วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 151 Cannot under the extreme methods, be able to hit half dead

Strongest Sect of All Times  Chapter 151 Cannot under the extreme methods, be able to hit half dead

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 151 Cannot under the extreme methods, be able to hit half dead

不能下死手,可以打半死

 

ที่ใจกลางลานยุทธ์.

เถียนซียกมือประสานกล่าวออกมาว่า,”สำนักไท่กู่เจิ้ง,เถียนซี.”

ศิษย์สำนักเห่าฉีเอ่ยออกมาอย่างนุ่มนวล,”สำนักเห่าฉี,ถ่านหยง!


สิ้นสุดการขานชื่อ,ร่างกายของเขาที่อาบล้นไปด้วยพลังวิญญาณแผ่ออกไปเป็นระลอกคลื่น,ราวกับว่าจะเอาชนะฝ่ายตรงข้ามด้วยการใช้พลังวิญญาณเข้าข่ม.

น่าเสียดายที่เถียนซีไม่รู้สึกอะไรเลย,แววตาที่เผยความเหยียดหยันออกมาด้วยซ้ำ.

เหล่าชาวยุทธ์ที่เฝ้ามองอยู่แทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เห็น.

ศิษย์สำนักเห่าฉีมีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้า,หากแต่ต่อหน้าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งกับไม่หวาดหวั่น มั่นใจอะไรขนาดนั้น,ถึงกับเหยียดหยันออกมาเลยรึ?

โอหังไม่ต่างจากเจ้าสำนัก,นี่ศิษย์ของเขาก็ด้วยรึ?

เฮ้อ.

หากเขามีต้นแบบที่ดีกว่านี้,คงจะไม่มีนิสัยเช่นนี้.

“เริ่มได้!”กรรมการตะโกนออกมาเสียงดัง.

พริบตานั้นเถียนซีที่ก้าวออกไปก่อน,และใช้หมัดระเบิดออกมาอย่างรวดเร็ว,ได้ยินเพียงเสียงระเบิดดังกึกก้อง.

หมัดที่พุ่งมาด้วยความเร็ว,โจมตีแทบไม่ทันตั้งตัว.

ถ่านหยงไม่สามารถหลบได้,ทำได้แค่แผ่พลังอาบล้นไปทั่วร่าง,ก่อนที่จะต่อยออกไปเพื่อรับการโจมตี.

“ตูมมม! ตูมมม!

หมัดของเถียนซีที่แข็งแกร่งทรงพลัง,แต่ละหมัดนั้นมากกว่า 17,000 จินอย่างคาดไม่ถึง.

กระแสลมที่พัดเป่า,แรงกดดันวิญญาณที่แผ่ออกไปรอบ ๆ,เสียงระเบิดดังกึกก้อง.

ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งมีพลังบ่มเพาะศิษย์ยุทธ์ขั้นห้าเหมือนกับหลี่เฟย,ทว่าความแข็งแกร่งของทั้งสองนั้นแตกต่างกัน?!

เถียนซีที่มุ่งเน้นพัฒนาร่างกายและศึกษาวิถีหมัด.

หมัดระเบิดที่เขาใช้นั้นย่อมแข็งแกร่งกว่าของหลี่เฟยที่เชี่ยวชาญการใช้เท้า.

พลังหมัดของเขาที่ปล่อยออกมานั้นไม่ธรรมดาแม้แต่น้อย.

เฉินถงที่ดวงตาเบิกกว้างไม่อยากเชื่อ.

 

พลังของศิษย์ยุทธ์ขั้นที่ห้า ของสำนักไท่กู่เจิ้งนั้นสูงกว่าระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นเก้าอีก,มันแปลกเกินไปแล้ว!

“ตูมมม! ตูมมม!

หมัดของเถียนซีที่ราวกับค้อนเหล็กกำลังทุบไปยังฝ่ายตรงข้ามไม่หยุด.

ถ่านหยงที่ทำได้แค่ป้องกันตั้งแต่ต้นแล้ว,อีกทั้งยังถูกกดดันผลักให้ถอยหลังอีกด้วย.

“กึก กึก กึก!

ร่างของเขาที่ถอยครั้งแล้วครั้งเล่า,จนท้ายที่สุดก็เกือบจะถึงขอบแล้ว.

เพราะหมัดที่หนักหน่วงรุนแรง,โจมตีไม่หยุด,มือทั้งสองข้างของเขารู้สึกปวดร้าวไปแล้ว.

”......”

สายตาของทุกคนที่จับจ้องมองกระตุก กึก ๆ.

พวกเขาที่จ้องมองศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่ราวกับกำลังต่อยกระสอบทรายอยู่.

นี่มันเกิดอะไรขึ้น,ศิษย์ยุทธ์ขั้นที่ห้า,กับต่อยจน ศิษย์ยุทธ์ขั้นเก้าแทบไม่ต่างจากกระสอบทรายไปแล้ว!

โลกใบนี้...มันบ้าไปแล้ว!

จุนซ่างเซียวที่ยักไหล่,”ก็ไม่เห็นมีอะไรยาก.”

นับตั้งแต่ต้น,เขาก็ไม่เห็นสำนักเห่าฉีเป็นคู่ต่อสู้อยู่แล้ว,เป็นเพียงแค่หินที่วางขวางทางเพื่อไปปราบบอสใหญ่เท่านั้น.

ศิษย์สายตรง,ศิษย์ยุทธ์ระดับเก้าที่ถูกเถียนซีทำเป็นกระสอบทราย,ไม่แม้แต่ตอบโต้ออกมาได้.

“อ๊าก!

ท้ายที่สุด,ถ่านหยงดูเหมือนจะบ้าไปแล้ว,เส้นเลือดฝอยที่ขึ้นเต็มดวงตาคำรามออกมาด้วยความโกรธ.

ทว่าก็ทำได้แค่ตะโกนเท่านั้น,พริบตานั้นหมัด ๆ หนึ่งก็กระแทกไปยังใบหน้าของเขา,หัวสะบัดร่างกายที่กระเด็นออกจากลานยุทธ์.

“กึก!

มือของเถียนซีที่ยื่นออกไป,คว้าไหล่อีกฝ่ายเอาไว้,ส่วนอีกมือหนึ่งก็ต่อยไปยังท้องของอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง,เสียงดังกึกก้อง.

เจ้าสำนักบอกเอาไว้.

จะใช้วิธีอะไรก็ได้,ทำให้อีกฝ่ายครึ่งเป็นครึ่งตายก่อน.

“ตูมมม! ตูมมม!

เถียนซีที่ต่อยถ่านหยงไม่หยุด,หมัดระเบิดที่บ้าคลั่ง,ร่างกายของถ่านหยงที่ดำช้ำเขียวไปหมด,และสุดท้ายก็น้ำลายฟูมปาก.

หมดสติไปในทันที.

“กึก ซี่-“

เหล่าศิษย์คนอื่น ๆแม้แต่ฉินเห่าหรานได้แต่กำหมัดแน่น,เผยความเย็นชาและโกรธเกรี้ยวออกมา.

อย่างไรก็ตามโกรธไปก็ไร้ประโยชน์.

นี่คือการประลองอย่างเป็นทางการ,การที่ศิษย์ของเขาถูกทำร้าย,ก็เพราะว่ามีความสามารถด้อยกว่าคนอื่นเท่านั้น!

“ฟิ้ว!

เทียนซีที่ปล่อยอีกฝ่ายในที่สุด,ก่อนจะยกมือประสานกล่าวออกไปว่า,.”เจ้าปล่อยให้ข้าชนะแล้ว.”

เหล่าพันธมิตรเวลานี้ดวงตาเบิกกว้าง,ใบหน้าอัปลักษณ์ครั้งแล้วครั้งเหล่า,ส่วนชาวยุทธ์ที่มาหาความสนุก,รู้สึกสนุกสนานเป็นอย่างมาก.

ตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น,ถ่านหยงก็รับหมัดตลอด,ทำได้แค่ตั้งรับ,ถูกต่อยถูกซ้อมจนหมดสติ,ตลอดการต่อสู้,ไม่สามารถต่อยคู่ต่อสู้ได้แม้แต่ครั้งเดียว!!

แตกต่าง,แตกต่างกันมากมายนัก!

“หลี่เฟย,เถียนซี,ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งแข็งแกร่งมาก!

“เข้าเข้าใจแล้ว,สำนักซิงอวิ๋นที่ไปท้าทายสำนักไท่กู่เจิ้ง,ทำไมถึงได้แพ้ราบคาบขนาดนั้น.”

“เพียงแค่ศิษย์สองคนนี้ก็เอาชนะศิษย์ยุทธ์ขั้นแปดและขั้นเก้าได้แล้ว,ศิษย์ฝ่ายในสำนักซิงอวิ๋นก็คงไม่ต่างกัน,คงจะถูกทุบตีจนราบคาบอย่างไม่ต้องสงสัย!

เหล่าชาวยุทธ์ที่พูดคุยกันเสียงดัง.

เจ้าสำนักซิงอวิ๋นที่ยืนอยู่ในกลุ่ม,ใบหน้าแดงซ่าน,ทว่าภายในใจก็รู้สึกผ่อนคลายลง.

แม้แต่ศิษย์ของผู้นำฉินสองคนยังพ่ายแพ้,ศิษย์ของเขาที่แพ้สำนักไท่กู่เจิ้ง,ก็ไม่ได้ถึงกับเสียเกียรติจนรับไม่ได้.

“ประมุขอ้าย.”

หวังตงหลินเอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม,”สำนักไท่กู่เจิ้งไม่ธรรมดาเลย.”

 

ศิษย์ระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่ห้าสองคน,มีพลังมากกว่า 15,000 จิน,แน่นอนว่าพวกเขาต้องฝึกกายเนื้อมา จนถึงขีดสุดอย่างไม่ต้องสงสัย.

“ศิษย์คนที่สองพลังหมัดแข็งแกร่งมาก,แน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับเม็ดยาบูรณาร่างกายแน่!

อ้ายซางหนีคาดเดา.

กับพรสวรรค์ทั่วไป,แต่กับมีความแข็งแกร่งเกินธรรมดา,เพราะถูกยกระดับขึ้นด้วยยาบูรณะร่างกาย,หากมีคนรู้ต้องอุทานอื้ออึงแน่น,และคนที่มาดูในคราวนี้ยังมากมาย,หากบอกเล่าออกไป เขาจะสามารถขายมันด้วยราคาที่สูงขึ้นไปอีก.

หวังตงหลินที่สนใจความแข็งแกร่งของศิษย์มาก,เขาจะต้องสนใจผลของเม็ดยาบูรณะร่างกายแน่,มีวิธีเพิ่มราคาสินค้าแล้ว.

......

หลังจากเถียนซีกลับมา,จุนซ่างเซียวที่เผยยิ้ม,ยกมือประสาน,”ผู้นำฉิน,ศิษย์คนที่สามขอเชิญส่งศิษย์ออกมาก่อน.”

 

เห็นรอยยิ้มของอีกฝั่ง,ผู้นำฉินที่รู้สึกอยากกระโดดออกไปฉีกร่าง ฝ่ายตรงข้ามมาก.

ใจเย็น,ต้องใจเย็น.

ถึงเขาจะโกรธมากมาย,ทว่าก็ยังคงเผยยิ้มออกมาได้.

ศิษย์พ่ายแพ้สองคนแล้ว,ไม่คิดเลยว่าจะยังยิ้มออกมาได้.

 ฉินเห่าหรานที่ระงับความโกรธ,จ้องมองไปยังศิษย์ด้านขวามือเอ่ยออกไปว่า,”ไป.”

“ครับ.”

ศิษย์สายตรงคนที่สามที่ก้าวขึ้นไปนั้น,มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นเก้า,ทว่าความแข็งแกร่งมากกว่าถ่านหยง.

“เสี่ยวโม่,ออกไป.”จุนซ่างเซียวกล่าว.

ซูเซียวดม่ที่กำหมัดแน่น,ส่ายหน้าไปมา กล่าวออกไปว่า,”รู้สึกร้อนรุ่มโลหิตไหลไปทั่วเท้าหมดแล้ว,ท้ายที่สุดก็ได้ออกโรงซะที.”

เห็นศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งก้าวขึ้นเวที,เหล่าผู้ชม เวลานี้ไม่กล้าสรุปมั่ว ๆอีกต่อไปแล้ว.

เพราะว่า,ก่อนหน้านี้พวกเขาที่วิเคราะห์ว่าศิษย์สำนักเห่าฉีจะชนะ,ท้ายที่สุดก็ถูกทุบเป็นหมาตายกลับมา,พวกเขาถึงกับน้ำลายติดคอ.

ยิ่งวิเคราะห์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งขายหน้ามากเท่านั้น.

ถึงแม้นว่าซุนเย่และถ่านหยงจะมีพลังบ่มเพาะมากกว่า,ก็ยังพ่ายแพ้ ตอนนี้ไม่รู้จะวิเคราะห์ด้วยหลักการอะไรได้ด้วยเช่นกัน.

 ความจริงพรสวรรค์ของพวกเขาก็ไม่ธรรมดา,ทว่าทรัพยากรที่ได้รับนั้น,ทั้งเม็ดยาและค่ายกลรวมวิญญาณจะเทียบกับเถียนซีและหลี่เฟยได้รึ?

คงไม่มีใครรู้,ตลอดสิบวันพวกเขาดูดซับพลังวิญญาณมากกว่าปรกติสิบเท่า.

......

ศิษย์คนที่สามของสำนักเห่าฉี,ยกมือขึ้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา,”สำนักเห่าฉี,เหล่าเถี่ย.”

จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุกกล่าวออกไปว่า,”ไม่มีปัญหา.”

“ซูเซียวโม่.”ซูเซียวโม่เอ่ย.

เมื่อทั้งสองขานชื่อเสร็จ,กรรมการก็สั่งเริ่มต่อสู้.

เหล่าเถี่ยที่พุ่งออกไปทันที,พลังวิญญาณที่อาบล้นไปทั่วร่างกาย,พุ่งเข้าด้วยท่าเท้าที่รวดเร็ว.

“ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ร่างกายของซูเซียวโม่ที่สั่นไปมา,ขยับเล็กน้อย,ก็จากนั้นก็เริ่มวิ่งรอบ วนไปทั่วขอบลานยุทธ์.

ความเร็วของเขาที่เร็วขึ้นเรื่อย ๆแม้แต่ทำให้เกิดพายุขึ้นมา!

บนลานยุทธ์,ที่เกิดเป็นพายุหมุนพัดวนสร้างสนามวายุขึ้นลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า,และยังคงรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆอีกด้วย.

หวังตงหลินเอ่ย,”เด็กคนนี้มีท่าเท้าที่ร้ายกาจนัก.”

อ้ายซางหนี่ที่คิดอีกครั้ง,ไม่ผิดแน่,เกี่ยวข้องกับเม็ดยาบูรณะร่างกายแน่!

“ฟิ้ว-“

ในเวลานั้น,ซูเซียวโม่ที่ฉวยโอกาสถีบมาจากด้านหลังทันที.

“ตูมมม!”เหล่าเถี่ยที่เสียหลักพุ่งไปด้านหน้า,ทว่าขณะเขาเตรียมโจมตีกลับ,ฝ่ายตรงข้ามก็หายไปแล้ว.

“น่ารังเกียจ!”เขาที่คำรามออกมาด้วยความโกรธ.

“ฟิ้ว!”ซูเซียวโม่มาโผล่ด้านหลังอีกครั้ง,ยังถีบออกไป.

ความเร็วที่ไม่ธรรมดา,เหล่าเถี่ยที่ตอบสนองทัน,เขาที่ตวัดมือออกมารับ,เพื่อป้องกันเท้าของอีกฝ่ายที่โจมตีมา.

“ศิษย์พี่ระวัง!”เสียงของใครบางคนที่ตะโกนขึ้นมา.

เหล่าเถี่ยที่ตกใจ,สายตาที่จ้องมองไปยังเท้าของซูเซียวโม่เท้าที่กระแทกแขนของเขาอยู่,ส่วนร่างกายได้เอียงเฉียงลง,มือสองข้างที่ประสานนิ้วชี้และนิ้วกลางประกบกัน,ก่อนที่จะทะลวงไปยังก้นของอีกฝ่าย.

“ดอกเบ็ญจมาศระทม,ดอกและใบที่โรยเกลื่อนพื้น!


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น