วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

Strongest Sect of All Times Chapter 138 Establishes Drizzle Hall

Strongest Sect of All Times  Chapter 138 Establishes Drizzle Hall

 นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล

Chapter 138 Establishes Drizzle Hall

成立细雨堂

 

หลี่ลั่วฉิวที่ต้องตัดสินใจยอมรับนั้นมีหลายสาเหตุ.

ยกตัวอย่างตอนนี้นางเป็นนักโทษ,หากไม่ยอมรับก็จะไม่ได้ออกไป,ยังไง ๆก็ไม่ต่างจากนกในกรงอยู่แล้ว.

อีกอย่างความสามารถของจุนซ่างเซียวในการซุ่มโจมตีนั้นสูงมาก,และยังมีการพัฒนาที่แปลกประหลาด,มีประสิทธิภาพเกินกว่านางจะคาดเดา.


อีกอย่าง,อีกฝ่ายมอบตำแหน่งถางจู่,ไม่ได้กำจัดอิสรภาพของนาง,บางทีอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายแต่อย่างใด.

และสิ่งสำคัญที่สุด,ปืนไฟไร้เทียมทาน.

 

นางที่เป็นมือสังหาร,หลี่ลั่วฉิวย่อมเคยใช้อาวุธลับมามากมาย,แต่อาวุธลับที่แทบจะหวังผลสังหารเป้าหมายได้ในทันทีนั้นมีอยู่ไม่มากนัก.

“แม่นางหลี่.”

 

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เมื่อวานพวกเราที่ต่อสู้กันแบบเอาเป็นเอาตาย,แม้นว่าทุกอย่างจะจบไปแล้วแต่การที่เจ้ามาเป็นคนของสำนักไท่กู่เจิ้งทันที,ก็ยังมีเรื่องที่เป็นกังวลเล็กน้อย.”

“กังวลว่าข้าจะสังหารท่านรึ?”หลี่ลั่วฉิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม.

จุนซ่างเซียวยักไหล่,”เปิ่นจั้วไม่เชื่อว่าเจ้าจะมีความสามารถพอ.”

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”แล้วมีอะไรต้องกังวล?”

“เปิ่นจัวกังวล,ผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าจะมีอคติ,และลอบกระทำอะไรที่ไม่ดีในสำนัก,ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาวุ่นวายได้.”

 

“เจ้าสำนักจุน,มือสังหารที่ถูกฝึกมาให้ฟังคำสั่งอย่างเคร่งครัด,ข้าสั่งให้พวกเขานั่ง,ไม่มีใครกล้ายืน.”

“ยังไม่สามารถสบายใจได้.”จุนซ่างเซียวที่นำขวดยาขวดเล็ก ๆออกมา,”นี่คือยาพิษที่ต้องได้รับยาแก้ทุก ๆสามเดือน,ขอให้แม่นางหลี่ดื่มเพื่อยืนยัน.”

“หมายความว่าอย่างไร?”หลี่ลั่วฉิวใบหน้าเปลี่ยนสีเผยความเย็นชา.

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ข้าต้องการทดสอบเจ้า,ข้าจะมอบยาถอนพิษให้ทุก ๆสามเดือน,หลังจากนี้ครบหนึ่งปีการทดสอบก็จบลง,เมื่อสามารถยืนยันนิสัยของเจ้าได้แล้ว,ข้าจะมอบยาถอนพิษจริง ๆให้.”

“เจ้าสำนักจุน,เป็นคนที่ระมัดระวังจริง ๆ.”หลี่ลั่วฉิวเอ่ย.

จุนซ่างเซียวยักไหล่,กล่าวออกไปว่า,”ในโลกที่เต็มไปด้วยอันตราย,หากไม่ระมัดระวังจะมีชีวิตได้อีกรึ?!

“ไม่สงสัยเลยว่า,ยังหนุ่มเป็นผู้ปกครองสำนักได้.”หลี่ลั่วฉิวที่ก้าวมารับขวดยา,กล่าวออกไปว่า,”หลังจากข้าดื่มแล้ว,จะมอบปืนไฟไร้เทียมทานให้ข้าเลยหรือไม่?”

“ย่อมได้.”จุนซ่างเซียวกล่าวรับ.

หลี่ลั่วฉิวเปิดขวด,ดื่มยาพิษเข้าไปทันที,รสชาติขมเล็กน้อย,เผ็ดนิดหน่อย,จากนั้นก็ไม่สามารถสัมผัสอะไรได้.

“ส่งมา.”

“ฟิ้ว!

จุนซ่างเซียวส่งอินทรีย์ทะเลทรายให้กับนาง.

หลังจากที่หลี่ลั่วฉิวรับมา,ทันใดนั้นนางก็ชี้ปากกระบอกปืนไปที่ศีรษะของเขา,มือเล็ก ๆคล้ายจะเหนี่ยวไกล,กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม,”เจ้าสำนักจุน,ใช้แบบนี้ใช่หรือไม่?”

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ทุกอย่างในโลกล้วนแต่ต้องศึกษา,ไว้ข้าจะสอนเจ้าทีหลัง.”

“ฟิ้ว!

หลี่ลั่วฉิวที่ดึงอินทร์ทะเลทรายกลับ พร้อมกับหมุนมันเล่น,ดูสนุนกสนานไม่น้อย.

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”พรุ่งนี้ข้าจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าได้ก่อตั้งหอฝนพรำ,หวังว่าเจ้าจะสามาถควบคุมและสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าได้ในวันนี้.

หลี่ลั่วฉิวที่ถือปืนด้วยท่าทางชดช้อย,กล่าวออกไปว่า,”ยังมีอะไรอีกหรือไม่.”

จุนซ่างเซียวไม่ได้เอ่ยอะไรอีก,ก่อนที่จะก้าวจากไป,ประตูไม่ได้ล๊อกแล้ว,เพราะว่าไม่จำเป็นแล้ว.

หลี่ลั่วฉิวที่เริ่มตรวจสอบอินทรีย์ทะเลทรายอย่างระมัดระวัง,และพยายามลั่นไก,ทว่าได้ยินเพียงเสียง แก๊ก แก๊ก เท่านั้น,หาได้มีลำแสงอะไรพุ่งออกไป.

จุนซ่างเซียวที่กล่าวโดยไม่หันหลังมามอง,”หากเปิ่นจั้วไม่สอนเจ้า,เจ้าก็ไม่มีทางใช้ได้.”

“ข้าไม่เชื่อ.”

หลี่ลั่วฉิวที่มีอารมณ์เล็กน้อย,เริ่มหาวิธีโหลดกระสุนแต่ก็ไม่สำเร็จ.

“โฮสน์ทำยาพิษตั้งแต่เมื่อไหร่?”ระบบที่อดสอบถามออกไปไม่ได้.

จุนซ่างเซียวกล่าว,”นำมันมะกอกผสมพริกไทยและกระเทียม,คนให้เข้ากัน.”

ระบบเอ่ย,”โหดร้ายนัก.”

......

เช้าวันถัดมา.

หลังจากทำการบริหารเสร็จ,จุนซ่างเซียวก็ได้ประกาศต่อหน้าทุกคน,ก่อตั้งหอฝนพรำขึ้นในทันที,และถางจู่ก็คือหลี่ลั่วฉิว.

เกี่ยวกับเรื่องนี้,เหล่าศิษย์ไม่มีความเห็นอะไร.

 

ส่วนดำหนึ่งและดำสองแทบจะเป็นลมเล็กน้อย.

 

เจ้าตึกที่เพิ่งถูกจับมา,เพียงไม่นานก็ถูกเกลี้ยกล่อมจนยอมจำนนง่ายขนาดนี้เลยรึ?

ดูเหมือนว่าข้าวสองจานเองก็ไม่ได้ด้อยกว่าอินทรีย์ทะเลทราย?

จุนซ่างเซียวไม่เพียงให้สถานะถางจู่แก่หลี่ลั่วฉิว,ทว่ายังมอบเขาลูกหนึ่งและตึกขนาดใหญ่มีป้ายติดเอาไว้ว่าหอฝนพรำ.

นับจากนี้,นี่คือหอสำนักแห่งแรกของสำนักไท่กู่เจิ้ง.

หลี่ลั่วฉิวที่ตอบรับ,เมื่อสั่งการออกไป,มือสังหารใต้บังคับบัญชาก็ไม่มีความเห็น,ทุกคนล้วนแต่ต้องทำตามคำสั่งหัวหน้าใหญ่อยู่แล้ว.

ถึงแม้นว่าแมวภูเขาที่เกือบตายจะไม่ยินดี.

แต่หากไม่ยอมรับก็ต้องถูกคุมขังอยู่ในสำนักไท่กู่เจิ้ง,ไม่ช้าก็นานก็อาจจะไม่จบเพียงแค่ตกตายก็ได้.

หากจะกล่าว,ในเมื่อก่อตั้งตึกฝนพรำขึ้นมาแล้ว,ทำไมจุนซ่างเซียวไม่แต่งตั้งอาวุโสขึ้นมา?

นั่นก็เพราะยังไม่มีผู้เหมาะสมนั่นเอง.

แม้นว่าหลี่ลั่วฉิวจะแข็งแกร่ง,ทว่าก็ยังมีคุณสมบัติไม่พอ,ต้องไม่ลืมว่านางคือมือสังหาร.

ส่วนหลี่ชิงหยางและศิษย์คนอื่น ๆ พลังบ่มเพาะยังไม่สูงและยังเยาว์วัยนัก,ยังไม่เหมาะที่จะแต่งตั้งเป็นอาวุธสในเวลานี้.

......

เมื่อหอสำนักได้ก่อตั้งขึ้นแล้ว,จากนั้นก็ถึงลงทะเบียนอย่างเป็นทางการสำหรับพวกเขา.

“ติ๊ง! ติ๊ง!

หลังจากประทับตาเจ้าสำนักลงในใบลงทะเบียนคะแนนสนับสนุนสำนักและจำนวนสมาชิกสำนักก็ดังขึ้นในหูของเขาเป็นระยะ ๆ.

หลังจากประทับตาเสร็จสิ้น,เมื่อนับรวมหลี่ลั่วฉิว,ก็มีคนเพิ่มขึ้นมา 77 คน.

หน้าต่างคอนโซนระบบ-สมาชิกสำนัก : 230 / 500.

คะแนนสนับสนุนสำนัก : 225 / 500.

จุนซ่างเซียวที่เอ่ยออกมาเบา ๆในใจ,”ขอเพียงรับสมัครเต็ม,คะแนนสนับสนุนก็จะเกือบเต็ม,ตอนนั้นก็จะสามารถใช้จ่ายได้อย่างสบายใจ.”

“เจ้าสำนัก,เรียกข้ามีเรื่องอันใดอย่างงั้นรึ?”

หลี่ลั่วฉิวก้าวเข้ามาในห้องโถง,นางได้นำคำว่าจุนออกไปแล้ว,เห็นชัดเจนนางได้ยอมรับสถานะของนางไปเรียบร้อยแล้ว.

จุนซ่างเซียวเอ่ย,”เจ้าส่งคนมาสังหารเปิ่นจั้วกี่ครั้ง?”

“เรื่องนี้...”หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”ข้ากำลังปิดด่านอยู่,เรื่องภารกิจอยู่ในความรับผิดชอบของแมงป่อง.”

“แมงป่อง? เรียกเขาให้หน่อย.”จุนซ่างเซียวกล่าว.

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”เขาถูกท่านสังหารไปแล้ว.”

“....”จุนซ่างเซียวเอ่ย,”แล้วไพ่ตายอีกสองคนล่ะรู้หรือไม่?.”

“งูพิษน่าจะรู้,เพราะเป็นคนดูแลภารกิจด้วยเช่นกัน.”

หลังจากนั้นหลี่ลั่วฉิวก็เรียกงูพิษมา,จากนั้นหลังจากครุ่นคิด,เขาก็กล่าวออกมาว่า,”เรียนเจ้าสำนัก,แมงป่องได้ออกภารกิจสามครั้ง.”

“เมื่อไหร่,และครั้งล่ะกี่คน?”

จากนั้นงูพิษก็บอกเล่าเกี่ยวกับเวลาและจำนวนคน.

ครั้งแรกสามคน,ก่อนงานประลองยุทธ์สำนัก,ครั้งที่สองคนเดียว,หลังจากงานประลองยุทธ์สำนักจบ,ครั้งที่สามสามคน,ซึ่งตายไปด้วยสไนเปอร์ไรเฟิลยังไม่ได้เข้ามาในสำนักด้วยซ้ำ.

“ไม่มี?”

“ไม่มีแล้ว.”

จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมาทันที.

หากไม่นับมือสังหารกลุ่มใหญ่ที่นอกเมืองหลี่หยาง,ก็มีคนรุกมายังสำนักถึงห้าครั้ง.

ท้ายที่สุดแล้วสองครั้ง,มือสังหารที่ต้องการสังหารเซียวจุ้ยจื่อ,ในกลุ่มมือสังหารห้าคนที่เขาสังหารไปเมื่อไม่นานมานี้.

หากงูพิษไม่จำผิด,มือสังหารสองครั้ง,ไม่ใช่มือสังหารของตึกฝนพรำ.

ใช่,ใช่แล้ว.

มือสังหารสองกลุ่มในแหวนมิติไม่มีทักษะก้าวปิศาจ,แสดงว่าพวกเขาไม่ใช่มือสังหารของตึกฝนพรำ.

เป็นไปได้ว่ามือสังหารกลุ่มใหญ่ที่นอกเมืองหลี่หยางนั้น,อาจจะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่?

หากว่าไม่ใช่กลุ่มเดียวกัน,ก็อธิบายได้ว่ามีสามกลุ่มมือสังหารที่ต้องการสังหารเขา,แม้นว่าจะกำราบหลี่ลั่วฉิวไปแล้ว,ก็ไม่สามารถรับประกัน จะมีมือสังหารเข้ามาสังหารเขา.

จุนซ่างเซียวที่กุมกระหมับกล่าวออกไปว่า,”ถางจู่หลี่,เจ้ารู้หรือไม่,ในมลทนชิงหยางมีองค์กรมือสังหารใดบ้าง?”

บางที่หากไม่สามารถระบุกลุ่มมือสังหารอีกสองกลุ่มได้,เจ้าสำนักจุนก็คงยากจะนอนหลับได้เช่นกัน.

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”เท่าที่ข้ารู้,มลทนชิงหยางไม่มีองค์กรนักฆ่า.”

”.”

นางที่ขบริมฝีปากและกล่าวต่อไปว่า,”มีตระกูลใหญ่ในแต่ละเมือง,ที่ได้ฝึกนักฆ่าเหมือนกัน,เป็นมือสังหารอย่างลับ ๆ,เพราะตระกูลใหญ่นั้นมีเงินมากมาย,และยังเคยเดินทางมายังตึกฝนพำเพื่อซื้อวิธีการฝึกฝนมือสังหารจากพวกเราด้วย.”

“ตระกูลใหญ่?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”ยกตัวอย่างเมืองเจิ้นหยางตระกูลเหอ,เมืองชิงหยางตระกูลหวังและเมืองหลี่หยาง,ตระกูลเป่ยและตระกูลเซียว,เมืองโชวหยาง...”

“เดี๋ยวก่อน!

จุนซ่างเซียวที่ยกมือขึ้นขัด,”เมื่อกี้เจ้าบอกว่าตระกูลเซียวเมืองหลี่หยางงั้นรึ?”

“ไม่ผิด.”

หลี่ลั่วฉิวเอ่ย,”อาวุโสใหญ่ตระกูลเซียวได้มาซื้อวิธีการ,เขาไม่ต้องการที่จะให้คนอื่นรู้ความลับตัวเอง,และคนอื่น ๆเองก็คงจะคิดเหมือน ๆ กัน.”


ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times

#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
Author(s)
Goodbye Jianghu


เข้ากลุ่มลับ VIP ====> Click


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น