วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 141 The sect master rack is big

Strongest Sect of All Times  Chapter 141 The sect master rack is big

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 141 The sect master rack is big

门架子大

 

นับจากก่อตั้งหอฝนพรำขึ้นมา,ข่าวต่าง ๆทั่วมนทลชิงหยางที่ได้รับมาจากเมืองทั้งแปด,ทำให้จุนซ่างเซียวสามารถบ่มเพาะได้อย่างสบายใจ.

ก่อนหน้านี้หลายวันต้องวุ่นวายในการรับศิษย์และเรื่องการทำลายตึกฝนพรำ,ทำให้ไม่ได้ฝึกฝนวีถียุทธ์,ทว่าตอนนี้กับเวลาที่เสียไปด้วยเม็ดยารวมวิญญาณและวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็น,ทำให้สามารถขยายตานเถียนลมหมุนได้เร็วขึ้น.


แม้นว่าค่ายกลรวมวิญญาณจะมีไว้เพียงศิษย์,แต่ด้วยรากวิญญาณระดับสูงและเม็ดยาช่วย,ทำให้พลังบ่มเพาะของเขายกระดับได้อย่างรวดเร็ว.

ด้วยการบ่มเพาะอย่างเงียบสงบตลอดสองวันเต็ม,ก็ทำให้เขาสามารถก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่เก้าได้อย่างราบรื่น.

“ตูมมมม!

ที่ห้องฝึกฝน,เสียงดังกึกก้องที่ดังขึ้นบนเครื่องทดสอบ,ปรากฏตัวเลข 25,000 จิน.

“ตูมมมม!

จุนซ่างเซียวที่รวมพลังก่อนที่จะใช้หมัดระเบิดทดสอบ,ตัวเลขบนเครื่องทดสอบแสดง 30,000 จิน.

“พอใช้ได้.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

เพียงแค่ใช้ได้เองรึ?

ศิษย์ยุทธ์ระดับเก้า,ปรกติจะมีพลัง 14,000 จิน,เจ้าสำนักดาบใหญ่ที่มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นเก้าที่เคยประลองด้วยก่อนหน้านี้ ได้ยินคงขาดใจด้วยความละอายไปอย่างแน่นอน.

จุนซ่างเซียวที่มีพลังไม่ธรรมดา,เพราะรากวิญญาณ,ยาบูรณะร่างกาย,ห้องปั้นกล้ามเนื้อและอีกหลายอย่าง,จนเหนือกว่าระดับศิษย์ยุทธ์ทั่วไป.

หลังจากตัดผ่านไปยังศิษย์ยุทธ์ขั้นเก้า,เป้าหมายต่อไปก็คือศิษย์ยุทธ์ขั้นปลาย,และระดับอาจารย์ยุทธ์ในขั้นต่อไป.

จุนซ่างเซียวยังไม่พอใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่,หนึ่งปีจากนี้,เขาจะต้องทำให้ศิษย์แข็งแกร่งขึ้นให้ได้,นั่นก็เพื่อที่จะประลองกับนิกายเซิ่งชวนได้อย่างสมศักดิ์ศรี.

“ใช่แล้ว.”

“สำนักเห่าฉี.”

“ก่อนอื่นจะต้องให้พวกเขาฝึกฝนอย่างหนักสักเดือนแล้วพาออกไปประลอง.”

ดูเหมือนว่าจุนซ่างเซียวที่ต้องการประลองกับนิกายระดับห้า,แม้นว่ามันจะยาก,ทว่าก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่จะยกระดับสำนักไท่กู่เจิ้งอย่างจริงจังเช่นกัน.

ส่วนสำนักเห่าฉี,ถือว่าเป็นหินก่อนหนึ่งให้เหยียบข้ามไปล่าบอสก็แล้วกัน.

อืม.

ยังไงก็ไม่ควรจะประมาท.

ควรจะให้ความเคารพกับศัตรูสักหน่อย,ไม่เช่นนั้นอาจจะขายหน้าเอาได้.

“กึก ซี่.”

ห้องปั้นกล้ามเนื้อที่เปิดออก,เย่ซิงเฉินที่ออกมาจากด้านใน.

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ผ่านไปสองวันได้ยินมาจากชิงหยาง บอกว่าเจ้าตัดผ่านระดับไปยังศิษย์ยุทธ์ได้แล้วรึ?”

“อืม.”เย่ซิงเฉินพยักหน้ารับ.

“ฝึกวิชาคมวิญญาณแล้วรึ?”

“ฝึกแล้ว.”

“เป็นอย่างไรบ้าง?”

เย่ซิงเฉินที่เงียบก่อนเอ่ยออกมเบา ๆ,”แข็งแกร่งมาก.”

อดีตราชันย์ยุทธ์,กล่าวว่าแข็งแกร่งมาก,แน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา.

จุนซ่างเซียวที่ตบไปที่ไหล่,”ขอให้เจ้าตั้งใจฝึกฝน,สร้างชื่อเสียงให้กับสำนัก,หลังจากนี้ยังมีทักษะยุทธ์ที่แข็งแกร่งกว่านี้มาก.”

ด้วยการรีเฟรซร้านค้าแต่ละครั้งนั้น,ไม่สามารถระบุสินค้าที่จะได้,ทว่ากล่าวได้ว่าวิชาที่รีเฟรซได้ล้วนแต่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน.

เย่ซิงเฉินที่ดวงตาเป็นประกาย.

คมวิญญาณเป็นหนึ่งในวิชายุทธ์พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาเคยเห็น,และยังมีวิชาที่แข็งแกร่งว่านี้มากมายอีกรึ?,ด้วยคำพูดดังกล่าวทำให้เขารู้สึกคาดหวังไปด้วย!

“เจ้าสำนัก.”

เย่ซิงเฉินเอ่ย,”โจวหงนั้นมีพรสวรรค์กระบี่ระดับสูง,หากไม่ต้องการทำให้พรสวรรค์ของเขาเสียเปล่า,ควรให้เขาออกจากสำนักไปฝึกฝนยังสถานที่เหมาะสมกับเขาเถอะ.”

จุนซ่างเซียวสีคางไปมา,กล่าวด้วยรอยยิ้ม,”เจ้าหมายความว่า,สำนักไท่กู่เจิ้งของข้าไม่เหมาะสมกับมือกระบี่ที่มีความสามารถอย่างงั้นรึ?”

เย่ซิงเฉินเอ่ย,”มือกระบี่,จะมีเพียงหนึ่งในหมื่น,แม้นว่าสำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเราจะมีทักษะหมัดระเบิดและยังมีทักษะคมวิญญาณ,ทว่าก็ไม่มีวิชากระบี่,ที่นี่จึงไม่เหมาะสำหรับเขา.”

จุนซ่างเซียวกอดอก,กล่าวด้วยรอยยิ้ม,”ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้อะไรหลายอย่าง.”

“.....”เย่ซิงเฉินที่เงียบ.

เขาที่ตระหนักได้ในทันที,เขาควรจะฝึกฝนไปเงียบ ๆ,ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรที่ต้องกล่าวแทนโจวหง,ยิ่งเขาพูดมากสถานะการจุติกลับชาติมาเกิดของเขาอาจจะถูกเปิดเผย.

“ฟิ้ว!

ขณะเขาครุ่นคิด,จุนซ่างเซียวก็ส่งตำราเล่มหนึ่งออกมา.

“นี่คือเพลงกระบี่ เจ้าลองเอาไปศึกษาดู,จะสำเร็จหรือไม่,ก็ขึ้นกับวาสนาของเจ้า.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

เพลงกระบี่?

เย่ซิงเฉินที่รับตำรามา,ที่หน้าปกมีชื่อว่า,”วิชาลับเทพกระบี่เหมันตร์”ใบหน้าของเขาที่เผยท่าทางดูแคลน,”ใช่ชื่อว่าเทพ,ช่างเป็นคนที่โอหังจริง ๆ.”

เปิดหน้าหนึ่ง,เขาที่เห็นอักษรด้านท้าย,ก็แค่นเสียงดูแคลน,”ในทวีปซิงหยุนแห่งนี้จะมีราชันย์กระบี่ตู๋กู่ที่ใหนกัน,ดูเหมือนว่าจะเป็นการยกยอตัวเองตัวเองละมั้ง.”

การที่เขาไม่เคยได้ยินก็ไม่ใช่เรื่องแปลก,เพราะสินค้าดังกล่าวนั้นเขียนไว้ว่ามาจากพิภพหนึ่ง,ไม่ได้เอ่ยว่ามาจากทวีปชิงหยุนเลยแม้แต่น้อย.

เย่ซิงเฉินที่เปิดหน้าสองขึ้นมา,เริ่มเห็นเนื้อหาและกระบวนท่า,ใบหน้าที่ดูแคลนก็หายไปทันที,และถูกแทนที่ด้วยความตื่นตะลึง.

“นี่มัน......”

เขาถึงกับพูดติดอ่างเอ่ยกล่าวติด ๆขัด ๆ,”วิชากระบี่ระดับเทวะ!

ระดับราชันย์รัตติกาล,แม้นว่าจะไม่ได้มีพลังเท่าเดิม,ทว่าการจะตัดสินระดับคุณภาพทักษะวิชา,ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย.

ยิ่งเขาอ่าน ยิ่งศึกษา,ใบหน้าของเขายิ่งเปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่า,”เพลงกระบี่นี้ไม่ได้ด้อยกว่าเพลงกระบี่ทะลวงเมฆาเก้าสวรรค์ที่ข้าเคยฝีกฝนเลย!

เมื่อเขากลับไปยังที่พัก.

เย่ซิงเฉินที่หยุดฝึกวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นและพระสูตรไท่ฉวน,เขาเริ่มฝึกวิชากระบี่เทพกระบี่เหมันตร์แทน.

ตลอดทั้งคืนที่เขาฝึกฝน,แม้นว่ายากจะเข้าใจ,แต่ท้ายที่สุดเขาก็สามารถฝึกฝนได้อย่างทุลักทุเล,ด้วยไม่มีพรสวรรค์กระบี่ขั้นสุดยอด,จึงยากจะเข้าใจได้ถึงแก่นแท้ของมัน.

และแน่นอนว่าเขาเหนือกว่าจุนซ่างเซียวมาก.

จุนซ่างเซียวที่เคยพยายามฝึกฝนวิชาดังกล่าวให้ได้โดยเร็วทั้งที่มีพรสวรรค์ด้านกระบี่จำกัด,ทว่าก็สามารถนำมาใช้ได้นิดหน่อย,แต่ก็เหนือกว่าเพลงกระบี่คลื่นซ้อนเก้าทบ.

ทักษะระดับเทวะ ทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย,การจะฝึกฝนให้สำเร็จได้,จำเป็นต้องใช้เวลาและคนที่เหมาะสม.

เย่ซิงเฉินที่จ้องมองผ่านหน้าต่างไปยังโจวหงที่กำลังฝึกฝน,กล่าวออกมาเสียงเบา,”เจ้าเด็กคนนี้สามารถยกระดับได้เร็วมาก,หากได้วิชาลับนี้ไปฝึกจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเร็วกว่านี้อีกมาก,และอาจจะทำให้วิถีกระบี่ของเขาก้าวไปถึงขั้นสุดได้ด้วย.”

ก่อนหน้านี้ราชันย์รัตติกาลที่เห็นเมล็ดพันธ์วิถีกระบี่ชั้นยอด,การมาฝึกฝนในสำนักไท่กู่เจิ้งจะทำให้เสียเปล่า,และในเวลาต่อมา,เจ้าสำนักจุนก็นำวิชากระบี่ระดับเทวะออกมา,เป็นการตอกหน้าเขาอย่างแรงเลยทีเดียว.

......

เช้าวันถัดมา.

หลังจากที่ตระกูลอ้ายจัดการประมูลสำเร็จ,หอฝนพรำก็รายงานผลกลับมา.

“อะไรนะ?”จุนซ่างเซียวที่ตกใจ,ดวงตาเบิกกว้าง.”ประมูลได้เท่าไหร่?”

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”เม็ดยาสิบเม็ด,ประมุลได้ทั้งหมดหกล้านเหรียญ,เฉลี่ยเม็ดละหกแสน.”

จุนซ่างเซียวที่มั่นใจได้ยินไม่ผิด,มุมปากกระตุกและเอ่ยออกมาว่า,”คาดไม่ถึงเลยว่าเม็ดยาจะมีราคาสูงขนาดนี้,เกินกว่าที่ข้าจะคาดได้จริง ๆ.”

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”เหล่าสำนักใหญ่ ๆ พวกเขาไม่ได้โง่,ทุกคนยินดีที่จะจ่ายไปในราคาที่สูงเพื่อซื้อเม็ดยา,เพราะผลที่ลึกล้ำของยานั่นเอง.”

“อ้อ,ใช่.”นางกล่าวเพิ่ม.”มีข้อมูลเอ่ยว่าหลังจากประมูลเสร็จสิ้น,ประมุขอ้ายก็ออกจากตระกูล,มุ่งหน้ามายังทิศทางของสำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเรา.”

“เรียนเจ้าสำนัก.”ในเวลานั้น,หลี่ชิงหยางก็เข้ามารายงาน,”ประมุขตระกูลอ้ายมาขอพบ.”

หลี่ลั่วฉิวที่จ้องมองด้วยท่าทางตกใจ,”?”

“รีบเชิญ.”

“ครับ.”

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”ประมุขอ้ายนั้นเป็นตระกูลขายยา,ที่มีสหายไปทั่วยุทธภพ,เป็นคนที่มีชื่อเสียงอยู่ลำดับต้น ๆของมนทลชิงหยาง,เจ้าสำนักไม่ต้องออกไปรับด้วยตัวเองรึ?”

“ไม่จำเป็น.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

หลี่ลั่วฉิวเอ่ยเสียงเบา,”นี่เจ้าสำนักของข้าใหญ่ขนาดนั้นเลยรึอย่างไร.”

จากนั้นไม่นาน,ประมุขอ้ายที่ก้าวเดินเข้ามาในห้องโถง,ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มยกมือประสานเอ่ยกล่าวออกไปว่า,”เจ้าสำนักจุน,ไม่เห็นกันนาน,พลังบ่มเพาะยกระดับขึ้นอีกแล้ว.”

“เอ๊ะ?”เขาที่จ้องมองไปยังหลี่ลั่วฉิวกล่าวออกไปว่า,”นี่คือ?”

“หลี่ลั่วฉิว,ถางจู่ของสำนักไท่กู่เจิ้งของข้า.”จุนซ่างเซียวกล่าวแนะนำ.

มีถางจู่แล้วรึ? พัฒนานาไปเร็วมาก.

อ้ายชางหนีที่เร่งรีบยกมือประสาน,”ที่แท้ก็คือถางจู่หลี่นี่เอง,เสียมารยาท,เสียมารยาทแล้ว.”

หลี่ลั่วฉิวถึงกับตะลึงงันไปในทันที.

ถึงจะเป็นเจ้าสำนักระดับหก,ประมุขอ้ายก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย,นี่กับเจียมเนื้อเจียมตัวต่อหน้าสำนักไท่กู่เจิ้งอย่างงั้นรึ?

ทันใดนั้น,นางที่คิดถึงคำพูดของเจ้าสำนักที่เคยกล่าวก่อนหน้านี้,ความสัมพันธ์ของข้ากับประมุขอ้ายไม่เลว,งั้นเป็นความจริงงั้นรึ? ขวดยาฟื้นฟูขวดนั้น,บางที......

ใบหน้าของหลี่ลั่วฉิวแข็งค้าง,ก่อนที่จะสะดุ้งตกใจขึ้นมาในทันที,”บางทีเม็ดยาฟื้นฟูนั่นต้องเป็นของจริง!!!


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น