Strongest Sect of All Times Chapter 147 Ai Family that cheers
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 147 Ai Family that cheers
来助威的艾家
ในวันนี้,ท้องฟ้ากระจ่างใส,ลมหนาวที่พัดผ่านเป็นระยะ.
หลังจากพักหนึ่งคืนจุนซ่างเซียวที่เดินทางผ่านป่าเขาลำเนาไพร,นำศิษย์ทั้งแปดมายืนอยู่ที่เชิงเขาสำนักเห่าฉี.
ที่ด้านหน้าพวกเขานั้นเป็นบันไดหินนับหมื่นขั้นที่ทอดยาวขึ้นไป,ดูโอ่อ่าโอฬารเป็นอย่างมาก.
“ว้าว.”
หลี่เฟยที่ออกปากชม,”เป็นรูปแบบที่ยอดเยี่ยม.”
“ปัก.”
จุนซ่างเซียวที่ยกพงศาวดารสื่อจีเคาะไปที่หน้าผากของเขาทันที,”รักษาอาการหน่อย.”
หลี่เฟยที่กุมศีรษะ,พร้อมกับหัวเราะแหย ๆ.
ซูเซียวโม่ที่กำหมัดแน่น,”คิดถึงความตื่นเต้นที่จะได้ทุบศิษย์สำนักใหญ่แล้ว,เลือดของข้าถึงกับร้อนขึ้นมาทีเดียว.”
หลี่ชิงหยางกล่าวอย่างสุขุม,”บางทีคนของพันธมิตรร้อยสำนักคงจะเดินทามาถึงก่อนแล้ว,พวกเราคงหลีกเลี่ยงที่จะถูกจับตามองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ก่อนหน้านั้นมีคนกระอักโลหิตด้วยความช้ำใจไปแล้ว,หากพวกเขาเป็นคนฉลาด,แน่นอนคงจะหลีกเลี่ยงที่จะโต้เถียงกับข้า.”
“ไป.”
กล่าวเสร็จ,เขาก็นำศิษย์ก้าวขึ้นใบใดหิน.
ราชันย์รัตติกาลเช่นข้า,ทำไมต้องมาแบกเครื่องเสียงน่าเกียจนี้ด้วย.
มือสังหารเหรียญทองที่ซ่อนอยู่ในที่ลับ,หวั่นเกรงเจ้าสำนักจะรู้ตัว
ได้หยุดอยู่ด้านนอกเชิงเขา,ไม่ได้วางแผนจะก้าวเดินขึ้นไป.
กลุ่มของพวกเขาที่ขึ้นมาได้ครึ่งทาง,บนศิลาใหญ่ยักษ์ด้านซ้ายของเส้นทาง,มีอักษรสลักขนาดใหญ่,”สำนักเห่าฉี”
เป็นตัวอักษรสีแดงที่ดูใหญ่น่าเกรงขาม.
“จะสลักชื่อเอาไว้,ควรจะให้มันดูยิ่งใหญ่เกรงขามกว่านี้หน่อย,แต่ว่าเจ้าสำนักฉิน...”จุนซ่างเซียวจ้องมองพลางส่ายหน้า,แววตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน.
กล่าวตามตรง,การสลักชื่อสำนักขนาดใหญ่ก็ดูน่าชื่นชม,หากแต่เขากับฉินเห่าหรานไม่สามารถลงรอยกันได้อีกแล้ว,เขาที่ได้กล่าวยั่วยุอีกฝ่ายที่เทือกเขาหลิงชวน,เป็นการแบ่งแยกความขัดแย้งกับอีกฝ่ายชัดเจนและไม่คิดที่จะไว้หน้าอีกฝ่ายอีกต่อไป.
......
บนลานยุทธ์สำนักเห่าฉี.
เหล่าเจ้าสำนักและประมุขตระกูลต่าง ๆที่ทักทายกัน,ตามประสาคนรู้จัก.
เซี่ยกวนคุน
แม้นว่าเขาจะมีศักดิ์ศรีเกียรติที่สูงในฐานเจ้าเมือง,แต่เพราะว่าก่อนหน้านี้ได้ออกตัวปกป้องจุนซ่างเซียว,ทำให้เหล่าเจ้าสำนักหลายคนที่เมินเฉย,ไม่เข้าไปทักทายแม้แต่สบตามอง.
“ชิ.”
เจ้าเมืองเซี่ยที่ยืนอย่างอหังการ,ไม่สนใจคนเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย.
เขาที่เป็นเจ้าเมืองเซีย,เป็นผู้ปกครองเมืองชิงหยางที่มีสถานะสูง,ที่ด้านข้างของเขาที่มีบิดาของหลี่ชิงหยางและยังมีประชาชนเมืองชิงหยาง
3.6 ล้านคน,ที่ยังคงเชียร์สำนักไท่กู่เจิ้ง.
อย่างไรก็ตาม,ส่วนมากแล้วก็จะมีการจับกลุ่มกัน กลุ่มละ
6-7 คน.
ดูเหมือนว่าคนส่วนมากแล้วก็ไม่ได้เป็นมิตรกับพันธมิตรร้อยสำนักกันทั้งหมด.
โดยปรกติแล้วแต่ละสำนักเองก็ไม่ได้เป็นมิตรกันอยู่แล้ว.
หลากหลายตระกูลหลากหลายชาวยุทธ์ไร้สังกัด,เดินทางเพื่อมาชมอะไรสนุก
ๆเท่านั้น,พูดคุยดื่มสุราราวกับเป็นงานเทศนาย่อม ๆ.
ที่ได้รับความนิยมที่สุด,แน่นอนต้องเป็นกลุ่มประมุขอ้าย,ที่เวลานี้,มีเจ้าสำนักและตระกูลต่าง
ๆมากมายเข้าไปทักทายพูดจาอยู่ไม่หยุด.
ตระกูลอ้ายนั้นเป็นตระกูลขายยา,ย่อมมีมิตรสหายมากมาย,และยิ่งเวลานี้เม็ดยาฟื้นฟูและเม็ดยาบูรณะร่างกาย,สร้างความสนใจต่อผู้คนเป็นอย่างมาก.
ในนั้นมีเจ้าสำนักดาบใหญ่ที่ร่างกายไม่สู้ดีอยู่ด้วย.
ต้องไม่ลืมว่าการที่เขาบาดเจ็บนั้น,ไม่ใช่แค่เพียงความแข็งแกร่งที่ลดลง,อิทธิพลของเขาก็ลดลงไปด้วย,ทำให้เขากุลีกุจอต้องการจะซื้อเม็ดยาฟื้นฟูเป็นอย่างมาก.
การประมูลทั้งสองครั้งที่จัดขึ้น เขาก็เข้าร่วมตลอด,ทว่าด้วยมีสำนักใหญ่และตระกูลใหญ่เข้าร่วม,ราคาประมูลที่สูงลิบลิ่ว,จนเขาหวาดหวั่นไม่กล้าแม้แต่เอ่ยปากเสนอราคาเลยสักครั้ง.
“ประมุขอ้าย.”
เจ้าสำนักเฉินที่กล่าวประจบด้วยรอยยิ้ม,”ท่านจะขายยาฟื้นฟูเป็นการส่วนตัวให้กับเฉินโหมวได้หรือไม่,ข้ายินดี....”
“ขออภัย.”
อ้ายซางหนี่ที่ยกมือขึ้นขวางทันที,”เม็ดยาฟื้นฟูตระกูลอ้ายนั้น,ขายเพียงในการประมูลเท่านั้น,ไม่เคยขายเป็นการส่วนตัวเลย.”
หากว่าขายให้คนอื่น,บางทีเขาอาจจะพออนุโลมเห็นใจ.
ทว่าอีกฝ่ายเป็นใคร?
เป็นหนึ่งในสมาชิกร้อยสำนัก,ลิ่วล่อของฉินเห่าหราน.
ก่อนหน้านี้เขาที่ท้าทายเจ้าสำนักจุนที่เมืองชิงหยาง,หากสมองของเขาถูกลาดีดมา
คงจะขายให้ เพื่อให้อีกฝ่ายรักษาตัว,ทว่านั่นก็เท่ากับว่าเขาได้ล่วงเกินหุ่นส่วนของตัวเองไปด้วย.
ประมุขอ้ายที่เลือกฝั่งอย่างชัดเจนแล้ว.
กับกลุ่มคนที่มีความแค้นกับสำนักไท่กู่เจิ้ง,ก็เท่ากับมีความแค้นกับตระกูลอ้ายด้วย,ไม่ใช่แค่เม็ดยาฟื้นฟู,แม้แต่ร้านยาและสมุนไพรก็ไม่ต้องรับ.
เจ้าสำนักเฉินที่ตำหนิตัวเอง,ก้าวออกไปด้วยความหดหู่,ลอบคิดในใจ,”นี้ข้าไปล่วงเกินเขามาก่อนรึ?
น้ำเสียงดูเย็นชานัก.”
ขณะที่รอจุนซ่างเซียวมา,ในเวลานี้ผู้คนกำลังพูดคุยกันเสียงดังอื้ออึง.
“ประมุขอ้าย,เมื่อไหร่จะจัดการประมูล?”
“เม็ดยาบูรณะร่างกายสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งกายเนื้อ,ยกระดับความแข็งแกร่งจริงรึ?”
“ทุกคนในมนทลชิงหยาง,ต่างก็ต้องการ,และดูเหมือนจะมีคนนอกมนทลมาด้วย,ครั้งนี้คงจะต้องเตรียมเงินไว้มากกว่าเดิม.”
เหล่าคนที่มีชื่อเสียงของมนทลชิงหยางต่างก็เข้าล้อมกรอบพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับเรื่องยากับอ้ายซางหนี,เห็นชัดเจนว่าเม็ดยาฟื้นฟูและเม็ดยาบูรณะร่างกายนั้น,พวกเขาสนใจเป็นอย่างมาก.
“แค๊ก แค๊ก.”
ในเวลานั้น,ฉินเห่าหรานที่ก้าวออกมา,พร้อมกับไอสองครั้ง,แผ่กลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา.
ในเวลานั้นทั่วลานยุทธ์ก็เงียบลงในทันที.
ทุกสายตาที่จับจ้องมองไปยังเขา,พร้อมกับยกมือประสานพร้อมกับเผยยิ้ม.
เซี่ยกวนคุนไม่ได้สนใจแต่อย่างใด,เพราะด้วยสถานะของเขา,เขาและฉินเห่าหรานมีสถานะเท่ากัน.
การจะให้เจ้าเมืองชิงหยางเช่นเขาที่เป็นเหมือนแขกก้าวออกไปทักทาย,ดูเหมือนจะน่ากระอักกระอ่วนใจไม่น้อย.
ฉินเห่าหรานเห็นเซี่ยกวนคุนเหมือนกัน,และรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นถือหางจุนซ่างเซียว,ดังนั้นจึงไม่สนใจอีกฝ่าย,ราวกับว่าอีกฝ่ายไม่มีตัวตน.
“ประมุขอ้าย!”ทันทีที่เห็นอ้ายซางหนี,เขาก็เผยยิ้มก้าวเข้ามาหาทันที,”นี่มีเวลาว่างมาเยี่ยมสำนักเห่าฉีของข้าด้วยรึ?.”
ก่อนหน้านี้เขาและตระกูลอ้ายก็เคยร่วมมือกัน.
อ้ายซางหนี่ที่ยกมือขึ้นกล่าวออกไปว่า,”เรื่องใหญ่เช่นนี้,แน่นอนว่าข้าต้องมาเชียร์.”
ได้ยินคำพูดดังกล่าว,ฉินเห่าหรานที่มีความสุข ยิ้มหน้าบานขึ้นมาทันที.
เหล่าประมุขและเจ้าสำนักรอบ
ๆที่จ้องมองมาด้วยความอิจฉา.
พวกเขาที่พอเคยได้ยินสำนักเห่าฉีและตระกูลอ้ายเคยทำธุรกิจกันบ่อย
ๆ,ดูเหมือนจะมีความสนิทสนมกัน,สำนักไท่กู่เจิ้งที่มาประลองในครั้งนี้,ประมุขอ้ายเดินทางมาเชียร์ด้วยตัวเอง,ความสัมพันธ์ของพวกเขาดูเหมือนจะไม่ไช่แค่ข่าวลือแล้ว.
“ส่งคนมานี่.”
ฉินเห่าหรานที่กล่าวออกไปเสียงดัง,”นำเก้าอี้ทรงเกียรติมาให้ประมุขอ้าย.”
“ไม่จำเป็น.”อ้ายซางหนีเอ่ย,”ข้าชอบยืนมากว่า.”
“ดูประมุขอ้ายท่าทางเกรงใจเลย.”
“ความสัมพันธ์ของผู้นำฉินกับประมุขอ้ายคงไม่ธรรมดาแน่!”
เสียงของผู้คนที่วิพากวิจารณ์กันไปมา.
ฉินเห่าหรานที่เผยท่าทางอหังการ,แสดงท่าทางยิ่งใหญ่คล้ายกับแสดงท่าทางว่าประมุขอ้ายกำลังสนับสนุนเขาอยู่.
อย่างไรก็ตาม,เซี่ยกวนคุนที่ยกยิ้มเหยียดหยัน,กล่าวใจ,”ฉินเห่าหราน,ผู้นำฉิน,นี่กำลังคิดว่าตัวเองยอดเยี่ยมอยู่งั้นรึ?”
คนอื่น ๆ ไม่รู้เกี่ยวกับเม็ดยาฟื้นฟูของตระกูลอ้าย,หากแต่เขารู้อย่างชัดเจน,เพราะว่าจุนซ่างเซียวได้มอบให้เขาสองเม็ด,ดังนั้นเขาสามารถคาดเดาได้ก่อนหน้านี้,เจ้าหนูนั่นต้องทำธุรกิจร่วมมือกับตระกูลอ้ายแน่นอน.
เจ้าเมืองเซี่ยที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านประสบการโชกโชน,ไม่มีทางที่เขาจะไม่สามารถคาดเดาได้.
“รายงาน!”
ในเวลานั้น,ศิษย์คนหนึ่งที่วิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ,”สำนักไท่กู่เจิ้งที่นำศิษย์มาแล้ว,ตอนนี้กำลังรออยู่ทางเข้าด้านนอก!”เขาที่ใช้คำพูดขอเข้าพบ,เพื่อแสดงให้เห็นถึงจุนซ่างเซียวที่มีศักดิ์ฐานะต่ำกว่าชัดเจน.
ฉินเห่าหรานที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล”ให้พวกมันเข้ามา.”
“ครับ.”
ศิษย์คนดังกล่าวที่เร่งรีบถอยออกไป.
เดิมทีรอบ
ๆลานยุทธ์ที่ดูเงียบเล็กน้อย,ทันใดนั้นก็ดูคึกคักขึ้นมา,ทุกคนที่เริ่มพูดคุยเรื่องของจุนซ่างเซียวกันทันที.
เหล่าสมาชิกพันธมิตรร้อยสำนักที่จ้องมองหน้ากันและกัน,ที่มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อย,เผยท่าทางเหยียดหยัน,แม้แต่แสดงท่าทางมีความสุขด้วยซ้ำ.
เหล่าเจ้าสำนักหลายสิบคนที่เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว,ขอเพียงจุนซ่างเซียวโผล่มา,พวกเขาเตรียมที่จะแผ่กลิ่นอายเพื่อกดดันอีกฝ่ายทันที,เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังที่เหนือกว่า.
กึก ซี่.
ประตูหน้าที่เปิดออกช้า ๆ.
จุนซ่างเซียวที่สวมแว่นกันแดดหรูหรา,ปากคาบบุหรี่,นำศิษย์แปดคนก้าวเข้ามา.
ขณะที่สายตาของทุกคนจ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน,เจ้าสำนักหลายคนที่เตรียมปลดปล่อยกลิ่นอาย,ทว่าทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงที่ดังกึกก้องแทบจะทำให้หูของพวกเขาหนวกแทบจะทันที!
“ตึง ตึก ตึง! คล้ายพบพานในความฝัน
,หัวใจพลันเต้นระรัว,หลีกหนีความวุ่นวายในยุทธภพ.........
♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩”
射雕英雄传
: 鐵血丹心
The Legend of the Condor Heroes 2017 Opening Short Version
like 1983 https://www.facebook.com/193776541056928/posts/300834173684497/
https://www.youtube.com/watch?v=EJQcpkUUgiI
ภายใต้เสียงปลุกใจที่ดังกึกก้อง,จุนซ่างเซียวก้าวเข้ามาในลานยุทธ์อย่างองอาจ.
กึก.
เครื่องเสียงที่ถูกปิดลง.
จุนซ่างเซียวที่เงยหน้ากวาดตามองทุกคน,เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย,”ผู้นำฉิน,สำนักไท่กู่เจิ้งของข้ามาขอท้าประลอง.”
“กึก กึก กึก.”
ศิษย์แปดคนที่ก้าวตามหลังมา,ยืนอยู่ด้านหลังเจ้าสำนัก.
สำนักไท่กู่เจิ้ง,ที่แผ่กลิ่นอายองอาจโอหังทะลวงสวรรค์!
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น