Strongest Sect of All Times Chapter 141 The sect master rack is big
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 141 The sect master rack is big
掌门架子大
นับจากก่อตั้งหอฝนพรำขึ้นมา,ข่าวต่าง ๆทั่วมนทลชิงหยางที่ได้รับมาจากเมืองทั้งแปด,ทำให้จุนซ่างเซียวสามารถบ่มเพาะได้อย่างสบายใจ.
ก่อนหน้านี้หลายวันต้องวุ่นวายในการรับศิษย์และเรื่องการทำลายตึกฝนพรำ,ทำให้ไม่ได้ฝึกฝนวีถียุทธ์,ทว่าตอนนี้กับเวลาที่เสียไปด้วยเม็ดยารวมวิญญาณและวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น,ทำให้สามารถขยายตานเถียนลมหมุนได้เร็วขึ้น.
แม้นว่าค่ายกลรวมวิญญาณจะมีไว้เพียงศิษย์,แต่ด้วยรากวิญญาณระดับสูงและเม็ดยาช่วย,ทำให้พลังบ่มเพาะของเขายกระดับได้อย่างรวดเร็ว.
ด้วยการบ่มเพาะอย่างเงียบสงบตลอดสองวันเต็ม,ก็ทำให้เขาสามารถก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้าได้อย่างราบรื่น.
“ตูมมมม!”
ที่ห้องฝึกฝน,เสียงดังกึกก้องที่ดังขึ้นบนเครื่องทดสอบ,ปรากฏตัวเลข
25,000 จิน.
“ตูมมมม!”
จุนซ่างเซียวที่รวมพลังก่อนที่จะใช้หมัดระเบิดทดสอบ,ตัวเลขบนเครื่องทดสอบแสดง
30,000 จิน.
“พอใช้ได้.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
เพียงแค่ใช้ได้เองรึ?
ศิษย์ยุทธ์ระดับเก้า,ปรกติจะมีพลัง 14,000
จิน,เจ้าสำนักดาบใหญ่ที่มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นเก้าที่เคยประลองด้วยก่อนหน้านี้ ได้ยินคงขาดใจด้วยความละอายไปอย่างแน่นอน.
จุนซ่างเซียวที่มีพลังไม่ธรรมดา,เพราะรากวิญญาณ,ยาบูรณะร่างกาย,ห้องปั้นกล้ามเนื้อและอีกหลายอย่าง,จนเหนือกว่าระดับศิษย์ยุทธ์ทั่วไป.
หลังจากตัดผ่านไปยังศิษย์ยุทธ์ขั้นเก้า,เป้าหมายต่อไปก็คือศิษย์ยุทธ์ขั้นปลาย,และระดับอาจารย์ยุทธ์ในขั้นต่อไป.
จุนซ่างเซียวยังไม่พอใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่,หนึ่งปีจากนี้,เขาจะต้องทำให้ศิษย์แข็งแกร่งขึ้นให้ได้,นั่นก็เพื่อที่จะประลองกับนิกายเซิ่งชวนได้อย่างสมศักดิ์ศรี.
“ใช่แล้ว.”
“สำนักเห่าฉี.”
“ก่อนอื่นจะต้องให้พวกเขาฝึกฝนอย่างหนักสักเดือนแล้วพาออกไปประลอง.”
ดูเหมือนว่าจุนซ่างเซียวที่ต้องการประลองกับนิกายระดับห้า,แม้นว่ามันจะยาก,ทว่าก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่จะยกระดับสำนักไท่กู่เจิ้งอย่างจริงจังเช่นกัน.
ส่วนสำนักเห่าฉี,ถือว่าเป็นหินก่อนหนึ่งให้เหยียบข้ามไปล่าบอสก็แล้วกัน.
อืม.
ยังไงก็ไม่ควรจะประมาท.
ควรจะให้ความเคารพกับศัตรูสักหน่อย,ไม่เช่นนั้นอาจจะขายหน้าเอาได้.
“กึก ซี่.”
ห้องปั้นกล้ามเนื้อที่เปิดออก,เย่ซิงเฉินที่ออกมาจากด้านใน.
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ผ่านไปสองวันได้ยินมาจากชิงหยาง
บอกว่าเจ้าตัดผ่านระดับไปยังศิษย์ยุทธ์ได้แล้วรึ?”
“อืม.”เย่ซิงเฉินพยักหน้ารับ.
“ฝึกวิชาคมวิญญาณแล้วรึ?”
“ฝึกแล้ว.”
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
เย่ซิงเฉินที่เงียบก่อนเอ่ยออกมเบา
ๆ,”แข็งแกร่งมาก.”
อดีตราชันย์ยุทธ์,กล่าวว่าแข็งแกร่งมาก,แน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา.
จุนซ่างเซียวที่ตบไปที่ไหล่,”ขอให้เจ้าตั้งใจฝึกฝน,สร้างชื่อเสียงให้กับสำนัก,หลังจากนี้ยังมีทักษะยุทธ์ที่แข็งแกร่งกว่านี้มาก.”
ด้วยการรีเฟรซร้านค้าแต่ละครั้งนั้น,ไม่สามารถระบุสินค้าที่จะได้,ทว่ากล่าวได้ว่าวิชาที่รีเฟรซได้ล้วนแต่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน.
เย่ซิงเฉินที่ดวงตาเป็นประกาย.
คมวิญญาณเป็นหนึ่งในวิชายุทธ์พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยเห็น,และยังมีวิชาที่แข็งแกร่งว่านี้มากมายอีกรึ?,ด้วยคำพูดดังกล่าวทำให้เขารู้สึกคาดหวังไปด้วย!
“เจ้าสำนัก.”
เย่ซิงเฉินเอ่ย,”โจวหงนั้นมีพรสวรรค์กระบี่ระดับสูง,หากไม่ต้องการทำให้พรสวรรค์ของเขาเสียเปล่า,ควรให้เขาออกจากสำนักไปฝึกฝนยังสถานที่เหมาะสมกับเขาเถอะ.”
จุนซ่างเซียวสีคางไปมา,กล่าวด้วยรอยยิ้ม,”เจ้าหมายความว่า,สำนักไท่กู่เจิ้งของข้าไม่เหมาะสมกับมือกระบี่ที่มีความสามารถอย่างงั้นรึ?”
เย่ซิงเฉินเอ่ย,”มือกระบี่,จะมีเพียงหนึ่งในหมื่น,แม้นว่าสำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเราจะมีทักษะหมัดระเบิดและยังมีทักษะคมวิญญาณ,ทว่าก็ไม่มีวิชากระบี่,ที่นี่จึงไม่เหมาะสำหรับเขา.”
จุนซ่างเซียวกอดอก,กล่าวด้วยรอยยิ้ม,”ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้อะไรหลายอย่าง.”
“.....”เย่ซิงเฉินที่เงียบ.
เขาที่ตระหนักได้ในทันที,เขาควรจะฝึกฝนไปเงียบ
ๆ,ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรที่ต้องกล่าวแทนโจวหง,ยิ่งเขาพูดมากสถานะการจุติกลับชาติมาเกิดของเขาอาจจะถูกเปิดเผย.
“ฟิ้ว!”
ขณะเขาครุ่นคิด,จุนซ่างเซียวก็ส่งตำราเล่มหนึ่งออกมา.
“นี่คือเพลงกระบี่ เจ้าลองเอาไปศึกษาดู,จะสำเร็จหรือไม่,ก็ขึ้นกับวาสนาของเจ้า.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
เพลงกระบี่?
เย่ซิงเฉินที่รับตำรามา,ที่หน้าปกมีชื่อว่า,”วิชาลับเทพกระบี่เหมันตร์”ใบหน้าของเขาที่เผยท่าทางดูแคลน,”ใช่ชื่อว่าเทพ,ช่างเป็นคนที่โอหังจริง
ๆ.”
เปิดหน้าหนึ่ง,เขาที่เห็นอักษรด้านท้าย,ก็แค่นเสียงดูแคลน,”ในทวีปซิงหยุนแห่งนี้จะมีราชันย์กระบี่ตู๋กู่ที่ใหนกัน,ดูเหมือนว่าจะเป็นการยกยอตัวเองตัวเองละมั้ง.”
การที่เขาไม่เคยได้ยินก็ไม่ใช่เรื่องแปลก,เพราะสินค้าดังกล่าวนั้นเขียนไว้ว่ามาจากพิภพหนึ่ง,ไม่ได้เอ่ยว่ามาจากทวีปชิงหยุนเลยแม้แต่น้อย.
เย่ซิงเฉินที่เปิดหน้าสองขึ้นมา,เริ่มเห็นเนื้อหาและกระบวนท่า,ใบหน้าที่ดูแคลนก็หายไปทันที,และถูกแทนที่ด้วยความตื่นตะลึง.
“นี่มัน......”
เขาถึงกับพูดติดอ่างเอ่ยกล่าวติด ๆขัด
ๆ,”วิชากระบี่ระดับเทวะ!”
ระดับราชันย์รัตติกาล,แม้นว่าจะไม่ได้มีพลังเท่าเดิม,ทว่าการจะตัดสินระดับคุณภาพทักษะวิชา,ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย.
ยิ่งเขาอ่าน ยิ่งศึกษา,ใบหน้าของเขายิ่งเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า,”เพลงกระบี่นี้ไม่ได้ด้อยกว่าเพลงกระบี่ทะลวงเมฆาเก้าสวรรค์ที่ข้าเคยฝีกฝนเลย!”
เมื่อเขากลับไปยังที่พัก.
เย่ซิงเฉินที่หยุดฝึกวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นและพระสูตรไท่ฉวน,เขาเริ่มฝึกวิชากระบี่เทพกระบี่เหมันตร์แทน.
ตลอดทั้งคืนที่เขาฝึกฝน,แม้นว่ายากจะเข้าใจ,แต่ท้ายที่สุดเขาก็สามารถฝึกฝนได้อย่างทุลักทุเล,ด้วยไม่มีพรสวรรค์กระบี่ขั้นสุดยอด,จึงยากจะเข้าใจได้ถึงแก่นแท้ของมัน.
และแน่นอนว่าเขาเหนือกว่าจุนซ่างเซียวมาก.
จุนซ่างเซียวที่เคยพยายามฝึกฝนวิชาดังกล่าวให้ได้โดยเร็วทั้งที่มีพรสวรรค์ด้านกระบี่จำกัด,ทว่าก็สามารถนำมาใช้ได้นิดหน่อย,แต่ก็เหนือกว่าเพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้าทบ.
ทักษะระดับเทวะ ทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย,การจะฝึกฝนให้สำเร็จได้,จำเป็นต้องใช้เวลาและคนที่เหมาะสม.
เย่ซิงเฉินที่จ้องมองผ่านหน้าต่างไปยังโจวหงที่กำลังฝึกฝน,กล่าวออกมาเสียงเบา,”เจ้าเด็กคนนี้สามารถยกระดับได้เร็วมาก,หากได้วิชาลับนี้ไปฝึกจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเร็วกว่านี้อีกมาก,และอาจจะทำให้วิถีกระบี่ของเขาก้าวไปถึงขั้นสุดได้ด้วย.”
ก่อนหน้านี้ราชันย์รัตติกาลที่เห็นเมล็ดพันธ์วิถีกระบี่ชั้นยอด,การมาฝึกฝนในสำนักไท่กู่เจิ้งจะทำให้เสียเปล่า,และในเวลาต่อมา,เจ้าสำนักจุนก็นำวิชากระบี่ระดับเทวะออกมา,เป็นการตอกหน้าเขาอย่างแรงเลยทีเดียว.
......
เช้าวันถัดมา.
หลังจากที่ตระกูลอ้ายจัดการประมูลสำเร็จ,หอฝนพรำก็รายงานผลกลับมา.
“อะไรนะ?”จุนซ่างเซียวที่ตกใจ,ดวงตาเบิกกว้าง.”ประมูลได้เท่าไหร่?”
หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”เม็ดยาสิบเม็ด,ประมุลได้ทั้งหมดหกล้านเหรียญ,เฉลี่ยเม็ดละหกแสน.”
จุนซ่างเซียวที่มั่นใจได้ยินไม่ผิด,มุมปากกระตุกและเอ่ยออกมาว่า,”คาดไม่ถึงเลยว่าเม็ดยาจะมีราคาสูงขนาดนี้,เกินกว่าที่ข้าจะคาดได้จริง
ๆ.”
หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”เหล่าสำนักใหญ่ ๆ
พวกเขาไม่ได้โง่,ทุกคนยินดีที่จะจ่ายไปในราคาที่สูงเพื่อซื้อเม็ดยา,เพราะผลที่ลึกล้ำของยานั่นเอง.”
“อ้อ,ใช่.”นางกล่าวเพิ่ม.”มีข้อมูลเอ่ยว่าหลังจากประมูลเสร็จสิ้น,ประมุขอ้ายก็ออกจากตระกูล,มุ่งหน้ามายังทิศทางของสำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเรา.”
“เรียนเจ้าสำนัก.”ในเวลานั้น,หลี่ชิงหยางก็เข้ามารายงาน,”ประมุขตระกูลอ้ายมาขอพบ.”
หลี่ลั่วฉิวที่จ้องมองด้วยท่าทางตกใจ,”?”
“รีบเชิญ.”
“ครับ.”
หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”ประมุขอ้ายนั้นเป็นตระกูลขายยา,ที่มีสหายไปทั่วยุทธภพ,เป็นคนที่มีชื่อเสียงอยู่ลำดับต้น
ๆของมนทลชิงหยาง,เจ้าสำนักไม่ต้องออกไปรับด้วยตัวเองรึ?”
“ไม่จำเป็น.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
หลี่ลั่วฉิวเอ่ยเสียงเบา,”นี่เจ้าสำนักของข้าใหญ่ขนาดนั้นเลยรึอย่างไร.”
จากนั้นไม่นาน,ประมุขอ้ายที่ก้าวเดินเข้ามาในห้องโถง,ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มยกมือประสานเอ่ยกล่าวออกไปว่า,”เจ้าสำนักจุน,ไม่เห็นกันนาน,พลังบ่มเพาะยกระดับขึ้นอีกแล้ว.”
“เอ๊ะ?”เขาที่จ้องมองไปยังหลี่ลั่วฉิวกล่าวออกไปว่า,”นี่คือ?”
“หลี่ลั่วฉิว,ถางจู่ของสำนักไท่กู่เจิ้งของข้า.”จุนซ่างเซียวกล่าวแนะนำ.
มีถางจู่แล้วรึ? พัฒนานาไปเร็วมาก.
อ้ายชางหนีที่เร่งรีบยกมือประสาน,”ที่แท้ก็คือถางจู่หลี่นี่เอง,เสียมารยาท,เสียมารยาทแล้ว.”
หลี่ลั่วฉิวถึงกับตะลึงงันไปในทันที.
ถึงจะเป็นเจ้าสำนักระดับหก,ประมุขอ้ายก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย,นี่กับเจียมเนื้อเจียมตัวต่อหน้าสำนักไท่กู่เจิ้งอย่างงั้นรึ?
ทันใดนั้น,นางที่คิดถึงคำพูดของเจ้าสำนักที่เคยกล่าวก่อนหน้านี้,ความสัมพันธ์ของข้ากับประมุขอ้ายไม่เลว,งั้นเป็นความจริงงั้นรึ?
ขวดยาฟื้นฟูขวดนั้น,บางที......
ใบหน้าของหลี่ลั่วฉิวแข็งค้าง,ก่อนที่จะสะดุ้งตกใจขึ้นมาในทันที,”บางทีเม็ดยาฟื้นฟูนั่นต้องเป็นของจริง!!!”
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น