Strongest Sect of All Times Chapter 135 Very mature idea
นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล
Chapter 135 Very mature idea
很成熟的想法
เจ้าตึกฝนพรำต้องการพูดคุย,เพราะว่าถูกคุมตัวอยู่,หากว่านางมีพลังเหนือกว่าจุนซ่างเซียว,บางที่จุนซ่างเซียวคงต้องเรียกนางว่าท่านราชินีแล้ว!
นางที่มีระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นห้า,กับถูกศิษย์ยุทธ์ขั้นแปดโจมตีจนได้รับความอนาจได้อย่างไร?
นั่นก็เพราะว่าเมื่อครั้งที่โยนปืนให้เซียวจุ้ยจื่อ,จุนซ่างเซียวก็บดยันต์แห่งพลัง,ทำให้ความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นห้าเท่าในทันที!
เจ้าตึกฝนพรำมีมีดบินที่ร้ากาจ,กับสตรีที่ทรงพลังเช่นนี้,หากปืนไม่สามารถจัดการได้,ก็สามารถไพ่ลับอื่นในมือจัดการ.
ด้วยการใช้ยันต์แห่งพลัง,เพิ่มพลังขึ้นห้าเท่าจากเดิมในทันที.
ก่อนหน้านี้เขามีพลัง 30,000,พริบตาก็มีพลังมากกว่า
100,000
จิน,ไม่ต้องสงสัยว่าเจ้าตึกฝนพรำที่ยากจะรับมือแม้แต่อาวุธแตกหัก,แขนทั้งสองข้างกำลังชา.
ท่าเท้าของเขาเอง,ก้าวปิศาจก็สำเร็จขั้นสูงสุดแล้ว.
อาวุธ,ด้วยกระบี่หานเฟิงระดับสามัญขั้นต้น,คุณภาพที่เหนือกว่าอีกฝ่ายมาก.
ความแข็งแกร่ง,ที่อีกฝ่ายไม่สามารถต้านได้เลย.
แม้นว่าจะมีพลังฝึกตนอยู่คนระดับดินแดน,ทว่าก็ไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้น,ทำให้ถูกกุมตัวเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว.
......
จุนซ่างเซียวที่ผนึกชีพจร,พร้อมกับชี้ปืนไปด้านหลัง,กล่าวออกไป,”เดินไป,สาวงาม.”
ไม่มีพลังบ่มเพาะแล้ว,กับปืนที่จ่อหลัง,เจ้าตึกฝนพรำทำได้แค่รับฟังคำสั่ง.
“ใช่แล้ว.”
“ให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าทิ้งอาวุธลับทั้งหมด,มัดแขนเข้าด้วยกันด้วย.”
เจ้าตึกฝนพรำที่กล่าวรับคำสั่ง,”ทำตามที่เจ้าสำนักจุนบอก.”
“ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!”
มือสังหารทั้งหมดที่โยนอาวุธลับออกไป,พร้อมกับถูกจับมัดมือเอาไว้.
จากนั้นเหล่ามือสังหารที่ต้องร้องโหยหวน,ถูกจับลากไปโดยเซียวจุ้ยจื่อ,คุมตัวเดินทางกลับสำนักไท่กู่เจิ้ง.
ด้วยพื้นที่แห่งนี้เป็นหุบเขาทึบ,การจับกุมมือสังหารกลุ่มใหญ่ไปจึงไม่สะดุดตา,และตอนเย็นก็กลับถึงสำนัก.
“วูซซ! วูซซซ!”
เจ้าตึกฝนพรำและเหล่ามือหสังหารหลายสิบคนที่ถูกลากผ่านค่ายกลคุ้มสำนัก,ไปยืนอยู่บนลานยุทธ์.
เห็นคนชุดดำมากมาย,ที่เหมือนกับมือสังหาร,หลี่ชิงหยางที่ตะลึงงัน,”เจ้าสำนัก,พวกเขา....”
“มือสังหารตึกฝนพรำ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
เซียวจุ้ยจื่อเอ่ยเติม.”ศิษย์พี่รอง,มือสังหารตึกฝนพรำถูกจับหมดแล้ว,รวมทั้งหัวหน้าใหญ่ด้วย!”
ทั้งหมด,รวมทั้งหัวหน้าองค์กรด้วยรึ?
ที่มุมปากของหลี่ชิงหยางถึงกับกระตุกไปมา.
การจะทำลายองค์การมือสังหารสักองค์กร,ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย,เขาที่เป็นกังวลที่จะเกิดอุบัติเหตุกับเจ้าสำนักและศิษย์น้องเป็นอย่างมาก,ทำให้เวลานี้รู้สึกประหลาดใจอย่างรุนแรง.
ตอนนี้มือสังหารถูกจับมาทุกคนอย่างงั้นรึ?
เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจนัก.
ในโรงอาหาร,ดำหนึ่งดำสองที่จ้องมองไปยังเจ้าตึกผ่านหน้าต่าง,ดวงตาที่ถลนแทบหลุดจากเบ้า!
มารดาเถอะ!
เจ้าตึกถูกเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งจับตัว!
ดำสองที่สีตาไปมา,ด้วยความไม่อยากเชื่อ,”ข้าฝันไปงั้นรึ?”
“ผลั๊ว.”ดำหนึ่งที่ตบไปยังใบหน้า,”เจ็บใหม?”
“เจ็บ!”
“งั้นก็ไม่ฝัน!”
......
จุนซ่างเซียวที่สั่งหลี่ชิงหยางและซูเซียวโม่นำมือสังหารที่ถูกผนึกชีพจรแล้วไปขังในคุกสำนัก.
เฉพาะเจ้าตึกฝนพรำที่ได้รับการปฏิบัติที่ดีหน่อย,ถูกขังเอาไว้ในห้องที่สะอาดสว่าง,มีหน้าต่างเป็นกรงเหล็กและประตูโซ่ปิดขังเอาไว้.
ตั้งแต่นางถูกจับ,ก็โกรธเกรี้ยวกล่าวอยู่ในใจ,”จุนซ่างเซียว,อย่าให้ข้าหนีไปได้,ไม่เช่นนั้นสำนักไท่กู่เจิ้งของเจ้าจะไม่มีวันสงบไปตลอดกาล!”
“แก๊ก-“
เสียงตะเกียบกระทบจาน,ดังขึ้นต่อเนื่อง.
ภายในโรงอาหาร.
เจ้าสำนักจุนและเซียวจุ้ยจื่อราวกับหมาโหยที่กินอาหารที่หลิวหว่านซี่ทำอย่างบ้าคลั่ง,แทบจะไม่เคี้ยวเลยแม้แต่น้อย.
หลายวันที่ซ่อนตัวอยู่ในป่า,พวกเขาที่ไม่กล้าจุดไฟ,จึงทำได้ประทังหิวด้วยผลไม้ป่า,จนแทบจะลืมรสชาติอาหารไปแล้ว.
ในเวลานี้ทำให้จุนซ่างเซียวตระหนักได้อย่างชัดแจ้ง,หากว่าต้องเดินทางไกลครั้งหน้าจะต้องให้ตู้ตู้ทำอาหารเก็บไว้ในแหวนมิติ,เป็นปิ่นโตไว้ทานแม้แต่เป็นข้าวเปล่าก็ยังดี.
เห็นทั้งสองคนที่กินอย่างตายอดตายอยาก,หลิวหว่านซี่ที่เอ่ยกล่าวด้วยความเป็นห่วงเป็นใย,”เจ้าสำนัก,ศิษย์พี่,ผอมมาก,กินให้มาก,ตู้ตูจะทำอาหารเพิ่มให้!”
......
หลังจากกินจนหนำใจ,จุนซ่างเซียวที่นั่งท้องป่องบนเก้าอี้ไม้หนานมู่พันปีในห้องโถงใหญ่,ร่างกายของเขาที่เจ็บปวดกล้ามเนื้อไปทั่วร่าง.
ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าประสิทธิภาพของยันต์แห่งพลังนั้นน่าพอใจขนาดใหน,ทว่าหลังจากที่ฤทธิของมันหมดลง,ร่างกายของเขาก็เจ็บปวดไปทั่วร่างอย่างช่วยไม่ได้.
ระบบเอ่ย,”คูลดาวน์หมดแล้ว,โฮสน์ควรจะซื้อเก็บไว้ใช้ตอนนี้.”
“ยันต์แห่งพลังถือว่าใช้ได้จริง ๆ.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”การซื้อเตรียมไว้ใช้งานยามคับขันเป็นประโยชน์มาก.”
“ติ๊ง! โฮสน์ใช้ 20
แต้ม,ได้รับยันต์แห่งพลังระดับสามัญ1,ถูกส่งเข้าไปในแหวนมิติแล้ว.”
“ติ๊ง!
คะแนนสนับสนุนสำนัก : 150 / 500.”
“เจ้าสำนัก.”
หลี่ชิงหยางก้าวเข้ามาในห้องโถง,”หลายวันมานี้มีคนสามสีคนมาลงทะเบียน,เพราะว่าไม่สามารถเข้ามาในสำนักได้,ข้าจึงให้พวกเขาพักอยู่ที่หมู่บ้านชิงหยาง.”
“พรุ่งนี้ให้พวกเขาเข้ามา.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
หลี่ชิงหยางที่นำสมุดบัญชาส่งให้เจ้าสำนักและกล่าวออกไปว่า,”สิ่งก่อสร้างด้านในเสร็จแล้วเมื่อวาน,ใช้เงินไปทั้งหมด
43,000 เหรียญ,นี่คือรายระเอียดค่าใช้จ่าย,ขอให้เจ้าสำนักตรวจสอบ.”
ทำไมจุนซ่างเซียวชื่นชอบศิษย์ลำดับสอง?
ไม่ใช่เพราะว่าเขาชอบผู้ชายเหมือนกัน,แต่เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นคนจริงจังทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม,แม้สั่งการเพียงครั้งเดียว!
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรในสำนัก,ขอเพียงมีศิษย์คนนี้,ทุกอย่างก็ราบรื่น.
ความพอใจในหลี่ชิงหยางที่แตกต่างไปจากเซียวจุ้ยจื่อ,หรือเย่ซิงเฉิน
และศิษย์คนอื่น,อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการสำนักเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย,ย่อมจำเป็นต้องมีศิษย์ที่โดดเด่นในแต่ละด้าน,และทุกคนก็จะกลายเป็นกระดูกสันหลังของสำนักได้อย่างมั่นคง.
จุนซ่างเซียวที่นำสมุดบัญชีมาไม่ได้ดูด้วยซ้ำ,กล่าวออกไปว่า,”เปิ่นจั้วไม่อยู่หลายวัน,ในสำนักมีอะไรสำคัญหรือไม่?”
จากนั้นหลี่ชิงหยางก็เริ่มรายงาน.
ยกตัวอย่างศิษย์น้องที่ตัดผ่านระดับได้,หรือใครที่เติบโตโดดเด่นเมื่อเร็ว
ๆนี้.
“หลงจื่อหยางที่ตัดผ่านระดับไปยังเปิดชีพจรขั้นที่สิบเอ็ดแล้วรึ?”จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางประหลาดใจ.
หลี่ชิงหยางเอ่ย,”ศิษย์น้องหลงหลังจากที่เข้าร่วมสำนัก,ก็ขยันหมั่นเพียรบ่มเพาะ,ทำให้ยกระดับพลังบ่มเพาะได้เร็ว,ศิษย์คิดว่าเขาคือเมล็ดพันธ์ที่ควรค่าจะสนับสนุน.”
“ควรค่าที่จะสนับสนุน,ทว่าจะต้องดูผลงานของเขาหลังจากนี้ก่อน.”จุนซ่างเซียวเอ่ย,”ออกไปได้.”
หลี่ชิงหยางออกไป,ทว่าลู่เชียนเชียนกับปรากฏขึ้นที่ทางเข้าห้องโถง.
นางที่กอดอกก้าวเข้ามาเอ่ยออกมาเล็กน้อย,”นำคนมาเพิ่มมากมาย,ดูเหมือนว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มไม่น้อย.”
จุนซ่างเซียวที่หลังพิงเก้าอี้เอ่ยออกไปว่า,”สำนักไท่กู่เจิ้งของพวกเรา,แม้นว่าจะไม่ได้ร่ำรวย,ทว่ากับนักโทษไม่กี่คนก็ไม่ได้เป็นปัญหา.”
“หัวหน้ามือสังหารเป็นสตรี,ไม่รู้ว่าต้องการจะทำอะไร,ข้าขอเตือนให้เจ้าสำนักเร่งรีบสังหารนางซะ.”ลู่เชียนเชียนเอ่ย.
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”สังหารสตรีที่ถูกจับไร้ทางสู้,เปิ่นจั้วรู้สึกละอายใจเล็กน้อย.”
“เคร้ง!”
ลู่เชียนเชียนที่ชักกระบี่ออกจากฝัก,กล่าวออกมาเบา
ๆ,”เจ้าสำนักไม่ต้องการลงมือ,ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศิษย์เอง.”
สตรีผู้นี้เอะอะก็ชักกระบี่เหมือนกับเมื่อก่อนนี้!
จุนซ่างเซียวเอ่ยเผยยิ้ม,”เปิ่นจั้วนำสตรีที่งดงามมา,เจ้าหึงอย่างงั้นรึ?”
ลู่เชียนเชียนมองเขา,เขามองลู่เชียนเชียน.
ทั้งสองที่จ้องมองตากันอยู่ครู่หนึ่ง..
“ล้อเล่น,ข้าล้อเล่น.”จุนซ่างเซียวที่ยอมแพ้,กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง,”เจ้าตึกฝนพรำยังไม่สามารถสังหารได้ตอนนี้,เปิ่นจั้วต้องการใช้นาง.”
“ใช่อย่างไร?”ลู่เชียนเชียนเอ่ย.
จุนซ่างเซียนที่ถูมือไปมา,กล่าวออกไปว่า,”ในโลกที่ข้อมูลยากจะได้รับอย่างรวดเร็ว,ไม่ต้องสงสัยเลยว่าข้อมูลแต่ละอย่างคือเรื่องสำคัญ,เปิ่นจัวต้องการคนที่มีความสามารถในการรวบรวมข้อมูล,ไม่ได้เอ่ยว่าจะครอบคลุมไปทั่วแผ่นดินใหญ่,แต่อย่างน้อยควรจะครอบคลุมทั่วมนทลชิงหยาง.”
สายตาของลู่เชียนเชียนที่ส่ายไปมา,รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย,ไม่คิดเลยว่าเจ้าสำนักจะมีความคิดที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้.
จุนซ่างเซียวเมื่อครั้งที่ประลองบนเทือกเขาหลิงชวนก็คิดเรื่องนี้มาระยะหนึ่งแล้ว,ต้องไม่ลืมว่าการที่ไม่รู้ข้อมูลอะไรเลยมีแต่จะทำให้ก่อเกิดปัญหา,อย่างน้อยเขาควรจะได้รับข้อมูลที่รวดเร็วก่อนคนอื่นที่จะตัดสินใจทำอะไร.
ลู่เชียนเชียนเอ่ยออกมาเล็กน้อย,”เจ้าสำนักต้องการให้นางและมือสังหารของนางเป็นคนคอยรวบรวมข้อมูลอย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวเอ่ย,”มือสังหารมีความสามารถในการรวบรวมข้อมูล,เรื่องนี้เหมาะกับพวกเขา.”
ลู่เชียนเชียนเอ่ยออกมาเล็กน้อย,”ท่านคิดว่าสตรีผู้นั้นเหมือนกับดำหนึ่งดำสองรึ?
ที่เห็นชามข้าวแล้วทรยศองค์กร,คิดง่ายไปแล้วมั้ง?”
หากดำหนึ่งดำสองได้ยิน,แน่นอนคงต้องตะโกนลั่น,”ศิษย์พี่หญิงใหญ่,พวกเราทำเพื่อหลิวหว่านซี,ทำเพื่อตู้ตู้,ไม่ใช่เพื่อชามข้าว!”
จุนซ่างเซียวที่ยักไหล่,”หากไม่สามารถจัดการนางได้,เปิ่นจั้วยังมีหน้าจะเป็นเจ้าสำนัก,ดูแลพวกเจ้าอีกรึ?.”
“ก็ดี,ข้าจะคอยดู.”ลู่เชียนเชียนเอ่ย.
จุนซ่างเซียวลุกขึ้น,ก่อนที่จะก้าวออกไป,และกล่าว
ขณะหันหลังให้,”ลู่เชียนเชียน,ลู่เชียนเชียน,นี่เจ้ายังคิดที่จะแย่งตำแหน่งเจ้าสำนักจากข้าอยู่อีกรึ?!”
ลู่เชียนเชียนเอ่ย,”เจ้าสำนักพูดอะไร.”
จุนซ่างเซียวที่หยุดชั่วครู่,กล่าวออกไปเสียงเบา,”เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะเป็นเจ้าสำนัก,แต่ถ้าต้องการล่ะก็,เป็นฟู่เหรินเจ้าสำนักก็พอเป็นไปได้.”
ราวกับตระหนักได้ว่าจะเจอกับอะไร,ทันทีที่กล่าวจบ
ว่า”ฟู่เหริน(ภรรยา)เจ้าสำนัก”เขาก็พุ่งออกมาจากห้องโถงทันที.
“เจ้าสำนัก!”
ซูเซียวโม่ที่ตะโกนออกไปเสียงดัง,”ระวัง!”
จุนซ่างเซียวที่เร่งรีบออกมาจากห้องโถง,ทันใดนั้นฟุตบอลแห่งความสุขก็พุ่งมา,ดังปัง,กระแทกไปยังใบหน้าของเขาทันที.
ร่างของเขาที่ล่วงล้มลงไปกองที่บนพื้น.
ซูเซียวโม่ไม่ทันที่จะขยับ,ได้แต่ตะโกนออกไปให้ระวัง....บอลก็กระแทกไปยังใบหน้าของเจ้าสำนักแล้ว.
หลี่...เฟย!
นี่เจ้าอีกแล้วรึ? วัน ๆ คิดที่จะทำลายรูปโฉมอันหล่อเหลาของเปิ่นจั้วรึอย่างไร!
“สมควรได้รับแล้ว.”
ลู่เชียนเชียนที่แค่นเสียงเย็นชาขณะก้าวตามมา,เพราะว่าจิตใจของนางไม่สงบแม้แต่น้อยกับคำพูดที่จุนซ่างเซียวได้เอ่ยออกไปก่อนหน้านี้.
เฮ้อ.
ข้าจะต้องสำเร็จขั้นสามในวิชาลับหัวใจเหมันตร์ลึกล้ำให้ได้,ถึงจะสามารถทำให้จิตใจใสกระจ่างเหมือนดั่งผืนน้ำ.....
ที่มา https://lnmtl.com/novel/strongest-sect-of-all-times
#นิยายแปล #Strongest Sect of All Times #นิกายที่แข็งแกร่งที่สุดนิรันดรกาล.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น