นี่จะมีความหมายว่า ตัวเราเอง(我)
จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้นกอดไหล่ตัวเองแสดงท่าทางหวาดกลัว,”ผู้นำฉิน,จะน่าอายไปหรือไม่,นี่คิดที่จะฆ่าปิดปากกันเลยรึ?”
หวังตงหลินที่เผยยิ้ม,”ผู้นำฉินเป็นถึงผู้ปกครอง,และยังเป็นผู้นำพันธมิตร,เจ้าสำนักจุนอย่าได้หวาดกลัวไป.”
มารดาเถอะนี้กำลังหวาดกลัวอยู่อย่างงั้นรึ?!
ฉินเห่าหรานที่สั่นสะท้าน,ทนไม่ได้แทบล้มลงไปนอนกับพื้นด้วยความเจ็บใจ.
“เจ้าสำนักจุน.”
ผู้นำพันธมิตรคนหนึ่งที่ราวกับว่าทนไม่ได้,กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา,”ทุกคนต่างก็เป็นคนในยุทธภพเหมือนกัน,ไม่เห็นจำเป็นต้องกระทำเรื่องให้มันยากเกินไปเลย!”
“ไม่จำเป็นงั้นรึ? เรื่องที่มันยากเกินไปรึ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
จุนซ่างเซียวที่หัวเราะเสียงดัง,รอยยิ้มราวกับปิศาจ,ทำให้ให้คนได้ยินรู้สึกเย็นยะเยือบ.
“กึก!”
พริบตานั้น,เขาก็หยุดหัวเราะ,พร้อมกับแค่นเสียงเย็นชากล่าวออกไปว่า,”ตาแก่,ข้าขอถามเจ้า
หากว่าสำนักไท่กู่เจิ้งของข้าเป็นคนแพ้,เจ้ายังจะพูดคำพูดเช่นนั้นหรือไม่?”
“ข้า..”
“เจ้าไม่!”
“เขาก็ไม่!”
“เจ้าก็ไม่มีทาง!”
“เพราะในสายตาพวกเจ้า,สำนักไท่กู่เจิ้งของข้า,มีสถานะต้อยต่ำกว่าคนอื่นตั้งแต่แรกแล้ว,มีชะตากรรมต้องได้รับแต่ความอับอายงั้นรึ?
มีชะตากรรมจะต้องถูกกดขี่ขมเหงได้อย่างเดียวรึอย่างไร!”
เสียงที่ค่อย
ๆดังกึกก้องข่มขู่,ใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่เต็มไปด้วยความดุร้าย.
“ปากของพวกเจ้าพร่ำบอกแต่คุณธรรม,แต่เคยทำได้ดั่งที่ปากพูดใหม?
พวกเจ้ามีคุณสมบัติอันใดมาว่ากล่าวเปิ่นจั้วว่าทำเกินไป,มีคุณสมบัติอันใดที่จะแสดงท่าทางสูงส่งแบบนี้ออกมา!”
“เซียวจุ้ยจื่อ!”
จุนซ่างเซียวที่ชี้ไปยังตำหนักห้องโถงใหญ่,ที่หน้าผากเต็มไปด้วยเส้นโลหิต,กล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว,”ทำลายป้ายนั่นให้กับเหล่าจื่อ!”
เซียวจุ้ยจื่อที่นำสไนเปอร์ไรเฟิลออกมาทันที,ก่อนที่จะเล็งลำกล้องปืนไปยังห้องโถง,พร้อมกับนั่งตั้งท่าพร้อมกับลั่นไกออกไปอย่างไม่ลังเล.
คำสั่งเจ้าสำนัก,ศิษย์มีแต่ต้องทำตาม.
“ปัง---“เสียงปืนที่ดังสนั่นหวั่นไหว.
ต่อหน้าศิษย์พันกว่าคน,ที่จ้องมองตาค้าง,ป้ายสำนัก,สำนักเห่าฉี,ถูกยิงบดขยี้กลายเป็นฝุ่นผงต่อหน้าต่อตา!
......
ฉินเห่าหรานที่เห็นป้ายสำนักถูกยิงพังทลายลง,ความโกรธเกรี้ยวที่ระเบิดออกมา,จิตสังหารที่ท่วมท้น,พลังบ่มเพาะระดับบรรพชนยุทธ์สาดกระจายเตรียมพุ่งเข้าหาเซียวจุ้ยจื่อ.
หนึ่งก้าว,สองก้าว.....หยุด.
ปากกระบอกปืนสไนเปอร์ไรเฟิลรูปแบบ 88
ของเซียวจุ้ยจื่อที่เล็งไปยังศีรษะของเขา,พร้อมกับกล่าวออกมาเล็กน้อย,”ผู้นำฉินคิดว่าเร็วกว่าปืนไฟไร้เทียมทานในมือข้า,ก็ลองดู.”
กระบอกปืนที่ข่มขู่อย่างอหังการ,ข่มขู่เจ้าสำนักเห่าฉี,ผู้นำพันธมิตรร้อยสำนัก.
ในเวลาเดียวกันสถานะการณ์ตกอยู่ในภาวะตรึงเครียดขึ้นมาทันที!
“เคร้ง เคร้ง เคร้ง!”
เจ้าสำนักที่ถูกชี้ด้วยอาวุธลับ,ศิษย์สำนักเห่าฉีพันคนชักอาวุธออกมาในทันที.
“เคร้ง เคร้ง เคร้ง!”
ลู่เชียนเชียน,หลี่ชิงหยาง,ซูเซียวโม่,เถียนซีและหลี่เฟิย
ทุกคนที่ชักกระบี่เข้าคุ้มกันเจ้าสำนัก,แววตาที่จ้องมองด้วยความเย็นชา.
โจวหงที่ไม่ได้ชักกระบี่,ทว่าแววตาของเขาที่จดจ้องออกมาเป็นประกายราวกับคมกระบี่.
เขาที่ยังคงกอดกระบี่,ทว่าเสื้อผ้าของเข้าที่กำลังสั่นไปมาเล็กน้อย,ราวกับว่ากระบี่พร้อมจะพุ่งออกจากฝักในทุก
ๆ เวลา.
เย่ซิงเฉินที่เงียบไปเล็กน้อย,ยืนอยู่ด้านหล้าจุนซ่างเซียว,อยู่ในแถวคุ้มกันเช่นกัน.
แน่นอน.
นี่คือแหล่งทรัพยากรของเขา,ย่อมต้องแสดงความเป็นศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งออกมาเหมือนกัน.
ในเวลานี้,ศิษย์แปดคนที่ล้อมรอบเจ้าสำนัก,แปดทิศ,ขอเพียงแค่ศิษย์สำนักเห่าฉีลงมือ,พวกเขาก็จะโจมตี
โต้ออกไปเช่นกัน.
แม้แต่บนเทือกเขาหลิงชวน,พวกเขาก็ไม่เคยหวาดกลัวต่อนิกายเซิ่งชวน.
ถึงที่นี่จะเป็นสำนักเห่าฉี,ต่อหน้าศิษย์พันกว่าคนก็ไม่อยู่ในสายตาของพวกเขาเช่นกัน.
กล้าที่จะยืนประจันหน้าในดินแดนสำนักระดับหก,ต่อหน้าศิษย์นับพัน,เหล่าชาวยุทธ์ที่ไม่มีส่วนได้เสียรู้สึกชื่นชมในใจ.
ฉินเห่าหรานที่กัดฟันกรอด,”จุนซ่างเซียว,เจ้าทำลายป้ายสำนักเห่าฉี,ทำลายศักดิ์ศรีของสำนักข้า,เรื่องนี้ไม่สามารถยอมได้!”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เพียงแค่คนล้างห้องส้วม,กล้าพูดเรื่องศักดิ์ศรีน่าหัวเราะ?”
คำพูดที่ทำให้ฉินเห่าหรานเจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก,ใบหน้าบิดเบี้ยวอัปลักษณ์.
หมัดทั้งสองที่กำแน่น,จิตสังหารที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วอากาศ.
อย่างไรก็ตาม....เขากลับยังไม่ลงมือ,ไม่ใช่เพราะว่าหวั่นเกรงในสไนเปอร์รูปแบบ
88,ทว่าที่นี่ยังมีหวังตงหลินที่กำลังเดินมาจากด้านหลัง,”เจ้าสำนักจุน,ทำลายป้ายสำนักของคนอื่น,ดูจะทำเกินไปหน่อย.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”อาวุโสหวัง,ท่านก็เห็นเมื่อครู่นี้,ผู้นำฉินไม่คิดที่จะทำตามคำมั่นของตัวเอง,เปิ่นจั้วจึงคิดที่จะทำลายความสูงส่งของเขาให้ลงมา,ให้เขาคิดที่จะลงมายืนบนพื้นดินดูบ้าง.”
“โปรดเห็นแก่หน้าชายชรา.”
หวังตงหลินที่อาสาจัดการเรื่องดังกล่าว,”เจ้าสำนักจุนทำลายป้ายสำนัก,ถือว่าการเดิมพันของทั้งสองกลายเป็นโมฆะ.”
“เรื่องนี้......”
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา,”เปิ่นจั้วยินดีที่จะรับฟังคำพูดอาวุโสหวัง,แต่เกรงว่าผู้นำฉินจะไม่เห็นด้วย.”
หวังตงหลินเอ่ย,”ยกเว้นการเดิมพันกับป้ายสำนักหนึ่งอัน,ก็ถือว่า
การล้างห้องส้วมหนึ่งปีไม่เป็นผลด้วย,เขายังจะไม่เห็นด้วยอีกรึ?”
“งั้นรึ?”
เขาที่หันหน้าจ้องมองไปยังฉินเห่าหราน,”ผู้นำฉินคิดว่าอย่างไร?”
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น