วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 152 Alliance Chief Qin, temper tantrum

Strongest Sect of All Times  Chapter 152 Alliance Chief Qin, temper tantrum

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 152 Alliance Chief Qin, temper tantrum

秦盟主,情绪失控

 

“สว๊วฟ!

ซูเซียวโม่ที่ถ่ายพลังวิญญาณลงไปที่นิ้ว,ทะลวงเข้าไปยังใจกลางง่ามก้นอย่างรุนแรง.

“อ๊ากๆๆ-


แทบจะไม่ต้องบรรยายถึงความเจ็บปวด,เสียงที่ดังกึกก้องไปทั่วลานยุทธ์.

“แฮก ๆ!

เหล่าชาวยุทธ์มากมายที่สูดหายใจลึก,ที่จุดดังกล่าวนั่นคงไม่ต้องบอกว่า มันเจ็บปวดขนาดนั้น,พวกเขาถึงกับต้องขมิบก้นไปตาม ๆกัน,ขนทั่วร่างลุกตั้งชนหนังหัวชาหนึบ.

ในร่างกายของคนนั้นมีจุดตายหลายจุด,อย่างเช่นจุดป่ายฮุ่ย(จุดรวบรวมเส้นลมปราณทั้งหลาย),จุดไท่หยาง(ขมับ)

ในทวีปชิงหยุนที่เป็นโลกแห่งการต่อสู้,หากว่าโจมตีอย่างหนักหน่วงไปยังจุดดังกล่าวต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย,ซึ่งถือว่าเป็นเป็นจุดอ่อนที่เสี่ยงเป็นอันตรายเป็นอย่างมาก.

ดูตัวอย่างได้จากหลี่เฟย.

เขาโจมตีซุยเย่หลายครั้ง,ทำให้อีกฝ่ายถอยออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า จนโผล่ช่องว่าง,ก่อนใช้บาทาไร้เงาไท่กู่เผด็จศึก.

ที่เป็นเช่นนั้นเพราะการระดมโจมตีช่วงแรก็เพื่อที่จะให้อีกฝ่ายเผยจุดป่ายฮุ่ยออกมก,ซึ่งโดยปรกติระดับศิษย์ยุทธ์จะใช้พลังวิญญาณปิดกั้นป้องกันเอาไว้นั่นเอง.

ส่วนก้นนั้นไม่มีใครเอ่ยถึง,นี่คือจุดอ่อนแอเปาะบางที่สุด,เป็นจุดรวมเส้นประสาทของร่างกายเช่นกัน.

การโจมตีไปยังพื้นที่ดังกล่าว,จะสร้างความเจ็บที่สุด,ยิ่งรวมพลังวิญญาณทะลวงเข้าไปแล้ว,แทบจะบอกได้ว่าทั้งสุขและทุกข์ระทมร้าวไปหมด.

“อ๊ากๆๆ-“

เหล่าเถี่ยที่กุมก้นตัวเอง,กระโดดไปรอบ ๆลานยุทธ์,ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกขั้นสุด.

จากใบหน้าท่าทาง,ทำให้ทุกคนเข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายนั้นเจ็บปวดมากมายขนาดใหน.

“ไร้ยางอาย!

“เป็นวิธีชั้นต่ำสิ้นดี!

เหล่าพันธมิตรที่โกรธเกรี้ยวคำรามด่าว่าออกมาไม่หยุดหย่อน.

การที่ใช้นิ้วอาบด้วยพลังวิญญาณทะลวงไปยังจุดซ่อนเร้นเช่นนี้ ไม่เคยมีใครใช้กัน,และตราบเท่าที่ต้องการมีเกียรติในยุทธ์ภพก็จะไม่มีใครใช้วิธีเช่นนี้.

 

จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ,”เจ้าพวกผู้ดีหน้าบางทั้งหลาย.”

 

แม้นว่าศิษย์ของเขาจะใช้วิธีที่ไร้ยางอายไปสักหน่อย,แต่ขอเพียงเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ก็ไม่เห็นผิดตรงใหน.

หนำซ้ำ,นี่คือหนึ่งวิธีการสร้างช่องว่างเพื่อโจมตี,ถึงจะไม่ใช่วิธีที่คนอื่น ๆนิยมใช้ก็ตาม.

อยากโทษก็ต้องโทษเจ้าหนูนั่น,ที่ไม่ป้องกันก้นตัวเอง,เผยจุดอ่อนออกมา.

อีกอย่าง,ดอกเบ็ญจมาศระทม,ดอกและใบโรยเกลื่อนพื้น,ที่ซูเซียวโม่ใช้ก็เป็นเขาที่เป็นคนสอน.

เหล่าเถี่ยที่ยังกุมก้นตัวเองกระโดดอย่างบ้าคลั่งไปทั่วลานยุทธ์,น้ำตาที่ไหลพราก ๆนองใบหน้า.

เห็นชัดเจนว่า,กำลังเจ็บปวดเหลือเกินคนา!

“ฟิ้ว!

ซูเซียวโม่ที่พุ่งเข้าหาราวกับลูกศร,ร่างกายของเขาที่ลอยสูงขึ้นไปบนอากาศ,เท้าขวาที่เตะกวาดออกไปทันที.

พลังบ่มเพาะและกำลังขาของเขานั้น,ไม่ได้ด้อยกว่าหลี่เฟย,ยิ่งฝ่ายตรงข้ามกำลังเจ็บปวด,จนไม่สามารถสร้างม่านป้องกันเอาไว้ได้,ดังนั้นเท้าของเขาก็เข้าเป้าที่ใบหน้าด้านซ้ายอย่างรุนแรง.

ไม่เพียงแต่การบ่มเพาะและการใช้พลัง,จุนซ่างเซียวยังสอนเขาอีกหลาย ๆอย่าง,ไม่เช่นนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะโจมตีไปยังจุดสำคัญของศัตรูฝ่ายตรงข้ามได้.

“ตูมมม-

เหล่าเถี่ยที่ยังคงกุมก้นเอาไว้,ร่างกายที่ลอยโด่งออกไป,ดวงตาที่กลายเป็นสีขาว,ล่วงหล่นครูดไปกับพื้นนอกลานยุทธ์หลายสิบเมตร สลบทั้งที่ยังเจ็บปวดรวดร้าวเหลือ.

สำนักไท่กู่เจิ้ง,ชนะอีกรอบแล้ว!

”......”

กลุ่มชาวยุทธ์ที่ปากกระตุกไปตาม ๆ กัน.

 

สำนักเห่าฉีพ่ายแพ้คู่แรก,ทว่าพวกเขายังคิดว่าอีกฝ่ายประมาทไปเอง,คู่ที่สองก็ยังพ่าย

การประลองทั่ว ๆไป,ที่เป็นการต่อสู้เรียกน้ำย่อย,ใครจะคิดว่า,กลับการเป็นการขึ้นไปให้อีกฝ่ายยำแต่ฝ่ายเดียว!

ฉินเห่าหรานที่เวลานี้กำลังกัดฟันก๊อด ๆ.

อีกคู่เดียว,สำนักไท่กู่เจิ้งก็จะชนะแล้ว,หากเขาส่งศิษย์ออกไปไม่ถูกต้อง,ไม่ต้องอับอายขายหน้าหรอกรึ?

แพ้สามคู่แล้ว,เขาจะไม่ยอมพ่ายแพ้อีกเด็ดขาด.

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ผู้นำฉิน,คิดว่าเป็นสระน้ำอย่างงั้นรึ? ถึงได้จงใจปล่อยปลาลงไปบนเวที?”

กับคำพูดที่ราวกับดาบแหลม,ทะลวงเข้าไปยังร่างของฉินเห่าหรานอย่างรุนแรง,จนร่างกายสั่นเทิ้ม.

ไอ้คนน่ารังเกียจ!

ชนะสามแล้วมันอย่างไร,ขอเพียงอีกสี่คู่ข้าชนะทั้งหมด,แกก็ต้องเป็นคนใช้,กลายเป็นเหมือนหมาล้างคอกม้าให้กับข้า!

 

ผู้นำฉินที่ไม่สนใจคำพูดของฝ่ายตรงข้ามอีกต่อไป,ขอเพียงเขาชนะการประลองที่เหลือ,ก็สามารถทำลายความมั่นหน้าของจุนซ่างเซียวได้.

“ฮู่เจิ้ง,ขึ้นเวที.”

“ครับ.”

ศิษย์สายตรงฮู่เจิ้งเดินขึ้นเวที.

เขามีรากวิญญาณระดับสูง,และมีพลังบ่มเพาะศิษย์ยุทธ์ขั้นปลาย!

ฉินเห่าหรานไม่ได้ส่งศิษย์รากวิญญาณระดับกลาง,ศิษย์ยุทธ์ขั้นเก้าออกไป,ในเวลานี้เขาต้องการชนะเพื่อเพิ่มขวัญกำลังก่อน.

หลังจากจุนซ่างเซียวครุ่นคิด,กล่าวออกไปว่า,”จุ้ยจื่อ,ออกไป.”

“ฟู่!

เซียวจุ้ยจื่อกำหมัดทั้งสองข้างแน่น,เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ปูดโปนออกมา,ดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,ก้าวออกไปยังใจกลางลานยุทธ์.

หวังตงหลินที่ขมวดคิ้ว,”กายเนื้อเด็กคนนี้แข็งแกร่งมาก,บางทีคงแข็งแกร่งกว่าศิษย์สามคนที่ออกมาอีก.”

อ้ายซางหนี่จ้องมองเซียวจุ้ยจื่อ,ตบที่หน้าผากเสียงดังฉาด,ลอบคิดในใจและตระหนักได้,”ไม่สงสัยเลยว่าเด็กคนนี้ชนะการประลองยุทธ์สำนัก,มันจะต้องเกี่ยวกับเม็ดยาบูรณะร่างกายแน่นอน!

......

“สำนักเห่าฉี,ฮู่เจิ้ง.”

“สำนักไท่กู่เจิ้ง,เซียวจุ้ยจื่อ.”

ลังจากที่ทั้งสองขานชื่อเสร็จ,การต่อสู้ก็เริ่มขึ้น.

ฮู่เจิ้งที่ใช้พลังวิญญาณปะทุอาบไล้ไปทั่วหมัด,ไม่เพียงแค่เกิดพายุหมุนวน,ทว่ายังได้ยินเสียงหวีดหวิวอีกด้วย.

“นี่มันทักษะพิเศษของสำนักเห่าฉี,หมัดวายุอสนี! ทักษะระดับกลางขั้นสูง”

“ทักษะระดับกลางขั้นสูง,ด้วยพลังบ่มเพาะศิษย์ยุทธ์ขั้นปลาย,เกรงว่าพลังคงจะมากกว่า 20,000 จินแน่นอน!

“ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้ง,หากถูกโจมตี,เกรงว่า......”

ตูมม!ตูมม!ตูมม!

ยังกล่าวไม่จบด้วยซ้ำ,หมัดที่พัดวนเหมือนกับพายุก็ต่อยออกไป.

อย่างไรก็ตาม,เซียวจุ้ยจื่อกับยืนนิ่ง,พร้อมกับยกหมัดต่อยออกไปปะทะหมัดที่พุ่งมาด้วยความเร็ว.

หมัดปะทะหมัด!

สายตาของผู้ชมที่รู้สึกวิงเวียนเล็กน้อย.

ฮู่เจิ้งระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นปลาย,ใช้ทักษะระดับกลางขั้นสูง,พลังที่มากกว่า 20,000 จิน,กับรับตรง ๆ,คิดว่ามีพลังเพียงพอที่จะรับได้อย่างงั้นรึ?

รับอย่างงั้นรึ?!

กับเป็นว่าศิษย์สำนักเห่าฉีที่ถอยห่างออกมา!

เพราะหมัดของเซียวจุ้ยจื่อที่กระแทกมานั้น,ทำให้แขนของเขาสั่นคุมไม่อยู่,จนต้องถอยหลังออกมาสองสามก้าว.

แรงกระแทกนั้น,มากกว่า 18,000 จินอย่างแน่นอน.

“ฟิ้ว!

เซียวจุ้ยจื่อที่ก้าวตาม,พลังวิญญาณที่ถ่ายไปยังแขนขวาพร้อมกับปล่อยออกไป.

ฮู่เจิ้งที่ตั้งหลักได้,ยกมือสองข้างเป็นกากบาทป้องกัน,ทว่าจากนั้นก็ได้ยินเสียง “ตูมมมมมม” ดังกึกก้องกระแทกจนทำให้เท้าของเขาลากไปกับพื้นลานยุทธ์.

นี่มัน......

สายตาของทุกคนที่ตื่นตะลึงอึ้งไปตาม ๆ กัน.

ร่างกายของเด็กนั้นแข็งแกร่งมาก,พลังโจมตีที่รุนแรง,แม้แต่กระแทกระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นปลายให้ถอยออกมา!

“ไม่น่าเชื่อ!”หวังตงหลินที่อุทานเสียงดัง.

หากไม่เห็นกับตา ไม่มีทางเชื่อ,ระดับศิษย์ยุทธ์ที่สามารถฝึกกลั่นกายเนื้อได้น่าพรั่นพรึงมาจนถึงขั้นนี้.

เห็นศิษย์ของตัวเองถอยร่นออกมา,ดวงตาของฉินเห่าหรานที่มีเส้นเลือดฝอยขึ้นเต็ม.

การต่อสู้นี้เขาต้องชนะ.

หากว่าศิษย์ของเขาพ่ายแพ้,ก็เท่ากับสำนักเห่าฉีพ่ายแพ้.

แพ้ก็คือแพ้,ทว่าของเดิมพันล่ะ.

ต่อหน้าผู้คนมากมาย,ผู้ปกครองสำนัก,ผู้นำพันธมิตร,เขาควรจะ......

เขาแทบไม่กล้าคิด,เขาไม่สามารถสงบ ไม่แม้แต่สนใจภาพลักษณ์อีกต่อไป สิ่งที่เขากำลังจะสูญเสียมันมากมายจนต้องคำรามออกมาดังลั่น ใส่ฮู่เจิ้ง,”ตั้งหลักแล้วตอบโต้กลับไป อ๊าก!

”......”

เหล่าพันธมิตรของเขาที่กลายเป็นเงียบขึ้นมาในทันที.

แน่นอนพวกเขาเข้าใจอารมณ์ของผู้นำฉินได้.

ต้องไม่ลืมว่า,หากศิษย์ของเขาพ่ายแพ้,นั่นก็หมายถึงจะต้องคนล้างห้องส้วมของสำนักไท่กู่เจิ้ง!

“จุ้ยจื่อ.”

จุนซ่างเซียวกอดอก,กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,”ตั้งใจต่อสู้ให้เปิ่นจั้วดูหน่อย!

เซียวจุ้ยจื่อที่ราวกับได้รับคำสั่ง,เพิ่มพลังวิญญาณอาบไล้ไปทั่วแขนทั้งสองข้าง,จากนั้นก็เริ่มต่อยไปยังร่างของฮู่เจิ้งที่พยายามป้องกัน.

พลังที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า!

“ตูมมม!

“ตูมมม!

“ตูมมม!

แขนของเซียวจุ้ยจื่อราวกับค้อนเล็กที่ทุบซ้ายขวา,จนทำให้ฮูเจิ้งโง่หัวไม่ขึ้นเลยแม้แต่น้อย.

เขาที่ทำได้แค่รับการโจมตียกมือป้องกัน,ร่างกายเลื่อนถอยครูดไปกับพื้นทีละนิด ๆ.

ร่างของเขาถอยถูกบีบบังคับเข้าใกล้ขอบลานยุทธ์เรื่อย ๆ,ทว่าฮู่เจิ้งก็ยังไม่สามารถโต้กลับไปได้เลย.

ฉินเห่าหรานที่โกรธเกรี้ยวตะโกนดังลั่น,”หลบสิ อ๊าก,โจมตีกลับไป...”

ฮู่เจิ้งที่รู้สึกสั่นสะท้าน,หูของเขาที่สั่นไปมาจนไม่ได้ยินเสียงอะไร,เสียงความโกรธเกรี้ยวของเจ้าสำนักที่ตะโกนออกมานั้นได้หายไปอย่างสมบูรณ์.

“พรึด โครม!

ท้ายที่สุด,เขาน้ำลายฟูมปาก,ล้มครืนลงกับพื้น,ท้องฟ้าสีครามค่อย ๆกลายเป็นดำมืด,รู้สึกราวกับดวงวิญญาณกำลังแตกสลายหายไปจากร่าง.

“พรึด!”เห็นศิษย์คนที่สี่ล้มลงสลบนอนกองไปบนพื้น,ฉินเห่าหรานที่กุมหน้าอก,พ่นโลหิต,ใบหน้าบิดเบี้ยวขาวซีดไปในทันที.


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น